แชร์

บทที่19.เดิมพันที่ไร้ทางถอย

ผู้เขียน: Luna of The Sea
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-31 11:34:47

ในห้องรับรองที่เปี่ยมด้วยแสงไฟสลัว ฮันน่ายืนนิ่งตรงหน้าลินลี่ สายตาของเธอจับจ้องหญิงตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์ ทุกเส้นผม ทุกท่วงท่าของลินลี่ส่งผ่านภาพลักษณ์ที่แตกต่างจากสิ่งที่ฮันน่าเคยเห็นเมื่อครั้งก่อนในบาร์ สตรีที่อยู่ตรงหน้าดูทรงพลังและแน่วแน่เกินกว่าจะเป็นคนธรรมดาที่ใครจะมองข้าม

เธอเคยรู้จักลินลี่เพียงผิวเผิน การพูดคุยกันเพียงเสี้ยวหนึ่งในเส้นทางของโชคชะตา แต่ในคืนนี้ ลินลี่กลับฉายภาพที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง

ลินลี่นั่งไขว้ห้างอยู่บนโซฟาหรูด้วยท่าทีที่ราวกับกำลังปกครองอาณาจักรเล็กๆ ของตัวเอง  กลิ่นหอมบางของน้ำหอมผสมควันบุหรี่ลอยอวลในอากาศ ทำให้บรรยากาศรอบตัวหล่อนดูหนักแน่นและเย้ายวน

ฮันน่าไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้ ความมั่นใจที่แผ่ออกมาจากลินลี่มันเป็นรังสีที่ทำให้ฮันน่าอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกดดัน

เธอสูดหายใจลึก ควบคุมความรู้สึกของตัวเองไว้ ก่อนจะพูดออกมาเสียงเรียบ

“สวัสดี, ลินลี่”

ลินลี่จ้องมองฮันน่าด้วยสายตาคมกริบราวกับต้องการสำรวจทุกอณูของหญิงสาวตรงหน้า ยั่งลึกลงไปข้างในความคิดและความรู้สึกทั้งหมดอย่างไม่ให้คลาดสักเสี้ยวนาที

“นั่งสิ ฮันน่า” ลินลี่เอ่ยเสียงนุ่ม แต่แฝงด้วยน้ำเสียงที่ยากจะปฏิเสธพลางพยักหน้าไปยังโซฟาฝั่งตรงข้ามอย่างผ่อนคลาย

ฮันน่ารับคำเชิญด้วยการก้าวเดินอย่างระมัดระวังไปยังโซฟาแต่ ก่อนจะนั่งลง เธอหมุนศีรษะเบาๆ สำรวจรอบๆ ห้องที่ถูกตกแต่งอย่างประณีต แต่แฝงด้วยบรรยากาศที่ไม่น่าไว้วางใจ

การ์ดชายในชุดสูทที่นำพาฮันน่าเข้ามาเพียงแค่ยืนนิ่งอยู่ที่มุมห้อง ก่อนจะขยับตัวถอยกลับออกไปอย่างเงียบเชียบ ปล่อยให้ทั้งสองอยู่กันตามลำพังในห้องที่มีเพียงเสียงกระทบกันของน้ำแข็งในแก้วของลินลี่…

“คืนนี้เธอดู... แตกต่างไปนะ” ลินลี่พูดต่อ พลาง เทวิสกี้ลงในแก้วอีกใบแล้วเลื่อนส่งไปตรงหน้าฮันน่า ก่อนจะเติมให้ตัวเองเช่นกัน

“หวังว่าการมานี่จะช่วยเธอได้บ้าง”

“แต่ดูเธอแล้ว คงร้อนเงินใช่น้อยนะ” ลินลี่พูดขึ้น พลางยกแก้ววิสกี้ในมือขึ้นจิบ ดวงตาของเธอไม่ละไปจากฮันน่า

ควันบุหรี่ที่เธอจุดใหม่เริ่มลอยขึ้นเป็นสาย ลินลี่ถือมันไว้ระหว่างนิ้วอย่างสง่างาม สายลมเบาบางจากเครื่องปรับอากาศในห้องพัดผ่านกลิ่นวิสกี้และควันบุหรี่ผสมคละคลุ้งในอากาศราวกับกำลังต้อนรับฮันน่าเข้าสู่เกมที่ไม่อาจปฏิเสธได้

ฮันน่านั่งนิ่ง มือวางบนหน้าตัก กำแน่นเล็กน้อย เธอไม่ได้แตะต้องแก้ววิสกี้ตรงหน้า แต่สายตาของเธอยังคงจ้องไปยังลินลี่

“ฉันมาที่นี่เพื่อหาทางออกลินลี่ ..ใช่เรื่องเงินและงาน” เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น แฝงความมุ่งมั่นอย่างตรงประเด็น

ลินลี่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำตอบของที่ชัดเจนของฮันน่า แววสนใจในดวงตาของหล่อนยิ่งเพิ่มขึ้น เธอสูบบุหรี่คำโตแล้วพ่นควันออกมาอย่างไม่เร่งรีบราวกับสะท้อนความลึกลับที่แฝงอยู่ในทุกคำพูดของเธอ

“เธอเลิกกับมาร์คแล้ว ก็ดีแล้ว” ลินลี่พูดขึ้น น้ำเสียงของเธอเยือกเย็น แต่แฝงความสะใจเล็กน้อย

“ทางจะได้สะดวกหน่อย เขาเองก็ดูหลงสาวใหม่อยู่มากโขปรนเปรอหล่อนใช่น้อย แตดูเธอสิ… และถ้าฉันเดาไม่ผิดนะ เขาคงไม่ให้เงินเธอแม้แต่แดงเดียว... ใช่ไหม?”

