แชร์

บทที่10.มิตรภาพและความลับ

ผู้เขียน: Luna of The Sea
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-20 06:59:24

ฮันน่าใช้ชีวิตในเมืองที่ไม่คุ้นเคยด้วยความเหงาและโดดเดี่ยว แต่โชคดีที่เธอมีแจนเป็นเพื่อนสนิทในโรงงาน ความไว้ใจจึงเริ่มขึ้นทีละเล็กละน้อยจากการพูดคุยและการใช้เวลาอยู่ด้วยกัน

“ฮันน่า คืนนี้ไปกับฉันได้ไหม? มีหนุ่มนัดเจอที่ร้านอาหาร ไม่ไกลจากที่นี่หรอก เขาบอกว่าอยากเจอเธอด้วย” แจนพูดพร้อมส่งสายตาอ้อนวอน ในห้องน้ำหญิงที่ทั้งสองแอบมาพักเบรกช่วงบ่าย ฮันน่ามองแจนด้วยความลังเล เธอไม่ค่อยชอบพบปะคนแปลกหน้า แต่ก็ไม่อยากทำให้แจนผิดหวัง

“แล้ว...เขาเป็นใครเหรอ?” ฮันน่าถามน้ำเสียงเรียบ แจนยิ้มทันทีราวกับรู้ว่าฮันน่าจะตอบตกลงในที่สุด

“แค่ไปสนุกๆ เองน่า ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำให้เธออึดอัด” แจนกล่าวด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น ฮันน่าพยักหน้าเบาๆ แม้ใจจะยังครุ่นคิด แต่เธอก็รู้สึกว่าแจนเป็นคนเดียวที่ทำให้ชีวิตในเมืองใหญ่นี้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

คืนนั้นอาจเป็นอีกครั้งที่ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอแน่นแฟ้นขึ้น หรืออาจนำไปสู่เรื่องราวใหม่ที่ฮันน่าเองก็ไม่คาดคิด...

หลังจากเลิกงาน ฮันน่าและแจนรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกเดินทางไปยังจุดหมายที่อยู่ห่างออกไปโดยรถแท็กซี่

บาร์แห่งนี้ตั้งอยู่ในซอยเปลี่ยวลึกฮันน่าเดินตามแจนเข้าไปในร้านอย่างลังเล สายตาของเธอกวาดมองรอบๆ ด้วยความไม่มั่นใจ ร้านอาหารแห่งนี้ดูเหมือนจะมีบางสิ่งที่ไม่ชวนให้อุ่นใจนัก ผนังไม้เก่ามีคราบความชื้นให้เห็นเป็นจุดๆ โต๊ะและเก้าอี้ถูกจัดวางอย่างกระจัดกระจาย บางโต๊ะมีลูกค้านั่งอยู่ประปราย แต่ทุกคนดูเหมือนจะมีเรื่องราวของตัวเอง ไม่มีใครสนใจใคร

แจนเดินนำไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ สายตาของเธอเต็มไปด้วยความคุ้นเคย รอยยิ้มที่ส่งให้พนักงานเป็นมิตรและสบายๆ ทำให้ฮันน่าอดสงสัยไม่ได้ว่าแจนมาอยู่ในที่แบบนี้บ่อยแค่ไหน พนักงานหญิงที่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์หรี่ตามองแจนก่อนจะยิ้มตอบและพยักหน้าอย่างรู้กัน

“มาเลยฮันน่า ตรงนี้ไง” แจนเรียกพร้อมกับชี้ไปยังโต๊ะที่มุมร้าน โต๊ะนั้นตั้งอยู่ใกล้หน้าต่างเล็กๆ ซึ่งมองออกไปเห็นเพียงกำแพงอิฐด้านหลังอาคารอีกหลัง ฮันน่าลังเลเล็กน้อยก่อนจะเดินตามไปนั่งตรงข้ามกับแจน

บรรยากาศภายในร้านดูมืดสลัวจนต้องเพ่งมองเพื่อให้เห็นสิ่งรอบตัวได้ชัดเจน กลิ่นบุหรี่ที่คละคลุ้งผสมกับกลิ่นอาหารที่โชยออกมาจากครัวทำให้ฮันน่ารู้สึกมึนหัวเล็กน้อย เธอพยายามฝืนยิ้ม ขณะที่แจนกำลังดูเมนูอย่างสนุกสนาน

“แจน...เธอแน่ใจนะว่าที่นี่ปลอดภัย?” ฮันน่ากระซิบถามเบาๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ แจนหัวเราะ ก่อนจะตอบ “ปลอดภัยสิ ไม่ต้องห่วงน่า คนที่นี่รู้จักฉันดี”คำพูดของแจนฟังดูมั่นใจ แต่ไม่ได้ช่วยปลอบประโลมฮันน่าได้เลย เธอกวาดสายตามองรอบๆ อีกครั้ง เห็นใบหน้าของคนแปลกหน้าที่เธอไม่เคยเจอมาก่อน และความไม่สบายใจในใจก็ยิ่งเพิ่มขึ้น

.......

สักพัก แจนลุกขึ้นจากโต๊ะ “เดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ รอฉันอยู่ตรงนี้ ห้ามไปไหนล่ะ” แจนพูดพร้อมกับยิ้มบางๆ

ฮันน่าพยักหน้า แม้ใจหนึ่งอยากจะออกจากที่นี่ แต่คำพูดย้ำของแจนทำให้เธอนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม เวลาผ่านไปทีละนาที ฮันน่ามองไปรอบร้านด้วยความกังวล  เธอพยายามมองหานาฬิกา แต่พบว่าทุกอย่างรอบตัวดูเหมือนจะเดินช้าลงอย่างน่าประหลาด เธอรู้สึกเหมือนถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวในสถานที่ที่เธอไม่ควรอยู่...

