หลายวันผ่านมาและในค่ำคืนที่เหลือไม่กี่วัน ถึงคราที่ฟีฟ่าตต้องตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะทำเช่นไรกับชีวิต ซึ่งในระหว่างที่ฟีฟ่านั่งนิ่งครุ่นคิดอยู่นั้น ยศและสินีผู้เป็นแม่ได้มานั่งข้างๆทั้งสองฝั่งซ้ายขวา
“พ่อกับแม่มีอะไรเหรอครับ”ฟีฟ่าหันมองซ้ายทีขวาที
“พ่อต้องถามฟีฟ่ามากกว่ามั้ง ว่าเป็นอะไรมานั่งซึมคนเดียวหลายวันแล้วนี่”ยศมองหน้าลูกชายแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะความสดใจร่าเริงของฟีฟ่าได้หายไป ในช่วงแรกยศคิดว่าฟีฟ่าอาจคิดถึงไนท์ แต่เมื่อได้ยินเรื่องราวต่างๆที่สินีเล่าให้ฟัง ว่ามีหนุ่มสามคนชวนฟีฟ่าไปเที่ยวหนึ่งในนั้นรวมไนท์ด้วย
“ไม่มีอะไรหรอกครับพ่อนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย”ฟีฟ่าพยายามฝืนยิ้ม แต่เขาก็ไม่สามารถปิดบังซ้อนเร้นความคับอกคับใจได้
“ไม่ต้องปิดบังพ่อกับแม่หรอก แม่รู้ทุกอย่างในวันนั้นแม่ไม่ได้แอบฟังนะ แต่แม่บังเอิญได้เห็นได้ยิน”สินีขยับมือลูบศีรษะของลูกชาย
“พ่อรู้ว่าลูกพ่อชอบแบบไหน พ่อไม่สนหรอก แต่ที่พ่อสนใจ พ่ออยากรู้ว่าลูกจะตัดสินใจอย่างไรมากกว่า ซึ่งพ่อรับได้หมดทุกคนที่ลูกเลือก”ยศยิ้มอย่างผู้ใหญ่ใจดีให้ฟีฟ่าได้เห็นเพื่อจะได้สบายใจ
“พ่อ”
“ไม่ต้องพูด ถึงพ่อจะอยากรู้ว่าลูกจะเลือกใคร แต่พ่อไม่ต้องการคำตอบหรอก แล้วแต่ลูกจะตัดสินใจเลย”
“พ่อ แม่”
“แม่ไม่มีอะไรจะพูดหรอก เหมือนอย่างพ่อของลูกนั่นแหละ ถ้าลูกเลือกใครแม่ก็ชอบคนนั้นด้วย แต่แม่อยากแนะนำนิดหน่อยเลือกคนที่เราชอบนั่นแหละดีที่สุด คนที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจไม่อึดอัดมีความสุข” สินียังยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ฟีฟ่าได้ชื่นใจ
“ในส่วนของพ่อนะ ก็ไม่ต่างกับแม่ของลูกหรอก ไม่ว่าจะไนท์ ช่างกัน ไอโซคนนั้น ลูกจะเลือกไปเที่ยวกับใครตามสบายเลยลูก แต่ตัดสินใจดีๆนะว่าคนนั้นใช่สำหรับลูก มองลึกๆมองนานๆอย่ามองผิวเผิน”ยศยังไม่หยุดมองลูกชายตัวเอง
“พ่อว่าลูกเราเหมาะกับใครในสามคน”สินีเอ่ยขึ้น
“ก็มีทั้งเหมาะและไม่เหมาะในคนเดียวกัน”
“แหมตอบกลางๆแบบนี้ลูกก็ลำบากใจสิ”สินีเอ่ยขึ้น
“ลูกเราโตแล้วคงตัดสินใจเองได้นั่นแหละ ถึงแม้ลูกเราเลือกไปแล้ว ต่อไปอาจไม่ใช่อย่างที่คิดก็เลิกหาใหม่”ยศหัวเราะร่วน