คำพูดนั้นเหมือนคมมีดแทงลงกลางใจฮันน่าต้อนให้เธอต้องจนมุม

ฮันน่าจ้องหน้าลินลี่ด้วยแววตาที่ปิดบังอารมณ์ไม่มิด ลินลี่รับรู้ถึงความอ่อนแอนั้น แต่ก็ไม่ได้แสดงความเห็นใจออกมาแม้สักนิด

“นี่คือเงินบางส่วนสำหรับวันนี้” ลินลี่เอ่ย พลางหยิบเงินก้อนหนึ่งขึ้นมาวางลงบนโต๊ะตรงหน้าฮันน่า “ถือว่าเป็นหลักประกัน อีกครึ่งหนึ่งจะโอนเข้าบัญชีของเธอเมื่องานสำเร็จ”

ฮันน่าจ้องมองเงินตรงหน้าด้วยความลังเล เธอหันไปสบตาลินลี่ “งานอะไร ลินลี่?”

ลินลี่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย ก่อนจะพูดต่อ

“เธอแค่ทำหน้าที่แทนฉัน เท่านั้นเอง รอบนี้ฉันต้องคอยดูสถานการณ์อยู่ห่างๆ”

“งานง่ายๆสบายๆ แผนงานและเวลาฉันจะแจ้งเธอในเมสเสส” เสียงของลินลี่เรียบง่าย แต่กลับแฝงความกดดัน

ฮันน่ากลืนน้ำลายดัง เอื๊อก ในขณะที่หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้น เธอรู้ดีว่าการทำงานให้ลินลี่ไม่ใช่งานที่ขาวสะอาดแน่ๆ และครั้งนี้มันอาจหมายถึงการเดินเข้าสู่ถนนที่ไม่อาจหวนกลับซึ่งหมายถึงเธอต้องใช้ชีวิตและโชคชะตาเป็นเดิมพัน

สายตาของฮันนาจ้องเงินก้อนที่กองอยู่ตรงหน้า ความลังเลฉายชัดในดวงตาของเธอ เธอหลุบตาต่ำเพียงวินาที แต่เสียงเรียกร้องของเจ้าหนี้ที่ตามหลอกหลอนในทุกคืนวันดังก้องอยู่ในหัวไม่หยุด ราวกับกดดันให้เธอต้องตัดสินใจในทันทีและ เงินก้อนนี้คือโอกาสที่จะหลุดพ้น และเริ่มต้นใหม่

เธอยื่นมือออกไปจับแก้ววิสกี้บนโต๊ะ ก่อนจะกระดกมันรวดเดียว ความร้อนของเหล้าไหลลงคอแต่ไม่ได้บรรเทาความหนักในใจ ของเธอได้แม้แต่น้อย เสียงน้ำแข็งกระทบกันเบาๆ เธอวางแก้วนี้ลงบนโต๊ะ 

   แป๊ก!

“ได้ ลินลี่ ฉันตกลง” เสียงของฮันน่าเด็ดเดี่ยวกว่าที่เธอรู้สึกจริง มืออีกข้างหยิบเงินก้อนนั้น ยัดลงไปในกระเป๋าแจ๊กเก็ต

“ฉัน รับทำงานที่เธอเสนอให้  ” ฮันน่าพูดพร้อมลุกขึ้นยืน ในขณะที่สายตาเธอจ้องตรงไปยังลินลี่ ราวกับต้องการย้ำให้เห็นว่า การตัดสินใจครั้งนี้มีเหตุผลเพียงข้อเดียวคือ เงิน

แต่เธอก็ไม่อาจทนอยู่ในบรรยากาศอึดอัดและน่ากดดันนี้ได้นานกว่านี้ แล้วเธอเอ่ยคำลาอย่างรวบรัด

“งั้นฉันขอตัวก่อน”

เธอเดินออกจากห้องด้วยก้าวที่หนักแน่น แต่ลึกๆ ในใจกลับรู้สึกเหมือนก้าวเดินเข้าสู่อีกเส้นทาง

ลินลี่นั่งเอนหลังบนโซฟา ดวงตาคู่คมของหล่อนจับจ้องไปที่แผ่นหลังของฮันน่าซึ่งกำลังก้าวออกจากห้อง อย่างไม่ละสายตาไปแม้แต่วินาทีเดียว ราวกับพยายามอ่านท่าทีของอีกฝ่ายจนสุดทาง

เมื่อแผ่นหลังนั้นลับหายไปในความมืดของประตูที่ปิดลง ลินลี่เอื้อมมือหยิบแก้ววิสกี้ขึ้น กระดกจนหมดในรวดเดียว

หล่อนคลี่ยิ้มจางๆ บนริมฝีปากที่แฝงด้วยความนัยที่ยากจะอ่านออก ดวงตาของลินลี่เป็นประกาย ก่อนจะหยิบบุหรี่มวนใหม่ขึ้นจุด ควันสีขาวจางๆ ลอยขึ้นในอากาศ คล้ายปิดฉากค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความลับและเดิมพันอันหนักอึ้งของสองหญิงสาว.

เมื่อฮันน่าก้าวพ้นประตูสถานเริงรมย์ กลิ่นของบุหรี่และเครื่องดื่มยังคงติดอยู่ในอากาศ เธอพยายามสูดลมหายใจลึก แม้รู้ดีว่าอากาศบริเวณนั้นไม่สดชื่นเท่าไรนัก มือที่อยู่ใต้แจ็กเก็ตของเธอกำเงินไว้อย่างแน่น ราวกับมันเป็นสิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเธอไว้ในตอนนี้

เธอหยุดก้าวเท้าชั่วครู่ หันกลับมองสถานที่ที่เพิ่งเดินออกมา ไฟนีออนหลากสีประดับประดาอยู่หน้าร้านยังคงส่องแสงวูบวาบ ราวกับกำลังเยาะเย้ยความลังเลในใจของเธอ

เธอกัดริมฝีปาก ก่อนจะหันกลับและก้าวเดินยาวๆ ออกจากบริเวณนั้นให้ไวที่สุด ราวกับต้องการทิ้งทุกสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นไว้เบื้องหลัง แต่ในใจลึกๆ ฮันน่ารู้ดีว่าเธอไม่มีทางหนีจากสิ่งนี้ได้ง่ายๆ อีกแล้ว. 