 ใจหนึ่งเธอพยายามหาเหตุผลให้แจน บางทีแจนอาจมีเรื่องด่วนหรือกำลังจัดการอะไรบางอย่างอยู่ แต่เมื่อผ่านไปนานเข้า ความสงสัยเริ่มกลายเป็นความกระวนกระวาย

ฮันน่านั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะ ใจคอไม่ดีเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ แต่แจนยังไม่กลับมา บรรยากาศรอบตัวดูเหมือนจะยิ่งอึดอัดขึ้นไปอีก เสียงพูดคุยของผู้คนในร้านเริ่มเบาลง ราวกับทุกสายตาจับจ้องมาที่เธอ แม้ว่าเธอพยายามบอกตัวเองว่าเป็นเพียงจินตนาการเท่านั้น

แก้วเครื่องดื่มตรงหน้าเหลืออยู่เพียงหยดเล็กๆ ฮันน่าจิบมันไปหนึ่งครั้งก่อนจะวางลง กลิ่นและรสชาติของแอลกอฮอล์ยังคงติดปลายลิ้น เธอไม่ใช่คนดื่มเลยไม่คุ้นเคยกับรสขมที่กัดลึกนี้ และมันทำให้เธอยิ่งรู้สึกเหมือนอยู่ผิดที่ผิดทาง

ไม่นานหลังจากนั้น เสียงกระดิ่งที่ประตูร้านดังขึ้น พร้อมกับชายคนหนึ่งที่ผลักประตูเข้ามา ใบหน้าของเขาทำให้ฮันน่าหยุดชะงัก ราวกับเธอเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อน แต่ไม่สามารถจำได้ชัดเจน เขาสวมชุดลำลองที่ดูเรียบง่ายหันมามองโต๊ะของเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะก้าวตรงมาที่โต๊ะนั้น ฮันน่าเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ หัวใจเต้นแรงขึ้นเมื่อเขาเข้ามาใกล้ จนกระทั่งเธอจำได้ว่าเขาคือหนึ่งในผู้จัดการของโรงงานที่เธอทำงานอยู่

“ฮันน่า?” เสียงของเขาฟังดูนิ่งเรียบ แต่ในแววตากลับมีความสงสัยปะปนอยู่ เขายืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะของเธอ สายตาจับจ้องมาที่เธอโดยตรง ฮันน่าพยักหน้าช้าๆ

“ค่ะ… คุณจอนห์” เธอพูดชื่อของเขาออกมาเบาๆ และพยายามบังคับตัวเองให้ยิ้ม แม้ว่าในใจจะรู้สึกอึดอัดก็ตาม

จอนห์มองไปรอบๆ ร้านด้วยสายตาเหมือนกำลังประเมินสถานการณ์ ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้นั่งลงที่โต๊ะเดียวกันโดยไม่ขออนุญาต ฮันน่าไม่กล้าปฏิเสธ แต่การนั่งอยู่ตรงข้ามเขาทำให้เธอยิ่งรู้สึกกดดัน

“ไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่” จอนห์พูด น้ำเสียงของเขาไม่แสดงความรู้สึกชัดเจน เธอเพียงพยักหน้าตอบเบาๆ

“ฉัน… มากับแจนค่ะ” เธอตอบเสียงเบา

จอนห์พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะถามต่อ “แล้วแจนไปไหนล่ะ?”

คำถามนั้นทำให้ฮันน่าสะอึก เธอเหลือบมองไปทางห้องน้ำและตอบแบบตะกุกตะกัก “เธอ…ไปเข้าห้องน้ำค่ะ”

จอนห์นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้น “ที่นี่ดูไม่น่าไว้ใจ คุณรู้ไหม?” น้ำเสียงของเขาเหมือนจะตักเตือน

ฮันน่ารู้สึกเหมือนถูกจับผิด แม้จอนห์จะไม่ได้พูดอะไรที่รุนแรง แต่การที่เขามานั่งตรงหน้าและตั้งคำถามเช่นนี้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกจับตามอง

“ฉันไม่รู้ค่ะ ฉันมาเพราะแจนชวน” เธอพยายามอธิบาย แต่จอนห์ยังคงมองเธอด้วยสายตาที่ทำให้เธอไม่สบายใจ

บรรยากาศที่อึดอัดในร้านดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป และเมื่อแจนยังไม่กลับมา ฮันน่าเริ่มสงสัยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ…

Luna of The Sea

ถัาอ่านแล้วชอบฝากกดติดตาม เพิ่มลงคลังด้วยนะคะ เพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์ค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ

| ชอบ

บทที่เกี่ยวข้อง

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่11.หนีจากความกลัว

    “อยากกินอะไร สั่งเพิ่มได้เลยนะ เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง” จอนห์พูดขึ้น พร้อมรอยยิ้ม ที่ดูเหมือนจะเป็นมิตรราวกลับว่าเขาเป็นเจ้ามือใหญ่ของเย็นนี้ แต่กลับทำให้ฮันน่ารู้สึกอึดอัดเธอไม่แน่ใจว่าคำพูดนั้นเป็นเพียงความหวังดี หรือเป็นการแฝงนัยบางอย่างแต่แล้วสถาณการณ์ยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิมเมื่อจอนห์ลุกจากเก้าอี้และข้ามฝั่งมานั่งข้างเธอ ฮันน่ารู้สึกถึงแรงกดดันเพิ่มขึ้นเมื่อเขาเลื่อนมือออกมาพยายามล่วงเกินเธอจนเกินขอบเขตที่เธอรู้สึกสบายใจ จนฮันน่าต้องลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที “ฮันน่า..กลับก่อนดีกว่าค่ะ”“อยู่ต่ออีกหน่อยสิครับ”แต่แล้วเขาเอื้อมมือเข้ามาใกล้เธออีกครั้ง จนทำให้ความอดทนของฮันน่าหมดลงในทันทีเธอยกมือขึ้นเพี๊ยะ! เสียงฝ่ามือที่กระทบแก้มดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ฮันน่าหายใจแรงด้วยความโกรธที่ก่อตัวขึ้นจากการกระทำที่ไม่เหมาะสมจอนห์ชะงักไปทันที ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ เขายกมือขึ้นแตะแก้มที่แดงเป็นรอยอย่างไม่เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น เสียงในร้านที่เคยจอแจพลันเงียบกริบ ทุกสายตาในร้านต่างหันมามองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความสงสัยและตกตะลึงฮันน่ายืนตัวตรง แม้ร่างกายจะสั่นเล็กน้อย แต่ใบหน้าเธอฉายแววกร้าวและแน่วแน่ น้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-23
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่12.ความเปลี่ยนแปลงและจดหมาย

