ในช่วงเวลาพักเที่ยงไอโซนัทได้ส่งไลน์มาหาฟีฟ่า เพื่อชวนไปเที่ยวยามค่ำคืนใต้แสงเทียน บนเรือหรูในแม่น้ำเจ้าพระยาเพียงสองคน ฟีฟ่านั้นใช้เวลาตัดสินใจไม่นานเขาจึงตอบตกลง เพราะฟีฟ่ายังคิดถึงวันแรกที่ได้เจอไอโซนัทได้ ค่ำคืนนั้นเขามีความสุขและได้เจอสิ่งอันแปลกใหม่สำหรับเขา
“ว่าไงน้องฟีฟ่าตกลงจะไปเที่ยวกับไอโซนัทไหม”เจมมี่นั่งลงข้างๆพร้อมจ้องสายตาของฟีฟ่า
“ตกลงไปซิ ทำไมพี่เจมี่กับพี่กอล์ฟไม่ไปด้วยล่ะ”
“มันหมดเวลาของพี่แล้วนะ พี่แค่เป็นสะพานต่อจากนี้ก็เป็นเรื่องพี่นัทกับน้องฟีฟ่าแล้วแหละ”
“พี่เจมี่พูดแปลกๆเมื่อก่อนเชียร์พี่นัทอยู่เลยนี่ครับ”
“ใช่ ตอนนี้พี่ยังเชียร์พี่นัทอยู่เลย เพราะพี่นัทเป็นผู้ใหญ่แล้วสามารถดูแลน้องของพี่ได้ ข้อสำคัญพี่นัทตามใจฟีฟ่าทุกอย่าง ตั้แต่เหตุการณ์วันนั้นเขาเลิกคบเพื่อนทั้งแก็งค์หมดเลยนะ เห็นไหมพี่เขาทำเพื่อฟีฟ่าขนาดไหน แต่เหนือสิ่งใด ความรักมันไม่สามารถบังคับจิตใจกันได้ ถึงพี่นัทจะดีทุกอย่างแต่ถ้าไมได้รัก อยู่ด้วยกันไปก็ไม่มีความสุขนะ”
“พี่พูดยาวจังเลย”
“พี่เห็นฟีฟ่าไปเที่ยวกับน้องนักว่ายน้ำ แล้วก็ช่างซ่อมรถนั่นน่ะ พี่เห็นฟีฟ่ามีความสุขดีนี่ พี่เลยคิดได้ว่า พี่ไม่ควรไปจัดแจงแนะนำอะไรให้มากกว่านี้ แต่ในคืนวันเกิดพี่ น้องฟีฟ่าก็ยังดูมีความสุขกับพี่นัท พี่ก็เลยอยากให้ฟีฟ่าเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะเลือกใคร”
“พี่เจมี่”
“ถึงเวลาแล้วนะ ฟีฟ่าจะมาคบซ้อนทีเดียวสามคนไมได้หรอก พี่เข้าใจทั้งสามนั้นมาจีบฟีฟ่า แต่ถ้าฟีฟ่ารู้ใจตัวเองแล้วก็ควรเลือกคนที่ใช่ และปฏิเสธคนที่เหลืออยู่ซะ”
“คือ”
“พี่เข้าใจ มันเรื่องยากที่จะตัดสินใจเลือกใครซักคน ฟีฟ่าค่อยๆคิดก็ได้ ไม่ต้องรีบร้อนตัดสินใจ แต่ก็อย่านานเกินไปล่ะเดี๋ยวอดทั้งสามคน”เจมี่หัวเราะ
“พี่เจมีชอบพูดแกล้งฟีฟ่าตลอด”
“น้องฟีฟ่าของพี่น่ารักขนาดนี้นี่ ใครเห็นก็อยากแกล้งทั้งนั้นแหละ”
“เอาล่ะ พี่ไปทำงานก่อนคืนนี้ยังมีเวลาอีกคืนนะ ลองดูว่าเข้าไปกับพี่นัทได้หรือเปล่า”
“ครับพี่เจมี่”
