งานรีวิวบ้านจัดสรรพผ่านไปด้วยดี ซึ่งในตอนค่ำได้มีนัดสังสรรค์ทีมงาน และบรรดาเพื่อนของไอโซนัท ทางครอบครัวของยศให้ฟีฟ่าไปคนเดียว ทีแรกยศก็ไม่อยากให้ไปแต่ฟีฟ่าขอร้องจนยศใจอ่อน เมื่อฟีฟ่ามาในงานก็พบกับความตื่นตาตื่นใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่เขาได้เข้ามาในงานสังคมอีกระดับหนึ่ง “น้องฟีฟ่ามาพอดีเลย เดี๋ยวพี่จะแนะนำเพื่อนพี่ให้รู้จัก”ไอโซนัทจับมือของฟีฟ่าและดึงมาหาเพื่อนๆของเขา ซึ่งมีแต่คนระดับลูกหลานไอโซร้อยล้านถึงพันล้านบางคนหมื่นล้าน “น้องฟีฟ่าหวัดดีพี่เขาซิ เพื่อนพี่ทั้งนั้นเลย” “สวัสดีครับ”ฟีฟ่ายกมือไหว้ ยิ้มแบบฝืนๆเพราะการแต่งตัวแต่ละคนหรูหรามาก ทั้งตัวมีแต่แบรนด์เนม ส่วนฟีฟ่ามองตัวเองก็เสื้อผ้าขึ้นห้างเหมือนกัน แค่หลักพันเท่านั้นไม่ถึงหมื่นถึงแสนอย่างเพื่อนไอโซนัท “น้องฟีฟ่าน่ารักสมคำบอกเล่าของนายจริงๆ”เพื่อนคนหนึ่งของไอโซนัทพูดขึ้น “แน่นอนอยู่แล้ว”ไอโซนัทกอดคอฟีฟ่าไว้ “แล้วน้องฟีฟ่าทำงานอะไรเหรอครับ” “น้องเขาเป็นบรรณารักษ์ที่ห้องสมุดในมหาวิทยาลัยน่ะ”ไอโซนัทตอบแทน “พี่ก็นึกว่าน้องฟีฟ่าทำธุรกิจ หรือ ไม่ก็ช่วยคุณพ่อทำธุรกิจ แต่เป็นบรรณา
ช่างกันยังไม่พาฟีฟ่ากลับบ้านเขาได้ขับรถวนมาวนไป และไปที่ถนนโล่งๆนอกเมืองที่ไกลพอสมควร และเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็ก แล้วโผล่ไปสนามแข่งรถ เมื่อไปถึงฟีฟ่าก็เห็นรถบิ๊กไบค์หลายคันจอดเรียงราย พร้อมอีกคันก็ของช่างกันนั่นเอง ที่พึ่งมาจอดต่อท้ายรถคันอื่น “นายพาเรามาที่นี่ทำไม”ตอนแรกฟีฟ่าก็รู้ว่าช่างกันจะพาออกนอนเมือง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะยังไม่อยากกลับบ้าน และการนั่งซ้อนท้ายรถบิ๊กไบค์ฟีฟ่าก็รู้สึกดีเหมือนกัน เป็นอะไรที่แปลกใหม่ที่เขายังไม่เคยทำ“เอ้า ทำไมมึงไม่บอกว่าไม่อยากมา เห็นนั่งเงียบก็นึกว่าอยากมา ยังจะมีหน้ามาถามกูอีก”“เอ๊ะนายนี่อย่างไงเนี่ย ถามแค่นี้ทำไมต้องพูดจากวนประสาทด้วย”“กูเป็นของกูอย่างนี้ ไม่ใช่ปากหวานอย่างไอ้ไอโซนั่น”“ไปพูดเรื่องคนอื่นทำไม เราพูดเรื่องที่นายพาเรามาที่นี่ต่างหาก”“มึงก็ดูเองซิที่นี่ที่ไหน” “จะมาแข่งรถเหรอ”“แข่งม้ามั้ง”“ประสาท”ช่างกันหันหน้ามามองฟีฟ่า ที่เปิดกระจกหมวกกันน็อคเห็นแต่ลูกตา ส่วนฟีฟ่าใจคอไม่ค่อยดีเลย เพราะกลัวช่างกันจะพาไปทำอะไรที่ไม่ดี“ก็มาแข่งรถนั่นแหละ แต่ต้องหาคนซ้อนท้ายด้วย พอดีได้จังหวะมึงซ้อนรถกูมา ก็เลยพามึงมาด้วย”“เร
