Share

บทที่24.กับดักบนเกาะทองคำ

last update Last Updated: 2025-01-13 06:06:07

ใกล้เกาะทองคำ บรรยากาศเหนือผืนน้ำสงบแต่แฝงไปด้วยความตึงเครียด บนเรือสายตรวจ เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติหน้าที่อย่างเงียบงัน เสียงคลื่นกระทบตัวเรือดังก้องเป็นจังหวะสม่ำเสมอ แต่ในหัวของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลและข้อสงสัย

เรือสปีทโบ๊ตต้องสงสัยที่ได้รับรายงานถูกตรวจค้นอย่างละเอียด ทุกช่องเก็บของ และมุมเล็กมุมน้อยถูกเปิดออกเพื่อตรวจสอบ เอกสารทุกแผ่นถูกอ่านอย่างถี่ถ้วน แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือความว่างเปล่าไม่มีสิ่งของผิดกฎหมายหรืออะไรที่ชวนให้คิดว่าเรือลำนี้เกี่ยวข้องกับการลักลอบเลยแม้แต่น้อย

เสียงถอนหายใจดังขึ้นเบา ๆ ท่ามกลางความผิดหวัง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งหันไปหาหัวหน้าทีม “ข้อมูลผิดพลาด…ครับหัวหน้า” เขาพูดขึ้นอย่างไม่แน่ใจด้วยน้ำเสียงที่สับสนและความรู้สึกสิ้นหวัง

หัวหน้าทีมยืนนิ่งอยู่ตรงสะพานเรือ ดวงตาของเขามองไกลออกไปยังผืนทะเลที่ทอดยาวสุดสายตา ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ภายในเขากำลังประมวลผลข้อมูล

“ไม่ใช่ความผิดพลาด…” เขาเอ่ยในที่สุด น้ำเสียงหนักแน่นของเขาทำให้ทุกคนหยุดนิ่งและหันมาฟังอย่างตั้งใจ

“พวกเขาเปลี่ยนแผนแล้ว เราถูกเบี่ยงเบนความสนใจ”

คำพูดนั้นทำให้ทั้งทีมตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนเริ่มตระหนักว่าภารกิจนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่ซับซ้อนกว่าเดิม

หัวหน้าทีมหันกลับมามองลูกทีม สีหน้าเขาฉายความจริงจัง

“ล้มเลิกแผนเดิม เราจะเปลี่ยนแผนใหม่ เราถูกนำทางผิดจุดตั้งแต่แรก ภารกิจนี้ล้มเหลว แต่ไม่ใช่จุดจบ”

เขาหยุดไปครู่หนึ่ง สายตาสบกับทุกคนอย่างหนักแน่น

“เราจะรอข้อมูลใหม่จากสายลับอีกครั้ง ตอนนี้แยกย้ายและเตรียมพร้อม”

“ครับ หัวหน้า.”

ทีมงานสายตรวจเมื่อได้รับคำสั่งนั้นจึงสลายตัวอย่างเงียบเชียบ เพื่อรอคำสั่งและแผนการใหม่ของหัวหน้า..

"ปู้ววววว" "ปู้ววววว"

เสียงของเรือเฟอร์รี่หมายเลข7 ดังก้องกังวานไปทั่วอ่าว เป็นสัญญาณ ว่า เรือ กำลังจะจอดเทียบท่าเวลา 9.AM ตามกำหนด

เปลวแดดยามสายทอประกายอ่อนโยน แตะต้องผิวน้ำใสราวกระจก เสียงคลื่นกระทบเรือเบา ๆ ผสมกับเสียงนกนางนวลที่บินวนเหนือท่าเรือ เติมเต็มความมีชีวิตชีวาดั่งหาดสวรรค์ของเกาะแห่งนี้

ผู้โดยสารคนอื่น ๆ ดูตื่นเต้นและเพลิดเพลินไปกับความงดงามรอบตัว บางคนหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพ บางคนมองออกไปยังชายฝั่งที่มีหาดทรายสีขาวทอดยาว พร้อมด้วยต้นปาล์มเรียงรายสวยงามเหมือนภาพในโปสการ์ด

แต่ฮันน่ากลับแตกต่างออกไป เธอยืนนิ่งอยู่ริมดาดฟ้าของเรือโดยไม่สนใจสิ่งรอบตัว แม้ลมทะเลเย็นสดชื่นจะพัดผ่านมากระทบใบหน้า เธอกลับไม่ยอมปล่อยใจให้หลุดลอยไปกับความงามที่อยู่เบื้องหน้า สายตาของเธอเหม่อมองตรงไปยังท่าเรือด้วยความแน่วแน่ ดวงตาคู่นั้นฉายแววครุ่นคิดเพราะเธอมีภารกิจสำคัญที่ยังคอยอยู่

เสียงเครื่องยนต์เรือชะลอตัวลงเมื่อเรือเทียบท่า บรรดาผู้โดยสารเริ่มทยอยลงจากเรือกันอย่างมีระเบียบ แต่ละคนดูมีจุดหมายของตัวเอง ฮันน่าค่อย ๆ ก้าวตามลงไป เธอกระชับสายกระเป๋าในมือแน่น หัวใจเต้นแรงเล็กน้อยเมื่อปลายเท้าสัมผัสกับพื้นไม้ของท่าเรือ จุดเริ่มต้นของสิ่งที่กำลังรอเธออยู่ได้มาถึงแล้ว

ฮันน่าก้าวออกจากเรือด้วยความระแวดระวัง ทุกการเคลื่อนไหวของเธอเต็มไปด้วยความตื่นตัว มือข้างหนึ่งจับสายกระเป๋าน้ำตาลราคาแพงไว้อย่างมั่นคง ขณะที่อีกมือรีบล้วงเข้าไปหยิบมือถือที่สั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมา

ทันทีหน้าจอมือถือสว่าง ข้อความจากลินลี่ปรากฏบนหน้าจอ:

"เธอถึงที่นั่นโดยปลอดภัยแล้วนะ ฮันน่า"

