งานรีวิวบ้านจัดสรรพผ่านไปด้วยดี ซึ่งในตอนค่ำได้มีนัดสังสรรค์ทีมงาน และบรรดาเพื่อนของไอโซนัท ทางครอบครัวของยศให้ฟีฟ่าไปคนเดียว ทีแรกยศก็ไม่อยากให้ไปแต่ฟีฟ่าขอร้องจนยศใจอ่อน เมื่อฟีฟ่ามาในงานก็พบกับความตื่นตาตื่นใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่เขาได้เข้ามาในงานสังคมอีกระดับหนึ่ง
“น้องฟีฟ่ามาพอดีเลย เดี๋ยวพี่จะแนะนำเพื่อนพี่ให้รู้จัก”ไอโซนัทจับมือของฟีฟ่าและดึงมาหาเพื่อนๆของเขา ซึ่งมีแต่คนระดับลูกหลานไอโซร้อยล้านถึงพันล้านบางคนหมื่นล้าน
“น้องฟีฟ่าหวัดดีพี่เขาซิ เพื่อนพี่ทั้งนั้นเลย”
“สวัสดีครับ”ฟีฟ่ายกมือไหว้ ยิ้มแบบฝืนๆเพราะการแต่งตัวแต่ละคนหรูหรามาก ทั้งตัวมีแต่แบรนด์เนม ส่วนฟีฟ่ามองตัวเองก็เสื้อผ้าขึ้นห้างเหมือนกัน แค่หลักพันเท่านั้นไม่ถึงหมื่นถึงแสนอย่างเพื่อนไอโซนัท
“น้องฟีฟ่าน่ารักสมคำบอกเล่าของนายจริงๆ”เพื่อนคนหนึ่งของไอโซนัทพูดขึ้น
“แน่นอนอยู่แล้ว”ไอโซนัทกอดคอฟีฟ่าไว้
“แล้วน้องฟีฟ่าทำงานอะไรเหรอครับ”
“น้องเขาเป็นบรรณารักษ์ที่ห้องสมุดในมหาวิทยาลัยน่ะ”ไอโซนัทตอบแทน
“พี่ก็นึกว่าน้องฟีฟ่าทำธุรกิจ หรือ ไม่ก็ช่วยคุณพ่อทำธุรกิจ แต่เป็นบรรณารักษ์ก็ดีน่ะ ได้อยู่กับนักศึกษาจึงทำให้น้องฟีฟ่าหน้าเด็กเหมือนนักศึกษาไปด้วยเลย”
“ครับ”ฟีฟ่ายิ้มอย่างเดียว
“คุณพ่อคุณแม่น้องฟีฟ่าทำงานอะไรครับ”เพื่อนคนหนึ่งของนัทถามฟีฟ่า
“คุณพ่อน้องฟีฟ่าเป็นโค้ชว่ายน้ำทีมชาติน่ะ อดีตก็เป็นนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติเหมือนกัน ส่วนคุณแม่น้องฟีฟ่าเป็นแม่บ้าน”ไอโซนัทตอบแทนอีกครั้ง
“พี่ก็นึกว่าพ่อของน้องนัททำธุรกิจอะไรสักอย่างหนึ่ง แต่ก็ดีไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมาก”
“ไม่รับผิดชอบอะไร มีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่กว่าพวกเราอีกนะ เราแค่ทำเพื่อตัวเองแต่พ่อของฟีฟ่าทำเพื่อประเทศชาติ”ไอโซนัทหันหน้ามายิ้มให้ฟีฟ่า ซึ่งฟีฟ่าก็ยิ้มฝืนๆอีกครั้ง
“ทำไมน้องฟีฟ่าไม่พูดกับพวกเราเลยล่ะ”
“น้องฟีฟ่าเป็นคนไม่คอยพูด”ไอโซนัทพูดแทนอีก
“นัทนายน่ะแย่งน้องฟีฟ่าพูดหมด เราไม่แย่งนายหรอก แหมหวงของเล่นคนใหม่เหลือเกิน”เพื่อนไอโซนัทคนหนึ่งพูดขึ้น