“พ่อพูดไปเรื่อย”ฟีฟ่าหน้าแดงก่ำ
“พ่อพูดจริงนะ ไม่ได้เสียหายอะไรนี่ เราเลือกคนที่รักแต่ในเมื่อไปด้วยกันไม่ได้ก็เลิกหาใหม่ เดี๋ยวมันก็คงเจอคนที่ใช่เองนั่นแหละ”
“พ่อของลูกก็พูดถูกนะ เราเลือกได้นี่ลูก”สินีเอ่ยขึ้น
“แม่ก็พูดซะลูกตัวลอยแล้ว”
“มันเรื่องจริงนี่ ลูกแม่ไม่ต้องไปตามหาความรักที่ไหนเลย มีมาให้เลือกตั้งสามคนสามสไตส์ ลูกแม่เริ่ดมากรู้ตัวไหม”
“พอๆแล้วแม่ เราปล่อยให้ลูกตัดสินใจเองดีกว่า”ยศเอ่ยขึ้น
“ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นพ่อกับแม่ขึ้นไปนอนแล้วนะ ฟีฟ่าก็ขึ้นไปนอนได้แล้วเหมือนกันนะ”
สินีและยศลุกขึ้นมองลูกชายสุดที่รักก่อนเข้าไปนอนในห้อง ส่วนฟีฟ่านั่งครุ่นคิดชั่วครู่เขาก็เข้าไปในห้องตัวเอง ทำธุระส่วนตัวไม่ว่าจะอาบน้ำแต่งตัวและเตรียมตัวที่จะนอน แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดความคิดนั้นทันที เพราะเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเขาจึงรีบรับทันที
“มีอะไร”ฟีฟ่าเอ่ยขึ้น
“คิดถึงพี่ฟีฟ่ามากเลยอดใจไม่ไหวต้องแอบโทรหา”เสียงไนท์พูดค่อยมาก แต่ฟีฟ่าก็เข้าใจดีว่าเกิดอะไรขึ้น
“จะคิดถึงอะไรพึ่งไปไม่กี่วันเอง”ฟีฟ่าอมยิ้มนิดๆ
“ไม่กี่วันสำหรับพี่แต่เหมือนหลายปีสำหรับผมนะครับ”
“ไม่ต้องมากปากหวานกับพี่เลย เอาเวลาที่จะมาคุยกับพี่น่ะพักผ่อนไม่ดีกว่าเหรอ”
“แหมพี่ฟีฟ่าก็ คนเรามันก็ต้องหากำลังใจบ้างสิ”
“ก็ได้พี่ให้กำลังใจ ขอชนะขอโชคดีนะ”
“แน่นอน แต่จะโชคดีกว่านี้ถ้าพี่ฟีฟ่าไปเชียร์ผมถึงขอบสนาม”
คำพูดของไนท์นั้นทำให้ฟีฟ่าได้คิดจนทำให้เกิดความเงียบขึ้นมาทันที เพราะในใจมันแวบขึ้นมา
“พี่ฟีฟ่าเป็นอะไรไปเหรอเงียบไปเลย”
“เปล่า”
“ถ้าเปล่า อย่าลืมไปเชียร์ผมนะครับ ผมไม่บังคับพี่หรอกแล้วแต่พี่เลย”
“อย่าพึ่งพูดถึงเรื่องนี้เลย ตั้งใจฝีกซ้อมเพื่อตัวเองเถอะ”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
“พี่จะรอความสำเร็จของไนท์นะ”
“ครับพี่ฟีฟ่า คืนนี้ผมไม่รบกวนพี่ฟีฟ่าแล้วนะ เจอกันวันที่ผมกลับมาบ้านพักก็แล้วกัน หลับฝันดีคิดถึงผมด้วยนะ ผมรักพี่ฟีฟ่านะครับ”
“อือ”