คำที่ดูเหมือนธรรมดานั้นกลับสะท้อนถึงความหมายซ่อนเร้นว่าการเดินทางของเธอยังไม่สิ้นสุด และแผนที่ถูกวางไว้กำลังดำเนินไป

ไม่ทันที่เธอจะเก็บโทรศัพท์ลง ข้อความถัดไปก็เด้งขึ้นมา:

"เดินไปขึ้นรถกระบะสีดำแผ่นป้ายทะเบียน 666 เขาจะพาเธอไปยังที่พัก ชายวัยกลางคนผิวคล้ำแดดรูปร่างใหญ่ สวมแว่นตา ยืนรออยู่"

ฮันน่าชะงักเท้า ดวงตาเธอฉายแววระวังอีกครั้งก่อนจะเงยหน้าขึ้น สายตาของเธอจับจ้องไปยังรถกระบะสีดำคันหนึ่งที่จอดรออยู่บริเวณทางออกของท่าเรือ ภาพชายวัยกลางคนผิวคล้ำ แว่นตาดำสะท้อนแสงแดด ตรงกับคำบรรยายในข้อความทุกประการ

เธอสูดลมหายใจลึก รวบรวมความกล้า ก่อนเดินตรงไปหาชายคนนั้น เสียงรองเท้ากระทบพื้นดังเบา ๆ บนทางเดินที่ทอดยาว เธอหยุดยืนตรงหน้าเขา แล้วพูดเสียงเรียบแต่มั่นใจ:

"ฉันฮันน่า"

ชายคนนั้นพยักหน้าเบา ๆ พร้อมเปิดประตูรถให้ด้วยท่าทางสุภาพแต่ไร้รอยยิ้ม:

"เชิญครับ"

ฮันน่าก้าวขึ้นรถ ความเงียบที่ครอบงำภายในห้องโดยสารทำให้เธอรู้สึกถึงบรรยากาศที่ชวนให้อึดอัด เธอวางกระเป๋าหนังใบหรูไว้บนตัก มือข้างหนึ่งกำสายกระเป๋าไว้แน่นจนรู้สึกถึงเนื้อสัมผัสของมัน ดวงตาเธอจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง ทิวทัศน์ของเกาะทองคำค่อย ๆ เลื่อนผ่านไปช้า ๆ

ภูเขาสูงชันที่เรียงตัวกันเป็นแนวยาวโอบล้อมพื้นที่บางส่วนของเกาะ ดูแล้วช่างน่าสวยงามและน่ากังวล เมื่อสายลมพัดผ่านใบไม้ในสวนใหญ่ที่ทอดตัวเป็นทางเข้าสู่รีสอร์ต ต้นไม้โยกเอนไปมาเบา ๆ ราวกับจะเตือนให้เธอระวังสิ่งที่รออยู่ข้างหน้า

ฮันน่าอดไม่ได้ที่จะเลื่อนสายตากลับมามองชายคนขับ เขาเป็นชายร่างใหญ่ ผิวคล้ำจากการกรำแดด สวมแว่นตาดำที่ปิดบังความรู้สึกในดวงตาของเขาไว้อย่างสมบูรณ์ ความเงียบที่เขามอบให้นั้นไม่ได้ช่วยให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย ตรงกันข้าม มันกลับทำให้บรรยากาศในรถเต็มไปด้วยความตึงเครียด

เธอพยายามสูดลมหายใจลึก ๆ เพื่อควบคุมความกลัวที่เริ่มก่อตัวในใจ เสียงของล้อรถที่บดผ่านทางดินกลบความคิดวุ่นวายของเธอไปชั่วครู่ ฮันน่ารู้ดีว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะปล่อยให้ความกังวลครอบงำ เธอปรับตัวนั่งให้มั่นคงขึ้น และมองออกไปข้างหน้า จิตใจเริ่มเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น

แล้วเสียงเครื่องยนต์ดับลงเมื่อรถกระบะจอดนิ่งสนิทตรงหน้าทางเข้ารีสอร์ตที่ตั้งอยู่กลางหุบเขา

“ถึงแล้วครับ”

เธอพยักหน้าเล็กน้อยก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั้น ๆ “ค่ะ” แล้วเอื้อมมือไปเปิดประตู เธอก้าวลงจากรถอย่างระมัดระวัง สัมผัสแรกจากพื้นดินที่แข็งทำให้เธอรู้สึกถึงความจริงจังขอสถานการณ์

ฮันน่าก้าวถอยออกมาสองสามก้าว ราวกับต้องการใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีเพื่อประเมินสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เธอยืนแน่นิ่ง สายตาจ้องรีสอร์ตที่ตั้งตระหง่านกลางสวนปาล์มเขียวชอุ่ม อาคารทรงทันสมัยผสมผสานกระจกและไม้เนื้อแข็ง ดูเรียบหรูแต่แฝงความลึกลับในแบบที่ชวนให้ระแวง

แสงแดดยามสายสะท้อนผิวกระจกอาคารเป็นประกายจาง ๆ ทว่ากลับไม่ลดความรู้สึกเยือกเย็นที่แทรกเข้ามาในหัวใจของเธอ เสียงคลื่นทะเลจากระยะไกลดังแผ่ว ๆ คลอไปกับเสียงลมที่พัดใบปาล์มไหวสะท้อนความโดดเดี่ยวของสถานที่ซึ่งเหมือนถูกซ่อนเร้นอยู่ในมุมลึกของโลกใบนี้

ตัวรีสอร์ตตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ดูเหมือนเป็นจุดยุทธศาสตร์ เข้าถึงได้ยาก มีเพียงเส้นทางเล็ก ๆ คดเคี้ยวผ่านหุบเขามาถึงตรงนี้ ฮันน่ารู้ดีว่าสถานที่นี้ไม่ได้ถูกเลือกมาโดยบังเอิญ มันเป็นทั้งที่หลบซ่อนและที่เฝ้าระวังในตัวเอง

เธอหันมองรอบตัวอีกครั้ง มือหนึ่งกำสายกระเป๋าแน่นเหมือนเป็นเกราะป้องกันจิตใจ ก่อนจะสูดลมหายใจลึก กลั้นความประหม่าและความกลัวที่ซ่อนอยู่ในใจแล้วก้าวเท้าเข้าไปสู่ประตูทางเข้าของรีสอร์ต….

