วันหยุดสุดสัปดาห์เช่นเคยที่ฟีฟ่าต้องเอาอาหารไปให้ไนท์ ในวันนี้เขารู้สึกแปลกๆไม่เหมือนเช่นทุกวัน จิตใจในห้วงลึกหวั่นๆใจชอบกล แต่เขาพยายามสลัดความรู้สึกนั้นทิ้งไป แต่เมื่อเดินไปถึงขอบสระ ฟีฟ่าแอบรู้สึกผิดหวังเล็กๆ ที่ไม่เห็นไนท์อยู่ในสระว่ายน้ำ
“พี่ฟีฟ่าเข้ามาในบ้านก่อนก็ได้ครับ ผมยังไม่ว่ายน้ำหรอก”
“ไอ้เด็กบ้ารู้ทันอีก”ฟีฟ่าบ่นพึมพำในใจ
เมื่อฟีฟ่าเดินเข้ามาในบ้านหลังน้อยๆแต่เนื้อที่บริเวณบ้านกว้างใหญ่ เพียงฟีฟ่าเปิดประตูเข้าไปในบ้านก็พบกับความรกข้าวของวางไม่เป็นที่เป็นทางเต็มไปหมด
“ทำไมบ้านรกอย่างนี้ ไม่รู้จักเก็บกวาดให้เรียบร้อย บ้านของพ่อพี่ออกจะสวยงาม แต่น้องไนท์ทำซะเละเลย”
“มาถึงก็บ่นๆยังไม่แก่ซักหน่อย ก็ไม่มีเวลาทำนี่ครับไหนจะเรียนหนังแล้วต้องซ้อมกีฬาอีก ถ้าพี่ฟีฟ่าว่างๆมาช่วยผมทำความสะอาดก็ได้ ดีกว่าไปล่องเรือเจ้าพระยา กับไปเป็นสก้อยท้ายรถบิ๊กไบค์”ไนท์เดินเข้ามาหาฟีฟ่าโดยมีผ้าเช็ดตัวผืนเดียว
“ฟีฟ่ามันเรื่องของพี่นี่ พี่จะไปไหนกับใครก็ได้”
“นั่นแสดงว่าพี่ฟีฟ่าปฏิเสธผมกลายๆใช่ไหม”
“ปฏิเสธอะไรบอกมา”
“ก็ผมบอกรักพี่ไปแล้วนี่แต่พี่ยังไปกับคนอื่นอีก ผมน้อยใจมากเลยรู้ไหม”
“จะมาน้อยอกน้อยใจอะไรพี่ยังไม่ได้บอกอะไรใครเลย”
“ไม่รู้แหละ ถ้าพี่ฟีฟ่าไปกับใครอีก ผมจะฟ้องโค้ชยศว่าพี่ฟีฟ่าหนีเที่ยว”ไนท์นั่งลงบนโซฟาที่เต็มไปด้วยสิ่งของเครื่องใช้
“อย่าพูดไปเชียวนะ”
“ทำไมจะพูดไม่ได้พี่ฟีฟ่าทำให้ผมผิดหวังนี่”
“เด็กคนนี่เป็นอะไรมากหรือเปล่า มาคาดหวังอะไรกับพี่”
“คาดหวังสักวันหนึ่งพี่จะรักผมไงครับ”
“เลิกพูดก่อนเรื่องนี้ เอ้าข้าว”ฟีฟ่ายื่นปิ่นโตกับข้าวให้ไนท์
“ขอบใจพี่ฟีฟ่ามาก แต่มันคนะเรื่องกับที่พี่ฟีฟ่าหนีเที่ยวกับหนุ่มๆ”
“อะไร”ฟีฟ่าหันหน้าควับทันที
“อย่ามาขู่พี่นะ พี่ไม่กลัวหรอก”ฟีฟ่ายืนกอดอกเพราะเขายังไม่กล้านั่งบนโซฟาที่มีแต่ฝุ่น
“ไม่กลัวแน่นะ วันหลังพี่อาจจะไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนอีกก็ได้ พี่ก็รู้ดีนี่ว่าโค้ชยศนั้นเป็นคนอย่างไง”
“นั่นมันพ่อพี่นะพูดดีดีหน่อย”
“พูดดีดีก็ได้ ผมกำลังจะไปซ้อมว่ายน้ำอยู่พอดีเลย ผมให้พี่เลือกสองทางเลือก ทางแรกทำความสะอาดบ้านให้ผม ทางเลือกที่สองลงไปว่ายน้ำกับผม แต่ใจจริงผมอยากให้พี่ฟีฟ่าลงไปว่ายน้ำกับผมมากกว่า”
