ช่างกันยังไม่พาฟีฟ่ากลับบ้านเขาได้ขับรถวนมาวนไป และไปที่ถนนโล่งๆนอกเมืองที่ไกลพอสมควร และเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็ก แล้วโผล่ไปสนามแข่งรถ เมื่อไปถึงฟีฟ่าก็เห็นรถบิ๊กไบค์หลายคันจอดเรียงราย พร้อมอีกคันก็ของช่างกันนั่นเอง ที่พึ่งมาจอดต่อท้ายรถคันอื่น
“นายพาเรามาที่นี่ทำไม”
ตอนแรกฟีฟ่าก็รู้ว่าช่างกันจะพาออกนอนเมือง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะยังไม่อยากกลับบ้าน และการนั่งซ้อนท้ายรถบิ๊กไบค์ฟีฟ่าก็รู้สึกดีเหมือนกัน เป็นอะไรที่แปลกใหม่ที่เขายังไม่เคยทำ
“เอ้า ทำไมมึงไม่บอกว่าไม่อยากมา เห็นนั่งเงียบก็นึกว่าอยากมา ยังจะมีหน้ามาถามกูอีก”
“เอ๊ะนายนี่อย่างไงเนี่ย ถามแค่นี้ทำไมต้องพูดจากวนประสาทด้วย”
“กูเป็นของกูอย่างนี้ ไม่ใช่ปากหวานอย่างไอ้ไอโซนั่น”
“ไปพูดเรื่องคนอื่นทำไม เราพูดเรื่องที่นายพาเรามาที่นี่ต่างหาก”
“มึงก็ดูเองซิที่นี่ที่ไหน”
“จะมาแข่งรถเหรอ”
“แข่งม้ามั้ง”
“ประสาท”
ช่างกันหันหน้ามามองฟีฟ่า ที่เปิดกระจกหมวกกันน็อคเห็นแต่ลูกตา ส่วนฟีฟ่าใจคอไม่ค่อยดีเลย เพราะกลัวช่างกันจะพาไปทำอะไรที่ไม่ดี
“ก็มาแข่งรถนั่นแหละ แต่ต้องหาคนซ้อนท้ายด้วย พอดีได้จังหวะมึงซ้อนรถกูมา ก็เลยพามึงมาด้วย”
“เราไม่ใช่สก็อยส์ เราเป็นบรรณารักษ์”
“ใครว่ามึงเป็นสก็อยส์ เป็นเด็กท้ายรถต่างหาก”
“เพลี้ยะ”
ฟีฟ่าตีไปที่หลังของช่างกัน แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย และหันไปมองเพื่อนของเขาที่มีอยู่คนหนึ่งกำลังเดินมาหาเขา
“เพื่อนกูมาแล้วไม่ต้องถอดหมวกนะ”ช่างกันพูดขึ้น
“ว่าไงไอ้กันวันนี้นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว พาใครมาด้วยเนี่ยแฟนเหรอ”
“ไม่ต้องรู้หรอกว่าใคร”
“หวงซะด้วย คืนนี้มึงจะลงแข่งไหม”
“แข่งซิ”
“ถ้างั้นก็ไปเลย ถ้าชนะได้แค่แชมเปญ ถ้าแพ้ขอคนซ้อนท้ายสักคืนได้ไหม”เพื่อนช่างกันแกล้งพูด
“มึงจะเอาไปทำไม ไปทำปุ๋ยเหรอ”ช่างกันหัวเราะ
“กูรู้นิสัยมึงไม่ต้องมาแกล้งพูดหรอก ถ้างานไม่ดีมึงไม่พามาหรอกไอ้กัน ไปว่าเขาเป็นปุ๋ย กลับบ้านไปมึงอดนอนกับเขาแน่”
“พูดมากไปไกลๆเลยกูจะลงแข่งแล้ว”
“โอเค”
เพื่อนช่างกันเดินออกห่างจากรถ ฟีฟ่าจึงเปิดหมวกออกดู ซึ่งก็มีแต่ผู้ชายเกือบทั้งหมด มีผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ซ้อนท้ายรถเหมือนฟีฟ่า
“นายอย่าพนันน่ะ เดี่ยวแพ้ขึ้นมาเราแย่แน่เลย”
“แย่อะไรของมึง”
“เอ้า ก็เหมือนในหนังไง ถ้าแพ้ก็ต้องยกคนซ้อนท้ายให้คนชนะ บางครั้งโดนรุมทั้งแกงค์เลยนะ”ฟีฟ่าหวาดหวั่นพอสมควร
“โอ๊ย ลองมึงถอดหมวกพวกมันก็ไอ้นั่นหดหมดแล้ว”ช่างกันอดหัวเราะไม่ได้
“ไม่แน่นะ เราไม่ไว้ใจผู้ชายหรอก”
“แล้วมึงไว้ใจกูนี่นะ”
“ก็ไม่ไว้ใจหรอก แต่นายคงไม่กล้าทำอะไรเราอย่างแน่นอน”
“รู้ได่ไงว่ากูไม่กล้าทำมึง”
“ก็นายไม่ได้ชอบเรานี่ ที่มารับเราก็เพราะเป็นคำขอร้องของพ่อเราให้มารับ ไม่ได้เต็มใจมาซะหน่อย”
“มึงรู้ได้ไง ว่ากูไม่ได้เต็มใจมารับมึง”ช่างกันเสียงเริ่มไม่สู้ดีนัก เพราะรู้สึกโกรธฟีฟ่าที่ดูถูกน้ำใจเขา
“อ้าว นายเต็มใจเหรอ ”
ช่างกันหยุดพูดเพราะอึ่งความคิดของฟีฟ่า ที่ชอบมองเขาในแง่ร้าย แต่เขาก็พอจะเข้าใจเพราะตอนแรกที่เจอกันก็ไม่ค่อยถูกชะตากัน
“ไอ้กันมัวจีบกันอยู่นั่นแหละ เข้าไปที่จุดสตาร์ทได้แล้ว”
ช่างกันยกมือเป็นคำรับรู้ หลังจากนั้นเขาก็ขับรถไปที่จุดสตาร์ททันที โดยมีฟีฟ่าซ้อนท้ายด้วยใจที่หวาดหวั่น
“กอดเอวไว้แน่นๆนะ”ช่างกันหันหน้ามาพูดกับฟีฟ่า
ฟีฟ่าพยักหน้าแล้วกอดเอวของช่างกันไว้แน่น และเขาก็หันไปมองคนซ้อนท้ายรถคู่แข่ง ที่ดูจากภายนอกก็ผู้หญิงอย่างชัดเจน ฟีฟ่าหันไปมองแวบเดียวและหันกลับมาที่เดิม เพราะใกล้เวลาที่ช่างกันจะขับรถออกไปแล้ว
ชั่วอึดใจของฟีฟ่าช่างกันก็ขับรถแล่นออกไปอย่างสูสี กับฝั่งตรงข้ามที่ที่ออกตัวแรงพอกัน ฟีฟ่ากอดเอวช่างกันไว้แน่น เพราะกลัวตกกลัวรถล้ม สารพัดกลัวที่จะเกิดขึ้น เพียงเวลาไม่นานช่างกันก็แซงคู่แข่ง และตีโค้งรถเอียงจนเข่าเกือบโดนพื้น ทำให้ใจคอของฟีฟ่าหล่นหายไปหลายรอบที่เข้าโค้ง
ใกล้ถึงเส้นชัยช่างกันนำคู่แข่งนิดหน่อย เขาจึงเร่งความเร็วสุดท้ายพุ่งเข้าเส้นชัยชนะคู่แข่งอย่างหวุดหวิด ฟีฟ่าถึงกับหายใจทั่วท้องทันที เมื่อช่างกันจอดรถท่ามกลางผู้ชายนับสิบ
