เช้าวันสุดท้ายที่ฟีฟ่าต้องเลือกแล้วว่าจะไปไหนกับใคร หรือว่าไม่ไปที่ไหนสักแห่งกับหลายคนที่มาเชิญชวน วันนี้จึงเป็นวันที่จิตใจของฟีฟ่าว้าวุ่นและกดดันไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี
ฟีฟ่านั่งครุ่นคิดอยู่นานจนถึงเวลาที่เขาต้องตัดสินใจบางอย่าง ฟีฟ่าจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างเร่งรีบเพราะเขาปล่อยเวลาให้เนิ่นนานไปพอสมควร เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยฟีฟ่าจึงออกจากห้องไปยังจุดหมายที่ใจของเขาต้องการ
ฟีฟ่าขับรถออกจากบ้านจนมาถึงอู่ซ่อมรถของช่างกัน เมื่อช่างกันเห็นฟีฟ่าเดินลงมาจากรถ เขารีบเดินไปหาฟีฟ่าในทันที
“กูดีใจนะที่มึงจะไปเที่ยวกับกู”
“คือ เรา เอ่อ”
“อะไร หรือว่ามึงจะมาบอกกูว่าไม่ไป”ช่างกันมีสีหน้าที่ตื่นตระหนก
“ใช่”ฟีฟ่ามีสีหน้าที่ซึมลง
“ทำไม”
“เรารักนายแบบเพื่อนคนหนึ่ง”
“น้ำเน่ามาก แต่กูก็เข้าใจมึงนะ คนอย่างกูใครจะมาชอบ”ช่างกันยังตะลึงกับคำพูดของฟีฟ่า
มันไม่ใช่อย่างนั้นนายเป็นคนดีคนหนึ่งเลย”
“ไม่ต้องมาพูดดีหรอก กูรู้ตัวดีแต่กูก็เคารพการตัดสินใจของมึง”
“ขอบใจนายมากนะที่เข้าใจเรา”
“ไม่ต้องขอบใจหรอก”
ฟีฟ่ามองหน้าช่างกันและอดสงสารไม่ได้ แต่ที่ฟีฟ่าปฏิเสธไปกับช่างกันนั้น เป็นเพราะว่านิสัยตรงข้ามกันสิ้นเชิง ถึงแม้การไปเที่ยวกับช่างกันครั้งก่อน ฟีฟ่าจะมีความสุขก็ตาม แต่เมื่อเขาคิดถ้าต้องมาอยู่ด้วยกันน่าจะเกิดความวุ่นวาย และต้องปรับตัวเขาหากันอย่างมาก ฟีฟ่าจึงตัดสินใจปฏิเสธความรักที่ช่างกันมอบให้
“มึงจะไปไหนก็ไป”ช่างกันยืนนิ่งๆ
ฟีฟ่าหลับตาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะเดินไปยังรถของเขา ฟีฟ่าหันหน้ามายิ้มให้ช่างกัน แต่ไร้การยิ้มตอบฟีฟ่ารู้สึกใจเสียขึ้นมาทันที แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเข้าไปในรถและสตาร์ทรถออกไปอย่างเศร้าใจพอสมควร
เมื่อช่างกันทำใจได้พักหนึ่ง เขาจึงตัดสินใจหยิบเป้สะพายที่หลัง และขับรถบิ๊กไบท์ออกไปอย่างซ้ำใจ โดยเปลื่ยนจุดมุ่งหมายไปยังกลุ่มเพื่อนบิ๊กไบท์ ที่เขาได้ปฏิเสธร่วมเดินทางในครั้งนี้ เพื่อที่จะไปเที่ยวกับฟีฟ่าแต่ก็ไม่เป็นดั่งหวัง
ฟีฟ่าได้เดินทางมาถึงในสนามบินเขาก็มองไปรอบๆ เพื่อหาไอโซนัทแต่ก็ยังหาไม่เจอ จนกระทั่งเขาได้ยินเสียไอโซนัทดังมาจากด้านหลัง ฟีฟ่าจึงรีบหันหน้าไปหาไอโซนัททันที
“พี่ดีใจมากเลยที่น้องฟีฟ่าจะไปเที่ยวกับพี่”ไอโซนัทยิ้มอย่างเบิกกว้าง
“คือ”ฟีฟ่าก้มหน้าต่ำลงไม่กล้าพูดอะไร
