ราตรีดาวคือผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ต้องแบกรับภาระมากมาย ดาวฤกษ์คือคุณหมอที่เต็มไปด้วยอุดมการณ์ ทว่าหากต้องทำตามอุดุมการร์ก็ต้องทำตามคำสั่งของมารดาเสียก่อนนั่นคือต้องพาเมียที่แม่หาให้ไปด้วย คนที่ใช่ เวลาที่ใช่ สถานการณที่ใช่ เมื่อทุกอย่างมีแต่คำว่าใช่ก็จงพร้อมที่จะก้าวไปพร้อมกับความรู้สึกของหัวใจ แม้เส้นทางข้างหน้าจะเจ็บปวดหรือหอมหวานก็จงยอมรับ เพราะนั่นคือความรัก
Lihat lebih banyakเมื่อครบเวลาที่ตั้งไว้ในใจราตรีดาวก็คว้าร่มมาถือไว้ในมือ แต่จังหวะที่เธอกำลังจะเดินออกไปจากบ้านนั้น สายตาก็มองเห็นดาวฤกษ์เดินฝ่าสายฝนที่ซาลงไปบ้างแล้วตรงหน้าบ้านเข้า เมื่อเห็นแบบนั้นราตรีดาวจึงรีบเดินกางร่มเข้าไปหาเขาทันที“ทำไมถึงเดินกลับละคะ รถไปไหน”“จอดเสียอยู่กลางทางครับ ประจวบกับฝนตกเลยไม่มีรถผ่านไปผ่านมาที่พอจะขอให้ช่วยได้ พี่เลย…” ดาวฤกษ์ยังยิ้มออก ยิ่งเห็นว่าราตรีดาวยังปลอดภัยแบบนี้เขาก็รู้สึกว่าหายเหนื่อย คุ้มแล้วที่รีบเดินกลับมาบ้าน“พี่เลยเดินกลับมาบ้านเหรอคะ”“ครับ เป็นห่วงตรีเลยอยากกลับมาบ้านเร็วๆ” คำตอบของดาวฤกษ์ทำเอาราตรีดาวใจสั่นไปหมด เธอน้ำตาเอ่อเมื่อรู้ว่าเขาเป็นห่วงถึงขนาดนี้ ในขณะที่ ดาวฤกษ์เองก็ซึ้งใจเพราะเมื่อครู่ทันทีที่ราตรีดาวเห็นเขาเธอก็เดินตรงเข้ามาหาแล้วกางร่มให้ในขณะที่ตัวเองยืนเปียกไปครึ่งตัวดาวฤกษ์ก้าวเข้าไปยืนให้ใกล้กับเธอมากขึ้นอีกนิด ตอนนี้สิ่งที่คั่นพ
ดาวฤกษ์เดินกุมมือราตรีดาวมาเรื่อยๆ กระทั่งถึงศาลาทว่าหมอหนุ่มกลับยังไม่ปล่อยมืออีกฝ่ายแต่อย่างใด สัมผัสจากเขาแม้จะเพียงเล็กน้อยแต่มันกลับทำให้หัวใจของราตรีดาวเต้นแรงและรัว มือไม้เริ่มเย็นเพราะความประหม่าและเพราะกลัวเขาจะจับได้จึงค่อยๆ ดึงมือตัวเองกลับแม้จะอยากยื้อไว้แต่สุดท้ายดาวฤกษ์ก็ต้องปล่อยราตรีดาวให้เป็นอิสระ หมอหนุ่มนั่งดื่มน้ำดับกระหายเพราะตั้งแต่เช้ามีงานให้เขาทำจนแทบไม่มีเวลาได้พัก เพราะเหตุนั้นเขาจึงกลับไปกินมื้อเที่ยงที่บ้านไม่ได้ ระหว่างนั้นราตรีดาวก็แกะปิ่นโตออกมาวางให้เขา“แกงอันนี้คนในหมู่บ้านเอามาให้ค่ะ ส่วนผัดผักตรีทำเอง”“น่ากินทั้งนั้นเลย” จากที่พอจะทนหิวไหวแต่เมื่อเห็นอาหารท้องของดาวฤกษ์ก็เริ่มส่งเสียงประท้วง“รีบกินข้าวเถอะค่ะเลยเวลามาชั่วโมงกว่าแล้ว เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”“ครับ” ดาวฤกษ์เอ่ยบอก ปกติเขาไม่ใช่พวกอ่อนไหวหรือโหยหาการดูแลจากคนอื่น แต่พอราตรีดาวเข้ามาดูแลแม้จะไม่กี่วันเขากลับชอบความรู้สึกดีอย่างในตอนนี้ไปเสียแล้ว อาหารง่ายๆ แต่ทว่ากลับถูกปากจนเขากินหมดทุกอย่าง ก่อนจะตบท้ายด้วยผลไม้
อาหารมื้อแรกที่ราตรีดาวทำให้ดาวฤกษ์กินนั้นถูกปากหมอหนุ่มไม่น้อยเพราะเขากินจนหมดเกลี้ยงเลยก็ว่าได้ ก่อนออกไปทำงานก็ยังให้เงินราตรีดาวไว้ใช้จ่าย เธอมาอยู่กับเขาในฐานะภรรยาเขาก็ควรต้องดูแลเธอในฐานะสามีที่ดีที่ควรทำก็ถูกต้องแล้ว แถมยังพามาอยู่ในป่าในเขาไม่ได้สุขสบายเหมือนในกรุงเทพฯ“พี่ไปทำงานก่อนนะครับ”“ค่ะ ใกล้ๆ เที่ยงตรีจะเอาปิ่นโตไปส่งนะคะหรือว่าพี่จะกลับมากินที่บ้าน”“ที่บ้านครับ”“ได้ค่ะ” ราตรีดาวเอ่ยรับก่อนจะเดินออกไปส่ง ดาวฤกษ์ที่หน้าประตู ยืนส่งเขากระทั่งเห็นชายหนุ่มเดินไปได้ไกลแล้วจึงกลับเข้าบ้าน อย่างน้อยบ้านพักหมอก็อยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนักจึงทุ่นเวลาเดินทางไปได้ไม่น้อยราตรีดาวจัดการธุระภายในบ้านจนเสร็จจากนั้นก็ขึ้นไปอาบน้ำแล้วโทรกลับไปหากรองแก้วเพื่อถามอาการของแม่ กรองแก้วจึงส่งทั้งรูปภาพและคลิปที่ได้จากพยาบาลพิเศษให้เธอดูว่าตอนนี้ทุกอย่างยังเป็นปกติ พอวางสายก็เผลอนั่งเหม่อเนื่องจากที่ผ่านมาเธอเรียนกับทำงานทุกวัน พอต้องมานั่งเฉยๆ แบบนี้ก็เริ่มเบื่อ กระทั่งได้ยินเสียงเล็กๆ
“ไม่อ้อมค้อมนะ ถ้าจะอยากอยู่ด้วยกันก็อย่าส่งเสียบ่อยๆ เมียฉันไม่ชอบนายรู้ไหม ถ้าพูดไม่รู้เรื่องฉันจะจับนายส่งไปขายเมืองจีน” ดาวฤกษ์คุยได้แม้กระทั่งกับตุ๊กแกแถมไม่คุยเปล่ายังขู่ไปอีกด้วย ซึ่งเจ้าตุ๊กแกเหมือนจะไม่ยอมรับข้อเสนอเพราะมันส่งเสียงร้องทันทีที่หมอหนุ่มพูดจบ“ท้าทายซึ่งหน้าใช่ไหม ได้” เอ่ยจบก็ตรงเข้าไปหมายจะสั่งสอนตุ๊กแกตัวนั้นทันทีก่อนจะหยุดกึกเมื่อเห็นตุ๊กแกตัวที่สองและสามโผล่ออกมา“โอเค พรุ่งนี้ฉันจะมาคุยใหม่ วันนี้นายไปปรึกษากับครอบครัวก่อนแล้วกัน” ดาวฤกษ์รีบหมุนตัวกลับเข้าบ้านทันที สงสัยหลังจากนี้ต้องเปลี่ยนแผนเป็นผูกมิตรแทนการข่มขู่ ก่อนจะโทรหาผู้เป็นแม่เพื่อบอกว่าตอนนี้เขากับราตรีดาวถึงบ้านพักอย่างปลอดภัยแล้วเมื่อกลับเข้ามาในห้องก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ ราตรีดาวอาบน้ำเสร็จพอดี ชายหนุ่มส่งยิ้มให้เธอเล็กน้อยก่อนจะเข้าไปอาบน้ำบ้าง ซึ่งคราวนี้เสียงตุ๊กแกก็ถึงกับดังระงมลั่นบ้านนั่นทำให้ราตรีดาวหน้าตาตื่นรีบขึ้นไปนั่งบนเตียงหมอหนุ่มหันขวับไปมองยังต้นเสียงที่เขาอุตส่าห์ลงไปคุยเพื่อหาทางสงบศึกแต่ดูเหมื
ในขณะที่ราตรีดาวนั้นมารอเขาที่บ้านพักแพทย์ที่ปล่อยร้างมานานสภาพของบ้านจึงทรุดโทรมไม่น้อย แต่จู่ๆ ชาวบ้านกลุ่มเมื่อครู่ก็พากันมาช่วยทำความสะอาด ทาสีและซ่อมแซมจุดที่ชำรุดพร้อมกับนำพวกข้าวของเครื่องใช้รวมถึงข้าวสารอาหารแห้งมาให้อีกหลายอย่าง โดยเฉพาะผักและผลไม้สดๆ ที่เก็บมาจากไร่สวน“คุณเป็นเมียคุณหมอเหรอจ๊ะ”“เอ่อ” คำถามซื่อๆ แต่ตรงไปตรงมาของชาวบ้านคนหนึ่งทำเอาราตรีดาวอึกอัก ไม่รู้จะตอบยังไงเหมือนกัน ก่อนที่ชาวบ้านอีกคนจะช่วยตอบแทนเธอ“ต้องเป็นเมียสิ ถ้าไม่ใช่เมียคุณหมอจะพามาด้วยทำไม”“เออ ข้าก็ไม่น่าถามอะไรโง่ๆ เลย ขอโทษนะจ๊ะคุณ”“ไม่เป็นไรจ้ะ” ราตรีดาวส่งยิ้มให้พวกเขา ก่อนจะช่วยเก็บของในครัวกันละไม้ละมือกระทั่งเสร็จชาวบ้านจึงทยอยกันกลับไป ตอนกลางวันภายในบ้านก็ดูปกติแต่พอตกเย็นทำไมถึงได้ดูวังเวงจนราตรีดาวขนลุกบอกไม่ถูก เธอนั่งชะเง้อมองหาดาวฤกษ์ว่าเมื่อไหร่ชายหนุ่มจะกลับมาจากประชุมเสียทีแต่ยิ่งรอเหมือนเวลาจะยิ่งช้าจนอยากไปตามแต่คงทำแบบนั้นไม่ได้เพราะจะดูเสียมารยาท บรรยากาศรอบๆ ต
“ว่าแต่เรากำลังจะไปไหนกันหรือคะ” แม้จะได้ยินคร่าวๆ แต่เพื่อความแน่ใจราตรีดาวจึงถามขึ้น“เมืองกาญ”“เมืองกาญ กาญจนบุรีใช่ไหม”“ใช่ พี่ย้ายตัวเองไปเป็นหมอที่นั่น แล้วตอนนี้ตรีทำงานหรือเรียนอยู่”“ทำงานค่ะ”“เรียนจบแล้วใช่ไหมถึงทำงานหรือว่าดรอปไว้” เสียงทุ้มเอ่ยถามขณะที่สายตาเหลือบมามองคนข้างๆ เล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปมองถนนตรงหน้า“เรียนจบแล้วค่ะ แค่ยังไม่ได้เข้ารับปริญญา” ราตรีดาวไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมว่าเพราะอะไรเธอถึงยังไม่ได้เข้ารับปริญญา“อืม…แล้วนี่แม่เป็นยังไงบ้าง” แม้จะพอทราบอาการป่วยของแม่ราตรีดาวมาคร่าวๆ บ้างแล้ว แต่ ดาวฤกษ์ก็อยากถามกับเธอโดยตรง“หมอบอกว่าดีขึ้นตามลำดับ หวังว่าถ้าได้มาเยี่ยมครั้งหน้าตรีจะได้ยินข่าวดีมากกว่านี้”“คุณแม่พี่ท่านรักษาสัญญาเส