“ไม่ใช่ของเล่นนะ นายพูดดีดีคนนี้เราจริงจัง”ไอโซนัทมีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก
“ล้อเล่นนะ พูดแค่นี้ทำเป็นจริงจังไปได้”
“เรื่องแบบนี้มาล้อเล่นไม่ได้นะ เรากับฟีฟ่าเสียหายรู้ไหม”
“โอเค เราขอโทษนายก็แล้วกัน ใครจะไปแย่งนายไม่ใช่สเปคเราเลย”
ฟีฟ่าฟังคำพูดของเพื่อนไอโซนัท ใจของเราสั่นไหวอยากจะหนีหายออกไปจากที่นี่ ฟีฟ่าคิดว่าไม่น่ามาให้คนดูถูกเหยียดหยามเลย แต่เขาก็เข้าใจและซึ้งในน้ำใจของไอโซนัท ที่พยายามแก้ต่างและพูดแทนเขาทุกอย่าง
“ฟีฟ่าอย่าไปสนใจพวกนี้เลยนะ พวกมันก็พูดไปเรื่อยๆนั่นแหละ”
“ใช่ พวกพี่ก็พูดไปเรื่อยตามภาษาของพวกเรา น้องฟีฟ่าอย่าโกรธพวกพี่เลยนะ”
“ครับ”ฟีฟ่ายิ้มฝืนๆ
“เอ่อ นัทได้ข่าวว่านายจะทำบ้านจัดสรรเฟสใหม่นี่ โครงการนี้ทำที่ไหนเหรอ”
“ที่ต่างจังหวัด เป็นที่ดินของน้องฟีฟ่านั่นแหละ”
“ว้าวฟีฟ่ามีที่ดินด้วย”เพื่อนไอโซนัทมีท่าทีตกใจ
“ที่ดินของพ่อครับ”
“เห็นแบบนี้พ่อของฟีฟ่าเป็นเศรษฐีที่ดินเชียวนะ”ไอโซนัทพูดขึ้นเพื่อให้ฟีฟ่าดูดีขึ้นมาหน่อย
“คราวนี้ครอบครัวน้องฟีฟ่าก็เป็นเศรษฐีใหม่แล้วซิเนาะ”
“พวกนายพูดจาไม่น่าฟังอีกแล้วนะ”ไอโซนัทเริ่มมีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก
“เอาล่ะ พวกเราไม่คุยเรื่องของน้องฟีฟ่ากันแล้ว”
“ดี แล้วนายล่ะได้ข่าวว่าจะสร้างคอนโดเฟสใหม่ไม่ใช่เหรอ”ไอโซนัทถามเพื่อนของเขา
“จริง เรากำลังหาทำเลอยู่ ว่าแต่น้องฟีฟ่ามีที่ดินแถวกรุงเทพหรือไม่ก็ชานเมืองไหม”
“มีครับ แต่ไม่พอสร้างคอนโดหรอก”
“ทำไมมีน้อยจัง”
“นายจะถามซอกแซกน้องฟีฟ่าอะไรนักหนา”
“เอาล่ะพอแหละ เรามาคุยเรื่องธุรกิจของเราดีกว่า เราจะชวนนายร่วมหุ้นคอนโดด้วย นายสนใจที่จะทำร่วมลงทุนกับเราไหม”
“น่าสนใจดีนะ แต่ก็ยังไม่มีทีนี่”
“มีแล้ว แต่มันต้องใช้เงินทุนเยอะไง ถ้าสองคนนี่ก็พอไหว”
“น่าสนใจดีนะ”
ไอโซนัทและเพื่อนต่างคุยเรื่องธุรกิจจบจากเรื่องนี้ ต่อเรื่องอื่นทันทีโดยไม่มีเวลาให้ฟีฟ่าเลยแม้แต่น้อย ฟีฟ่าเลยอยากจะหนีออกไปจากที่นี่
“ฟีฟ่าขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”