“น้องฟีฟ่าเป็นอะไร”ไอโซนัทสงสัยในท่าทีของฟีฟ่า
“ฟีฟ่าจะมาส่งพี่นัทน่ะ”
“น้องฟีฟ่าไม่ไปกับพี่ด้วยเหรอ”
“ไม่ได้ไปด้วยครับ”
“ทำไม”ไอโซนัทตะลึงกับคำตอบที่ได้ยิน
“ฟีฟ่ารักพี่นัทเหมือนพี่ชายคนหนึ่งครับ”
“น้องฟีฟ่าตัดสินใจอีกครั้งก็ได้นะ พี่จะเลื่อนเที่ยวบินทันทีเลย เรากลับบ้านกันเถอะ”
“พี่นัทไปเที่ยวตามเดินเถอะครับ”
“ถ้าน้องฟีฟ่าไม่ไปพี่ก็ไม่ไป”
“พี่อย่าให้ฟีฟ่าลำบากใจซิครับ”
ไอโซนัทหยุดทุกอย่างเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ก่อนหน้านี้ไอโซนัทก็คิดอยู่แล้วว่าถ้าฟีฟ่าปฏิเสธ เขาจะยอมรับความจริงความเจ็บปวดทุกอย่าง แต่พอถึงเวลาขึ้นมาจริงๆเขาก็ทำไม่ได้อย่างที่คิดไว้
“พี่ขอโทษ ถ้าพี่ทำให้น้องฟีฟ่าลำบากใจ”
“พี่นัท ฟีฟ่าขอโทษด้วยนะครับ”
“พี่เข้าใจ”
“ขอบคุณพี่นัทมากครับที่เข้าใจฟีฟ่า”
“ได้เวลาเช็ดอินแล้วนะ พี่เข้าไปข้างในก่อน แต่พี่ก็ดีใจที่น้องฟีฟ่ายังมาส่งพี่ ไม่หนีหายไปไหน มีอะไรก็บอกพี่ตรงๆ”
“ครับพี่นัท”
ไอโซนัทพยักหน้าและหันหลังเดินเข้าไปในจุดเช็คอิน ฟีฟ่ารู้สึกใจหายเมื่อเห็นไอโซนัทค่อยๆเดินเข้าไปในจุดเช็ดอิน ในความรู้สึกและนึกคิดของฟีฟ่าที่ไม่เลือกไอโซนัท เพราะเขายังจำบรรดาเพื่อนๆของไอโซนัทได้อยู่ ซึ่งเขาก็รู้ตัวได้ว่าเข้ากับเพื่อนของไอโซนัทไม่ได้ ไหนจะพ่อแม่ญาติพี่น้องอีกหลายคน ซึงฟีฟ่าคิดว่าถ้าเขาได้เข้าไปสัมผัสตรงนั้นอีก คงไม่มีความสุขอย่างแน่นอน เขาจึงตัดสินไม่ไปกับไอโซนัท และข้อสำคัญฟีฟ่ารู้ใจตัวเองแล้วว่ารักใคร เมื่อฟีฟ่าได้สติกลับคืนมาเขาจึงรีบไปตามหาหัวใจตัวเอง
สายตาของฟีฟ่ามองไปรอบๆบริเวณสระว่ายน้ำทันที เพื่อมองหาใครสักคนที่กำลังรอเขาอยู่ ซึ่งผู้นั้นก็กำลังมองมาเหมือนกัน แล้วสายตาทั้งสองก็ปะทะกันพร้อมกับรอยยิ้มอันสดใจของทั้งคู่ ฟีฟ่านั่งยิ้มแล้วโบกมือให้ไนท์ ในส่วนของไนท์มองแวบเดียวและรีบหันกลับเพื่อเตรียมตัวเข้าแข่งขัน
ฟีฟ่านั่งอยู่บนอัฒจันทร์อย่างอารมณ์สองทาง เขาหวังว่าไนท์จะประสบความสำเร็จได้รับชัยชนะ และอีกใจหนึ่งฟีฟ่าตัดสินใจเลือกไนท์ เพราะค่ำคืนที่ผ่านมาเขามีความรู้สึกเอียงเอนมาทางไนท์มากกว่าคนอื่น และฟีฟ่าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
เมื่อการแข่งขันจบสิ้นผลแข่งขัน ไนท์ผ่านคัดเลือกเข้าไปแข่งรายการซีเกมส์ ฟีฟ่านั่งยิ้มและมองไปยังไนท์ที่ในตอนนี้เขาไม่ได้มองมาทางฟีฟ่าเลย เพราะมีหลายคนต่างแสดงความยินดีกับเขามากมาย ทั้งหญิงชายหลายคนล้อมเขาจนฟีฟ่ามองไม่เห็นไนท์
