แชร์

บทที่ 4

ผู้แต่ง: วรนิษฐา / Miss sexy
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-07 10:26:17

เสียงน้ำที่ดังมาจากภายในห้องน้ำก้องอยู่ในหัวของราตรีดาว บ่งบอกว่าตอนนี้มีคนใช้ห้องน้ำอยู่ เธอลืมตาขึ้นแล้วมองเพดานห้องที่ไม่มีความคุ้นตาเลยแม้แต่น้อยก่อนจะเด้งตัวขึ้นมากึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง แม้จะเจ็บตรงท้องก็กัดฟันข่มความเจ็บไว้ ก่อนที่ภาพเหตุการณ์ต่างๆ จะกรูเข้ามาในความคิดนั่นทำให้ราตรีดาวชาวูบไปทั้งตัว

ดวงตาทั้งสองข้างของเธอเวลานี้แดงก่ำ ความกลัวรวมถึงความเสียใจเข้าครอบงำจนแทบหายใจไม่ออกด้วยซ้ำ เธอก้มมองร่างกายตัวเองด้วยม่านน้ำตาที่กำลังไหล แม้เสื้อผ้าจะยังอยู่บนตัวครบทุกชิ้นแต่มันก็ไม่ได้การันตีว่าเธอยังไม่ได้ถูกล่วงเกิน และก่อนที่สมองจะได้คิดอะไรประตูห้องน้ำก็เปิดออกและคนที่ก้าวออกมาก็เป็นคนละคนกับเมื่อคืน

“ตื่นแล้วเหรอครับ เป็นไงบ้าง ยังเจ็บอยู่ไหม” เสียงทุ้มของดาวฤกษ์เอ่ยถามเพราะเป็นห่วงแผลฟกช้ำตรงบริเวณท้องของเธอนั่นเอง

แต่ทว่าคำถามนั้นกลับคล้ายมีดปลายแหลมที่พุ่งเข้าใส่หัวใจของราตรีดาว เธอเจ็บปวดจึงสบตาอีกฝ่ายได้แค่ไม่กี่วินาทีก็หลบสายตาเขาแล้วมองไปที่จุดอื่นแทน มือของเธอเย็นเฉียบเพราะกำลังช็อค ร่างกายเหมือนตายไปแล้ว 

“เมื่อคืน…”

“อ้อ…คือว่า” จังหวะที่ดาวฤกษ์กำลังจะอธิบาย เสียงโทรศัพท์มือถือของหมอหนุ่มก็ดังขึ้นเสียก่อนซึ่งมันเป็นเสียงเฉพาะที่เขาตั้งไว้สำหรับเคสฉุกเฉินของทางโรงพยาบาล นั่นทำให้เขาต้องรีบคว้าโทรศัพท์มากดรับสายและสีหน้าของชายหนุ่มเครียดขึ้นมาทันที

“ครับ…ผมจะรีบไปตอนนี้” แม้จะอยากอธิบายให้คนบนเตียงฟังถึงเหตุการณ์เมื่อคืนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่สถานการณ์ที่โรงพยาบาลเวลานี้ก็บีบบังคับให้เขาต้องรีบไป

“คุณช่วยรอผมที่นี่เดี๋ยวผมจะกลับมาอธิบายทุกอย่างให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าคุณไม่สะดวกช่วยเก็บเบอร์โทรของผมไว้ แล้วเราค่อยนัดเจอกัน” เอ่ยบอกเสร็จดาวฤกษ์ก็คว้ากระดาษขึ้นมาจดหมายเลขโทรศัพท์ของตัวเองแล้ววางไว้บนโต๊ะจากนั้นก็กลับออกไปอย่างรีบร้อน ไว้ค่อยมาอธิบายทุกอย่างกันภายหลัง

ซึ่งทันทีที่ประตูห้องปิดลง ราตรีดาวที่จิตใจเตลิดไปไกลแสนไกลค่อยๆ ทิ้งตัวลงนอนตะแคงบนเตียงแล้วกอดตัวเองไว้จากนั้นก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ร้องจนแทบไม่มีน้ำตาให้ร้องด้วยซ้ำแต่มันกลับเทียบไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอแม้แต่น้อย ร่างกายของเธอเป็นของผู้ชายคนเมื่อครู่ไปแล้วคนที่เธอไม่รู้แม้กระทั่งชื่อเขาด้วยซ้ำ

ราตรีดาวใช้มือตบตีร่างกายของตัวเองจนช้ำไปหมด เสียงร้องไห้โฮยังคงดังขึ้นต่อเนื่อง เอ่ยขอโทษตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่ปล่อยให้เหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บปวดและความเจ็บปวดก็ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นน้ำตาที่ไหลรินเป็นสายตลอดเวลา 

แต่ก่อนที่สติของเธอจะเตลิดไปมากกว่านี้เสียงโทรศัพท์มือถือส่วนตัวก็ดังขึ้น ราตรีดาวรีบเช็ดน้ำตาออกจากแก้มพร้อมกับกวาดสายตามองหากระทั่งเห็นกระเป๋าสะพายใบเล็กของเธอวางอยู่บนโซฟาจึงลงจากเตียงแล้วเดินไปหยิบขึ้นมากดรับสาย 