Related chapters

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่25.การเช็กอินที่ตึงเครียด

    บรรยากาศที่เปิดโล่งของล็อบบี้รีสอร์ตกลางสวนปาล์ม สียงคลื่นกระทบฝั่งดังแว่วมาไกลๆราวกับคำทักทายของมหาสมุทร เสียงลมพัดผ่านกิ่งใบของต้นไม้เกิดเป็นเสียงกระซิบที่แผ่วเบา คล้ายดนตรีธรรมชาติที่บรรเลงประสานกันอย่างลงตัว แสงแดดอุ่นยามสายลอดผ่านเพดานกระจกใสด้านบน สาดส่องลงมา ทอดเงาเป็นลวดลายอ่อนช้อยบนพื้นหินขัดสีเทาที่เปี่ยมด้วยความประณีตเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลถูกจัดวางไว้อย่างมีสไตล์และลงตัว ที่สะท้อนถึงความกลมกลืนระหว่างธรรมชาติและความทันสมัย เสียงรองเท้าของฮันน่ากระทบพื้นเบาๆ ในจังหวะที่มั่นคง ตรงไปยังที่เคาน์เตอร์รับรองกลางล็อบบี้ พนักงานสาวสวมเสื้อสูทสีขาวสะอาดทับเสื้อเชิ้ตเนื้อเบาสีฟ้าอ่อน ใบหน้าผ่องใสถูกแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มต้อนรับอย่างอ่อนน้อม เธอยืนสง่างามหลังเคาน์เตอร์ไม้เรียบหรู มือวางพร้อมบริการฮันน่าหยุดอยู่ด้านหน้าเค้าน์เตอร์ สูดลมหายใจลึกเพื่อรวบรวมสมาธิ ขณะที่หัวใจเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจแต่ยังแฝงด้วยความตื่นเต้น“สวัสดีค่ะ ฉันฮันน่าเข้าเช็กอินค่ะ”“สักครู่นะคะ” เสียงของเธอราวกับสายลมเย็นที่พัดผ่านกลางฤดูร้อน ก่อนหยิบเอกสารเช็กอินมาตรวจสอบอย่างต

    Last Updated : 2025-01-15
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่26.การผจญภัยบนเกาะทองคำ

    เรือเฟอร์รี่เคลื่อนเทียบเข้าฝั่งอย่างช้าๆ เสียงคลื่นกระทบกับท่าเรือดังราวจังหวะกลอง สอดประสานกับเสียงนกนางนวลร้องที่ลอยตัวอยู่เหนือชายฝั่ง อาดัมและวินก้าวลงจากเรือด้วยใบหน้าที่เริงร่า วิญญาณและร่างสัมผัสได้ถึงพลังแห่งธรรมชาติของเกาะทองคำ ทันทีที่เท้าลงบนผืนดิน กลิ่นลมทะเลสดชื่นอบอวลอยู่ในอากาศ พัดพาเอาความสบายใจมาสู่พวกเขา แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องกระทบกับผิวน้ำทะเลเป็นประกายระยิบระยับ เกาะแห่งนี้ดูเหมือนจะโอบรับพวกเขาด้วยความอบอุ่นอาดัมยืดตัวขึ้น สูดลมหายใจลึก รู้สึกถึงความบริสุทธิ์ของอากาศบนเกาะที่ราวดั่งสวรรค์แห่งนี้ เขาหันมาทางวินด้วยใบหน้าตื่นเต้นแล้วเอ่ยขึ้นว่า“เราเช่ารถมอไซค์กันวิน มีร้านเช่าตรงที่หน้าท่าเรือ จะได้ขับรถชมรอบๆเกาะ”เสียงพูดของอาดัมฟังดูสดใสและเต็มไปด้วยพลัง วินพยักหน้าด้วยรอยยิ้มกว้าง แล้ว ทั้งคู่มุ่งหน้าไปยังร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ ใกล้ๆ ท่าเรือที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่กำลังหารถเช่าหรือมองหาไกด์นำเที่ยวหลังจากจัดการเรื่องการเช่ามอเตอร์ไซค์เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองขี่มันออกไปบนถนนเล็กๆ ที่ตัดผ่านชายฝั่ง น้ำทะเลสีฟ้าใสสะท้อนอยู่ที่ปลายสายตา สายลมพัดผ่านใบหน้าขอ

    Last Updated : 2025-01-19
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่27.อุบัติเหตุไม่คาดฝันพลิกชีวิต

    ท้องฟ้าเริ่มแปรเปลี่ยนจากใสป็นสีดำครึ้มคลุมเคลือ บรรยากาศในหุบเขาข้างทะเลช่างเงียบสงบดูเหมือนทุกสิ่งหยุดนิ่งแต่มีเพียงเสียงเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ของฮันน่าที่ดังก้องสะท้อนในความว่างเปล่า เธอบิดเร่งความเร็วขึ้นทางลาดชัน เสียงลมหายใจถี่กระชั้นของเธอผสมผสานกับเสียงไซเรนรถสายตรวจที่ดังแว่วมาไกลๆ ทุกเสียงเหมือนเหล็กปลายแหลมทิ่มแทงหัวใจ สร้างความกดดันให้เธอจนแทบระเบิด ความหวาดระแวงไหลเวียนในสายเลือดอย่างไม่มีสิ้นสุดจนมาถึงริมผาสูง เบื้องหน้าคือมหาสมุทรที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ฮันน่าจอดมอเตอร์ไซค์และทอดสายตามองลงไปยังน้ำทะเลที่นิ่งเงียบ และไร้ขอบเขต ในขณะที่หัวใจเธอกลับเต็มไปด้วยความวุ่นวายราวพายุหมุน เสียงข้อความ "ติ้ง ติ้ง" ดังจากโทรศัพท์มือถือในมือ เป็นข้อความจากลินลี่ที่เหมือนเสียงเรียกครั้งสุดท้ายดึงเธอกลับมาสู่ความจริง“พอกันที ลินลี่” เธอเอ่ยเสียงเบา แต่เต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว พลางมือขว้างโทรศัพท์ในมือออกไปสุดแรง มันพุ่งผ่านอากาศแล้วหายลับลงสู่ทะเลลึก ราวกับตัดสายใยสุดท้ายที่ผูกเธอไว้กับชีวิตเดิมดวงตาเลื่อนไปที่กระเป๋าสัมภาระข้างตัวด้วยแววตาแน่วแน่ ก่อนจะคว้ามันขึ้นและโยนมันลงไปตามโทรศ