ดาวฤกษ์กลับมาพร้อมถังน้ำแข็งและผ้าขนหนูผืนเล็ก จากนั้นก็จัดการเริ่มประคบเย็นลงไปบนแก้มฝั่งที่กำลังบวมของราตรีดาวโดยที่เธอปฏิเสธหรือต่อต้านเขาไม่ได้ด้วยซ้ำไป หมอหนุ่มแอบใช้จังหวะนั้นมองหน้าเธออย่างสนใจก่อนที่สมองจะหวนคิดไปถึงเรื่องของเขากับเธอในคืนนั้น“เก็บเบอร์โทรพี่ไว้อยู่ไหม” ดาวฤกษ์แทนตัวเองว่าพี่ทันที“ไม่ได้เก็บค่ะ พอดีว่าวันนั้นรีบออกไปเลยลืมหยิบไปด้วย”“อย่างนั้นเหรอ”“อย่าพูดถึงเรื่องในคืนนั้นอีกได้ไหมคะ” น้ำเสียงสั่นๆ ของราตรีดาวเอ่ยขอร้องอีกฝ่าย เพราะเธอไม่อยากได้ยินเรื่องราวหรือเหตุการณ์อะไรในคืนนั้นอีก แค่จู่ๆ ต้องโคจรมาอยู่กับเขาก็ช็อคมากพอแล้ว“ได้สิ” ดาวฤกษ์รับปากดูเหมือนราตรีดาวจะยังคงเข้าใจผิดว่าคืนนั้นเขากับเธอมีอะไรกันแล้วสินะ ไหนๆ เธอก็เข้าใจแบบนั้นแล้วเขาก็ไม่อยากแก้ต่างเดี๋ยวจะหาว่าแก้ตัวไม่เป็นสุภาพบุรุษ ทั้งๆ ที่ความตั้งใจแรกเมื่อได้พบหน้าผู้หญิงคนที่แม่หมายมั่นอยากให้เขาทำเมียจะทำข้อตกลงกับเธอว่าขอให้ต่างคนต่างอยู่หรือถ้าเธออยากได้เงินเท่
“รุ้ง”“รุ้งจะรอพี่นะคะ ยังไงก็จะรอ” แววตาของเทวิกานั้นเต็มไปด้วยความวิงวอนทว่าดาวฤกษ์กลับเลือกที่จะตัดความหวังนั้นของเธอ เพราะอยากให้อีกฝ่ายเปิดใจให้ใครก็ได้ที่รักและคู่ควรกับเขามากกว่าเขา“อย่ารอเลย พี่บอกแล้วไงว่าไม่เคยคิดอะไรกับรุ้ง เราเป็นพี่น้องกันดีกว่า”“ไม่ค่ะ รุ้งจะรักพี่ฤกษ์”“เอาเป็นว่าพี่กับตรีจะไม่มีวันเลิกกัน”“วันนี้เราออกไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันนะคะ” แทนที่จะเข้าใจและตัดใจเทวิกากลับเลือกที่ตื๊อและปล่อยเบลอราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น“คงไม่ได้ครับ เพราะวันนี้พี่กับตรีกำลังจะย้ายไปทำงานที่ต่างจังหวัดด้วยกัน”“อะไรนะคะ” เทวิกาช็อคไปเล็กน้อยนั่นเพราะเธอไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนนั่นเอง“ถ้ามีโอกาสเราคงได้พบกันนะครับรุ้ง” ดาวฤกษ์ส่งยิ้มให้เทวิกาซึ่งมันคือรอยยิ้มที่ไม่ได้สื่อไปเรื่องชู้สาวแต่อย่างใด ซึ่งเทวิกามักจะได้รับรอยย