ฟีฟ่ารู้สึกอดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมไนท์ถึงพูดแบบนี้ว่าเจอกันที่บ้าน ทำไมไม่พูดว่าเจอกันที่สระว่ายน้ำ แต่เขาก็ไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้อีก เพราะเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นอีกครั้ง เขาจึงต้องรับโทรศัพท์มือถือ
“มีอะไร”
“ไม่มีอะไรหรอกแค่อยากมาบอกว่ารักและอย่าลืมที่กูชวนมึงไว้นะ”
“เอ่อ”
“ไม่ต้องมาเอ่อ กูรับได้ไม่ว่ามึงจะตัดสินใจอย่างไร แค่กูโทรมาบอกรักมึงแค่นั้นแหละ ส่วนมึงจะไปหรือไม่ไปแล้วแต่มึงเลย แต่มึงเตรียมเก็บเสื้อผ้าหรือยัง”
“ไหนบอกแล้วแต่เราไง”
“อยากรู้คำตอบจังเลย อดใจรอวันเสาร์ไม่ไหวแล้ว”
ฟีฟ่านิ่งเงียบคิดอีกครั้ง เป็นอีกคราที่ใจของเขาต้องคิดว่าเลือกทางใด จนช่างกันผิดสังเกตว่าทำไมจูจู่ฟีฟ่านิ่งเงียบเสียงขาดหายไป
“ไอ้ฟีฟ่ามึงเป็นอะไร”เสียงช่างกันตะโกนใส่หูของฟีฟ่าอย่างดัง
“จะพูดอะไรเสียงดังเนี่ย”
“กูก็นึกว่ามึงเป็นอะไร หรือหลับไปแล้ว แค่นี้ก็ได้กูไม่รบกวนมึงแล้ววันเสาร์เจอกันนะ”
เพียงช่างกันกดวางมือถือเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครา คราวนี้เป็นของไอโซนัท ซึ่งฟีฟ่าก็ทำแบบเดิมทุกอย่างเหมือนสองครั้งก่อนหน้านี้
“ฮัลโหลพี่นัท”
“พี่นึกว่าน้องฟีฟ่าหลับซะอีก พี่โทรมาสองครั้งไม่เห็นรับโทรศัพท์พี่เลย”
“ฟีฟ่าคุยกับเพื่อนอยู่น่ะ”
“เหรอ ก็ดีคุยกับเพื่อนถ้าฟีฟ่าหลับพี่คงไม่ได้คุยต่ออย่างแน่นอน”
“จะคุยอะไรเหรอครับ”
“ก็เรื่องเดิมนั่นแหละ เรื่องไปเที่ยวมัลดีสฟ์ ฟีฟ่าได้เตรียมเอกสารอะไรหรือยัง”
“เอ่อ ครับ”
ฟีฟ่ายังไม่เตรียมอะไรทั้งนั้นไม่ว่าของใคร และอีกอย่างฟีฟ่ามีเอกสารครบถ้าไปสามารถไปได้ทันที
“พี่จะรอที่สนามบินนะ รอการตัดสินใจของฟีฟ่านั่นแหละ”
“ครับ”
“ทำไมวันนี้ฟีฟ่าดูพูดน้อยจังเลย หรือว่าฟีฟ่าง่วงนอน ถ้างั้นพี่ไม่กวนแล้วนะ แต่ขอพูดอะไรหน่อยได้ไหม”
“ได้ครับ”
“พี่รักน้องฟีฟ่านะ และพี่หวังว่าจะได้รับรักนั้นตอบจากน้องฟีฟ่า ถ้าไม่ขอร้องจนเกินไปแค่นี้น่ะ”
“ครับ”
ฟีฟ่าวางโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอน ส่วนตัวของเขาก็ล้มตัวลงนอนทันที แต่ใม่สามารถข่มตาหลับได้ เพราะเขาต้องคิดแล้วว่าจะต้องตัดสินใจอย่างไรดีกับความรักในครั้งนี้ ฟีฟ่ายังไม่รู้ใจตัวเองเลยว่าชอบใคร และคนไหนที่เขาอยากอยู่ด้วย