ทันทีที่วางสายจากทางโรงพยาบาลราตรีดาวก็ออกไปจากห้องทันที ไม่สนใจกระดาษแผ่นนั้นที่ผู้ชายคนเมื่อครู่ทิ้งไว้ให้ด้วยซ้ำ เพราะหลังจากนี้เธอไม่มีความจำเป็นต้องคุยอะไรกับเขาอีก ขอให้ต่างคนต่างอยู่ชาตินี้หรือชาติไหนๆ ก็อย่าได้พบอย่าได้เจอกันอีกเลย นั่นคือคำภาวนาของราตรีดาว 

“แม่คะ กลับมาอยู่กับตรีก่อนนะคะ อย่าพึ่งทิ้งตรีไปเลยนะ” ราตรีดาวเฝ้าวิงวอนอยู่หน้าห้องไอซียู วันนี้อาการของแม่เธอนั้นย่ำแย่เป็นตายเท่ากัน แต่สุดท้ายแม่ของเธอก็สู้จนกลับมาได้อีกครั้ง นั่นทำให้ราตรีดาวโล่งไปอีกเปราะแต่หลังจากนี้เหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้นบ้านก็ยากจะคาดเดาได้จริงๆ

เมื่อเรื่องของแม่คลี่คล้ายไปในทางที่ดีขึ้นแม้จะชั่วคราวแต่ก็ยังดีกว่าไม่เกิดขึ้นเลย ราตรีดาวก็กลับมานั่งจิตตกอีกครั้ง ก่อนจะจะสะดุ้งเมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น

“เมื่อคืนเป็นยังไงบ้าง กลับถึงบ้านกี่โมง”

“เอ่อ…เกือบตีสองได้”

“ดึกเลย” ไปรยาเอ่ยถาม เพราะเมื่อคืนเธอก็ยุ่งๆ กับคุณป๊าที่ไม่ได้แปลว่าพ่อผู้ให้กำเนิดทั้งคืนจนแทบไม่ได้ลงจากเตียงจึงไม่ได้โทรศัพท์หาราตรีดาว 

“ไม่ดึกเท่าไหร่หรอก ยังไงก็ขอบใจมากนะที่ช่วยหางานให้” แม้จะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับเธอแต่ราตรีดาวก็ไม่กล้าเล่าให้ไปรยาฟังแต่อย่างใด เพราะเล่าไปสิ่งที่เธอสูญเสียก็เรียกคืนไม่ได้ 

“อือ…งั้นแค่นี้ก่อนนะตรี เราง่วงอยากนอนสักงีบ”

“จ้ะ” ราตรีดาวเอ่ยรับพอวางสายจากไปรยาได้เธอก็ถอนหายใจออกมาหนักๆ ก่อนที่เหตุการณ์บ้าๆ จะตามมาหลอกหลอนอยู่ในหัวทั้งๆ ที่พยายามสลัดมันทิ้งเท่าไหร่ก็ไม่เคยทำสำเร็จ แม้จะจำเหตุการณ์หรือความรู้สึกอะไรไม่ได้แต่ราตรีดาวก็มั่นใจว่าร่างกายเธอถูกแตะต้องจนสกปรกไปแล้ว 

แต่เพราะชีวิตต้องเดินต่อไปราตรีดาวจึงสลัดความรู้สึกหม่นหมองออกไปจากสมอง ทำได้บ้างไม่ได้บ้างสลับกันอยู่แบบนี้ ในขณะที่ดาวฤกษ์ก็รอสายเธอเช่นกัน หมอหนุ่มไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมเขาต้องรอและไปดักพบอีกฝ่ายที่หน้าห้องไอซียู ทว่ากลับไม่เคยเจอเธอแม้แต่วันเดียว

ดาวฤกษ์อยากตามหาเธอเพื่ออธิบายทุกอย่างแต่เขาก็ยุ่งจนแทบไม่มีเวลาจะไปทำอะไร เพราะระยะนี้เขากำลังทำเรื่องย้ายโรงพยาบาล ไหนจะงานที่รับเป็นอาจารย์พิเศษสอนนักศึกษาแพทย์อีก เวลาจึงค่อนข้างรัดตัว หวังว่าเจ้าของร่างกายจะรู้ว่ามีหรือไม่มีความผิดปกติเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่คนหนึ่งที่ไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหนหมอหนุ่มก็ต้องมีเวลาให้นั่นคือผู้เป็นแม่ ที่วันนี้นัดกันออกไปกินข้าวนอกบ้าน 

“จะบอกแม่เมื่อไหร่”

“บอกอะไรหรือครับ” คนถูกถามที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากแกล้งเฉไฉทั้งๆ ที่พอจะเดาได้ว่าผู้เป็นแม่หมายถึงอะไร 

“เรื่องที่ฤกษ์จะย้ายไปประจำที่โรงพยาบาลต่างจังหวัด” น้ำเสียงและสีหน้าของกรองแก้วนั้นบ่งบอกถึงความกังวลได้เป็นอย่างดี

 