ก่อนวันเดินทางราตรีดาวนอนไม่หลับก็ว่าได้ เธอมีเพื่อนสนิทแค่ไม่กี่คนที่สามารถเล่าทุกอย่างในชีวิตให้อีกฝ่ายฟังอย่างไม่ปิดบังแต่เรื่องที่เธอกำลังทำคือข้อยกเว้นเพราะไม่กล้าเล่าจริงๆ จึงบอกไปรยาไปเพียงแค่ว่าเธอจะย้ายไปทำงานที่ต่างจังหวัดชั่วคราวเพราะได้เงินดีกว่าวันรุ่งขึ้นราตรีดาวหิ้วกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบไปยังบ้านของกรองแก้ว เมื่อรถแท็กซี่จอดส่งจังหวะที่จะก้าวเท้าลงไปก็ไม่วายถอนหายใจหนักๆ แต่ทุกอย่างก็ต้องเดินต่อ“มาแล้วหรือจ๊ะหนูตรี” กรองแก้วที่ออกมารับ ราตรีดาวด้วยตัวเองเอ่ยทักทายขึ้น“สวัสดีค่ะ” ราตรีดาวยกมือไหว้ผู้สูงวัยก่อนจะส่งยิ้มให้เล็กน้อยแล้วสลัดความรู้สึกหม่นหมองต่างๆ ออกไป“กินอะไรมาหรือยัง”“เรียบร้อยแล้วค่ะ”“เข้าบ้านกันก่อน อีกเดี๋ยวพี่เขาก็คงมา” กรองแก้วคว้ามือของราตรีดาวไว้แล้วพาเข้าบ้านไปทันที ส่วนคนที่ถูกเรียกว่าพี่ขณะนั้นก็กำลังขับรถมุ่งหน้ามาเช่นกันเส
คนที่ใช่ เวลาที่ใช่ สถานการณที่ใช่เมื่อทุกอย่างมีแต่คำว่าใช่ก็จงพร้อมที่จะก้าวไปพร้อมกับความรู้สึกของหัวใจ ดั่งเช่นความรักของพระนางในเรื่องนี้ค่ะ แม้จุดเริ่มต้นมันดูฉุกละหุกจนเจ็บปวดไปบ้างแต่หลังจากนั้นสิ่งที่ตอบแทนพวกเขาคือความหอมหวาน บิลค่ารักษาพยาบาล ไหนจะค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่รวมกันแล้วเป็นจำนวนมหาศาล มันคือแรงกดดันที่ทำให้หญิงสาวตัวเล็กๆ อย่างราตรีดาวนั่งทอดถอนใจอย่างกลัดกลุ้มอยู่หน้าห้องการเงิน เพราะไม่ว่าจะหันหน้าไปทางไหนคำตอบที่ได้คือความว่างเปล่าไร้ซึ่งหนทางออกแม้แต่ทางเดียวเธอเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะ พ่อและแม่ทำงานหาเช้ากินค่ำยิ่งมาเกิดเหตุการณ์ครั้งใหญ่เมื่อหลายวันก่อนก็ยิ่งทำให้สถานการณ์ครอบครัวเธอแย่ลงจนติดลบ อุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดได้พรากลมหายใจของพ่อไปจากเธอในขณะที่แม่นั้นก็โคม่าเป็นตายเท่ากัน ค่ารักษาพยาบาล รวมถึงค่าเสียหายที่คู่กรณีเรียกร้องมานั้นมากมาย ทุกอย่างถาโถมเข้าหาจนราตรีดาวโอนเอนอย่างไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะเดินต่อ ญาติพี่น้องที่คิดว่าจะหันหน้าไปพึ่งพากลับกลายเป็นเพียงคนอื่นในพริบตา เวลานี้เธอจึงเหมือนตัวคนเดียวไม่มีผิดราตรีดาวเป็นเพียงผู้หญิงตั
Komen