“คืนนี้มึงโชคดี สงสัยตัวนำโชคอยู่ข้างหลังแน่แลย”เพื่อนช่างกันคนเดิมพูดขึ้น
“ขอดูหน้าแฟนหน่อยได้ไหม”เพื่อนอีกคนเดินเข้ามาใกล้ๆ ถือแชมเปญหนึ่งขวดยื่นให้ช่างกัน
ช่างกันรับไว้และยื่นให้ฟีฟ่าถือไว้ เพราะนี่คือรางวัลผู้ชนะในค่ำคืนนี้ เมื่อฟีฟ่ารับแชมเปญไว้แล้ว ช่างกันจึงรีบขับรถแล่นออกไปอย่างรวดเร็ว จนสร้างความมึนงงแก่เพื่อนฝูงอย่างมาก
ช่างกันขับรถกลับเข้าเมืองอีกครั้ง เพื่อที่จะพาฟีฟ่ามาส่งที่บ้าน แต่ก่อนส่งฟีฟ่าที่บ้านเขาได้จอดรถบนสะพาน
“ลงซิ”ช่างกันหันหน้ามาพูดกับฟีฟ่า
ฟีฟ่าลงจากรถบิ๊กไบค์และถอดหมวกกันน็อคออก และยืนพิงรั้วสะพานข้ามแม่น้ำ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ฟีฟ่าได้เห็นความสวยงามยามค่ำคืน
“สวยไหม”ช่างกันเดินมายืนข้างๆมองสายน้ำที่ไหลเป็นคลื่นท่ามกลางแสงไฟ
“ใครสวย”ฟีฟ่าพูดขึ้นโดยไม่หันมามองช่างกัน เพราะเขาไม่อยากพลาดโอกาสที่จะได้เห็นสายน้ำยามค่ำคืน
“มึงมั้ง”
“ขอบใจนะที่ชม”
ช่างกันมองฟีฟ่าแล้วเผลอยิ้มออกมาในความน่ารักของฟีฟ่า หลังจากนั้นเขาก็เปิดขวดแชมเปญออกมีฟองพุ่งขึ้น
“นายทำอะไรน่ะ”
“ก็เปิดให้มึงดื่มไง เป็นครั้งแรกที่กูแข่งรถชนะ ขนาดไม่มีใครซ้อนยังแพ้เลย แต่นี่มึงซ้อนดันชนะ ก็ถือซะว่ามึงเป็นตัวนำโชคก็แล้วกัน”
“งั้นเชียว”
ช่างกันยื่นขวดแชมเปญให้ฟีฟ่า พร้อมมองฟีฟ่าด้วยสายตาที่เปลื่ยนไปอย่างมาก จนฟีฟ่ารู้สึกได้ว่าสายตาของช่างกันนั้น ต้องมีความรู้สึกอะไรบางอย่างที่อยากจะบอกแกเขา
“เราไม่ดื่มหรอก นายดื่มเถอะ”
“ก็ได้ กูดื่มคนเดียวไม่เปลืองด้วย”ช่างกันกระดกขวดดื่มทันที
ฟีฟ่านึกว่าช่างกันจะคะยั้นคะยอให้แต่ผิดคาด เขากลับดื่มคนเดียวเรื่อยๆจนหมดขวด โดยไม่พูดจากับฟีฟ่าสักคำ ในระหว่างดื่มแชมเปญที่ได้มาด้วยชัยชนะ
“วันนี้กูมีความสุขมากเลยรู้ไหมไอ้ฟีฟ่า”ช่างกันยิ้ม
ฟีฟ่าเห็นรอยยิ้มช่างกันชัดๆเป็นครั้งแรก และเป็นรอยยิ้มทั้งใบหน้า ยิ้มจนเห็นฟันแต่ดวงตากับเบิกกว้าง
“นายยิ้มเป็นด้วย”
“ไอ้ฟีฟ่ากูเป็นคนนะ ทำไมจะยิ้มไม่เป็นแม้แต่หมาแมวมันยังยิ้มเลย”
“พูดเรื่องจริงก็โกรธ”ฟีฟ่าหาวนอนหลายครั้งติดกัน
