"โห่... หมอเค้าพูดกับคนไข้แบบนี้เหรอ"
ลอเลนโซเบือนสายตามาหมอสาวอย่างไม่สบอารมณ์
"เฉพาะคนไข้ที่สมองสามขวบอย่างคุณเท่านั้นแหละต้นหนาวยังจะพูดรู้เรื่องซะกว่าเลย"
ลัลลลิลพูดจาแบบนี้กับคนไข้อย่างเขาเท่านั้นเพราะคนอย่างเขาพูดดีด้วยก็ไม่ค่อยจะเข้าไปในสมองเท่าไร
"คุณเอาผมไปเปรียบเทียบกับหลานได้ยังไง"
"ก็มันจริงไหมล่ะ... เงียบปากแล้วกินข้าวไปเลย"
ลัลลลิลเลื่อนโต๊ะวางถาดอาหารมาตรงหน้าชายหนุ่มทั้งยังมองค้อนเขาไปหนึ่งที
"หึ่..."
ลอเลนโซสบถอย่างอารมณ์เสีย
"อีกสามวันฉันจะพาคุณไปผ่าเฝือกที่โรงพยาบาล"
"ผ่าที่นี่ไม่ได้หรือไง"
"ที่นี่มีแต่มีดทำครัวหรือคุณจะให้ฉันทำล่ะ"
"ชิ..ผ่าออกก็ดีจะได้โล่งซะที"
"ผ่าแล้วใส่ใหม่ค่ะไม่ใช่ผ่าแล้วผ่าเลย"
"หา...ใส่ทำไมอีกล่ะ"
ลอเลนโซมีสีหน้าผิดหวัง
"คุณคิดว่าแค่อาทิตย์กว่าๆกระดูกคุณจะหายเป็นปลิดทิ้งเลยหรือไงทำอย่างกับไม่เคยเจ็บตัว"
ลัลลลิลรู้ว่าเขาเคยจะตัวอยู่บ่อยครั้งแต่ทำไมไม่อยากจะชินกับการรักษาเสียที
"เฮ้อ.."
ลอเลนโซถอนหายใจมองจานข้าวตรงหน้าด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย
สนามบินxxx
"ทำไมพีถึงกลับมาเข้าโรงพยาบาลได้อีก"
ภูผานักธุรกิจหนุ่มวัย39ที่เป็นพี่ชายของพิรัชเขาร่วมหุ้นเปิดบริษัทกับเพื่อนของเขาอยู่ที่สเปนและไม่ได้กลับมาเมืองไทยนานนับสิบปีจนตอนนี้เขาต้องกลับมาด้วยธุระสำคัญบางอย่าง
ชายหนุ่มบินกลับมาจากสเปนอย่างเร่งด่วนเพราะเขาได้ข่าวว่าน้องเขาเข้าโรงพยาบาลอีกรอบอย่างที่เขากังวลตอนนี้ก็คือข่าวคราวของธุรกิจของน้องชายเขาที่มีข่าวว่ากำลังจะล้มละลายนั่นเอง
"คือเมื่อคืนคุณพีบอกว่าฟรานซิสบุกมาที่บ้านครับคุณภู"
บอดี้การ์ดหนุ่มบอกภูผาด้วยสีหน้าเจื่อนๆเพราะกลัวจะโดนตำหนิว่าไม่ดูแลพิรัชให้ดี
"หึ่...พาฉันไปหาพีที่โรงพยาบาล"
ภูผากัดฟันกรอดตอนนี้เขาอยากจะเห็นสภาพน้องชายเขามากที่สุดจึงให้บอดี้การ์ดพาไปที่โรงพยาบาลก่อนจะไปที่บ้าน
"ครับคุณภู"
โรงพยาบาล
"พี่ครับ... ธุรกิจผมพังป่นปี้ไปหมดแล้วครับ"
พิรัชตอนนี้เจ็บตัวยังพอว่าแต่เจ็บใจมากกว่าเมื่อรู้ว่าธุรกิจของตนเองกำลังจะจมลงสิ่งที่เขาพยายามสร้างมาทั้งหมดมันกำลังจะพังทลายไปต่อหน้าต่อตาเขารู้ว่านี่ต้องเป็นฝีมือของฟรานซิสแน่นอน
"ฉันรู้ถึงได้กลับมานี่ไง"
"พี่ต้องช่วยผมนะ.."