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ราตรีดาวฤกษ์   บทที่ 5

    “คุณแม่รู้แล้วเหรอครับ”“อืม…รู้แล้ว นี่ถ้าแม่ไม่คาดคั้นจากคุณลุงก็คงไม่รู้อะไรอีกตามเคย” เอ่ยจบก็ถอนหายใจออกมาเพราะครอบครัวเธอเป็นหมอมาตั้งแต่ต้นตระกูล สามีที่เสียไปแล้วของเธอก็เป็นหมอ “อันที่จริงผมก็ตั้งใจจะบอกคุณแม่อยู่พอดี” “บอกตอนไหน ไม่ใช่ก่อนวันเดินทางหรอกนะ”“โธ่คุณแม่ครับ” ดาวฤกษ์แกล้งโอดโอย แต่ดูเหมือนผู้เป็นแม่จะไม่คล้อยตามแม้แต่น้อย “คราวนี้จะไปนานแค่ไหน”“ยังไม่มีกำหนดครับ พอดีที่นั่นพึ่งจะสร้างโรงพยาบาล กว่าอะไรจะเข้าที่เข้าทางคงอีกพักใหญ่ๆ” อันที่จริงนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดาวฤกษ์ขอย้ายไปทำงานตามโรงพยาบาลต่างจังหวัด ไปมาหลายครั้งซึ่งกรองแก้วก็เป็นห่วงทุกครั้งเช่นกัน “หมอมีเป็นร้อยๆ ทำไมต้องเป็นลูกด้วย”“เพราะผมอยากไปครับคุณแม่” ดาวฤกษ์เอ่ยบอกเหตุผลไป “โรงพยาบาลเอกชนหรือรัฐบาลดีๆ ในกรุงเทพฯ ก็มีตั้งเยอะตั้งแยะ ลูกไม่ต้องดิ้นรนไปเจอความลำบากทั้งๆ ที่คนอื่นเขาไม่ต้องการก็ได้นี่ฤกษ์” นั่นเพราะกรองแก้วเคยตามดาวฤกษ์ไปทำงานที่ต่างจังหวัดมาบ้าง จึงเห็นว่าสถาพบ้านพักมีแต่ทรุดโทรม ที่อยู่ที่กินไม่พร้อมสักอย่าง “คนอื่นจะคิดยังไงก็ช่าง แต่ผมอยากไปจริงๆ คนที่นั่นขาดหมอและถ้าผมไปจ

  • ราตรีดาวฤกษ์   บทที่ 6

    “คือว่าแม่หนูท่านไม่สบาย คุณหมอบอกให้รีบไปโรงพยาบาลด่วน” น้ำเสียงของราตรีดาวสั่นเล็กน้อยเพราะเธอห่วงว่าครั้งนี้แม่จะไม่กลับมาหาอีกแล้ว “งั้นรีบไป เดี๋ยวฉันให้คนขับรถขับไปส่งเอง”“ไม่เป็นไรค่ะ หนูนั่งวินมอไซค์ไปได้”“ไม่ได้ๆ ฝนเริ่มลงเม็ดแล้ว ขึ้นรถเถอะ จะได้รีบไปกัน” กรองแก้วรบเร้า “ขอบคุณมากค่ะ” ในที่สุดราตรีดาวก็ยอมเข้าไปนั่งในรถคันหรูของกรองแก้ว จากนั้นคนขับรถก็รีบขับพาคนทั้งคู่ไปยังโรงพยาบาล เมื่อมาถึงยังไม่ทันที่รถจะได้จอดสนิทด้วยซ้ำ ราตรีดาวก็หันมาไหว้ลาพร้อมขอบคุณกรองแก้วแล้วเปิดประตูลงไปจากรถอย่างรีบร้อน “กลับกันเถอะ ไว้พรุ่งนี้เทิดค่อยมาดูว่าแม่ของหนูตรีเป็นยังไงบ้าง” “ได้ครับ” คนขับรถของกรองแก้วเอ่ยรับก่อนจะพาเจ้านายมุ่งตรงกลับบ้าน ซึ่งขณะนั้นอาการของแม่ ราตรีดาวนั้นโคม่าอีกครั้งแต่เธอก็ยังไม่ถอดใจที่จะยื้อลมหายใจของแม่ไว้ แม้จะเป็นการยื้อด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ก็ตาม นั่นเพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะรับความสูญเสียจริงๆ วันรุ่งขึ้นคนขับรถของกรองแก้วก็แวะไปที่โรงพยาบาลอีกครั้งพร้อมกับสืบข่าวเรื่องอาการป่วยของแม่ราตรีดาวอย่างละเอียดจากนั้นก็กลับไปรายงานผู้เป็นเจ้านาย

  • ราตรีดาวฤกษ์   บทที่ 7

    “เงินหรือทองใช่ไหม”“ไม่ใช่”“งั้นเอามาดูหน่อย” เอ่ยจบก็เข้าไปแย่งซองสีน้ำตาลมาจากมือของราตรีดาวทันที“ไม่ได้นะลุง นี่มันเงินค่ารักษาแม่นะ” ราตรีดาวพยายามยื้อเพื่อไม่ให้คมสันแย่งเงินไปจากมือตัวเองได้ แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ“เออ…เอามาให้กูยืมก่อนไม่ได้หรือไง อีกอย่างแม่มึงก็เหมือนคนจะตายไม่ตายแหล่อยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจไม่ใช่หรือไง ปล่อยๆ มันไปเถอะ จะยื้อมันไว้อีกทำไม ทรมานเปล่าๆ” คำพูดร้ายๆ ที่แทงความรู้สึกดังขึ้นจากปากของพี่ชายแท้ๆ ของแม่ทำให้ราตรีดาวช็อคไป“ลุงพูดแบบนี้ได้ยังไง แม่หนูก็น้องแท้ๆ ของลุงนะ ทำไมถึงบอกให้หนูฆ่าแม่ตัวเองแบบนั้น”“กูไม่ได้บอกให้มึงฆ่าแต่กูบอกให้มึงปล่อยมันไป มึงนั่นแหละกำลังทำให้แม่ตายทั้งเป็น เอาเงินมานี่” เอ่ยจบคมสันก็ออกแรงยื้อซองสีน้ำตาลจากมือของราตรีดาวอีกครั้ง“ถ้าจะเอาก็เอาก้อนนี้ไป ส่วนก้อนนี้เป็นตายร้ายดียังไงหนูก็ไม่ให้&