บรรดาคนดูต่างทยอยออกจากสนามจนเกือบหมด แต่ฟีฟ่าก็ยังไม่เห็นไนท์เดินมาหาเขา แต่สิ่งที่ฟีฟ่าเห็นไนท์กำลังเก็บข้าวของเข้าไปในห้องแต่งตัว ซึ่งฟีฟ่าก็เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เขาก็อดน้อยใจไม่ได้เพราะฟีฟ่าอุตส่าห์ปฏิเสธสองหนุ่ม เพื่อมาดูไนท์แข่งว่ายน้ำ แต่เขากลับไม่มีเวลามาหา ฟีฟ่าเริ่มหน้าบึ่งอารมณ์ครุ่นเคือง เขาจึงลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากสนาม พร้อมขับรถออกไปในทันที ฟีฟ่ายังไม่อยากกลับบ้านเขาจึงขับรถไปเรื่อยๆ จนเริ่มรู้สึกหิวเขาจึงไปกินข้าวและเดินเล่นในห้างจนเย็นถึงกลับเข้ามาในบ้าน
เมื่อฟีฟ่าเข้ามาในบ้านเขาก็เห็นพ่อกับแม่นั่งอยู่ และสายตาทั้งสองก็จ้องมองเขาอย่างเขม็ง จนฟีฟ่าต้องหลบสายตาและกำลังจะนั่งลง
“ไม่ไปหาไนท์เหรอ”ยศผู้เป็นพ่อพูดขึ้น
“ไปหาทำไม”ฟีฟ่าแกล้งหันหน้าไปทางอื่น
“อ้าวสรุปลูกแม่ไม่เลือกใครซักคนเลย แม่ก็เข้าใจผิดนึกว่าลูกเลือกไนท์”
“แม่เข้าใจผิดแล้วแหละ”ฟีฟ่ายังหน้าบึ่งอยู่
“เหรอ”ยศอมยิ้ม
“ถ้างั้นก็ดี ลูกจะได้อยู่กับพ่อและแม่นานๆ”สินีเอ่ยขึ้น
“ครับ”
“ถ้าไม่ได้คิดอะไรก็ดีแล้ว แม่ทำกับข้าวให้ไนท์ไว้น่ะ เอาไปให้ไนท์ได้ไหม วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายที่ไนท์จะอยู่บ้านเราแล้วด้วย”
“ฮ่ะ”ฟีฟ่าหันหน้าไปมองผู้เป็นแม่
“ใช่ พรุ่งนี้ไนท์ต้องไปเก็บตัวเตรียมแข่งซีเกมส์นี่”ยศเอ่ยขึ้น
“เหรอ”คำพูดกับความรู้สึกของหัวใจในตอนนี้ของฟีฟ่าต่างกันราวฟ้กับาดิน
“เอาข้าวไปไนท์เร็วๆเข้าป่านนี้หิวแย่แล้วมั้ง”สินีเอ่ยขึ้น
“ก็ได้ครับ”ฟีฟ่าหยิบปิ่นโตแล้วเดินไปยังบ้านที่ไนท์พักอยู่ โดยมีสายตาผู้เป็นพ่อและแม่มองตามและอมยิ้ม หลังจากนั้นหันหน้ามามองกันแล้วหัวเราะ
ฟีฟ่าเดินเข้าไปในบ้านพักของไนท์ เพียงเขาเปิดประตูเข้าไปก็เจอแต่เพียงความว่างเปล่า ฟีฟ่ามองไปรอบๆแล้วเริ่มรู้สึกหวั่นไหว ใจของเขาคิดไปว่าไนท์นั้นคงยังไม่กลับหรือไม่ก็จากไปแล้ว ฟีฟ่าจึงนำปิ่นโตไปวางบนโต๊ะ แล้วเดินมองหาไนท์จนรอบแต่ก็ไม่เจอ ฟีฟ่าจึงตัดสินใจเดินออกจากไป แต่ยังไม่ทันพ้นประตูเขาก็รู้สึกได้ว่ามีคนมาโอบกอดจากด้านหลัง
“จะรีบไปไหนครับ”
ฟีฟ่าพยายามแกะมือของไนท์ที่กอดเขาไว้แน่น พร้อมดิ้นร่างกายให้หลุดจากอ้อมกอด เพราะเขาคุ้นเคยเสียงของไนท์เป็นอย่างดี ถึงแม้จะไม่เห็นหน้าแค่ได้ยินเสียงก็รู้แล้วว่าเป็นไนท์
“ปล่อยพี่นะ”
“มาถึงที่แล้วจะปล่อยทำไม”
“พี่แค่เอาข้าวมาให้หมดหน้าที่ของพี่แล้ว”
