วันที่ฟีฟ่ารอคอยก็มาถึง วันที่เข้าต้องไปดูที่ดินกับไอโซนัทเพียงสองคน แต่แล้วความฝันนั้นได้พังทลาย เพราะยศพ่อของเขาให้ไนท์ไปเป็นเพื่อน
“พ่อฟีฟ่าไปคนเดียวก็ได้ ทำไมต้องให้ไนท์ไปด้วยล่ะ”
“จะไปสองคนได้ไง ที่ดินของเราอยู่ไกล กว่าจะกลับมาก็มืดค่ำแล้ว มีไอ้ไนท์ไปด้วยพ่อจะได้วางใจ”
“พี่นัทก็ไปด้วยนี่ครับ”
“พ่อไม่ค่อยคุ้นเคยกับเขาสักเท่าไร พ่อไม่อยากให้ไปกันสองคน พ่อพูดคำไหนก็ต้องเป็นคำนั้น ถ้าเชื่อพ่อทุกอย่างจะดีเอง”
“ก็ได้ครับพ่อ”
“นั่นไงคุณนัทของลูกมาแล้ว”สินีแม่ของฟีฟ่าพูดขึ้นทันที ที่เห็นรถของหรูของไอโซนัทขับเข้ามาภายในบ้าน
“แล้วไหนคนดีของพ่อล่ะ ยังไม่เห็นมาเลย”ฟีฟ่ามองหาไนท์
“มาแล้วครับ ผมรออยู่ที่ประตูรั้วข้างบ้าน รอให้ไอโซนั่นมาก่อนผมค่อยมาโชว์ตัว”ไนท์เดินยิ้มร่ามาหาฟีฟ่า
“นกรู้”ฟีฟ่าพูดขึ้นลอยๆ
“สวัสดีครับคุณอาทั้งสองและน้องฟีฟ่าด้วยนะ”ไอโซนัทยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“เราไปกันเลยไหมน้องฟีฟ่า ผมขออนุญาตพาฟีฟ่าไปด้วยนะครับคุณอา”
“เดี๋ยวก่อน อีกคนยังไม่มาเลย”ยศพูดขึ้น
“ใครอีกล่ะ”ฟีฟ่าเสียงสูงนิดนึง
“คนขับรถซิ”
“ก็พี่นัทไง”
“คุณนัทเขาไม่ชำนาญทางหรอก พ่อเตรียมคนขับรถไว้แล้ว เขาเป็นลูกชายคนที่พ่อรู้จัก”
“ใครกันอีกครับพ่อ”
“โน้นมาแล้ว”
ทุกสายตามองรถบิ๊กไบค์คันงาม ที่กำลังแล่นเข้ามาจอดในบ้าน เพียงชายหนุ่มบิ๊กไบค์ถอดหมวกกันน็อคออก ฟีฟ่าถึงกับอุทาน
“ช่างกัน”
“ใช่ช่างกัน ถ้ามีช่างซ่อมไปด้วยพ่อจะได้วางใจ ความปลอดภัยของลูก”ยศยิ้ม แต่ไอโซนัทหน้าบอกบุญไม่รับ แต่ต้องรีบเปลื่ยนเป็นรับบุญทันที
“ว่าไงคุณนัท ไปกันหลายๆคนจะได้ปลอดภัย มีอะไรคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”
“ครับ คุณอารอบคอบมากเลยครับ สงสัยจะห่วงและหวงลูกชายมาก”
“ใช่ อามีลูกชายคนเดียวต้องดูแลอย่างดี”
“หวัดดีคุณอา”ช่างกันเพียงแต่พูดเขาไม่ได้ยกมือไหว้ยศ
“มากันครบแล้ว ถ้างั้นก็ไปกันได้เลย เอารถของพ่อไป”ไอโซนัทมองตามนิ้วมือของยศ ซึ่งเขาก็เห็นรถสี่ประตู ที่พร้อมสมบุกสมบันอย่างที่ยศบอกไม่มีผิดเพี้ยน
