ไนท์ได้พาฟีฟ่ามาร้านหมูกระทะแถบชานเมือง ฟีฟ่ารู้สึกได้เปิดหูเปิดตาเพราะเขาไม่ได้มานานหลายปี
“พี่ฟีฟ่านั่งรอผมอยู่ที่นี่ก็ได้นะ พี่อยากได้อะไรบอกผมได้เลย เดี๋ยวผมไปหยิบมาให้”
“ไม่ต้องหรอก พี่อยากไปเดินดูด้วย”
“ถ้างั้นเราไปตักอาหารกันก่อน”
ฟีฟ่าเดินไปที่แผนกกุ้งเป็นอันดับแรก เพราะเขาชอบกินและแพงด้วย ฟีฟ่าจึงหยิบกุ้งตัวโตๆใส่จานจนพูน สายตาของฟีฟ่ามองกุ้งอีกตัวที่ใหญ่พอสมควร เขารู้สึกเสียดายถ้าไม่ได้เอาไปด้วย ฟีฟ่ากำลังยื่นมือคีบกุ้งตัวนั้น แต่กุ้งตัวนั้นไมเป็นใจเพราะมีที่คีบอีกอัน มาอยู่ส่วนหัวของกุ้ง ฟีฟ่ารีบดึงมาในจานของเขา แต่กลับถูกดึงแย่งไป ฟีฟ่าใจคอหงุดหงิดจึงหันไปมอง
“ช่างกัน”ฟีฟ่าพูดเสียงดัง
“พูดชื่อค่อยๆหน่อยอายเขา เรียกไอกันดีกว่า ไม่ต้องถึงกับช่างหรอก เพราะเราเริ่มสนิทกันแล้ว”
“ไม่ต้องมาเปลื่ยนเรื่อง เอากุ้งตัวนั้นมาให้เราเดี๋ยวนี้”
“ไม่ให้ นั่นก็เต็มจานพูน อดยากมาจากไหน”
“ช่างกัน ปากไม่ดีเลยนะ”ฟีฟ่าว่างที่คีบไว้ที่เดิม แล้วเดินดุ่มๆไปที่โต๊หมูกระทะใกล้ๆทางออก โดยมีไนท์กลับมานั่งรอย่างเนื้อไปพลางๆ
“พี่ฟีฟ่าเป็นอะไรครับ”ไนท์สังเกตเห็นสีหน้าของฟีฟ่า ที่ไม่สบอารมณ์จึงถามขึ้น
“เจอคนไม่อยากเจอ”ฟีฟ่าวางจานกุ้งอย่างแรง
“ใครล่ะ”ฟีฟ่ามองไปรอบๆเขาก็เห็นช่างกันเดินมา นั่งอีกโต๊ะที่มีผู้ชายสามคนนั่งอยู่
“เห็นแล้วใช่ไหม กะว่าจะกินกุ้งย่างให้อร่อยซะหน่อย ดันมาเจอกางกุ้ง”
“พี่ฟีฟ่าก็ใจเย็นๆอย่าไปสนใจเขาเลย เราก็อยู่ส่วนของเรา”
“ก็ต้องตามนั้นแหละ”
“เดี๋ยวผมย่างกุ้งให้ครับ”
“ก็ได้”
ฟีฟ่าไม่ค่อยจะสะดวกแกะกุ้งซักเท่าไร เพราะเขาแอบเห็นช่างกันหันมามองบ่อยๆ จนเริ่มรำคาญอยากจะไปต่อว่า แต่ก็ไม่กล้าไปเพราะช่างกันมากับเพื่อนตั้งสามคน
“กินสองคนไม่เหงาเหรอ รวมโต๊ะกันไหม”ช่างกันขยับมานั่งริมสุดของโต๊ะแล้วเอ่ยขึ้น
“ไอ้กัน เพื่อนมึงคนนี้คุ้นๆกูว่าเคยเห็นที่ไหน”เพื่อนคนหนึ่งของกันในสนามแข่งรถพูดขึ้น
“หน้าโหลอย่างนี้เห็นได้โดยทั่วไป”
ฟีฟ่าไม่ตอบโต้อะไรได้แต่มองค้อน สองมือนั้นก็หยิบกุ้งใส่ปาก เพราะไนท์แกะไว้ให้จนเต็มจาน
“พี่กัน พี่ฟีฟ่าเขาไม่สะดวกจะคุยกับพี่ในตอนนี้”ไนท์มองหน้าช่างกัน
“/ไม่สะดวกฟีฟ่าแต่สะดวกพี่กัน แล้วน้องไนท์มีปัญหาอะไร”
“ไม่มีหรอกครับ แต่รบกวนพี่ฟีฟ่าเขา”