    Last Updated : 2025-01-22
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่28.เงาแห่งโชคชะตา

    กลางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ เรือสปีดโบ๊ทแล่นตัดผ่านเกลียวคลื่นอย่างรวดเร็ว เสียงเครื่องยนต์คำรามกลบความเงียบของท้องฟ้ายามเย็นที่กำลังมืดลง อาดัมนั่งเงียบอยู่ข้างฮันน่า ดวงตาของเขามองไปยังใบหน้าของฮันน่าที่เปื้อนไปด้วยเลือด เธอดูอ่อนล้าและไร้เรี่ยวแรงและในแววตาของเธอนั้นช่างเต็มไปด้วยความเจ็บปวด“คุณ…เข้มแข็งไว้นะ” อาดัมเอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่แฝงด้วยความห่วงใยลึกซึ้ง ขณะที่นันย์ตาเขามองเธอราวกับต้องการส่งกำลังใจทั้งหมดที่เขามีให้กับเธอ ปลายนิ้วของเขาแตะลงบนแขนของเธอเบา ๆ สัมผัสแผ่วเบาที่ไม่ได้ต้องการอะไร นอกจากให้เธอรู้ว่าเธอไม่ได้เผชิญกับสิ่งนี้เพียงลำพัง ฮันน่ามองอาดัม ก่อนพยักหน้าแม้ไม่มีคำพูดใดออกมา แต่แววตาของเธอนั้นรับรู้ถึงความห่วงใยของเขา และเธอจะพยายามอดทน ให้ถึ่งฝั่งเรือสปีดโบ๊ทเข้าใกล้ฝั่งมากขึ้น ทุกวินาทีเต็มไปด้วยความเร่งด่วน ไฟสีแดงของรถพยาบาลที่จอดรออยู่ที่ท่าเรือสะท้อนบนผิวน้ำ ราวกับประกาศความสำคัญของชีวิตที่กำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายทันทีที่เรือจอดเทียบที่ท่า คนขับเรือและเจ้าหน้าที่รีบเข้ามาช่วยอาดัมพยุงฮันน่าขึ้นไปยังรถพยาบาล เสียงไซเรนดังก้องเมื่อรถพุ่งออกจากท่าเรือ

    Last Updated : 2025-01-30
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่29..เคียงข้าง...แม้วันอ่อนแอ

    ภายในห้องพักฟื้นของโรงพยาบาล บรรยากาศเงียบงัน แสงไฟนวลตาส่องกระทบผนังสีขาวสะอาดตา ทว่ากลับให้ความรู้สึกโดดเดี่ยว อากาศอบอวลด้วยกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเจือจาง เตียงคนไข้ถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ ม่านสีขาวกั้นเป็นสัดส่วน อาดัมก้าวเข้ามาอย่างช้าๆสายตาของเขามองไปยังหญิงสาวที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง ผ้าพันแผลสีขาวพันรอบศีรษะของเธอ และขาของเธอถูกดามไว้อย่างแน่นหนา ร่องรอยบาดแผลและรอยฟกช้ำปรากฏให้เห็นบนผิวกายซีดเซียว ร่างกายของเธอดูเปราะบางราวกับอาจแตกสลายได้ทุกเมื่อ เสียงลมหายใจแผ่วเบาของเธอยืนยันว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็เป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด อาดัมรู้สึกเหมือนมีก้อนหินหนักๆ กดทับอยู่ในอก ราวกับแบกรับความรู้สึกผิดที่มองไม่เห็น เขายืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วถอนหายใจเบาๆ สายตาไล่มองไปตามร่างของเธอ พลางครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องเจ็บหนักขนาดนี้ เขารู้ว่าเธอรอดมาได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะผ่านมันไปได้โดยง่าย เสียงฝีเท้าของเขาเบาลงขณะก้าวถอยหลัง สุดท้ายอาดัมเลือกจะหมุนตัวเดินออกจากห้องแม้ความกังวลยังคงฝังแน่นอยู่ในใจ... เขาตรงกลับมาบ้านที่อบอุ่นเสียงฝีเท้าดังก้องทั่วห้องโถ่งทางเด

    Last Updated : 2025-02-03
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่30.แสงแห่งคำอธิษฐาน

    ยามหัวค่ำในห้องพักฟื้น อากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศแผ่ซ่านลึกเข้าไปถึงกระดูก ฮันน่า นอนนิ่งอยู่บนเตียง แม้ร่างกายยังคงเจ็บปวดจากบาดแผลที่ยังไม่หายดี แต่ถึงกระนั้นความเจ็บปวดจากร่างกายนั้นเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่กัดกินเธออยู่ภายในความกลัว ที่เหมือนเงาดำซึ่งคืบคลานเข้ามารัดแน่นจนหายใจแทบไม่ออกเธอรู้ดีว่าการหนีจาก ลินลี่ ไม่ใช่เรื่องง่าย... ไม่สิ มันเป็นไปไม่ได้เลย เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับคนอย่างเธอ นี่คือเมืองที่ลินลี่ครอบครองทุกสิ่งหญิงผู้มีอิทธิพล ผู้ทรงพลังยิ่งกว่ากฎหมายและความยุติธรรม ไม่มีมุมใดของเมืองนี้ที่จะหลบพ้นสายตาของเธอได้หัวใจของฮันน่าเต้นแรงในอก ดวงตาจ้องมองเงาตรงประตูหน้าห้องที่ดูเหมือนจะขยับเคลื่อนไหวตามเสียงฝีเท้าในจินตนาการของเธอ ทุกวินาทีราวกับกำลังรอคอยหายนะที่จะมาถึงโดยไม่มีวันเลี่ยงได้เธอไม่ได้หวังปาฏิหาริย์อีกต่อไป... ในเมืองของลินลี่ คนที่หนีไปได้ มีเพียงเงา หรือซากศพตึก... ตึก...ตึกเสียงรองเท้าส้นสูงดังสะท้อนก้องมาตามทางเดินยาวนอกห้อง ทุกก้าวการเดินนั้นราวกับกำลังย้ำเตือนถึงชะตากรรมที่กำลังจะมาถึง ทุกก้าว ยิ่งกระชั้นชิด เสมือนเสียงของนาฬิกาเรือนใหญ่ที่น