“ยังไม่หมด” เมื่อไนท์พูดจบเขาก็หอมแก้มของฟีฟ่าทันที และเลื่อนลงมาไซร้ซอกคอของฟีฟ่า
“ปล่อยพี่นะ อย่ามาทำแบบนี้เราไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“ทำไมจะไม่เป็น เมื่อกลางวันพี่ยังไม่เชียร์ผมเลย แสดงว่าพี่ฟีฟ่าเลือกผมแล้วนี่ครับ”
“ใครบอก พี่ไปเชียร์พ่อพี่ต่างหาก”
“เหรอ แต่ผมยังจำรอยยิ้มที่พี่ฟีฟ่าส่งให้ผมก่อนแข่งได้เลยนะ”
“พี่ก็ยิ้มไปอย่างนั้นแหละ”
“แต่ผมไม่คิดเช่นนั้น”
“อย่างมามะโน”
“ผมไม่ได้มะโน แต่เรื่องนี้เอาไว้ก่อน ยังไม่ได้พูดเรื่องที่พี่รับปากผมไว้เลย”
“รับปากอะไร”
“คนน่ารักลืมง่ายจังแบบนี้ต้องลงโทษ”ไนท์หอมแก้มฟีฟ่าอีกครั้ง
“จะหอมอะไรหนักหนาแก้มพี่ซ้ำไปหมดแล้ว”
“ไม่ใช่แก้มผมช่างมัน”
“เห็นแก่ตัว”
“ก็เหมือนพี่ฟีฟ่านั่นแหละ พี่ฟีฟ่าก็เห็นแก่ตัวด้วยเหมือนกัน”
“พี่เห็นแก่ตัวตอนไหน”
“ก็ตอนเมื่อกลางวันไง ทำไมพี่ฟีฟ่าไม่รอผมที่อัฒจันทร์ พอผมเปลื่ยนเสื้อผ้าเสร็จออกมาก็ไม่เห็นพี่ฟีฟ่าแล้ว ผมจึงรีบกลับมาบ้านรอพี่ฟีฟ่าตั้งนานจนเย็น พี่ไปไหนมาหรือว่าไปหาช่างกันกับไอโซนัท”
“ไม่ต้องมาปากดี ตัวเองนั่นแหละ”ฟีฟ่ารู้สึกผิดนิดๆที่ไม่รอไนท์ เขาจึงยืนนิ่งๆไม่ดิ้นอย่างแต่ก่อน
“ไม่ต้องมาปากกับใจไม่ตรงกันหรอกครับ”
“ตัวเองนั่นแหละไม่ต้องมาโทษพี่”ฟีฟ่าเอ่ยขึ้น
“ก็ได้ครับผมผิด ถึงผมไม่รู้ว่าผิดอะไร ผมยอมรับผิดก็แล้วกัน เพราะผมอยากมีเวลาดีๆอยู่กับพี่นานๆ เพราะพรุ่งนี้ผมต้องไปเก็บตัว กว่าจะเจอพี่ตัวเป็นๆอีกนาน”
“น้องไนท์พูดอย่างกับพี่เป็นตัวอะไรอย่างนั้นนั่นแหละ”
“ก็เป็นตัวที่ผมรักไงครับ”
“ไม่ต้องมาปากหวานเลย”
“ก็ต้องหวานสิ พี่ฟีฟ่าจะได้หลงผม”ไนท์กอดฟีฟ่าแน่นกว่าเดิมอีกเท่าตัว
“จะมายืนกอดกันอยู่อย่างนี้เหรอ”ฟีฟ่ารู้สึกเขินอายเขาจึงรีบเปลื่ยนเรื่องพูดทันที
“ถ้างั้นไปนอนกอดกันก็ได้ครับ”
“ทะลึ่ง”
“เอาล่ะผมไม่เถียงกับพี่แล้วแหละ แต่พี่ลืมสัญญาอะไรหรือเปล่าถ้าผมแข่งชนะ”
“ไม่ลืมหรอก แต่พรุ่งนี้จะไปเก็บตัวแล้วนี่ พี่จะพาไปเที่ยวหรือไปหารางวัลที่ไหนทันล่ะ”
“ใช่ ถ้างั้นเปลื่ยนเป็นตัวพี่ได้ไหม”
“จะเอาตัวพี่ไปทำอะไร”ฟีฟ่ารู้สึกอายนิดหน่อย
“พี่โตกว่าผมน่าจะรู้นะว่าจะเอาตัวพี่ไปทำอะไร”
“พี่ไม่รู้พี่ไม่เคย”
“ไม่เป็นไรถ้างั้นผมสอนให้พี่ฟีฟ่าก็แล้วกัน”
“ไม่ต้องหรอก พี่จะกลับแล้ว”
“ผมยังไม่ให้กลับผมยังไม่รู้เลยทำไมพี่ถึงเลือกผมครับ”
“พี่ไม่ได้เลือกใครเลย”
ฟีฟ่าแกล้งพูดแล้วอมยิ้มนิดๆ เพราะเวลาที่เขาอยู่กับไนท์ ฟีฟ่ามีความสุข และเป็นตัวของตัวเอง ถึงไนท์จะอายุน้อยกว่าแต่สามารถเข้ากันได้ดี