“รบกวนพี่ฟีฟ่าไม่ได้รบกวนน้องไนท์นี่”
“ผมมากับพีฟีฟ่าเราก็เหมือนคนเดียวกันนั่นแหละ”
“เหมือนกันตรงไหน”
“หยุด นายหยุดพูดได้แล้วช่างกัน”ฟีฟ่าหันไปมองช่างกัน
“ถ้าฟีฟ่าสั่งให้กูหยุดก็ได้ แต่มึงไม่มีสิทธิ์มาสั่งกูไอ้น้องไนท์”
“พอเถอะ น้องไนท์”ฟีฟ่ายกมือห้ามไว้ เพราะฟีฟ่าเห็นไนท์กำลังขยับปากจะพูดตอบโต้
ช่างกันหยุดพูดก็จริงอยู่แ ต่สายตาของเขายังไม่หยุดมองฟีฟ่า ด้วยจิตใจในตอนนี้ของช่างกันอยากจะเข้าไปนั่งแทนตรงที่ไนท์ ถึงกระนั้นช่างกันได้แต่คิด เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเช่นนี้กับฟีฟ่าได้
ช่วงเวลาสองชั่วโมงไนท์กับฟีฟ่าแสนอึดอัด เพราะสายตาของช่างกันไม่คลาดจากพวกเขาทั้งสอง เหตุนั้นนั่งเองที่ทำให้ความอร่อยในอาหารนานาชนิดลดน้อย
“กลับกันเถอะ”ฟีฟ่าเอ่ยขึ้น
“ครับ”ไนท์กวักมือเรียกพนักเสริฟมาเช็คบิล
“กินเด็กอิ่มแล้วเหรอ”ช่างกันยื่นหน้ามาข้างๆหูของฟีฟ่าพร้อมกระซิบเบาๆ
“กินเด็กนุ่มอร่อย ดีกว่ากินรุ่นเดียวกันหนังเหนียว”
“ว่าซะตัวเองไม่แกอย่างงั้น แต่ก็อยากกินรุ่นเดียวกันว่าจะเหนียวจริงหรือเปล่า”
“ฝันไปเถอะ”
“คอยดูนะฝันจะเป็นจริง”ช่างกันยื่นหน้ากลับตามเดิม
ฟีฟ่ามองหน้าช่างกันแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาจึงรอพนักงานเสริฟมาคิดเงิน ซึ่งก็ใช้เวลานานพอสมควรเพราะลูกค้าค่อนข้างเยอะ เมื่อพนักงานเสริฟมาถึงไนท์และฟีฟ่าก็ควักเงินออกมาคนละสามร้อยให้พนักงานเสริฟ
“คนละครึ่ง เด็กคนนี้ก็ถือว่ายังดีที่ไม่ให้พี่ฟีฟ่าออกให้”ช่างกันกระซิบเบาๆอีกครั้ง
“จุ้น”
“ไปกันเถอะครับพี่ฟีฟ่า”ไนท์เอ่ยขึ้น
“ฮือ”
ฟีฟ่าและไนท์รีบลุกขึ้นและเดินออกจากร้านไปยังที่จอดรถ ส่วนช่างกันควักเงินจากในกระเป๋าสามร้อยพร้อมกุญแจรถบิ๊กไบค์ไว้ที่เพื่อน
“ฝากจ่ายฝากขับกลับด้วยนะ”
“มึงจะไปไหน”
“ไม่ต้องรู้หรอก”
“อะไรของมันวะ เดี๋ยวนี้มันแปลกๆ”เพื่อนคนหนึ่งของช่างกันพูดขึ้น
ฟีฟ่ากำลังจะเปิดประตูรถ แต่เขาก็ต้องหยุดชะงักเพราะช่างกัน ตะโกนเรียกชื่อของเขาอย่างเสียงดัง
“อะไรอีกล่ะ”ฟีฟ่าเอ่ยขึ้น
“ไปด้วยคน พอดีไม่ได้เอารถมา เพื่อนมารับ เพราะอย่างไงเราอยู่ทางเดียวกันทั้งสามคน”
ฟีฟ่ายังไม่ได้ทันตอบรับ ช่างกันก็เปิดประตูเข้าไปนั่งท้ายรถทันที เพราะที่นั่งตรงหน้า ไนท์ยืนขวางประตูรถไว้อยู่