“ฮือ”ไอโซนัทแค่พยักหน้าเพราะกำลังเพลินเรื่องการทำธุรกิจกับเพื่อนของเขา
ฟีฟ่าเดินมาเรื่อยๆเข้าไปในห้องน้ำ และเขาก็ได้ยินเสียงคนสองคน ที่เข้าห้องน้ำตามมาทีหลังเขาพูดคุยกันเสียงดัง
“นายว่าเด็กใหม่ของพี่นัทคนนี้เป็นไงบ้าง”
“พูดถึงหน้าตาก็น่ารักดีนะ แต่จนไปหน่อย”
“จนแต่พี่นัทเขารักนี่”
“ฐานะมันต่างกันเกินไป”
“แต่เราว่าพี่นัทคงจะเล่นๆมากกกว่า สุดท้ายเขาก็ต้องหาคนที่ฐานะใกล้เคียงกัน”
“เราก็ว่างั้นแหละ ถ้าเราเป็นน้องน่ะ เราไม่มาให้อายหรอก พวกเพื่อนพี่นัทชอบดูถูกคนจะตาย ขนาดพวกเรารวยกว่าน้องเขาตั้งเยอะ ยังไม่วายถูกนินทราเลย แถมไม่อยากคบกับพวกเราอีก แต่พี่นัทเขาดีไม่ถือตัว”
“มัวแต่เม้าท์ออกไปข้างนอกกันเถอะ ไปดูตลกน้องคนนั้นดีกว่า แต่เมื่อกี้ไม่เห็นนี่ไม่รู้ไปไหน”
“จะไปไหนได้คงอยู่แถวๆนี้แหละไปกันเถอะ”
เมื่อสองคนนั้นออกจากห้องน้ำไปแล้ว ฟีฟ่าจึงออกมาด้วยความรู้สึกที่ปั่นป่วนจิตใจอย่างหนัก ฟีฟ่าจึงรีบล้างมือและออกไปที่งาน ตอนแรกเขาจะเข้าไปหาไอโซนัท แต่ที่นั่งไม่เหลือว่างไว้สำหรับเขาแล้ว ฟีฟ่าจึงตัดสินใจที่จะหนีออกไปจากงานนี้ เพราะเขาคิดว่าขืนอยู่ก็คงเป็นตัวตลกอย่างสองคนนั้นที่อยู่ในห้องน้ำว่าไว้จริงๆ
ฟีฟ่าค่อยๆออกจากประตูรั้วที่บ้านของไอโซนัท และเดินเลาะตามไหล่ทางไปเรื่อยๆ ใจของฟีฟ่าตอนนี้ซอกซ้ำอย่างหนักหน่วง เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าสังคมที่เขาอยากจะเข้าไปนั้น มันไม่น่าอภิรมย์อย่างที่เขาคิดไว้
ในระหว่างทางที่เขากำลังคิดอะไรเพลินๆ เสียงรถบี๊กไบค์ที่แล่นมาจากด้านหลัง และจอดดักหน้าฟีฟ่า เขาตกใจรีบเดินหันหลังกลับ เพื่อที่จะไปบ้านไอโซนัท เพราะเขาคิดว่าที่นั่นก็น่าจะปลอดภัยกว่า
“จะไปไหนพึ่งออกมาไม่ใช่เหรอ”ฟีฟ่าคุ้นเสียงนี้เขาจึงหันหน้ามามอง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับช่างกันเปิดกระจกหมวกกันน็อค
“นายมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไง”ฟีฟ่ามีท่าทีสงสัย
“ก็พ่อของมึงนั่นแหละ วานให้กูตามมึงมา และก็เป็นจริงดังที่พ่อมึงพูดไว้”
“พูดอะไร”
“ก็พูดว่ามึงอยู่ที่นี่ไม่จบงานหรอก เพราะสังคมนี้มันคนละระดับกับพวกเรา อย่างมึงต้องระดับกูนี่แหละ”