“ทำไม อยากรู้ว่าพี่ฟีฟ่าขนาด อุ๊ย ว่ายน้ำเก่งแค่ไหน”ไนท์อมยิ้ม
“ใครจะไปว่ายเก่งสู้นักว่ายน้ำทีมชาติได้ล่ะ”
“ผมไม่ได้หมายความอย่างงั้นซักหน่อย ผมแค่อยากรู้ว่าพี่ฟีฟ่าว่ายน้ำเป็นไงบ้าง สมกับเป็นลูกอดีตนักว่ายน้ำทีมชาติไหม”
“พี่ไม่อยากจะคุยตอนเด็กๆน่ะ พี่ติดทีมโรงเรียนด้วยแหละ แต่พอพี่โตขึ้นตัวเล็กไง ก็เลยเลิกว่ายน้ำ แต่พี่ว่ายน้ำเก่งอยู่ พอเอาตัวรอดได้ถ้าตกน้ำ”
“ไม่เชื่อหรอก ผมว่าพี่ฟีฟ่าว่ายน้ำไม่เป็นมากกว่า”
“ไม่เชื่อก็ไปถามพ่อพี่ซิ”
“พ่อลูกก็ต้องเข้าข้างกันอยู่แล้ว ถ้าบอกความจริงว่าลูกชายคนเดียวว่ายน้ำไม่เป็นเสียหายนะ”
“ไม่ต้องมาพูดจาหลอกล่อพี่หรอก พี่ไม่มีวันหลงกลง่ายๆ”
“ไม่ได้หลอกล่อซักหน่อย แต่ไม่เชื่อต่างหากล่ะว่าพี่ฟีฟ่าว่ายน้ำเป็น เพราะตั้งแต่ผมมาอยู่ที่นี่ผมยังไม่เห็นพี่ฟีฟ่าว่ายน้ำซักครั้งเลย”
“ทำไมพี่ต้องเชื่อไนท์ด้วย พี่เป็นคนไม่แคร์สื่ออยู่แล้ว”
“แล้วพี่แคร์ผมไหมล่ะครับ”ไนท์ลุกขึ้นยืนเดินเข้ามาใกล้ๆฟีฟ่า
“เดินเข้ามาทำไม”
“ไม่น่าถามก็เดินมาพี่ฟีฟ่าไง”
“นั่นแหละ”
“ก็จะมาชวนพี่ฟีฟ่าไปว่ายน้ำกับผมไงครับ นะครับ ผมอยากเห็นพี่ฟีฟ่าว่ายน้ำ”
“ไม่ว่าย”ฟีฟ่าตวาดเสียงดัง
“บิ๊กไบค์ เรือยอร์ช เรื่องไหนก่อนดีนะ”
“อย่าแม้แต่จะคิดเชียวนะ”
“คิดไปแล้วทำไงล่ะ”
“น้องไนท์”ฟีฟ่าเสียงสูง
“ครับพี่ฟีฟ่า”
“ก็ได้ เดี่ยวพี่ไปเอาชุดว่ายน้ำมาก่อน
“เดี๋ยวผมรอที่สระนะครับ”
“ไม่ต้องรอหรอก อยากทำอะไรก็ทำไปเลย”ฟีฟ่าหันหลังกลับเดินออกจากบ้านไปอย่างอารมณ์เสีย
ไนท์แหวกว่ายน้ำอยู่กลางสระ ส่วนสายตาก็แวะเวียนมารอบสระ ไนท์หวังว่าฟีฟ่าจะมาว่ายน้ำกับเขา แต่เวลาก็เนินนานเกินไปจนไนท์หมดหวัง เขาจึงว่ายเข้าริมสระกระโดดขึ้นนั่งขอบสระด้วยใจเจ็บเล็กๆ
“ทำไมไม่ลงไปซ้อมว่ายน้ำ อู้เหรอเดี๋ยวจะฟ้องพ่อนะ”เสียงฟีฟ่าดังอยู่ข้างหลัง
ไนท์ได้ยินเสียงที่เขารอมานาน เขาจึงรีบหันหลังไปมองทันที และสิ่งที่ไนท์เห็นทำให้เขาอ้าปากค้าง ตกตะลึงงงงันด้วยไม่อยากเชื่อสายตา ว่าฟีฟ่าจะใส่ชุดว่ายน้ำชุดนี้มา
“มองอะไรไม่เคยเห็นคนน่ารักเหรอ”
“พี่จะมาว่ายน้ำหรือไปตีปิงปอง”ไนท์อดหัวเราะไม่ได้ แถมยังผิดหวังนิดหน่อย
