วันจันทร์ต้นสัปดาห์ฟีฟ่ามาทำงานอย่างเช่นเคย หน้าที่ของฟีฟ่าคอยรับคืนหนังสือต่างๆ ที่บรรดานักศึกษาวนเวียนมาทั้งวัน ไม่เว้นแม้แต่เวลาเที่ยงวันซึ่งเป็นเวลากินข้าว ในส่วนของฟีฟ่านั้นไม่ต้องลงไปกินที่โรงอาหาร เพราะแม่ของฟีฟ่าได้จัดอาหารการกินมาพร้อมทุกวัน ฟีฟ่าจึงมานั่งกินในห้องเล็กๆสำหรับเจ้าหน้าที่บรรณารักษ์
“กินม่วนเชียว”เจมี่ทัก เมื่อเขากินข้าวนอกมหาวิทยาลัยกับแฟนหนุ่มเสร็จ และกลับเข้ามาในห้องสมุด
“กินด้วยกันไหมพี่ วันนี้มีผัดกระเพาปลาหมึกไข่ดาว มีมะม่วงเปรียวจิ้มพริกเกลือด้วย แก้ง่วงนอนเป็นอย่างดี พี่เจมี่แกะกินเลย”
“พี่ไม่เกรงใจแล้วนะ ช่วงบ่ายชอบง่วงนอนอยู่ด้วย”
“เอาเลยเดี๋ยวฟีฟ่ากินตามทีหลัง”
“เมื่อคืนก่อนพี่นัทเป็นไงบ้าง”เจมี่ถาม
“ปากหวาน”
“แหม ไม่ชอบเหรอปากหวานน่ะ”
“ยังไม่รู้เลยตอนนี้ก็ยังไม่ได้คิดอะไร”ฟีฟ่ายังก้มหน้ากินข้าวต่อไปอีก ทั้งๆที่ใจก็แอบคิดอยู่เหมือนกัน
“แล้วทำไมไม่บอกเบอร์โทรพี่นัทไปล่ะ ให้มาถามพวกพี่อยู่ได้”
“ถ้าให้ไปก็เหมือนง่าย ถ้าไม่บอกให้เอาเบอร์ที่พี่ก็เหมือนหยิ่ง แบบนี้แหละแฟร์ดี”
“ฉลาดพูดเนาะ”
“อิ่มแหละ กินมะม่วงต่อดีกว่า”ฟีฟ่าเอ่ยขึ้น
“มะม่วงฟีฟ่ามันก็หายง่วงนะ แต่อาจท้องเสียแทนน่ะซิ”เจมี่พูดขึ้นแต่เขาก็ยังกินเหมือนเดิม
“ก็ดีท้องผูกมาหลายวันแล้ว”ฟีฟ่าพูดหน้าตาย
“พวกเราท้องผูกไม่ดีนะ”เจมี่หัวเราะ
“จริงด้วยพี่แบบนี้ต้องกินเยอะๆ”ฟีฟ่าหัวเราะตาม
“ไปเหอะได้เวลาทำงาน”เจมี่เอ่ยขึ้น
“พี่ไปก่อนเถอะเดี๋ยวฟีฟ่าดื่มน้ำซักหน่อย แล้วจะเก็บถ้วยชามไปล้างด้วย”
ฟีฟ่ารีบดื่มน้ำและเก็บถ้วยชามล้างคว่ำไว้ที่เดิม หลังจากนั้นเขารีบไปที่เค้าท์เตอร์ทันที เพื่อที่จะรับคืนหนังสือ
“หวัดดีครับพี่ฟีฟ่า”ไนท์ยืนหน้าเค้าท์เตอร์ยิ้มให้ฟีฟ่า
“ไม่ไปเรียนเหรอมาเตร็ดเตร่แถวห้องสมุด”
“ไม่มีเรียนแล้วครับ ที่มานี่ก็อยากเห็นหน้าพี่ฟีฟ่าตอนทำงาน จะน่ารักเหมือนตอนอยู่ที่บ้านหรือเปล่า”
“วันนี้มาแปลกจัง ไม่พูดกวนพี่เหมือนเมื่อวาน”ฟีฟ่าเงยหน้ามองไนท์นักศึกษาหนุ่ม
“ผมมีเรื่องานให้พี่ฟีฟ่าช่วยหน่อยน่ะครับ”
“ว่าแล้วเชียว แต่พี่ไม่ได้มีเวลาว่างขนาดนั้น จะมาช่วยเหลือคนอื่นหรอก”
“ผมคนอื่นที่ไหนล่ะ คนข้างบ้านพี่ฟีฟ่านี่ มีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกันซิ”
“เล่นพูดอย่างนี้เลยเหรอ ลองว่ามามีอะไรให้พี่ช่วย”
“หาหนังสือให้ผมหน่อยได้ไหมครับ”
“ทำไมไม่หาเองล่ะ”
“ไม่มีเวลาเลยครับ ผมต้องไปประชุมที่สมาคมว่ายน้ำ จะมาหาหนังสือก็ไม่ทัน ก็เลยอยากรบกวนพี่ซักหน่อย ถ้าพี่ไม่มีเวลาก็ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวผมหาเองก็ได้แต่มันช้า อาจจะไปประชุมไม่ทัน โค้ชอาจโดนตำหนิก็ได้นะ”
“จะมาตำหนิอะไรโค้ช ต้องตัวนักกีฬานั่นแหละสมควรโดนตำหนิ”
“โค้ชกับนักกีฬาถ้าโดนตำหนิก็โดนพร้อมกันนั่นแหละครับ”
ฟีฟ่านั่งคิดไปพร้อมกับรับคืนหนังสือให้กับนักศึกษา แถมยังมีไนท์มากวนสมาธิอีก ตรงนี้นี่แหละที่ฟีฟ่าก็กลัวตัวเองโดนตำหนิเหมือนกัน
“ก็ได้ เขียนรายชื่อหนังสือมา”ฟีฟ่าไม่อยากมีปัญหาหลายทางเขาจึงตัดปัญหานี้ รับปากไนท์ เพราะว่าไนท์จะได้ไม่มารบกวนในเวลางานอีก
“ขอบคุณพี่ฟีฟ่ามากนะครับ เดี๋ยวผมจะโพสต์รูปผมตอนใส่ชุดว่ายน้ำลงอีกนะครับ พี่จะได้ดูเพลินๆคนเดียวในห้องนอน”ไนท์ยิ้มหวานฉ่ำตรงหน้าฟีฟ่า พร้อมกับยื่นกระดาษเขียนรายชื่อหนังสือ
“มาพูดอะไรตรงนี้ ไปเลย เดี๋ยวใครมาได้ยินหาว่าพี่หื่น”
“หรือว่าไม่จริง”
“ยังไม่ไปอีกเดี๋ยวไม่หาให้เลยนะ”
“ครับพี่ฟีฟ่า ผมไปแล้วนะ เจอกันที่บ้านนครับ”
“คนอะไรกวนประสาท”ฟีฟ่าบ่นพีมพัม