“นายก็คนละระดับกับเราเหมือนกันนั่นแหละ”
“พออยู่กับกูนี่ปากดี พออยู่กับพี่นัทนี่ เงียบเป็นเป่าสาก”
“ช่างกัน”
“ฟีฟ่า”
“เรียกทำไม”
“ก็เรียกมึงขึ้นรถไง”
“ไม่ขึ้นจะเดินกลับเอง”
“ไม่เชื่อหรอก อาจจะรอรถหรูมารับ แต่เขาคงไม่มาแล้วแหละ”
“เราไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย อย่ามาดูถูกเรานะ”
“ถ้าไม่อยากให้กูดูถูกมึง ถ้างั้นมึงก็ขึ้นรถกูเดี๋ยวนี้”
“ก็ได้”ฟีฟ่าเดินมาใกล้ๆที่รถช่างกัน
ช่างกันหยิบหมวกอีกใบมาสวมใสที่ศีรษะของฟีฟ่า ช่างกันมองใบหน้าของฟีฟ่าที่นับวันยิ่งน่ารักในความรู้สึกของเขา
“เวลามึงใส่หมวกก็น่ารักดีเหมือนกัน”
“ไม่ต้องบอกหรอก ใครๆเขาก็ชมกันทั้งนั้นแหละ”
“ไม่หลงตัวเองเลยนะ”
“หลงตัวเองดีกว่าหลงคนอื่น”
“มาหลงกูบ้างก็ดีนะ”
“ฝันไปเถอะ”
“ก็เหมือนมึงนั่นแหละที่หลงไอโซนั่น”
“เพลี้ยะ”
“มึงตีกูทำไม กูพูดเรื่องจริงนี่”
“เพลี้ยะ”ฟีฟ่าฟาดไปที่แขนของช่างกัน
“ไม่มีใครเคยตีกูอย่างนี้นะมึงเป็นคนแรก อย่างงั้นมึงก็ต้องเป็นผู้ชายคนแรกที่กูจูบมึง”ช่างกันจับศีรษะของฟีฟ่าไว้ แล้วประกบปากของฟีฟ่า
ฟีฟ่าผลักร่างของช่างกันให้ออกห่างจากตัวเขา ฟีฟ่าใช้มือเช็ดปากตรงที่ช่างกันประทับรอยไว้
“เป็นไงอยากตีกูดีนัก”
“เราจะฟ้องพ่อเรา”
“เชิญแลย กูจะได้ไปขอมึงด้วยเลย”
“ใครเขาจะให้ขอ”
“ก็กูจะขอไง”
“หยุด ไม่อยากฟัง พาเรากลับบ้านเดี๋ยวนี้”
ฟีฟ่าเดินไปรอที่ข้างรถ สักพักช่างกันก็ขึ้นคร่อมหน้ารถ ส่วนฟีฟ่าขึ้นคร่อมตามหลัง
“กอดเอวกูไว้แน่นๆนะ”
“ไม่กอด”
“ถ้าไม่กอดเดี๋ยวกูจะลงไปจูบมึงอีก”
ฟีฟ่ากอดเอวช่างกันทันที ส่วนช่างกันก็สตาร์ทรถออกไปอย่างเร็ว ใจของช่างกันตอนนี้มีความสุขมาก ยิ่งร่างของฟีฟ่ากระทบหลังเขาบ่อยๆ ช่างกันอยากยืดเวลานี้ให้นานออกไป เขาจึงขับรถวนมาวนไป เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดสัมผัสฟีฟ่าอย่างนี้ตลอดไป
