ก่อนที่ไนท์จะออกไปเก็บตัวฝึกซ้อม เขาได้เข้ามาหาฟีฟ่าในบ้าน ซึ่งยศผู้เป็นพ่อก็เห็นอยู่แต่เขาแสร้งไม่เห็น เพราะไม่อยากไปขัดขวางจะทำให้ไนท์เกิดความเครียดอาจส่งผลต่อการแข่งขัน เมื่อทั้งคู่ได้อยู่ในห้องโถง มีโซฟาสามตัวต่อติดกันไว้ ไนท์นั่งลงข้างๆฟีฟ่าจนตัวติดกันทีเดียว
“นั่งห่างๆก็ได้ เดี๋ยวพ่อพี่มาให้”ฟีฟ่าสอดสายตามองไปรอบๆบ้าน
“ถึงเห็นโค้ชก็ไม่ว่าอะไรหรอก ผมว่าโค้ชคงเห็นอะไรบ้างแหละ ตอนที่เราอยู่สองคนตั้งหลายครั้ง”ไนท์อมยิ้ม
“พูดไปเรื่อยมาหาพี่มีอะไร”
“เดี๋ยวสายๆผมต้องไปเก็บตัวแล้วครับ อาทิตย์หน้าต้องลงแข่งเพื่อคัดตัวไปแข่งซีเกมส์”
“เหรอ พี่อวยพรให้โชคดีนะ”ฟีฟ่าเปลื่ยนสีหน้าหันมายิ้มแย้มให้กำลังใจ
“ผมชอบรอยยิ้มพี่ฟีฟ่าจังเลย”
“อย่ามัวมาชอบรอยยิ้มพี่เลย เอาเวลาไปซ้อมเพื่อชัยชนะเถอะ”
“ถ้าเกิดผมพลาดการคัดเลือกพี่ฟีฟ่าจะมีรางวัลอะไรให้ผมไหม”
“จะเอาอะไรล่ะ รถเบนซ์เหรอ”
“เอาไปทำไมผมอยากได้ใจพี่ฟีฟ่ามากกว่า เมื่อไรพี่จะให้ใจผมซักทีล่ะครับ”
“เอาอีกแล้ว เอาคำพูดหวานๆไปฝึกซ้อมดีกว่า”
“ซ้อมก็ส่วนซ้อมสิ ช่วงเวลานี้ไม่ใช่นี่ครับ”
“ก็ได้ ถ้าชนะพี่จะพาไปเที่ยวก็แล้วกัน”
“ก็ได้ แต่ต้องเป็นสถานที่ผมอยากไปนะ”
“ได้คืบจะเอาศอก แต่ก็ไม่มีปัญหา”
ไนท์เอื่อมมือมาจับมืออันเรียวของฟีฟ่า ซึ่งในช่วงเวลานั้นฟีฟ่ารู้สึกตกใจพยายามดึงมือออก แต่ฟีฟ่าจับไว้แน่นจนฟีฟ่าปล่อยตามเลย
“วันแข่งพี่ฟีฟ่าไปเชียร์ผมได้ไหม”
“คราวนี้จะเอาเป็นวาเลยเหรอ”
“ได้ไหมวันเสาร์นี้ไปเชียร์ผมนะครับ”ไนท์พูดเสียงอ่อยพร้อมสายตาอันหวานฉ่ำ
“คือพี่ไม่รู้จะว่างหรือเปล่า”
“ถ้าว่างพี่ฟีฟ่าต้องไปนะครับ เพราะถ้าเกิดผมชนะขึ้นมาก็ไม่สามารถไปเที่ยวกับพี่ได้ อย่างน้อยได้เห็นหน้าพี่ตอนไปแข่งผมก็ดีใจอย่างมากแล้วครับ”
“พี่ยังรับปากไม่ได้หรอก ถ้าพี่ว่างจะไปก็แล้วกัน”
ด้วยความคิดของฟีฟ่าในตอนนี้เขายังไม่สามารถติดสินใจอะไรได้ เพราะยังไม่แน่ใจหลายเรื่องในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังต้องคิดไตร่ตรอง
“ผมไม่รู้แล้วแหละ ผมถือว่าพี่ฟีฟ่ารับปากผมก็แล้วกัน”