“ผมไม่คิดเช่นนั้น เอาเป็นว่าผมคิดไปเองว่าพี่ฟีฟ่าเลือกผม แต่ผมมีเวลาไม่มากผมต้องขอมัดจำพี่ฟีฟ่าไว้ก่อน”
“มัดจำอะไร”ฟีฟ่ามีสีหน้าที่สงสัย
“ก็อย่างนี้ไง”
ไนท์ปล่อยแขนออกและช้อนร่างของฟีฟ่าไว้ใต้วงแขน จึงทำให้สายตาทั้งสองประสานกันอย่างไม่ตั้งใจอีกครั้ง
“จะทำอะไรพี่”
“ทำอย่างคนที่เขารักทำไง”
“บ้า”ฟีฟ่าพูดจบหันหน้าไปทางอื่น
ไนท์ไม่พูดต่ออะไรอีกเลยเขาอุ้มร่างของฟีฟ่าเข้ามายังห้องนอน และวางลงบนเตียงอย่างนิ่มนวล
“มืดแล้วพี่จะกลับบ้าน”ฟีฟ่าพยายามลุกขึ้นนั่ง แต่ไม่สำเร็จเพราะไนท์กดร่างไว้
“ขอมัดจำก่อนค่อยกลับได้ไหม”
“ไม่ได้”
“ไม่ได้ทำไมนอนนิ่งเลยล่ะ”
“น้องไนท์”ฟีฟ่าพูดเสียงดังขึ้นมา
ไนท์ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยเขาประกบปากของฟีฟ่าทันที จนฟีฟ่าไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีก เขาจึงปล่อยตัวปล่อยใจตามแรงปรารถนาของตัวเองและไนท์ในค่ำคืนสุดท้ายก่อนที่ไนท์จะจากไปจากแห่งนี้
หลังเลิกงานฟีฟ่าหนุ่มบรรณารักษ์เดินดุ่มๆออกจากมหาวิทยาลัย เนื่องด้วยวันนี้รถของเขาเสียจึงอยู่ที่ร้านซ่อม ฟีฟ่าจึงต้องขึ้นแท็กซี่กลับบ้าน ฟีฟ่าคิดไว้ว่าจะรอรถที่หน้ามหาวิทยาลัย แต่ยังเดินไปไม่ถึงก็มีรถจอดข้างๆ “ขึ้นรถมาเร็ว”เจมี่รุ่นพี่บรรณารักษ์เรียกฟีฟ่าขึ้นรถ “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจะขึ้นแท็กซี่กลับก็ได้ครับ” “ไม่ได้วันนี้พี่มีธุระจะคุยด้วย” “เอ่อ ก็ได้ครับ” ฟีฟ่ารีบขึ้นรถนั่งข้างหน้าคู่กับเจมี่รุ่นพี่ เมื่อฟีฟ่าขึ้นมาในรถแล้ว เจมี่ก็รีบขับรถออกไปทันที “พี่เจมี่มีอะไรจะคุยกับฟีฟ่าเหรอครับ” “ฟีฟ่านี่หน้าตาน่ารักดีนะอายุก็เกือบสามสิบแล้วหน้ายังเด็กอยู่ด้วย ดูอย่างพี่ซิอายุสามสิบหน้าปาเข้าไปสี่สิบแล้ว”เจมีหนุ่มบรรณารักษ์รุ่นพี่ยิ้มอย่างสดใส พรางหัวเราะไปด้วยความขบขันตัวเอง “พี่อย่าพูดอย่างนี้สิ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ” “พี่รู้ตัว พี่ยอมรับความจริงได้ไม่ต้องปลอบใจพี่หรอก” “ไม่ได้ปลอบใจหรอกครับ แต่ถึงอย่างไงพี่กอล์ฟก็รักพี่ที่สุดอยู่แล้ว” “แหม มันแน่อยู่แล้ว ที่พี่ชวนข