ฟีฟ่านั่งทำงานด้วยใจที่ไม่เป็นสุขนัก เพราะเขาคิดถึงคำพูดต่างๆของเจมี่ เมื่อเขามาคิดใคร่คราญอีกทีมันก็เป็นจริงดั่งคำเตือน เพราะเขาไม่สามารถที่จะปล่อยเวลาให้ทั้งสามหนุ่มอยู่อย่างนี้ได้ ฟีฟ่าจึงต้องตัดสินใจเลือกใครซักคน โดยมีคืนนี้เขาต้องไปออกเดทกับไอโซนัท พอจบก็น่าจะถึงเวลาตัดสินใจว่าจะเลือกใครดี เพราะในใจฟีฟ่าตอนนี้รู้สึกชอบทั้งสามคน
ฟีฟ่าพยายามไม่คิดอะไรต่อจากนี้ เขามุ่งทำงานอย่างเดียวเพื่อที่จะลืมเรื่องราวอันวุ่นวายใจชั่วคราว ก่อนที่คืนนี้จะไปออกเดทกับไอโซนัท ซึ่งฟีฟ่ารู้สึกตื่นเต้นว่าไอโซนัทจะทำอะไรอีกในค่ำคืนนี้
ยามตะวันตกดินท้องฟ้าเริ่มมืด ยามราตรีมาเยือนด้วยแสงไฟอันเจิดจร้าทั่วกรุง ไอโซนัทกับฟีฟ่าไม่พลาดอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์ บนรำเรือสุดหรูโดยมีแสงไฟเสริมส่องทั่วบริเวณ
“คืนนี่น้องฟีฟ่าทานให้เต็มทีเลยนะ พี่ก็เช่นเดียวกันงดควบคุมอาหารซักหนึ่งคืน”
“หลายๆคืนก็ได้มั้ง มันคงไม่ทำให้พี่นัทอ้วนหรอก อีกอย่างพี่นัทเข้าฟิตเนสบ่อยอยู่ด้วยคงอ้วนอยากอยู่นั่นแหละครับ”
“เมื่อก่อนใช่ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้ว เพราะพี่จะเอาเวลาทั้งหมดมาให้น้องฟีฟ่าของพี่”ไอโซนัทยิ้มเป็นประกายแห่งความหวัง
“เวลาเยอะจังเลยพี่นัทน่ะ”
“เยอะเสมอเพื่อน้องฟีฟ่า”
“พอแล้วพี่นัทเดี๋ยวมดขึ้นเต็มลำเรือหรอก”ฟีฟ่าอมยิ้มนิดๆ
“ไม่พูดแล้วก็ได้กินกุ้งกันดีกว่า”
“ตัวใหญ่มากเลย ฟีฟ่าไม่กล้าซื้อกินเพราะแพงมาก”ฟีฟ่าแอบกลืนน้ำลาย
“เดี๋ยวพี่แกะให้นะ”
“ไม่ต้องหรอกครับพี่นัท เลี้ยงยังไม่พอต้องมาแกะกุ้งให้ฟีฟ่ากินอีก ฟีฟ่าเกรงในมากเลย”
“ไม่ได้หรอก น้องฟีฟ่าเป็นที่รักของพี่ไง”
“พีฟ่าบอกตั้งแต่เมื่อไรว่าเป็นที่รักของพี่นัทน่ะ”
“บอกในใจของพี่พี่ทุกค่ำคืนยามเช้าบ่าย”
“เอาเข้าไปไม่พูดด้วยแล้วเสียเวลากินกุ้งของฟีฟาหมด”
“ทานเยอะนะๆ อาหารทะเลก็มี ถ้าอยากได้อะไรเพิ่มสั่งต่อเลย”ไอโซนัทยื่นเมนูอาหารไว้ข้างๆฟีฟ่า
“ฟีฟ่ากระเพาะน้อยไม่สามารถกินได้เยอะขนาดนั้นหรอก”
“ตามใจฟีฟ่าก็แล้วกัน”
“อือ”
“ที่พี่ชวนฟีฟ่ามาเที่ยวในคืนนี้ นอกจากมาเลี้ยงอาหารฟีฟ่าแล้ว พี่ยังมีหลายเรื่องอยากจะบอกกับฟีฟ่าตั้งมากมาย”