บทที่เกี่ยวข้อง

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่20.การเจอกันครั้งที่สอง

    ฮันน่าก้าวออกจากซอยแห่งแสงสีและความลับ เธอรู้สึกเหมือนหลุดพ้นจากความอึดอัดบางอย่าง แต่ภายในใจยังวุ่นวายคิดเรื่องงานของลินลี่ที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า …..เธอก้าวเดินไปบนถนนริมชายหาดอย่างเชื้องช้าให้สายลมเย็นจากทะเลพัดผ่านใบหน้า เสียงคลื่นกระทบชายฝั่งดังแผ่วเบาเป็นฉากหลังในความมืดที่กระซิบปลอบประโลมในคืนที่เดียวดาย เธอสูดหายใจเข้าลึกเพื่อสงบใจ แต่กลับรู้สึกว่าความกดดันในใจยิ่งเพิ่มขึ้น เธอพยายามตั้งสติ ดึงตัวเองเข้าสู่เส้นทางที่กำลังเดินไปข้างหน้าที่มี แสงไฟจากผับและบาร์ที่เรียงรายเป็นทางยาวส่องแสงนวลใต้ดวงไฟที่กระพริบ เหมือนเป็นสัญญาณเรียกร้องให้เธอและผู้คนเข้ามาสัมผัสค่ำคืนของเมืองแห่งนี้ทุกมุมถนนเต็มไปด้วยสีสัน เสียงหัวเราะ และดนตรีที่ผสมผสานกันเป็นดั่งเสียงเรียกของค่ำคืนที่ยาวนานเธอเดินทอดน่องไปบนไหล่ทางริมต้นมะพร้าว เรียงยาวเป็นเงาสลัว ความกดดันและความเหนื่อยล้าภายในหลอมรวมเป็นความอึดอัด คงจะมีเพียงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดูเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวที่สามารถทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและช่วยให้ค่ำคืนนี้ผ่านไปเร็วขึ้น…..เสียงเพลงบรรเลงจากลานบาร์ของโรงแรมห้าดาวดังขึ้นมาจากระยะไกล้ ท่วงทำนองนั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่21.วันเริ่มต้นของความกล้า

    เสียงมือถือดัง "ครืด... ครืด..." สั่นอยู่บนโต๊ะข้างเตียงในยามเช้าตรู่ ปลุกให้ฮันน่าที่กำลังหลับใหลค่อยๆ ตื่นขึ้นมา เธอลืมตาอย่างเชื่องช้า ความงัวเงียยังฉาบทับเปลือกตาและจิตใจ ร่างของเธอขยับเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์แสงจากหน้าจอทำให้เธอต้องหรี่ตา พลางใช้มืออีกข้างบังบางส่วนไว้ เธอเพ่งมองข้อความที่เด้งขึ้นมาบนหน้าจอ เป็นข้อความจาก "ลินลี่""เจอกันที่บาร์ของฉันเย็นนี้"ฮันน่าถอนหายใจเฮือกใหญ่ ราวกับเหนื่อยล้าในใจ เธอยกมือกุมขมับพลางพึมพำกับตัวเอง“ฉันต้องกลับไปที่ซอยนั้นอีกแล้ว...”เสียงของเธอแผ่วเบา แต่เต็มไปด้วยความกดดันที่ยากจะปฏิเสธ สถานที่ที่ลินลี่หมายถึงไม่ใช่ที่ที่เธออยากกลับไป แต่งานนี้กลับเป็นสิ่งที่เธอหลีกเลี่ยงไม่ได้ เงินที่เธอใช้ไปแล้ว และเงินอีกส่วนที่ยังรออยู่หลังงานสำเร็จ เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเธอในตอนนี้เธอกลั้นหายใจลึก พยายามผลักความลังเลออกจากหัว ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาอีกครั้ง นิ้วของเธอค้างอยู่บนหน้าจอชั่วขณะ เหมือนกำลังตัดสินใจบางอย่าง แต่แล้วเธอก็พิมพ์ข้อความสั้นๆ ตอบกลับไป"ตกลง ลินลี่ แล้วเจอกัน"เธอวางโทรศัพท์ลงข้างตัว หันหน้าไปจ้องเพดาน สายตาว่างเปล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่22.เดิมพันใต้ควันวิสกี้

    ในยามหัวค่ำ ย่านท่องเที่ยวของถนนริมทะเล ร้านค้าบาร์และสถานบันเทิงแต่งแต้มด้วยไฟนีออนหลากสีส่องแสงระยิบระยับ เสียงเพลงและเสียงหัวเราะของผู้คนดังคลออยู่ในอากาศ หญิงสาวในชุดสะดุดตายืนเรียกลูกค้าอยู่หน้าร้าน เผยรอยยิ้มที่ถูกฝึกมาเพื่อดึงดูดสายตา ฮันน่าเดินลัดเลาะไปบนถนนที่เปียกชื้นเพื่อไปยังซอยลับที่ทอดตัวเงียบงันในย่านที่วุ่นวาย ที่ตั้งของ บาร์ลินลี่ สถานที่นัดหมายเสียงเพลงแผ่วเบาดังออกมาจากบาร์ แม้ประตูจะปิดสนิท กลิ่นบุหรี่และกลิ่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลอยอ้อยอิ่งในอากาศ ประสานกับเสียงกระดิ่งเฉลิมฉลองวันขอบคุณพระเจ้าดังกังวานเป็นจังหวะเหมือนบทเพลงต้อนรับแขก หรืออาจเป็นสัญญาณเตือนใจสำหรับผู้ที่กล้าก้าวเข้ามา ทันใดนั้น เสียง เพล้ง! ขวดกระแทกพื้นดังสะท้อนก้องไปทั่วซอย ฮันน่าหยุดชะงัก ร่างของเธอนิ่งสนิทในชั่วขณะ ก่อนจะหันมองไปยังต้นเสียงด้วยนัยน์ตาตื่นตัวที่ด้านหน้าบาร์แห่งหนึ่ง ชายสองคนในสภาพเมาหนักกำลังโวยวายใส่กันอย่างไม่ลดละ เสียงตะโกนหยาบคายและการแกว่งมือไปมาของพวกเขาดูเหมือนพร้อมจะปะทะได้ทุกเมื่อ ใบหน้าของทั้งคู่แดงก่ำจากฤทธิ์แอลกอฮอล์พลันประตูบาร์เปิดออกอย่างแรง ชายร่างใหญ่สองคนท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่23.รอยต่อแห่งท้องทะเล