“อะไร พี่ยังไม่ได้รับปากว่าจะทำอย่างนั้นเลย”
“ผมไม่สนหรอกครับ ผมถือว่าพี่รับปากแล้ว”
ไนท์พูดจบมองซ้ายมองขวาและมองไปอีกครั้งรอบๆบ้าน หลังจากนั้นเขายื่นหน้าหอมแก้มฟีฟ่าทันที ในส่วนของฟีฟ่ายังไม่ทันหายตกใจเลยทีเดียว ไนท์รีบลุกขึ้นแล้วโบกมือให้ฟีฟ่า
“ผมไปแล้วนะ เดี๋ยวผมจะรอพี่ฟีฟ่าที่สระว่ายน้ำในสโมสรนะครับ”
ฟีฟ่าลูบแก้มตัวเองและมองไปรอบๆบริเวณในบ้าน เพราะเขากลัวพ่อและแม่แอบเห็นในสิ่งที่ไนท์ทำไว้ ฟีฟ่านั่งครุ่นคิดและสับสนในตัวเองอย่างมาก เขานั่งนิ่งๆคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่ก็ใช้เวลาคิดนั้นไม่ได้นาน เพราะช่างกันเดินเข้ามาในบ้านของเขา และนั่งลงตรงข้ามฟีฟ่า
“กูมีเรื่องจะบอกมึง”ช่างกันทำหน้านิ่งๆเข้มๆ
“เรื่องอะไร”ฟีฟ่ามีสีหน้าสงสัยพอสมควร
“วันเสาร์กูจะไปตั้งแคมป์คนเดียว อยากชวนมึงไปด้วย”
“เหรอ”ฟีฟ่ายังอึ้งพูดไม่ออกบอกไม่ถูกกับไนท์ แล้วต้องตะลึงซ้อนสองครั้งติดกัน
“อือ ไปไหม กูเห็นมึงไม่ค่อยได้ไปไหนอยู่แต่บ้าน กูเลยมาชวนมึงไปด้วย”
“ไปอย่างไง”
“ก็บิ๊กไบค์ไง มึงไปกับกูไม่ต้องกลัวลำบากหรอก กูจะไปในที่คนเยอะๆมีสิ่งอำนวยความสะดวก”
“ที่ไหนล่ะ”
“ภูทับเบิก”
ฟีฟ่านั่งคิดอีกครั้ง เพราะตั้งแต่เขาเรียนจบก็ไม่เคยได้ไปไหนเลย อย่าว่าแต่ตอนเรียนจบเลย แม้แต่สมัยเรียนฟีฟ่าแท่บจะไม่ได้ไปไหน อยู่แต่บ้านกับโรงรียนและมหาวิทยาลัยแค่นั้น
“สนใจใช่ไหม เราไปกางเต็นท์นอนด้วยกัน ทำกับข้าวกินแล้วก็นั่งชมวิวถ่ายรูปสวยๆ มึงว่าดีไหมอยากไปแล้วซิ ตอนไปก็ขับบิ๊กไบค์ไปค่ำไหนนอนนั่น ไม่ใช่กลางป่านะ แต่นอนในโรงแรมไปแบบชิลๆ”
“อือ”ฟีฟ่าคิดว่าน่าสนใจอยู่ไม่ใช่น้อย เพราะครั้งหนึ่งเขาเคยหนีความวุ่นวายจากบ้านไอโซนัท แล้วไปนั่งท้ายรถบิ๊กไบท์ของช่างกัน เพื่อเข้าแข่งขันในสนามแข่งรถ
“ว่าไงจะไปไหม”ช่างกันมีสีหน้าที่ลุ้นพอสมควร
“คือว่า”
ฟีฟ่าอยากไปเหมือนกัน แต่เขายังติดสินใจไม่ได้ เพราะเมื่อครู่ไนท์ได้มาชวนไปดูเขาแข่งว่ายน้ำ ถึงแม้จะยังไม่ได้ตอบรับ แต่ฟีฟ่าก็สองจิตสองใจไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ใจหนึ่งก็อยากไปเชียร์ไนท์ อีกใจหนี่งเขายังอยากไปเที่ยวกับช่างกัน เพราะเป็นอะไรที่แปลกใหม่และน่าลอง
