ค่ำคืนนี้เป็นเป็นวันคล้ายวันเกิด ของเจมี่รุ่นพี่ที่ห้องสมุด ฟีฟ่าเลยต้องมาร่วมอวยพร ซึ่งงานในครั้งนี้มิได้จัดใหญ่โต มีแต่เพีอนรักมิตรสหายที่คบกันมา ในระหว่างที่ฟีฟ่านั่งดื่มน้ำส้มคั้น เพราะฟีฟ่าไม่แตะเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิด
“พี่ขอนั่งด้วยคนได้ไหม”ไอโซนัทนั่งลงตรงหน้าฟีฟ่า
“อยากนั่งก็นั่งสิ”ฟีฟ่ายกแก้วน้ำส้มขึ้นมาจิบและวางลง
“ทำไมฟีฟ่าไม่รับโทรศัพท์พี่ ติดต่อทางไหนฟีฟ่าก็ทำเป็นเฉยเมย”
“ฟีฟ่าไม่ว่าง ฟีฟ่าต้องไปกินหมูกระทะ”
“ไปกินกับไนท์เหรอ”ไอโซนัทรู้ความจริงจากเจมี่ ที่ฟีฟ่าสื่อผ่านให้มาบอกไอโซนัทแบบอ้อมๆ
“ใช่ อร่อยด้วย”
“ทำไมไม่บอก ถ้าพี่รู้พี่จะได้พาฟีฟ่าไปกินสเต๊ก”
“ไม่กินหรอกสเต็ก ไม่ชอบ ฟีฟ่าชอบกินกุ้ง”
“หลังเลิกงานไปกินกุ้งไหม เดี๋ยวพี่จะมาไป”
“ไม่หรอก มันดึกแล้วเดี๋ยวหน้าแก่”
“พี่มีเพื่อนร้านเสิรมสวยความงาม เดี๋ยวพี่พาไปก็ได้พรุ่งนี้ถ้ากลัวหน้าแก่”
“ไม่ชอบปรุงแต่ง ชอบแบบธรรมชาติ”
“เอาอย่างนี้ไหมเดี๋ยวพี่พาไปอาบน้ำแร่แช่น้ำนม อบซ่าวน่าขัดตัว”
“ไม่ไปไหนทั้งนั้น พีฟ่าว่าพี่นัทเอาเวลาไปเทคแคร์เพื่อนๆดีกว่า ฟีฟ่ามันคนนอก เป็นคนไม่สำคัญ”ฟีฟ่าหันหน้าไปทางอื่น
“สำคัญซิ ฟีฟ่าเป็นคนสำคัญที่สุดสำหรับพี่”
“ไม่ใช่มั้งเพื่อนๆพี่ต่างหาก”
“เพื่อนส่วนเพื่อน คนรักส่วนคนรัก ต่อไปนี้พี่จะแยกตัดขาดจากกัน”
“ใครคนรักพี่”ฟีฟ่าแอบอมยิ้มนิดนึง
“ก็ฟีฟ่าไง”
“ฟีฟ่ายังไม่ได้บอกเลยว่าเป็นคนรักของพี่”
“ถึงฟีฟ่าไม่รักแต่พี่รักฟีฟ่า และจะทำทุกวิถีทางให้ฟีฟ่ารักพีให้ได้”
“ถามเพื่อนหรือยัง”
“ไม่ถาม เพราะมันเรื่องส่วนตัวของพี่”
“ถ้าฟีฟ่าเข้ากับเพื่อนๆของพี่ไม่ได้แล้วพี่จะทำอย่างไง”
“เลิกคบ”
“เชื่อได้เหรอ”
“ได้สิ”
ฟีฟ่าลึกๆแล้วแอบดีใจที่ไอโซนัทมาง้อขอคืนดี และสัญญาจะทำทุกอย่างตามใจฟีฟ่า แต่เขาก็ยังแอบหวั่นใจไม่น้อย ถ้าให้อภัยฟีฟ่ากลัวว่าเหตุการณ์อย่างคืนนั้นจะกลับมาอีก
“ไปร่วมอวยพรวันเกิดของเจมี่กันเถอะ”ไอโซนัทพูดขึ้น