    บรรยากาศในบ้านอาดัมเริ่มเงียบสงบลง หลังจากเสียงหัวเราะและความสนุกสนานของปาร์ตี้วันขอบคุณพระเจ้าค่อยๆ จางหายไป กลิ่นหอมอ่อนๆ ของอาหารที่ยังหลงเหลือในอากาศผสมกับความอบอุ่นจากแสงไฟในบ้าน เพื่อนๆ หลายคนทยอยกันกลับ บางคนช่วยคุณแม่ของอาดัมเก็บจานชาม บางคนกวาดบ้านพร้อมพูดคุยเรื่องราวในค่ำคืนที่เพิ่งผ่านไปวิน เพื่อนสนิทของอาดัม เดินเข้ามาพร้อมหยิบเสื้อคลุมที่วางพาดเก้าอี้ขึ้นมา ก่อนจะหันไปพูดกับอาดัมด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่แฝงด้วยความคาดหวัง"อาดัม พรุ่งนี้นายว่างไหม? เราข้ามเกาะไปเที่ยวที่เกาะทองกันสักคืนดีไหม? ฉันอยากรำลึกถึงวันเก่าๆ เพราะเดี๋ยวอีกสองสามวันฉันต้องกลับแล้ว"อาดัมที่กำลังเก็บกีตาร์ใส่กระเป๋าหยุดมือชั่วครู่ เขาเงยหน้าขึ้นมองวินด้วยรอยยิ้มกว้าง แววตาฉายชัดถึงความยินดีที่เพื่อนสนิทเอ่ยปากชวน"ได้สิเพื่อน วิน ฉันว่างอยู่ งั้นเราขึ้นเรือรอบแรกกันเลยไหม? รอบ 8 โมงเช้า เจอกันที่ท่าเรือ"วินหัวเราะเบาๆ ขณะสวมเสื้อคลุม "ตกลง งั้นเจอกันพรุ่งนี้!" เขายื่นมือไปหาอาดัม ทั้งสองยกมือประกบกันอย่างแน่นหนา ก่อนที่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มของพวกเขาจะเติมเต็มห้องที่เงียบสงบ"งั้นฉันไปก่อนนะ พรุ่งนี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-11
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่24.กับดักบนเกาะทองคำ

    ใกล้เกาะทองคำ บรรยากาศเหนือผืนน้ำสงบแต่แฝงไปด้วยความตึงเครียด บนเรือสายตรวจ เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติหน้าที่อย่างเงียบงัน เสียงคลื่นกระทบตัวเรือดังก้องเป็นจังหวะสม่ำเสมอ แต่ในหัวของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลและข้อสงสัยเรือสปีทโบ๊ตต้องสงสัยที่ได้รับรายงานถูกตรวจค้นอย่างละเอียด ทุกช่องเก็บของ และมุมเล็กมุมน้อยถูกเปิดออกเพื่อตรวจสอบ เอกสารทุกแผ่นถูกอ่านอย่างถี่ถ้วน แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือความว่างเปล่าไม่มีสิ่งของผิดกฎหมายหรืออะไรที่ชวนให้คิดว่าเรือลำนี้เกี่ยวข้องกับการลักลอบเลยแม้แต่น้อยเสียงถอนหายใจดังขึ้นเบา ๆ ท่ามกลางความผิดหวัง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งหันไปหาหัวหน้าทีม “ข้อมูลผิดพลาด…ครับหัวหน้า” เขาพูดขึ้นอย่างไม่แน่ใจด้วยน้ำเสียงที่สับสนและความรู้สึกสิ้นหวังหัวหน้าทีมยืนนิ่งอยู่ตรงสะพานเรือ ดวงตาของเขามองไกลออกไปยังผืนทะเลที่ทอดยาวสุดสายตา ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ภายในเขากำลังประมวลผลข้อมูล “ไม่ใช่ความผิดพลาด…” เขาเอ่ยในที่สุด น้ำเสียงหนักแน่นของเขาทำให้ทุกคนหยุดนิ่งและหันมาฟังอย่างตั้งใจ “พวกเขาเปลี่ยนแผนแล้ว เราถูกเบี่ยงเบนความสนใจ”คำพูดนั้นทำให้ทั้งทีมตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนเริ่มตระหนักว่าภ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่25.การเช็กอินที่ตึงเครียด

    บรรยากาศที่เปิดโล่งของล็อบบี้รีสอร์ตกลางสวนปาล์ม สียงคลื่นกระทบฝั่งดังแว่วมาไกลๆราวกับคำทักทายของมหาสมุทร เสียงลมพัดผ่านกิ่งใบของต้นไม้เกิดเป็นเสียงกระซิบที่แผ่วเบา คล้ายดนตรีธรรมชาติที่บรรเลงประสานกันอย่างลงตัว แสงแดดอุ่นยามสายลอดผ่านเพดานกระจกใสด้านบน สาดส่องลงมา ทอดเงาเป็นลวดลายอ่อนช้อยบนพื้นหินขัดสีเทาที่เปี่ยมด้วยความประณีตเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลถูกจัดวางไว้อย่างมีสไตล์และลงตัว ที่สะท้อนถึงความกลมกลืนระหว่างธรรมชาติและความทันสมัย เสียงรองเท้าของฮันน่ากระทบพื้นเบาๆ ในจังหวะที่มั่นคง ตรงไปยังที่เคาน์เตอร์รับรองกลางล็อบบี้ พนักงานสาวสวมเสื้อสูทสีขาวสะอาดทับเสื้อเชิ้ตเนื้อเบาสีฟ้าอ่อน ใบหน้าผ่องใสถูกแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มต้อนรับอย่างอ่อนน้อม เธอยืนสง่างามหลังเคาน์เตอร์ไม้เรียบหรู มือวางพร้อมบริการฮันน่าหยุดอยู่ด้านหน้าเค้าน์เตอร์ สูดลมหายใจลึกเพื่อรวบรวมสมาธิ ขณะที่หัวใจเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจแต่ยังแฝงด้วยความตื่นเต้น“สวัสดีค่ะ ฉันฮันน่าเข้าเช็กอินค่ะ”“สักครู่นะคะ” เสียงของเธอราวกับสายลมเย็นที่พัดผ่านกลางฤดูร้อน ก่อนหยิบเอกสารเช็กอินมาตรวจสอบอย่างต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่26.การผจญภัยบนเกาะทองคำ