    Last Updated : 2025-02-10
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่31.มือนำทาง

    ท้องฟ้ายามค่ำคืนเงียบสงบ มีเพียงเสียงลมพัดแผ่วเบาลอดผ่านหน้าต่างห้องของอาดัม เขายืนถือโทรศัพท์ไว้แนบหู ปลายสายนั้นคือวิน เพื่อนสนิทที่โทรมาจากต่างแดน เพราะหลังจากเหตุการ์ณ์ที่เกาะทองคำวันนั้นวินได้บินกลับไปอย่างกระทันหัน "นายแน่ใจเหรอ...อาดัม?" เสียงของวินชัดเจนผ่านใบหูของอาดัมในขณะที่ทั้งสองได้คุยกันมาได้สักพักแล้วจนมาถึงช่วงสุดท้ายก่อนจะวางสายลง “แน่ใจสิ…”อาดัมตอบกลับด้วยความมั่นใจขณะที่ดวงตาคมกริบของเขาฉายแววความแน่วแน่มั่นคง ถึงแม้เขาจะรู้จักเธอแค่เพียงหนึ่งสัปดาห์ก็ตาม แต่บางอย่างในตัวเธอทำให้เขาตัดสินใจได้โดยไม่ลังเล เมื่อวินได้ยินคำตอบที่ราวกลั่นออกมาจากหัวใจของอาดัมแล้ว เขาก็เอ่ยด้วยด้วยน้ำเสียงแห่งความยินดี “เมื่อนายมั่นใจและเชื่อมั่นแล้ว ฉันก็เชื่อในตัวนายเช่นกันว่านายนั้นทำได้ดี” วินตอบกลับแล้วหันมองดูเวลาบนข้อมือที่ใกล้เข้ากะทำงานไปทุกที“ ไว้คุยกันใหม่ ฉันต้องเข้าทำงานแล้ว ขอพระเจ้าอวยพร นายกับฮันน่า นะ" “ขอบใจมากเพื่อน ..วิน! แล้วเจอกัน ” .. ตุ๊ด.. ตุ๊ด.. ตุ๊ด..………….เมื่อวางสายไปแล้ว อาดัมถอนหายใจออกมาช้าๆ พลางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามราตรี แสงดาวระยิบระยับสะท้อ

    Last Updated : 2025-02-19
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่ 1.โลกที่ไม่ใจดีกับฮันน่า

    ปี 1985 “ฮันน่า..ฮันน่า!”เสียงผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนเรียกชื่อเด็กน้อยดังลอยมาจากในบ้านแต่ฮันน่ายังคงก้มหน้าก้มตาเล่นของเล่นอยู่บนพื้นดินหน้าบ้านอย่างไม่สนใจ ใบหน้าเล็กๆ ของเธอเต็มไปด้วยความสุขและจินตนาการที่ไร้ขอบเขตในโลกส่วนตัวของเธอเองตามประสาเด็กอายุ 4 ปี เดือน ลูกพี่ลูกน้องที่อายุมากกว่าฮันน่าหลายปีปลุกเธอจากความสนุกเล็กๆ น้อยๆ นั้น "ฮันน่า แม่เรียกแล้วนะ" ฮันน่าหันไปมองยังไม่ทันขานรับเสียงใดๆ ทันใด หญิงสาวคนหนึ่งเดินตรงมาด้วยท่าทางมั่นใจอายุราว 20 ปีแต่งตัวด้วยเสื้อตัวใหม่สีสดใส ชายเสื้อถูกเก็บเข้าในกางเกงยีนเอวสูงอย่างเนี้ยบ ริมปากเคลือบลิปสติกสีแดงสดใบหน้าของเธอเรียบเฉยจนแทบจะไร้อารมณ์ ท่าทางของเธอดูเคร่งขรึมและจริงจัง และนั่นก็คือ จูเลีย แม่ของฮันน่า “ไปกันได้แล้วนะ ฮันน่า ไหนชิ้นไหนของลูก เอาไปเล่นที่นู่นด้วยนะ”จูเลีย พูดพลางหยิบของเล่นที่ฮันน่าถืออยู่ในมือเก็บใส่ลงกระเป๋าข้างในนั้นเต็มไปด้วยเสื้อผ้าของลูกสาวที่พับอย่างระมัดระวังแล้ว เธอจูงมือเล็กๆ ของลูกสาวออกไปด้วยสายตาเย็นชา "แต๊ก... แต๊ก... แต๊ก..." เสียงมอไซค์คันเก่า เสียงนั้นดังสนั่นเหมือนเสียงคำรามที่แทรกผ่านความเง