“ใครน่ะ ดูสนิทกันมาก ที่ไม่ยอมให้เบอร์พี่นัทก็เพราะนักศึกษาคนนี้หรือเปล่า อย่าบอกนะว่าชอบกินเด็ก”เจมี่ยืนพูดข้างๆฟีฟ่า
“ไม่ใช่หรอกพี่ พ่อของฟีฟ่าเป็นโค้ชให้กับน้องเขา พ่อเลยให้มาอยู่ที่ข้างบ้าน”
“ถ้างั้นแล้วไป อย่างนี้พี่นัทก็มีสิทธิ์ใช่ไหม”
“ต้องถามพ่อฟีฟ่าก่อน”
“ไม่ต้องถามหรอกของอย่างนี้อยู่ที่ตัวเราไม่ใช่เหรอ ฟีฟ่าจะทำตามใจพ่อทุกอย่างเลย แล้วจะมีความสุขได้ไง”
“มีสิ ฟีฟ่ามีความสุขดีทุกอย่างเลยพี่”
“เอาที่สบายใจ ตามใจฟีฟ่าก็แล้วกัน แต่พี่ฝากพี่นัทไว้ในอ้อมกายอ้อมใจของฟีฟ่าด้วยนะ”
“คิดดูก่อน”ฟีฟ่าพูดไปยิ้มไปเพราะเขาก็มีใจเอียงเอนมาทางไอโซนัทพอสมควร แต่ก็ยังสงวนท่าทีและกลัวพ่อของเขารู้ เพราะถ้ารู้ความจริงเรื่องใหญ่แน่นอน
ใกล้เวลาเลิกงานฟีฟ่าก็ค้นหนังสือ ที่ไนท์ให้รายชื่อไว้ เมื่อหาจนครบฟีฟ่าจึงรีบกลับไปที่บ้านทันที โดยขึ้นแท็กซี่และได้ผ่านอู่ซ่อมรถของช่างกัน ฟีฟ่าเลยให้แท็กซี่จอด เพื่อสอบถามว่าซ่อมเสร็จหรือยัง แต่ฟีฟ่ายังไม่ได้ถามหรือว่าพูดอะไรเลย เพียงแค่เดินมาที่หน้าอู่ซ่อมรถ ช่างกันนั้นได้เป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน
“ถ้าเสร็จแล้วจะโทรไปบอก เสียเวลามึงเปล่าๆที่มาดูทุกวัน หรือว่าที่กูคิดไว้เป็นความจริง มึงไม่ได้มาดูรถแต่มาดูกูมากกว่า”
“ช่างกัน หลงตัวเองเกินไปหน่อยมั้ง”
“กูอาจหลงตัวเอง แต่มึงหลงกูแน่ๆไอ้ฟีฟ่า”
“หล่อตายชักเลย”ฟีฟ่าพูด
“น่ารักตายห่าเลย”ช่างกันพูดตาม
“ไอ้บ้า”พอฟีฟ่าด่าเสร็จรีบเดินไปขึ้นรถทันที
ฟีฟ่ารู้สึกหงุดหงิดทุกทีที่เจอช่างกัน ที่หลงตัวเองหาว่าเขาชอบ ฟีฟ่านั่งหน้าบูดหน้าบึ่งจนมาถึงหน้าบ้านของเขา เมื่อฟีฟ่าลงจากรถแท็กซี่เขาก็เข้าไปในบ้านของไนท์ เพื่อที่จะเอาหนังสือไปให้ ฟีฟ่าเดินอย่างเร่งรีบเพราะจะได้รีบกลับไปที่บ้านของเขา ฟีฟ่าเดินไปถึงที่สระว่ายน้ำเขาก็วางหนังสือลงไว้บนโต๊ะ แล้วยีนมองไนท์ว่ายน้ำท่ากรรเชียง ฟีฟ่าดูจนไนท์ว่ายมาถึงขอบสระที่เขายืนอยู่
“เอาหนังสือมาให้แล้วนะ”
“อะไรนะ”ไนท์แกล้งไม่ได้ยิน
“เอาหนังสือมาให้แล้วนะ”
“อะไรนะไม่ได้ยิน ยืนคุยอย่างนั้นผมไม่ได้ยิน พี่ฟีฟ่านั่งลงก่อนซิ”ไนท์อยู่ในน้ำในท่าเกาะขอบสระ
“เรื่องมากจริงเลยทั้งโค้ชทั้งนักกีฬา”ฟีฟ่าจึงนั่งยองๆข้างขอบสระ
“ว่าพ่อตัวเองด้วยเหรอ”ไนท์ยิ้มตาใสแวววาว
“มันเรื่องจริงไม่ได้ว่าซักหน่อย ที่พี่มาเนี่ย เอาหนังสือมาให้วางอยู่บนโต๊ะโน้น”
“ขอบคุณพี่ฟีฟ่ามากเลยครับ ผมจะตอบแทนพี่อย่างไงดีบอกผมได้นะครับ”
“ไม่ต้องหรอก ที่ช่วยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนอะไร”
“แต่คนได้รับก็ต้องตอบแทนใช่ไหมครับ”ไนท์ดันตัวขึ้นเหนือขอบสระและหันตัวนั่งลงกับพื้นสระ และห้อยขาลงในสระน้ำ
“แค่นี้แหละพี่ไปแล้วนะ”
“เดี่ยวก่อนซิ”
“อะไร”ฟีฟ่าหันมามองหน้า
“ไม่ต้องมองหน้าก็ได้อยากมองตรงไหนก็มองได้เลย ถือว่าตอบแทนพี่ก็แล้วกัน”
“คุยกันก็ต้องมองหน้าซิ ไม่ให้มองหน้าจะมองอะไรล่ะ”
“แล้วแต่พี่ฟีฟ่าก็แล้วกันอยากมองอะไร มองตรงไหนก็คุยกันได้ทั้งนั้นแหละ เพราะใช้หูฟังกับปากที่พูด ไมได้ใช้สายตาพูดนี่”
“ที่เรียกให้พี่อยู่ต่อเนี่ยมีอะไรหรือเปล่า จะพูดอะไรก็พูดไปอย่าไร้สาระ”
“ผมอยู่คนเดียวมันเหงา พอได้คุยกับพี่ก็คลายเหงาได้เยอะเลย”
“ที่คลายเหงาน่ะ พูดจาแซวแกล้งพี่มากกว่ามั้ง ไม่เคยพูดกับพี่ดีๆเป็นเรื่องเป็นราวเลย”
“ก็แกล้งพี่สนุกดี เวลาพี่โกรธนี่น่ารักเป็นบ้าเลย”ไนท์หันมามองหน้าฟีฟ่าที่นิ่งเฉย
“น่ารักเฉยๆไมได้เหรอทำไมต้องเป็นบ้าด้วย”
“ก็บ้ารักไง”
“แล้วไปบ้ารักใครล่ะ”
“คนแถวนี้มั้ง”