พิรัชกุมมือพี่ชายของเขาอย่างหมดอาลัยตายอยาก
"แกเป็นน้องฉันยังไงฉันก็ต้องช่วยแกอยู่แล้วเรื่องที่แกเจ็บตอนนี้คนที่ทำมันต้องเจ็บกว่า"
ภูผามองสภาพน้องชายของเขาตอนนี้ก็ยิ่งเจ็บแค้นคนที่มันทำให้น้องชายเขาเป็นแบบนี้อย่างมากและเขาจะไม่ปล่อยให้คนพวกนั้นได้ใจไปนานกว่านี้แน่นอน
คฤหาสน์ฮันส์
"อาทิตย์หน้าคุณหญิงเพ็ญพักตร์ชวนย่าไปงานวันเกิดย่าว่าจะให้เรากับหนูปลายไปด้วยงานนี้สื่อค่อนข้างเยอะถือโอกาสเปิดตัวหลานสะใภ้กับเหลนเลยดีไหม"
เฮเลนนั่งคุยกับหลานชายคนโตของเขาที่โซฟาในห้องโถงถึงเรื่องที่เธอได้รับเชิญให้ไปในงานวันเกิดของเพื่อนเธอเห็นว่างานนี้น่าจะมีสื่อเยอะพอสมควรเธอเลยอยากที่จะพาปลายฝนและเหลนของเธอไปเปิดตัว
"แล้วแต่คุณย่าเลยครับ"
ฟรานซิสไม่ได้ขัดข้องอะไรอยู่แล้วเพราะเขาก็ไม่ได้คิดว่าจะปิดเรื่องที่เขามีลูกมีเมียแต่เรื่องที่เขาต้องปิดคือเขามีลูกได้ยังไงมากกว่า
"ผมไปด้วยนะครับ"
ลอเลนโซเอ่ยเสียงดังมาแต่ไกลเขานั่งรถเข็นมาพร้อมกับลัลลลิลพอได้ยินว่าคุณย่าของเขาจะไปออกงานเขาจะอยากจะไปงานนี้ด้วย
"จะออกงานสภาพนี้จริงเหรอ"
เฮเลนไม่คิดว่าคนอย่างลอเลนโซจะออกงานในสภาพนี้นอกจากอยากจะเรียกร้องความสนใจจากใครมากกว่า
"ครับคนหล่ออยู่ในสภาพไหนก็หล่อ"
"มั่นใจซะเหลือเกินนะ"
"ไม่รู้ว่าจะออกงานไปเพื่อเรียกร้องความสนใจจากใครหรือเปล่าน่ะสิ"
เฮเลนรู้ว่าหลานชายของเขาเคยคุยกับหลานสาวของเพ็ญพักตร์เพื่อนของเธอในตอนที่อยู่ที่เนเธอร์แลนด์แต่เธอไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองเป็นอย่างไรกันแน่
"เรียกร้องความสนใจอะไรครับคุณย่าอย่างผมมีคนสนใจตลอดอยู่แล้ว"
ลอเรนโซ่ยังคงมั่นใจตัวเองได้อยู่ตลอดเวลาเพราะเขาเป็นคนที่มีความมั่นใจสูงพอตัวอยู่แล้วจนทำให้หมอสาวที่ยืนอยู่ข้างหลังอดที่จะทำน่าหมั่นไส้ชายหนุ่มไม่ได้
สามวันต่อมา
โรงพยาบาลxxx
13.00 น.