“ว่าไง”
“เรายังให้คำตอบไม่ได้หรอกว่าจะไปหรือไม่ไป”
“ไม่เป็นไรยังเหลือเวลาอีกหลายวัน”
“คือ”ฟีฟ่าอ่ำอึ้งพูดไม่ออก
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ กูจะรอมึงที่อู่รถ และกูหวังว่ามึงจะไปกับกูนะ”
ช่างกันจับมืออันแสนนุ่มของฟีฟ่ามากุมไว้ ในส่วนของฟีฟ่าใจคอไม่ค่อยดีเท่าไร เพราะกลัวพ่อกับแม่มาเห็น ฟีฟ่าจึงหันมองซ้ายมองขวาและพยายามดึงมือออก แต่ไม่ทันเพราะช่างกันไวมากยกมือของฟีฟ่ามาดมทันที
“ทำอะไรน่ะน่าเกลียด”ฟีฟ่ารีบดึงมือออกทันที
“ถือว่าเป็นจูบมัดจำ วันเสาร์กูจะรอมึงที่อู่ซ่อมรถนะ”
ช่างกันไม่รอคำตอบรับหรือปฏิเสธของฟีฟ่าแต่อย่างใด ทันทีเมื่อพูดจบเขารีบลุกขึ้นแล้วรีบหันหลังเดินออกจากบ้านของฟีฟ่าอย่างรวดเร็ว
ฟีฟ่าเริ่มปวดหัวหนักขึ้นมาอีก แค่ไนท์มาชวนเขาก็เครียดพอสมควร ยิ่งโดนช่างกันมาชวนย้ำอีกครั้ง ตอนนี้ใจของเขาว้าวุ่นอย่างหนัก แต่แล้วยังไม่จบแค่นั้นเพราะไอโซนัทได้เดินเข้ามา และร้องเรียกฟีฟ่าที่กำลังนั่งนิ่งๆคิดว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี
“น้องฟีฟ่า”เสียงไอโซนัทดังขึ้น
“อ่ะ”ฟีฟ่าเงยหน้ามองไอโซนัท
ไอโซนัทนั่งลงข้างๆฟีฟ่าแล้วจ้องมองใบหน้าของฟีฟ่าอย่างไม่กระพริบตา เพราะการมาวันนี้เขาอยากได้คำตอบที่เคยเกริ่นไว้เมื่ออาทิตย์ก่อนโน้น
“พี่มาย้ำอีกครั้งว่าจะไปเที่ยวต่างประเทศกับพี่ไหม”ไอโซนัทได้จองตั๋วไว้สองใบ พร้อมกับเตรียมทุกอย่างไว้ไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย
“ไปที่ไหนเหรอครับ”
“มัลดีฟส์”
เพียงฟีฟ่าได้ยินชื่อแค่นั้น หัวใจของเขาเต้นแรง เพราะเป็นความฝันของฟีฟ่าเลยก็ว่าได้ เขาจึงหันมาจ้องหน้าไอโซนัท
“พี่บอกตามตรงก็ได้ พี่ถามเจมี่ว่าฟีฟ่าอยากไปเที่ยวที่ไหน”
“ครับ”
ถึงแม้ไอโซนัทจะไม่บอก ฟีฟ่าก็พอคาดเดาได้ว่าคงรู้มาจากเจมี่อย่างแน่นอน แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ต้องคิดมาก