เช้าวันสุดท้ายที่ฟีฟ่าต้องเลือกแล้วว่าจะไปไหนกับใคร หรือว่าไม่ไปที่ไหนสักแห่งกับหลายคนที่มาเชิญชวน วันนี้จึงเป็นวันที่จิตใจของฟีฟ่าว้าวุ่นและกดดันไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี ฟีฟ่านั่งครุ่นคิดอยู่นานจนถึงเวลาที่เขาต้องตัดสินใจบางอย่าง ฟีฟ่าจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างเร่งรีบเพราะเขาปล่อยเวลาให้เนิ่นนานไปพอสมควร เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยฟีฟ่าจึงออกจากห้องไปยังจุดหมายที่ใจของเขาต้องการ ฟีฟ่าขับรถออกจากบ้านจนมาถึงอู่ซ่อมรถของช่างกัน เมื่อช่างกันเห็นฟีฟ่าเดินลงมาจากรถ เขารีบเดินไปหาฟีฟ่าในทันที “กูดีใจนะที่มึงจะไปเที่ยวกับกู” “คือ เรา เอ่อ” “อะไร หรือว่ามึงจะมาบอกกูว่าไม่ไป”ช่างกันมีสีหน้าที่ตื่นตระหนก “ใช่”ฟีฟ่ามีสีหน้าที่ซึมลง “ทำไม” “เรารักนายแบบเพื่อนคนหนึ่ง” “น้ำเน่ามาก แต่กูก็เข้าใจมึงนะ คนอย่างกูใครจะมาชอบ”ช่างกันยังตะลึงกับคำพูดของฟีฟ่า มันไม่ใช่อย่างนั้นนายเป็นคนดีคนหนึ่งเลย” “ไม่ต้องมาพูดดีหรอก กูรู้ตัวดีแต่กูก็เคารพการตัดสินใจของมึง” “ขอบใจนาย
หลังเลิกงานฟีฟ่าหนุ่มบรรณารักษ์เดินดุ่มๆออกจากมหาวิทยาลัย เนื่องด้วยวันนี้รถของเขาเสียจึงอยู่ที่ร้านซ่อม ฟีฟ่าจึงต้องขึ้นแท็กซี่กลับบ้าน ฟีฟ่าคิดไว้ว่าจะรอรถที่หน้ามหาวิทยาลัย แต่ยังเดินไปไม่ถึงก็มีรถจอดข้างๆ “ขึ้นรถมาเร็ว”เจมี่รุ่นพี่บรรณารักษ์เรียกฟีฟ่าขึ้นรถ “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจะขึ้นแท็กซี่กลับก็ได้ครับ” “ไม่ได้วันนี้พี่มีธุระจะคุยด้วย” “เอ่อ ก็ได้ครับ” ฟีฟ่ารีบขึ้นรถนั่งข้างหน้าคู่กับเจมี่รุ่นพี่ เมื่อฟีฟ่าขึ้นมาในรถแล้ว เจมี่ก็รีบขับรถออกไปทันที “พี่เจมี่มีอะไรจะคุยกับฟีฟ่าเหรอครับ” “ฟีฟ่านี่หน้าตาน่ารักดีนะอายุก็เกือบสามสิบแล้วหน้ายังเด็กอยู่ด้วย ดูอย่างพี่ซิอายุสามสิบหน้าปาเข้าไปสี่สิบแล้ว”เจมีหนุ่มบรรณารักษ์รุ่นพี่ยิ้มอย่างสดใส พรางหัวเราะไปด้วยความขบขันตัวเอง “พี่อย่าพูดอย่างนี้สิ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ” “พี่รู้ตัว พี่ยอมรับความจริงได้ไม่ต้องปลอบใจพี่หรอก” “ไม่ได้ปลอบใจหรอกครับ แต่ถึงอย่างไงพี่กอล์ฟก็รักพี่ที่สุดอยู่แล้ว” “แหม มันแน่อยู่แล้ว ที่พี่ชวนข