  • ราตรีดาวฤกษ์   บทที่ 8

    “แม่ครับ” สีหน้าของคนฟังไม่สู้ดีนัก เพราะดูเหมือนคราวนี้แม่เขาจะเอาจริง“ว่าไง ถ้าอยากไปทำงานก็รับข้อเสนอของแม่” เมื่อยังไม่ได้คำตอบที่อยากได้เสียทีกรองแก้วก็เอ่ยถามขึ้น ในขณะที่ดาวฤกษ์ก็ใช้ความคิดเพื่อไต่ตรองกับตัวเองอยู่สักพักใหญ่ๆแม่เขาหาเมียให้แถมยังกำชับว่าเขาต้องมีลูกกับเธอภายในสามเดือน ผู้หญิงคนนั้นมาจากไหนและเธอเป็นใครกันหรือเขาจะยอมทำตามที่แม่ต้องการไปก่อนเพื่อได้ย้ายไปทำงานต่างจังหวัด จากนั้นค่อยไปตกลงต่างคนต่างแยกย้ายกับเธอภายหลัง“งั้นผมถามคุณแม่ข้อเดียว”“ได้ ถามมาสิ”“ผู้หญิงคนนั้นใช่รุ้งไหม” นั่นเพราะดาวฤกษ์ไม่เคยคิดอะไรกับเทวิกา ขืนผู้หญิงคนนั้นคือเธอขึ้นมาจริงๆ การตกลงหลังจากนี้คงเป็นไปไม่ได้แน่นอน“ไม่ใช่หนูรุ้ง” กรองแก้วเอ่ยตอบ จู่ๆ ใบหน้าของ ดาวฤกษ์ที่เครียดอย่างเห็นได้ชัดก็คลี่ยิ้มตรงมุมปากออกมาเล็กน้อย นั่นเพราะเขาไม่ได้คิดอะไรกับเทวิกาขืนให้อยู่กับเธอแบบสามีภรรยาคงได้อกแต

  • ราตรีดาวฤกษ์   บทที่ 9

    ก่อนวันเดินทางราตรีดาวนอนไม่หลับก็ว่าได้ เธอมีเพื่อนสนิทแค่ไม่กี่คนที่สามารถเล่าทุกอย่างในชีวิตให้อีกฝ่ายฟังอย่างไม่ปิดบังแต่เรื่องที่เธอกำลังทำคือข้อยกเว้นเพราะไม่กล้าเล่าจริงๆ จึงบอกไปรยาไปเพียงแค่ว่าเธอจะย้ายไปทำงานที่ต่างจังหวัดชั่วคราวเพราะได้เงินดีกว่าวันรุ่งขึ้นราตรีดาวหิ้วกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบไปยังบ้านของกรองแก้ว เมื่อรถแท็กซี่จอดส่งจังหวะที่จะก้าวเท้าลงไปก็ไม่วายถอนหายใจหนักๆ แต่ทุกอย่างก็ต้องเดินต่อ“มาแล้วหรือจ๊ะหนูตรี” กรองแก้วที่ออกมารับ ราตรีดาวด้วยตัวเองเอ่ยทักทายขึ้น“สวัสดีค่ะ” ราตรีดาวยกมือไหว้ผู้สูงวัยก่อนจะส่งยิ้มให้เล็กน้อยแล้วสลัดความรู้สึกหม่นหมองต่างๆ ออกไป“กินอะไรมาหรือยัง”“เรียบร้อยแล้วค่ะ”“เข้าบ้านกันก่อน อีกเดี๋ยวพี่เขาก็คงมา” กรองแก้วคว้ามือของราตรีดาวไว้แล้วพาเข้าบ้านไปทันที ส่วนคนที่ถูกเรียกว่าพี่ขณะนั้นก็กำลังขับรถมุ่งหน้ามาเช่นกันเส

  • ราตรีดาวฤกษ์   บทที่ 10

    “รุ้ง”“รุ้งจะรอพี่นะคะ ยังไงก็จะรอ” แววตาของเทวิกานั้นเต็มไปด้วยความวิงวอนทว่าดาวฤกษ์กลับเลือกที่จะตัดความหวังนั้นของเธอ เพราะอยากให้อีกฝ่ายเปิดใจให้ใครก็ได้ที่รักและคู่ควรกับเขามากกว่าเขา“อย่ารอเลย พี่บอกแล้วไงว่าไม่เคยคิดอะไรกับรุ้ง เราเป็นพี่น้องกันดีกว่า”“ไม่ค่ะ รุ้งจะรักพี่ฤกษ์”“เอาเป็นว่าพี่กับตรีจะไม่มีวันเลิกกัน”“วันนี้เราออกไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันนะคะ” แทนที่จะเข้าใจและตัดใจเทวิกากลับเลือกที่ตื๊อและปล่อยเบลอราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น“คงไม่ได้ครับ เพราะวันนี้พี่กับตรีกำลังจะย้ายไปทำงานที่ต่างจังหวัดด้วยกัน”“อะไรนะคะ” เทวิกาช็อคไปเล็กน้อยนั่นเพราะเธอไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนนั่นเอง“ถ้ามีโอกาสเราคงได้พบกันนะครับรุ้ง” ดาวฤกษ์ส่งยิ้มให้เทวิกาซึ่งมันคือรอยยิ้มที่ไม่ได้สื่อไปเรื่องชู้สาวแต่อย่างใด ซึ่งเทวิกามักจะได้รับรอยย