เมื่อคืนฟีฟ่ากลับมาค่อนข้างดึกพอสมควร เพราะไปนั่งซ้อนท้ายแข่งรถกับช่างกัน วันนี้เขาจึงรีบ พอขับรถไปถึงปากทางฟีฟ่าก็เห็นไนท์ยืนรอรถเมล์อยู่ เขาจึงไขกระจกและเรียกไนท์ “ไนท์ขึ้นรถมากับพี่เร็ว” ไนท์มองซ้ายมองขวาด้วยความเกรงใจ เพราะฟีฟ่าจอดรถเลยป้ายรถเมล์ ไนท์จึงวิ่งไปที่รถของฟีฟ่าและเข้าไปนั่งหน้ารถทันที หลังจากนั้นฟีฟ่าจึงขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว “ทำไมวันนี้ไปเรียนสายล่ะ”ฟีฟ่าพูดขึ้น “เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับครับ” “ตอนเย็นก็ซ้อมว่ายน้ำน่าจะเหนื่อยอยู่นะ แต่ทำไมถึงนอนไม่หลับ” “คิดถึงพี่ฟีฟ่า” “ฮ่ะ คิดถึงพี่ทำไม ก็เห็นหน้ากันทุกวัน เมื่อคืนยังเจออยู่เลยแถมพูดอะไรแปลกๆอีก มาวันนี้ก็พูดแปลกกว่าเดิมเข้าไปใหญ่”ฟีฟ่าหันมามองไนท์แวบหนึ่งแล้วหันกลับไปดูทางตามเดิม “ก็อยากไปเที่ยวไหนกับพี่ฟีฟ่าบ้าง เหมือนอย่างเมื่อคืนที่พี่ฟีฟ่าไปกับช่างกันและพี่นัท”ไนท์ปาดสายตามองฟีฟ่า “อ่อ อยากเป็นเที่ยวนี่เอง คงซ้อมหนักใช่ไหม อยากพักผ่อนหย่อนใจ พ่อพี่คงจะไม่ให้น้องไนท์เที่ยวไหนเป็นแน่เลย” “ครับ”
ไนท์ได้พาฟีฟ่ามาร้านหมูกระทะแถบชานเมือง ฟีฟ่ารู้สึกได้เปิดหูเปิดตาเพราะเขาไม่ได้มานานหลายปี “พี่ฟีฟ่านั่งรอผมอยู่ที่นี่ก็ได้นะ พี่อยากได้อะไรบอกผมได้เลย เดี๋ยวผมไปหยิบมาให้” “ไม่ต้องหรอก พี่อยากไปเดินดูด้วย” “ถ้างั้นเราไปตักอาหารกันก่อน” ฟีฟ่าเดินไปที่แผนกกุ้งเป็นอันดับแรก เพราะเขาชอบกินและแพงด้วย ฟีฟ่าจึงหยิบกุ้งตัวโตๆใส่จานจนพูน สายตาของฟีฟ่ามองกุ้งอีกตัวที่ใหญ่พอสมควร เขารู้สึกเสียดายถ้าไม่ได้เอาไปด้วย ฟีฟ่ากำลังยื่นมือคีบกุ้งตัวนั้น แต่กุ้งตัวนั้นไมเป็นใจเพราะมีที่คีบอีกอัน มาอยู่ส่วนหัวของกุ้ง ฟีฟ่ารีบดึงมาในจานของเขา แต่กลับถูกดึงแย่งไป ฟีฟ่าใจคอหงุดหงิดจึงหันไปมอง “ช่างกัน”ฟีฟ่าพูดเสียงดัง “พูดชื่อค่อยๆหน่อยอายเขา เรียกไอกันดีกว่า ไม่ต้องถึงกับช่างหรอก เพราะเราเริ่มสนิทกันแล้ว” “ไม่ต้องมาเปลื่ยนเรื่อง เอากุ้งตัวนั้นมาให้เราเดี๋ยวนี้” “ไม่ให้ นั่นก็เต็มจานพูน อดยากมาจากไหน” “ช่างกัน ปากไม่ดีเลยนะ”ฟีฟ่าว่างที่คีบไว้ที่เดิม แล้วเดินดุ่มๆไปที่โต๊หมูกระทะใกล้ๆทางออก โดยมีไนท์ก