ช่างกันยังไม่พาฟีฟ่ากลับบ้านเขาได้ขับรถวนมาวนไป และไปที่ถนนโล่งๆนอกเมืองที่ไกลพอสมควร และเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็ก แล้วโผล่ไปสนามแข่งรถ เมื่อไปถึงฟีฟ่าก็เห็นรถบิ๊กไบค์หลายคันจอดเรียงราย พร้อมอีกคันก็ของช่างกันนั่นเอง ที่พึ่งมาจอดต่อท้ายรถคันอื่น “นายพาเรามาที่นี่ทำไม”ตอนแรกฟีฟ่าก็รู้ว่าช่างกันจะพาออกนอนเมือง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะยังไม่อยากกลับบ้าน และการนั่งซ้อนท้ายรถบิ๊กไบค์ฟีฟ่าก็รู้สึกดีเหมือนกัน เป็นอะไรที่แปลกใหม่ที่เขายังไม่เคยทำ“เอ้า ทำไมมึงไม่บอกว่าไม่อยากมา เห็นนั่งเงียบก็นึกว่าอยากมา ยังจะมีหน้ามาถามกูอีก”“เอ๊ะนายนี่อย่างไงเนี่ย ถามแค่นี้ทำไมต้องพูดจากวนประสาทด้วย”“กูเป็นของกูอย่างนี้ ไม่ใช่ปากหวานอย่างไอ้ไอโซนั่น”“ไปพูดเรื่องคนอื่นทำไม เราพูดเรื่องที่นายพาเรามาที่นี่ต่างหาก”“มึงก็ดูเองซิที่นี่ที่ไหน” “จะมาแข่งรถเหรอ”“แข่งม้ามั้ง”“ประสาท”ช่างกันหันหน้ามามองฟีฟ่า ที่เปิดกระจกหมวกกันน็อคเห็นแต่ลูกตา ส่วนฟีฟ่าใจคอไม่ค่อยดีเลย เพราะกลัวช่างกันจะพาไปทำอะไรที่ไม่ดี“ก็มาแข่งรถนั่นแหละ แต่ต้องหาคนซ้อนท้ายด้วย พอดีได้จังหวะมึงซ้อนรถกูมา ก็เลยพามึงมาด้วย”“เร
เมื่อคืนฟีฟ่ากลับมาค่อนข้างดึกพอสมควร เพราะไปนั่งซ้อนท้ายแข่งรถกับช่างกัน วันนี้เขาจึงรีบ พอขับรถไปถึงปากทางฟีฟ่าก็เห็นไนท์ยืนรอรถเมล์อยู่ เขาจึงไขกระจกและเรียกไนท์ “ไนท์ขึ้นรถมากับพี่เร็ว” ไนท์มองซ้ายมองขวาด้วยความเกรงใจ เพราะฟีฟ่าจอดรถเลยป้ายรถเมล์ ไนท์จึงวิ่งไปที่รถของฟีฟ่าและเข้าไปนั่งหน้ารถทันที หลังจากนั้นฟีฟ่าจึงขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว “ทำไมวันนี้ไปเรียนสายล่ะ”ฟีฟ่าพูดขึ้น “เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับครับ” “ตอนเย็นก็ซ้อมว่ายน้ำน่าจะเหนื่อยอยู่นะ แต่ทำไมถึงนอนไม่หลับ” “คิดถึงพี่ฟีฟ่า” “ฮ่ะ คิดถึงพี่ทำไม ก็เห็นหน้ากันทุกวัน เมื่อคืนยังเจออยู่เลยแถมพูดอะไรแปลกๆอีก มาวันนี้ก็พูดแปลกกว่าเดิมเข้าไปใหญ่”ฟีฟ่าหันมามองไนท์แวบหนึ่งแล้วหันกลับไปดูทางตามเดิม “ก็อยากไปเที่ยวไหนกับพี่ฟีฟ่าบ้าง เหมือนอย่างเมื่อคืนที่พี่ฟีฟ่าไปกับช่างกันและพี่นัท”ไนท์ปาดสายตามองฟีฟ่า “อ่อ อยากเป็นเที่ยวนี่เอง คงซ้อมหนักใช่ไหม อยากพักผ่อนหย่อนใจ พ่อพี่คงจะไม่ให้น้องไนท์เที่ยวไหนเป็นแน่เลย” “ครับ”