ฟีฟ่าก้มลงมองตัวเอง เขาก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ เพราะชุดที่ฟีฟ่าใส่มา เป็นกางเกงขาสั้นเลยเข่ามาหน่อย ส่วนท่อนบนเป็นเสื้อยืดสีขาว สาเหตุที่ฟีฟ่าไม่ใส่กางเกงว่ายน้ำมา เพราะเขารู้สึกอายไนท์ เมื่อต้องเปลือยกายท่อนบน และเผยเห็นบางสิ่งที่เขาชอบดูอยู่เป็นประจำ
“ถ้าชุดนี้ว่ายน้ำไม่ได้พี่จะกลับแล้วนะ”
“ได้เลยไม่มีปัญหา ผมขอแค่พี่ฟ่าลงมาว่ายน้ำกับผมแค่นั้นเป็นพอ”
ไนท์กระโดดลงน้ำไปด้วยความดีใจ ส่วนฟีฟ่าก็พุ่งแหลมกระโดดลงสระ พร้อมกับว่ายน้ำท่าฟรีสไตส์ไปกลางสระว่ายน้ำ
“ท่าโดดของพี่ฟีฟ่าสวยงามมากเลย แต่ผมว่าพี่ฟีฟ่าถอดเสื้อดีกว่า เพราะมันเปียกชุ่มทำให้ว่ายน้ำไม่เร็วนะ”
“ไม่ต้องถอดหรอก พี่แค่ลงมาว่ายน้ำเล่นๆแค่นั้น”
“ถ้าไม่ถอดผมจับพี่ถอดนะ”
ไนท์ลอยคอไปหาฟีฟ่าและกอดร่างฟีฟ่าเชยคางไว้ที่บ่า จนแก้มทั้งสองสัมผัสกันอย่างแผ่วเบา ส่วนลำตัวได้แนบแน่นกันมากขึ้น จนฟีฟ่ารู้สึกมีของแข็งมาสัมผัสบั้นท้าย เขาจึงพยายามดิ้นให้หลุดในอ้อมแขนของไนท์ แต่ก็ไม่สำเร็จเขาไม่สามารถจะหลุดพ้นเงื้อมมือหนุ่มรุ่นน้องได้
“พี่ยอมแล้วพี่ถอดก็ได้”
“ต้องโดนแบบนี้ถึงจะยอมใช่ไหม”
ไนท์คลายกอดฟีฟ่าปล่อยร่างให้ลอยอยู่ในน้ำตามเดิม เมื่อฟีฟ่าอิสระจากอ้อมแขนของไนท์เขาจึงดึงปลายเสื้อถลกขึ้นออกเหนือศีรษะ เขาจับม้วนๆแล้วโยนขึ้นไปบนขอบสระน้ำ
“ขาวมากเลย นมชมพูด้วย”
“จะมาดูพี่ว่ายน้ำหรือมาดูอะไร”
“ดูทั้งสองอย่างนั่นแหละครับพี่ฟีฟ่า”
“ไม่ต้องมาดูเลย”ฟีฟ่าว่ายน้ำท่ากรรเชียง โชว์ไนท์เพื่อแก้ข้อกล่าวหาว่าว่ายน้ำไม่เป็นทันที
ไนท์ลอยคออยู่กลางสระแล้วอมยิ้ม หลังจากนั้นเขาก็ว่ายน้ำตามฟีฟ่าไปยังขอบสระ ไนท์ยังไปไม่ทันทำอะไร ฟีฟ่าก็กระโดดขึ้นนั่งขอบสระ จนเผยเห็นสรีระท่อนบ่อนอันขาวนวลใสกระจ่าง
เมื่อไนท์ไปถึงขอบสระ เขาก็กระโดดขึ้นนั่งขอบสระเคียงคู่กับฟีฟ่า ส่วนฟีฟาชำเลืองมองท่อนล่างของไนท์แวบนึง เพราะเมื่อกี้เขาสัมผัสถึงบางอย่างที่ซ่อนไว้ในกางเกงว่ายน้ำ
“ดูการว่ายน้ำของพี่ฟีฟ่าแล้ว สมกับเป็นลูกชายอดีตนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติ”
“มันแน่อยู่แล้ว เพียงแต่สรีระพี่ไม่ให้แค่นั้นแหละ และอีกอย่างแม่พี่ไม่อยากให้เป็นนักกีฬา อยากให้เรียนหนังสืออยู่บ้านกับท่าน”
“ครอบครัวของพี่ฟีฟ่าอบอุ่นจัง จนผมอยากจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวพี่ฟีฟ่าซะแล้ว”