“ไปกันได้แล้ว เดี๋ยวจะสายไปกว่านี้”ยศยื่นกุญแจรถให้ช่างกัน
ช่างกันรับกุญแจรถมาไว้แล้วรีบเดินไปเปิดประตู และเข้าไปในรถทันที ส่วนฟีฟ่าเดินหน้าบูดขึ้นฝั่งตรงข้ามช่างกัน ไอโซนัทจะนั่งข้างหลังฟีฟ่า แต่ไม่ทันเพราะไนท์รีบขึ้นมานั่งก่อน เขาไอโซนัทเลยต้องไปนั่งหลังคนขับ
“ถ้าออกนอกตัวกรุงเทพ มึงบอกกูด้วยนะว่าไปทางไหน”
“นึกว่ารู้ทางแล้วซะอีก แบบนี้มาเป็นคนขับรถได้อย่างไง”ไอโซนัทพูดเสียงราบเรียบ
“ต้องถามพ่อฟีฟ่าดูซิ ทำไมให้กูขับรถให้พวกมึงนั่ง”
“พูดก็ไม่เพราะ”ไอโซนัทบ่นพึมพำ
“ถ้าทนฟังไม่ได้ก็เอาอะไรอุดหูซะ”
“เอาทิชชูไหม”ไนท์หยิบทิชชูให้ไอโซนัท
“เงียบทั้งหมดเลย จะพูดอะไรกันนักหนา”ฟีฟ่าทนฟังอยู่นาน จนเขารู้สึกรำคาญที่สามหนุ่มพูดคุยกันเรื่องไร้สาระ
“อยากจะเห็นที่ดินของพ่อพี่ฟีฟ่าแล้วซินะ ว่าแต่อยู่ไกลไหมครับพี่ฟีฟ่า”ไนท์พยายามที่จะชวนฟีฟ่าพูดคุย
“ก็”ฟีฟ่ายังไม่ทันพูดอะไร
“ถามมาได้มันก็ต้องไกลซิ”ช่างกันพูดเสียงห้วน
ไอโซนัทแอบยิ้มเพราะถูกใจในคำตอบของช่างกัน เพราะเขายังหมั่นไส้ไนท์ยังไม่หายที่เอาทิชชูยื่นให้เขา
“ก็ไม่รู้นี่ครับ ผมก็ต้องถามพี่ฟีฟ่าซิ พี่ช่างซ่อมตอบแทนทำไม มีหน้าที่ขับรถก็ขับไป”
“กูชื่อกัน”ช่างกันพูดห้วนๆ
“ผมไม่ได้ถามชื่อพี่ซักหน่อย และก็ไม่อยากรู้จักด้วย”
“มึงจำไว้นะ ถ้ารถมึงสียอย่ามาซ่อมอู่กูก็แล้วกัน”
“ผมเรียนอยู่ครับ ผมไม่มีรถหรอก ถ้าผมเรียนจบก็คงจะไปอยู่ที่อื่น เพราะแถวนี้มลภาวะเป็นพิษ”
“ไอ้ไอโซ มึงว่าไง ไอ้หน้าอ่อนบอกมึงเป็นมลภาวะเป็นพิษ”
“ว่าช่างไม่ใช่เหรอ ไม่เกี่ยวกับผมซักหน่อย”
“เกี่ยวซิ ก็มึงนั่งอยู่ข้างๆไอ้หน้าอ่อนนี่ มันก็ต้องเป็นมึงอยู่แล้ว”ช่างกันแอบหัวเราะนิดๆ
“ผมชื่อไนท์ ไม่ใช่ไอ้หน้าอ่อน”
“ใครถามมึง”
“ผมอยากตอบ”
“กูไม่อยากฟัง”
“หาอะไรอุดหูซิ”
“มึงพูดแบบนี้หาเรื่องเหรอไอ้หน้าอ่อน”ช่างกันเบรกรถกะทันหัน
“โอ๊ย จะทะเลาะอะไรกันอยู่นั่นแหละ น้องไนท์ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ช่างก็เหมือนกัน น้องไนท์มันยังเด็กอยู่ แล้วช่างก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว ไปต่อล้อต่อเถียงกับเด็กมันทำไม”