ฟีฟ่าเหลือบสายตาไปมองหน้าเวที ซึ่งก็ถึงเวลาร่วมอวยพรวันเกิดของเจมี่พอดี ฟีฟ่าหันมามองไอโซนัทแวบหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นเดินไปพร้อมกับไอโซนัท
เมื่อถึงช่วงเวลางานเลิก ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน แต่ฟีฟ่ายังกลับไม่ได้ เพราะเจมี่เป็นฝ่ายมารับที่บ้าน เจมี่ได้วางแผนไว้ว่าจะให้ไอโซนัทนั้นได้ไปส่งฟีฟ่า
“ฟีฟ่า เดี๋ยวให้พี่นัทไปส่งที่บ้านนะ”เจมี่เอ่ยขึ้น
“เดี๋ยวฟีฟ่าเรียกแกร็ปก็ได้ ไม่ต้องให้ใครไปส่งหรอก”
“ได้ไง เดี๋ยวพ่อของฟีฟ่าเล่นงานพี่ตายเลย อยากให้พี่โดนอย่างนั้นเหรอ ถ้าฟีฟ่าต้องการแบบนั้นก็ได้นะ”
“ก็ได้อยากไปส่งก็ไป”
ฟีฟ่าต้องให้ไอโซนัทมาส่งอย่างเต็มใจและจำยอม เขาแสร้งนั่งนิ่งๆไม่พูดไม่จา เพื่อให้ไอโซนัทพูดขึ้นก่อน หลังจากนั้นฟีฟ่าจะทำตัวเหมือนเดิม เพราะถ้างอนมากไปกว่านี้จะดูเกินงาม ไอโซนัทอาจเบื่อหน่ายและรำคาญตีตัวออกห่าง
“น้องฟีฟ่าหายโกรธพี่หรือยัง”
“ฟีฟ่าไมได้โกรธพี่นัทเลย แค่เคืองนิดหน่อยไม่มีอะไรหรอกครับ”
“แค่เคืองยังขนาดนี้ ถ้าโกรธสงสัยพี่ต้องง้อเป็นปีมั้ง”
“ตลอดไปต่างหาก”
“ถ้างั้นพี่คงตายไปก่อนอย่างแน่นอน เพราะพี่แก่กว่าฟีฟ่าหลายปีนะ”
“ถ้าพี่นัทแก่คนทั้งโลกหาหนุ่มไมได้แล้วมั้ง”
“พูดเอาใจคนแก่อีก”
“แค่สามสิบกว่าแก่แล้วเหรอ พี่นัทพูดไปเรื่อย”
“เอาล่ะไม่พูดเรื่องนี้แล้ว เราไปต่อที่ไหนกันดีไหม”
“ไม่ไปหรอก ฟีฟ่าง่วงนอน ไม่ได้งอนพี่นัทนะ แต่ฟีฟ่าง่วงนอนจริงๆ”
“พี่นึกว่าจะไปกดถูกใจไนท์ใส่ชุดว่ายน้ำซะอีก”ไอโซนัทแอบมองสีหน้าฟีฟ่า
“ไม่ใช่แต่ไนท์หรอก ฟีฟ่าก็กดถูกใจ พี่นัทด้วย”
“ของพี่แค่กางเกงบอล แต่ฟีฟ่ากางเกงว่ายน้ำ จะไปสู้ได้ไง”
“พี่นัทพูดไปเรื่อย ฟีฟ่าไม่ได้หื่นขนาดนั้นซะหน่อย”
“พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้หมายความอย่างงั้น”
“ไม่ต้องมาขอโทษเลย”
“ถ้าไม่ให้พี่ขอโทษแล้วจะให้พี่ทำอะไร”
“ไม่ต้องทำอะไรหรอก เพราะฟีฟ่าไมได้โกรธพี่นัท”
“ร้ายนะเราน่ะทำให้พี่ใจคอไม่ดี”
ฟีฟ่าหัวเราะเล็กน้อยที่ได้แกล้งไอโซนัท เขาหันมามองหน้าไอโซนัท ที่แอบอมยิ้มในความน่ารักของเขา