นัทไอโซหนุ่มมองฟีฟ่าไม่วางสายตา เพราะความน่ารักของฟีฟ่าที่มีมาก หน้าตาจิ้มลิ้มตาใสเป็นประกาย ปากนิดจมูกหน่อย ผิวขาวใสผ่องเนียน รูปร่างไม่สูงมากแต่ก็ไม่ผอมบาง “คุณนัทมองอะไร”ฟีฟ่ารู้สึกเขินอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ไม่ต้องเรียกคุณหรอกเรียกพี่นัทก็ได้” “ครับพี่นัท”ฟีฟ่ายิ้มเขินๆ “พี่กำลังอยากได้คนรีวิวบ้านอยู่พอดีเลย พี่อยากชวนน้องฟีฟ่าไปเป็นคนรีวิวบ้านพี่ได้ไหม” “ฟีฟ่าไม่เคยทำครับ กลัวทำได้ไม่ดี อีกอย่างฟีฟ่าพูดไม่เก่ง ทำไมไม่จ้างพวกยูทูปเปอร์ล่ะครับ” “พี่อยากได้ความแปลกใหม่ ได้คนใหม่ๆบ้างไม่อยากได้คนที่หน้าซ้ำน่ะ” “แต่ฟีฟ่าไมได้ดังเป็นคนธรรมดานะครับ ใครที่ไหนจะมาสนใจล่ะ” “เมื่อก่อนดาราก็เป็นคนธรรมดา ทำไมภายหลังเขามาดังได้ล่ะ ฟีฟ่าก็เหมือนกันทำไมจะเป็นไม่ได้ ยิ่งหน้าตาของฟีฟ่านี่อยู่ในกระแสช่วงนี้ด้วย” “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ” “ถึงซิ ถ้าไม่ถึงพี่จะมองฟีฟ่าอยู่อย่างนี้เหรอ” “นั่นมันสายตาพีนัทคนเดียว แต่สายตาคนซื้อบ้าน เขาจะมองแบบพี่นัทหรือเปล่า
วันจันทร์ต้นสัปดาห์ฟีฟ่ามาทำงานอย่างเช่นเคย หน้าที่ของฟีฟ่าคอยรับคืนหนังสือต่างๆ ที่บรรดานักศึกษาวนเวียนมาทั้งวัน ไม่เว้นแม้แต่เวลาเที่ยงวันซึ่งเป็นเวลากินข้าว ในส่วนของฟีฟ่านั้นไม่ต้องลงไปกินที่โรงอาหาร เพราะแม่ของฟีฟ่าได้จัดอาหารการกินมาพร้อมทุกวัน ฟีฟ่าจึงมานั่งกินในห้องเล็กๆสำหรับเจ้าหน้าที่บรรณารักษ์ “กินม่วนเชียว”เจมี่ทัก เมื่อเขากินข้าวนอกมหาวิทยาลัยกับแฟนหนุ่มเสร็จ และกลับเข้ามาในห้องสมุด “กินด้วยกันไหมพี่ วันนี้มีผัดกระเพาปลาหมึกไข่ดาว มีมะม่วงเปรียวจิ้มพริกเกลือด้วย แก้ง่วงนอนเป็นอย่างดี พี่เจมี่แกะกินเลย” “พี่ไม่เกรงใจแล้วนะ ช่วงบ่ายชอบง่วงนอนอยู่ด้วย” “เอาเลยเดี๋ยวฟีฟ่ากินตามทีหลัง” “เมื่อคืนก่อนพี่นัทเป็นไงบ้าง”เจมี่ถาม “ปากหวาน” “แหม ไม่ชอบเหรอปากหวานน่ะ” “ยังไม่รู้เลยตอนนี้ก็ยังไม่ได้คิดอะไร”ฟีฟ่ายังก้มหน้ากินข้าวต่อไปอีก ทั้งๆที่ใจก็แอบคิดอยู่เหมือนกัน “แล้วทำไมไม่บอกเบอร์โทรพี่นัทไปล่ะ ให้มาถามพวกพี่อยู่ได้” “ถ้าให้ไปก็เหมือนง่าย ถ้าไม่บอกให้เอาเบอร์ที่พี่ก็เห
ช่วงเย็นอีกวันถัดไป ฟีฟ่าพึ่งกลับมาถึงบ้าน เขาก็นั่งพักผ่อนกดโทรศัพท์มือถือดู ซึ่งเขาก็เห็นข้อความทางไลน์เด้งขึ้นมา “รถซ่อมเสร็จแล้ว” “เท่าไร” “หมื่นสอง” “แพงจัง” “ถ้าไม่เอาจะถอดอะไหล่ออกแล้วนะ” “ก็ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปเอา” “พรุ่งนี้ไม่อยู่” “วันรืน” “ไม่ว่าง” “วันถัดไป” “ไปขายรถมึง” “ตอนนี้อยู่คนเดียวไม่มีใครไปส่ง รอตอนค่ำได้ไหม” “จะไปแดกเหล้า” “ถ้างั้นช่างมารับหน่อยก็แล้วกัน” “ไม่ว่างเล่นมือถืออยู่” “ไปตามวินมอเตอร์ไซค์ให้หน่อยก็ยังดี” “ไม่ไปขี้เกียจเดิน” “ถ้างั้นว่างวันไหนก็บอกมา เดี๋ยวจะไปเอารถวันนั้น” “ชาติหน้า” “ไปตายซะ” ฟีฟ่ารำคาญความกวนอารมณ์ของช่างกันอย่างมาก แต่เขาก็อยากไปเอารถอยู่เหมือนกัน แต่ก็ขี้เกียจเดิน ในระหว่างที่ฟีฟ่ากำลังตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรดี เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น “ เดี๋ยวกูจะไปรับมึง”