    เรือเฟอร์รี่เคลื่อนเทียบเข้าฝั่งอย่างช้าๆ เสียงคลื่นกระทบกับท่าเรือดังราวจังหวะกลอง สอดประสานกับเสียงนกนางนวลร้องที่ลอยตัวอยู่เหนือชายฝั่ง อาดัมและวินก้าวลงจากเรือด้วยใบหน้าที่เริงร่า วิญญาณและร่างสัมผัสได้ถึงพลังแห่งธรรมชาติของเกาะทองคำ ทันทีที่เท้าลงบนผืนดิน กลิ่นลมทะเลสดชื่นอบอวลอยู่ในอากาศ พัดพาเอาความสบายใจมาสู่พวกเขา แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องกระทบกับผิวน้ำทะเลเป็นประกายระยิบระยับ เกาะแห่งนี้ดูเหมือนจะโอบรับพวกเขาด้วยความอบอุ่นอาดัมยืดตัวขึ้น สูดลมหายใจลึก รู้สึกถึงความบริสุทธิ์ของอากาศบนเกาะที่ราวดั่งสวรรค์แห่งนี้ เขาหันมาทางวินด้วยใบหน้าตื่นเต้นแล้วเอ่ยขึ้นว่า“เราเช่ารถมอไซค์กันวิน มีร้านเช่าตรงที่หน้าท่าเรือ จะได้ขับรถชมรอบๆเกาะ”เสียงพูดของอาดัมฟังดูสดใสและเต็มไปด้วยพลัง วินพยักหน้าด้วยรอยยิ้มกว้าง แล้ว ทั้งคู่มุ่งหน้าไปยังร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ ใกล้ๆ ท่าเรือที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่กำลังหารถเช่าหรือมองหาไกด์นำเที่ยวหลังจากจัดการเรื่องการเช่ามอเตอร์ไซค์เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองขี่มันออกไปบนถนนเล็กๆ ที่ตัดผ่านชายฝั่ง น้ำทะเลสีฟ้าใสสะท้อนอยู่ที่ปลายสายตา สายลมพัดผ่านใบหน้าขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-19
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่27.อุบัติเหตุไม่คาดฝันพลิกชีวิต

    ท้องฟ้าเริ่มแปรเปลี่ยนจากใสป็นสีดำครึ้มคลุมเคลือ บรรยากาศในหุบเขาข้างทะเลช่างเงียบสงบดูเหมือนทุกสิ่งหยุดนิ่งแต่มีเพียงเสียงเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ของฮันน่าที่ดังก้องสะท้อนในความว่างเปล่า เธอบิดเร่งความเร็วขึ้นทางลาดชัน เสียงลมหายใจถี่กระชั้นของเธอผสมผสานกับเสียงไซเรนรถสายตรวจที่ดังแว่วมาไกลๆ ทุกเสียงเหมือนเหล็กปลายแหลมทิ่มแทงหัวใจ สร้างความกดดันให้เธอจนแทบระเบิด ความหวาดระแวงไหลเวียนในสายเลือดอย่างไม่มีสิ้นสุดจนมาถึงริมผาสูง เบื้องหน้าคือมหาสมุทรที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ฮันน่าจอดมอเตอร์ไซค์และทอดสายตามองลงไปยังน้ำทะเลที่นิ่งเงียบ และไร้ขอบเขต ในขณะที่หัวใจเธอกลับเต็มไปด้วยความวุ่นวายราวพายุหมุน เสียงข้อความ "ติ้ง ติ้ง" ดังจากโทรศัพท์มือถือในมือ เป็นข้อความจากลินลี่ที่เหมือนเสียงเรียกครั้งสุดท้ายดึงเธอกลับมาสู่ความจริง“พอกันที ลินลี่” เธอเอ่ยเสียงเบา แต่เต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว พลางมือขว้างโทรศัพท์ในมือออกไปสุดแรง มันพุ่งผ่านอากาศแล้วหายลับลงสู่ทะเลลึก ราวกับตัดสายใยสุดท้ายที่ผูกเธอไว้กับชีวิตเดิมดวงตาเลื่อนไปที่กระเป๋าสัมภาระข้างตัวด้วยแววตาแน่วแน่ ก่อนจะคว้ามันขึ้นและโยนมันลงไปตามโทรศ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-22