“ถึงบ้านฟีฟ่าแล้วไม่อยากให้ถึงเลย อยากขับไปซักร้อยโล เพื่อบอกรักฟีฟ่าซักหมื่นแสนครั้ง”
“พี่นัทพูดอะไรนะ วันหลังค่อยคุยกัน”ฟีฟ่าอึ่งเมื่อได้ยินคำพูดของไอโซนัท
ฟีฟ่าหันมายิ้มให้ไอโซนัท แล้วลงจากรถ เขายืนมองรถไอโซนัทแล่นออกไปจนลับตา หลังจากนั้นฟีฟ่ากำลังจะเปิดประตูเข้าบ้าน เขาพลันได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ฟีฟ่าจึงหันไปมอง ซึ่งก็ไม่ใช่ใครเป็นช่างกันที่มาดักรออยู่ข้างๆบ้าน
“เมื่อคืนไปกับเด็กคืนนี้ไปกับคนแก่”
“เกี่ยวอะไรกับนาย”
“เกี่ยวซิเมื่อคืนยังบอกกินเด็กเนื้อนุ่ม วันนี้กินคนแก่จะเหนียวขนาดไหน ขนาดกูมึงยังว่าเหนียวเลย”
“มันคนละอย่างพี่นัทเขาแก่มีคุณภาพ ส่วนนายแก่แล้วแก่เลย”
“กูก็อายุเท่ากับมึงนั่นแหละทำเป็นพูดดี ทำอย่างกับตัวเองอายุสิบแปด”
“ช่างกันปากร้ายนะ พูดจาดีๆบ้างก็ไม่ได้ ประชดประชันแดกดันอยู่นั่นแหละ”
“ก็มึงทำตัวไม่น่ารักนี่ ร่อนไปทั่วกับผู้ชาย”
“ช่างกันนายจะดูถูกเรามากไปแล้วนะ เราไม่ใช่อย่างที่นายคิดซะหน่อย”
“ถ้าไม่ใช่มึงต้องเลือกเอาซะคนซิ ไม่ใช่อ่อยคนโน้นทีคนนี้ที หรือว่าอยากจะเหมาหมดทั้งสามคน”
“ช่างกัน”
“กูจำชื่อกูได้ไม่ต้องมาย้ำ”
“ไอ้บ้า”
“แต่กูก็บ้ารักมึงนะ”
“ช่างกันนายพูดอะไรน่ะ”
“ก็พูดจากใจจริงไง กูไม่เคยบอกรักใครมาก่อน มึงเป็นคนแรกเลยรู้ไหม”
“ช่างกัน”ฟีฟ่าพูดไม่ออกนึกความรู้สึกตัวเองไม่ได้
“ทำไม บอกรักแค่นี้ทำเป็นอึ้ง พึ่งเคยมีคนบอกรักเหรอ”ช่างกันกำลังจะลงจากรถบิ๊กไบท์
“ไม่ต้องลงมาเลยเราจะเข้าบ้าน”
“กูไม่ลงก็ได้มึงบอกกูได้ไหมว่าคิดอย่างไงกับกู”
“เรา เอ่อ คือ”ความคิดตอนซ้อนท้ายบิ๊กไบท์แข่งรถเข้ามาทันที
“เอ่อ อะไร หรือว่ามึงรักกู”
“บ้า”
ฟีฟ่ารีบเปิดประตูรั้ววิ่งเข้าไปในบ้านทันที เพราะความรู้สึกตอนนี้ของฟีฟ่าสับสนจนบอกไม่ถูก
ส่วนช่างกันก็นั่งบนบี๊กไบท์อมยิ้ม เมื่อเห็นอาการของฟีฟ่าเหมือนจะอาย และไม่พูดอะไรออกมา สักพักเขาก็ขับรถต่อไปในทันที