“เรื่องอะไรหรือครับ”
“ให้ฟีฟ่าทานให้อิ่มก่อน เดี๋ยวพี่ค่อยบอกก็แล้วนะ”
“ครับ เดี๋ยวฟีฟ่าจะรีบกินให้หมดไวๆ”
“ไม่ต้องรีบขนาดนั้นหรอก เวลาค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล”
“ยาวไกลได้ที่ไหนกันล่ะ ฟีฟ่าต้องรีบกลับบ้าน พี่นัทก็รู้นี่ว่าพ่อของฟีฟ่านั้นดุขนาดไหน”
“ใครว่าพ่อยศดุ พี่ว่าเป็นคนใจดีมากกว่า เพียงแต่ไม่ค่อยพูดอะไรออกมา”
“เจอวันสองวันยังบอกไม่ได้หรอก ต้องอยู่มาตั้งแต่เด็กแบบฟีฟ้าถึงจะรู้”
“ก็อาจจะจริงมั้ง อ้าวฟีฟ่าไม่ทานต่อล่ะ”
“ฟีฟ่าอิ่มแล้วครับ อีกอย่างอยากฟังเรื่องของพี่นัทว่าจะบอกอะไร”
“ดื่มน้ำก่อนเถอะ เดี่ยวพี่ค่อยบอก”
“ดื่มเสร็จแล้วพี่นัทว่ามาเลย”
“คือ พี่ก็รู้จักกันนัทมาหลายเดือนแล้ว สิ่งที่จะบอกพี่เคยบอกน้องฟีฟ่าไปครั้งหนึ่ง แล้วพี่ก็รอคำตอบของน้องฟีฟ่า แต่ก็ไม่ตอบซะที”
“อะไรเหรอ”
“พี่รักฟีฟ่ามากเลยนะ”ไอโซนัทยิ้มให้ฟีฟ่า และกำลังล้วงมือเข้าไปกระเป๋ากางเกงหยิบอะไรบางอย่างออกมา
“พี่นัท ฟีฟ่ายังไม่พร้อม”
ไอโซนัทตัดสินใจไม่ล้วงของในกระเป๋ากางเกงออกมา เขายัดเข้าไปภายในกระเป๋ากางเกงอีกครั้ง ส่วนใบหน้ายังยิ้มเหมือนเดิม
“เรื่องแบบนี้มันต้องอาศัยเวลา พี่อาจใจร้อนไปหน่อย เดี๋ยวพี่ให้เวลาฟีฟ่าตลอดไปเลย พี่จะไม่ถามฟีฟ่าอีกแล้ว ถ้าฟีฟ่าพร้อมเมื่อไรก็เมื่อนั้น”
“พี่นัท ฟีฟ่าก็รู้สึกดีๆกับพี่นัท แต่ฟีฟ่าว่าเราน่าจะดูใจกันไปสักพัก หลังจากนั้นเราค่อยมาพูดเรื่องนี้กันดีกว่า”
“ก็ได้พี่ไม่เร่งรีบหรอก แต่พี่แก่ขึ้นทุกวันนะ ส่วนฟีฟ่าดูเด็กเรื่อยๆ”นัทอมยิ้ม
“ไม่แก่ซักหน่อย พี่นัทดูแลตัวเองดีจะตาย”
“ไม่ต้องมาชมหรอก ฟีฟ่าก็ใช่ช่อยน่าเหมือนเด็กมัธยม”
“พี่นัทพูดเกินจริงไปหน่อย”
“ไม่เกินจริงหรอกนะฟีฟ่าน่ะหน้าเด็กมาก”
“ขอบคุณที่ชม คืนนี้ฟีฟ่ามีความสุขมาก ได้มาปลดปล่อยอารมณ์”ฟีฟ่ามองตรงไปยังสายน้ำที่ไหลผ่านเป็นคลื่น
“บรรยากาศแบบนี้อยากกอดใครซักคน”สายตาของนัทชำเลืองแอบมองฟีฟ่า
“จะกอดใครล่ะ”
“กอดฟีฟ่าได้ไหม”
“ไม่ได้หรอกคนตั้งเยอะ”
“ถ้าไม่เยอะกอดได้ใช่ไหม”