“ตอนนี้ก็เหมือนเป็นส่วนหนึ่งอยู่แล้วนี่”ฟีฟ่าหันมามองไนท์ที่อมยิ้มอย่างมีความสุข
“ถ้าจะให้ดีกว่านี้อยู่ในกลางใจพี่ฟีฟ่ามันจะได้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น”
“เป็นนักกีฬาหรือเป็นนักรัก พูดจาดีๆได้สองสามคำแล้วหยอด พี่ไม่ใช่ขนมครกนะ ไม่หลงคำหยอดใครง่ายๆหรอก”
“ใครว่าพี่เป็นขนมครกล่ะ ผมเห็นพี่เป็นขนมของผมต่างหาก”
“ขนมอะไร”
“ขนมฉัน”
“ขนมชั้น มุกแป๊ก”ฟีฟ่าหัวเราะ
“ว่าผมเหรอ นี่แน่”ไนท์ขโมยจูบฟีฟ่าหนึ่งฟอดแล้วกระโดดลงน้ำไปในทันที
“ไอ้เด็กบ้า”ฟีฟ่ากระโดดลงสระ ว่ายน้ำตามไนท์ไปจนสุดขอบสระ และ ว่ายกลับมาอีกยังฝั่งเดิมจนถึงขอบสระ
ทั้งสองได้ลอยคอเกาะขอบสระว่ายน้ำ มีช่วงจังหวะหนึ่งที่ฟีฟ่าและไนท์หันหน้ามาจึงทำให้ สายตาทั้งสองได้ประสานกันอย่างไมได้ตั้งใจ จนไนท์อดใจไม่ไหวค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ๆจนริมฝีปากเกือบจะชนกันอยู่ในไม่ช้า
“ทำไรกัน”เสียงโค้ชยศดังขึ้น
ไนท์รีบดึงใบหน้าออกห่าง ส่วนฟีฟ่าแกล้งหอบเหนื่อย ไนท์นั้นรีบรับช่วงต่อทันที เขาพยุงร่างพร้อมดึงฟีฟ่าขึ้นมานอนบนขอบสระ
“ฟีฟ่าเป็นอะไร”เสียงโค้ชยศดังกังวาน
“พี่ฟีฟ่าเหนื่อยครับ ว่ายน้ำแข่งกับผมตั้งสองรอบโน้น”ไนท์ใจคอไม่ดี เพราะกลัวยศกล่าวหาว่ากินบนเรือนขี้บนหลังคา ถ้าได้เห็นเหตุการณ์เมื่อครู่
ฟีฟ่าแกล้งพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับส่ายหน้าไปมา และชำเลืองมองมาทางยศพ่อของเขา ที่มองฟีฟ่าด้วยความเป็นห่วง
“พ่อ ฟีฟ่าไม่เป็นอะไรแล้ว ฟีฟ่าไม่ค่อยได้ออกกำลังกายไง พอมาลงสระเลยปรับตัวไม่ทัน
“ใช่ ต่อไปฟีฟ่าไม่ต้อง..”โค้ชยศนิ่งไปชั่วครู่ จนทำให้ฟีฟ่าและไนท์ใจคอไม่ดี
“ไปวิ่งอีกแล้ว มาว่ายน้ำนี่แหละดีที่สุด ออกกำลังกายได้ทุกส่วน และข้อสำคัญจะได้มาซ้อมว่ายน้ำเป็นเพื่อนไนท์ อีกอย่างเวลาที่พ่อไม่อยู่จะได้ฝากไนท์ไว้กับฟีฟ่า
ไนท์และฟีฟ่าแอบมองตากันแล้วอมยิ้ม ทั้งสองรู้สึกโล่งอกโดยเฉพาะไนท์นั้น เขาอยากจะตะโกนออกมาดังๆแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเงียบไว้อย่างเดียว แต่ทั้งสองหารู้ไม่ว่า โค้ชยศเห็นทุกอย่างตั้งแต่เริ่มต้นจนเกือบจบ แต่เขาไม่พูดอะไรและขัดขวาง ไม่ใช่เพราะสนับสนุน สาเหตุที่ยศทำเช่นนั้นเพื่อไนท์จะได้มีสามาธิในการซ้อม