    หลังจากคืนนั้น ทุกสิ่งรอบตัวของฮันน่าดูเหมือนจะเปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าเดิม ความสัมพันธ์ที่เคยเรียบง่ายและอบอุ่นกับแจน เพื่อนร่วมงานที่เคยเป็นเหมือนจุดพักใจเล็กๆ ท่ามกลางวันที่วุ่นวายบัดนี้กลับกลายเป็นคนเงียบงันและหลีกเลี่ยงสายตาสิ่งที่รุนแรงกว่าความเฉยชาจากแจนคือสายตาจากเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ที่ไม่เหมือนเดิม พวกเขามองเธอราวกับเธอเป็นคนนอก หรือแปลกหน้าที่ไม่ควรอยู่ตรงนั้น ทุกครั้งที่เธอเดินผ่าน เสียงซุบซิบดังขึ้นตามหลังเธอ แม้จะฟังไม่ถนัด แต่เธอสัมผัสได้ว่ามันเกี่ยวกับตัวเธอเธอรู้สึกเหมือนถูกกลืนหายไปในฝูงชนที่มองมาด้วยสายตาเย็นชา เหมือนทุกคนรอบตัวไม่ต้องการให้เธออยู่ที่นั่น ความเงียบรอบข้างที่ขัดแย้งกับเสียงซุบซิบที่แผ่วเบา กลายเป็นเสียงก้องในหัวใจของเธอ"มันเกิดอะไรขึ้น..?"คำถามนั้นวนเวียนอยู่ในหัว เธอพยายามปะติดปะต่อเหตุการณ์ที่นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงนี้ แต่ทุกอย่างกลับพร่าเลือนราวหมอกปกคลุม สภาพแวดล้อมที่เคยคุ้นเคย กลายเป็นพื้นที่แปลกหน้า เสียงหัวเราะที่เคยได้ยินบ่อยครั้ง ตอนนี้กลับฟังเหมือนเสียงหัวเราะเยาะความจริงที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้คือ เธอเป็นเพียงเด็กสาวที่ใสซื่อจากต่างจังหว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-23
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่13.การกลับมาครั้งสุดท้าย

    ฮันน่าก้าวลงจากรถทัวร์พร้อมกระเป๋าใบเดิม สายลมจากท้องทุ่งนาที่โอบล้อมด้วยภูเขาอันคุ้นตาพัดผ่านใบหน้า ราวกับต้อนรับการกลับมาของเธอ แต่ความรู้สึกในใจกลับแตกต่าง เธอเร่งรีบเดินตามถนนเส้นเล็กที่ทอดยาวไปยังบ้านไม้หลังเก่าที่เคยอาศัย หวังเพียงจะได้เห็นหน้าปู่เป็นครั้งสุดท้าย แต่เมื่อมาถึง เสียงพระสวดเบา ๆ จากในบ้านกลับทำให้เธอรู้ว่า เธอมาช้าเกินไปในบ้านที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความอาลัย ฮันน่าก้าวเข้ามาท่ามกลางญาติพี่น้องที่นั่งกันเงียบ ๆ ทุกคนมองมาที่เธอด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความเสียใจและเห็นอกเห็นใจ แต่ในใจของเธอ ทุกอย่างกลับเต็มไปด้วยความว่างเปล่าเท้าของเธอเหมือนถูกโซ่ล่ามไว้ แต่สุดท้าย ฮันน่าก็พาตัวเองเดินไปจนถึงหน้าโลงศพ ภาพถ่ายของปู่ในกรอบไม้เรียบง่ายตั้งตระหง่านอยู่ด้านบน รอยยิ้มในภาพนั้นเป็นสิ่งเดียวที่ยังคงปลอบโยนเธอในวินาทีนี้ ฮันน่าค่อย ๆ ก้มลงพนมมือ น้ำตาที่กลั้นไว้ตลอดทางไหลรินลงอาบแก้มอย่างไม่อาจห้ามได้เธอพึมพำแผ่วเบาราวกับปู่จะได้ยิน "หนูกลับมาแล้วนะปู่ ขอให้ปู่หลับให้สบาย ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรอีกแล้ว" เสียงของเธอสั่นเครือ แต่เปี่ยมไปด้วยความอาลัยในพระคุณของปู่ที่ได้เลี้ยงเธ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่14.ชีวิตตามฝัน