“ไม่เห็นมีเลย”ฟีฟ่ามองไปรอบๆบริเวณบ้าน
“ก็พี่ไง”
“อึ๊ย พูดไปเรื่อย”
“รู้อีกว่าผมพูดเล่น”ไนท์หัวเราะ
“เพลี้ยะ”
เมื่อฟีฟ่าตีไปที่แผ่นหลังของไนท์แล้วเขาก็รีบลุกขึ้นทันที ส่วนไนท์รีบจับมือของฟีฟ่าไว้ เพราะเขายังอยากคุยกับฟีฟ่าต่อ ด้วยความเป็นนักกีฬาแรงของไนท์จึงเยอะ เขาดึงมือของฟีฟ่าค่อนข้างแรง จนร่างฟีฟ่าเซล่นลงไปในน้ำ และจมลงดิ่งก้นสระฟีฟ่าได้สติจึงทะยานตัวขึ้นมา
ส่วนไนท์นั้นก็ตกใจกระโดดลงในสระ เพื่อไปคว้าร่างของฟีฟ่าที่กำลังดันร่างตัวเองสู่เหนือน้ำ ไนท์โอบกอดร่างของฟีฟ่าไว้ใต้วงแขน ส่วนฟีฟ่าก็ได้สัมผัสเรือนร่างแข็งแน่นที่โอบกอดเขาอยู่
“ปล่อย ไม่ต้องมากอดพี่ คนฉวยโอกาส พี่เปียกหมดแล้วเห็นไหมเนี่ย”
“ขอกอดอีกนิดได้ไหมตัวพี่นิ่มจังเลย”ไนท์รัดวงแขนให้แน่นไปอีก จนเนื้อกายของไนท์สัมผัสร่างของฟีฟ่า
“ปล่อยนะ ไอ้นั่นมันมาโดนพี่”ฟีฟ่าสลัดร่างของไนท์ให้หลุด แต่ยิ่งสลัดกับยิ่งแน่นยิ่งขึ้น จนฟีฟ่ายืนนิ่งเฉย
“ทำไมไม่ดิ้นแล้วล่ะ หรือว่าติดใจ”
“ก็ไม่ปล่อยแล้วจะดิ้นทำไมเปลืองแรง”
“แบบนี้ไม่สนุกเลย”ไนท์คลายกอดฟีฟ่า
“ก็แค่นี่แหละ”ฟีฟ่าพยายามกระโดดขึ้นขอบสระ
“มา เดี๋ยวผมช่วย”ไนท์จับที่ก้นของฟีฟ่าและดันขึ้น
“มาจับก้นพี่ทำไม”ฟีฟ่าเสียงดัง
“ถ้าไม่ให้จับก้นจะให้จับตรงไหนดันขึ้นล่ะพี่”
“พี่ขึ้นเองได้ไม่ต้องมายุ่ง”
ถึงแม้ฟีฟ่าจะขึ้นจากสระเองได้ แต่ไนท์ก็ดันก้นของฟีฟ่าขึ้นไปอยู่ดี เพราะเขาได้สัมผัสบั้นท้ายของฟีฟ่าแล้วรู้สึกคึกคัก เพราะบั้นท้ายของฟีฟ่าค่อนข้างนุ่มติดมือ
“เดี๋ยวพี่จะฟ้องพ่อว่าน้องไนท์แกล้งพี่”เมื่อฟีฟ่าขึ้นบนขอบสระได้แล้ว เขาก็ยืนขึ้นหันหน้ามาพูดกับไนท์ทันที
“ผมแกล้งตอนไหนและแกล้งอะไรลองบอกมาซิ”
“ก็ตอน”ฟีฟ่านึกไม่ออก พูดไม่ถูก
“อ่อ ผมนึกออกแล้วแกล้งตอนที่ผมกอดพี่ใช่ไหม จะบอกโค้ชก็ได้นะผมไม่ว่าอะไรหรอก ก็มันเรื่องจริงนี่ว่าผมได้กอดพี่”
“ปากดีนัก ฝากไว้ก่อนเถอะ”ฟีฟ่าหันหลังกลับเดินอย่างรีบเร่ง เพราะรู้สึกโกรธไนท์มาก และเขาไม่สามรถที่จะบอกพ่อของเขาเรื่องที่ไนท์กอดได้
ไนท์ยืนมองร่างของฟีฟ่าเดินก้าวเท้าสั้นๆ มีท่าทีโมโหกระฟัดกระเฟียด เดินดุกดิ๊กแขน
กวักแกว่งไปมา เดินออกจากบ้านเขาไป เมื่อสายตาไม่อาจมองเห็นฟีฟ่าได้ เขาจึงหงายหลังว่ายน้ำท่ากรรเชียงต่อไปอย่างอารมณ์ดี
ช่วงเย็นอีกวันถัดไป ฟีฟ่าพึ่งกลับมาถึงบ้าน เขาก็นั่งพักผ่อนกดโทรศัพท์มือถือดู ซึ่งเขาก็เห็นข้อความทางไลน์เด้งขึ้นมา “รถซ่อมเสร็จแล้ว” “เท่าไร” “หมื่นสอง” “แพงจัง” “ถ้าไม่เอาจะถอดอะไหล่ออกแล้วนะ” “ก็ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปเอา” “พรุ่งนี้ไม่อยู่” “วันรืน” “ไม่ว่าง” “วันถัดไป” “ไปขายรถมึง” “ตอนนี้อยู่คนเดียวไม่มีใครไปส่ง รอตอนค่ำได้ไหม” “จะไปแดกเหล้า” “ถ้างั้นช่างมารับหน่อยก็แล้วกัน” “ไม่ว่างเล่นมือถืออยู่” “ไปตามวินมอเตอร์ไซค์ให้หน่อยก็ยังดี” “ไม่ไปขี้เกียจเดิน” “ถ้างั้นว่างวันไหนก็บอกมา เดี๋ยวจะไปเอารถวันนั้น” “ชาติหน้า” “ไปตายซะ” ฟีฟ่ารำคาญความกวนอารมณ์ของช่างกันอย่างมาก แต่เขาก็อยากไปเอารถอยู่เหมือนกัน แต่ก็ขี้เกียจเดิน ในระหว่างที่ฟีฟ่ากำลังตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรดี เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น “ เดี๋ยวกูจะไปรับมึง”