ฟีฟ่ากับยศนั่งคุยกันในห้องรับแขกตามภาษาพ่อลูก แต่แล้วก็มีชายหนุ่มที่คุ้นเคยเข้ามาหา โดยมีแม่ของฟีฟ่าเป็นคนเปิดประตูให้เข้ามา “สวัสดีครับพ่อ”ช่างกันยกมือไหว้ยศ “ใครพ่อมึง”ยศเริ่มมีสีหน้าที่ไม่พอใจเท่าไร “ก็พ่อไงครับ” “ไอ้นี่เห็นใจดีด้วย พูดอะไรไม่เกรงใจกันเลย” “ทำไมต้องเกรงใจครับ เพราะอีกหน่อยเราก็จะเป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้วนี่ครับ”ช่างกันนั่งข้างๆฟีฟ่า “บอกพ่อหรือยังเรื่องของเรา”ช่างกันพูดเสียงดังข้างๆหูฟีฟ่า “อะไรของนาย”ฟีฟ่าใช้สายตาปรามช่างกันไว้แต่ดูไม่เป็นผลซักเท่าไร “มีอะไรพูดมาตรงๆเรื่องอะไรบอกมา”ยศเอ่ยขึ้น “คือว่า ผมกับฟีฟ่ารักกันครับ” “ไม่จริงนะพ่อ”ฟีฟ่าตกใจกับคำพูดของช่างกัน “ใช่ครับ ฟีฟ่าขอเวลาตัดสินใจสักพัก แต่ผมรอไม่ไหวกลัวโดนแย่ง ทั้งหนุ่มนักว่ายน้ำและไอโซนั่นอีก ผมต้องชิงตัดหน้ามาพูดกับพ่อไว้ก่อน เพราะผมจริงใจมีอะไรก็จะพูดตรงๆครับ”ช่างกันมีน้ำเสียงที่หนักแน่น “เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ฟีฟ่าเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง” “
ช่วงพักเที่ยงไอโซนัทได้มาหาฟีฟ่าที่ห้องสมุดในมหาวิทยาลัย โดยมีเจมี่เป็นฝ่ายจัดแจงทุกอย่างให้ได้เจอกัน จึงทำให้ฟีฟ่าและไอโซนัทได้ออกไปข้างนอกด้วยกัน โดยไอโซนัทได้พาฟีฟ่าไปร้านอาหารธรรมดาร้านหนึ่ง เพราะเขาไม่อยากที่จะพาฟีฟ่าไปที่ร้านหรูอย่างที่เคยพาไป “ชอบไหมร้านแบบนี้”ไอโซนัทเอ่ยถามขึ้น สาเหตุที่ไอโซนัททำแบบนี้เพื่อที่จะปรับตัวให้เข้ากับฟีฟ่าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในช่วงเวลานี้ เพราะไอโซนัทรู้ตัวว่าคุ่แข่งของเขานั้นมีตั้งสองคน ซึ่งแต่ละคนก็ไม่ธรรมดาเขาจึงไม่อาจไว้วางใจได้ “ชอบครับ ร้านแบบนี้ก็ดีเหมือนกันไม่ต้องมีอะไรมาก แค่สั่งมาแล้วกิน” “พี่ดีใจนะที่น้องฟีฟ่าชอบร้านอาหารที่พี่พามา และพี่จะพามาบ่อยๆ สั่งอาหารเลยซิ เพราะวันนี้เรามีเวลากันน้อย” “ครับ” “ไม่ต้องเกรงใจพี่นะ” ฟีฟ่าและไอโซนัทได้สั่งอาหารอย่างที่ตัวเองชอบไม่กี่อย่าง เพราะด้วยเวลาอันเร่งรับมีแค่หนึ่งชั่วโมงช่วงพักเที่ยง “พักนี้น้องฟีฟ่าไม่ค่อยมีเวลาไปไหนมาไหนกับพี่เลยนะ เห็นเจมี่เล่าว่าไปโน้นไปนี่ตลอดเวลาเลย จนทำให้พี่รู้สึกน้อยใจเป็นบางคร