“พี่รู้นะว่าฟีฟ่าอยากไปมาก เป็นความใฝ่ฝันของน้องฟีฟ่า พี่เลยอยากทำให้ความฝันของฟีฟ่าได้เป็นจริง”
“คือพี่”ฟีฟ่ารู้สึกเกรงใจไอโซนัทพอสมควร เพราะค่าใช้จ่ายสูงอย่างแน่นอนในการไปครั้งนี้
“เรื่องค่าใช้จ่ายน้องฟีฟ่าไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก พี่ทำได้เพื่อคนที่พี่รักและฟีฟ่าก็คือคนนั้น”ไอโซนัทยิ้มอย่างจริงใจกับฟีฟ่า
“พี่นัทคือ”
ฟีฟ่าหนักอกคิดไม่ตกว่าจะจัดการอย่างไรดีกับชีวิต เพราะเป็นครั้งที่สามในวันนี้กับโดนชายหนุ่มชวนไปเที่ยว และเป็นสถานที่เขาอยากไปทั้งนั้น
“พี่ก็ไม่อยากบังคับน้องฟีฟ่า เอาแบบนี้ก็แล้วกัน พี่จะรอน้องฟีฟ่าที่สนามบิน เตรียมเอกสารให้พร้อม พี่จะรอน้องฟีฟ่าอยู่ที่นั่น”ไอโซนัทก้มหน้าต่ำลงนิดหน่อย
“คือ”
“ยังไม่ต้องบอกพี่ตอนนี้ก็ได้ เอาเป็นว่าพี่จะรอน้องฟีฟ่าไปหาพี่ก็แล้วกัน”
ฟีฟ่านั่งนิ่งคิดอย่างหนักและอัดอั้นจึงพูดไม่ออก แต่ไอโซนัทก็ไม่คาดคั้นเอาคำตอบแต่เขาก็แอบหวังว่าฟีฟ่าคงไม่ปฏิเสธ
“ถ้างั้นพี่กลับก่อนนะ พี่มีธุระหลายอย่างต้องเคลียร์ก่อนพี่จะไปมัลดีสฟ์กับน้องฟีฟ่า”
ไอโซนัทนัทลุกขึ้นยืนและรีบจุมพิตบริเวณหน้าผากของฟีฟ่าอย่างอ่อนโยน หลังจากนั้นเขายิ้มให้ฟีฟ่า แต่ไอโซนัทก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ได้แต่ยิ้มและเดินจากไปด้วยใจที่มีความหวังอย่างมากว่าฟีฟ่าคงไม่ปฏิเสธเขาอย่างแน่นอน
หลายวันผ่านมาและในค่ำคืนที่เหลือไม่กี่วัน ถึงคราที่ฟีฟ่าตต้องตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะทำเช่นไรกับชีวิต ซึ่งในระหว่างที่ฟีฟ่านั่งนิ่งครุ่นคิดอยู่นั้น ยศและสินีผู้เป็นแม่ได้มานั่งข้างๆทั้งสองฝั่งซ้ายขวา “พ่อกับแม่มีอะไรเหรอครับ”ฟีฟ่าหันมองซ้ายทีขวาที “พ่อต้องถามฟีฟ่ามากกว่ามั้ง ว่าเป็นอะไรมานั่งซึมคนเดียวหลายวันแล้วนี่”ยศมองหน้าลูกชายแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะความสดใจร่าเริงของฟีฟ่าได้หายไป ในช่วงแรกยศคิดว่าฟีฟ่าอาจคิดถึงไนท์ แต่เมื่อได้ยินเรื่องราวต่างๆที่สินีเล่าให้ฟัง