ค่ำคืนนี้เป็นเป็นวันคล้ายวันเกิด ของเจมี่รุ่นพี่ที่ห้องสมุด ฟีฟ่าเลยต้องมาร่วมอวยพร ซึ่งงานในครั้งนี้มิได้จัดใหญ่โต มีแต่เพีอนรักมิตรสหายที่คบกันมา ในระหว่างที่ฟีฟ่านั่งดื่มน้ำส้มคั้น เพราะฟีฟ่าไม่แตะเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิด “พี่ขอนั่งด้วยคนได้ไหม”ไอโซนัทนั่งลงตรงหน้าฟีฟ่า “อยากนั่งก็นั่งสิ”ฟีฟ่ายกแก้วน้ำส้มขึ้นมาจิบและวางลง “ทำไมฟีฟ่าไม่รับโทรศัพท์พี่ ติดต่อทางไหนฟีฟ่าก็ทำเป็นเฉยเมย” “ฟีฟ่าไม่ว่าง ฟีฟ่าต้องไปกินหมูกระทะ” “ไปกินกับไนท์เหรอ”ไอโซนัทรู้ความจริงจากเจมี่ ที่ฟีฟ่าสื่อผ่านให้มาบอกไอโซนัทแบบอ้อมๆ “ใช่ อร่อยด้วย” “ทำไมไม่บอก ถ้าพี่รู้พี่จะได้พาฟีฟ่าไปกินสเต๊ก” “ไม่กินหรอกสเต็ก ไม่ชอบ ฟีฟ่าชอบกินกุ้ง” “หลังเลิกงานไปกินกุ้งไหม เดี๋ยวพี่จะมาไป” “ไม่หรอก มันดึกแล้วเดี๋ยวหน้าแก่” “พี่มีเพื่อนร้านเสิรมสวยความงาม เดี๋ยวพี่พาไปก็ได้พรุ่งนี้ถ้ากลัวหน้าแก่” “ไม่ชอบปรุงแต่ง ชอบแบบธรรมชาติ” “เอาอย่างนี้ไหมเดี๋ยวพี่พาไปอาบน้ำแร่แช่น้ำ
เช้าวันนี้ฟีฟ่าไปทำงานตามปกติ แต่มีเหตุบังเอิญรถของเขาเสียอยู่หน้าอู่ช่างกัน ซึ่งอู่ยังไม่ได้เปิดด้วยซ้ำ ฟีฟ่าจึงตัดสินใจลงจากรถแล้วไปเคาะประตูอู่ซ่อมรถ “ปัง ปัง ปัง” ฟีฟ่าเคาะประตูเสร็จก็ยืนรออยู่หน้าประตู สักพักช่างกันแง้มประตูออกมา พอช่างกันเห็นเป็นฟีฟ่าจึงดึงเข้ามาในอู่ทันที ฟีฟ่าไม่ทันได้ตั้งตัวรู้ตัวอีกทีเขาก็อยู่ข้างในอู่ หลังจากนั้นช่างกันปิดประตูทันที แล้วเขาก็เปิดไฟให้สว่าง พอแสงไฟส่องไปที่เรือนร่างของช่างกัน ฟีฟ่ายืนอึ้งอ้าปากค้าง เพราะช่างกันอยู่ในชุดกางเกงในตัวเดียว ส่วนรูปร่างก็บึกบึนมีกล้ามลีนๆ “นายดึงเราเข้ามาทำไม”ฟีฟ่ามีน้ำเสียงที่มีโมโห “กูไม่ได้จะข่มขืนมึงหรอก กูใส่กางเกงในตัวเดียว มึงจะให้กูออกไปหน้าอู่เหรอ” “ทำไมไม่ใส่กางเกงขาสั้นนอน” “มันเรื่องของกูหรือเปล่าวะ กูจะแก้ผ้านอนมันก็เรื่องของกู” “เอ่อ รถเราเสียน่ะ ซ่อมให้หน่อย แค่นี้แหละ ความจริงนายชะโงกหน้ามาก็ได้ ไม่ต้องถึงกับดึงเราเข้ามาข้างในหรอก” “กูจะดึงมึงเข้ามามึงจะทำไม”ช่างกันเดินเข้ามาใกล้ๆฟีฟ่า ส่วนฟ