วันหยุดสุดสัปดาห์ช่วงสายๆฟีฟ่านั่งรอไอโซนัท ที่จะมาเจรจากับพ่อของเขาในเรื่องที่จะให้ไปรีวิวบ้านจัดสรรของไอโซนัท ซึ่งเป็นตามคาดไอโซนัทมาก่อนเวลาร่วมครึ่งชั่วโมง “หวัดดีครับพี่นัท นั่งรอตรงนี้ก่อนนะครับ”ฟีฟ่าเอ่ยขึ้น “บ้านของน้องฟีฟ่าน่าอยู่ดีน่ะพี่ว่า” “ขอบคุณครับที่ชม เดี๋ยวผมจะไปเอาน้ำมาหาให้ดื่มก่อนครับ” ก่อนที่ฟีฟ่าจะไปเอาน้ำดื่มเขาได้ไปบอกพ่อของเขาให้ออกมาที่ห้องรับแขก แต่ยศพ่อของฟีฟ่าก็ยังไม่ออกมา ถึงแม้ฟีฟ่าจะเอาน้ำดื่มมาให้ไอโซนัทแล้วก็ตามที “สงสัยพ่อทำธุระส่วนตัวอยู่ รอสักครู่นะครับ” “ไม่เป็นไร พี่รอได้ทั้งวัน ขอแค่ฟีฟ่าอยู่ใกล้ๆพี่เป็นพอ” “คงไม่ได้หรอกมั้ง”ยศพ่อของฟีฟ่าเดินออกมาพอดีและทันได้ยิน ยศมองหน้าไอโซนัทแวบนึงแล้วนั่งลง “สวัสดีครับคุณพ่อ”ไอโซนัทยกมือไหว้ “ฟีฟ่าไม่มีพี่ไม่มีน้อง”ยศพูดห้วนๆ “ครับคุณลุง” “อาก็พอ”เสียงห้วนๆดังขึ้นอีกครั้ง “ครับคุณอา” “มีอะไรว่ามา” “ผมจะมาให้น้องฟีฟ่าไปช่วยรีวิวบ้านจัดสรรให้หน่อยครับ” “คนอื่น
วันที่ฟีฟ่ารอคอยก็มาถึง วันที่เข้าต้องไปดูที่ดินกับไอโซนัทเพียงสองคน แต่แล้วความฝันนั้นได้พังทลาย เพราะยศพ่อของเขาให้ไนท์ไปเป็นเพื่อน“พ่อฟีฟ่าไปคนเดียวก็ได้ ทำไมต้องให้ไนท์ไปด้วยล่ะ”“จะไปสองคนได้ไง ที่ดินของเราอยู่ไกล กว่าจะกลับมาก็มืดค่ำแล้ว มีไอ้ไนท์ไปด้วยพ่อจะได้วางใจ”“พี่นัทก็ไปด้วยนี่ครับ”“พ่อไม่ค่อยคุ้นเคยกับเขาสักเท่าไร พ่อไม่อยากให้ไปกันสองคน พ่อพูดคำไหนก็ต้องเป็นคำนั้น ถ้าเชื่อพ่อทุกอย่างจะดีเอง”“ก็ได้ครับพ่อ”“นั่นไงคุณนัทของลูกมาแล้ว”สินีแม่ของฟีฟ่าพูดขึ้นทันที ที่เห็นรถของหรูของไอโซนัทขับเข้ามาภายในบ้าน“แล้วไหนคนดีของพ่อล่ะ ยังไม่เห็นมาเลย”ฟีฟ่ามองหาไนท์“มาแล้วครับ ผมรออยู่ที่ประตูรั้วข้างบ้าน รอให้ไอโซนั่นมาก่อนผมค่อยมาโชว์ตัว”ไนท์เดินยิ้มร่ามาหาฟีฟ่า“นกรู้”ฟีฟ่าพูดขึ้นลอยๆ“สวัสดีครับคุณอาทั้งสองและน้องฟีฟ่าด้วยนะ”ไอโซนัทยิ้มน้อยยิ้มใหญ่“เราไปกันเลยไหมน้องฟีฟ่า ผมขออนุญาตพาฟีฟ่าไปด้วยนะครับคุณอา”“เดี๋ยวก่อน อีกคนยังไม่มาเลย”ยศพูดขึ้น“ใครอีกล่ะ”ฟีฟ่าเสียงสูงนิดนึง“คนขับรถซิ”“ก็พี่นัทไง”“คุณนัทเขาไม่ชำนาญทางหรอก พ่อเตรียมคนขับรถไว้แล้ว เขาเป็นลูกชายคนที่พ่อรู
งานรีวิวบ้านจัดสรรพผ่านไปด้วยดี ซึ่งในตอนค่ำได้มีนัดสังสรรค์ทีมงาน และบรรดาเพื่อนของไอโซนัท ทางครอบครัวของยศให้ฟีฟ่าไปคนเดียว ทีแรกยศก็ไม่อยากให้ไปแต่ฟีฟ่าขอร้องจนยศใจอ่อน เมื่อฟีฟ่ามาในงานก็พบกับความตื่นตาตื่นใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่เขาได้เข้ามาในงานสังคมอีกระดับหนึ่ง “น้องฟีฟ่ามาพอดีเลย เดี๋ยวพี่จะแนะนำเพื่อนพี่ให้รู้จัก”ไอโซนัทจับมือของฟีฟ่าและดึงมาหาเพื่อนๆของเขา ซึ่งมีแต่คนระดับลูกหลานไอโซร้อยล้านถึงพันล้านบางคนหมื่นล้าน “น้องฟีฟ่าหวัดดีพี่เขาซิ เพื่อนพี่ทั้งนั้นเลย” “สวัสดีครับ”ฟีฟ่ายกมือไหว้ ยิ้มแบบฝืนๆเพราะการแต่งตัวแต่ละคนหรูหรามาก ทั้งตัวมีแต่แบรนด์เนม ส่วนฟีฟ่ามองตัวเองก็เสื้อผ้าขึ้นห้างเหมือนกัน แค่หลักพันเท่านั้นไม่ถึงหมื่นถึงแสนอย่างเพื่อนไอโซนัท “น้องฟีฟ่าน่ารักสมคำบอกเล่าของนายจริงๆ”เพื่อนคนหนึ่งของไอโซนัทพูดขึ้น “แน่นอนอยู่แล้ว”ไอโซนัทกอดคอฟีฟ่าไว้ “แล้วน้องฟีฟ่าทำงานอะไรเหรอครับ” “น้องเขาเป็นบรรณารักษ์ที่ห้องสมุดในมหาวิทยาลัยน่ะ”ไอโซนัทตอบแทน “พี่ก็นึกว่าน้องฟีฟ่าทำธุรกิจ หรือ ไม่ก็ช่วยคุณพ่อทำธุรกิจ แต่เป็นบรรณา