“ออกรับแทน สงสัยชอบเด็ก”ช่างกันพูดขึ้น
“ใครๆก็ชอบกินเด็กๆทั้งนั้นแหละจะได้เป็นอมตะ กินรุ่นเดียวกันอายุสั้นลง”ฟีฟ่าหันไปมองช่างกัน
“กินรุ่นเดียวกันอายุสั้น ถ้ากินแก่กว่านี่แก่ตามเลยใช่ไหม”ช่างกันหัวเราะ
“คนแก่หนังเหนียวกินยาก ”ไนท์ชำเลืองมองไอโซนัท
“ถ้าเจอคนแก่แบบมีคุณภาพ คุณสมบัติพร้อม สบายไปตลอดชาติ ถ้าไปได้เด็ก กว่าจะโตเราแก่ก่อน เผลอๆต้องสอนทุกเรื่อง และอีกอย่างถ้าเจอพวกชาวเกาะ ถึงกับหมดเนื้อหมดตัวได้เลยนะ ถ้าได้รุ่นเดียวแต่หน้าแก่เกินวัย เดินไปไหนเขานึกว่าเป็นลุงกับหลาน”
“พอ หยุดพูดทุกคนเลย”ฟีฟ่าหันหลังไปมองไนท์กับไอโซนัท และหันกลับมามองช่างกัน ที่เขาอยากจะตบบ้องหูซะที เพราะทำหน้าทำตากวนประสาทฟีฟ่าอย่างมาก
เมื่อคลื่นอารมณ์ของสามหนุ่มสงบลง ฟีฟ่าค่อนข้างสบายหูและสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ฟีฟ่านั้นแอบเคืองพ่อของเขาอยู่ไม่นอน ที่เลือกคนมาด้วยล้วนเคยโต้ฝีปากกันมาอยู่หลายครั้ง แต่ฟีฟ่าก็ได้แต่ทำใจเพราะเขาไม่เคยขัดใจพ่อของเขาแม้แต่ครั้งเดียว
ทั้งสี่คนนั่งเงียบจนมาถึงที่หมายปลายทาง ซึ่งพื้นที่กว้างประมาณสิบไร่ อยู่ชานเมืองแต่เป็นชานเมืองในจังหวัดที่ค่อนข้างใหญ่
“ถึงแล้วครับ พี่นัท” ฟีฟ่าหันหลังไปมองไอโซนัท
“ขนาดดูจากในรถที่ดินยังสวยขนาดนี้เลย เดี๋ยวพี่ต้องรีบลงไปดูแล้วแหละ”ไอโซนัทลงจากรถทันที ส่วนฟีฟ่าก็รีบลงตามไปติดๆ
“พ่อหนุ่มตาทิพย์”ช่างกันพูดขึ้นหลังจากไอโซนัทลงจากรถ แต่ยังไม่ทันได้ปิดประตู
“อาจจะหูทิพย์ด้วยก็ได้นะช่างกัน ระวังเขาได้ยินหรอก”ไนท์เอ่ยขึ้น
“ยุ่งอะไรด้วยพ่อปากทิพย์”
“ไม่ได้ยุ่งหรอกเตือนต่างหาก”
“ก่อนที่จะเตือนคนอื่น น่าจะเตือนตัวเองก่อนไหม เป็นแค่นักศีกษา งานการยังไม่ได้ทำ จะเอาอะไรไปสู้เขา ดูโน้นกระหนุงกระหนิงเชียว”
“แต่อย่างน้อยผมก็หน้าอ่อนกว่าช่างก็แล้วกัน ไม่ได้หน้าไปก่อนวัยอย่างใครบางคน”
“ปากดีนะมึงน่ะ”
“เชิญช่างพล่ามไปคนเดียวก่อนเถอะ เอ่อ ใช่สิ เป็นแค่คนขับรถก็ต้องนั่งรอเจ้านายอยู่ในรถเดี๋ยวผมลงไปดูที่ดินกับพี่ฟีฟ่าก่อนนะครับ”