ในช่วงเวลาพักเที่ยงไอโซนัทได้ส่งไลน์มาหาฟีฟ่า เพื่อชวนไปเที่ยวยามค่ำคืนใต้แสงเทียน บนเรือหรูในแม่น้ำเจ้าพระยาเพียงสองคน ฟีฟ่านั้นใช้เวลาตัดสินใจไม่นานเขาจึงตอบตกลง เพราะฟีฟ่ายังคิดถึงวันแรกที่ได้เจอไอโซนัทได้ ค่ำคืนนั้นเขามีความสุขและได้เจอสิ่งอันแปลกใหม่สำหรับเขา “ว่าไงน้องฟีฟ่าตกลงจะไปเที่ยวกับไอโซนัทไหม”เจมมี่นั่งลงข้างๆพร้อมจ้องสายตาของฟีฟ่า “ตกลงไปซิ ทำไมพี่เจมี่กับพี่กอล์ฟไม่ไปด้วยล่ะ” “มันหมดเวลาของพี่แล้วนะ พี่แค่เป็นสะพานต่อจากนี้ก็เป็นเรื่องพี่นัทกับน้องฟีฟ่าแล้วแหละ” “พี่เจมี่พูดแปลกๆเมื่อก่อนเชียร์พี่นัทอยู่เลยนี่ครับ” “ใช่ ตอนนี้พี่ยังเชียร์พี่นัทอยู่เลย เพราะพี่นัทเป็นผู้ใหญ่แล้วสามารถดูแลน้องของพี่ได้ ข้อสำคัญพี่นัทตามใจฟีฟ่าทุกอย่าง ตั้แต่เหตุการณ์วันนั้นเขาเลิกคบเพื่อนทั้งแก็งค์หมดเลยนะ เห็นไหมพี่เขาทำเพื่อฟีฟ่าขนาดไหน แต่เหนือสิ่งใด ความรักมันไม่สามารถบังคับจิตใจกันได้ ถึงพี่นัทจะดีทุกอย่างแต่ถ้าไมได้รัก อยู่ด้วยกันไปก็ไม่มีความสุขนะ” “พี่พูดยาวจังเลย” “พี่เห็นฟีฟ่าไปเที่ยวกับน้องนักว
วันหยุดสุดสัปดาห์เช่นเคยที่ฟีฟ่าต้องเอาอาหารไปให้ไนท์ ในวันนี้เขารู้สึกแปลกๆไม่เหมือนเช่นทุกวัน จิตใจในห้วงลึกหวั่นๆใจชอบกล แต่เขาพยายามสลัดความรู้สึกนั้นทิ้งไป แต่เมื่อเดินไปถึงขอบสระ ฟีฟ่าแอบรู้สึกผิดหวังเล็กๆ ที่ไม่เห็นไนท์อยู่ในสระว่ายน้ำ “พี่ฟีฟ่าเข้ามาในบ้านก่อนก็ได้ครับ ผมยังไม่ว่ายน้ำหรอก” “ไอ้เด็กบ้ารู้ทันอีก”ฟีฟ่าบ่นพึมพำในใจ เมื่อฟีฟ่าเดินเข้ามาในบ้านหลังน้อยๆแต่เนื้อที่บริเวณบ้านกว้างใหญ่ เพียงฟีฟ่าเปิดประตูเข้าไปในบ้านก็พบกับความรกข้าวของวางไม่เป็นที่เป็นทางเต็มไปหมด “ทำไมบ้านรกอย่างนี้ ไม่รู้จักเก็บกวาดให้เรียบร้อย บ้านของพ่อพี่ออกจะสวยงาม แต่น้องไนท์ทำซะเละเลย” “มาถึงก็บ่นๆยังไม่แก่ซักหน่อย ก็ไม่มีเวลาทำนี่ครับไหนจะเรียนหนังแล้วต้องซ้อมกีฬาอีก ถ้าพี่ฟีฟ่าว่างๆมาช่วยผมทำความสะอาดก็ได้ ดีกว่าไปล่องเรือเจ้าพระยา กับไปเป็นสก้อยท้ายรถบิ๊กไบค์”ไนท์เดินเข้ามาหาฟีฟ่าโดยมีผ้าเช็ดตัวผืนเดียว “ฟีฟ่ามันเรื่องของพี่นี่ พี่จะไปไหนกับใครก็ได้” “นั่นแสดงว่าพี่ฟีฟ่าปฏิเสธผมกลายๆใช่ไหม”
เช้าวันสุดท้ายที่ฟีฟ่าต้องเลือกแล้วว่าจะไปไหนกับใคร หรือว่าไม่ไปที่ไหนสักแห่งกับหลายคนที่มาเชิญชวน วันนี้จึงเป็นวันที่จิตใจของฟีฟ่าว้าวุ่นและกดดันไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี ฟีฟ่านั่งครุ่นคิดอยู่นานจนถึงเวลาที่เขาต้องตัดสินใจบางอย่าง ฟีฟ่าจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างเร่งรีบเพราะเขาปล่อยเวลาให้เนิ่นนานไปพอสมควร เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยฟีฟ่าจึงออกจากห้องไปยังจุดหมายที่ใจของเขาต้องการ ฟีฟ่าขับรถออกจากบ้านจนมาถึงอู่ซ่อมรถของช่างกัน เมื่อช่างกันเห็นฟีฟ่าเดินลงมาจากรถ เขารีบเดินไปหาฟีฟ่าในทันที “กูดีใจนะที่มึงจะไปเที่ยวกับกู” “คือ เรา เอ่อ” “อะไร หรือว่ามึงจะมาบอกกูว่าไม่ไป”ช่างกันมีสีหน้าที่ตื่นตระหนก “ใช่”ฟีฟ่ามีสีหน้าที่ซึมลง “ทำไม” “เรารักนายแบบเพื่อนคนหนึ่ง” “น้ำเน่ามาก แต่กูก็เข้าใจมึงนะ คนอย่างกูใครจะมาชอบ”ช่างกันยังตะลึงกับคำพูดของฟีฟ่า มันไม่ใช่อย่างนั้นนายเป็นคนดีคนหนึ่งเลย” “ไม่ต้องมาพูดดีหรอก กูรู้ตัวดีแต่กูก็เคารพการตัดสินใจของมึง” “ขอบใจนาย
หลายวันผ่านมาและในค่ำคืนที่เหลือไม่กี่วัน ถึงคราที่ฟีฟ่าตต้องตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะทำเช่นไรกับชีวิต ซึ่งในระหว่างที่ฟีฟ่านั่งนิ่งครุ่นคิดอยู่นั้น ยศและสินีผู้เป็นแม่ได้มานั่งข้างๆทั้งสองฝั่งซ้ายขวา “พ่อกับแม่มีอะไรเหรอครับ”ฟีฟ่าหันมองซ้ายทีขวาที “พ่อต้องถามฟีฟ่ามากกว่ามั้ง ว่าเป็นอะไรมานั่งซึมคนเดียวหลายวันแล้วนี่”ยศมองหน้าลูกชายแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะความสดใจร่าเริงของฟีฟ่าได้หายไป ในช่วงแรกยศคิดว่าฟีฟ่าอาจคิดถึงไนท์ แต่เมื่อได้ยินเรื่องราวต่างๆที่สินีเล่าให้ฟัง ว่ามีหนุ่มสามคนชวนฟีฟ่าไปเที่ยวหนึ่งในนั้นรวมไนท์ด้วย “ไม่มีอะไรหรอกครับพ่อนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย”ฟีฟ่าพยายามฝืนยิ้ม แต่เขาก็ไม่สามารถปิดบังซ้อนเร้นความคับอกคับใจได้ “ไม่ต้องปิดบังพ่อกับแม่หรอก แม่รู้ทุกอย่างในวันนั้นแม่ไม่ได้แอบฟังนะ แต่แม่บังเอิญได้เห็นได้ยิน”สินีขยับมือลูบศีรษะของลูกชาย “พ่อรู้ว่าลูกพ่อชอบแบบไหน พ่อไม่สนหรอก แต่ที่พ่อสนใจ พ่ออยากรู้ว่าลูกจะตัดสินใจอย่างไรมากกว่า ซึ่งพ่อรับได้หมดทุกคนที่ลูกเลือก”ยศยิ้มอย่างผู้ใหญ่ใจดีให้ฟีฟ่าได้เห็นเพื่อจะได้สบาย
ก่อนที่ไนท์จะออกไปเก็บตัวฝึกซ้อม เขาได้เข้ามาหาฟีฟ่าในบ้าน ซึ่งยศผู้เป็นพ่อก็เห็นอยู่แต่เขาแสร้งไม่เห็น เพราะไม่อยากไปขัดขวางจะทำให้ไนท์เกิดความเครียดอาจส่งผลต่อการแข่งขัน เมื่อทั้งคู่ได้อยู่ในห้องโถง มีโซฟาสามตัวต่อติดกันไว้ ไนท์นั่งลงข้างๆฟีฟ่าจนตัวติดกันทีเดียว “นั่งห่างๆก็ได้ เดี๋ยวพ่อพี่มาให้”ฟีฟ่าสอดสายตามองไปรอบๆบ้าน “ถึงเห็นโค้ชก็ไม่ว่าอะไรหรอก ผมว่าโค้ชคงเห็นอะไรบ้างแหละ ตอนที่เราอยู่สองคนตั้งหลายครั้ง”ไนท์อมยิ้ม “พูดไปเรื่อยมาหาพี่มีอะไร” “เดี๋ยวสายๆผมต้องไปเก็บตัวแล้วครับ อาทิตย์หน้าต้องลงแข่งเพื่อคัดตัวไปแข่งซีเกมส์” “เหรอ พี่อวยพรให้โชคดีนะ”ฟีฟ่าเปลื่ยนสีหน้าหันมายิ้มแย้มให้กำลังใจ “ผมชอบรอยยิ้มพี่ฟีฟ่าจังเลย” “อย่ามัวมาชอบรอยยิ้มพี่เลย เอาเวลาไปซ้อมเพื่อชัยชนะเถอะ” “ถ้าเกิดผมพลาดการคัดเลือกพี่ฟีฟ่าจะมีรางวัลอะไรให้ผมไหม” “จะเอาอะไรล่ะ รถเบนซ์เหรอ” “เอาไปทำไมผมอยากได้ใจพี่ฟีฟ่ามากกว่า เมื่อไรพี่จะให้ใจผมซักทีล่ะครับ” “เอาอีกแล้ว เอาคำพูดหวานๆ
ช่วงพักเที่ยงไอโซนัทได้มาหาฟีฟ่าที่ห้องสมุดในมหาวิทยาลัย โดยมีเจมี่เป็นฝ่ายจัดแจงทุกอย่างให้ได้เจอกัน จึงทำให้ฟีฟ่าและไอโซนัทได้ออกไปข้างนอกด้วยกัน โดยไอโซนัทได้พาฟีฟ่าไปร้านอาหารธรรมดาร้านหนึ่ง เพราะเขาไม่อยากที่จะพาฟีฟ่าไปที่ร้านหรูอย่างที่เคยพาไป “ชอบไหมร้านแบบนี้”ไอโซนัทเอ่ยถามขึ้น สาเหตุที่ไอโซนัททำแบบนี้เพื่อที่จะปรับตัวให้เข้ากับฟีฟ่าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในช่วงเวลานี้ เพราะไอโซนัทรู้ตัวว่าคุ่แข่งของเขานั้นมีตั้งสองคน ซึ่งแต่ละคนก็ไม่ธรรมดาเขาจึงไม่อาจไว้วางใจได้ “ชอบครับ ร้านแบบนี้ก็ดีเหมือนกันไม่ต้องมีอะไรมาก แค่สั่งมาแล้วกิน” “พี่ดีใจนะที่น้องฟีฟ่าชอบร้านอาหารที่พี่พามา และพี่จะพามาบ่อยๆ สั่งอาหารเลยซิ เพราะวันนี้เรามีเวลากันน้อย” “ครับ” “ไม่ต้องเกรงใจพี่นะ” ฟีฟ่าและไอโซนัทได้สั่งอาหารอย่างที่ตัวเองชอบไม่กี่อย่าง เพราะด้วยเวลาอันเร่งรับมีแค่หนึ่งชั่วโมงช่วงพักเที่ยง “พักนี้น้องฟีฟ่าไม่ค่อยมีเวลาไปไหนมาไหนกับพี่เลยนะ เห็นเจมี่เล่าว่าไปโน้นไปนี่ตลอดเวลาเลย จนทำให้พี่รู้สึกน้อยใจเป็นบางคร
ฟีฟ่ากับยศนั่งคุยกันในห้องรับแขกตามภาษาพ่อลูก แต่แล้วก็มีชายหนุ่มที่คุ้นเคยเข้ามาหา โดยมีแม่ของฟีฟ่าเป็นคนเปิดประตูให้เข้ามา “สวัสดีครับพ่อ”ช่างกันยกมือไหว้ยศ “ใครพ่อมึง”ยศเริ่มมีสีหน้าที่ไม่พอใจเท่าไร “ก็พ่อไงครับ” “ไอ้นี่เห็นใจดีด้วย พูดอะไรไม่เกรงใจกันเลย” “ทำไมต้องเกรงใจครับ เพราะอีกหน่อยเราก็จะเป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้วนี่ครับ”ช่างกันนั่งข้างๆฟีฟ่า “บอกพ่อหรือยังเรื่องของเรา”ช่างกันพูดเสียงดังข้างๆหูฟีฟ่า “อะไรของนาย”ฟีฟ่าใช้สายตาปรามช่างกันไว้แต่ดูไม่เป็นผลซักเท่าไร “มีอะไรพูดมาตรงๆเรื่องอะไรบอกมา”ยศเอ่ยขึ้น “คือว่า