“นายนี่มันยุ่งไปซะทุกเรื่องเลย”ฟีฟ่าพูดขึ้นแล้วเปิดประตูเข้าไปในรถ พร้อมกันไนท์ที่ถอนหายใจก่อนที่จะเปิดประตูรถเข้าไปพร้อมกัน
ฟีฟ่านั่งนิ่งชั่วครู่หลังจากนั้นเขาก็ขับรถแล่นออกจากร้านหมูกระทะ โดยมีไนท์นั่งข้างๆส่วนช่างกันนั่งท้ายอย่างสบายใจ
“จะไปไหนกันต่อหรือกลับเลย”ช่างกันเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ
“กลับเลยซิ มีตัวถ่วงนั่งมาด้วยนิ”ฟีฟ่าโต้กลับได้เต็มที่เพราะมีกันแค่สามคน
“ไอ้น้องไนท์ ฟีฟ่าว่ามึงป็นตัวถ่วงว่ะ”
“พี่ฟีฟ่าเขาว่าช่างกันต่างหาก เพราะนั่งท้ายมันหนักเลยถ่วง”
“ใช่ น้องไนท์พูดถูก”ฟีฟ่าอดขำไม่ได้ เขาจึงยิ้มเบาๆ
“แต่ก็ไม่ได้หนักหัวมึงนี่ว่าไอ้ไนท์ แค่หนักรถ มันก็หนักกันทุกคนนั่นแหละ”
“แต่ผมว่าพี่หนักกว่านะ เท่าที่สังเกตผมเห็นช่างกันกินเยอะมาก ถ้ามีคนแบบช่างกันซักร้อยคน ร้านหมูกระทงคงจะเจ็งแน่ๆ ไม่รู้ว่ามากินครั้งแรกหรือมาบ่อยจนชิน”
“มันเรื่องของกูไม่ใช่เรื่องของมึงไอ้น้อง”
“ครับเรื่องของพี่ กระเพาะของพี่ ไม่หนักท้องผมอยู่แล้วแต่หนักท้องพี่”
“ไอ้นี่ปากดีนะ”
“พอเลยช่างกัน เป็นผู้ใหญ่แล้วยังไปเถียงกับเด็กอยู่นั่นแหละ”ฟีฟ่าห้ามศึกเพราะเริ่มรำคาญวาทกรรมทั้งสอง
“กูว่าไม่เด็กแล้วนะ ถ้าเด็กมึงจะกดถูกใจเฟสไอ้น้องไนท์ทุกรูปเหรอ โดยเฉพาะรูปที่ใส่ชุดว่ายน้ำเห็นเป็นลำ ไอ้น้องเราก็ขยันโชว์ส่วนพี่ก็ขยันดู”
“ช่างกันนายไม่มีมารยาทเลยนะ แอบไปส่องเฟสเรา”
“มึงก็เหมือนกันนั่นแหละ ชอบมาส่องเฟสกูเหมือนกัน ชอบกดหัวเราะกดตกใจ ไม่เคยกดหัวใจ ถูกใจให้กูเลย”
“ไม่มีอะไรให้น่าชวนมองและถูกใจ จะกดทำไมโพสต์แต่ละอย่างมีแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้”ฟีฟ่าหัวเราะออกมานิดหน่อย
“ใช่ ผมก็เห็นโพสต์คำคม ถ้าเมียดีมีเมียเดียว เจ็บแล้วจำคือคนเจ็บแล้วทนคือควาย อะไรของพี่เขาก็ไม่รู้”
“หุบปากไปเลยไอ้น้อง มันเรื่องของกู มึงสองคนไม่ต้องมายุ่ง”ช่างกันรู้สึกเสียหน้าเขาจึงคิด กลับถึงบ้านจะถอดเสื้อโชว์บ้าง ก่อนอาบน้ำจะใส่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว
“ถึงอู่ช่างกันแล้ว”ฟีฟ่าจอดรถหน้าอู่
“ไม่ต้องบอก อู่ตัวเองใครจะไม่รู้”ช่างกันลงจากรถด้วยความหงุดหงิด เพราะวันนี้เขาโดนรุมสอง เขาจึงเดินไม่หันหลับกลับมามอง รีบเดินเข้าไปในอู่ซ่อมรถของตัวเอง