    10 ปีผ่านไป ณ เมืองที่ไม่เคยหลับใหล ซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีและความคึกคัก ท้องฟ้ายามเย็นเปลี่ยนเป็นสีส้มอมแดง ทาบทับผืนน้ำทะเลสะท้อนเงาแสงสุดท้ายของวัน อาดัม หนุ่มหล่อมาดเซอร์ ดวงตาคมเข้มเหมือนมีเรื่องราวสะท้อนอยู่ในนั้น สะพายกีตาร์ตัวเก่งไว้บนหลัง พร้อมจักรยานคันโปรดที่เขาใช้เดินทางอย่างเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยเสรีภาพเสียงล้อจักรยานบดไปบนถนนเลียบชายหาดคลอด้วยเสียงคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งอย่างแผ่วเบา กลิ่นน้ำทะเลและสายลมเย็นสดชื่นพัดผ่านผิวหน้า ปลุกทุกความรู้สึกให้ตื่นตัว เขาไม่รีบร้อน แต่ปล่อยให้ทุกวินาทีของการเดินทางซึมซับความสวยงามของธรรมชาติรอบตัวอาดัมจอดจักรยานคู่ใจริมชายหาดอีกครั้งเมื่อเขาหันมอง แสงอาทิตย์ที่กำลังลาลับขอบฟ้าทอแสงสีทองสะท้อนบนผิวน้ำทะเลเป็นภาพที่สวยงามเกินบรรยายชวนให้เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ถ่ายภาพช่วงเวลานี้ไว้แล้วโพสต์ลงโซเชียลมีเดียที่มีผู้ติดตามจำนวนหนึ่งที่รอคอยความเคลื่อนไหวของชายหนุ่มเจ้าเสน่ห์คนนี้ พร้อมคำบรรยายที่สะท้อนความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกที่อยากให้ทุกคนได้สัมผัส“บางครั้งชีวิตก็เหมือนแสงอาทิตย์ยามเย็น อาจดูเหมือนสิ้นสุด แต่ก็ยังคงทิ้งความงดงามไว้ให้เราได

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่15.เดินทางสู่ทะเล

    แต่ในอีกโลกหนึ่ง ของสาวผู้โดดเดี่ยว เธอยืนนิ่งบนระเบียงของคอนโดสูงที่มองเห็นเมืองทั้งเมืองจากมุมมองอันกว้างใหญ่ ชุดนอนสีขาวที่เธอสวมดูเรียบง่าย ท่ามกลางแสงจันทร์ที่ตกกระทบบนผิวผมยาวสลวยของเธอ ราวกับตัวเธอกลมกลืนไปกับความสงบของราตรีสายตาของเธอทอดลงไปยังพื้นเบื้องล่าง ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาจากไฟถนนและแสงสะท้อนจากหน้าต่างนับไม่ถ้วนของอาคารใกล้เคียง แม้ความเคลื่อนไหวของเมืองจะเต็มไปด้วยพลัง แต่ดูเหมือนว่าไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนภวังค์ในจิตใจของเธอได้แก้ววิสกี้ในมือของฮันน่าสั่นไหวขณะที่เธอเงยหน้าขึ้นดื่มมันจนหมดในอึกเดียว รสขมของแอลกอฮอล์ไหลลงสู่ลำคอ แต่กลับไม่สามารถลบล้างความเจ็บปวดที่ฝังลึกในใจเธอได้ ความทรงจำที่ตามหลอกหลอนมานับสิบปีกัดกินจิตใจของเธอราวกับเปลวไฟที่ไม่มีวันดับเธอยืนหลับตาอยู่อย่างนั้น สายลมแห่งรัตติกาลพัดผ่านใบหน้าของเธอ แต่แล้วความเงียบเหงานั้นก็ถูกทำลายด้วยเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือ เธอสะดุ้งก่อนจะรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดูหน้าจอที่ส่องแสงในความมืดแสดงชื่อหนึ่งขึ้นมาน้ำหนักของชื่อบนหน้าจอนั้นทำให้เธอหยุดนิ่ง ราวกับเวลาถูกแช่แข็งในช่วงวินาทีที่ยาวนาน เธอจ้องมองชื่อน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่16.."เสียงกระซิบกลางแสงจันทร์"

    ฮันน่านั่งอยู่บนเก้าอี้บาร์ ข้อศอกเท้าบนเคาน์เตอร์ไม้เรียบลื่น แก้ววิสกี้ในมือสะท้อนแสงไฟส้มนวลเหนือศีรษะ เปล่งประกายวูบไหวราวกับกำลังเลียนแบบความรู้สึกที่ไม่มั่นคงในใจเธอเอง เธอมองเครื่องดื่มในมือด้วยสายตาที่นิ่งงัน ไร้ซึ่งชีวิตชีวา เหมือนกำลังจ้องลงไปในความว่างเปล่าที่สะท้อนอยู่ในนั้นเสียงพูดคุยจากผู้คนรอบข้างและเสียงเพลงบรรเลงคลอในบาร์ดูเหมือนจะลอยห่างออกไป กลายเป็นแค่เสียงเบื้องหลังที่ไม่มีความหมาย สายลมอ่อนจากเครื่องปรับอากาศพัดเส้นผมของเธอพลิ้วเบา แต่ไม่มีอะไรเลยที่ทำให้เธอรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวในจิตใจแก้วเมรัยในมือยังคงส่งกลิ่นหอมฉุนของแอลกอฮอล์ที่ลอยกรุ่นขึ้นมา กระทบกับลมหายใจลึกที่ปลดปล่อยออกจากอกที่หนักสายตาของฮันน่าจับจ้องไปยังขอบแก้วใสที่มีคราบไอน้ำเกาะเป็นหย่อม คล้ายหัวใจที่มีรอยร้าวรานแต่ยังคงกักเก็บบางสิ่งไว้ข้างใน แม้รสชาติขมจะซัดสาดลงลำคอ มันกลับกลายเป็นเพื่อนปลอบโยนที่เงียบงัน ไม่มีคำพูดใดแต่เข้าใจอย่างลึกซึ้ง …..,“ฮันน่า” เสียงเรียกแผ่วเบาพร้อมมือสะกิดให้เธอหันมามอง ฮันน่าสะดุ้งเล้กน้อยพลางเอ่ยชื่อในลำคอ“ลินลี่” ฮันน่ายิ้มเจื่อนๆทักทายลินลี่ คนรู้จักซึ่งเธอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-26
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่17.การพบเจอ