ผมกับฟีฟ่ารักกันครับ” “ไม่จริงนะพ่อ”ฟีฟ่าตกใจกับคำพูดของช่างกัน “ใช่ครับ ฟีฟ่าขอเวลาตัดสินใจสักพัก แต่ผมรอไม่ไหวกลัวโดนแย่ง ทั้งหนุ่มนักว่ายน้ำและไอโซนั่นอีก ผมต้องชิงตัดหน้ามาพูดกับพ่อไว้ก่อน เพราะผมจริงใจมีอะไรก็จะพูดตรงๆครับ”ช่างกันมีน้ำเสียงที่หนักแน่น “เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ฟีฟ่าเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง” “
วันหยุดสุดสัปดาห์เช่นเคยที่ฟีฟ่าต้องเอาอาหารไปให้ไนท์ ในวันนี้เขารู้สึกแปลกๆไม่เหมือนเช่นทุกวัน จิตใจในห้วงลึกหวั่นๆใจชอบกล แต่เขาพยายามสลัดความรู้สึกนั้นทิ้งไป แต่เมื่อเดินไปถึงขอบสระ ฟีฟ่าแอบรู้สึกผิดหวังเล็กๆ ที่ไม่เห็นไนท์อยู่ในสระว่ายน้ำ “พี่ฟีฟ่าเข้ามาในบ้านก่อนก็ได้ครับ ผมยังไม่ว่ายน้ำหรอก” “ไอ้เด็กบ้ารู้ทันอีก”ฟีฟ่าบ่นพึมพำในใจ เมื่อฟีฟ่าเดินเข้ามาในบ้านหลังน้อยๆแต่เนื้อที่บริเวณบ้านกว้างใหญ่ เพียงฟีฟ่าเปิดประตูเข้าไปในบ้านก็พบกับความรกข้าวของวางไม่เป็นที่เป็นทางเต็มไปหมด “ทำไมบ้านรกอย่างนี้ ไม่รู้จักเก็บกวาดให้เรียบร้อย บ้านของพ่อพี่ออกจะสวยงาม แต่น้องไนท์ทำซะเละเลย” “มาถึงก็บ่นๆยังไม่แก่ซักหน่อย ก็ไม่มีเวลาทำนี่ครับไหนจะเรียนหนังแล้วต้องซ้อมกีฬาอีก ถ้าพี่ฟีฟ่าว่างๆมาช่วยผมทำความสะอาดก็ได้ ดีกว่าไปล่องเรือเจ้าพระยา กับไปเป็นสก้อยท้ายรถบิ๊กไบค์”ไนท์เดินเข้ามาหาฟีฟ่าโดยมีผ้าเช็ดตัวผืนเดียว “ฟีฟ่ามันเรื่องของพี่นี่ พี่จะไปไหนกับใครก็ได้” “นั่นแสดงว่าพี่ฟีฟ่าปฏิเสธผมกลายๆใช่ไหม”
ในช่วงเวลาพักเที่ยงไอโซนัทได้ส่งไลน์มาหาฟีฟ่า เพื่อชวนไปเที่ยวยามค่ำคืนใต้แสงเทียน บนเรือหรูในแม่น้ำเจ้าพระยาเพียงสองคน ฟีฟ่านั้นใช้เวลาตัดสินใจไม่นานเขาจึงตอบตกลง เพราะฟีฟ่ายังคิดถึงวันแรกที่ได้เจอไอโซนัทได้ ค่ำคืนนั้นเขามีความสุขและได้เจอสิ่งอันแปลกใหม่สำหรับเขา “ว่าไงน้องฟีฟ่าตกลงจะไปเที่ยวกับไอโซนัทไหม”เจมมี่นั่งลงข้างๆพร้อมจ้องสายตาของฟีฟ่า “ตกลงไปซิ ทำไมพี่เจมี่กับพี่กอล์ฟไม่ไปด้วยล่ะ” “มันหมดเวลาของพี่แล้วนะ พี่แค่เป็นสะพานต่อจากนี้ก็เป็นเรื่องพี่นัทกับน้องฟีฟ่าแล้วแหละ” “พี่เจมี่พูดแปลกๆเมื่อก่อนเชียร์พี่นัทอยู่เลยนี่ครับ” “ใช่ ตอนนี้พี่ยังเชียร์พี่นัทอยู่เลย เพราะพี่นัทเป็นผู้ใหญ่แล้วสามารถดูแลน้องของพี่ได้ ข้อสำคัญพี่นัทตามใจฟีฟ่าทุกอย่าง ตั้แต่เหตุการณ์วันนั้นเขาเลิกคบเพื่อนทั้งแก็งค์หมดเลยนะ เห็นไหมพี่เขาทำเพื่อฟีฟ่าขนาดไหน แต่เหนือสิ่งใด ความรักมันไม่สามารถบังคับจิตใจกันได้ ถึงพี่นัทจะดีทุกอย่างแต่ถ้าไมได้รัก อยู่ด้วยกันไปก็ไม่มีความสุขนะ” “พี่พูดยาวจังเลย” “พี่เห็นฟีฟ่าไปเที่ยวกับน้องนักว