“ดูๆไปช่างกันก็เป็นคนตลกดีหนอ”ไนท์พูดไปพรางขำนิดๆ
“ไม่ตลกบ้ามากกว่า”
“บ้า แต่พี่ฟีฟ่าก็ซ้อนท้ายรถของเขากลับมาด้วยนี่เมื่อคืนวานนี้”
“เรื่องมันยาววันหลังพี่จะเล่าให้ฟัง แต่พี่ไม่ได้ตั้งใจจะไปกับช่างกันหรอก”
“ถ้าเป็นอย่างงั้นก็ดีเลย ผมก็มีสิทธิลุ้นเหมือนกัน”
“ลุ้นอะไร”
“ลุ้นอยู่ในใจพี่ฟีฟ่าไง”
“แก่แดด จะมาอยู่ในใจอะไรของพี่”
“หรือว่าพี่มีคนอื่นอยู่ในใจ ใครนะช่างน่าอิ จฉา”
“พี่ไม่มีใครอยู่ในใจหรอก”คำพูดของไนท์ได้กระแทกใจของฟีฟ่าอย่างจัง เพราะเขาคิดถึงไอโซนัททันที ที่เขาแอบมีใจเล็กๆมาพักหนึ่ง
“หวังว่าคงจะเป็นความจริง ผมอาจจะได้สมหวังไปอยู่ในใจพี่ฟีฟ่าบ้าง”
“พูดไปเรื่อยเอาเวลาคิดเรื่องเรียน และซ้อมว่ายน้ำดีกว่า”
“ก็ได้ครับ ถ้าผมผ่านการคัดเลือกอีกครั้ง ที่จะไปแข่งซีเกมส์ พี่ฟีฟ่าจะมีอะไรให้ผมบ้างไหมครับ”
“จะเอาอะไร เหรียญทองก็ได้ เงินก็ได้ ชื่อเสียงก็ได้ หน้าตาอย่างน้องไนท์เนี่ยนะ ถ้าประสบความสำเร็จขึ้นมา ดังฉุดไม่อยู่แน่นอน พี่ต่างหากที่ไนท์อาจจะลืมก็ได้”
“ผมไม่มีวันลืมพี่ฟีฟ่าหรอก เพราะพี่ฝังอยู่ในใจมานานแล้ว”
“พอๆถึงบ้านแล้วไปเปิดประตูหน่อย”
ไนท์รีบลงจากรถและเลื่อนประตูออก เขาเกาะประตูรั้วมองรถของฟีฟ่าวิ่งเขามาภายในบ้าน หลังจากนั้นเขาจึงเลื่อนปิดประตูบ้านและเดินเข้ามาหาฟีฟ่าที่กำลังมาจากรถ
“วันนี้ผมมีความสุขมากเลย ที่ได้อยู่กับพี่ฟีฟ่าสองคน ถึงจะมีช่างกันมารบกวนบ้างก็ไม่เป็นไร”
“บางครั้งออกจะน่ารำคาญ แต่แกก็ตลกดี บางทีอยู่กับแก่ก็คลายเครียดได้บ้าง”ฟีฟ่าหัวเราะออกมานิดหน่อย
เสียงหัวเราะของฟีฟ่านั้น ทำให้ไนท์ใจหาย เขาไม่แน่ใจความรู้สึกของฟีฟ่าในขณะนี้ เหตุใดถึงอมยิ้มเมื่อพูดถึงช่างกัน
“มองหน้าพี่ทำไม ไปนอนได้แล้ว เราต้องตื่นมาวิ่งอีกไม่ใช่เหรอ”
“ครับพี่ฟ่า ฝันถึงผมด้วยนะ อย่างมัวแต่คิดถึงคนอื่นจนลืมผมล่ะ”
“ไปนอนได้แล้วยังจะมาปากหวานอีก”
“ครับ ผมจะทำตามคำสั่งพี่ฟีฟ่าทุกอย่าง”
ไนท์ยิ้มให้ฟีฟ่าด้วยสายตาที่ไม่ไว้วางใจความรู้สึกของฟีฟ่า ส่วนฟีฟ่ามองย้อนกลับไปที่สายตาของไนท์ เมื่อฟีฟ่าเห็นสายตาของไนท์เขาถึงกับต้องรีบหลบเบี่ยงไปทางอื่น ด้วยใจของฟีฟ่าขณะนี้รู้สึกถึงความหวั่นไหว และกลัวเผลอใจคิดอะไรกับเด็กคนนี้ เขาเลยต้องรีบวิ่งเข้าไปภายในบ้าน ปล่อยให้ไนท์ยืนยิ้มอยู่ตามลำพัง