ก่อนที่ไนท์จะออกไปเก็บตัวฝึกซ้อม เขาได้เข้ามาหาฟีฟ่าในบ้าน ซึ่งยศผู้เป็นพ่อก็เห็นอยู่แต่เขาแสร้งไม่เห็น เพราะไม่อยากไปขัดขวางจะทำให้ไนท์เกิดความเครียดอาจส่งผลต่อการแข่งขัน เมื่อทั้งคู่ได้อยู่ในห้องโถง มีโซฟาสามตัวต่อติดกันไว้ ไนท์นั่งลงข้างๆฟีฟ่าจนตัวติดกันทีเดียว “นั่งห่างๆก็ได้ เดี๋ยวพ่อพี่มาให้”ฟีฟ่าสอดสายตามองไปรอบๆบ้าน “ถึงเห็นโค้ชก็ไม่ว่าอะไรหรอก ผมว่าโค้ชคงเห็นอะไรบ้างแหละ ตอนที่เราอยู่สองคนตั้งหลายครั้ง”ไนท์อมยิ้ม “พูดไปเรื่อยมาหาพี่มีอะไร” “เดี๋ยวสายๆผมต้องไปเก็บตัวแล้วครับ อาทิตย์หน้าต้องลงแข่งเพื่อคัดตัวไปแข่งซีเกมส์” “เหรอ พี่อวยพรให้โชคดีนะ”ฟีฟ่าเปลื่ยนสีหน้าหันมายิ้มแย้มให้กำลังใจ “ผมชอบรอยยิ้มพี่ฟีฟ่าจังเลย” “อย่ามัวมาชอบรอยยิ้มพี่เลย เอาเวลาไปซ้อมเพื่อชัยชนะเถอะ” “ถ้าเกิดผมพลาดการคัดเลือกพี่ฟีฟ่าจะมีรางวัลอะไรให้ผมไหม” “จะเอาอะไรล่ะ รถเบนซ์เหรอ” “เอาไปทำไมผมอยากได้ใจพี่ฟีฟ่ามากกว่า เมื่อไรพี่จะให้ใจผมซักทีล่ะครับ” “เอาอีกแล้ว เอาคำพูดหวานๆ
หลายวันผ่านมาและในค่ำคืนที่เหลือไม่กี่วัน ถึงคราที่ฟีฟ่าตต้องตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะทำเช่นไรกับชีวิต ซึ่งในระหว่างที่ฟีฟ่านั่งนิ่งครุ่นคิดอยู่นั้น ยศและสินีผู้เป็นแม่ได้มานั่งข้างๆทั้งสองฝั่งซ้ายขวา “พ่อกับแม่มีอะไรเหรอครับ”ฟีฟ่าหันมองซ้ายทีขวาที “พ่อต้องถามฟีฟ่ามากกว่ามั้ง ว่าเป็นอะไรมานั่งซึมคนเดียวหลายวันแล้วนี่”ยศมองหน้าลูกชายแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะความสดใจร่าเริงของฟีฟ่าได้หายไป ในช่วงแรกยศคิดว่าฟีฟ่าอาจคิดถึงไนท์ แต่เมื่อได้ยินเรื่องราวต่างๆที่สินีเล่าให้ฟัง ว่ามีหนุ่มสามคนชวนฟีฟ่าไปเที่ยวหนึ่งในนั้นรวมไนท์ด้วย “ไม่มีอะไรหรอกครับพ่อนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย”ฟีฟ่าพยายามฝืนยิ้ม แต่เขาก็ไม่สามารถปิดบังซ้อนเร้นความคับอกคับใจได้ “ไม่ต้องปิดบังพ่อกับแม่หรอก แม่รู้ทุกอย่างในวันนั้นแม่ไม่ได้แอบฟังนะ แต่แม่บังเอิญได้เห็นได้ยิน”สินีขยับมือลูบศีรษะของลูกชาย “พ่อรู้ว่าลูกพ่อชอบแบบไหน พ่อไม่สนหรอก แต่ที่พ่อสนใจ พ่ออยากรู้ว่าลูกจะตัดสินใจอย่างไรมากกว่า ซึ่งพ่อรับได้หมดทุกคนที่ลูกเลือก”ยศยิ้มอย่างผู้ใหญ่ใจดีให้ฟีฟ่าได้เห็นเพื่อจะได้สบาย