  • ราตรีดาวฤกษ์   บทที่ 11

    ดาวฤกษ์กลับมาพร้อมถังน้ำแข็งและผ้าขนหนูผืนเล็ก จากนั้นก็จัดการเริ่มประคบเย็นลงไปบนแก้มฝั่งที่กำลังบวมของราตรีดาวโดยที่เธอปฏิเสธหรือต่อต้านเขาไม่ได้ด้วยซ้ำไป หมอหนุ่มแอบใช้จังหวะนั้นมองหน้าเธออย่างสนใจก่อนที่สมองจะหวนคิดไปถึงเรื่องของเขากับเธอในคืนนั้น“เก็บเบอร์โทรพี่ไว้อยู่ไหม” ดาวฤกษ์แทนตัวเองว่าพี่ทันที“ไม่ได้เก็บค่ะ พอดีว่าวันนั้นรีบออกไปเลยลืมหยิบไปด้วย”“อย่างนั้นเหรอ”“อย่าพูดถึงเรื่องในคืนนั้นอีกได้ไหมคะ” น้ำเสียงสั่นๆ ของราตรีดาวเอ่ยขอร้องอีกฝ่าย เพราะเธอไม่อยากได้ยินเรื่องราวหรือเหตุการณ์อะไรในคืนนั้นอีก แค่จู่ๆ ต้องโคจรมาอยู่กับเขาก็ช็อคมากพอแล้ว“ได้สิ” ดาวฤกษ์รับปากดูเหมือนราตรีดาวจะยังคงเข้าใจผิดว่าคืนนั้นเขากับเธอมีอะไรกันแล้วสินะ ไหนๆ เธอก็เข้าใจแบบนั้นแล้วเขาก็ไม่อยากแก้ต่างเดี๋ยวจะหาว่าแก้ตัวไม่เป็นสุภาพบุรุษ ทั้งๆ ที่ความตั้งใจแรกเมื่อได้พบหน้าผู้หญิงคนที่แม่หมายมั่นอยากให้เขาทำเมียจะทำข้อตกลงกับเธอว่าขอให้ต่างคนต่างอยู่หรือถ้าเธออยากได้เงินเท่

  • ราตรีดาวฤกษ์   บทที่ 12

    “ว่าแต่เรากำลังจะไปไหนกันหรือคะ” แม้จะได้ยินคร่าวๆ แต่เพื่อความแน่ใจราตรีดาวจึงถามขึ้น“เมืองกาญ”“เมืองกาญ กาญจนบุรีใช่ไหม”“ใช่ พี่ย้ายตัวเองไปเป็นหมอที่นั่น แล้วตอนนี้ตรีทำงานหรือเรียนอยู่”“ทำงานค่ะ”“เรียนจบแล้วใช่ไหมถึงทำงานหรือว่าดรอปไว้” เสียงทุ้มเอ่ยถามขณะที่สายตาเหลือบมามองคนข้างๆ เล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปมองถนนตรงหน้า“เรียนจบแล้วค่ะ แค่ยังไม่ได้เข้ารับปริญญา” ราตรีดาวไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมว่าเพราะอะไรเธอถึงยังไม่ได้เข้ารับปริญญา“อืม…แล้วนี่แม่เป็นยังไงบ้าง” แม้จะพอทราบอาการป่วยของแม่ราตรีดาวมาคร่าวๆ บ้างแล้ว แต่ ดาวฤกษ์ก็อยากถามกับเธอโดยตรง“หมอบอกว่าดีขึ้นตามลำดับ หวังว่าถ้าได้มาเยี่ยมครั้งหน้าตรีจะได้ยินข่าวดีมากกว่านี้”“คุณแม่พี่ท่านรักษาสัญญาเส

บทล่าสุด

  • ราตรีดาวฤกษ์   บทที่ 17

    เมื่อครบเวลาที่ตั้งไว้ในใจราตรีดาวก็คว้าร่มมาถือไว้ในมือ แต่จังหวะที่เธอกำลังจะเดินออกไปจากบ้านนั้น สายตาก็มองเห็นดาวฤกษ์เดินฝ่าสายฝนที่ซาลงไปบ้างแล้วตรงหน้าบ้านเข้า เมื่อเห็นแบบนั้นราตรีดาวจึงรีบเดินกางร่มเข้าไปหาเขาทันที“ทำไมถึงเดินกลับละคะ รถไปไหน”“จอดเสียอยู่กลางทางครับ ประจวบกับฝนตกเลยไม่มีรถผ่านไปผ่านมาที่พอจะขอให้ช่วยได้ พี่เลย…” ดาวฤกษ์ยังยิ้มออก ยิ่งเห็นว่าราตรีดาวยังปลอดภัยแบบนี้เขาก็รู้สึกว่าหายเหนื่อย คุ้มแล้วที่รีบเดินกลับมาบ้าน“พี่เลยเดินกลับมาบ้านเหรอคะ”“ครับ เป็นห่วงตรีเลยอยากกลับมาบ้านเร็วๆ” คำตอบของดาวฤกษ์ทำเอาราตรีดาวใจสั่นไปหมด เธอน้ำตาเอ่อเมื่อรู้ว่าเขาเป็นห่วงถึงขนาดนี้ ในขณะที่ ดาวฤกษ์เองก็ซึ้งใจเพราะเมื่อครู่ทันทีที่ราตรีดาวเห็นเขาเธอก็เดินตรงเข้ามาหาแล้วกางร่มให้ในขณะที่ตัวเองยืนเปียกไปครึ่งตัวดาวฤกษ์ก้าวเข้าไปยืนให้ใกล้กับเธอมากขึ้นอีกนิด ตอนนี้สิ่งที่คั่นพ