ค่ำคืนนี้เป็นเป็นวันคล้ายวันเกิด ของเจมี่รุ่นพี่ที่ห้องสมุด ฟีฟ่าเลยต้องมาร่วมอวยพร ซึ่งงานในครั้งนี้มิได้จัดใหญ่โต มีแต่เพีอนรักมิตรสหายที่คบกันมา ในระหว่างที่ฟีฟ่านั่งดื่มน้ำส้มคั้น เพราะฟีฟ่าไม่แตะเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิด “พี่ขอนั่งด้วยคนได้ไหม”ไอโซนัทนั่งลงตรงหน้าฟีฟ่า “อยากนั่งก็นั่งสิ”ฟีฟ่ายกแก้วน้ำส้มขึ้นมาจิบและวางลง “ทำไมฟีฟ่าไม่รับโทรศัพท์พี่ ติดต่อทางไหนฟีฟ่าก็ทำเป็นเฉยเมย” “ฟีฟ่าไม่ว่าง ฟีฟ่าต้องไปกินหมูกระทะ” “ไปกินกับไนท์เหรอ”ไอโซนัทรู้ความจริงจากเจมี่ ที่ฟีฟ่าสื่อผ่านให้มาบอกไอโซนัทแบบอ้อมๆ “ใช่ อร่อยด้วย” “ทำไมไม่บอก ถ้าพี่รู้พี่จะได้พาฟีฟ่าไปกินสเต๊ก” “ไม่กินหรอกสเต็ก ไม่ชอบ ฟีฟ่าชอบกินกุ้ง” “หลังเลิกงานไปกินกุ้งไหม เดี๋ยวพี่จะมาไป” “ไม่หรอก มันดึกแล้วเดี๋ยวหน้าแก่” “พี่มีเพื่อนร้านเสิรมสวยความงาม เดี๋ยวพี่พาไปก็ได้พรุ่งนี้ถ้ากลัวหน้าแก่” “ไม่ชอบปรุงแต่ง ชอบแบบธรรมชาติ” “เอาอย่างนี้ไหมเดี๋ยวพี่พาไปอาบน้ำแร่แช่น้ำ
เช้าวันนี้ฟีฟ่าไปทำงานตามปกติ แต่มีเหตุบังเอิญรถของเขาเสียอยู่หน้าอู่ช่างกัน ซึ่งอู่ยังไม่ได้เปิดด้วยซ้ำ ฟีฟ่าจึงตัดสินใจลงจากรถแล้วไปเคาะประตูอู่ซ่อมรถ “ปัง ปัง ปัง” ฟีฟ่าเคาะประตูเสร็จก็ยืนรออยู่หน้าประตู สักพักช่างกันแง้มประตูออกมา พอช่างกันเห็นเป็นฟีฟ่าจึงดึงเข้ามาในอู่ทันที ฟีฟ่าไม่ทันได้ตั้งตัวรู้ตัวอีกทีเขาก็อยู่ข้างในอู่ หลังจากนั้นช่างกันปิดประตูทันที แล้วเขาก็เปิดไฟให้สว่าง พอแสงไฟส่องไปที่เรือนร่างของช่างกัน ฟีฟ่ายืนอึ้งอ้าปากค้าง เพราะช่างกันอยู่ในชุดกางเกงในตัวเดียว ส่วนรูปร่างก็บึกบึนมีกล้ามลีนๆ “นายดึงเราเข้ามาทำไม”ฟีฟ่ามีน้ำเสียงที่มีโมโห “กูไม่ได้จะข่มขืนมึงหรอก กูใส่กางเกงในตัวเดียว มึงจะให้กูออกไปหน้าอู่เหรอ” “ทำไมไม่ใส่กางเกงขาสั้นนอน” “มันเรื่องของกูหรือเปล่าวะ กูจะแก้ผ้านอนมันก็เรื่องของกู” “เอ่อ รถเราเสียน่ะ ซ่อมให้หน่อย แค่นี้แหละ ความจริงนายชะโงกหน้ามาก็ได้ ไม่ต้องถึงกับดึงเราเข้ามาข้างในหรอก” “กูจะดึงมึงเข้ามามึงจะทำไม”ช่างกันเดินเข้ามาใกล้ๆฟีฟ่า ส่วนฟ