“ดูท่าทางมึงจะไม่ไหวแล้ว ถ้างั้นกลับบ้านกัน”
ฟีฟ่าเดินไปที่รถและหยิบหมวกกันน็อคขึ้นมาสวมใส่ และขึ้นคร่อมรถทันที เพราะช่างกันเตรียมสตาร์ทรถรออยู่แล้ว ฟีฟ่ากอดเอวของช่างกันตามเคย เพราะกลัวตกอย่างที่สุด ความรู้สึกของฟีฟ่าเริ่มแปลก เพราะกอดช่างกันคราวนี้เขารู้สึกถึงความอบอุ่นที่ได้รับ ส่วนช่างกันนั้นก็ไม่ต่างกันซักเท่าไร เขารู้สึกชอบที่ฟีฟ่ากอดเอวทุกครั้งในระหว่างซ้อนท้ายรถบิ๊กไบค์ของเขา
เวลาที่ช่างกันไม่อยากให้มาถึงแต่ก็หลีกไม่พ้น ช่างกันจอดรถหน้าบ้านของฟีฟ่าด้วยใจที่ไม่อยากให้ฟีฟ่าลงจากรถ แต่ก็เป็นไปไม่ได้เพราะฟีฟ่าลงจากรถไปแล้ว และยื่นหมวกกันน็อคให้เขา ช่างกันจึงหยิบมาอย่างไม่ค่อยเต็มใจ
“ขอบใจมากนะ”ฟีฟ่ายิ้มให้ช่างกัน
รอยยิ้มของฟีฟ่านั้น ทำให้ช่างกันอดอมยิ้มใต้หมวกกันน็อคไม่ได้ เขามองฟีฟ่าอยู่พักหนึ่งและสตาร์ทรถออกไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่คนที่พูดกับอยู่ข้างรั้วยืนหลบมุมอยู่ และกำลังเดินออกมาหาฟีฟ่า
“ตอนเย็นไปกับอีกคนหนึ่ง ตอนกลับมากับอีกคนหนึ่ง”ไนท์พูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่มีรอยยิ้มนิ่ง ส่วนใจของเขานั้นร้อนรนจนแท่บทนไม่ไหว
“เกี่ยวอะไรกับน้องไนท์ด้วย”
“ไม่เกี่ยวอะไรกับผมหรอกครับ แค่ผมอยากเป็นหนึ่งในนั้นสักครั้งหนึ่ง”เมื่อไนท์พูดจบเขาก็หันหลังให้ฟีฟ่าและเดินไปเปิดประตูรั้วเข้าไปในบ้าน
ในส่วนของฟีฟ่าก็ยืนงงกับคำพูดของไนท์อยู่พักหนึ่ง ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจว่าไนท์พูดอย่างนั้นทำไม แต่ฟีฟ่าก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เขาจึงเปิดรั้วเข้าไปในบ้านอย่างเช่นไนท์ทำเมื่อครู่
เมื่อคืนฟีฟ่ากลับมาค่อนข้างดึกพอสมควร เพราะไปนั่งซ้อนท้ายแข่งรถกับช่างกัน วันนี้เขาจึงรีบ พอขับรถไปถึงปากทางฟีฟ่าก็เห็นไนท์ยืนรอรถเมล์อยู่ เขาจึงไขกระจกและเรียกไนท์ “ไนท์ขึ้นรถมากับพี่เร็ว” ไนท์มองซ้ายมองขวาด้วยความเกรงใจ เพราะฟีฟ่าจอดรถเลยป้ายรถเมล์ ไนท์จึงวิ่งไปที่รถของฟีฟ่าและเข้าไปนั่งหน้ารถทันที