ไนท์รีบลงจากรถทันที ปล่อยให้ช่างกันอ้าปากค้างเพราะกำลังจะด่าไนท์ต่อ แต่ก็ไมทันการณ์ เขาจึงต้องลงตามไปดูด้วยอีกคน ทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้ใคร่สนใจอยากรู้อยากเห็นแม้แต่น้อย
ไอโซนัทยืนเคียงคู่กับฟีฟ่าอย่างกับคู่รัก ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนแรง ไอโซนัทชี้มือไปทางซ้ายทางขวาตรงหน้า ส่วนฟีฟ่าก็มองตามอย่างยินดี ไนท์เดินลงมาจากรถและได้เห็นภาพตรงหน้าเขารู้สึกจุกที่หัวใจ ตอนแรกไนท์ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับฟีฟ่า แค่แกล้งฟีฟ่าเล่นเฉยๆเพราะฟีฟ่ามีความน่ารักใสๆ แต่ในช่วงเวลานี้ความคิดที่จะแกล้งเปลื่ยนเป็นความรู้สึกดีๆและแอบหวง ที่ฟีฟ่าอยู่ใกล้ชิดไอโซนัทมากจนเกินไป
ในส่วนของช่างกันยืนมองไนท์ ที่กำลังมองไอโซนัทกับฟีฟ่า เขาพลางคิดไปว่าไอ้เด็กนี่น่าจะแอบชอบฟีฟ่าอย่างแน่นอน แต่ความรู้สึกนั้นได้แปรเปลื่ยนตามภาพตรงหน้า ที่ไอโซนัทกับฟีฟ่ายืนเคียงข้างกันอย่างกับคู่รัก ในระยะแรกกันค่อนข้างจะรำคาญฟีฟ่าที่ดูหน้าหวาน ท่าทางไม่เหมือนชายแท้อย่างเขา แต่เมื่อได้ใกล้ชิดและเจอบ่อยๆ ความรู้สึกนั้นได้จางหายไปหมด แต่กลับได้ความรู้สึกเอ็นดูรักใคร่ในความใสของฟีฟ่ามาแทน ยิ่งท่าเดินทางการยิ้มและพูดจา ที่มองไปทางไหนก็น่ารักไปหมด ช่างกันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าความคิดนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไรและตอนไหนที่เขาเผลอใจไปแอบชอบฟีฟ่า
งานรีวิวบ้านจัดสรรพผ่านไปด้วยดี ซึ่งในตอนค่ำได้มีนัดสังสรรค์ทีมงาน และบรรดาเพื่อนของไอโซนัท ทางครอบครัวของยศให้ฟีฟ่าไปคนเดียว ทีแรกยศก็ไม่อยากให้ไปแต่ฟีฟ่าขอร้องจนยศใจอ่อน เมื่อฟีฟ่ามาในงานก็พบกับความตื่นตาตื่นใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่เขาได้เข้ามาในงานสังคมอีกระดับหนึ่ง “น้องฟีฟ่ามาพอดีเลย เดี๋ยวพี่จะแนะนำเพื่อนพี่ให้รู้จัก”ไอโซนัทจับมือของฟีฟ่าและดึงมาหาเพื่อนๆของเขา ซึ่งมีแต่คนระดับลูกหลานไอโซร้อยล้านถึงพันล้านบางคนหมื่นล้าน “น้องฟีฟ่าหวัดดีพี่เขาซิ เพื่อนพี่ทั้งนั้นเลย” “สวัสดีครับ”ฟีฟ่ายกมือไหว้ ยิ้มแบบฝืนๆเพราะการแต่งตัวแต่ละคนหรูหรามาก ทั้งตัวมีแต่แบรนด์เนม ส่วนฟีฟ่ามองตัวเองก็เสื้อผ้าขึ้นห้างเหมือนกัน แค่หลักพันเท่านั้นไม่ถึงหมื่นถึงแสนอย่างเพื่อนไอโซนัท “น้องฟีฟ่าน่ารักสมคำบอกเล่าของนายจริงๆ”เพื่อนคนหนึ่งของไอโซนัทพูดขึ้น “แน่นอนอยู่แล้ว”ไอโซนัทกอดคอฟีฟ่าไว้ “แล้วน้องฟีฟ่าทำงานอะไรเหรอครับ” “น้องเขาเป็นบรรณารักษ์ที่ห้องสมุดในมหาวิทยาลัยน่ะ”ไอโซนัทตอบแทน “พี่ก็นึกว่าน้องฟีฟ่าทำธุรกิจ หรือ ไม่ก็ช่วยคุณพ่อทำธุรกิจ แต่เป็นบรรณา
ช่างกันยังไม่พาฟีฟ่ากลับบ้านเขาได้ขับรถวนมาวนไป และไปที่ถนนโล่งๆนอกเมืองที่ไกลพอสมควร และเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็ก แล้วโผล่ไปสนามแข่งรถ เมื่อไปถึงฟีฟ่าก็เห็นรถบิ๊กไบค์หลายคันจอดเรียงราย พร้อมอีกคันก็ของช่างกันนั่นเอง ที่พึ่งมาจอดต่อท้ายรถคันอื่น “นายพาเรามาที่นี่ทำไม”ตอนแรกฟีฟ่าก็รู้ว่าช่างกันจะพาออกนอนเมือง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะยังไม่อยากกลับบ้าน และการนั่งซ้อนท้ายรถบิ๊กไบค์ฟีฟ่าก็รู้สึกดีเหมือนกัน เป็นอะไรที่แปลกใหม่ที่เขายังไม่เคยทำ“เอ้า ทำไมมึงไม่บอกว่าไม่อยากมา เห็นนั่งเงียบก็นึกว่าอยากมา ยังจะมีหน้ามาถามกูอีก”“เอ๊ะนายนี่อย่างไงเนี่ย ถามแค่นี้ทำไมต้องพูดจากวนประสาทด้วย”“กูเป็นของกูอย่างนี้ ไม่ใช่ปากหวานอย่างไอ้ไอโซนั่น”“ไปพูดเรื่องคนอื่นทำไม เราพูดเรื่องที่นายพาเรามาที่นี่ต่างหาก”“มึงก็ดูเองซิที่นี่ที่ไหน” “จะมาแข่งรถเหรอ”“แข่งม้ามั้ง”“ประสาท”ช่างกันหันหน้ามามองฟีฟ่า ที่เปิดกระจกหมวกกันน็อคเห็นแต่ลูกตา ส่วนฟีฟ่าใจคอไม่ค่อยดีเลย เพราะกลัวช่างกันจะพาไปทำอะไรที่ไม่ดี“ก็มาแข่งรถนั่นแหละ แต่ต้องหาคนซ้อนท้ายด้วย พอดีได้จังหวะมึงซ้อนรถกูมา ก็เลยพามึงมาด้วย”“เร