ในช่วงเวลาพักเที่ยงไอโซนัทได้ส่งไลน์มาหาฟีฟ่า เพื่อชวนไปเที่ยวยามค่ำคืนใต้แสงเทียน บนเรือหรูในแม่น้ำเจ้าพระยาเพียงสองคน ฟีฟ่านั้นใช้เวลาตัดสินใจไม่นานเขาจึงตอบตกลง เพราะฟีฟ่ายังคิดถึงวันแรกที่ได้เจอไอโซนัทได้ ค่ำคืนนั้นเขามีความสุขและได้เจอสิ่งอันแปลกใหม่สำหรับเขา “ว่าไงน้องฟีฟ่าตกลงจะไปเที่ยวกับไอโซนัทไหม”เจมมี่นั่งลงข้างๆพร้อมจ้องสายตาของฟีฟ่า “ตกลงไปซิ ทำไมพี่เจมี่กับพี่กอล์ฟไม่ไปด้วยล่ะ” “มันหมดเวลาของพี่แล้วนะ พี่แค่เป็นสะพานต่อจากนี้ก็เป็นเรื่องพี่นัทกับน้องฟีฟ่าแล้วแหละ” “พี่เจมี่พูดแปลกๆเมื่อก่อนเชียร์พี่นัทอยู่เลยนี่ครับ” “ใช่ ตอนนี้พี่ยังเชียร์พี่นัทอยู่เลย เพราะพี่นัทเป็นผู้ใหญ่แล้วสามารถดูแลน้องของพี่ได้ ข้อสำคัญพี่นัทตามใจฟีฟ่าทุกอย่าง ตั้แต่เหตุการณ์วันนั้นเขาเลิกคบเพื่อนทั้งแก็งค์หมดเลยนะ เห็นไหมพี่เขาทำเพื่อฟีฟ่าขนาดไหน แต่เหนือสิ่งใด ความรักมันไม่สามารถบังคับจิตใจกันได้ ถึงพี่นัทจะดีทุกอย่างแต่ถ้าไมได้รัก อยู่ด้วยกันไปก็ไม่มีความสุขนะ” “พี่พูดยาวจังเลย” “พี่เห็นฟีฟ่าไปเที่ยวกับน้องนักว
วันหยุดสุดสัปดาห์เช่นเคยที่ฟีฟ่าต้องเอาอาหารไปให้ไนท์ ในวันนี้เขารู้สึกแปลกๆไม่เหมือนเช่นทุกวัน จิตใจในห้วงลึกหวั่นๆใจชอบกล แต่เขาพยายามสลัดความรู้สึกนั้นทิ้งไป แต่เมื่อเดินไปถึงขอบสระ ฟีฟ่าแอบรู้สึกผิดหวังเล็กๆ ที่ไม่เห็นไนท์อยู่ในสระว่ายน้ำ “พี่ฟีฟ่าเข้ามาในบ้านก่อนก็ได้ครับ ผมยังไม่ว่ายน้ำหรอก” “ไอ้เด็กบ้ารู้ทันอีก”ฟีฟ่าบ่นพึมพำในใจ เมื่อฟีฟ่าเดินเข้ามาในบ้านหลังน้อยๆแต่เนื้อที่บริเวณบ้านกว้างใหญ่ เพียงฟีฟ่าเปิดประตูเข้าไปในบ้านก็พบกับความรกข้าวของวางไม่เป็นที่เป็นทางเต็มไปหมด “ทำไมบ้านรกอย่างนี้ ไม่รู้จักเก็บกวาดให้เรียบร้อย บ้านของพ่อพี่ออกจะสวยงาม แต่น้องไนท์ทำซะเละเลย” “มาถึงก็บ่นๆยังไม่แก่ซักหน่อย ก็ไม่มีเวลาทำนี่ครับไหนจะเรียนหนังแล้วต้องซ้อมกีฬาอีก ถ้าพี่ฟีฟ่าว่างๆมาช่วยผมทำความสะอาดก็ได้ ดีกว่าไปล่องเรือเจ้าพระยา กับไปเป็นสก้อยท้ายรถบิ๊กไบค์”ไนท์เดินเข้ามาหาฟีฟ่าโดยมีผ้าเช็ดตัวผืนเดียว “ฟีฟ่ามันเรื่องของพี่นี่ พี่จะไปไหนกับใครก็ได้” “นั่นแสดงว่าพี่ฟีฟ่าปฏิเสธผมกลายๆใช่ไหม”