หลังจากนั้นฟีฟ่าจึงขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว “ทำไมวันนี้ไปเรียนสายล่ะ”ฟีฟ่าพูดขึ้น “เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับครับ” “ตอนเย็นก็ซ้อมว่ายน้ำน่าจะเหนื่อยอยู่นะ แต่ทำไมถึงนอนไม่หลับ” “คิดถึงพี่ฟีฟ่า” “ฮ่ะ คิดถึงพี่ทำไม ก็เห็นหน้ากันทุกวัน เมื่อคืนยังเจออยู่เลยแถมพูดอะไรแปลกๆอีก มาวันนี้ก็พูดแปลกกว่าเดิมเข้าไปใหญ่”ฟีฟ่าหันมามองไนท์แวบหนึ่งแล้วหันกลับไปดูทางตามเดิม “ก็อยากไปเที่ยวไหนกับพี่ฟีฟ่าบ้าง เหมือนอย่างเมื่อคืนที่พี่ฟีฟ่าไปกับช่างกันและพี่นัท”ไนท์ปาดสายตามองฟีฟ่า “อ่อ อยากเป็นเที่ยวนี่เอง คงซ้อมหนักใช่ไหม อยากพักผ่อนหย่อนใจ พ่อพี่คงจะไม่ให้น้องไนท์เที่ยวไหนเป็นแน่เลย” “ครับ”
ไนท์ได้พาฟีฟ่ามาร้านหมูกระทะแถบชานเมือง ฟีฟ่ารู้สึกได้เปิดหูเปิดตาเพราะเขาไม่ได้มานานหลายปี “พี่ฟีฟ่านั่งรอผมอยู่ที่นี่ก็ได้นะ พี่อยากได้อะไรบอกผมได้เลย เดี๋ยวผมไปหยิบมาให้” “ไม่ต้องหรอก พี่อยากไปเดินดูด้วย” “ถ้างั้นเราไปตักอาหารกันก่อน” ฟีฟ่าเดินไปที่แผนกกุ้งเป็นอันดับแรก เพราะเขาชอบกินและแพงด้วย ฟีฟ่าจึงหยิบกุ้งตัวโตๆใส่จานจนพูน สายตาของฟีฟ่ามองกุ้งอีกตัวที่ใหญ่พอสมควร เขารู้สึกเสียดายถ้าไม่ได้เอาไปด้วย ฟีฟ่ากำลังยื่นมือคีบกุ้งตัวนั้น แต่กุ้งตัวนั้นไมเป็นใจเพราะมีที่คีบอีกอัน มาอยู่ส่วนหัวของกุ้ง ฟีฟ่ารีบดึงมาในจานของเขา แต่กลับถูกดึงแย่งไป ฟีฟ่าใจคอหงุดหงิดจึงหันไปมอง “ช่างกัน”ฟีฟ่าพูดเสียงดัง “พูดชื่อค่อยๆหน่อยอายเขา เรียกไอกันดีกว่า ไม่ต้องถึงกับช่างหรอก เพราะเราเริ่มสนิทกันแล้ว” “ไม่ต้องมาเปลื่ยนเรื่อง เอากุ้งตัวนั้นมาให้เราเดี๋ยวนี้” “ไม่ให้ นั่นก็เต็มจานพูน อดยากมาจากไหน” “ช่างกัน ปากไม่ดีเลยนะ”ฟีฟ่าว่างที่คีบไว้ที่เดิม แล้วเดินดุ่มๆไปที่โต๊หมูกระทะใกล้ๆทางออก โดยมีไนท์ก