“ไม่ได้หรอก”ฟีฟ่าแสร้งหันหน้าไปทางอื่น
“พี่อยากอยู่กับฟีฟ่าแบบนี้ไปนานๆจังเลย”
“ที่พี่พูดมา ฟีฟ่านึกได้พอดี ใกล้สี่ทุ่มแล้วฟีฟ่าต้องรีบกลับบ้าน”
“รู้แบบนี้ไม่น่าพูดเลย”ไอโซนัทถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความเสียดาย
“วันนี้เราไมได้ออกมาทานกันวันสุดท้ายซักหน่อย ยังมีเวลาอีกเยอะถ้าจะมาเที่ยวทานข้าวกัน”
“ใช่ ยังมีเวลาอีกนาน ถ้างั้นเรากลับกันเลยก็ได้”
“ครับพี่นัท”
ด้วยเวลามีจำกัดไอโซนัทจึงจำใจพาฟีฟ่ามาส่งที่บ้าน ซึ่งเขาพยายามขับรถช้าๆเพราะอยากอยู่ใกล้ชิดฟีฟ่าให้มากยิ่งขึ้นไป แต่ถึงอย่างไรระยะทางไกลใกล้แค่ไหน ก็ยังต้องมาถึงบ้านฟีฟ่าอยู่ดี
“อย่าพึ่งลงคุยกับพี่ก่อนได้ไหม”ไอโซนัทจับมือของฟีฟ่าไว้
“พี่นัทก็ วันหลังเราค่อยคุยก็ได้ ยังมีเวลาเที่ยวกันอีก คืนนี้ดึกมากแล้วด้วย”
“ก็ได้”ไอโซนัทดึงมือของฟีฟ่ามาใกล้ๆ พร้อมก้มศีรษะลงใช้ริมฝีปากจุมพิตหลังมือเบาๆ
“พี่นัท”ฟีฟ่าดึงมือกลับด้วยความเขินอาย
“จูบมัดจำไว้ก่อนนะ”
“ไม่ต้องพูดแล้ว ฟีฟ่าเข้าบ้านแล้วนะ”
ฟี่ฟ่ารีบเปิดประตูรถ ก่อนรถจากลงเขาหันมามองไอโซนัทแว่บนึง พร้อมกับยิ้มอย่างสดใจ แต่ไม่ได้พูดอะไรทั้งสิ้น หลังจากนั้นเขาจึงลงรถไปอย่างรวดเร็ว ส่วนไอโซนัทนั่งยิ้มตรงหน้าพวงมาลัยรถ เพราะวันนี้เขามีความสุขมากอย่างสุดใจ ถึงแม้จะยังไม่สามรถให้ฟีฟ่าตอบรักได้ ถึงกระนั้นไอโซนัทก็ไม่สน พร้อมเดินหน้าจีบฟีฟ่าต่อไป
วันหยุดสุดสัปดาห์เช่นเคยที่ฟีฟ่าต้องเอาอาหารไปให้ไนท์ ในวันนี้เขารู้สึกแปลกๆไม่เหมือนเช่นทุกวัน จิตใจในห้วงลึกหวั่นๆใจชอบกล แต่เขาพยายามสลัดความรู้สึกนั้นทิ้งไป แต่เมื่อเดินไปถึงขอบสระ ฟีฟ่าแอบรู้สึกผิดหวังเล็กๆ ที่ไม่เห็นไนท์อยู่ในสระว่ายน้ำ “พี่ฟีฟ่าเข้ามาในบ้านก่อนก็ได้ครับ ผมยังไม่ว่ายน้ำหรอก” “ไอ้เด็กบ้ารู้ทันอีก”ฟีฟ่าบ่นพึมพำในใจ เมื่อฟีฟ่าเดินเข้ามาในบ้านหลังน้อยๆแต่เนื้อที่บริเวณบ้านกว้างใหญ่ เพียงฟีฟ่าเปิดประตูเข้าไปในบ้านก็พบกับความรกข้าวของวางไม่เป็นที่เป็นทางเต็มไปหมด “ทำไมบ้านรกอย่างนี้ ไม่รู้จักเก็บกวาดให้เรียบร้อย บ้านของพ่อพี่ออกจะสวยงาม