เมื่อคืนฟีฟ่ากลับมาค่อนข้างดึกพอสมควร เพราะไปนั่งซ้อนท้ายแข่งรถกับช่างกัน วันนี้เขาจึงรีบ พอขับรถไปถึงปากทางฟีฟ่าก็เห็นไนท์ยืนรอรถเมล์อยู่ เขาจึงไขกระจกและเรียกไนท์ “ไนท์ขึ้นรถมากับพี่เร็ว” ไนท์มองซ้ายมองขวาด้วยความเกรงใจ เพราะฟีฟ่าจอดรถเลยป้ายรถเมล์ ไนท์จึงวิ่งไปที่รถของฟีฟ่าและเข้าไปนั่งหน้ารถทันที หลังจากนั้นฟีฟ่าจึงขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว “ทำไมวันนี้ไปเรียนสายล่ะ”ฟีฟ่าพูดขึ้น “เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับครับ” “ตอนเย็นก็ซ้อมว่ายน้ำน่าจะเหนื่อยอยู่นะ แต่ทำไมถึงนอนไม่หลับ” “คิดถึงพี่ฟีฟ่า” “ฮ่ะ คิดถึงพี่ทำไม ก็เห็นหน้ากันทุกวัน เมื่อคืนยังเจออยู่เลยแถมพูดอะไรแปลกๆอีก มาวันนี้ก็พูดแปลกกว่าเดิมเข้าไปใหญ่”ฟีฟ่าหันมามองไนท์แวบหนึ่งแล้วหันกลับไปดูทางตามเดิม “ก็อยากไปเที่ยวไหนกับพี่ฟีฟ่าบ้าง เหมือนอย่างเมื่อคืนที่พี่ฟีฟ่าไปกับช่างกันและพี่นัท”ไนท์ปาดสายตามองฟีฟ่า “อ่อ อยากเป็นเที่ยวนี่เอง คงซ้อมหนักใช่ไหม อยากพักผ่อนหย่อนใจ พ่อพี่คงจะไม่ให้น้องไนท์เที่ยวไหนเป็นแน่เลย” “ครับ”
ไนท์ได้พาฟีฟ่ามาร้านหมูกระทะแถบชานเมือง ฟีฟ่ารู้สึกได้เปิดหูเปิดตาเพราะเขาไม่ได้มานานหลายปี “พี่ฟีฟ่านั่งรอผมอยู่ที่นี่ก็ได้นะ พี่อยากได้อะไรบอกผมได้เลย เดี๋ยวผมไปหยิบมาให้” “ไม่ต้องหรอก พี่อยากไปเดินดูด้วย” “ถ้างั้นเราไปตักอาหารกันก่อน” ฟีฟ่าเดินไปที่แผนกกุ้งเป็นอันดับแรก เพราะเขาชอบกินและแพงด้วย ฟีฟ่าจึงหยิบกุ้งตัวโตๆใส่จานจนพูน สายตาของฟีฟ่ามองกุ้งอีกตัวที่ใหญ่พอสมควร เขารู้สึกเสียดายถ้าไม่ได้เอาไปด้วย ฟีฟ่ากำลังยื่นมือคีบกุ้งตัวนั้น แต่กุ้งตัวนั้นไมเป็นใจเพราะมีที่คีบอีกอัน มาอยู่ส่วนหัวของกุ้ง ฟีฟ่ารีบดึงมาในจานของเขา แต่กลับถูกดึงแย่งไป ฟีฟ่าใจคอหงุดหงิดจึงหันไปมอง “ช่างกัน”ฟีฟ่าพูดเสียงดัง “พูดชื่อค่อยๆหน่อยอายเขา เรียกไอกันดีกว่า ไม่ต้องถึงกับช่างหรอก เพราะเราเริ่มสนิทกันแล้ว” “ไม่ต้องมาเปลื่ยนเรื่อง เอากุ้งตัวนั้นมาให้เราเดี๋ยวนี้” “ไม่ให้ นั่นก็เต็มจานพูน อดยากมาจากไหน” “ช่างกัน ปากไม่ดีเลยนะ”ฟีฟ่าว่างที่คีบไว้ที่เดิม แล้วเดินดุ่มๆไปที่โต๊หมูกระทะใกล้ๆทางออก โดยมีไนท์ก