ค่ำคืนนี้เป็นเป็นวันคล้ายวันเกิด ของเจมี่รุ่นพี่ที่ห้องสมุด ฟีฟ่าเลยต้องมาร่วมอวยพร ซึ่งงานในครั้งนี้มิได้จัดใหญ่โต มีแต่เพีอนรักมิตรสหายที่คบกันมา ในระหว่างที่ฟีฟ่านั่งดื่มน้ำส้มคั้น เพราะฟีฟ่าไม่แตะเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิด “พี่ขอนั่งด้วยคนได้ไหม”ไอโซนัทนั่งลงตรงหน้าฟีฟ่า “อยากนั่งก็นั่งสิ”ฟีฟ่ายกแก้วน้ำส้มขึ้นมาจิบและวางลง “ทำไมฟีฟ่าไม่รับโทรศัพท์พี่ ติดต่อทางไหนฟีฟ่าก็ทำเป็นเฉยเมย” “ฟีฟ่าไม่ว่าง ฟีฟ่าต้องไปกินหมูกระทะ” “ไปกินกับไนท์เหรอ”ไอโซนัทรู้ความจริงจากเจมี่ ที่ฟีฟ่าสื่อผ่านให้มาบอกไอโซนัทแบบอ้อมๆ “ใช่ อร่อยด้วย” “ทำไมไม่บอก ถ้าพี่รู้พี่จะได้พาฟีฟ่าไปกินสเต๊ก” “ไม่กินหรอกสเต็ก ไม่ชอบ ฟีฟ่าชอบกินกุ้ง” “หลังเลิกงานไปกินกุ้งไหม เดี๋ยวพี่จะมาไป” “ไม่หรอก มันดึกแล้วเดี๋ยวหน้าแก่” “พี่มีเพื่อนร้านเสิรมสวยความงาม เดี๋ยวพี่พาไปก็ได้พรุ่งนี้ถ้ากลัวหน้าแก่” “ไม่ชอบปรุงแต่ง ชอบแบบธรรมชาติ” “เอาอย่างนี้ไหมเดี๋ยวพี่พาไปอาบน้ำแร่แช่น้ำ
เช้าวันนี้ฟีฟ่าไปทำงานตามปกติ แต่มีเหตุบังเอิญรถของเขาเสียอยู่หน้าอู่ช่างกัน ซึ่งอู่ยังไม่ได้เปิดด้วยซ้ำ ฟีฟ่าจึงตัดสินใจลงจากรถแล้วไปเคาะประตูอู่ซ่อมรถ “ปัง ปัง ปัง” ฟีฟ่าเคาะประตูเสร็จก็ยืนรออยู่หน้าประตู สักพักช่างกันแง้มประตูออกมา พอช่างกันเห็นเป็นฟีฟ่าจึงดึงเข้ามาในอู่ทันที ฟีฟ่าไม่ทันได้ตั้งตัวรู้ตัวอีกทีเขาก็อยู่ข้างในอู่ หลังจากนั้นช่างกันปิดประตูทันที แล้วเขาก็เปิดไฟให้สว่าง พอแสงไฟส่องไปที่เรือนร่างของช่างกัน ฟีฟ่ายืนอึ้งอ้าปากค้าง เพราะช่างกันอยู่ในชุดกางเกงในตัวเดียว ส่วนรูปร่างก็บึกบึนมีกล้ามลีนๆ “นายดึงเราเข้ามาทำไม”ฟีฟ่ามีน้ำเสียงที่มีโมโห “กูไม่ได้จะข่มขืนมึงหรอก กูใส่กางเกงในตัวเดียว มึงจะให้กูออกไปหน้าอู่เหรอ” “ทำไมไม่ใส่กางเกงขาสั้นนอน” “มันเรื่องของกูหรือเปล่าวะ กูจะแก้ผ้านอนมันก็เรื่องของกู” “เอ่อ รถเราเสียน่ะ ซ่อมให้หน่อย แค่นี้แหละ ความจริงนายชะโงกหน้ามาก็ได้ ไม่ต้องถึงกับดึงเราเข้ามาข้างในหรอก” “กูจะดึงมึงเข้ามามึงจะทำไม”ช่างกันเดินเข้ามาใกล้ๆฟีฟ่า ส่วนฟ