  • ราตรีดาวฤกษ์   บทที่ 16

    ดาวฤกษ์เดินกุมมือราตรีดาวมาเรื่อยๆ กระทั่งถึงศาลาทว่าหมอหนุ่มกลับยังไม่ปล่อยมืออีกฝ่ายแต่อย่างใด สัมผัสจากเขาแม้จะเพียงเล็กน้อยแต่มันกลับทำให้หัวใจของราตรีดาวเต้นแรงและรัว มือไม้เริ่มเย็นเพราะความประหม่าและเพราะกลัวเขาจะจับได้จึงค่อยๆ ดึงมือตัวเองกลับแม้จะอยากยื้อไว้แต่สุดท้ายดาวฤกษ์ก็ต้องปล่อยราตรีดาวให้เป็นอิสระ หมอหนุ่มนั่งดื่มน้ำดับกระหายเพราะตั้งแต่เช้ามีงานให้เขาทำจนแทบไม่มีเวลาได้พัก เพราะเหตุนั้นเขาจึงกลับไปกินมื้อเที่ยงที่บ้านไม่ได้ ระหว่างนั้นราตรีดาวก็แกะปิ่นโตออกมาวางให้เขา“แกงอันนี้คนในหมู่บ้านเอามาให้ค่ะ ส่วนผัดผักตรีทำเอง”“น่ากินทั้งนั้นเลย” จากที่พอจะทนหิวไหวแต่เมื่อเห็นอาหารท้องของดาวฤกษ์ก็เริ่มส่งเสียงประท้วง“รีบกินข้าวเถอะค่ะเลยเวลามาชั่วโมงกว่าแล้ว เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”“ครับ” ดาวฤกษ์เอ่ยบอก ปกติเขาไม่ใช่พวกอ่อนไหวหรือโหยหาการดูแลจากคนอื่น แต่พอราตรีดาวเข้ามาดูแลแม้จะไม่กี่วันเขากลับชอบความรู้สึกดีอย่างในตอนนี้ไปเสียแล้ว อาหารง่ายๆ แต่ทว่ากลับถูกปากจนเขากินหมดทุกอย่าง ก่อนจะตบท้ายด้วยผลไม้

  • ราตรีดาวฤกษ์   บทที่ 15

    อาหารมื้อแรกที่ราตรีดาวทำให้ดาวฤกษ์กินนั้นถูกปากหมอหนุ่มไม่น้อยเพราะเขากินจนหมดเกลี้ยงเลยก็ว่าได้ ก่อนออกไปทำงานก็ยังให้เงินราตรีดาวไว้ใช้จ่าย เธอมาอยู่กับเขาในฐานะภรรยาเขาก็ควรต้องดูแลเธอในฐานะสามีที่ดีที่ควรทำก็ถูกต้องแล้ว แถมยังพามาอยู่ในป่าในเขาไม่ได้สุขสบายเหมือนในกรุงเทพฯ“พี่ไปทำงานก่อนนะครับ”“ค่ะ ใกล้ๆ เที่ยงตรีจะเอาปิ่นโตไปส่งนะคะหรือว่าพี่จะกลับมากินที่บ้าน”“ที่บ้านครับ”“ได้ค่ะ” ราตรีดาวเอ่ยรับก่อนจะเดินออกไปส่ง ดาวฤกษ์ที่หน้าประตู ยืนส่งเขากระทั่งเห็นชายหนุ่มเดินไปได้ไกลแล้วจึงกลับเข้าบ้าน อย่างน้อยบ้านพักหมอก็อยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนักจึงทุ่นเวลาเดินทางไปได้ไม่น้อยราตรีดาวจัดการธุระภายในบ้านจนเสร็จจากนั้นก็ขึ้นไปอาบน้ำแล้วโทรกลับไปหากรองแก้วเพื่อถามอาการของแม่ กรองแก้วจึงส่งทั้งรูปภาพและคลิปที่ได้จากพยาบาลพิเศษให้เธอดูว่าตอนนี้ทุกอย่างยังเป็นปกติ พอวางสายก็เผลอนั่งเหม่อเนื่องจากที่ผ่านมาเธอเรียนกับทำงานทุกวัน พอต้องมานั่งเฉยๆ แบบนี้ก็เริ่มเบื่อ กระทั่งได้ยินเสียงเล็กๆ