บทล่าสุด

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่31.มือนำทาง

    ท้องฟ้ายามค่ำคืนเงียบสงบ มีเพียงเสียงลมพัดแผ่วเบาลอดผ่านหน้าต่างห้องของอาดัม เขายืนถือโทรศัพท์ไว้แนบหู ปลายสายนั้นคือวิน เพื่อนสนิทที่โทรมาจากต่างแดน เพราะหลังจากเหตุการ์ณ์ที่เกาะทองคำวันนั้นวินได้บินกลับไปอย่างกระทันหัน "นายแน่ใจเหรอ...อาดัม?" เสียงของวินชัดเจนผ่านใบหูของอาดัมในขณะที่ทั้งสองได้คุยกันมาได้สักพักแล้วจนมาถึงช่วงสุดท้ายก่อนจะวางสายลง “แน่ใจสิ…”อาดัมตอบกลับด้วยความมั่นใจขณะที่ดวงตาคมกริบของเขาฉายแววความแน่วแน่มั่นคง ถึงแม้เขาจะรู้จักเธอแค่เพียงหนึ่งสัปดาห์ก็ตาม แต่บางอย่างในตัวเธอทำให้เขาตัดสินใจได้โดยไม่ลังเล เมื่อวินได้ยินคำตอบที่ราวกลั่นออกมาจากหัวใจของอาดัมแล้ว เขาก็เอ่ยด้วยด้วยน้ำเสียงแห่งความยินดี “เมื่อนายมั่นใจและเชื่อมั่นแล้ว ฉันก็เชื่อในตัวนายเช่นกันว่านายนั้นทำได้ดี” วินตอบกลับแล้วหันมองดูเวลาบนข้อมือที่ใกล้เข้ากะทำงานไปทุกที“ ไว้คุยกันใหม่ ฉันต้องเข้าทำงานแล้ว ขอพระเจ้าอวยพร นายกับฮันน่า นะ" “ขอบใจมากเพื่อน ..วิน! แล้วเจอกัน ” .. ตุ๊ด.. ตุ๊ด.. ตุ๊ด..………….เมื่อวางสายไปแล้ว อาดัมถอนหายใจออกมาช้าๆ พลางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามราตรี แสงดาวระยิบระยับสะท้อ

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่30.แสงแห่งคำอธิษฐาน

    ยามหัวค่ำในห้องพักฟื้น อากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศแผ่ซ่านลึกเข้าไปถึงกระดูก ฮันน่า นอนนิ่งอยู่บนเตียง แม้ร่างกายยังคงเจ็บปวดจากบาดแผลที่ยังไม่หายดี แต่ถึงกระนั้นความเจ็บปวดจากร่างกายนั้นเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่กัดกินเธออยู่ภายในความกลัว ที่เหมือนเงาดำซึ่งคืบคลานเข้ามารัดแน่นจนหายใจแทบไม่ออกเธอรู้ดีว่าการหนีจาก ลินลี่ ไม่ใช่เรื่องง่าย... ไม่สิ มันเป็นไปไม่ได้เลย เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับคนอย่างเธอ นี่คือเมืองที่ลินลี่ครอบครองทุกสิ่งหญิงผู้มีอิทธิพล ผู้ทรงพลังยิ่งกว่ากฎหมายและความยุติธรรม ไม่มีมุมใดของเมืองนี้ที่จะหลบพ้นสายตาของเธอได้หัวใจของฮันน่าเต้นแรงในอก ดวงตาจ้องมองเงาตรงประตูหน้าห้องที่ดูเหมือนจะขยับเคลื่อนไหวตามเสียงฝีเท้าในจินตนาการของเธอ ทุกวินาทีราวกับกำลังรอคอยหายนะที่จะมาถึงโดยไม่มีวันเลี่ยงได้เธอไม่ได้หวังปาฏิหาริย์อีกต่อไป... ในเมืองของลินลี่ คนที่หนีไปได้ มีเพียงเงา หรือซากศพตึก... ตึก...ตึกเสียงรองเท้าส้นสูงดังสะท้อนก้องมาตามทางเดินยาวนอกห้อง ทุกก้าวการเดินนั้นราวกับกำลังย้ำเตือนถึงชะตากรรมที่กำลังจะมาถึง ทุกก้าว ยิ่งกระชั้นชิด เสมือนเสียงของนาฬิกาเรือนใหญ่ที่น

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่29..เคียงข้าง...แม้วันอ่อนแอ

    ภายในห้องพักฟื้นของโรงพยาบาล บรรยากาศเงียบงัน แสงไฟนวลตาส่องกระทบผนังสีขาวสะอาดตา ทว่ากลับให้ความรู้สึกโดดเดี่ยว อากาศอบอวลด้วยกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเจือจาง เตียงคนไข้ถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ ม่านสีขาวกั้นเป็นสัดส่วน อาดัมก้าวเข้ามาอย่างช้าๆสายตาของเขามองไปยังหญิงสาวที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง ผ้าพันแผลสีขาวพันรอบศีรษะของเธอ และขาของเธอถูกดามไว้อย่างแน่นหนา ร่องรอยบาดแผลและรอยฟกช้ำปรากฏให้เห็นบนผิวกายซีดเซียว ร่างกายของเธอดูเปราะบางราวกับอาจแตกสลายได้ทุกเมื่อ เสียงลมหายใจแผ่วเบาของเธอยืนยันว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็เป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด อาดัมรู้สึกเหมือนมีก้อนหินหนักๆ กดทับอยู่ในอก ราวกับแบกรับความรู้สึกผิดที่มองไม่เห็น เขายืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วถอนหายใจเบาๆ สายตาไล่มองไปตามร่างของเธอ พลางครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องเจ็บหนักขนาดนี้ เขารู้ว่าเธอรอดมาได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะผ่านมันไปได้โดยง่าย เสียงฝีเท้าของเขาเบาลงขณะก้าวถอยหลัง สุดท้ายอาดัมเลือกจะหมุนตัวเดินออกจากห้องแม้ความกังวลยังคงฝังแน่นอยู่ในใจ... เขาตรงกลับมาบ้านที่อบอุ่นเสียงฝีเท้าดังก้องทั่วห้องโถ่งทางเด