แต่น้องไนท์ทำซะเละเลย” “มาถึงก็บ่นๆยังไม่แก่ซักหน่อย ก็ไม่มีเวลาทำนี่ครับไหนจะเรียนหนังแล้วต้องซ้อมกีฬาอีก ถ้าพี่ฟีฟ่าว่างๆมาช่วยผมทำความสะอาดก็ได้ ดีกว่าไปล่องเรือเจ้าพระยา กับไปเป็นสก้อยท้ายรถบิ๊กไบค์”ไนท์เดินเข้ามาหาฟีฟ่าโดยมีผ้าเช็ดตัวผืนเดียว “ฟีฟ่ามันเรื่องของพี่นี่ พี่จะไปไหนกับใครก็ได้” “นั่นแสดงว่าพี่ฟีฟ่าปฏิเสธผมกลายๆใช่ไหม”
ฟีฟ่ากับยศนั่งคุยกันในห้องรับแขกตามภาษาพ่อลูก แต่แล้วก็มีชายหนุ่มที่คุ้นเคยเข้ามาหา โดยมีแม่ของฟีฟ่าเป็นคนเปิดประตูให้เข้ามา “สวัสดีครับพ่อ”ช่างกันยกมือไหว้ยศ “ใครพ่อมึง”ยศเริ่มมีสีหน้าที่ไม่พอใจเท่าไร “ก็พ่อไงครับ” “ไอ้นี่เห็นใจดีด้วย พูดอะไรไม่เกรงใจกันเลย” “ทำไมต้องเกรงใจครับ เพราะอีกหน่อยเราก็จะเป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้วนี่ครับ”ช่างกันนั่งข้างๆฟีฟ่า “บอกพ่อหรือยังเรื่องของเรา”ช่างกันพูดเสียงดังข้างๆหูฟีฟ่า “อะไรของนาย”ฟีฟ่าใช้สายตาปรามช่างกันไว้แต่ดูไม่เป็นผลซักเท่าไร “มีอะไรพูดมาตรงๆเรื่องอะไรบอกมา”ยศเอ่ยขึ้น “คือว่า ผมกับฟีฟ่ารักกันครับ” “ไม่จริงนะพ่อ”ฟีฟ่าตกใจกับคำพูดของช่างกัน “ใช่ครับ ฟีฟ่าขอเวลาตัดสินใจสักพัก แต่ผมรอไม่ไหวกลัวโดนแย่ง ทั้งหนุ่มนักว่ายน้ำและไอโซนั่นอีก ผมต้องชิงตัดหน้ามาพูดกับพ่อไว้ก่อน เพราะผมจริงใจมีอะไรก็จะพูดตรงๆครับ”ช่างกันมีน้ำเสียงที่หนักแน่น “เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ฟีฟ่าเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง” “
ช่วงพักเที่ยงไอโซนัทได้มาหาฟีฟ่าที่ห้องสมุดในมหาวิทยาลัย โดยมีเจมี่เป็นฝ่ายจัดแจงทุกอย่างให้ได้เจอกัน จึงทำให้ฟีฟ่าและไอโซนัทได้ออกไปข้างนอกด้วยกัน โดยไอโซนัทได้พาฟีฟ่าไปร้านอาหารธรรมดาร้านหนึ่ง เพราะเขาไม่อยากที่จะพาฟีฟ่าไปที่ร้านหรูอย่างที่เคยพาไป “ชอบไหมร้านแบบนี้”ไอโซนัทเอ่ยถามขึ้น สาเหตุที่ไอโซนัททำแบบนี้เพื่อที่จะปรับตัวให้เข้ากับฟีฟ่าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในช่วงเวลานี้ เพราะไอโซนัทรู้ตัวว่าคุ่แข่งของเขานั้นมีตั้งสองคน