ช่างกันยังไม่พาฟีฟ่ากลับบ้านเขาได้ขับรถวนมาวนไป และไปที่ถนนโล่งๆนอกเมืองที่ไกลพอสมควร และเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็ก แล้วโผล่ไปสนามแข่งรถ เมื่อไปถึงฟีฟ่าก็เห็นรถบิ๊กไบค์หลายคันจอดเรียงราย พร้อมอีกคันก็ของช่างกันนั่นเอง ที่พึ่งมาจอดต่อท้ายรถคันอื่น “นายพาเรามาที่นี่ทำไม”ตอนแรกฟีฟ่าก็รู้ว่าช่างกันจะพาออกนอนเมือง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะยังไม่อยากกลับบ้าน และการนั่งซ้อนท้ายรถบิ๊กไบค์ฟีฟ่าก็รู้สึกดีเหมือนกัน เป็นอะไรที่แปลกใหม่ที่เขายังไม่เคยทำ“เอ้า ทำไมมึงไม่บอกว่าไม่อยากมา เห็นนั่งเงียบก็นึกว่าอยากมา ยังจะมีหน้ามาถามกูอีก”“เอ๊ะนายนี่อย่างไงเนี่ย ถามแค่นี้ทำไมต้องพูดจากวนประสาทด้วย”“กูเป็นของกูอย่างนี้ ไม่ใช่ปากหวานอย่างไอ้ไอโซนั่น”“ไปพูดเรื่องคนอื่นทำไม เราพูดเรื่องที่นายพาเรามาที่นี่ต่างหาก”“มึงก็ดูเองซิที่นี่ที่ไหน” “จะมาแข่งรถเหรอ”“แข่งม้ามั้ง”“ประสาท”ช่างกันหันหน้ามามองฟีฟ่า ที่เปิดกระจกหมวกกันน็อคเห็นแต่ลูกตา ส่วนฟีฟ่าใจคอไม่ค่อยดีเลย เพราะกลัวช่างกันจะพาไปทำอะไรที่ไม่ดี“ก็มาแข่งรถนั่นแหละ แต่ต้องหาคนซ้อนท้ายด้วย พอดีได้จังหวะมึงซ้อนรถกูมา ก็เลยพามึงมาด้วย”“เร
เมื่อคืนฟีฟ่ากลับมาค่อนข้างดึกพอสมควร เพราะไปนั่งซ้อนท้ายแข่งรถกับช่างกัน วันนี้เขาจึงรีบ พอขับรถไปถึงปากทางฟีฟ่าก็เห็นไนท์ยืนรอรถเมล์อยู่ เขาจึงไขกระจกและเรียกไนท์ “ไนท์ขึ้นรถมากับพี่เร็ว” ไนท์มองซ้ายมองขวาด้วยความเกรงใจ เพราะฟีฟ่าจอดรถเลยป้ายรถเมล์ ไนท์จึงวิ่งไปที่รถของฟีฟ่าและเข้าไปนั่งหน้ารถทันที หลังจากนั้นฟีฟ่าจึงขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว “ทำไมวันนี้ไปเรียนสายล่ะ”ฟีฟ่าพูดขึ้น “เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับครับ” “ตอนเย็นก็ซ้อมว่ายน้ำน่าจะเหนื่อยอยู่นะ แต่ทำไมถึงนอนไม่หลับ” “คิดถึงพี่ฟีฟ่า” “ฮ่ะ คิดถึงพี่ทำไม ก็เห็นหน้ากันทุกวัน เมื่อคืนยังเจออยู่เลยแถมพูดอะไรแปลกๆอีก มาวันนี้ก็พูดแปลกกว่าเดิมเข้าไปใหญ่”ฟีฟ่าหันมามองไนท์แวบหนึ่งแล้วหันกลับไปดูทางตามเดิม “ก็อยากไปเที่ยวไหนกับพี่ฟีฟ่าบ้าง เหมือนอย่างเมื่อคืนที่พี่ฟีฟ่าไปกับช่างกันและพี่นัท”ไนท์ปาดสายตามองฟีฟ่า “อ่อ อยากเป็นเที่ยวนี่เอง คงซ้อมหนักใช่ไหม อยากพักผ่อนหย่อนใจ พ่อพี่คงจะไม่ให้น้องไนท์เที่ยวไหนเป็นแน่เลย” “ครับ”
ไนท์ได้พาฟีฟ่ามาร้านหมูกระทะแถบชานเมือง ฟีฟ่ารู้สึกได้เปิดหูเปิดตาเพราะเขาไม่ได้มานานหลายปี “พี่ฟีฟ่านั่งรอผมอยู่ที่นี่ก็ได้นะ พี่อยากได้อะไรบอกผมได้เลย เดี๋ยวผมไปหยิบมาให้” “ไม่ต้องหรอก พี่อยากไปเดินดูด้วย” “ถ้างั้นเราไปตักอาหารกันก่อน” ฟีฟ่าเดินไปที่แผนกกุ้งเป็นอันดับแรก เพราะเขาชอบกินและแพงด้วย ฟีฟ่าจึงหยิบกุ้งตัวโตๆใส่จานจนพูน สายตาของฟีฟ่ามองกุ้งอีกตัวที่ใหญ่พอสมควร เขารู้สึกเสียดายถ้าไม่ได้เอาไปด้วย ฟีฟ่ากำลังยื่นมือคีบกุ้งตัวนั้น แต่กุ้งตัวนั้นไมเป็นใจเพราะมีที่คีบอีกอัน มาอยู่ส่วนหัวของกุ้ง ฟีฟ่ารีบดึงมาในจานของเขา แต่กลับถูกดึงแย่งไป ฟีฟ่าใจคอหงุดหงิดจึงหันไปมอง “ช่างกัน”ฟีฟ่าพูดเสียงดัง “พูดชื่อค่อยๆหน่อยอายเขา เรียกไอกันดีกว่า ไม่ต้องถึงกับช่างหรอก เพราะเราเริ่มสนิทกันแล้ว” “ไม่ต้องมาเปลื่ยนเรื่อง เอากุ้งตัวนั้นมาให้เราเดี๋ยวนี้” “ไม่ให้ นั่นก็เต็มจานพูน อดยากมาจากไหน” “ช่างกัน ปากไม่ดีเลยนะ”ฟีฟ่าว่างที่คีบไว้ที่เดิม แล้วเดินดุ่มๆไปที่โต๊หมูกระทะใกล้ๆทางออก โดยมีไนท์ก