ก่อนที่ฟีฟ่าจะเข้าบ้านเขาหันไปมองหน้าประตูรั้ว ซึ่งก็ไม่เห็นช่างกันอยู่ตรงนั้น ฟีฟ่าจึงหันหลังกลับเพื่อที่จะเข้าบ้าน แต่ก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อได้ยินเสียงข้างรั้วซึ่งเป็นเสียงที่คุ้นเคย
“พี่ฟีฟ่า”ไนท์เรียกฟีฟ่าที่ข้างรั้ว
ฟีฟ่าค่อยๆเดินไปยังรั้วข้างบ้าน เพราะสงสัยในพฤติกรรมของไนท์ ที่มายืนร้องเรียกยามดึกดื่นขนาดนี้
“มีอะไรเหรอ”
“ผมมีอะไรอยากจะบอกพี่ฟีฟ่าครับ ผมคิดอยู่นานจนตัดสินใจได้ เพราะขืนปล่อยไว้อย่างนี้ไม่บอก อาจมีคนอื่นแย่งบอกไปก่อน”
“เรื่องอะไรล่ะ”ฟีฟ่ามีสีนหน้าที่สงสัย
“คือว่า ผมรักพีฟีฟ่า”ไนท์ยิ้มแล้วก้มหน้าต่ำลง
“อะไรน่ะ”ฟีฟ่าได้ยินไม่ถนัดเพราะไนท์พูดเสียงค่อยมาก
“ผมรักพี่ฟีฟ่า”ไนท์ตะโกนอย่างดัง
“พูดค่อยๆก็ได้ เดี๋ยวมีใครมาได้ยินหรอก”
“ดีซะอีกที่ได้ยิน จะได้เป็นพยานรักให้เราสองคน”
“น้องไนท์พูดอะไรลงไปรู้ไหม”
“รู้ซิครับ พูดคำว่ารักให้พี่ฟีฟ่าได้ยิน”
“พี่ไม่คุยด้วยแล้ว”
ฟีฟ่าเดินกลับเข้าบ้านด้วยหลากหลายความคิด เพราะช่วงเวลาไล่เลี่ยกันเขาถูกบอกรัก ถึงสามครั้งติดกัน ฟีฟ่าเดินตาลอยสมองมึนงง จนเข้าไปในบ้านก็ยังมึนๆ เพราะยังอึ้งกับสามหนุ่มที่รุมบอกรัก
เช้าวันนี้ฟีฟ่าไปทำงานตามปกติ แต่มีเหตุบังเอิญรถของเขาเสียอยู่หน้าอู่ช่างกัน ซึ่งอู่ยังไม่ได้เปิดด้วยซ้ำ ฟีฟ่าจึงตัดสินใจลงจากรถแล้วไปเคาะประตูอู่ซ่อมรถ “ปัง ปัง ปัง” ฟีฟ่าเคาะประตูเสร็จก็ยืนรออยู่หน้าประตู สักพักช่างกันแง้มประตูออกมา พอช่างกันเห็นเป็นฟีฟ่าจึงดึงเข้ามาในอู่ทันที ฟีฟ่าไม่ทันได้ตั้งตัวรู้ตัวอีกทีเขาก็อยู่ข้างในอู่ หลังจากนั้นช่างกันปิดประตูทันที แล้วเขาก็เปิดไฟให้สว่าง พอแสงไฟส่องไปที่เรือนร่างของช่างกัน ฟีฟ่ายืนอึ้งอ้าปากค้าง เพราะช่างกันอยู่ในชุดกางเกงในตัวเดียว ส่วนรูปร่างก็บึกบึนมีกล้ามลีนๆ “นายดึงเราเข้ามาทำไม”ฟีฟ่ามีน้ำเสียงที่มีโมโห “กูไม่ได้จะข่มขืนมึงหรอก กูใส่กางเกงในตัวเดียว มึงจะให้กูออกไปหน้าอู่เหรอ” “ทำไมไม่ใส่กางเกงขาสั้นนอน” “มันเรื่องของกูหรือเปล่าวะ กูจะแก้ผ้านอนมันก็เรื่องของกู” “เอ่อ รถเราเสียน่ะ ซ่อมให้หน่อย แค่นี้แหละ ความจริงนายชะโงกหน้ามาก็ได้ ไม่ต้องถึงกับดึงเราเข้ามาข้างในหรอก” “กูจะดึงมึงเข้ามามึงจะทำไม”ช่างกันเดินเข้ามาใกล้ๆฟีฟ่า ส่วนฟ
ในช่วงเวลาพักเที่ยงไอโซนัทได้ส่งไลน์มาหาฟีฟ่า เพื่อชวนไปเที่ยวยามค่ำคืนใต้แสงเทียน บนเรือหรูในแม่น้ำเจ้าพระยาเพียงสองคน ฟีฟ่านั้นใช้เวลาตัดสินใจไม่นานเขาจึงตอบตกลง เพราะฟีฟ่ายังคิดถึงวันแรกที่ได้เจอไอโซนัทได้ ค่ำคืนนั้นเขามีความสุขและได้เจอสิ่งอันแปลกใหม่สำหรับเขา “ว่าไงน้องฟีฟ่าตกลงจะไปเที่ยวกับไอโซนัทไหม”เจมมี่นั่งลงข้างๆพร้อมจ้องสายตาของฟีฟ่า “ตกลงไปซิ ทำไมพี่เจมี่กับพี่กอล์ฟไม่ไปด้วยล่ะ” “มันหมดเวลาของพี่แล้วนะ พี่แค่เป็นสะพานต่อจากนี้ก็เป็นเรื่องพี่นัทกับน้องฟีฟ่าแล้วแหละ” “พี่เจมี่พูดแปลกๆเมื่อก่อนเชียร์พี่นัทอยู่เลยนี่ครับ” “ใช่ ตอนนี้พี่ยังเชียร์พี่นัทอยู่เลย เพราะพี่นัทเป็นผู้ใหญ่แล้วสามารถดูแลน้องของพี่ได้ ข้อสำคัญพี่นัทตามใจฟีฟ่าทุกอย่าง ตั้แต่เหตุการณ์วันนั้นเขาเลิกคบเพื่อนทั้งแก็งค์หมดเลยนะ เห็นไหมพี่เขาทำเพื่อฟีฟ่าขนาดไหน แต่เหนือสิ่งใด ความรักมันไม่สามารถบังคับจิตใจกันได้ ถึงพี่นัทจะดีทุกอย่างแต่ถ้าไมได้รัก อยู่ด้วยกันไปก็ไม่มีความสุขนะ” “พี่พูดยาวจังเลย” “พี่เห็นฟีฟ่าไปเที่ยวกับน้องนักว
วันหยุดสุดสัปดาห์เช่นเคยที่ฟีฟ่าต้องเอาอาหารไปให้ไนท์ ในวันนี้เขารู้สึกแปลกๆไม่เหมือนเช่นทุกวัน จิตใจในห้วงลึกหวั่นๆใจชอบกล แต่เขาพยายามสลัดความรู้สึกนั้นทิ้งไป แต่เมื่อเดินไปถึงขอบสระ ฟีฟ่าแอบรู้สึกผิดหวังเล็กๆ ที่ไม่เห็นไนท์อยู่ในสระว่ายน้ำ “พี่ฟีฟ่าเข้ามาในบ้านก่อนก็ได้ครับ ผมยังไม่ว่ายน้ำหรอก” “ไอ้เด็กบ้ารู้ทันอีก”ฟีฟ่าบ่นพึมพำในใจ เมื่อฟีฟ่าเดินเข้ามาในบ้านหลังน้อยๆแต่เนื้อที่บริเวณบ้านกว้างใหญ่ เพียงฟีฟ่าเปิดประตูเข้าไปในบ้านก็พบกับความรกข้าวของวางไม่เป็นที่เป็นทางเต็มไปหมด “ทำไมบ้านรกอย่างนี้ ไม่รู้จักเก็บกวาดให้เรียบร้อย บ้านของพ่อพี่ออกจะสวยงาม