วันหยุดสุดสัปดาห์ช่วงสายๆฟีฟ่านั่งรอไอโซนัท ที่จะมาเจรจากับพ่อของเขาในเรื่องที่จะให้ไปรีวิวบ้านจัดสรรของไอโซนัท ซึ่งเป็นตามคาดไอโซนัทมาก่อนเวลาร่วมครึ่งชั่วโมง “หวัดดีครับพี่นัท นั่งรอตรงนี้ก่อนนะครับ”ฟีฟ่าเอ่ยขึ้น “บ้านของน้องฟีฟ่าน่าอยู่ดีน่ะพี่ว่า” “ขอบคุณครับที่ชม เดี๋ยวผมจะไปเอาน้ำมาหาให้ดื่มก่อนครับ” ก่อนที่ฟีฟ่าจะไปเอาน้ำดื่มเขาได้ไปบอกพ่อของเขาให้ออกมาที่ห้องรับแขก แต่ยศพ่อของฟีฟ่าก็ยังไม่ออกมา ถึงแม้ฟีฟ่าจะเอาน้ำดื่มมาให้ไอโซนัทแล้วก็ตามที “สงสัยพ่อทำธุระส่วนตัวอยู่ รอสักครู่นะครับ” “ไม่เป็นไร พี่รอได้ทั้งวัน ขอแค่ฟีฟ่าอยู่ใกล้ๆพี่เป็นพอ” “คงไม่ได้หรอกมั้ง”ยศพ่อของฟีฟ่าเดินออกมาพอดีและทันได้ยิน ยศมองหน้าไอโซนัทแวบนึงแล้วนั่งลง “สวัสดีครับคุณพ่อ”ไอโซนัทยกมือไหว้ “ฟีฟ่าไม่มีพี่ไม่มีน้อง”ยศพูดห้วนๆ “ครับคุณลุง” “อาก็พอ”เสียงห้วนๆดังขึ้นอีกครั้ง “ครับคุณอา” “มีอะไรว่ามา” “ผมจะมาให้น้องฟีฟ่าไปช่วยรีวิวบ้านจัดสรรให้หน่อยครับ” “คนอื่น
วันที่ฟีฟ่ารอคอยก็มาถึง วันที่เข้าต้องไปดูที่ดินกับไอโซนัทเพียงสองคน แต่แล้วความฝันนั้นได้พังทลาย เพราะยศพ่อของเขาให้ไนท์ไปเป็นเพื่อน“พ่อฟีฟ่าไปคนเดียวก็ได้ ทำไมต้องให้ไนท์ไปด้วยล่ะ”“จะไปสองคนได้ไง ที่ดินของเราอยู่ไกล กว่าจะกลับมาก็มืดค่ำแล้ว มีไอ้ไนท์ไปด้วยพ่อจะได้วางใจ”“พี่นัทก็ไปด้วยนี่ครับ”“พ่อไม่ค่อยคุ้นเคยกับเขาสักเท่าไร พ่อไม่อยากให้ไปกันสองคน พ่อพูดคำไหนก็ต้องเป็นคำนั้น ถ้าเชื่อพ่อทุกอย่างจะดีเอง”“ก็ได้ครับพ่อ”“นั่นไงคุณนัทของลูกมาแล้ว”สินีแม่ของฟีฟ่าพูดขึ้นทันที ที่เห็นรถของหรูของไอโซนัทขับเข้ามาภายในบ้าน“แล้วไหนคนดีของพ่อล่ะ ยังไม่เห็นมาเลย”ฟีฟ่ามองหาไนท์“มาแล้วครับ ผมรออยู่ที่ประตูรั้วข้างบ้าน รอให้ไอโซนั่นมาก่อนผมค่อยมาโชว์ตัว”ไนท์เดินยิ้มร่ามาหาฟีฟ่า“นกรู้”ฟีฟ่าพูดขึ้นลอยๆ“สวัสดีครับคุณอาทั้งสองและน้องฟีฟ่าด้วยนะ”ไอโซนัทยิ้มน้อยยิ้มใหญ่“เราไปกันเลยไหมน้องฟีฟ่า ผมขออนุญาตพาฟีฟ่าไปด้วยนะครับคุณอา”“เดี๋ยวก่อน อีกคนยังไม่มาเลย”ยศพูดขึ้น“ใครอีกล่ะ”ฟีฟ่าเสียงสูงนิดนึง“คนขับรถซิ”“ก็พี่นัทไง”“คุณนัทเขาไม่ชำนาญทางหรอก พ่อเตรียมคนขับรถไว้แล้ว เขาเป็นลูกชายคนที่พ่อรู