    สายตามองของฮันน่ามองไปที่ทะเลที่มีแสงรำไรจากดวงจันทร์ส่องบนผืนน้ำหัวใจของเธอจดจ่อรอฟัง เสียงของลินลี่่ “ตอนนี้ลินลี่ยังไม่สะดวกรับสาย รบกวนฝากข้อความไว้ค่ะ” เธอถอนหายใจยาวราวกับว่าคำตอบที่ได้ฟังทำให้เธอได้มีมีเวลาคิดอีกสักนิด เสียงตอบรับอัตโนมัติจากปลายสายทำให้ฮันน่าเกิดความรู้สึกทั้งโล่งใจและวิตกในเวลาเดียวกัน เธอวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะช้าๆ ราวกับว่าการเคลื่อนไหวที่รีบร้อนจะย้ำเตือนความไม่มั่นใจในใจของเธอ สายตาจ้องมองโทรศัพท์นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเธอพึมพำเบาๆ กับตัวเอง“ยังไม่ต้องตัดสินใจตอนนี้...” เวลาที่ได้เพิ่มมานี้เหมือนเป็นทั้งของขวัญและบททดสอบ เธอรู้ดีว่าในไม่ช้าคำตอบจะต้องถูกส่งออกไป แต่การได้รับโอกาสให้ทบทวนอีกครั้งก็ทำให้เธอเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง ……..แสงแรกของวันเริ่มสาดส่องบนขอบฟ้า แม้จะไม่เจิดจ้า แต่ก็เพียงพอที่จะเผยให้เห็นผืนทะเลที่กว้างใหญ่และสงบนิ่ง ฮันน่าก้าวเท้าลงบนทรายละเอียด ความเย็นของเม็ดทรายและสายลมที่พัดผ่านใบหน้าทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้รับการปลอบประโลมเล็กน้อย ร่องรอยของค่ำคืนที่ไม่อาจข่มตาหลับฉายชัดบนใบหน้าของเธอ ดวงตาที่ล้าจ้องมองไปยังเส้นขอบฟ้า สายน้ำระย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-27
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่18.แสงสีแห่งความลับ

    ในห้องน้ำเล็กๆของโรงแรม แสงสีส้มอมทองส่องลงมาจากไฟบนเพดาน เสียงจากปลายสายดังลอดออกมาจากลำโพงมือถือที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ข้างอ่างล้างหน้า คำพูดที่เต็มไปด้วยแรงกดดันและความเร่งเร้าเหมือนบีบคั้นฮันน่าในทุกลมหายใจ"ฮันน่า ตกลงเธอจะเคลียร์เงินวันไหน ขอความชัดเจนหน่อยได้ไหม ไม่ใช่ให้รอไปวันๆ"เสียงนั้นกระแทกหูเธอซ้ำๆ ฮันน่าจับขอบอ่างล้างหน้าแน่นจนข้อนิ้วเปลี่ยนสี ความเงียบที่แทรกระหว่างคำพูดนั้นเหมือนกับจะกดดันเธอยิ่งกว่าเสียงตะคอก"ฮันน่า ...ฮันน่า"เสียงปลายสายยังคงเรียกชื่อเธอ ทว่าฮันน่าไม่ได้ตอบอะไรกลับ เธอก้มหน้ามองมือที่สั่นเล็กน้อยก่อนจะปล่อยให้สายนั้นตัดไป เสียง "ตี๊ด ตี๊ด ตี้ด" แทรกผ่านเข้ามาในความเงียบ เธอเงยหน้าขึ้นมองตัวเองในกระจก สบสายตากับเงาสะท้อนที่ดูอ่อนล้าและเต็มไปด้วยความสับสน"อดทนสิฮันน่า..." เธอบอกตัวเองในใจ ราวกับพยายามยึดเหนี่ยวคำปลอบโยนเล็กๆ เพื่อก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไป เธอหลับตาลง สูดลมหายใจเข้าลึก และถอนหายใจออกมาอย่างช้าๆจากนั้นเธอเอื้อมไปหยิบขวดยาที่วางอยู่ข้างๆ บนเคาน์เตอร์ เปิดฝาและเทมันออกมา เธอจ้องเม็ดกลมๆอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะโยนเข้าปากตามด้วยน้ำที่อยู่ในแก้วพล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-29

บทล่าสุด

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่25.การเช็กอินที่ตึงเครียด

    บรรยากาศที่เปิดโล่งของล็อบบี้รีสอร์ตกลางสวนปาล์ม สียงคลื่นกระทบฝั่งดังแว่วมาไกลๆราวกับคำทักทายของมหาสมุทร เสียงลมพัดผ่านกิ่งใบของต้นไม้เกิดเป็นเสียงกระซิบที่แผ่วเบา คล้ายดนตรีธรรมชาติที่บรรเลงประสานกันอย่างลงตัว แสงแดดอุ่นยามสายลอดผ่านเพดานกระจกใสด้านบน สาดส่องลงมา ทอดเงาเป็นลวดลายอ่อนช้อยบนพื้นหินขัดสีเทาที่เปี่ยมด้วยความประณีตเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลถูกจัดวางไว้อย่างมีสไตล์และลงตัว ที่สะท้อนถึงความกลมกลืนระหว่างธรรมชาติและความทันสมัย เสียงรองเท้าของฮันน่ากระทบพื้นเบาๆ ในจังหวะที่มั่นคง ตรงไปยังที่เคาน์เตอร์รับรองกลางล็อบบี้ พนักงานสาวสวมเสื้อสูทสีขาวสะอาดทับเสื้อเชิ้ตเนื้อเบาสีฟ้าอ่อน ใบหน้าผ่องใสถูกแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มต้อนรับอย่างอ่อนน้อม เธอยืนสง่างามหลังเคาน์เตอร์ไม้เรียบหรู มือวางพร้อมบริการฮันน่าหยุดอยู่ด้านหน้าเค้าน์เตอร์ สูดลมหายใจลึกเพื่อรวบรวมสมาธิ ขณะที่หัวใจเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจแต่ยังแฝงด้วยความตื่นเต้น“สวัสดีค่ะ ฉันฮันน่าเข้าเช็กอินค่ะ”“สักครู่นะคะ” เสียงของเธอราวกับสายลมเย็นที่พัดผ่านกลางฤดูร้อน ก่อนหยิบเอกสารเช็กอินมาตรวจสอบอย่างต