ซึ่งแต่ละคนก็ไม่ธรรมดาเขาจึงไม่อาจไว้วางใจได้ “ชอบครับ ร้านแบบนี้ก็ดีเหมือนกันไม่ต้องมีอะไรมาก แค่สั่งมาแล้วกิน” “พี่ดีใจนะที่น้องฟีฟ่าชอบร้านอาหารที่พี่พามา และพี่จะพามาบ่อยๆ สั่งอาหารเลยซิ เพราะวันนี้เรามีเวลากันน้อย” “ครับ” “ไม่ต้องเกรงใจพี่นะ” ฟีฟ่าและไอโซนัทได้สั่งอาหารอย่างที่ตัวเองชอบไม่กี่อย่าง เพราะด้วยเวลาอันเร่งรับมีแค่หนึ่งชั่วโมงช่วงพักเที่ยง “พักนี้น้องฟีฟ่าไม่ค่อยมีเวลาไปไหนมาไหนกับพี่เลยนะ เห็นเจมี่เล่าว่าไปโน้นไปนี่ตลอดเวลาเลย จนทำให้พี่รู้สึกน้อยใจเป็นบางคร
ก่อนที่ไนท์จะออกไปเก็บตัวฝึกซ้อม เขาได้เข้ามาหาฟีฟ่าในบ้าน ซึ่งยศผู้เป็นพ่อก็เห็นอยู่แต่เขาแสร้งไม่เห็น เพราะไม่อยากไปขัดขวางจะทำให้ไนท์เกิดความเครียดอาจส่งผลต่อการแข่งขัน เมื่อทั้งคู่ได้อยู่ในห้องโถง มีโซฟาสามตัวต่อติดกันไว้ ไนท์นั่งลงข้างๆฟีฟ่าจนตัวติดกันทีเดียว “นั่งห่างๆก็ได้ เดี๋ยวพ่อพี่มาให้”ฟีฟ่าสอดสายตามองไปรอบๆบ้าน “ถึงเห็นโค้ชก็ไม่ว่าอะไรหรอก ผมว่าโค้ชคงเห็นอะไรบ้างแหละ ตอนที่เราอยู่สองคนตั้งหลายครั้ง”ไนท์อมยิ้ม “พูดไปเรื่อยมาหาพี่มีอะไร” “เดี๋ยวสายๆผมต้องไปเก็บตัวแล้วครับ อาทิตย์หน้าต้องลงแข่งเพื่อคัดตัวไปแข่งซีเกมส์” “เหรอ พี่อวยพรให้โชคดีนะ”ฟีฟ่าเปลื่ยนสีหน้าหันมายิ้มแย้มให้กำลังใจ “ผมชอบรอยยิ้มพี่ฟีฟ่าจังเลย” “อย่ามัวมาชอบรอยยิ้มพี่เลย เอาเวลาไปซ้อมเพื่อชัยชนะเถอะ” “ถ้าเกิดผมพลาดการคัดเลือกพี่ฟีฟ่าจะมีรางวัลอะไรให้ผมไหม” “จะเอาอะไรล่ะ รถเบนซ์เหรอ” “เอาไปทำไมผมอยากได้ใจพี่ฟีฟ่ามากกว่า เมื่อไรพี่จะให้ใจผมซักทีล่ะครับ” “เอาอีกแล้ว เอาคำพูดหวานๆ
หลายวันผ่านมาและในค่ำคืนที่เหลือไม่กี่วัน ถึงคราที่ฟีฟ่าตต้องตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะทำเช่นไรกับชีวิต ซึ่งในระหว่างที่ฟีฟ่านั่งนิ่งครุ่นคิดอยู่นั้น ยศและสินีผู้เป็นแม่ได้มานั่งข้างๆทั้งสองฝั่งซ้ายขวา “พ่อกับแม่มีอะไรเหรอครับ”ฟีฟ่าหันมองซ้ายทีขวาที “พ่อต้องถามฟีฟ่ามากกว่ามั้ง