นัทไอโซหนุ่มมองฟีฟ่าไม่วางสายตา เพราะความน่ารักของฟีฟ่าที่มีมาก หน้าตาจิ้มลิ้มตาใสเป็นประกาย ปากนิดจมูกหน่อย ผิวขาวใสผ่องเนียน รูปร่างไม่สูงมากแต่ก็ไม่ผอมบาง “คุณนัทมองอะไร”ฟีฟ่ารู้สึกเขินอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ไม่ต้องเรียกคุณหรอกเรียกพี่นัทก็ได้” “ครับพี่นัท”ฟีฟ่ายิ้มเขินๆ “พี่กำลังอยากได้คนรีวิวบ้านอยู่พอดีเลย พี่อยากชวนน้องฟีฟ่าไปเป็นคนรีวิวบ้านพี่ได้ไหม” “ฟีฟ่าไม่เคยทำครับ กลัวทำได้ไม่ดี อีกอย่างฟีฟ่าพูดไม่เก่ง ทำไมไม่จ้างพวกยูทูปเปอร์ล่ะครับ” “พี่อยากได้ความแปลกใหม่ ได้คนใหม่ๆบ้างไม่อยากได้คนที่หน้าซ้ำน่ะ” “แต่ฟีฟ่าไมได้ดังเป็นคนธรรมดานะครับ ใครที่ไหนจะมาสนใจล่ะ” “เมื่อก่อนดาราก็เป็นคนธรรมดา ทำไมภายหลังเขามาดังได้ล่ะ ฟีฟ่าก็เหมือนกันทำไมจะเป็นไม่ได้ ยิ่งหน้าตาของฟีฟ่านี่อยู่ในกระแสช่วงนี้ด้วย” “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ” “ถึงซิ ถ้าไม่ถึงพี่จะมองฟีฟ่าอยู่อย่างนี้เหรอ” “นั่นมันสายตาพีนัทคนเดียว แต่สายตาคนซื้อบ้าน เขาจะมองแบบพี่นัทหรือเปล่า
วันจันทร์ต้นสัปดาห์ฟีฟ่ามาทำงานอย่างเช่นเคย หน้าที่ของฟีฟ่าคอยรับคืนหนังสือต่างๆ ที่บรรดานักศึกษาวนเวียนมาทั้งวัน ไม่เว้นแม้แต่เวลาเที่ยงวันซึ่งเป็นเวลากินข้าว ในส่วนของฟีฟ่านั้นไม่ต้องลงไปกินที่โรงอาหาร เพราะแม่ของฟีฟ่าได้จัดอาหารการกินมาพร้อมทุกวัน ฟีฟ่าจึงมานั่งกินในห้องเล็กๆสำหรับเจ้าหน้าที่บรรณารักษ์ “กินม่วนเชียว”เจมี่ทัก เมื่อเขากินข้าวนอกมหาวิทยาลัยกับแฟนหนุ่มเสร็จ และกลับเข้ามาในห้องสมุด “กินด้วยกันไหมพี่ วันนี้มีผัดกระเพาปลาหมึกไข่ดาว มีมะม่วงเปรียวจิ้มพริกเกลือด้วย แก้ง่วงนอนเป็นอย่างดี พี่เจมี่แกะกินเลย” “พี่ไม่เกรงใจแล้วนะ ช่วงบ่ายชอบง่วงนอนอยู่ด้วย” “เอาเลยเดี๋ยวฟีฟ่ากินตามทีหลัง” “เมื่อคืนก่อนพี่นัทเป็นไงบ้าง”เจมี่ถาม “ปากหวาน” “แหม ไม่ชอบเหรอปากหวานน่ะ” “ยังไม่รู้เลยตอนนี้ก็ยังไม่ได้คิดอะไร”ฟีฟ่ายังก้มหน้ากินข้าวต่อไปอีก ทั้งๆที่ใจก็แอบคิดอยู่เหมือนกัน “แล้วทำไมไม่บอกเบอร์โทรพี่นัทไปล่ะ ให้มาถามพวกพี่อยู่ได้” “ถ้าให้ไปก็เหมือนง่าย ถ้าไม่บอกให้เอาเบอร์ที่พี่ก็เห