เช้าวันสุดท้ายที่ฟีฟ่าต้องเลือกแล้วว่าจะไปไหนกับใคร หรือว่าไม่ไปที่ไหนสักแห่งกับหลายคนที่มาเชิญชวน วันนี้จึงเป็นวันที่จิตใจของฟีฟ่าว้าวุ่นและกดดันไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี ฟีฟ่านั่งครุ่นคิดอยู่นานจนถึงเวลาที่เขาต้องตัดสินใจบางอย่าง ฟีฟ่าจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างเร่งรีบเพราะเขาปล่อยเวลาให้เนิ่นนานไปพอสมควร เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยฟีฟ่าจึงออกจากห้องไปยังจุดหมายที่ใจของเขาต้องการ ฟีฟ่าขับรถออกจากบ้านจนมาถึงอู่ซ่อมรถของช่างกัน เมื่อช่างกันเห็นฟีฟ่าเดินลงมาจากรถ เขารีบเดินไปหาฟีฟ่าในทันที “กูดีใจนะที่มึงจะไปเที่ยวกับกู” “คือ เรา เอ่อ” “อะไร หรือว่ามึงจะมาบอกกูว่าไม่ไป”ช่างกันมีสีหน้าที่ตื่นตระหนก “ใช่”ฟีฟ่ามีสีหน้าที่ซึมลง “ทำไม” “เรารักนายแบบเพื่อนคนหนึ่ง” “น้ำเน่ามาก แต่กูก็เข้าใจมึงนะ คนอย่างกูใครจะมาชอบ”ช่างกันยังตะลึงกับคำพูดของฟีฟ่า มันไม่ใช่อย่างนั้นนายเป็นคนดีคนหนึ่งเลย” “ไม่ต้องมาพูดดีหรอก กูรู้ตัวดีแต่กูก็เคารพการตัดสินใจของมึง” “ขอบใจนาย
หลังเลิกงานฟีฟ่าหนุ่มบรรณารักษ์เดินดุ่มๆออกจากมหาวิทยาลัย เนื่องด้วยวันนี้รถของเขาเสียจึงอยู่ที่ร้านซ่อม ฟีฟ่าจึงต้องขึ้นแท็กซี่กลับบ้าน ฟีฟ่าคิดไว้ว่าจะรอรถที่หน้ามหาวิทยาลัย แต่ยังเดินไปไม่ถึงก็มีรถจอดข้างๆ “ขึ้นรถมาเร็ว”เจมี่รุ่นพี่บรรณารักษ์เรียกฟีฟ่าขึ้นรถ “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจะขึ้นแท็กซี่กลับก็ได้ครับ” “ไม่ได้วันนี้พี่มีธุระจะคุยด้วย” “เอ่อ ก็ได้ครับ” ฟีฟ่ารีบขึ้นรถนั่งข้างหน้าคู่กับเจมี่รุ่นพี่ เมื่อฟีฟ่าขึ้นมาในรถแล้ว เจมี่ก็รีบขับรถออกไปทันที “พี่เจมี่มีอะไรจะคุยกับฟีฟ่าเหรอครับ” “ฟีฟ่านี่หน้าตาน่ารักดีนะอายุก็เกือบสามสิบแล้วหน้ายังเด็กอยู่ด้วย ดูอย่างพี่ซิอายุสามสิบหน้าปาเข้าไปสี่สิบแล้ว”เจมีหนุ่มบรรณารักษ์รุ่นพี่ยิ้มอย่างสดใส พรางหัวเราะไปด้วยความขบขันตัวเอง “พี่อย่าพูดอย่างนี้สิ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ” “พี่รู้ตัว พี่ยอมรับความจริงได้ไม่ต้องปลอบใจพี่หรอก” “ไม่ได้ปลอบใจหรอกครับ แต่ถึงอย่างไงพี่กอล์ฟก็รักพี่ที่สุดอยู่แล้ว” “แหม มันแน่อยู่แล้ว ที่พี่ชวนข