ว่ามีหนุ่มสามคนชวนฟีฟ่าไปเที่ยวหนึ่งในนั้นรวมไนท์ด้วย “ไม่มีอะไรหรอกครับพ่อนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย”ฟีฟ่าพยายามฝืนยิ้ม แต่เขาก็ไม่สามารถปิดบังซ้อนเร้นความคับอกคับใจได้ “ไม่ต้องปิดบังพ่อกับแม่หรอก แม่รู้ทุกอย่างในวันนั้นแม่ไม่ได้แอบฟังนะ แต่แม่บังเอิญได้เห็นได้ยิน”สินีขยับมือลูบศีรษะของลูกชาย “พ่อรู้ว่าลูกพ่อชอบแบบไหน พ่อไม่สนหรอก แต่ที่พ่อสนใจ พ่ออยากรู้ว่าลูกจะตัดสินใจอย่างไรมากกว่า ซึ่งพ่อรับได้หมดทุกคนที่ลูกเลือก”ยศยิ้มอย่างผู้ใหญ่ใจดีให้ฟีฟ่าได้เห็นเพื่อจะได้สบาย
เช้าวันสุดท้ายที่ฟีฟ่าต้องเลือกแล้วว่าจะไปไหนกับใคร หรือว่าไม่ไปที่ไหนสักแห่งกับหลายคนที่มาเชิญชวน วันนี้จึงเป็นวันที่จิตใจของฟีฟ่าว้าวุ่นและกดดันไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี ฟีฟ่านั่งครุ่นคิดอยู่นานจนถึงเวลาที่เขาต้องตัดสินใจบางอย่าง ฟีฟ่าจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างเร่งรีบเพราะเขาปล่อยเวลาให้เนิ่นนานไปพอสมควร เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยฟีฟ่าจึงออกจากห้องไปยังจุดหมายที่ใจของเขาต้องการ ฟีฟ่าขับรถออกจากบ้านจนมาถึงอู่ซ่อมรถของช่างกัน เมื่อช่างกันเห็นฟีฟ่าเดินลงมาจากรถ เขารีบเดินไปหาฟีฟ่าในทันที “กูดีใจนะที่มึงจะไปเที่ยวกับกู” “คือ เรา เอ่อ” “อะไร หรือว่ามึงจะมาบอกกูว่าไม่ไป”ช่างกันมีสีหน้าที่ตื่นตระหนก “ใช่”ฟีฟ่ามีสีหน้าที่ซึมลง “ทำไม” “เรารักนายแบบเพื่อนคนหนึ่ง” “น้ำเน่ามาก แต่กูก็เข้าใจมึงนะ คนอย่างกูใครจะมาชอบ”ช่างกันยังตะลึงกับคำพูดของฟีฟ่า มันไม่ใช่อย่างนั้นนายเป็นคนดีคนหนึ่งเลย” “ไม่ต้องมาพูดดีหรอก กูรู้ตัวดีแต่กูก็เคารพการตัดสินใจของมึง” “ขอบใจนาย
หลังเลิกงานฟีฟ่าหนุ่มบรรณารักษ์เดินดุ่มๆออกจากมหาวิทยาลัย เนื่องด้วยวันนี้รถของเขาเสียจึงอยู่ที่ร้านซ่อม ฟีฟ่าจึงต้องขึ้นแท็กซี่กลับบ้าน ฟีฟ่าคิดไว้ว่าจะรอรถที่หน้ามหาวิทยาลัย แต่ยังเดินไปไม่ถึงก็มีรถจอดข้างๆ “ขึ้นรถมาเร็ว”เจมี่รุ่นพี่บรรณารักษ์เรียกฟีฟ่าขึ้นรถ “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจะขึ้นแท็กซี่กลับก็ได้ครับ” “ไม่ได้วันนี้พี่มีธุระจะคุยด้วย” “เอ่อ ก็ได้ครับ” ฟีฟ่ารีบขึ้นรถนั่งข้างหน้าคู่กับเจมี่รุ่นพี่ เมื่อฟีฟ่าขึ้นมาในรถแล้ว เจมี่ก็รีบขับรถออกไปทันที “พี่เจมี่มีอะไรจะคุยกับฟีฟ่าเหรอครับ” “ฟีฟ่านี่หน้าตาน่ารักดีนะอายุก็เกือบสามสิบแล้วหน้ายังเด็กอยู่ด้วย ดูอย่างพี่ซิอายุสามสิบหน้าปาเข้าไปสี่สิบแล้ว”เจมีหนุ่มบรรณารักษ์รุ่นพี่ยิ้มอย่างสดใส พรางหัวเราะไปด้วยความขบขันตัวเอง “พี่อย่าพูดอย่างนี้สิ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ” “พี่รู้ตัว พี่ยอมรับความจริงได้ไม่ต้องปลอบใจพี่หรอก” “ไม่ได้ปลอบใจหรอกครับ แต่ถึงอย่างไงพี่กอล์ฟก็รักพี่ที่สุดอยู่แล้ว” “แหม มันแน่อยู่แล้ว ที่พี่ชวนข
นัทไอโซหนุ่มมองฟีฟ่าไม่วางสายตา เพราะความน่ารักของฟีฟ่าที่มีมาก หน้าตาจิ้มลิ้มตาใสเป็นประกาย ปากนิดจมูกหน่อย ผิวขาวใสผ่องเนียน รูปร่างไม่สูงมากแต่ก็ไม่ผอมบาง “คุณนัทมองอะไร”ฟีฟ่ารู้สึกเขินอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ไม่ต้องเรียกคุณหรอกเรียกพี่นัทก็ได้” “ครับพี่นัท”ฟีฟ่ายิ้มเขินๆ “พี่กำลังอยากได้คนรีวิวบ้านอยู่พอดีเลย พี่อยากชวนน้องฟีฟ่าไปเป็นคนรีวิวบ้านพี่ได้ไหม” “ฟีฟ่าไม่เคยทำครับ กลัวทำได้ไม่ดี อีกอย่างฟีฟ่าพูดไม่เก่ง ทำไมไม่จ้างพวกยูทูปเปอร์ล่ะครับ” “พี่อยากได้ความแปลกใหม่ ได้คนใหม่ๆบ้างไม่อยากได้คนที่หน้าซ้ำน่ะ” “แต่ฟีฟ่าไมได้ดังเป็นคนธรรมดานะครับ ใครที่ไหนจะมาสนใจล่ะ” “เมื่อก่อนดาราก็เป็นคนธรรมดา ทำไมภายหลังเขามาดังได้ล่ะ ฟีฟ่าก็เหมือนกันทำไมจะเป็นไม่ได้ ยิ่งหน้าตาของฟีฟ่านี่อยู่ในกระแสช่วงนี้ด้วย” “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ” “ถึงซิ ถ้าไม่ถึงพี่จะมองฟีฟ่าอยู่อย่างนี้เหรอ” “นั่นมันสายตาพีนัทคนเดียว แต่สายตาคนซื้อบ้าน เขาจะมองแบบพี่นัทหรือเปล่า