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่28.เงาแห่งโชคชะตา

    กลางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ เรือสปีดโบ๊ทแล่นตัดผ่านเกลียวคลื่นอย่างรวดเร็ว เสียงเครื่องยนต์คำรามกลบความเงียบของท้องฟ้ายามเย็นที่กำลังมืดลง อาดัมนั่งเงียบอยู่ข้างฮันน่า ดวงตาของเขามองไปยังใบหน้าของฮันน่าที่เปื้อนไปด้วยเลือด เธอดูอ่อนล้าและไร้เรี่ยวแรงและในแววตาของเธอนั้นช่างเต็มไปด้วยความเจ็บปวด“คุณ…เข้มแข็งไว้นะ” อาดัมเอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่แฝงด้วยความห่วงใยลึกซึ้ง ขณะที่นันย์ตาเขามองเธอราวกับต้องการส่งกำลังใจทั้งหมดที่เขามีให้กับเธอ ปลายนิ้วของเขาแตะลงบนแขนของเธอเบา ๆ สัมผัสแผ่วเบาที่ไม่ได้ต้องการอะไร นอกจากให้เธอรู้ว่าเธอไม่ได้เผชิญกับสิ่งนี้เพียงลำพัง ฮันน่ามองอาดัม ก่อนพยักหน้าแม้ไม่มีคำพูดใดออกมา แต่แววตาของเธอนั้นรับรู้ถึงความห่วงใยของเขา และเธอจะพยายามอดทน ให้ถึ่งฝั่งเรือสปีดโบ๊ทเข้าใกล้ฝั่งมากขึ้น ทุกวินาทีเต็มไปด้วยความเร่งด่วน ไฟสีแดงของรถพยาบาลที่จอดรออยู่ที่ท่าเรือสะท้อนบนผิวน้ำ ราวกับประกาศความสำคัญของชีวิตที่กำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายทันทีที่เรือจอดเทียบที่ท่า คนขับเรือและเจ้าหน้าที่รีบเข้ามาช่วยอาดัมพยุงฮันน่าขึ้นไปยังรถพยาบาล เสียงไซเรนดังก้องเมื่อรถพุ่งออกจากท่าเรือ

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่27.อุบัติเหตุไม่คาดฝันพลิกชีวิต

    ท้องฟ้าเริ่มแปรเปลี่ยนจากใสป็นสีดำครึ้มคลุมเคลือ บรรยากาศในหุบเขาข้างทะเลช่างเงียบสงบดูเหมือนทุกสิ่งหยุดนิ่งแต่มีเพียงเสียงเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ของฮันน่าที่ดังก้องสะท้อนในความว่างเปล่า เธอบิดเร่งความเร็วขึ้นทางลาดชัน เสียงลมหายใจถี่กระชั้นของเธอผสมผสานกับเสียงไซเรนรถสายตรวจที่ดังแว่วมาไกลๆ ทุกเสียงเหมือนเหล็กปลายแหลมทิ่มแทงหัวใจ สร้างความกดดันให้เธอจนแทบระเบิด ความหวาดระแวงไหลเวียนในสายเลือดอย่างไม่มีสิ้นสุดจนมาถึงริมผาสูง เบื้องหน้าคือมหาสมุทรที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ฮันน่าจอดมอเตอร์ไซค์และทอดสายตามองลงไปยังน้ำทะเลที่นิ่งเงียบ และไร้ขอบเขต ในขณะที่หัวใจเธอกลับเต็มไปด้วยความวุ่นวายราวพายุหมุน เสียงข้อความ "ติ้ง ติ้ง" ดังจากโทรศัพท์มือถือในมือ เป็นข้อความจากลินลี่ที่เหมือนเสียงเรียกครั้งสุดท้ายดึงเธอกลับมาสู่ความจริง“พอกันที ลินลี่” เธอเอ่ยเสียงเบา แต่เต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว พลางมือขว้างโทรศัพท์ในมือออกไปสุดแรง มันพุ่งผ่านอากาศแล้วหายลับลงสู่ทะเลลึก ราวกับตัดสายใยสุดท้ายที่ผูกเธอไว้กับชีวิตเดิมดวงตาเลื่อนไปที่กระเป๋าสัมภาระข้างตัวด้วยแววตาแน่วแน่ ก่อนจะคว้ามันขึ้นและโยนมันลงไปตามโทรศ

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่26.การผจญภัยบนเกาะทองคำ

    เรือเฟอร์รี่เคลื่อนเทียบเข้าฝั่งอย่างช้าๆ เสียงคลื่นกระทบกับท่าเรือดังราวจังหวะกลอง สอดประสานกับเสียงนกนางนวลร้องที่ลอยตัวอยู่เหนือชายฝั่ง อาดัมและวินก้าวลงจากเรือด้วยใบหน้าที่เริงร่า วิญญาณและร่างสัมผัสได้ถึงพลังแห่งธรรมชาติของเกาะทองคำ ทันทีที่เท้าลงบนผืนดิน กลิ่นลมทะเลสดชื่นอบอวลอยู่ในอากาศ พัดพาเอาความสบายใจมาสู่พวกเขา แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องกระทบกับผิวน้ำทะเลเป็นประกายระยิบระยับ เกาะแห่งนี้ดูเหมือนจะโอบรับพวกเขาด้วยความอบอุ่นอาดัมยืดตัวขึ้น สูดลมหายใจลึก รู้สึกถึงความบริสุทธิ์ของอากาศบนเกาะที่ราวดั่งสวรรค์แห่งนี้ เขาหันมาทางวินด้วยใบหน้าตื่นเต้นแล้วเอ่ยขึ้นว่า“เราเช่ารถมอไซค์กันวิน มีร้านเช่าตรงที่หน้าท่าเรือ จะได้ขับรถชมรอบๆเกาะ”เสียงพูดของอาดัมฟังดูสดใสและเต็มไปด้วยพลัง วินพยักหน้าด้วยรอยยิ้มกว้าง แล้ว ทั้งคู่มุ่งหน้าไปยังร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ ใกล้ๆ ท่าเรือที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่กำลังหารถเช่าหรือมองหาไกด์นำเที่ยวหลังจากจัดการเรื่องการเช่ามอเตอร์ไซค์เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองขี่มันออกไปบนถนนเล็กๆ ที่ตัดผ่านชายฝั่ง น้ำทะเลสีฟ้าใสสะท้อนอยู่ที่ปลายสายตา สายลมพัดผ่านใบหน้าขอ