งานรีวิวบ้านจัดสรรพผ่านไปด้วยดี ซึ่งในตอนค่ำได้มีนัดสังสรรค์ทีมงาน และบรรดาเพื่อนของไอโซนัท ทางครอบครัวของยศให้ฟีฟ่าไปคนเดียว ทีแรกยศก็ไม่อยากให้ไปแต่ฟีฟ่าขอร้องจนยศใจอ่อน เมื่อฟีฟ่ามาในงานก็พบกับความตื่นตาตื่นใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่เขาได้เข้ามาในงานสังคมอีกระดับหนึ่ง “น้องฟีฟ่ามาพอดีเลย เดี๋ยวพี่จะแนะนำเพื่อนพี่ให้รู้จัก”ไอโซนัทจับมือของฟีฟ่าและดึงมาหาเพื่อนๆของเขา ซึ่งมีแต่คนระดับลูกหลานไอโซร้อยล้านถึงพันล้านบางคนหมื่นล้าน “น้องฟีฟ่าหวัดดีพี่เขาซิ เพื่อนพี่ทั้งนั้นเลย” “สวัสดีครับ”ฟีฟ่ายกมือไหว้ ยิ้มแบบฝืนๆเพราะการแต่งตัวแต่ละคนหรูหรามาก ทั้งตัวมีแต่แบรนด์เนม ส่วนฟีฟ่ามองตัวเองก็เสื้อผ้าขึ้นห้างเหมือนกัน แค่หลักพันเท่านั้นไม่ถึงหมื่นถึงแสนอย่างเพื่อนไอโซนัท “น้องฟีฟ่าน่ารักสมคำบอกเล่าของนายจริงๆ”เพื่อนคนหนึ่งของไอโซนัทพูดขึ้น “แน่นอนอยู่แล้ว”ไอโซนัทกอดคอฟีฟ่าไว้ “แล้วน้องฟีฟ่าทำงานอะไรเหรอครับ” “น้องเขาเป็นบรรณารักษ์ที่ห้องสมุดในมหาวิทยาลัยน่ะ”ไอโซนัทตอบแทน “พี่ก็นึกว่าน้องฟีฟ่าทำธุรกิจ หรือ ไม่ก็ช่วยคุณพ่อทำธุรกิจ แต่เป็นบรรณา
ช่างกันยังไม่พาฟีฟ่ากลับบ้านเขาได้ขับรถวนมาวนไป และไปที่ถนนโล่งๆนอกเมืองที่ไกลพอสมควร และเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็ก แล้วโผล่ไปสนามแข่งรถ เมื่อไปถึงฟีฟ่าก็เห็นรถบิ๊กไบค์หลายคันจอดเรียงราย พร้อมอีกคันก็ของช่างกันนั่นเอง ที่พึ่งมาจอดต่อท้ายรถคันอื่น “นายพาเรามาที่นี่ทำไม”ตอนแรกฟีฟ่าก็รู้ว่าช่างกันจะพาออกนอนเมือง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะยังไม่อยากกลับบ้าน และการนั่งซ้อนท้ายรถบิ๊กไบค์ฟีฟ่าก็รู้สึกดีเหมือนกัน เป็นอะไรที่แปลกใหม่ที่เขายังไม่เคยทำ“เอ้า ทำไมมึงไม่บอกว่าไม่อยากมา เห็นนั่งเงียบก็นึกว่าอยากมา ยังจะมีหน้ามาถามกูอีก”“เอ๊ะนายนี่อย่างไงเนี่ย ถามแค่นี้ทำไมต้องพูดจากวนประสาทด้วย”“กูเป็นของกูอย่างนี้ ไม่ใช่ปากหวานอย่างไอ้ไอโซนั่น”“ไปพูดเรื่องคนอื่นทำไม เราพูดเรื่องที่นายพาเรามาที่นี่ต่างหาก”“มึงก็ดูเองซิที่นี่ที่ไหน” “จะมาแข่งรถเหรอ”“แข่งม้ามั้ง”“ประสาท”ช่างกันหันหน้ามามองฟีฟ่า ที่เปิดกระจกหมวกกันน็อคเห็นแต่ลูกตา ส่วนฟีฟ่าใจคอไม่ค่อยดีเลย เพราะกลัวช่างกันจะพาไปทำอะไรที่ไม่ดี“ก็มาแข่งรถนั่นแหละ แต่ต้องหาคนซ้อนท้ายด้วย พอดีได้จังหวะมึงซ้อนรถกูมา ก็เลยพามึงมาด้วย”“เร