วันจันทร์ต้นสัปดาห์ฟีฟ่ามาทำงานอย่างเช่นเคย หน้าที่ของฟีฟ่าคอยรับคืนหนังสือต่างๆ ที่บรรดานักศึกษาวนเวียนมาทั้งวัน ไม่เว้นแม้แต่เวลาเที่ยงวันซึ่งเป็นเวลากินข้าว ในส่วนของฟีฟ่านั้นไม่ต้องลงไปกินที่โรงอาหาร เพราะแม่ของฟีฟ่าได้จัดอาหารการกินมาพร้อมทุกวัน ฟีฟ่าจึงมานั่งกินในห้องเล็กๆสำหรับเจ้าหน้าที่บรรณารักษ์ “กินม่วนเชียว”เจมี่ทัก เมื่อเขากินข้าวนอกมหาวิทยาลัยกับแฟนหนุ่มเสร็จ และกลับเข้ามาในห้องสมุด “กินด้วยกันไหมพี่ วันนี้มีผัดกระเพาปลาหมึกไข่ดาว มีมะม่วงเปรียวจิ้มพริกเกลือด้วย แก้ง่วงนอนเป็นอย่างดี พี่เจมี่แกะกินเลย” “พี่ไม่เกรงใจแล้วนะ ช่วงบ่ายชอบง่วงนอนอยู่ด้วย” “เอาเลยเดี๋ยวฟีฟ่ากินตามทีหลัง” “เมื่อคืนก่อนพี่นัทเป็นไงบ้าง”เจมี่ถาม “ปากหวาน” “แหม ไม่ชอบเหรอปากหวานน่ะ” “ยังไม่รู้เลยตอนนี้ก็ยังไม่ได้คิดอะไร”ฟีฟ่ายังก้มหน้ากินข้าวต่อไปอีก ทั้งๆที่ใจก็แอบคิดอยู่เหมือนกัน “แล้วทำไมไม่บอกเบอร์โทรพี่นัทไปล่ะ ให้มาถามพวกพี่อยู่ได้” “ถ้าให้ไปก็เหมือนง่าย ถ้าไม่บอกให้เอาเบอร์ที่พี่ก็เห
ช่วงเย็นอีกวันถัดไป ฟีฟ่าพึ่งกลับมาถึงบ้าน เขาก็นั่งพักผ่อนกดโทรศัพท์มือถือดู ซึ่งเขาก็เห็นข้อความทางไลน์เด้งขึ้นมา “รถซ่อมเสร็จแล้ว” “เท่าไร” “หมื่นสอง” “แพงจัง” “ถ้าไม่เอาจะถอดอะไหล่ออกแล้วนะ” “ก็ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปเอา” “พรุ่งนี้ไม่อยู่” “วันรืน” “ไม่ว่าง” “วันถัดไป” “ไปขายรถมึง” “ตอนนี้อยู่คนเดียวไม่มีใครไปส่ง รอตอนค่ำได้ไหม” “จะไปแดกเหล้า” “ถ้างั้นช่างมารับหน่อยก็แล้วกัน” “ไม่ว่างเล่นมือถืออยู่” “ไปตามวินมอเตอร์ไซค์ให้หน่อยก็ยังดี” “ไม่ไปขี้เกียจเดิน” “ถ้างั้นว่างวันไหนก็บอกมา เดี๋ยวจะไปเอารถวันนั้น” “ชาติหน้า” “ไปตายซะ” ฟีฟ่ารำคาญความกวนอารมณ์ของช่างกันอย่างมาก แต่เขาก็อยากไปเอารถอยู่เหมือนกัน แต่ก็ขี้เกียจเดิน ในระหว่างที่ฟีฟ่ากำลังตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรดี เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น “ เดี๋ยวกูจะไปรับมึง”