ฟีฟ่ากับยศนั่งคุยกันในห้องรับแขกตามภาษาพ่อลูก แต่แล้วก็มีชายหนุ่มที่คุ้นเคยเข้ามาหา โดยมีแม่ของฟีฟ่าเป็นคนเปิดประตูให้เข้ามา “สวัสดีครับพ่อ”ช่างกันยกมือไหว้ยศ “ใครพ่อมึง”ยศเริ่มมีสีหน้าที่ไม่พอใจเท่าไร “ก็พ่อไงครับ” “ไอ้นี่เห็นใจดีด้วย พูดอะไรไม่เกรงใจกันเลย” “ทำไมต้องเกรงใจครับ เพราะอีกหน่อยเราก็จะเป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้วนี่ครับ”ช่างกันนั่งข้างๆฟีฟ่า “บอกพ่อหรือยังเรื่องของเรา”ช่างกันพูดเสียงดังข้างๆหูฟีฟ่า “อะไรของนาย”ฟีฟ่าใช้สายตาปรามช่างกันไว้แต่ดูไม่เป็นผลซักเท่าไร “มีอะไรพูดมาตรงๆเรื่องอะไรบอกมา”ยศเอ่ยขึ้น “คือว่า ผมกับฟีฟ่ารักกันครับ” “ไม่จริงนะพ่อ”ฟีฟ่าตกใจกับคำพูดของช่างกัน “ใช่ครับ ฟีฟ่าขอเวลาตัดสินใจสักพัก แต่ผมรอไม่ไหวกลัวโดนแย่ง ทั้งหนุ่มนักว่ายน้ำและไอโซนั่นอีก ผมต้องชิงตัดหน้ามาพูดกับพ่อไว้ก่อน เพราะผมจริงใจมีอะไรก็จะพูดตรงๆครับ”ช่างกันมีน้ำเสียงที่หนักแน่น “เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ฟีฟ่าเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง” “
ช่วงพักเที่ยงไอโซนัทได้มาหาฟีฟ่าที่ห้องสมุดในมหาวิทยาลัย โดยมีเจมี่เป็นฝ่ายจัดแจงทุกอย่างให้ได้เจอกัน จึงทำให้ฟีฟ่าและไอโซนัทได้ออกไปข้างนอกด้วยกัน โดยไอโซนัทได้พาฟีฟ่าไปร้านอาหารธรรมดาร้านหนึ่ง เพราะเขาไม่อยากที่จะพาฟีฟ่าไปที่ร้านหรูอย่างที่เคยพาไป “ชอบไหมร้านแบบนี้”ไอโซนัทเอ่ยถามขึ้น สาเหตุที่ไอโซนัททำแบบนี้เพื่อที่จะปรับตัวให้เข้ากับฟีฟ่าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในช่วงเวลานี้ เพราะไอโซนัทรู้ตัวว่าคุ่แข่งของเขานั้นมีตั้งสองคน ซึ่งแต่ละคนก็ไม่ธรรมดาเขาจึงไม่อาจไว้วางใจได้ “ชอบครับ ร้านแบบนี้ก็ดีเหมือนกันไม่ต้องมีอะไรมาก แค่สั่งมาแล้วกิน” “พี่ดีใจนะที่น้องฟีฟ่าชอบร้านอาหารที่พี่พามา และพี่จะพามาบ่อยๆ สั่งอาหารเลยซิ เพราะวันนี้เรามีเวลากันน้อย” “ครับ” “ไม่ต้องเกรงใจพี่นะ” ฟีฟ่าและไอโซนัทได้สั่งอาหารอย่างที่ตัวเองชอบไม่กี่อย่าง เพราะด้วยเวลาอันเร่งรับมีแค่หนึ่งชั่วโมงช่วงพักเที่ยง “พักนี้น้องฟีฟ่าไม่ค่อยมีเวลาไปไหนมาไหนกับพี่เลยนะ เห็นเจมี่เล่าว่าไปโน้นไปนี่ตลอดเวลาเลย จนทำให้พี่รู้สึกน้อยใจเป็นบางคร