    Last Updated : 2024-12-17

Latest chapter

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่31.มือนำทาง

    ท้องฟ้ายามค่ำคืนเงียบสงบ มีเพียงเสียงลมพัดแผ่วเบาลอดผ่านหน้าต่างห้องของอาดัม เขายืนถือโทรศัพท์ไว้แนบหู ปลายสายนั้นคือวิน เพื่อนสนิทที่โทรมาจากต่างแดน เพราะหลังจากเหตุการ์ณ์ที่เกาะทองคำวันนั้นวินได้บินกลับไปอย่างกระทันหัน "นายแน่ใจเหรอ...อาดัม?" เสียงของวินชัดเจนผ่านใบหูของอาดัมในขณะที่ทั้งสองได้คุยกันมาได้สักพักแล้วจนมาถึงช่วงสุดท้ายก่อนจะวางสายลง “แน่ใจสิ…”อาดัมตอบกลับด้วยความมั่นใจขณะที่ดวงตาคมกริบของเขาฉายแววความแน่วแน่มั่นคง ถึงแม้เขาจะรู้จักเธอแค่เพียงหนึ่งสัปดาห์ก็ตาม แต่บางอย่างในตัวเธอทำให้เขาตัดสินใจได้โดยไม่ลังเล เมื่อวินได้ยินคำตอบที่ราวกลั่นออกมาจากหัวใจของอาดัมแล้ว เขาก็เอ่ยด้วยด้วยน้ำเสียงแห่งความยินดี “เมื่อนายมั่นใจและเชื่อมั่นแล้ว ฉันก็เชื่อในตัวนายเช่นกันว่านายนั้นทำได้ดี” วินตอบกลับแล้วหันมองดูเวลาบนข้อมือที่ใกล้เข้ากะทำงานไปทุกที“ ไว้คุยกันใหม่ ฉันต้องเข้าทำงานแล้ว ขอพระเจ้าอวยพร นายกับฮันน่า นะ" “ขอบใจมากเพื่อน ..วิน! แล้วเจอกัน ” .. ตุ๊ด.. ตุ๊ด.. ตุ๊ด..………….เมื่อวางสายไปแล้ว อาดัมถอนหายใจออกมาช้าๆ พลางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามราตรี แสงดาวระยิบระยับสะท้อ

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่30.แสงแห่งคำอธิษฐาน

    ยามหัวค่ำในห้องพักฟื้น อากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศแผ่ซ่านลึกเข้าไปถึงกระดูก ฮันน่า นอนนิ่งอยู่บนเตียง แม้ร่างกายยังคงเจ็บปวดจากบาดแผลที่ยังไม่หายดี แต่ถึงกระนั้นความเจ็บปวดจากร่างกายนั้นเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่กัดกินเธออยู่ภายในความกลัว ที่เหมือนเงาดำซึ่งคืบคลานเข้ามารัดแน่นจนหายใจแทบไม่ออกเธอรู้ดีว่าการหนีจาก ลินลี่ ไม่ใช่เรื่องง่าย... ไม่สิ มันเป็นไปไม่ได้เลย เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับคนอย่างเธอ นี่คือเมืองที่ลินลี่ครอบครองทุกสิ่งหญิงผู้มีอิทธิพล ผู้ทรงพลังยิ่งกว่ากฎหมายและความยุติธรรม ไม่มีมุมใดของเมืองนี้ที่จะหลบพ้นสายตาของเธอได้หัวใจของฮันน่าเต้นแรงในอก ดวงตาจ้องมองเงาตรงประตูหน้าห้องที่ดูเหมือนจะขยับเคลื่อนไหวตามเสียงฝีเท้าในจินตนาการของเธอ ทุกวินาทีราวกับกำลังรอคอยหายนะที่จะมาถึงโดยไม่มีวันเลี่ยงได้เธอไม่ได้หวังปาฏิหาริย์อีกต่อไป... ในเมืองของลินลี่ คนที่หนีไปได้ มีเพียงเงา หรือซากศพตึก... ตึก...ตึกเสียงรองเท้าส้นสูงดังสะท้อนก้องมาตามทางเดินยาวนอกห้อง ทุกก้าวการเดินนั้นราวกับกำลังย้ำเตือนถึงชะตากรรมที่กำลังจะมาถึง ทุกก้าว ยิ่งกระชั้นชิด เสมือนเสียงของนาฬิกาเรือนใหญ่ที่น

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่29..เคียงข้าง...แม้วันอ่อนแอ

    ภายในห้องพักฟื้นของโรงพยาบาล บรรยากาศเงียบงัน แสงไฟนวลตาส่องกระทบผนังสีขาวสะอาดตา ทว่ากลับให้ความรู้สึกโดดเดี่ยว อากาศอบอวลด้วยกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเจือจาง เตียงคนไข้ถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ ม่านสีขาวกั้นเป็นสัดส่วน อาดัมก้าวเข้ามาอย่างช้าๆสายตาของเขามองไปยังหญิงสาวที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง ผ้าพันแผลสีขาวพันรอบศีรษะของเธอ และขาของเธอถูกดามไว้อย่างแน่นหนา ร่องรอยบาดแผลและรอยฟกช้ำปรากฏให้เห็นบนผิวกายซีดเซียว ร่างกายของเธอดูเปราะบางราวกับอาจแตกสลายได้ทุกเมื่อ เสียงลมหายใจแผ่วเบาของเธอยืนยันว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็เป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด อาดัมรู้สึกเหมือนมีก้อนหินหนักๆ กดทับอยู่ในอก ราวกับแบกรับความรู้สึกผิดที่มองไม่เห็น เขายืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วถอนหายใจเบาๆ สายตาไล่มองไปตามร่างของเธอ พลางครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องเจ็บหนักขนาดนี้ เขารู้ว่าเธอรอดมาได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะผ่านมันไปได้โดยง่าย เสียงฝีเท้าของเขาเบาลงขณะก้าวถอยหลัง สุดท้ายอาดัมเลือกจะหมุนตัวเดินออกจากห้องแม้ความกังวลยังคงฝังแน่นอยู่ในใจ... เขาตรงกลับมาบ้านที่อบอุ่นเสียงฝีเท้าดังก้องทั่วห้องโถ่งทางเด