วันหยุดสุดสัปดาห์ช่วงสายๆฟีฟ่านั่งรอไอโซนัท ที่จะมาเจรจากับพ่อของเขาในเรื่องที่จะให้ไปรีวิวบ้านจัดสรรของไอโซนัท ซึ่งเป็นตามคาดไอโซนัทมาก่อนเวลาร่วมครึ่งชั่วโมง “หวัดดีครับพี่นัท นั่งรอตรงนี้ก่อนนะครับ”ฟีฟ่าเอ่ยขึ้น “บ้านของน้องฟีฟ่าน่าอยู่ดีน่ะพี่ว่า” “ขอบคุณครับที่ชม เดี๋ยวผมจะไปเอาน้ำมาหาให้ดื่มก่อนครับ” ก่อนที่ฟีฟ่าจะไปเอาน้ำดื่มเขาได้ไปบอกพ่อของเขาให้ออกมาที่ห้องรับแขก แต่ยศพ่อของฟีฟ่าก็ยังไม่ออกมา ถึงแม้ฟีฟ่าจะเอาน้ำดื่มมาให้ไอโซนัทแล้วก็ตามที “สงสัยพ่อทำธุระส่วนตัวอยู่ รอสักครู่นะครับ” “ไม่เป็นไร พี่รอได้ทั้งวัน ขอแค่ฟีฟ่าอยู่ใกล้ๆพี่เป็นพอ” “คงไม่ได้หรอกมั้ง”ยศพ่อของฟีฟ่าเดินออกมาพอดีและทันได้ยิน ยศมองหน้าไอโซนัทแวบนึงแล้วนั่งลง “สวัสดีครับคุณพ่อ”ไอโซนัทยกมือไหว้ “ฟีฟ่าไม่มีพี่ไม่มีน้อง”ยศพูดห้วนๆ “ครับคุณลุง” “อาก็พอ”เสียงห้วนๆดังขึ้นอีกครั้ง “ครับคุณอา” “มีอะไรว่ามา” “ผมจะมาให้น้องฟีฟ่าไปช่วยรีวิวบ้านจัดสรรให้หน่อยครับ” “คนอื่น
วันที่ฟีฟ่ารอคอยก็มาถึง วันที่เข้าต้องไปดูที่ดินกับไอโซนัทเพียงสองคน แต่แล้วความฝันนั้นได้พังทลาย เพราะยศพ่อของเขาให้ไนท์ไปเป็นเพื่อน“พ่อฟีฟ่าไปคนเดียวก็ได้ ทำไมต้องให้ไนท์ไปด้วยล่ะ”“จะไปสองคนได้ไง ที่ดินของเราอยู่ไกล กว่าจะกลับมาก็มืดค่ำแล้ว มีไอ้ไนท์ไปด้วยพ่อจะได้วางใจ”“พี่นัทก็ไปด้วยนี่ครับ”“พ่อไม่ค่อยคุ้นเคยกับเขาสักเท่าไร พ่อไม่อยากให้ไปกันสองคน พ่อพูดคำไหนก็ต้องเป็นคำนั้น ถ้าเชื่อพ่อทุกอย่างจะดีเอง”“ก็ได้ครับพ่อ”“นั่นไงคุณนัทของลูกมาแล้ว”สินีแม่ของฟีฟ่าพูดขึ้นทันที ที่เห็นรถของหรูของไอโซนัทขับเข้ามาภายในบ้าน“แล้วไหนคนดีของพ่อล่ะ ยังไม่เห็นมาเลย”ฟีฟ่ามองหาไนท์“มาแล้วครับ ผมรออยู่ที่ประตูรั้วข้างบ้าน รอให้ไอโซนั่นมาก่อนผมค่อยมาโชว์ตัว”ไนท์เดินยิ้มร่ามาหาฟีฟ่า“นกรู้”ฟีฟ่าพูดขึ้นลอยๆ“สวัสดีครับคุณอาทั้งสองและน้องฟีฟ่าด้วยนะ”ไอโซนัทยิ้มน้อยยิ้มใหญ่“เราไปกันเลยไหมน้องฟีฟ่า ผมขออนุญาตพาฟีฟ่าไปด้วยนะครับคุณอา”“เดี๋ยวก่อน อีกคนยังไม่มาเลย”ยศพูดขึ้น“ใครอีกล่ะ”ฟีฟ่าเสียงสูงนิดนึง“คนขับรถซิ”“ก็พี่นัทไง”“คุณนัทเขาไม่ชำนาญทางหรอก พ่อเตรียมคนขับรถไว้แล้ว เขาเป็นลูกชายคนที่พ่อรู