เช้าวันนี้ฟีฟ่าไปทำงานตามปกติ แต่มีเหตุบังเอิญรถของเขาเสียอยู่หน้าอู่ช่างกัน ซึ่งอู่ยังไม่ได้เปิดด้วยซ้ำ ฟีฟ่าจึงตัดสินใจลงจากรถแล้วไปเคาะประตูอู่ซ่อมรถ “ปัง ปัง ปัง” ฟีฟ่าเคาะประตูเสร็จก็ยืนรออยู่หน้าประตู สักพักช่างกันแง้มประตูออกมา พอช่างกันเห็นเป็นฟีฟ่าจึงดึงเข้ามาในอู่ทันที ฟีฟ่าไม่ทันได้ตั้งตัวรู้ตัวอีกทีเขาก็อยู่ข้างในอู่ หลังจากนั้นช่างกันปิดประตูทันที แล้วเขาก็เปิดไฟให้สว่าง พอแสงไฟส่องไปที่เรือนร่างของช่างกัน ฟีฟ่ายืนอึ้งอ้าปากค้าง เพราะช่างกันอยู่ในชุดกางเกงในตัวเดียว ส่วนรูปร่างก็บึกบึนมีกล้ามลีนๆ “นายดึงเราเข้ามาทำไม”ฟีฟ่ามีน้ำเสียงที่มีโมโห “กูไม่ได้จะข่มขืนมึงหรอก กูใส่กางเกงในตัวเดียว มึงจะให้กูออกไปหน้าอู่เหรอ” “ทำไมไม่ใส่กางเกงขาสั้นนอน” “มันเรื่องของกูหรือเปล่าวะ กูจะแก้ผ้านอนมันก็เรื่องของกู” “เอ่อ รถเราเสียน่ะ ซ่อมให้หน่อย แค่นี้แหละ ความจริงนายชะโงกหน้ามาก็ได้ ไม่ต้องถึงกับดึงเราเข้ามาข้างในหรอก” “กูจะดึงมึงเข้ามามึงจะทำไม”ช่างกันเดินเข้ามาใกล้ๆฟีฟ่า ส่วนฟ
ค่ำคืนนี้เป็นเป็นวันคล้ายวันเกิด ของเจมี่รุ่นพี่ที่ห้องสมุด ฟีฟ่าเลยต้องมาร่วมอวยพร ซึ่งงานในครั้งนี้มิได้จัดใหญ่โต มีแต่เพีอนรักมิตรสหายที่คบกันมา ในระหว่างที่ฟีฟ่านั่งดื่มน้ำส้มคั้น เพราะฟีฟ่าไม่แตะเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิด “พี่ขอนั่งด้วยคนได้ไหม”ไอโซนัทนั่งลงตรงหน้าฟีฟ่า “อยากนั่งก็นั่งสิ”ฟีฟ่ายกแก้วน้ำส้มขึ้นมาจิบและวางลง “ทำไมฟีฟ่าไม่รับโทรศัพท์พี่ ติดต่อทางไหนฟีฟ่าก็ทำเป็นเฉยเมย” “ฟีฟ่าไม่ว่าง ฟีฟ่าต้องไปกินหมูกระทะ” “ไปกินกับไนท์เหรอ”ไอโซนัทรู้ความจริงจากเจมี่ ที่ฟีฟ่าสื่อผ่านให้มาบอกไอโซนัทแบบอ้อมๆ “ใช่ อร่อยด้วย” “ทำไมไม่บอก ถ้าพี่รู้พี่จะได้พาฟีฟ่าไปกินสเต๊ก” “ไม่กินหรอกสเต็ก ไม่ชอบ ฟีฟ่าชอบกินกุ้ง” “หลังเลิกงานไปกินกุ้งไหม เดี๋ยวพี่จะมาไป” “ไม่หรอก มันดึกแล้วเดี๋ยวหน้าแก่” “พี่มีเพื่อนร้านเสิรมสวยความงาม เดี๋ยวพี่พาไปก็ได้พรุ่งนี้ถ้ากลัวหน้าแก่” “ไม่ชอบปรุงแต่ง ชอบแบบธรรมชาติ” “เอาอย่างนี้ไหมเดี๋ยวพี่พาไปอาบน้ำแร่แช่น้ำ