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่24.กับดักบนเกาะทองคำ

    ใกล้เกาะทองคำ บรรยากาศเหนือผืนน้ำสงบแต่แฝงไปด้วยความตึงเครียด บนเรือสายตรวจ เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติหน้าที่อย่างเงียบงัน เสียงคลื่นกระทบตัวเรือดังก้องเป็นจังหวะสม่ำเสมอ แต่ในหัวของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลและข้อสงสัยเรือสปีทโบ๊ตต้องสงสัยที่ได้รับรายงานถูกตรวจค้นอย่างละเอียด ทุกช่องเก็บของ และมุมเล็กมุมน้อยถูกเปิดออกเพื่อตรวจสอบ เอกสารทุกแผ่นถูกอ่านอย่างถี่ถ้วน แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือความว่างเปล่าไม่มีสิ่งของผิดกฎหมายหรืออะไรที่ชวนให้คิดว่าเรือลำนี้เกี่ยวข้องกับการลักลอบเลยแม้แต่น้อยเสียงถอนหายใจดังขึ้นเบา ๆ ท่ามกลางความผิดหวัง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งหันไปหาหัวหน้าทีม “ข้อมูลผิดพลาด…ครับหัวหน้า” เขาพูดขึ้นอย่างไม่แน่ใจด้วยน้ำเสียงที่สับสนและความรู้สึกสิ้นหวังหัวหน้าทีมยืนนิ่งอยู่ตรงสะพานเรือ ดวงตาของเขามองไกลออกไปยังผืนทะเลที่ทอดยาวสุดสายตา ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ภายในเขากำลังประมวลผลข้อมูล “ไม่ใช่ความผิดพลาด…” เขาเอ่ยในที่สุด น้ำเสียงหนักแน่นของเขาทำให้ทุกคนหยุดนิ่งและหันมาฟังอย่างตั้งใจ “พวกเขาเปลี่ยนแผนแล้ว เราถูกเบี่ยงเบนความสนใจ”คำพูดนั้นทำให้ทั้งทีมตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนเริ่มตระหนักว่าภ

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่23.รอยต่อแห่งท้องทะเล

    บรรยากาศในบ้านอาดัมเริ่มเงียบสงบลง หลังจากเสียงหัวเราะและความสนุกสนานของปาร์ตี้วันขอบคุณพระเจ้าค่อยๆ จางหายไป กลิ่นหอมอ่อนๆ ของอาหารที่ยังหลงเหลือในอากาศผสมกับความอบอุ่นจากแสงไฟในบ้าน เพื่อนๆ หลายคนทยอยกันกลับ บางคนช่วยคุณแม่ของอาดัมเก็บจานชาม บางคนกวาดบ้านพร้อมพูดคุยเรื่องราวในค่ำคืนที่เพิ่งผ่านไปวิน เพื่อนสนิทของอาดัม เดินเข้ามาพร้อมหยิบเสื้อคลุมที่วางพาดเก้าอี้ขึ้นมา ก่อนจะหันไปพูดกับอาดัมด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่แฝงด้วยความคาดหวัง"อาดัม พรุ่งนี้นายว่างไหม? เราข้ามเกาะไปเที่ยวที่เกาะทองกันสักคืนดีไหม? ฉันอยากรำลึกถึงวันเก่าๆ เพราะเดี๋ยวอีกสองสามวันฉันต้องกลับแล้ว"อาดัมที่กำลังเก็บกีตาร์ใส่กระเป๋าหยุดมือชั่วครู่ เขาเงยหน้าขึ้นมองวินด้วยรอยยิ้มกว้าง แววตาฉายชัดถึงความยินดีที่เพื่อนสนิทเอ่ยปากชวน"ได้สิเพื่อน วิน ฉันว่างอยู่ งั้นเราขึ้นเรือรอบแรกกันเลยไหม? รอบ 8 โมงเช้า เจอกันที่ท่าเรือ"วินหัวเราะเบาๆ ขณะสวมเสื้อคลุม "ตกลง งั้นเจอกันพรุ่งนี้!" เขายื่นมือไปหาอาดัม ทั้งสองยกมือประกบกันอย่างแน่นหนา ก่อนที่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มของพวกเขาจะเติมเต็มห้องที่เงียบสงบ"งั้นฉันไปก่อนนะ พรุ่งนี้