นัทไอโซหนุ่มมองฟีฟ่าไม่วางสายตา เพราะความน่ารักของฟีฟ่าที่มีมาก หน้าตาจิ้มลิ้มตาใสเป็นประกาย ปากนิดจมูกหน่อย ผิวขาวใสผ่องเนียน รูปร่างไม่สูงมากแต่ก็ไม่ผอมบาง “คุณนัทมองอะไร”ฟีฟ่ารู้สึกเขินอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ไม่ต้องเรียกคุณหรอกเรียกพี่นัทก็ได้” “ครับพี่นัท”ฟีฟ่ายิ้มเขินๆ “พี่กำลังอยากได้คนรีวิวบ้านอยู่พอดีเลย พี่อยากชวนน้องฟีฟ่าไปเป็นคนรีวิวบ้านพี่ได้ไหม” “ฟีฟ่าไม่เคยทำครับ กลัวทำได้ไม่ดี อีกอย่างฟีฟ่าพูดไม่เก่ง ทำไมไม่จ้างพวกยูทูปเปอร์ล่ะครับ” “พี่อยากได้ความแปลกใหม่ ได้คนใหม่ๆบ้างไม่อยากได้คนที่หน้าซ้ำน่ะ” “แต่ฟีฟ่าไมได้ดังเป็นคนธรรมดานะครับ ใครที่ไหนจะมาสนใจล่ะ” “เมื่อก่อนดาราก็เป็นคนธรรมดา ทำไมภายหลังเขามาดังได้ล่ะ ฟีฟ่าก็เหมือนกันทำไมจะเป็นไม่ได้ ยิ่งหน้าตาของฟีฟ่านี่อยู่ในกระแสช่วงนี้ด้วย” “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ” “ถึงซิ ถ้าไม่ถึงพี่จะมองฟีฟ่าอยู่อย่างนี้เหรอ” “นั่นมันสายตาพีนัทคนเดียว แต่สายตาคนซื้อบ้าน เขาจะมองแบบพี่นัทหรือเปล่า
วันจันทร์ต้นสัปดาห์ฟีฟ่ามาทำงานอย่างเช่นเคย หน้าที่ของฟีฟ่าคอยรับคืนหนังสือต่างๆ ที่บรรดานักศึกษาวนเวียนมาทั้งวัน ไม่เว้นแม้แต่เวลาเที่ยงวันซึ่งเป็นเวลากินข้าว ในส่วนของฟีฟ่านั้นไม่ต้องลงไปกินที่โรงอาหาร เพราะแม่ของฟีฟ่าได้จัดอาหารการกินมาพร้อมทุกวัน ฟีฟ่าจึงมานั่งกินในห้องเล็กๆสำหรับเจ้าหน้าที่บรรณารักษ์ “กินม่วนเชียว”เจมี่ทัก เมื่อเขากินข้าวนอกมหาวิทยาลัยกับแฟนหนุ่มเสร็จ และกลับเข้ามาในห้องสมุด “กินด้วยกันไหมพี่ วันนี้มีผัดกระเพาปลาหมึกไข่ดาว มีมะม่วงเปรียวจิ้มพริกเกลือด้วย แก้ง่วงนอนเป็นอย่างดี พี่เจมี่แกะกินเลย” “พี่ไม่เกรงใจแล้วนะ ช่วงบ่ายชอบง่วงนอนอยู่ด้วย” “เอาเลยเดี๋ยวฟีฟ่ากินตามทีหลัง” “เมื่อคืนก่อนพี่นัทเป็นไงบ้าง”เจมี่ถาม “ปากหวาน” “แหม ไม่ชอบเหรอปากหวานน่ะ” “ยังไม่รู้เลยตอนนี้ก็ยังไม่ได้คิดอะไร”ฟีฟ่ายังก้มหน้ากินข้าวต่อไปอีก ทั้งๆที่ใจก็แอบคิดอยู่เหมือนกัน “แล้วทำไมไม่บอกเบอร์โทรพี่นัทไปล่ะ ให้มาถามพวกพี่อยู่ได้” “ถ้าให้ไปก็เหมือนง่าย ถ้าไม่บอกให้เอาเบอร์ที่พี่ก็เห