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่28.เงาแห่งโชคชะตา

    กลางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ เรือสปีดโบ๊ทแล่นตัดผ่านเกลียวคลื่นอย่างรวดเร็ว เสียงเครื่องยนต์คำรามกลบความเงียบของท้องฟ้ายามเย็นที่กำลังมืดลง อาดัมนั่งเงียบอยู่ข้างฮันน่า ดวงตาของเขามองไปยังใบหน้าของฮันน่าที่เปื้อนไปด้วยเลือด เธอดูอ่อนล้าและไร้เรี่ยวแรงและในแววตาของเธอนั้นช่างเต็มไปด้วยความเจ็บปวด“คุณ…เข้มแข็งไว้นะ” อาดัมเอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่แฝงด้วยความห่วงใยลึกซึ้ง ขณะที่นันย์ตาเขามองเธอราวกับต้องการส่งกำลังใจทั้งหมดที่เขามีให้กับเธอ ปลายนิ้วของเขาแตะลงบนแขนของเธอเบา ๆ สัมผัสแผ่วเบาที่ไม่ได้ต้องการอะไร นอกจากให้เธอรู้ว่าเธอไม่ได้เผชิญกับสิ่งนี้เพียงลำพัง ฮันน่ามองอาดัม ก่อนพยักหน้าแม้ไม่มีคำพูดใดออกมา แต่แววตาของเธอนั้นรับรู้ถึงความห่วงใยของเขา และเธอจะพยายามอดทน ให้ถึ่งฝั่งเรือสปีดโบ๊ทเข้าใกล้ฝั่งมากขึ้น ทุกวินาทีเต็มไปด้วยความเร่งด่วน ไฟสีแดงของรถพยาบาลที่จอดรออยู่ที่ท่าเรือสะท้อนบนผิวน้ำ ราวกับประกาศความสำคัญของชีวิตที่กำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายทันทีที่เรือจอดเทียบที่ท่า คนขับเรือและเจ้าหน้าที่รีบเข้ามาช่วยอาดัมพยุงฮันน่าขึ้นไปยังรถพยาบาล เสียงไซเรนดังก้องเมื่อรถพุ่งออกจากท่าเรือ

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่27.อุบัติเหตุไม่คาดฝันพลิกชีวิต

    ท้องฟ้าเริ่มแปรเปลี่ยนจากใสป็นสีดำครึ้มคลุมเคลือ บรรยากาศในหุบเขาข้างทะเลช่างเงียบสงบดูเหมือนทุกสิ่งหยุดนิ่งแต่มีเพียงเสียงเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ของฮันน่าที่ดังก้องสะท้อนในความว่างเปล่า เธอบิดเร่งความเร็วขึ้นทางลาดชัน เสียงลมหายใจถี่กระชั้นของเธอผสมผสานกับเสียงไซเรนรถสายตรวจที่ดังแว่วมาไกลๆ ทุกเสียงเหมือนเหล็กปลายแหลมทิ่มแทงหัวใจ สร้างความกดดันให้เธอจนแทบระเบิด ความหวาดระแวงไหลเวียนในสายเลือดอย่างไม่มีสิ้นสุดจนมาถึงริมผาสูง เบื้องหน้าคือมหาสมุทรที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ฮันน่าจอดมอเตอร์ไซค์และทอดสายตามองลงไปยังน้ำทะเลที่นิ่งเงียบ และไร้ขอบเขต ในขณะที่หัวใจเธอกลับเต็มไปด้วยความวุ่นวายราวพายุหมุน เสียงข้อความ "ติ้ง ติ้ง" ดังจากโทรศัพท์มือถือในมือ เป็นข้อความจากลินลี่ที่เหมือนเสียงเรียกครั้งสุดท้ายดึงเธอกลับมาสู่ความจริง“พอกันที ลินลี่” เธอเอ่ยเสียงเบา แต่เต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว พลางมือขว้างโทรศัพท์ในมือออกไปสุดแรง มันพุ่งผ่านอากาศแล้วหายลับลงสู่ทะเลลึก ราวกับตัดสายใยสุดท้ายที่ผูกเธอไว้กับชีวิตเดิมดวงตาเลื่อนไปที่กระเป๋าสัมภาระข้างตัวด้วยแววตาแน่วแน่ ก่อนจะคว้ามันขึ้นและโยนมันลงไปตามโทรศ

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่26.การผจญภัยบนเกาะทองคำ

    เรือเฟอร์รี่เคลื่อนเทียบเข้าฝั่งอย่างช้าๆ เสียงคลื่นกระทบกับท่าเรือดังราวจังหวะกลอง สอดประสานกับเสียงนกนางนวลร้องที่ลอยตัวอยู่เหนือชายฝั่ง อาดัมและวินก้าวลงจากเรือด้วยใบหน้าที่เริงร่า วิญญาณและร่างสัมผัสได้ถึงพลังแห่งธรรมชาติของเกาะทองคำ ทันทีที่เท้าลงบนผืนดิน กลิ่นลมทะเลสดชื่นอบอวลอยู่ในอากาศ พัดพาเอาความสบายใจมาสู่พวกเขา แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องกระทบกับผิวน้ำทะเลเป็นประกายระยิบระยับ เกาะแห่งนี้ดูเหมือนจะโอบรับพวกเขาด้วยความอบอุ่นอาดัมยืดตัวขึ้น สูดลมหายใจลึก รู้สึกถึงความบริสุทธิ์ของอากาศบนเกาะที่ราวดั่งสวรรค์แห่งนี้ เขาหันมาทางวินด้วยใบหน้าตื่นเต้นแล้วเอ่ยขึ้นว่า“เราเช่ารถมอไซค์กันวิน มีร้านเช่าตรงที่หน้าท่าเรือ จะได้ขับรถชมรอบๆเกาะ”เสียงพูดของอาดัมฟังดูสดใสและเต็มไปด้วยพลัง วินพยักหน้าด้วยรอยยิ้มกว้าง แล้ว ทั้งคู่มุ่งหน้าไปยังร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ ใกล้ๆ ท่าเรือที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่กำลังหารถเช่าหรือมองหาไกด์นำเที่ยวหลังจากจัดการเรื่องการเช่ามอเตอร์ไซค์เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองขี่มันออกไปบนถนนเล็กๆ ที่ตัดผ่านชายฝั่ง น้ำทะเลสีฟ้าใสสะท้อนอยู่ที่ปลายสายตา สายลมพัดผ่านใบหน้าขอ