ในช่วงเวลาพักเที่ยงไอโซนัทได้ส่งไลน์มาหาฟีฟ่า เพื่อชวนไปเที่ยวยามค่ำคืนใต้แสงเทียน บนเรือหรูในแม่น้ำเจ้าพระยาเพียงสองคน ฟีฟ่านั้นใช้เวลาตัดสินใจไม่นานเขาจึงตอบตกลง เพราะฟีฟ่ายังคิดถึงวันแรกที่ได้เจอไอโซนัทได้ ค่ำคืนนั้นเขามีความสุขและได้เจอสิ่งอันแปลกใหม่สำหรับเขา “ว่าไงน้องฟีฟ่าตกลงจะไปเที่ยวกับไอโซนัทไหม”เจมมี่นั่งลงข้างๆพร้อมจ้องสายตาของฟีฟ่า “ตกลงไปซิ ทำไมพี่เจมี่กับพี่กอล์ฟไม่ไปด้วยล่ะ” “มันหมดเวลาของพี่แล้วนะ พี่แค่เป็นสะพานต่อจากนี้ก็เป็นเรื่องพี่นัทกับน้องฟีฟ่าแล้วแหละ” “พี่เจมี่พูดแปลกๆเมื่อก่อนเชียร์พี่นัทอยู่เลยนี่ครับ” “ใช่ ตอนนี้พี่ยังเชียร์พี่นัทอยู่เลย เพราะพี่นัทเป็นผู้ใหญ่แล้วสามารถดูแลน้องของพี่ได้ ข้อสำคัญพี่นัทตามใจฟีฟ่าทุกอย่าง ตั้แต่เหตุการณ์วันนั้นเขาเลิกคบเพื่อนทั้งแก็งค์หมดเลยนะ เห็นไหมพี่เขาทำเพื่อฟีฟ่าขนาดไหน แต่เหนือสิ่งใด ความรักมันไม่สามารถบังคับจิตใจกันได้ ถึงพี่นัทจะดีทุกอย่างแต่ถ้าไมได้รัก อยู่ด้วยกันไปก็ไม่มีความสุขนะ” “พี่พูดยาวจังเลย” “พี่เห็นฟีฟ่าไปเที่ยวกับน้องนักว
วันหยุดสุดสัปดาห์เช่นเคยที่ฟีฟ่าต้องเอาอาหารไปให้ไนท์ ในวันนี้เขารู้สึกแปลกๆไม่เหมือนเช่นทุกวัน จิตใจในห้วงลึกหวั่นๆใจชอบกล แต่เขาพยายามสลัดความรู้สึกนั้นทิ้งไป แต่เมื่อเดินไปถึงขอบสระ ฟีฟ่าแอบรู้สึกผิดหวังเล็กๆ ที่ไม่เห็นไนท์อยู่ในสระว่ายน้ำ “พี่ฟีฟ่าเข้ามาในบ้านก่อนก็ได้ครับ ผมยังไม่ว่ายน้ำหรอก” “ไอ้เด็กบ้ารู้ทันอีก”ฟีฟ่าบ่นพึมพำในใจ เมื่อฟีฟ่าเดินเข้ามาในบ้านหลังน้อยๆแต่เนื้อที่บริเวณบ้านกว้างใหญ่ เพียงฟีฟ่าเปิดประตูเข้าไปในบ้านก็พบกับความรกข้าวของวางไม่เป็นที่เป็นทางเต็มไปหมด “ทำไมบ้านรกอย่างนี้ ไม่รู้จักเก็บกวาดให้เรียบร้อย บ้านของพ่อพี่ออกจะสวยงาม แต่น้องไนท์ทำซะเละเลย” “มาถึงก็บ่นๆยังไม่แก่ซักหน่อย ก็ไม่มีเวลาทำนี่ครับไหนจะเรียนหนังแล้วต้องซ้อมกีฬาอีก ถ้าพี่ฟีฟ่าว่างๆมาช่วยผมทำความสะอาดก็ได้ ดีกว่าไปล่องเรือเจ้าพระยา กับไปเป็นสก้อยท้ายรถบิ๊กไบค์”ไนท์เดินเข้ามาหาฟีฟ่าโดยมีผ้าเช็ดตัวผืนเดียว “ฟีฟ่ามันเรื่องของพี่นี่ พี่จะไปไหนกับใครก็ได้” “นั่นแสดงว่าพี่ฟีฟ่าปฏิเสธผมกลายๆใช่ไหม”