ว่าเป็นอะไรมานั่งซึมคนเดียวหลายวันแล้วนี่”ยศมองหน้าลูกชายแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะความสดใจร่าเริงของฟีฟ่าได้หายไป ในช่วงแรกยศคิดว่าฟีฟ่าอาจคิดถึงไนท์ แต่เมื่อได้ยินเรื่องราวต่างๆที่สินีเล่าให้ฟัง ว่ามีหนุ่มสามคนชวนฟีฟ่าไปเที่ยวหนึ่งในนั้นรวมไนท์ด้วย “ไม่มีอะไรหรอกครับพ่อนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย”ฟีฟ่าพยายามฝืนยิ้ม แต่เขาก็ไม่สามารถปิดบังซ้อนเร้นความคับอกคับใจได้ “ไม่ต้องปิดบังพ่อกับแม่หรอก แม่รู้ทุกอย่างในวันนั้นแม่ไม่ได้แอบฟังนะ แต่แม่บังเอิญได้เห็นได้ยิน”สินีขยับมือลูบศีรษะของลูกชาย “พ่อรู้ว่าลูกพ่อชอบแบบไหน พ่อไม่สนหรอก แต่ที่พ่อสนใจ พ่ออยากรู้ว่าลูกจะตัดสินใจอย่างไรมากกว่า ซึ่งพ่อรับได้หมดทุกคนที่ลูกเลือก”ยศยิ้มอย่างผู้ใหญ่ใจดีให้ฟีฟ่าได้เห็นเพื่อจะได้สบาย
เช้าวันสุดท้ายที่ฟีฟ่าต้องเลือกแล้วว่าจะไปไหนกับใคร หรือว่าไม่ไปที่ไหนสักแห่งกับหลายคนที่มาเชิญชวน วันนี้จึงเป็นวันที่จิตใจของฟีฟ่าว้าวุ่นและกดดันไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี ฟีฟ่านั่งครุ่นคิดอยู่นานจนถึงเวลาที่เขาต้องตัดสินใจบางอย่าง ฟีฟ่าจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างเร่งรีบเพราะเขาปล่อยเวลาให้เนิ่นนานไปพอสมควร เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยฟีฟ่าจึงออกจากห้องไปยังจุดหมายที่ใจของเขาต้องการ ฟีฟ่าขับรถออกจากบ้านจนมาถึงอู่ซ่อมรถของช่างกัน เมื่อช่างกันเห็นฟีฟ่าเดินลงมาจากรถ เขารีบเดินไปหาฟีฟ่าในทันที “กูดีใจนะที่มึงจะไปเที่ยวกับกู” “คือ เรา เอ่อ” “อะไร หรือว่ามึงจะมาบอกกูว่าไม่ไป”ช่างกันมีสีหน้าที่ตื่นตระหนก “ใช่”ฟีฟ่ามีสีหน้าที่ซึมลง “ทำไม” “เรารักนายแบบเพื่อนคนหนึ่ง” “น้ำเน่ามาก แต่กูก็เข้าใจมึงนะ คนอย่างกูใครจะมาชอบ”ช่างกันยังตะลึงกับคำพูดของฟีฟ่า มันไม่ใช่อย่างนั้นนายเป็นคนดีคนหนึ่งเลย” “ไม่ต้องมาพูดดีหรอก กูรู้ตัวดีแต่กูก็เคารพการตัดสินใจของมึง” “ขอบใจนาย