  • ราตรีดาวฤกษ์   บทที่ 14

    “ไม่อ้อมค้อมนะ ถ้าจะอยากอยู่ด้วยกันก็อย่าส่งเสียบ่อยๆ เมียฉันไม่ชอบนายรู้ไหม ถ้าพูดไม่รู้เรื่องฉันจะจับนายส่งไปขายเมืองจีน” ดาวฤกษ์คุยได้แม้กระทั่งกับตุ๊กแกแถมไม่คุยเปล่ายังขู่ไปอีกด้วย ซึ่งเจ้าตุ๊กแกเหมือนจะไม่ยอมรับข้อเสนอเพราะมันส่งเสียงร้องทันทีที่หมอหนุ่มพูดจบ“ท้าทายซึ่งหน้าใช่ไหม ได้” เอ่ยจบก็ตรงเข้าไปหมายจะสั่งสอนตุ๊กแกตัวนั้นทันทีก่อนจะหยุดกึกเมื่อเห็นตุ๊กแกตัวที่สองและสามโผล่ออกมา“โอเค พรุ่งนี้ฉันจะมาคุยใหม่ วันนี้นายไปปรึกษากับครอบครัวก่อนแล้วกัน” ดาวฤกษ์รีบหมุนตัวกลับเข้าบ้านทันที สงสัยหลังจากนี้ต้องเปลี่ยนแผนเป็นผูกมิตรแทนการข่มขู่ ก่อนจะโทรหาผู้เป็นแม่เพื่อบอกว่าตอนนี้เขากับราตรีดาวถึงบ้านพักอย่างปลอดภัยแล้วเมื่อกลับเข้ามาในห้องก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ ราตรีดาวอาบน้ำเสร็จพอดี ชายหนุ่มส่งยิ้มให้เธอเล็กน้อยก่อนจะเข้าไปอาบน้ำบ้าง ซึ่งคราวนี้เสียงตุ๊กแกก็ถึงกับดังระงมลั่นบ้านนั่นทำให้ราตรีดาวหน้าตาตื่นรีบขึ้นไปนั่งบนเตียงหมอหนุ่มหันขวับไปมองยังต้นเสียงที่เขาอุตส่าห์ลงไปคุยเพื่อหาทางสงบศึกแต่ดูเหมื

  • ราตรีดาวฤกษ์   บทที่ 13

    ในขณะที่ราตรีดาวนั้นมารอเขาที่บ้านพักแพทย์ที่ปล่อยร้างมานานสภาพของบ้านจึงทรุดโทรมไม่น้อย แต่จู่ๆ ชาวบ้านกลุ่มเมื่อครู่ก็พากันมาช่วยทำความสะอาด ทาสีและซ่อมแซมจุดที่ชำรุดพร้อมกับนำพวกข้าวของเครื่องใช้รวมถึงข้าวสารอาหารแห้งมาให้อีกหลายอย่าง โดยเฉพาะผักและผลไม้สดๆ ที่เก็บมาจากไร่สวน“คุณเป็นเมียคุณหมอเหรอจ๊ะ”“เอ่อ” คำถามซื่อๆ แต่ตรงไปตรงมาของชาวบ้านคนหนึ่งทำเอาราตรีดาวอึกอัก ไม่รู้จะตอบยังไงเหมือนกัน ก่อนที่ชาวบ้านอีกคนจะช่วยตอบแทนเธอ“ต้องเป็นเมียสิ ถ้าไม่ใช่เมียคุณหมอจะพามาด้วยทำไม”“เออ ข้าก็ไม่น่าถามอะไรโง่ๆ เลย ขอโทษนะจ๊ะคุณ”“ไม่เป็นไรจ้ะ” ราตรีดาวส่งยิ้มให้พวกเขา ก่อนจะช่วยเก็บของในครัวกันละไม้ละมือกระทั่งเสร็จชาวบ้านจึงทยอยกันกลับไป ตอนกลางวันภายในบ้านก็ดูปกติแต่พอตกเย็นทำไมถึงได้ดูวังเวงจนราตรีดาวขนลุกบอกไม่ถูก เธอนั่งชะเง้อมองหาดาวฤกษ์ว่าเมื่อไหร่ชายหนุ่มจะกลับมาจากประชุมเสียทีแต่ยิ่งรอเหมือนเวลาจะยิ่งช้าจนอยากไปตามแต่คงทำแบบนั้นไม่ได้เพราะจะดูเสียมารยาท บรรยากาศรอบๆ ต

  • ราตรีดาวฤกษ์   บทที่ 12

    “ว่าแต่เรากำลังจะไปไหนกันหรือคะ” แม้จะได้ยินคร่าวๆ แต่เพื่อความแน่ใจราตรีดาวจึงถามขึ้น“เมืองกาญ”“เมืองกาญ กาญจนบุรีใช่ไหม”“ใช่ พี่ย้ายตัวเองไปเป็นหมอที่นั่น แล้วตอนนี้ตรีทำงานหรือเรียนอยู่”“ทำงานค่ะ”“เรียนจบแล้วใช่ไหมถึงทำงานหรือว่าดรอปไว้” เสียงทุ้มเอ่ยถามขณะที่สายตาเหลือบมามองคนข้างๆ เล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปมองถนนตรงหน้า“เรียนจบแล้วค่ะ แค่ยังไม่ได้เข้ารับปริญญา” ราตรีดาวไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมว่าเพราะอะไรเธอถึงยังไม่ได้เข้ารับปริญญา“อืม…แล้วนี่แม่เป็นยังไงบ้าง” แม้จะพอทราบอาการป่วยของแม่ราตรีดาวมาคร่าวๆ บ้างแล้ว แต่ ดาวฤกษ์ก็อยากถามกับเธอโดยตรง“หมอบอกว่าดีขึ้นตามลำดับ หวังว่าถ้าได้มาเยี่ยมครั้งหน้าตรีจะได้ยินข่าวดีมากกว่านี้”“คุณแม่พี่ท่านรักษาสัญญาเส