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่25.การเช็กอินที่ตึงเครียด

    บรรยากาศที่เปิดโล่งของล็อบบี้รีสอร์ตกลางสวนปาล์ม สียงคลื่นกระทบฝั่งดังแว่วมาไกลๆราวกับคำทักทายของมหาสมุทร เสียงลมพัดผ่านกิ่งใบของต้นไม้เกิดเป็นเสียงกระซิบที่แผ่วเบา คล้ายดนตรีธรรมชาติที่บรรเลงประสานกันอย่างลงตัว แสงแดดอุ่นยามสายลอดผ่านเพดานกระจกใสด้านบน สาดส่องลงมา ทอดเงาเป็นลวดลายอ่อนช้อยบนพื้นหินขัดสีเทาที่เปี่ยมด้วยความประณีตเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลถูกจัดวางไว้อย่างมีสไตล์และลงตัว ที่สะท้อนถึงความกลมกลืนระหว่างธรรมชาติและความทันสมัย เสียงรองเท้าของฮันน่ากระทบพื้นเบาๆ ในจังหวะที่มั่นคง ตรงไปยังที่เคาน์เตอร์รับรองกลางล็อบบี้ พนักงานสาวสวมเสื้อสูทสีขาวสะอาดทับเสื้อเชิ้ตเนื้อเบาสีฟ้าอ่อน ใบหน้าผ่องใสถูกแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มต้อนรับอย่างอ่อนน้อม เธอยืนสง่างามหลังเคาน์เตอร์ไม้เรียบหรู มือวางพร้อมบริการฮันน่าหยุดอยู่ด้านหน้าเค้าน์เตอร์ สูดลมหายใจลึกเพื่อรวบรวมสมาธิ ขณะที่หัวใจเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจแต่ยังแฝงด้วยความตื่นเต้น“สวัสดีค่ะ ฉันฮันน่าเข้าเช็กอินค่ะ”“สักครู่นะคะ” เสียงของเธอราวกับสายลมเย็นที่พัดผ่านกลางฤดูร้อน ก่อนหยิบเอกสารเช็กอินมาตรวจสอบอย่างต

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่24.กับดักบนเกาะทองคำ

    ใกล้เกาะทองคำ บรรยากาศเหนือผืนน้ำสงบแต่แฝงไปด้วยความตึงเครียด บนเรือสายตรวจ เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติหน้าที่อย่างเงียบงัน เสียงคลื่นกระทบตัวเรือดังก้องเป็นจังหวะสม่ำเสมอ แต่ในหัวของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลและข้อสงสัยเรือสปีทโบ๊ตต้องสงสัยที่ได้รับรายงานถูกตรวจค้นอย่างละเอียด ทุกช่องเก็บของ และมุมเล็กมุมน้อยถูกเปิดออกเพื่อตรวจสอบ เอกสารทุกแผ่นถูกอ่านอย่างถี่ถ้วน แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือความว่างเปล่าไม่มีสิ่งของผิดกฎหมายหรืออะไรที่ชวนให้คิดว่าเรือลำนี้เกี่ยวข้องกับการลักลอบเลยแม้แต่น้อยเสียงถอนหายใจดังขึ้นเบา ๆ ท่ามกลางความผิดหวัง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งหันไปหาหัวหน้าทีม “ข้อมูลผิดพลาด…ครับหัวหน้า” เขาพูดขึ้นอย่างไม่แน่ใจด้วยน้ำเสียงที่สับสนและความรู้สึกสิ้นหวังหัวหน้าทีมยืนนิ่งอยู่ตรงสะพานเรือ ดวงตาของเขามองไกลออกไปยังผืนทะเลที่ทอดยาวสุดสายตา ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ภายในเขากำลังประมวลผลข้อมูล “ไม่ใช่ความผิดพลาด…” เขาเอ่ยในที่สุด น้ำเสียงหนักแน่นของเขาทำให้ทุกคนหยุดนิ่งและหันมาฟังอย่างตั้งใจ “พวกเขาเปลี่ยนแผนแล้ว เราถูกเบี่ยงเบนความสนใจ”คำพูดนั้นทำให้ทั้งทีมตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนเริ่มตระหนักว่าภ

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่23.รอยต่อแห่งท้องทะเล

    บรรยากาศในบ้านอาดัมเริ่มเงียบสงบลง หลังจากเสียงหัวเราะและความสนุกสนานของปาร์ตี้วันขอบคุณพระเจ้าค่อยๆ จางหายไป กลิ่นหอมอ่อนๆ ของอาหารที่ยังหลงเหลือในอากาศผสมกับความอบอุ่นจากแสงไฟในบ้าน เพื่อนๆ หลายคนทยอยกันกลับ บางคนช่วยคุณแม่ของอาดัมเก็บจานชาม บางคนกวาดบ้านพร้อมพูดคุยเรื่องราวในค่ำคืนที่เพิ่งผ่านไปวิน เพื่อนสนิทของอาดัม เดินเข้ามาพร้อมหยิบเสื้อคลุมที่วางพาดเก้าอี้ขึ้นมา ก่อนจะหันไปพูดกับอาดัมด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่แฝงด้วยความคาดหวัง"อาดัม พรุ่งนี้นายว่างไหม? เราข้ามเกาะไปเที่ยวที่เกาะทองกันสักคืนดีไหม? ฉันอยากรำลึกถึงวันเก่าๆ เพราะเดี๋ยวอีกสองสามวันฉันต้องกลับแล้ว"อาดัมที่กำลังเก็บกีตาร์ใส่กระเป๋าหยุดมือชั่วครู่ เขาเงยหน้าขึ้นมองวินด้วยรอยยิ้มกว้าง แววตาฉายชัดถึงความยินดีที่เพื่อนสนิทเอ่ยปากชวน"ได้สิเพื่อน วิน ฉันว่างอยู่ งั้นเราขึ้นเรือรอบแรกกันเลยไหม? รอบ 8 โมงเช้า เจอกันที่ท่าเรือ"วินหัวเราะเบาๆ ขณะสวมเสื้อคลุม "ตกลง งั้นเจอกันพรุ่งนี้!" เขายื่นมือไปหาอาดัม ทั้งสองยกมือประกบกันอย่างแน่นหนา ก่อนที่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มของพวกเขาจะเติมเต็มห้องที่เงียบสงบ"งั้นฉันไปก่อนนะ พรุ่งนี้

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status