ค่ำคืนนี้เป็นเป็นวันคล้ายวันเกิด ของเจมี่รุ่นพี่ที่ห้องสมุด ฟีฟ่าเลยต้องมาร่วมอวยพร ซึ่งงานในครั้งนี้มิได้จัดใหญ่โต มีแต่เพีอนรักมิตรสหายที่คบกันมา ในระหว่างที่ฟีฟ่านั่งดื่มน้ำส้มคั้น เพราะฟีฟ่าไม่แตะเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิด “พี่ขอนั่งด้วยคนได้ไหม”ไอโซนัทนั่งลงตรงหน้าฟีฟ่า “อยากนั่งก็นั่งสิ”ฟีฟ่ายกแก้วน้ำส้มขึ้นมาจิบและวางลง “ทำไมฟีฟ่าไม่รับโทรศัพท์พี่ ติดต่อทางไหนฟีฟ่าก็ทำเป็นเฉยเมย” “ฟีฟ่าไม่ว่าง ฟีฟ่าต้องไปกินหมูกระทะ” “ไปกินกับไนท์เหรอ”ไอโซนัทรู้ความจริงจากเจมี่ ที่ฟีฟ่าสื่อผ่านให้มาบอกไอโซนัทแบบอ้อมๆ “ใช่ อร่อยด้วย” “ทำไมไม่บอก ถ้าพี่รู้พี่จะได้พาฟีฟ่าไปกินสเต๊ก” “ไม่กินหรอกสเต็ก ไม่ชอบ ฟีฟ่าชอบกินกุ้ง” “หลังเลิกงานไปกินกุ้งไหม เดี๋ยวพี่จะมาไป” “ไม่หรอก มันดึกแล้วเดี๋ยวหน้าแก่” “พี่มีเพื่อนร้านเสิรมสวยความงาม เดี๋ยวพี่พาไปก็ได้พรุ่งนี้ถ้ากลัวหน้าแก่” “ไม่ชอบปรุงแต่ง ชอบแบบธรรมชาติ” “เอาอย่างนี้ไหมเดี๋ยวพี่พาไปอาบน้ำแร่แช่น้ำ
เช้าวันสุดท้ายที่ฟีฟ่าต้องเลือกแล้วว่าจะไปไหนกับใคร หรือว่าไม่ไปที่ไหนสักแห่งกับหลายคนที่มาเชิญชวน วันนี้จึงเป็นวันที่จิตใจของฟีฟ่าว้าวุ่นและกดดันไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี ฟีฟ่านั่งครุ่นคิดอยู่นานจนถึงเวลาที่เขาต้องตัดสินใจบางอย่าง ฟีฟ่าจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างเร่งรีบเพราะเขาปล่อยเวลาให้เนิ่นนานไปพอสมควร เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยฟีฟ่าจึงออกจากห้องไปยังจุดหมายที่ใจของเขาต้องการ ฟีฟ่าขับรถออกจากบ้านจนมาถึงอู่ซ่อมรถของช่างกัน เมื่อช่างกันเห็นฟีฟ่าเดินลงมาจากรถ เขารีบเดินไปหาฟีฟ่าในทันที “กูดีใจนะที่มึงจะไปเที่ยวกับกู” “คือ เรา เอ่อ” “อะไร หรือว่ามึงจะมาบอกกูว่าไม่ไป”ช่างกันมีสีหน้าที่ตื่นตระหนก “ใช่”ฟีฟ่ามีสีหน้าที่ซึมลง “ทำไม” “เรารักนายแบบเพื่อนคนหนึ่ง” “น้ำเน่ามาก แต่กูก็เข้าใจมึงนะ คนอย่างกูใครจะมาชอบ”ช่างกันยังตะลึงกับคำพูดของฟีฟ่า มันไม่ใช่อย่างนั้นนายเป็นคนดีคนหนึ่งเลย” “ไม่ต้องมาพูดดีหรอก กูรู้ตัวดีแต่กูก็เคารพการตัดสินใจของมึง” “ขอบใจนาย
หลายวันผ่านมาและในค่ำคืนที่เหลือไม่กี่วัน ถึงคราที่ฟีฟ่าตต้องตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะทำเช่นไรกับชีวิต ซึ่งในระหว่างที่ฟีฟ่านั่งนิ่งครุ่นคิดอยู่นั้น ยศและสินีผู้เป็นแม่ได้มานั่งข้างๆทั้งสองฝั่งซ้ายขวา “พ่อกับแม่มีอะไรเหรอครับ”ฟีฟ่าหันมองซ้ายทีขวาที “พ่อต้องถามฟีฟ่ามากกว่ามั้ง ว่าเป็นอะไรมานั่งซึมคนเดียวหลายวันแล้วนี่”ยศมองหน้าลูกชายแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะความสดใจร่าเริงของฟีฟ่าได้หายไป ในช่วงแรกยศคิดว่าฟีฟ่าอาจคิดถึงไนท์ แต่เมื่อได้ยินเรื่องราวต่างๆที่สินีเล่าให้ฟัง ว่ามีหนุ่มสามคนชวนฟีฟ่าไปเที่ยวหนึ่งในนั้นรวมไนท์ด้วย “ไม่มีอะไรหรอกครับพ่อนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย”ฟีฟ่าพยายามฝืนยิ้ม แต่เขาก็ไม่สามารถปิดบังซ้อนเร้นความคับอกคับใจได้ “ไม่ต้องปิดบังพ่อกับแม่หรอก แม่รู้ทุกอย่างในวันนั้นแม่ไม่ได้แอบฟังนะ แต่แม่บังเอิญได้เห็นได้ยิน”สินีขยับมือลูบศีรษะของลูกชาย “พ่อรู้ว่าลูกพ่อชอบแบบไหน พ่อไม่สนหรอก แต่ที่พ่อสนใจ พ่ออยากรู้ว่าลูกจะตัดสินใจอย่างไรมากกว่า ซึ่งพ่อรับได้หมดทุกคนที่ลูกเลือก”ยศยิ้มอย่างผู้ใหญ่ใจดีให้ฟีฟ่าได้เห็นเพื่อจะได้สบาย
ก่อนที่ไนท์จะออกไปเก็บตัวฝึกซ้อม เขาได้เข้ามาหาฟีฟ่าในบ้าน ซึ่งยศผู้เป็นพ่อก็เห็นอยู่แต่เขาแสร้งไม่เห็น เพราะไม่อยากไปขัดขวางจะทำให้ไนท์เกิดความเครียดอาจส่งผลต่อการแข่งขัน เมื่อทั้งคู่ได้อยู่ในห้องโถง มีโซฟาสามตัวต่อติดกันไว้ ไนท์นั่งลงข้างๆฟีฟ่าจนตัวติดกันทีเดียว “นั่งห่างๆก็ได้ เดี๋ยวพ่อพี่มาให้”ฟีฟ่าสอดสายตามองไปรอบๆบ้าน “ถึงเห็นโค้ชก็ไม่ว่าอะไรหรอก ผมว่าโค้ชคงเห็นอะไรบ้างแหละ ตอนที่เราอยู่สองคนตั้งหลายครั้ง”ไนท์อมยิ้ม “พูดไปเรื่อยมาหาพี่มีอะไร” “เดี๋ยวสายๆผมต้องไปเก็บตัวแล้วครับ อาทิตย์หน้าต้องลงแข่งเพื่อคัดตัวไปแข่งซีเกมส์” “เหรอ พี่อวยพรให้โชคดีนะ”ฟีฟ่าเปลื่ยนสีหน้าหันมายิ้มแย้มให้กำลังใจ “ผมชอบรอยยิ้มพี่ฟีฟ่าจังเลย” “อย่ามัวมาชอบรอยยิ้มพี่เลย เอาเวลาไปซ้อมเพื่อชัยชนะเถอะ” “ถ้าเกิดผมพลาดการคัดเลือกพี่ฟีฟ่าจะมีรางวัลอะไรให้ผมไหม” “จะเอาอะไรล่ะ รถเบนซ์เหรอ” “เอาไปทำไมผมอยากได้ใจพี่ฟีฟ่ามากกว่า เมื่อไรพี่จะให้ใจผมซักทีล่ะครับ” “เอาอีกแล้ว เอาคำพูดหวานๆ