  • ราตรีดาวฤกษ์   บทที่ 11

    ดาวฤกษ์กลับมาพร้อมถังน้ำแข็งและผ้าขนหนูผืนเล็ก จากนั้นก็จัดการเริ่มประคบเย็นลงไปบนแก้มฝั่งที่กำลังบวมของราตรีดาวโดยที่เธอปฏิเสธหรือต่อต้านเขาไม่ได้ด้วยซ้ำไป หมอหนุ่มแอบใช้จังหวะนั้นมองหน้าเธออย่างสนใจก่อนที่สมองจะหวนคิดไปถึงเรื่องของเขากับเธอในคืนนั้น“เก็บเบอร์โทรพี่ไว้อยู่ไหม” ดาวฤกษ์แทนตัวเองว่าพี่ทันที“ไม่ได้เก็บค่ะ พอดีว่าวันนั้นรีบออกไปเลยลืมหยิบไปด้วย”“อย่างนั้นเหรอ”“อย่าพูดถึงเรื่องในคืนนั้นอีกได้ไหมคะ” น้ำเสียงสั่นๆ ของราตรีดาวเอ่ยขอร้องอีกฝ่าย เพราะเธอไม่อยากได้ยินเรื่องราวหรือเหตุการณ์อะไรในคืนนั้นอีก แค่จู่ๆ ต้องโคจรมาอยู่กับเขาก็ช็อคมากพอแล้ว“ได้สิ” ดาวฤกษ์รับปากดูเหมือนราตรีดาวจะยังคงเข้าใจผิดว่าคืนนั้นเขากับเธอมีอะไรกันแล้วสินะ ไหนๆ เธอก็เข้าใจแบบนั้นแล้วเขาก็ไม่อยากแก้ต่างเดี๋ยวจะหาว่าแก้ตัวไม่เป็นสุภาพบุรุษ ทั้งๆ ที่ความตั้งใจแรกเมื่อได้พบหน้าผู้หญิงคนที่แม่หมายมั่นอยากให้เขาทำเมียจะทำข้อตกลงกับเธอว่าขอให้ต่างคนต่างอยู่หรือถ้าเธออยากได้เงินเท่

  • ราตรีดาวฤกษ์   บทที่ 10

    “รุ้ง”“รุ้งจะรอพี่นะคะ ยังไงก็จะรอ” แววตาของเทวิกานั้นเต็มไปด้วยความวิงวอนทว่าดาวฤกษ์กลับเลือกที่จะตัดความหวังนั้นของเธอ เพราะอยากให้อีกฝ่ายเปิดใจให้ใครก็ได้ที่รักและคู่ควรกับเขามากกว่าเขา“อย่ารอเลย พี่บอกแล้วไงว่าไม่เคยคิดอะไรกับรุ้ง เราเป็นพี่น้องกันดีกว่า”“ไม่ค่ะ รุ้งจะรักพี่ฤกษ์”“เอาเป็นว่าพี่กับตรีจะไม่มีวันเลิกกัน”“วันนี้เราออกไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันนะคะ” แทนที่จะเข้าใจและตัดใจเทวิกากลับเลือกที่ตื๊อและปล่อยเบลอราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น“คงไม่ได้ครับ เพราะวันนี้พี่กับตรีกำลังจะย้ายไปทำงานที่ต่างจังหวัดด้วยกัน”“อะไรนะคะ” เทวิกาช็อคไปเล็กน้อยนั่นเพราะเธอไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนนั่นเอง“ถ้ามีโอกาสเราคงได้พบกันนะครับรุ้ง” ดาวฤกษ์ส่งยิ้มให้เทวิกาซึ่งมันคือรอยยิ้มที่ไม่ได้สื่อไปเรื่องชู้สาวแต่อย่างใด ซึ่งเทวิกามักจะได้รับรอยย

  • ราตรีดาวฤกษ์   บทที่ 9

    ก่อนวันเดินทางราตรีดาวนอนไม่หลับก็ว่าได้ เธอมีเพื่อนสนิทแค่ไม่กี่คนที่สามารถเล่าทุกอย่างในชีวิตให้อีกฝ่ายฟังอย่างไม่ปิดบังแต่เรื่องที่เธอกำลังทำคือข้อยกเว้นเพราะไม่กล้าเล่าจริงๆ จึงบอกไปรยาไปเพียงแค่ว่าเธอจะย้ายไปทำงานที่ต่างจังหวัดชั่วคราวเพราะได้เงินดีกว่าวันรุ่งขึ้นราตรีดาวหิ้วกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบไปยังบ้านของกรองแก้ว เมื่อรถแท็กซี่จอดส่งจังหวะที่จะก้าวเท้าลงไปก็ไม่วายถอนหายใจหนักๆ แต่ทุกอย่างก็ต้องเดินต่อ“มาแล้วหรือจ๊ะหนูตรี” กรองแก้วที่ออกมารับ ราตรีดาวด้วยตัวเองเอ่ยทักทายขึ้น“สวัสดีค่ะ” ราตรีดาวยกมือไหว้ผู้สูงวัยก่อนจะส่งยิ้มให้เล็กน้อยแล้วสลัดความรู้สึกหม่นหมองต่างๆ ออกไป“กินอะไรมาหรือยัง”“เรียบร้อยแล้วค่ะ”“เข้าบ้านกันก่อน อีกเดี๋ยวพี่เขาก็คงมา” กรองแก้วคว้ามือของราตรีดาวไว้แล้วพาเข้าบ้านไปทันที ส่วนคนที่ถูกเรียกว่าพี่ขณะนั้นก็กำลังขับรถมุ่งหน้ามาเช่นกันเส

DMCA.com Protection Status