ค่ำคืนนี้เป็นเป็นวันคล้ายวันเกิด ของเจมี่รุ่นพี่ที่ห้องสมุด ฟีฟ่าเลยต้องมาร่วมอวยพร ซึ่งงานในครั้งนี้มิได้จัดใหญ่โต มีแต่เพีอนรักมิตรสหายที่คบกันมา ในระหว่างที่ฟีฟ่านั่งดื่มน้ำส้มคั้น เพราะฟีฟ่าไม่แตะเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิด “พี่ขอนั่งด้วยคนได้ไหม”ไอโซนัทนั่งลงตรงหน้าฟีฟ่า “อยากนั่งก็นั่งสิ”ฟีฟ่ายกแก้วน้ำส้มขึ้นมาจิบและวางลง “ทำไมฟีฟ่าไม่รับโทรศัพท์พี่ ติดต่อทางไหนฟีฟ่าก็ทำเป็นเฉยเมย” “ฟีฟ่าไม่ว่าง ฟีฟ่าต้องไปกินหมูกระทะ” “ไปกินกับไนท์เหรอ”ไอโซนัทรู้ความจริงจากเจมี่ ที่ฟีฟ่าสื่อผ่านให้มาบอกไอโซนัทแบบอ้อมๆ “ใช่ อร่อยด้วย” “ทำไมไม่บอก ถ้าพี่รู้พี่จะได้พาฟีฟ่าไปกินสเต๊ก” “ไม่กินหรอกสเต็ก ไม่ชอบ ฟีฟ่าชอบกินกุ้ง” “หลังเลิกงานไปกินกุ้งไหม เดี๋ยวพี่จะมาไป” “ไม่หรอก มันดึกแล้วเดี๋ยวหน้าแก่” “พี่มีเพื่อนร้านเสิรมสวยความงาม เดี๋ยวพี่พาไปก็ได้พรุ่งนี้ถ้ากลัวหน้าแก่” “ไม่ชอบปรุงแต่ง ชอบแบบธรรมชาติ” “เอาอย่างนี้ไหมเดี๋ยวพี่พาไปอาบน้ำแร่แช่น้ำ
เช้าวันนี้ฟีฟ่าไปทำงานตามปกติ แต่มีเหตุบังเอิญรถของเขาเสียอยู่หน้าอู่ช่างกัน ซึ่งอู่ยังไม่ได้เปิดด้วยซ้ำ ฟีฟ่าจึงตัดสินใจลงจากรถแล้วไปเคาะประตูอู่ซ่อมรถ “ปัง ปัง ปัง” ฟีฟ่าเคาะประตูเสร็จก็ยืนรออยู่หน้าประตู สักพักช่างกันแง้มประตูออกมา พอช่างกันเห็นเป็นฟีฟ่าจึงดึงเข้ามาในอู่ทันที ฟีฟ่าไม่ทันได้ตั้งตัวรู้ตัวอีกทีเขาก็อยู่ข้างในอู่ หลังจากนั้นช่างกันปิดประตูทันที แล้วเขาก็เปิดไฟให้สว่าง พอแสงไฟส่องไปที่เรือนร่างของช่างกัน ฟีฟ่ายืนอึ้งอ้าปากค้าง เพราะช่างกันอยู่ในชุดกางเกงในตัวเดียว ส่วนรูปร่างก็บึกบึนมีกล้ามลีนๆ “นายดึงเราเข้ามาทำไม”ฟีฟ่ามีน้ำเสียงที่มีโมโห “กูไม่ได้จะข่มขืนมึงหรอก กูใส่กางเกงในตัวเดียว มึงจะให้กูออกไปหน้าอู่เหรอ” “ทำไมไม่ใส่กางเกงขาสั้นนอน” “มันเรื่องของกูหรือเปล่าวะ กูจะแก้ผ้านอนมันก็เรื่องของกู” “เอ่อ รถเราเสียน่ะ ซ่อมให้หน่อย แค่นี้แหละ ความจริงนายชะโงกหน้ามาก็ได้ ไม่ต้องถึงกับดึงเราเข้ามาข้างในหรอก” “กูจะดึงมึงเข้ามามึงจะทำไม”ช่างกันเดินเข้ามาใกล้ๆฟีฟ่า ส่วนฟ