ช่วงพักเที่ยงไอโซนัทได้มาหาฟีฟ่าที่ห้องสมุดในมหาวิทยาลัย โดยมีเจมี่เป็นฝ่ายจัดแจงทุกอย่างให้ได้เจอกัน จึงทำให้ฟีฟ่าและไอโซนัทได้ออกไปข้างนอกด้วยกัน โดยไอโซนัทได้พาฟีฟ่าไปร้านอาหารธรรมดาร้านหนึ่ง เพราะเขาไม่อยากที่จะพาฟีฟ่าไปที่ร้านหรูอย่างที่เคยพาไป “ชอบไหมร้านแบบนี้”ไอโซนัทเอ่ยถามขึ้น สาเหตุที่ไอโซนัททำแบบนี้เพื่อที่จะปรับตัวให้เข้ากับฟีฟ่าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในช่วงเวลานี้ เพราะไอโซนัทรู้ตัวว่าคุ่แข่งของเขานั้นมีตั้งสองคน ซึ่งแต่ละคนก็ไม่ธรรมดาเขาจึงไม่อาจไว้วางใจได้ “ชอบครับ ร้านแบบนี้ก็ดีเหมือนกันไม่ต้องมีอะไรมาก แค่สั่งมาแล้วกิน” “พี่ดีใจนะที่น้องฟีฟ่าชอบร้านอาหารที่พี่พามา และพี่จะพามาบ่อยๆ สั่งอาหารเลยซิ เพราะวันนี้เรามีเวลากันน้อย” “ครับ” “ไม่ต้องเกรงใจพี่นะ” ฟีฟ่าและไอโซนัทได้สั่งอาหารอย่างที่ตัวเองชอบไม่กี่อย่าง เพราะด้วยเวลาอันเร่งรับมีแค่หนึ่งชั่วโมงช่วงพักเที่ยง “พักนี้น้องฟีฟ่าไม่ค่อยมีเวลาไปไหนมาไหนกับพี่เลยนะ เห็นเจมี่เล่าว่าไปโน้นไปนี่ตลอดเวลาเลย จนทำให้พี่รู้สึกน้อยใจเป็นบางคร
ฟีฟ่ากับยศนั่งคุยกันในห้องรับแขกตามภาษาพ่อลูก แต่แล้วก็มีชายหนุ่มที่คุ้นเคยเข้ามาหา โดยมีแม่ของฟีฟ่าเป็นคนเปิดประตูให้เข้ามา “สวัสดีครับพ่อ”ช่างกันยกมือไหว้ยศ “ใครพ่อมึง”ยศเริ่มมีสีหน้าที่ไม่พอใจเท่าไร “ก็พ่อไงครับ” “ไอ้นี่เห็นใจดีด้วย พูดอะไรไม่เกรงใจกันเลย” “ทำไมต้องเกรงใจครับ เพราะอีกหน่อยเราก็จะเป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้วนี่ครับ”ช่างกันนั่งข้างๆฟีฟ่า “บอกพ่อหรือยังเรื่องของเรา”ช่างกันพูดเสียงดังข้างๆหูฟีฟ่า “อะไรของนาย”ฟีฟ่าใช้สายตาปรามช่างกันไว้แต่ดูไม่เป็นผลซักเท่าไร “มีอะไรพูดมาตรงๆเรื่องอะไรบอกมา”ยศเอ่ยขึ้น “คือว่า ผมกับฟีฟ่ารักกันครับ” “ไม่จริงนะพ่อ”ฟีฟ่าตกใจกับคำพูดของช่างกัน “ใช่ครับ ฟีฟ่าขอเวลาตัดสินใจสักพัก แต่ผมรอไม่ไหวกลัวโดนแย่ง ทั้งหนุ่มนักว่ายน้ำและไอโซนั่นอีก ผมต้องชิงตัดหน้ามาพูดกับพ่อไว้ก่อน เพราะผมจริงใจมีอะไรก็จะพูดตรงๆครับ”ช่างกันมีน้ำเสียงที่หนักแน่น “เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ฟีฟ่าเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง” “
วันหยุดสุดสัปดาห์เช่นเคยที่ฟีฟ่าต้องเอาอาหารไปให้ไนท์ ในวันนี้เขารู้สึกแปลกๆไม่เหมือนเช่นทุกวัน จิตใจในห้วงลึกหวั่นๆใจชอบกล แต่เขาพยายามสลัดความรู้สึกนั้นทิ้งไป แต่เมื่อเดินไปถึงขอบสระ ฟีฟ่าแอบรู้สึกผิดหวังเล็กๆ ที่ไม่เห็นไนท์อยู่ในสระว่ายน้ำ “พี่ฟีฟ่าเข้ามาในบ้านก่อนก็ได้ครับ ผมยังไม่ว่ายน้ำหรอก” “ไอ้เด็กบ้ารู้ทันอีก”ฟีฟ่าบ่นพึมพำในใจ เมื่อฟีฟ่าเดินเข้ามาในบ้านหลังน้อยๆแต่เนื้อที่บริเวณบ้านกว้างใหญ่ เพียงฟีฟ่าเปิดประตูเข้าไปในบ้านก็พบกับความรกข้าวของวางไม่เป็นที่เป็นทางเต็มไปหมด “ทำไมบ้านรกอย่างนี้ ไม่รู้จักเก็บกวาดให้เรียบร้อย บ้านของพ่อพี่ออกจะสวยงาม แต่น้องไนท์ทำซะเละเลย” “มาถึงก็บ่นๆยังไม่แก่ซักหน่อย ก็ไม่มีเวลาทำนี่ครับไหนจะเรียนหนังแล้วต้องซ้อมกีฬาอีก ถ้าพี่ฟีฟ่าว่างๆมาช่วยผมทำความสะอาดก็ได้ ดีกว่าไปล่องเรือเจ้าพระยา กับไปเป็นสก้อยท้ายรถบิ๊กไบค์”ไนท์เดินเข้ามาหาฟีฟ่าโดยมีผ้าเช็ดตัวผืนเดียว “ฟีฟ่ามันเรื่องของพี่นี่ พี่จะไปไหนกับใครก็ได้” “นั่นแสดงว่าพี่ฟีฟ่าปฏิเสธผมกลายๆใช่ไหม”