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่22.เดิมพันใต้ควันวิสกี้

    ในยามหัวค่ำ ย่านท่องเที่ยวของถนนริมทะเล ร้านค้าบาร์และสถานบันเทิงแต่งแต้มด้วยไฟนีออนหลากสีส่องแสงระยิบระยับ เสียงเพลงและเสียงหัวเราะของผู้คนดังคลออยู่ในอากาศ หญิงสาวในชุดสะดุดตายืนเรียกลูกค้าอยู่หน้าร้าน เผยรอยยิ้มที่ถูกฝึกมาเพื่อดึงดูดสายตา ฮันน่าเดินลัดเลาะไปบนถนนที่เปียกชื้นเพื่อไปยังซอยลับที่ทอดตัวเงียบงันในย่านที่วุ่นวาย ที่ตั้งของ บาร์ลินลี่ สถานที่นัดหมายเสียงเพลงแผ่วเบาดังออกมาจากบาร์ แม้ประตูจะปิดสนิท กลิ่นบุหรี่และกลิ่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลอยอ้อยอิ่งในอากาศ ประสานกับเสียงกระดิ่งเฉลิมฉลองวันขอบคุณพระเจ้าดังกังวานเป็นจังหวะเหมือนบทเพลงต้อนรับแขก หรืออาจเป็นสัญญาณเตือนใจสำหรับผู้ที่กล้าก้าวเข้ามา ทันใดนั้น เสียง เพล้ง! ขวดกระแทกพื้นดังสะท้อนก้องไปทั่วซอย ฮันน่าหยุดชะงัก ร่างของเธอนิ่งสนิทในชั่วขณะ ก่อนจะหันมองไปยังต้นเสียงด้วยนัยน์ตาตื่นตัวที่ด้านหน้าบาร์แห่งหนึ่ง ชายสองคนในสภาพเมาหนักกำลังโวยวายใส่กันอย่างไม่ลดละ เสียงตะโกนหยาบคายและการแกว่งมือไปมาของพวกเขาดูเหมือนพร้อมจะปะทะได้ทุกเมื่อ ใบหน้าของทั้งคู่แดงก่ำจากฤทธิ์แอลกอฮอล์พลันประตูบาร์เปิดออกอย่างแรง ชายร่างใหญ่สองคนท

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่21.วันเริ่มต้นของความกล้า

    เสียงมือถือดัง "ครืด... ครืด..." สั่นอยู่บนโต๊ะข้างเตียงในยามเช้าตรู่ ปลุกให้ฮันน่าที่กำลังหลับใหลค่อยๆ ตื่นขึ้นมา เธอลืมตาอย่างเชื่องช้า ความงัวเงียยังฉาบทับเปลือกตาและจิตใจ ร่างของเธอขยับเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์แสงจากหน้าจอทำให้เธอต้องหรี่ตา พลางใช้มืออีกข้างบังบางส่วนไว้ เธอเพ่งมองข้อความที่เด้งขึ้นมาบนหน้าจอ เป็นข้อความจาก "ลินลี่""เจอกันที่บาร์ของฉันเย็นนี้"ฮันน่าถอนหายใจเฮือกใหญ่ ราวกับเหนื่อยล้าในใจ เธอยกมือกุมขมับพลางพึมพำกับตัวเอง“ฉันต้องกลับไปที่ซอยนั้นอีกแล้ว...”เสียงของเธอแผ่วเบา แต่เต็มไปด้วยความกดดันที่ยากจะปฏิเสธ สถานที่ที่ลินลี่หมายถึงไม่ใช่ที่ที่เธออยากกลับไป แต่งานนี้กลับเป็นสิ่งที่เธอหลีกเลี่ยงไม่ได้ เงินที่เธอใช้ไปแล้ว และเงินอีกส่วนที่ยังรออยู่หลังงานสำเร็จ เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเธอในตอนนี้เธอกลั้นหายใจลึก พยายามผลักความลังเลออกจากหัว ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาอีกครั้ง นิ้วของเธอค้างอยู่บนหน้าจอชั่วขณะ เหมือนกำลังตัดสินใจบางอย่าง แต่แล้วเธอก็พิมพ์ข้อความสั้นๆ ตอบกลับไป"ตกลง ลินลี่ แล้วเจอกัน"เธอวางโทรศัพท์ลงข้างตัว หันหน้าไปจ้องเพดาน สายตาว่างเปล

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่20.การเจอกันครั้งที่สอง

    ฮันน่าก้าวออกจากซอยแห่งแสงสีและความลับ เธอรู้สึกเหมือนหลุดพ้นจากความอึดอัดบางอย่าง แต่ภายในใจยังวุ่นวายคิดเรื่องงานของลินลี่ที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า …..เธอก้าวเดินไปบนถนนริมชายหาดอย่างเชื้องช้าให้สายลมเย็นจากทะเลพัดผ่านใบหน้า เสียงคลื่นกระทบชายฝั่งดังแผ่วเบาเป็นฉากหลังในความมืดที่กระซิบปลอบประโลมในคืนที่เดียวดาย เธอสูดหายใจเข้าลึกเพื่อสงบใจ แต่กลับรู้สึกว่าความกดดันในใจยิ่งเพิ่มขึ้น เธอพยายามตั้งสติ ดึงตัวเองเข้าสู่เส้นทางที่กำลังเดินไปข้างหน้าที่มี แสงไฟจากผับและบาร์ที่เรียงรายเป็นทางยาวส่องแสงนวลใต้ดวงไฟที่กระพริบ เหมือนเป็นสัญญาณเรียกร้องให้เธอและผู้คนเข้ามาสัมผัสค่ำคืนของเมืองแห่งนี้ทุกมุมถนนเต็มไปด้วยสีสัน เสียงหัวเราะ และดนตรีที่ผสมผสานกันเป็นดั่งเสียงเรียกของค่ำคืนที่ยาวนานเธอเดินทอดน่องไปบนไหล่ทางริมต้นมะพร้าว เรียงยาวเป็นเงาสลัว ความกดดันและความเหนื่อยล้าภายในหลอมรวมเป็นความอึดอัด คงจะมีเพียงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดูเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวที่สามารถทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและช่วยให้ค่ำคืนนี้ผ่านไปเร็วขึ้น…..เสียงเพลงบรรเลงจากลานบาร์ของโรงแรมห้าดาวดังขึ้นมาจากระยะไกล้ ท่วงทำนองนั้