ไนท์ได้พาฟีฟ่ามาร้านหมูกระทะแถบชานเมือง ฟีฟ่ารู้สึกได้เปิดหูเปิดตาเพราะเขาไม่ได้มานานหลายปี “พี่ฟีฟ่านั่งรอผมอยู่ที่นี่ก็ได้นะ พี่อยากได้อะไรบอกผมได้เลย เดี๋ยวผมไปหยิบมาให้” “ไม่ต้องหรอก พี่อยากไปเดินดูด้วย” “ถ้างั้นเราไปตักอาหารกันก่อน” ฟีฟ่าเดินไปที่แผนกกุ้งเป็นอันดับแรก เพราะเขาชอบกินและแพงด้วย ฟีฟ่าจึงหยิบกุ้งตัวโตๆใส่จานจนพูน สายตาของฟีฟ่ามองกุ้งอีกตัวที่ใหญ่พอสมควร เขารู้สึกเสียดายถ้าไม่ได้เอาไปด้วย ฟีฟ่ากำลังยื่นมือคีบกุ้งตัวนั้น แต่กุ้งตัวนั้นไมเป็นใจเพราะมีที่คีบอีกอัน มาอยู่ส่วนหัวของกุ้ง ฟีฟ่ารีบดึงมาในจานของเขา แต่กลับถูกดึงแย่งไป ฟีฟ่าใจคอหงุดหงิดจึงหันไปมอง “ช่างกัน”ฟีฟ่าพูดเสียงดัง “พูดชื่อค่อยๆหน่อยอายเขา เรียกไอกันดีกว่า ไม่ต้องถึงกับช่างหรอก เพราะเราเริ่มสนิทกันแล้ว” “ไม่ต้องมาเปลื่ยนเรื่อง เอากุ้งตัวนั้นมาให้เราเดี๋ยวนี้” “ไม่ให้ นั่นก็เต็มจานพูน อดยากมาจากไหน” “ช่างกัน ปากไม่ดีเลยนะ”ฟีฟ่าว่างที่คีบไว้ที่เดิม แล้วเดินดุ่มๆไปที่โต๊หมูกระทะใกล้ๆทางออก โดยมีไนท์ก
ค่ำคืนนี้เป็นเป็นวันคล้ายวันเกิด ของเจมี่รุ่นพี่ที่ห้องสมุด ฟีฟ่าเลยต้องมาร่วมอวยพร ซึ่งงานในครั้งนี้มิได้จัดใหญ่โต มีแต่เพีอนรักมิตรสหายที่คบกันมา ในระหว่างที่ฟีฟ่านั่งดื่มน้ำส้มคั้น เพราะฟีฟ่าไม่แตะเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิด “พี่ขอนั่งด้วยคนได้ไหม”ไอโซนัทนั่งลงตรงหน้าฟีฟ่า “อยากนั่งก็นั่งสิ”ฟีฟ่ายกแก้วน้ำส้มขึ้นมาจิบและวางลง “ทำไมฟีฟ่าไม่รับโทรศัพท์พี่ ติดต่อทางไหนฟีฟ่าก็ทำเป็นเฉยเมย” “ฟีฟ่าไม่ว่าง ฟีฟ่าต้องไปกินหมูกระทะ” “ไปกินกับไนท์เหรอ”ไอโซนัทรู้ความจริงจากเจมี่ ที่ฟีฟ่าสื่อผ่านให้มาบอกไอโซนัทแบบอ้อมๆ “ใช่ อร่อยด้วย” “ทำไมไม่บอก ถ้าพี่รู้พี่จะได้พาฟีฟ่าไปกินสเต๊ก” “ไม่กินหรอกสเต็ก ไม่ชอบ ฟีฟ่าชอบกินกุ้ง” “หลังเลิกงานไปกินกุ้งไหม เดี๋ยวพี่จะมาไป” “ไม่หรอก มันดึกแล้วเดี๋ยวหน้าแก่” “พี่มีเพื่อนร้านเสิรมสวยความงาม เดี๋ยวพี่พาไปก็ได้พรุ่งนี้ถ้ากลัวหน้าแก่” “ไม่ชอบปรุงแต่ง ชอบแบบธรรมชาติ” “เอาอย่างนี้ไหมเดี๋ยวพี่พาไปอาบน้ำแร่แช่น้ำ