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่25.การเช็กอินที่ตึงเครียด

    บรรยากาศที่เปิดโล่งของล็อบบี้รีสอร์ตกลางสวนปาล์ม สียงคลื่นกระทบฝั่งดังแว่วมาไกลๆราวกับคำทักทายของมหาสมุทร เสียงลมพัดผ่านกิ่งใบของต้นไม้เกิดเป็นเสียงกระซิบที่แผ่วเบา คล้ายดนตรีธรรมชาติที่บรรเลงประสานกันอย่างลงตัว แสงแดดอุ่นยามสายลอดผ่านเพดานกระจกใสด้านบน สาดส่องลงมา ทอดเงาเป็นลวดลายอ่อนช้อยบนพื้นหินขัดสีเทาที่เปี่ยมด้วยความประณีตเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลถูกจัดวางไว้อย่างมีสไตล์และลงตัว ที่สะท้อนถึงความกลมกลืนระหว่างธรรมชาติและความทันสมัย เสียงรองเท้าของฮันน่ากระทบพื้นเบาๆ ในจังหวะที่มั่นคง ตรงไปยังที่เคาน์เตอร์รับรองกลางล็อบบี้ พนักงานสาวสวมเสื้อสูทสีขาวสะอาดทับเสื้อเชิ้ตเนื้อเบาสีฟ้าอ่อน ใบหน้าผ่องใสถูกแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มต้อนรับอย่างอ่อนน้อม เธอยืนสง่างามหลังเคาน์เตอร์ไม้เรียบหรู มือวางพร้อมบริการฮันน่าหยุดอยู่ด้านหน้าเค้าน์เตอร์ สูดลมหายใจลึกเพื่อรวบรวมสมาธิ ขณะที่หัวใจเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจแต่ยังแฝงด้วยความตื่นเต้น“สวัสดีค่ะ ฉันฮันน่าเข้าเช็กอินค่ะ”“สักครู่นะคะ” เสียงของเธอราวกับสายลมเย็นที่พัดผ่านกลางฤดูร้อน ก่อนหยิบเอกสารเช็กอินมาตรวจสอบอย่างต

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่24.กับดักบนเกาะทองคำ

    ใกล้เกาะทองคำ บรรยากาศเหนือผืนน้ำสงบแต่แฝงไปด้วยความตึงเครียด บนเรือสายตรวจ เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติหน้าที่อย่างเงียบงัน เสียงคลื่นกระทบตัวเรือดังก้องเป็นจังหวะสม่ำเสมอ แต่ในหัวของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลและข้อสงสัยเรือสปีทโบ๊ตต้องสงสัยที่ได้รับรายงานถูกตรวจค้นอย่างละเอียด ทุกช่องเก็บของ และมุมเล็กมุมน้อยถูกเปิดออกเพื่อตรวจสอบ เอกสารทุกแผ่นถูกอ่านอย่างถี่ถ้วน แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือความว่างเปล่าไม่มีสิ่งของผิดกฎหมายหรืออะไรที่ชวนให้คิดว่าเรือลำนี้เกี่ยวข้องกับการลักลอบเลยแม้แต่น้อยเสียงถอนหายใจดังขึ้นเบา ๆ ท่ามกลางความผิดหวัง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งหันไปหาหัวหน้าทีม “ข้อมูลผิดพลาด…ครับหัวหน้า” เขาพูดขึ้นอย่างไม่แน่ใจด้วยน้ำเสียงที่สับสนและความรู้สึกสิ้นหวังหัวหน้าทีมยืนนิ่งอยู่ตรงสะพานเรือ ดวงตาของเขามองไกลออกไปยังผืนทะเลที่ทอดยาวสุดสายตา ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ภายในเขากำลังประมวลผลข้อมูล “ไม่ใช่ความผิดพลาด…” เขาเอ่ยในที่สุด น้ำเสียงหนักแน่นของเขาทำให้ทุกคนหยุดนิ่งและหันมาฟังอย่างตั้งใจ “พวกเขาเปลี่ยนแผนแล้ว เราถูกเบี่ยงเบนความสนใจ”คำพูดนั้นทำให้ทั้งทีมตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนเริ่มตระหนักว่าภ

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่23.รอยต่อแห่งท้องทะเล

    บรรยากาศในบ้านอาดัมเริ่มเงียบสงบลง หลังจากเสียงหัวเราะและความสนุกสนานของปาร์ตี้วันขอบคุณพระเจ้าค่อยๆ จางหายไป กลิ่นหอมอ่อนๆ ของอาหารที่ยังหลงเหลือในอากาศผสมกับความอบอุ่นจากแสงไฟในบ้าน เพื่อนๆ หลายคนทยอยกันกลับ บางคนช่วยคุณแม่ของอาดัมเก็บจานชาม บางคนกวาดบ้านพร้อมพูดคุยเรื่องราวในค่ำคืนที่เพิ่งผ่านไปวิน เพื่อนสนิทของอาดัม เดินเข้ามาพร้อมหยิบเสื้อคลุมที่วางพาดเก้าอี้ขึ้นมา ก่อนจะหันไปพูดกับอาดัมด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่แฝงด้วยความคาดหวัง"อาดัม พรุ่งนี้นายว่างไหม? เราข้ามเกาะไปเที่ยวที่เกาะทองกันสักคืนดีไหม? ฉันอยากรำลึกถึงวันเก่าๆ เพราะเดี๋ยวอีกสองสามวันฉันต้องกลับแล้ว"อาดัมที่กำลังเก็บกีตาร์ใส่กระเป๋าหยุดมือชั่วครู่ เขาเงยหน้าขึ้นมองวินด้วยรอยยิ้มกว้าง แววตาฉายชัดถึงความยินดีที่เพื่อนสนิทเอ่ยปากชวน"ได้สิเพื่อน วิน ฉันว่างอยู่ งั้นเราขึ้นเรือรอบแรกกันเลยไหม? รอบ 8 โมงเช้า เจอกันที่ท่าเรือ"วินหัวเราะเบาๆ ขณะสวมเสื้อคลุม "ตกลง งั้นเจอกันพรุ่งนี้!" เขายื่นมือไปหาอาดัม ทั้งสองยกมือประกบกันอย่างแน่นหนา ก่อนที่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มของพวกเขาจะเติมเต็มห้องที่เงียบสงบ"งั้นฉันไปก่อนนะ พรุ่งนี้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status