ในช่วงเวลาพักเที่ยงไอโซนัทได้ส่งไลน์มาหาฟีฟ่า เพื่อชวนไปเที่ยวยามค่ำคืนใต้แสงเทียน บนเรือหรูในแม่น้ำเจ้าพระยาเพียงสองคน ฟีฟ่านั้นใช้เวลาตัดสินใจไม่นานเขาจึงตอบตกลง เพราะฟีฟ่ายังคิดถึงวันแรกที่ได้เจอไอโซนัทได้ ค่ำคืนนั้นเขามีความสุขและได้เจอสิ่งอันแปลกใหม่สำหรับเขา “ว่าไงน้องฟีฟ่าตกลงจะไปเที่ยวกับไอโซนัทไหม”เจมมี่นั่งลงข้างๆพร้อมจ้องสายตาของฟีฟ่า “ตกลงไปซิ ทำไมพี่เจมี่กับพี่กอล์ฟไม่ไปด้วยล่ะ” “มันหมดเวลาของพี่แล้วนะ พี่แค่เป็นสะพานต่อจากนี้ก็เป็นเรื่องพี่นัทกับน้องฟีฟ่าแล้วแหละ” “พี่เจมี่พูดแปลกๆเมื่อก่อนเชียร์พี่นัทอยู่เลยนี่ครับ” “ใช่ ตอนนี้พี่ยังเชียร์พี่นัทอยู่เลย เพราะพี่นัทเป็นผู้ใหญ่แล้วสามารถดูแลน้องของพี่ได้ ข้อสำคัญพี่นัทตามใจฟีฟ่าทุกอย่าง ตั้แต่เหตุการณ์วันนั้นเขาเลิกคบเพื่อนทั้งแก็งค์หมดเลยนะ เห็นไหมพี่เขาทำเพื่อฟีฟ่าขนาดไหน แต่เหนือสิ่งใด ความรักมันไม่สามารถบังคับจิตใจกันได้ ถึงพี่นัทจะดีทุกอย่างแต่ถ้าไมได้รัก อยู่ด้วยกันไปก็ไม่มีความสุขนะ” “พี่พูดยาวจังเลย” “พี่เห็นฟีฟ่าไปเที่ยวกับน้องนักว
เช้าวันนี้ฟีฟ่าไปทำงานตามปกติ แต่มีเหตุบังเอิญรถของเขาเสียอยู่หน้าอู่ช่างกัน ซึ่งอู่ยังไม่ได้เปิดด้วยซ้ำ ฟีฟ่าจึงตัดสินใจลงจากรถแล้วไปเคาะประตูอู่ซ่อมรถ “ปัง ปัง ปัง” ฟีฟ่าเคาะประตูเสร็จก็ยืนรออยู่หน้าประตู สักพักช่างกันแง้มประตูออกมา พอช่างกันเห็นเป็นฟีฟ่าจึงดึงเข้ามาในอู่ทันที ฟีฟ่าไม่ทันได้ตั้งตัวรู้ตัวอีกทีเขาก็อยู่ข้างในอู่ หลังจากนั้นช่างกันปิดประตูทันที แล้วเขาก็เปิดไฟให้สว่าง พอแสงไฟส่องไปที่เรือนร่างของช่างกัน ฟีฟ่ายืนอึ้งอ้าปากค้าง เพราะช่างกันอยู่ในชุดกางเกงในตัวเดียว ส่วนรูปร่างก็บึกบึนมีกล้ามลีนๆ “นายดึงเราเข้ามาทำไม”ฟีฟ่ามีน้ำเสียงที่มีโมโห “กูไม่ได้จะข่มขืนมึงหรอก กูใส่กางเกงในตัวเดียว มึงจะให้กูออกไปหน้าอู่เหรอ” “ทำไมไม่ใส่กางเกงขาสั้นนอน” “มันเรื่องของกูหรือเปล่าวะ กูจะแก้ผ้านอนมันก็เรื่องของกู” “เอ่อ รถเราเสียน่ะ ซ่อมให้หน่อย แค่นี้แหละ ความจริงนายชะโงกหน้ามาก็ได้ ไม่ต้องถึงกับดึงเราเข้ามาข้างในหรอก” “กูจะดึงมึงเข้ามามึงจะทำไม”ช่างกันเดินเข้ามาใกล้ๆฟีฟ่า ส่วนฟ
ค่ำคืนนี้เป็นเป็นวันคล้ายวันเกิด ของเจมี่รุ่นพี่ที่ห้องสมุด ฟีฟ่าเลยต้องมาร่วมอวยพร ซึ่งงานในครั้งนี้มิได้จัดใหญ่โต มีแต่เพีอนรักมิตรสหายที่คบกันมา ในระหว่างที่ฟีฟ่านั่งดื่มน้ำส้มคั้น เพราะฟีฟ่าไม่แตะเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิด “พี่ขอนั่งด้วยคนได้ไหม”ไอโซนัทนั่งลงตรงหน้าฟีฟ่า “อยากนั่งก็นั่งสิ”ฟีฟ่ายกแก้วน้ำส้มขึ้นมาจิบและวางลง “ทำไมฟีฟ่าไม่รับโทรศัพท์พี่ ติดต่อทางไหนฟีฟ่าก็ทำเป็นเฉยเมย” “ฟีฟ่าไม่ว่าง ฟีฟ่าต้องไปกินหมูกระทะ” “ไปกินกับไนท์เหรอ”ไอโซนัทรู้ความจริงจากเจมี่ ที่ฟีฟ่าสื่อผ่านให้มาบอกไอโซนัทแบบอ้อมๆ “ใช่ อร่อยด้วย” “ทำไมไม่บอก ถ้าพี่รู้พี่จะได้พาฟีฟ่าไปกินสเต๊ก” “ไม่กินหรอกสเต็ก ไม่ชอบ ฟีฟ่าชอบกินกุ้ง” “หลังเลิกงานไปกินกุ้งไหม เดี๋ยวพี่จะมาไป” “ไม่หรอก มันดึกแล้วเดี๋ยวหน้าแก่” “พี่มีเพื่อนร้านเสิรมสวยความงาม เดี๋ยวพี่พาไปก็ได้พรุ่งนี้ถ้ากลัวหน้าแก่” “ไม่ชอบปรุงแต่ง ชอบแบบธรรมชาติ” “เอาอย่างนี้ไหมเดี๋ยวพี่พาไปอาบน้ำแร่แช่น้ำ