เช้าวันนี้ฟีฟ่าไปทำงานตามปกติ แต่มีเหตุบังเอิญรถของเขาเสียอยู่หน้าอู่ช่างกัน ซึ่งอู่ยังไม่ได้เปิดด้วยซ้ำ ฟีฟ่าจึงตัดสินใจลงจากรถแล้วไปเคาะประตูอู่ซ่อมรถ “ปัง ปัง ปัง” ฟีฟ่าเคาะประตูเสร็จก็ยืนรออยู่หน้าประตู สักพักช่างกันแง้มประตูออกมา พอช่างกันเห็นเป็นฟีฟ่าจึงดึงเข้ามาในอู่ทันที ฟีฟ่าไม่ทันได้ตั้งตัวรู้ตัวอีกทีเขาก็อยู่ข้างในอู่ หลังจากนั้นช่างกันปิดประตูทันที แล้วเขาก็เปิดไฟให้สว่าง พอแสงไฟส่องไปที่เรือนร่างของช่างกัน ฟีฟ่ายืนอึ้งอ้าปากค้าง เพราะช่างกันอยู่ในชุดกางเกงในตัวเดียว ส่วนรูปร่างก็บึกบึนมีกล้ามลีนๆ “นายดึงเราเข้ามาทำไม”ฟีฟ่ามีน้ำเสียงที่มีโมโห “กูไม่ได้จะข่มขืนมึงหรอก กูใส่กางเกงในตัวเดียว มึงจะให้กูออกไปหน้าอู่เหรอ” “ทำไมไม่ใส่กางเกงขาสั้นนอน” “มันเรื่องของกูหรือเปล่าวะ กูจะแก้ผ้านอนมันก็เรื่องของกู” “เอ่อ รถเราเสียน่ะ ซ่อมให้หน่อย แค่นี้แหละ ความจริงนายชะโงกหน้ามาก็ได้ ไม่ต้องถึงกับดึงเราเข้ามาข้างในหรอก” “กูจะดึงมึงเข้ามามึงจะทำไม”ช่างกันเดินเข้ามาใกล้ๆฟีฟ่า ส่วนฟ
ในช่วงเวลาพักเที่ยงไอโซนัทได้ส่งไลน์มาหาฟีฟ่า เพื่อชวนไปเที่ยวยามค่ำคืนใต้แสงเทียน บนเรือหรูในแม่น้ำเจ้าพระยาเพียงสองคน ฟีฟ่านั้นใช้เวลาตัดสินใจไม่นานเขาจึงตอบตกลง เพราะฟีฟ่ายังคิดถึงวันแรกที่ได้เจอไอโซนัทได้ ค่ำคืนนั้นเขามีความสุขและได้เจอสิ่งอันแปลกใหม่สำหรับเขา “ว่าไงน้องฟีฟ่าตกลงจะไปเที่ยวกับไอโซนัทไหม”เจมมี่นั่งลงข้างๆพร้อมจ้องสายตาของฟีฟ่า “ตกลงไปซิ ทำไมพี่เจมี่กับพี่กอล์ฟไม่ไปด้วยล่ะ” “มันหมดเวลาของพี่แล้วนะ พี่แค่เป็นสะพานต่อจากนี้ก็เป็นเรื่องพี่นัทกับน้องฟีฟ่าแล้วแหละ” “พี่เจมี่พูดแปลกๆเมื่อก่อนเชียร์พี่นัทอยู่เลยนี่ครับ” “ใช่ ตอนนี้พี่ยังเชียร์พี่นัทอยู่เลย เพราะพี่นัทเป็นผู้ใหญ่แล้วสามารถดูแลน้องของพี่ได้ ข้อสำคัญพี่นัทตามใจฟีฟ่าทุกอย่าง ตั้แต่เหตุการณ์วันนั้นเขาเลิกคบเพื่อนทั้งแก็งค์หมดเลยนะ เห็นไหมพี่เขาทำเพื่อฟีฟ่าขนาดไหน แต่เหนือสิ่งใด ความรักมันไม่สามารถบังคับจิตใจกันได้ ถึงพี่นัทจะดีทุกอย่างแต่ถ้าไมได้รัก อยู่ด้วยกันไปก็ไม่มีความสุขนะ” “พี่พูดยาวจังเลย” “พี่เห็นฟีฟ่าไปเที่ยวกับน้องนักว