แต่น้องไนท์ทำซะเละเลย” “มาถึงก็บ่นๆยังไม่แก่ซักหน่อย ก็ไม่มีเวลาทำนี่ครับไหนจะเรียนหนังแล้วต้องซ้อมกีฬาอีก ถ้าพี่ฟีฟ่าว่างๆมาช่วยผมทำความสะอาดก็ได้ ดีกว่าไปล่องเรือเจ้าพระยา กับไปเป็นสก้อยท้ายรถบิ๊กไบค์”ไนท์เดินเข้ามาหาฟีฟ่าโดยมีผ้าเช็ดตัวผืนเดียว “ฟีฟ่ามันเรื่องของพี่นี่ พี่จะไปไหนกับใครก็ได้” “นั่นแสดงว่าพี่ฟีฟ่าปฏิเสธผมกลายๆใช่ไหม”
ฟีฟ่ากับยศนั่งคุยกันในห้องรับแขกตามภาษาพ่อลูก แต่แล้วก็มีชายหนุ่มที่คุ้นเคยเข้ามาหา โดยมีแม่ของฟีฟ่าเป็นคนเปิดประตูให้เข้ามา “สวัสดีครับพ่อ”ช่างกันยกมือไหว้ยศ “ใครพ่อมึง”ยศเริ่มมีสีหน้าที่ไม่พอใจเท่าไร “ก็พ่อไงครับ” “ไอ้นี่เห็นใจดีด้วย พูดอะไรไม่เกรงใจกันเลย” “ทำไมต้องเกรงใจครับ เพราะอีกหน่อยเราก็จะเป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้วนี่ครับ”ช่างกันนั่งข้างๆฟีฟ่า “บอกพ่อหรือยังเรื่องของเรา”ช่างกันพูดเสียงดังข้างๆหูฟีฟ่า “อะไรของนาย”ฟีฟ่าใช้สายตาปรามช่างกันไว้แต่ดูไม่เป็นผลซักเท่าไร “มีอะไรพูดมาตรงๆเรื่องอะไรบอกมา”ยศเอ่ยขึ้น “คือว่า ผมกับฟีฟ่ารักกันครับ” “ไม่จริงนะพ่อ”ฟีฟ่าตกใจกับคำพูดของช่างกัน “ใช่ครับ ฟีฟ่าขอเวลาตัดสินใจสักพัก แต่ผมรอไม่ไหวกลัวโดนแย่ง ทั้งหนุ่มนักว่ายน้ำและไอโซนั่นอีก ผมต้องชิงตัดหน้ามาพูดกับพ่อไว้ก่อน เพราะผมจริงใจมีอะไรก็จะพูดตรงๆครับ”ช่างกันมีน้ำเสียงที่หนักแน่น “เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ฟีฟ่าเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง” “
ช่วงพักเที่ยงไอโซนัทได้มาหาฟีฟ่าที่ห้องสมุดในมหาวิทยาลัย โดยมีเจมี่เป็นฝ่ายจัดแจงทุกอย่างให้ได้เจอกัน จึงทำให้ฟีฟ่าและไอโซนัทได้ออกไปข้างนอกด้วยกัน โดยไอโซนัทได้พาฟีฟ่าไปร้านอาหารธรรมดาร้านหนึ่ง เพราะเขาไม่อยากที่จะพาฟีฟ่าไปที่ร้านหรูอย่างที่เคยพาไป “ชอบไหมร้านแบบนี้”ไอโซนัทเอ่ยถามขึ้น สาเหตุที่ไอโซนัททำแบบนี้เพื่อที่จะปรับตัวให้เข้ากับฟีฟ่าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในช่วงเวลานี้ เพราะไอโซนัทรู้ตัวว่าคุ่แข่งของเขานั้นมีตั้งสองคน ซึ่งแต่ละคนก็ไม่ธรรมดาเขาจึงไม่อาจไว้วางใจได้ “ชอบครับ ร้านแบบนี้ก็ดีเหมือนกันไม่ต้องมีอะไรมาก แค่สั่งมาแล้วกิน” “พี่ดีใจนะที่น้องฟีฟ่าชอบร้านอาหารที่พี่พามา และพี่จะพามาบ่อยๆ สั่งอาหารเลยซิ เพราะวันนี้เรามีเวลากันน้อย” “ครับ” “ไม่ต้องเกรงใจพี่นะ” ฟีฟ่าและไอโซนัทได้สั่งอาหารอย่างที่ตัวเองชอบไม่กี่อย่าง เพราะด้วยเวลาอันเร่งรับมีแค่หนึ่งชั่วโมงช่วงพักเที่ยง “พักนี้น้องฟีฟ่าไม่ค่อยมีเวลาไปไหนมาไหนกับพี่เลยนะ เห็นเจมี่เล่าว่าไปโน้นไปนี่ตลอดเวลาเลย จนทำให้พี่รู้สึกน้อยใจเป็นบางคร
ก่อนที่ไนท์จะออกไปเก็บตัวฝึกซ้อม เขาได้เข้ามาหาฟีฟ่าในบ้าน ซึ่งยศผู้เป็นพ่อก็เห็นอยู่แต่เขาแสร้งไม่เห็น เพราะไม่อยากไปขัดขวางจะทำให้ไนท์เกิดความเครียดอาจส่งผลต่อการแข่งขัน เมื่อทั้งคู่ได้อยู่ในห้องโถง มีโซฟาสามตัวต่อติดกันไว้ ไนท์นั่งลงข้างๆฟีฟ่าจนตัวติดกันทีเดียว “นั่งห่างๆก็ได้ เดี๋ยวพ่อพี่มาให้”ฟีฟ่าสอดสายตามองไปรอบๆบ้าน “ถึงเห็นโค้ชก็ไม่ว่าอะไรหรอก ผมว่าโค้ชคงเห็นอะไรบ้างแหละ ตอนที่เราอยู่สองคนตั้งหลายครั้ง”ไนท์อมยิ้ม “พูดไปเรื่อยมาหาพี่มีอะไร” “เดี๋ยวสายๆผมต้องไปเก็บตัวแล้วครับ อาทิตย์หน้าต้องลงแข่งเพื่อคัดตัวไปแข่งซีเกมส์” “เหรอ พี่อวยพรให้โชคดีนะ”ฟีฟ่าเปลื่ยนสีหน้าหันมายิ้มแย้มให้กำลังใจ “ผมชอบรอยยิ้มพี่ฟีฟ่าจังเลย” “อย่ามัวมาชอบรอยยิ้มพี่เลย เอาเวลาไปซ้อมเพื่อชัยชนะเถอะ” “ถ้าเกิดผมพลาดการคัดเลือกพี่ฟีฟ่าจะมีรางวัลอะไรให้ผมไหม” “จะเอาอะไรล่ะ รถเบนซ์เหรอ” “เอาไปทำไมผมอยากได้ใจพี่ฟีฟ่ามากกว่า เมื่อไรพี่จะให้ใจผมซักทีล่ะครับ” “เอาอีกแล้ว เอาคำพูดหวานๆ
หลายวันผ่านมาและในค่ำคืนที่เหลือไม่กี่วัน ถึงคราที่ฟีฟ่าตต้องตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะทำเช่นไรกับชีวิต ซึ่งในระหว่างที่ฟีฟ่านั่งนิ่งครุ่นคิดอยู่นั้น ยศและสินีผู้เป็นแม่ได้มานั่งข้างๆทั้งสองฝั่งซ้ายขวา “พ่อกับแม่มีอะไรเหรอครับ”ฟีฟ่าหันมองซ้ายทีขวาที “พ่อต้องถามฟีฟ่ามากกว่ามั้ง