ก่อนที่ไนท์จะออกไปเก็บตัวฝึกซ้อม เขาได้เข้ามาหาฟีฟ่าในบ้าน ซึ่งยศผู้เป็นพ่อก็เห็นอยู่แต่เขาแสร้งไม่เห็น เพราะไม่อยากไปขัดขวางจะทำให้ไนท์เกิดความเครียดอาจส่งผลต่อการแข่งขัน เมื่อทั้งคู่ได้อยู่ในห้องโถง มีโซฟาสามตัวต่อติดกันไว้ ไนท์นั่งลงข้างๆฟีฟ่าจนตัวติดกันทีเดียว “นั่งห่างๆก็ได้ เดี๋ยวพ่อพี่มาให้”ฟีฟ่าสอดสายตามองไปรอบๆบ้าน “ถึงเห็นโค้ชก็ไม่ว่าอะไรหรอก ผมว่าโค้ชคงเห็นอะไรบ้างแหละ ตอนที่เราอยู่สองคนตั้งหลายครั้ง”ไนท์อมยิ้ม “พูดไปเรื่อยมาหาพี่มีอะไร” “เดี๋ยวสายๆผมต้องไปเก็บตัวแล้วครับ อาทิตย์หน้าต้องลงแข่งเพื่อคัดตัวไปแข่งซีเกมส์” “เหรอ พี่อวยพรให้โชคดีนะ”ฟีฟ่าเปลื่ยนสีหน้าหันมายิ้มแย้มให้กำลังใจ “ผมชอบรอยยิ้มพี่ฟีฟ่าจังเลย” “อย่ามัวมาชอบรอยยิ้มพี่เลย เอาเวลาไปซ้อมเพื่อชัยชนะเถอะ” “ถ้าเกิดผมพลาดการคัดเลือกพี่ฟีฟ่าจะมีรางวัลอะไรให้ผมไหม” “จะเอาอะไรล่ะ รถเบนซ์เหรอ” “เอาไปทำไมผมอยากได้ใจพี่ฟีฟ่ามากกว่า เมื่อไรพี่จะให้ใจผมซักทีล่ะครับ” “เอาอีกแล้ว เอาคำพูดหวานๆ
หลายวันผ่านมาและในค่ำคืนที่เหลือไม่กี่วัน ถึงคราที่ฟีฟ่าตต้องตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะทำเช่นไรกับชีวิต ซึ่งในระหว่างที่ฟีฟ่านั่งนิ่งครุ่นคิดอยู่นั้น ยศและสินีผู้เป็นแม่ได้มานั่งข้างๆทั้งสองฝั่งซ้ายขวา “พ่อกับแม่มีอะไรเหรอครับ”ฟีฟ่าหันมองซ้ายทีขวาที “พ่อต้องถามฟีฟ่ามากกว่ามั้ง ว่าเป็นอะไรมานั่งซึมคนเดียวหลายวันแล้วนี่”ยศมองหน้าลูกชายแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะความสดใจร่าเริงของฟีฟ่าได้หายไป ในช่วงแรกยศคิดว่าฟีฟ่าอาจคิดถึงไนท์ แต่เมื่อได้ยินเรื่องราวต่างๆที่สินีเล่าให้ฟัง ว่ามีหนุ่มสามคนชวนฟีฟ่าไปเที่ยวหนึ่งในนั้นรวมไนท์ด้วย “ไม่มีอะไรหรอกครับพ่อนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย”ฟีฟ่าพยายามฝืนยิ้ม แต่เขาก็ไม่สามารถปิดบังซ้อนเร้นความคับอกคับใจได้ “ไม่ต้องปิดบังพ่อกับแม่หรอก แม่รู้ทุกอย่างในวันนั้นแม่ไม่ได้แอบฟังนะ แต่แม่บังเอิญได้เห็นได้ยิน”สินีขยับมือลูบศีรษะของลูกชาย “พ่อรู้ว่าลูกพ่อชอบแบบไหน พ่อไม่สนหรอก แต่ที่พ่อสนใจ พ่ออยากรู้ว่าลูกจะตัดสินใจอย่างไรมากกว่า ซึ่งพ่อรับได้หมดทุกคนที่ลูกเลือก”ยศยิ้มอย่างผู้ใหญ่ใจดีให้ฟีฟ่าได้เห็นเพื่อจะได้สบาย