วันหยุดสุดสัปดาห์เช่นเคยที่ฟีฟ่าต้องเอาอาหารไปให้ไนท์ ในวันนี้เขารู้สึกแปลกๆไม่เหมือนเช่นทุกวัน จิตใจในห้วงลึกหวั่นๆใจชอบกล แต่เขาพยายามสลัดความรู้สึกนั้นทิ้งไป แต่เมื่อเดินไปถึงขอบสระ ฟีฟ่าแอบรู้สึกผิดหวังเล็กๆ ที่ไม่เห็นไนท์อยู่ในสระว่ายน้ำ “พี่ฟีฟ่าเข้ามาในบ้านก่อนก็ได้ครับ ผมยังไม่ว่ายน้ำหรอก” “ไอ้เด็กบ้ารู้ทันอีก”ฟีฟ่าบ่นพึมพำในใจ เมื่อฟีฟ่าเดินเข้ามาในบ้านหลังน้อยๆแต่เนื้อที่บริเวณบ้านกว้างใหญ่ เพียงฟีฟ่าเปิดประตูเข้าไปในบ้านก็พบกับความรกข้าวของวางไม่เป็นที่เป็นทางเต็มไปหมด “ทำไมบ้านรกอย่างนี้ ไม่รู้จักเก็บกวาดให้เรียบร้อย บ้านของพ่อพี่ออกจะสวยงาม แต่น้องไนท์ทำซะเละเลย” “มาถึงก็บ่นๆยังไม่แก่ซักหน่อย ก็ไม่มีเวลาทำนี่ครับไหนจะเรียนหนังแล้วต้องซ้อมกีฬาอีก ถ้าพี่ฟีฟ่าว่างๆมาช่วยผมทำความสะอาดก็ได้ ดีกว่าไปล่องเรือเจ้าพระยา กับไปเป็นสก้อยท้ายรถบิ๊กไบค์”ไนท์เดินเข้ามาหาฟีฟ่าโดยมีผ้าเช็ดตัวผืนเดียว “ฟีฟ่ามันเรื่องของพี่นี่ พี่จะไปไหนกับใครก็ได้” “นั่นแสดงว่าพี่ฟีฟ่าปฏิเสธผมกลายๆใช่ไหม”
ฟีฟ่ากับยศนั่งคุยกันในห้องรับแขกตามภาษาพ่อลูก แต่แล้วก็มีชายหนุ่มที่คุ้นเคยเข้ามาหา โดยมีแม่ของฟีฟ่าเป็นคนเปิดประตูให้เข้ามา “สวัสดีครับพ่อ”ช่างกันยกมือไหว้ยศ “ใครพ่อมึง”ยศเริ่มมีสีหน้าที่ไม่พอใจเท่าไร “ก็พ่อไงครับ” “ไอ้นี่เห็นใจดีด้วย พูดอะไรไม่เกรงใจกันเลย” “ทำไมต้องเกรงใจครับ เพราะอีกหน่อยเราก็จะเป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้วนี่ครับ”ช่างกันนั่งข้างๆฟีฟ่า “บอกพ่อหรือยังเรื่องของเรา”ช่างกันพูดเสียงดังข้างๆหูฟีฟ่า “อะไรของนาย”ฟีฟ่าใช้สายตาปรามช่างกันไว้แต่ดูไม่เป็นผลซักเท่าไร “มีอะไรพูดมาตรงๆเรื่องอะไรบอกมา”ยศเอ่ยขึ้น “คือว่า ผมกับฟีฟ่ารักกันครับ” “ไม่จริงนะพ่อ”ฟีฟ่าตกใจกับคำพูดของช่างกัน “ใช่ครับ ฟีฟ่าขอเวลาตัดสินใจสักพัก แต่ผมรอไม่ไหวกลัวโดนแย่ง ทั้งหนุ่มนักว่ายน้ำและไอโซนั่นอีก ผมต้องชิงตัดหน้ามาพูดกับพ่อไว้ก่อน เพราะผมจริงใจมีอะไรก็จะพูดตรงๆครับ”ช่างกันมีน้ำเสียงที่หนักแน่น “เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ฟีฟ่าเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง” “