ฟีฟ่ากับยศนั่งคุยกันในห้องรับแขกตามภาษาพ่อลูก แต่แล้วก็มีชายหนุ่มที่คุ้นเคยเข้ามาหา โดยมีแม่ของฟีฟ่าเป็นคนเปิดประตูให้เข้ามา “สวัสดีครับพ่อ”ช่างกันยกมือไหว้ยศ “ใครพ่อมึง”ยศเริ่มมีสีหน้าที่ไม่พอใจเท่าไร “ก็พ่อไงครับ” “ไอ้นี่เห็นใจดีด้วย พูดอะไรไม่เกรงใจกันเลย” “ทำไมต้องเกรงใจครับ เพราะอีกหน่อยเราก็จะเป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้วนี่ครับ”ช่างกันนั่งข้างๆฟีฟ่า “บอกพ่อหรือยังเรื่องของเรา”ช่างกันพูดเสียงดังข้างๆหูฟีฟ่า “อะไรของนาย”ฟีฟ่าใช้สายตาปรามช่างกันไว้แต่ดูไม่เป็นผลซักเท่าไร “มีอะไรพูดมาตรงๆเรื่องอะไรบอกมา”ยศเอ่ยขึ้น “คือว่า ผมกับฟีฟ่ารักกันครับ” “ไม่จริงนะพ่อ”ฟีฟ่าตกใจกับคำพูดของช่างกัน “ใช่ครับ ฟีฟ่าขอเวลาตัดสินใจสักพัก แต่ผมรอไม่ไหวกลัวโดนแย่ง ทั้งหนุ่มนักว่ายน้ำและไอโซนั่นอีก ผมต้องชิงตัดหน้ามาพูดกับพ่อไว้ก่อน เพราะผมจริงใจมีอะไรก็จะพูดตรงๆครับ”ช่างกันมีน้ำเสียงที่หนักแน่น “เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ฟีฟ่าเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง” “
ช่วงพักเที่ยงไอโซนัทได้มาหาฟีฟ่าที่ห้องสมุดในมหาวิทยาลัย โดยมีเจมี่เป็นฝ่ายจัดแจงทุกอย่างให้ได้เจอกัน จึงทำให้ฟีฟ่าและไอโซนัทได้ออกไปข้างนอกด้วยกัน โดยไอโซนัทได้พาฟีฟ่าไปร้านอาหารธรรมดาร้านหนึ่ง เพราะเขาไม่อยากที่จะพาฟีฟ่าไปที่ร้านหรูอย่างที่เคยพาไป “ชอบไหมร้านแบบนี้”ไอโซนัทเอ่ยถามขึ้น สาเหตุที่ไอโซนัททำแบบนี้เพื่อที่จะปรับตัวให้เข้ากับฟีฟ่าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในช่วงเวลานี้ เพราะไอโซนัทรู้ตัวว่าคุ่แข่งของเขานั้นมีตั้งสองคน ซึ่งแต่ละคนก็ไม่ธรรมดาเขาจึงไม่อาจไว้วางใจได้ “ชอบครับ ร้านแบบนี้ก็ดีเหมือนกันไม่ต้องมีอะไรมาก แค่สั่งมาแล้วกิน” “พี่ดีใจนะที่น้องฟีฟ่าชอบร้านอาหารที่พี่พามา และพี่จะพามาบ่อยๆ สั่งอาหารเลยซิ เพราะวันนี้เรามีเวลากันน้อย” “ครับ” “ไม่ต้องเกรงใจพี่นะ” ฟีฟ่าและไอโซนัทได้สั่งอาหารอย่างที่ตัวเองชอบไม่กี่อย่าง เพราะด้วยเวลาอันเร่งรับมีแค่หนึ่งชั่วโมงช่วงพักเที่ยง “พักนี้น้องฟีฟ่าไม่ค่อยมีเวลาไปไหนมาไหนกับพี่เลยนะ เห็นเจมี่เล่าว่าไปโน้นไปนี่ตลอดเวลาเลย จนทำให้พี่รู้สึกน้อยใจเป็นบางคร