ช่วงเย็นอีกวันถัดไป ฟีฟ่าพึ่งกลับมาถึงบ้าน เขาก็นั่งพักผ่อนกดโทรศัพท์มือถือดู ซึ่งเขาก็เห็นข้อความทางไลน์เด้งขึ้นมา “รถซ่อมเสร็จแล้ว” “เท่าไร” “หมื่นสอง” “แพงจัง” “ถ้าไม่เอาจะถอดอะไหล่ออกแล้วนะ” “ก็ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปเอา” “พรุ่งนี้ไม่อยู่” “วันรืน” “ไม่ว่าง” “วันถัดไป” “ไปขายรถมึง” “ตอนนี้อยู่คนเดียวไม่มีใครไปส่ง รอตอนค่ำได้ไหม” “จะไปแดกเหล้า” “ถ้างั้นช่างมารับหน่อยก็แล้วกัน” “ไม่ว่างเล่นมือถืออยู่” “ไปตามวินมอเตอร์ไซค์ให้หน่อยก็ยังดี” “ไม่ไปขี้เกียจเดิน” “ถ้างั้นว่างวันไหนก็บอกมา เดี๋ยวจะไปเอารถวันนั้น” “ชาติหน้า” “ไปตายซะ” ฟีฟ่ารำคาญความกวนอารมณ์ของช่างกันอย่างมาก แต่เขาก็อยากไปเอารถอยู่เหมือนกัน แต่ก็ขี้เกียจเดิน ในระหว่างที่ฟีฟ่ากำลังตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรดี เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น “ เดี๋ยวกูจะไปรับมึง”
วันหยุดสุดสัปดาห์ช่วงสายๆฟีฟ่านั่งรอไอโซนัท ที่จะมาเจรจากับพ่อของเขาในเรื่องที่จะให้ไปรีวิวบ้านจัดสรรของไอโซนัท ซึ่งเป็นตามคาดไอโซนัทมาก่อนเวลาร่วมครึ่งชั่วโมง “หวัดดีครับพี่นัท นั่งรอตรงนี้ก่อนนะครับ”ฟีฟ่าเอ่ยขึ้น “บ้านของน้องฟีฟ่าน่าอยู่ดีน่ะพี่ว่า” “ขอบคุณครับที่ชม เดี๋ยวผมจะไปเอาน้ำมาหาให้ดื่มก่อนครับ” ก่อนที่ฟีฟ่าจะไปเอาน้ำดื่มเขาได้ไปบอกพ่อของเขาให้ออกมาที่ห้องรับแขก แต่ยศพ่อของฟีฟ่าก็ยังไม่ออกมา ถึงแม้ฟีฟ่าจะเอาน้ำดื่มมาให้ไอโซนัทแล้วก็ตามที “สงสัยพ่อทำธุระส่วนตัวอยู่ รอสักครู่นะครับ” “ไม่เป็นไร พี่รอได้ทั้งวัน ขอแค่ฟีฟ่าอยู่ใกล้ๆพี่เป็นพอ” “คงไม่ได้หรอกมั้ง”ยศพ่อของฟีฟ่าเดินออกมาพอดีและทันได้ยิน ยศมองหน้าไอโซนัทแวบนึงแล้วนั่งลง “สวัสดีครับคุณพ่อ”ไอโซนัทยกมือไหว้ “ฟีฟ่าไม่มีพี่ไม่มีน้อง”ยศพูดห้วนๆ “ครับคุณลุง” “อาก็พอ”เสียงห้วนๆดังขึ้นอีกครั้ง “ครับคุณอา” “มีอะไรว่ามา” “ผมจะมาให้น้องฟีฟ่าไปช่วยรีวิวบ้านจัดสรรให้หน่อยครับ” “คนอื่น