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่19.เดิมพันที่ไร้ทางถอย

    ในห้องรับรองที่เปี่ยมด้วยแสงไฟสลัว ฮันน่ายืนนิ่งตรงหน้าลินลี่ สายตาของเธอจับจ้องหญิงตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์ ทุกเส้นผม ทุกท่วงท่าของลินลี่ส่งผ่านภาพลักษณ์ที่แตกต่างจากสิ่งที่ฮันน่าเคยเห็นเมื่อครั้งก่อนในบาร์ สตรีที่อยู่ตรงหน้าดูทรงพลังและแน่วแน่เกินกว่าจะเป็นคนธรรมดาที่ใครจะมองข้ามเธอเคยรู้จักลินลี่เพียงผิวเผิน การพูดคุยกันเพียงเสี้ยวหนึ่งในเส้นทางของโชคชะตา แต่ในคืนนี้ ลินลี่กลับฉายภาพที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ลินลี่นั่งไขว้ห้างอยู่บนโซฟาหรูด้วยท่าทีที่ราวกับกำลังปกครองอาณาจักรเล็กๆ ของตัวเอง กลิ่นหอมบางของน้ำหอมผสมควันบุหรี่ลอยอวลในอากาศ ทำให้บรรยากาศรอบตัวหล่อนดูหนักแน่นและเย้ายวนฮันน่าไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้ ความมั่นใจที่แผ่ออกมาจากลินลี่มันเป็นรังสีที่ทำให้ฮันน่าอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกดดันเธอสูดหายใจลึก ควบคุมความรู้สึกของตัวเองไว้ ก่อนจะพูดออกมาเสียงเรียบ“สวัสดี, ลินลี่” ลินลี่จ้องมองฮันน่าด้วยสายตาคมกริบราวกับต้องการสำรวจทุกอณูของหญิงสาวตรงหน้า ยั่งลึกลงไปข้างในความคิดและความรู้สึกทั้งหมดอย่างไม่ให้คลาดสักเสี้ยวนาที“นั่งสิ ฮันน่า” ลินลี่เอ่ยเสียงนุ่ม แต่แฝงด้วยน้ำเส

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่18.แสงสีแห่งความลับ

    ในห้องน้ำเล็กๆของโรงแรม แสงสีส้มอมทองส่องลงมาจากไฟบนเพดาน เสียงจากปลายสายดังลอดออกมาจากลำโพงมือถือที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ข้างอ่างล้างหน้า คำพูดที่เต็มไปด้วยแรงกดดันและความเร่งเร้าเหมือนบีบคั้นฮันน่าในทุกลมหายใจ"ฮันน่า ตกลงเธอจะเคลียร์เงินวันไหน ขอความชัดเจนหน่อยได้ไหม ไม่ใช่ให้รอไปวันๆ"เสียงนั้นกระแทกหูเธอซ้ำๆ ฮันน่าจับขอบอ่างล้างหน้าแน่นจนข้อนิ้วเปลี่ยนสี ความเงียบที่แทรกระหว่างคำพูดนั้นเหมือนกับจะกดดันเธอยิ่งกว่าเสียงตะคอก"ฮันน่า ...ฮันน่า"เสียงปลายสายยังคงเรียกชื่อเธอ ทว่าฮันน่าไม่ได้ตอบอะไรกลับ เธอก้มหน้ามองมือที่สั่นเล็กน้อยก่อนจะปล่อยให้สายนั้นตัดไป เสียง "ตี๊ด ตี๊ด ตี้ด" แทรกผ่านเข้ามาในความเงียบ เธอเงยหน้าขึ้นมองตัวเองในกระจก สบสายตากับเงาสะท้อนที่ดูอ่อนล้าและเต็มไปด้วยความสับสน"อดทนสิฮันน่า..." เธอบอกตัวเองในใจ ราวกับพยายามยึดเหนี่ยวคำปลอบโยนเล็กๆ เพื่อก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไป เธอหลับตาลง สูดลมหายใจเข้าลึก และถอนหายใจออกมาอย่างช้าๆจากนั้นเธอเอื้อมไปหยิบขวดยาที่วางอยู่ข้างๆ บนเคาน์เตอร์ เปิดฝาและเทมันออกมา เธอจ้องเม็ดกลมๆอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะโยนเข้าปากตามด้วยน้ำที่อยู่ในแก้วพล

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่17.การพบเจอ

    สายตามองของฮันน่ามองไปที่ทะเลที่มีแสงรำไรจากดวงจันทร์ส่องบนผืนน้ำหัวใจของเธอจดจ่อรอฟัง เสียงของลินลี่่ “ตอนนี้ลินลี่ยังไม่สะดวกรับสาย รบกวนฝากข้อความไว้ค่ะ” เธอถอนหายใจยาวราวกับว่าคำตอบที่ได้ฟังทำให้เธอได้มีมีเวลาคิดอีกสักนิด เสียงตอบรับอัตโนมัติจากปลายสายทำให้ฮันน่าเกิดความรู้สึกทั้งโล่งใจและวิตกในเวลาเดียวกัน เธอวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะช้าๆ ราวกับว่าการเคลื่อนไหวที่รีบร้อนจะย้ำเตือนความไม่มั่นใจในใจของเธอ สายตาจ้องมองโทรศัพท์นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเธอพึมพำเบาๆ กับตัวเอง“ยังไม่ต้องตัดสินใจตอนนี้...” เวลาที่ได้เพิ่มมานี้เหมือนเป็นทั้งของขวัญและบททดสอบ เธอรู้ดีว่าในไม่ช้าคำตอบจะต้องถูกส่งออกไป แต่การได้รับโอกาสให้ทบทวนอีกครั้งก็ทำให้เธอเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง ……..แสงแรกของวันเริ่มสาดส่องบนขอบฟ้า แม้จะไม่เจิดจ้า แต่ก็เพียงพอที่จะเผยให้เห็นผืนทะเลที่กว้างใหญ่และสงบนิ่ง ฮันน่าก้าวเท้าลงบนทรายละเอียด ความเย็นของเม็ดทรายและสายลมที่พัดผ่านใบหน้าทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้รับการปลอบประโลมเล็กน้อย ร่องรอยของค่ำคืนที่ไม่อาจข่มตาหลับฉายชัดบนใบหน้าของเธอ ดวงตาที่ล้าจ้องมองไปยังเส้นขอบฟ้า สายน้ำระย

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status