ว่าเป็นอะไรมานั่งซึมคนเดียวหลายวันแล้วนี่”ยศมองหน้าลูกชายแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะความสดใจร่าเริงของฟีฟ่าได้หายไป ในช่วงแรกยศคิดว่าฟีฟ่าอาจคิดถึงไนท์ แต่เมื่อได้ยินเรื่องราวต่างๆที่สินีเล่าให้ฟัง ว่ามีหนุ่มสามคนชวนฟีฟ่าไปเที่ยวหนึ่งในนั้นรวมไนท์ด้วย “ไม่มีอะไรหรอกครับพ่อนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย”ฟีฟ่าพยายามฝืนยิ้ม แต่เขาก็ไม่สามารถปิดบังซ้อนเร้นความคับอกคับใจได้ “ไม่ต้องปิดบังพ่อกับแม่หรอก แม่รู้ทุกอย่างในวันนั้นแม่ไม่ได้แอบฟังนะ แต่แม่บังเอิญได้เห็นได้ยิน”สินีขยับมือลูบศีรษะของลูกชาย “พ่อรู้ว่าลูกพ่อชอบแบบไหน พ่อไม่สนหรอก แต่ที่พ่อสนใจ พ่ออยากรู้ว่าลูกจะตัดสินใจอย่างไรมากกว่า ซึ่งพ่อรับได้หมดทุกคนที่ลูกเลือก”ยศยิ้มอย่างผู้ใหญ่ใจดีให้ฟีฟ่าได้เห็นเพื่อจะได้สบาย
เช้าวันสุดท้ายที่ฟีฟ่าต้องเลือกแล้วว่าจะไปไหนกับใคร หรือว่าไม่ไปที่ไหนสักแห่งกับหลายคนที่มาเชิญชวน วันนี้จึงเป็นวันที่จิตใจของฟีฟ่าว้าวุ่นและกดดันไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี ฟีฟ่านั่งครุ่นคิดอยู่นานจนถึงเวลาที่เขาต้องตัดสินใจบางอย่าง ฟีฟ่าจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างเร่งรีบเพราะเขาปล่อยเวลาให้เนิ่นนานไปพอสมควร เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยฟีฟ่าจึงออกจากห้องไปยังจุดหมายที่ใจของเขาต้องการ ฟีฟ่าขับรถออกจากบ้านจนมาถึงอู่ซ่อมรถของช่างกัน เมื่อช่างกันเห็นฟีฟ่าเดินลงมาจากรถ เขารีบเดินไปหาฟีฟ่าในทันที “กูดีใจนะที่มึงจะไปเที่ยวกับกู” “คือ เรา เอ่อ” “อะไร หรือว่ามึงจะมาบอกกูว่าไม่ไป”ช่างกันมีสีหน้าที่ตื่นตระหนก “ใช่”ฟีฟ่ามีสีหน้าที่ซึมลง “ทำไม” “เรารักนายแบบเพื่อนคนหนึ่ง” “น้ำเน่ามาก แต่กูก็เข้าใจมึงนะ คนอย่างกูใครจะมาชอบ”ช่างกันยังตะลึงกับคำพูดของฟีฟ่า มันไม่ใช่อย่างนั้นนายเป็นคนดีคนหนึ่งเลย” “ไม่ต้องมาพูดดีหรอก กูรู้ตัวดีแต่กูก็เคารพการตัดสินใจของมึง” “ขอบใจนาย