วันที่ฟีฟ่ารอคอยก็มาถึง วันที่เข้าต้องไปดูที่ดินกับไอโซนัทเพียงสองคน แต่แล้วความฝันนั้นได้พังทลาย เพราะยศพ่อของเขาให้ไนท์ไปเป็นเพื่อน“พ่อฟีฟ่าไปคนเดียวก็ได้ ทำไมต้องให้ไนท์ไปด้วยล่ะ”“จะไปสองคนได้ไง ที่ดินของเราอยู่ไกล กว่าจะกลับมาก็มืดค่ำแล้ว มีไอ้ไนท์ไปด้วยพ่อจะได้วางใจ”“พี่นัทก็ไปด้วยนี่ครับ”“พ่อไม่ค่อยคุ้นเคยกับเขาสักเท่าไร พ่อไม่อยากให้ไปกันสองคน พ่อพูดคำไหนก็ต้องเป็นคำนั้น ถ้าเชื่อพ่อทุกอย่างจะดีเอง”“ก็ได้ครับพ่อ”“นั่นไงคุณนัทของลูกมาแล้ว”สินีแม่ของฟีฟ่าพูดขึ้นทันที ที่เห็นรถของหรูของไอโซนัทขับเข้ามาภายในบ้าน“แล้วไหนคนดีของพ่อล่ะ ยังไม่เห็นมาเลย”ฟีฟ่ามองหาไนท์“มาแล้วครับ ผมรออยู่ที่ประตูรั้วข้างบ้าน รอให้ไอโซนั่นมาก่อนผมค่อยมาโชว์ตัว”ไนท์เดินยิ้มร่ามาหาฟีฟ่า“นกรู้”ฟีฟ่าพูดขึ้นลอยๆ“สวัสดีครับคุณอาทั้งสองและน้องฟีฟ่าด้วยนะ”ไอโซนัทยิ้มน้อยยิ้มใหญ่“เราไปกันเลยไหมน้องฟีฟ่า ผมขออนุญาตพาฟีฟ่าไปด้วยนะครับคุณอา”“เดี๋ยวก่อน อีกคนยังไม่มาเลย”ยศพูดขึ้น“ใครอีกล่ะ”ฟีฟ่าเสียงสูงนิดนึง“คนขับรถซิ”“ก็พี่นัทไง”“คุณนัทเขาไม่ชำนาญทางหรอก พ่อเตรียมคนขับรถไว้แล้ว เขาเป็นลูกชายคนที่พ่อรู
งานรีวิวบ้านจัดสรรพผ่านไปด้วยดี ซึ่งในตอนค่ำได้มีนัดสังสรรค์ทีมงาน และบรรดาเพื่อนของไอโซนัท ทางครอบครัวของยศให้ฟีฟ่าไปคนเดียว ทีแรกยศก็ไม่อยากให้ไปแต่ฟีฟ่าขอร้องจนยศใจอ่อน เมื่อฟีฟ่ามาในงานก็พบกับความตื่นตาตื่นใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่เขาได้เข้ามาในงานสังคมอีกระดับหนึ่ง “น้องฟีฟ่ามาพอดีเลย เดี๋ยวพี่จะแนะนำเพื่อนพี่ให้รู้จัก”ไอโซนัทจับมือของฟีฟ่าและดึงมาหาเพื่อนๆของเขา ซึ่งมีแต่คนระดับลูกหลานไอโซร้อยล้านถึงพันล้านบางคนหมื่นล้าน “น้องฟีฟ่าหวัดดีพี่เขาซิ เพื่อนพี่ทั้งนั้นเลย” “สวัสดีครับ”ฟีฟ่ายกมือไหว้ ยิ้มแบบฝืนๆเพราะการแต่งตัวแต่ละคนหรูหรามาก ทั้งตัวมีแต่แบรนด์เนม ส่วนฟีฟ่ามองตัวเองก็เสื้อผ้าขึ้นห้างเหมือนกัน แค่หลักพันเท่านั้นไม่ถึงหมื่นถึงแสนอย่างเพื่อนไอโซนัท “น้องฟีฟ่าน่ารักสมคำบอกเล่าของนายจริงๆ”เพื่อนคนหนึ่งของไอโซนัทพูดขึ้น “แน่นอนอยู่แล้ว”ไอโซนัทกอดคอฟีฟ่าไว้ “แล้วน้องฟีฟ่าทำงานอะไรเหรอครับ” “น้องเขาเป็นบรรณารักษ์ที่ห้องสมุดในมหาวิทยาลัยน่ะ”ไอโซนัทตอบแทน “พี่ก็นึกว่าน้องฟีฟ่าทำธุรกิจ หรือ ไม่ก็ช่วยคุณพ่อทำธุรกิจ แต่เป็นบรรณา