ในช่วงเวลาพักเที่ยงไอโซนัทได้ส่งไลน์มาหาฟีฟ่า เพื่อชวนไปเที่ยวยามค่ำคืนใต้แสงเทียน บนเรือหรูในแม่น้ำเจ้าพระยาเพียงสองคน ฟีฟ่านั้นใช้เวลาตัดสินใจไม่นานเขาจึงตอบตกลง เพราะฟีฟ่ายังคิดถึงวันแรกที่ได้เจอไอโซนัทได้ ค่ำคืนนั้นเขามีความสุขและได้เจอสิ่งอันแปลกใหม่สำหรับเขา “ว่าไงน้องฟีฟ่าตกลงจะไปเที่ยวกับไอโซนัทไหม”เจมมี่นั่งลงข้างๆพร้อมจ้องสายตาของฟีฟ่า “ตกลงไปซิ ทำไมพี่เจมี่กับพี่กอล์ฟไม่ไปด้วยล่ะ” “มันหมดเวลาของพี่แล้วนะ พี่แค่เป็นสะพานต่อจากนี้ก็เป็นเรื่องพี่นัทกับน้องฟีฟ่าแล้วแหละ” “พี่เจมี่พูดแปลกๆเมื่อก่อนเชียร์พี่นัทอยู่เลยนี่ครับ” “ใช่ ตอนนี้พี่ยังเชียร์พี่นัทอยู่เลย เพราะพี่นัทเป็นผู้ใหญ่แล้วสามารถดูแลน้องของพี่ได้ ข้อสำคัญพี่นัทตามใจฟีฟ่าทุกอย่าง ตั้แต่เหตุการณ์วันนั้นเขาเลิกคบเพื่อนทั้งแก็งค์หมดเลยนะ เห็นไหมพี่เขาทำเพื่อฟีฟ่าขนาดไหน แต่เหนือสิ่งใด ความรักมันไม่สามารถบังคับจิตใจกันได้ ถึงพี่นัทจะดีทุกอย่างแต่ถ้าไมได้รัก อยู่ด้วยกันไปก็ไม่มีความสุขนะ” “พี่พูดยาวจังเลย” “พี่เห็นฟีฟ่าไปเที่ยวกับน้องนักว
วันหยุดสุดสัปดาห์เช่นเคยที่ฟีฟ่าต้องเอาอาหารไปให้ไนท์ ในวันนี้เขารู้สึกแปลกๆไม่เหมือนเช่นทุกวัน จิตใจในห้วงลึกหวั่นๆใจชอบกล แต่เขาพยายามสลัดความรู้สึกนั้นทิ้งไป แต่เมื่อเดินไปถึงขอบสระ ฟีฟ่าแอบรู้สึกผิดหวังเล็กๆ ที่ไม่เห็นไนท์อยู่ในสระว่ายน้ำ “พี่ฟีฟ่าเข้ามาในบ้านก่อนก็ได้ครับ ผมยังไม่ว่ายน้ำหรอก” “ไอ้เด็กบ้ารู้ทันอีก”ฟีฟ่าบ่นพึมพำในใจ เมื่อฟีฟ่าเดินเข้ามาในบ้านหลังน้อยๆแต่เนื้อที่บริเวณบ้านกว้างใหญ่ เพียงฟีฟ่าเปิดประตูเข้าไปในบ้านก็พบกับความรกข้าวของวางไม่เป็นที่เป็นทางเต็มไปหมด “ทำไมบ้านรกอย่างนี้ ไม่รู้จักเก็บกวาดให้เรียบร้อย บ้านของพ่อพี่ออกจะสวยงาม แต่น้องไนท์ทำซะเละเลย” “มาถึงก็บ่นๆยังไม่แก่ซักหน่อย ก็ไม่มีเวลาทำนี่ครับไหนจะเรียนหนังแล้วต้องซ้อมกีฬาอีก ถ้าพี่ฟีฟ่าว่างๆมาช่วยผมทำความสะอาดก็ได้ ดีกว่าไปล่องเรือเจ้าพระยา กับไปเป็นสก้อยท้ายรถบิ๊กไบค์”ไนท์เดินเข้ามาหาฟีฟ่าโดยมีผ้าเช็ดตัวผืนเดียว “ฟีฟ่ามันเรื่องของพี่นี่ พี่จะไปไหนกับใครก็ได้” “นั่นแสดงว่าพี่ฟีฟ่าปฏิเสธผมกลายๆใช่ไหม”