หลังเลิกงานฟีฟ่าหนุ่มบรรณารักษ์เดินดุ่มๆออกจากมหาวิทยาลัย เนื่องด้วยวันนี้รถของเขาเสียจึงอยู่ที่ร้านซ่อม ฟีฟ่าจึงต้องขึ้นแท็กซี่กลับบ้าน ฟีฟ่าคิดไว้ว่าจะรอรถที่หน้ามหาวิทยาลัย แต่ยังเดินไปไม่ถึงก็มีรถจอดข้างๆ “ขึ้นรถมาเร็ว”เจมี่รุ่นพี่บรรณารักษ์เรียกฟีฟ่าขึ้นรถ “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจะขึ้นแท็กซี่กลับก็ได้ครับ” “ไม่ได้วันนี้พี่มีธุระจะคุยด้วย” “เอ่อ ก็ได้ครับ” ฟีฟ่ารีบขึ้นรถนั่งข้างหน้าคู่กับเจมี่รุ่นพี่ เมื่อฟีฟ่าขึ้นมาในรถแล้ว เจมี่ก็รีบขับรถออกไปทันที “พี่เจมี่มีอะไรจะคุยกับฟีฟ่าเหรอครับ” “ฟีฟ่านี่หน้าตาน่ารักดีนะอายุก็เกือบสามสิบแล้วหน้ายังเด็กอยู่ด้วย ดูอย่างพี่ซิอายุสามสิบหน้าปาเข้าไปสี่สิบแล้ว”เจมีหนุ่มบรรณารักษ์รุ่นพี่ยิ้มอย่างสดใส พรางหัวเราะไปด้วยความขบขันตัวเอง “พี่อย่าพูดอย่างนี้สิ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ” “พี่รู้ตัว พี่ยอมรับความจริงได้ไม่ต้องปลอบใจพี่หรอก” “ไม่ได้ปลอบใจหรอกครับ แต่ถึงอย่างไงพี่กอล์ฟก็รักพี่ที่สุดอยู่แล้ว” “แหม มันแน่อยู่แล้ว ที่พี่ชวนข
นัทไอโซหนุ่มมองฟีฟ่าไม่วางสายตา เพราะความน่ารักของฟีฟ่าที่มีมาก หน้าตาจิ้มลิ้มตาใสเป็นประกาย ปากนิดจมูกหน่อย ผิวขาวใสผ่องเนียน รูปร่างไม่สูงมากแต่ก็ไม่ผอมบาง “คุณนัทมองอะไร”ฟีฟ่ารู้สึกเขินอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ไม่ต้องเรียกคุณหรอกเรียกพี่นัทก็ได้” “ครับพี่นัท”ฟีฟ่ายิ้มเขินๆ “พี่กำลังอยากได้คนรีวิวบ้านอยู่พอดีเลย พี่อยากชวนน้องฟีฟ่าไปเป็นคนรีวิวบ้านพี่ได้ไหม” “ฟีฟ่าไม่เคยทำครับ กลัวทำได้ไม่ดี อีกอย่างฟีฟ่าพูดไม่เก่ง ทำไมไม่จ้างพวกยูทูปเปอร์ล่ะครับ” “พี่อยากได้ความแปลกใหม่ ได้คนใหม่ๆบ้างไม่อยากได้คนที่หน้าซ้ำน่ะ” “แต่ฟีฟ่าไมได้ดังเป็นคนธรรมดานะครับ ใครที่ไหนจะมาสนใจล่ะ” “เมื่อก่อนดาราก็เป็นคนธรรมดา ทำไมภายหลังเขามาดังได้ล่ะ ฟีฟ่าก็เหมือนกันทำไมจะเป็นไม่ได้ ยิ่งหน้าตาของฟีฟ่านี่อยู่ในกระแสช่วงนี้ด้วย” “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ” “ถึงซิ ถ้าไม่ถึงพี่จะมองฟีฟ่าอยู่อย่างนี้เหรอ” “นั่นมันสายตาพีนัทคนเดียว แต่สายตาคนซื้อบ้าน เขาจะมองแบบพี่นัทหรือเปล่า