"หมอลิน"
รัชตะหมอหนุ่มเพื่อนร่วมงานของลัลลลิลเมื่อเห็นเธอรออยู่ที่หน้าห้องเอ็กซเรย์ตั้งแต่เช้าจึงเข้ามาทักทาย
"พี่หมอเรียล"
"พาคนไข้เรามาทำอะไรเหรอ"
รัชตะรู้ว่าหมอสาวตอนนี้ถูกผอ.ส่งไปเป็นแพทย์ประจำตัวของคนไข้วีไอพีวันนี้มาที่โรงพยาบาลได้คงมีเรื่องสำคัญที่ต้องพาคนไข้มาเป็นแน่
"เอ็กซเรย์กระดูกแขนกับขาแล้วก็ใส่เฝือกใหม่น่ะค่ะ"
"อ๋อ...เคสนี้ท่าจะนานนะครับ"
"ค่ะเป็นสองเดือนแหละค่ะ"
"ยังไงเดี๋ยวพี่ขอตัวก่อนมีเคสผ่าตัดต่อ"
หมอหนุ่มต้องขอตัวออกไปก่อนไม่ได้มีเวลาคุยนานเพราะเขามีเคสต้องผ่าตัดแต่เช้า
"ค่ะ"
"แฟนเหรอคุณ"
ลอเลนโซนั่งรถเข็นออกมาได้จังหวะที่สองคนนั้นกำลังพูดคุยกันแล้วหมอหนุ่มก็เดินออกไปพอดีเขาจึงทักหญิงสาวด้วยสีหน้าอยากรู้
"จะบ้าหรือไงคุณนั่นเพื่อนร่วมงานฉันทักทายกันปกติ"
ลัลลลิลส่ายหัวหงึกหงัก
"อืม.. ก็อย่างว่าล่ะนะปากอย่างคุณคงไม่มีแฟน"
ความกวนประสาทของลอเลนโซไม่มีใครเกินอยู่แล้ว
"เอ้ะ.. คุณนี่.. ชิ"
ลัลลลิลแทบจะอารมณ์เสียได้ทุกวี่ทุกวันตั้งแต่มาเป็นแพทย์ประจำตัวของชายหนุ่ม
เย็นของวัน
"ลินมาพอดีเลยมาเลือกชุดสิ"
ปลายฝนรีบจูงมือเพื่อนสาวเธอเข้ามาในห้องโถงเพราะตอนนี้ในห้องโถงมีแต่ถุงเสื้อผ้าแบรนด์ดังกองอยู่เต็มไปหมดเพราะวันนี้เธอพึ่งจะออกไปชอปปิ้งกับเฮเลนมา
"ชุดอะไรเหรอ"
ลัลลลิลถามด้วยสีหน้าสงสัย
"ชุดใส่ออกงานวันเกิดเพื่อนคุณย่าไงแกต้องไปกับพวกเราด้วยดูแลคุณลอสไง"
"ห้ะ... ฉันต้องไปด้วยเหรอ"
เรื่องนี้เธอคิดว่าเธอจะไม่ต้องไปด้วยเสียอีก
"จ่ะ...หมอลินไปดูแลตาเล็กในงานหน่อยนะ"
เฮเลนหันมายิ้มแหยๆให้ลัลลลิล
"ก็ได้ค่ะคุณย่า"
หญิงสาวคงต้องรับหน้าที่นี้ไปแต่โดยดี
"อย่างหมอลินจะใส่ชุดไหนสวยกันนะ..เฮ้อ..มองไม่ออกเสียเลย"
ลอเลนโซคนที่ปากอยู่ไม่สุขอีกครั้งที่เขากระแนะกระแหนหมอสาว
"คุณ.."
ลัลลลิลหันไปมองค้อนคนไข้ของเธอหากจับขาเขาหักอีกข้างได้ในตอนนี้เธอก็จะทำแต่ก็กลัวว่าเธอจะต้องมารับผิดชอบอะไรเขาอีกก็เลยต้องอดใจเอาไว้
"ลินใส่ชุดไหนก็สวยค่ะตอนเรียนมหาลัยลินเป็นดาวคณะเลยนะคะ"
ปลายฝนยอลัลลลิลให้ลอเลนโซได้ฟังว่าเพื่อนเธอไม่ใช่ธรรมดาๆ
"โห..ซื้อเสียงมาหรือเปล่าเนี่ยคุณ"
ลอเลนโซยกยิ้มอย่างเย้ยหยันลัลลลิล
"ให้มันน้อยๆหน่อยตาเล็กเดี๋ยวเถอะ"
เฮเลนรู้สึกเกรงใจลัลลลิลแทนหลานชายของเธอเสียจริงจึงส่งสายตาดุดันให้หลานชายคนเล็กเล่นเสียพอประมาณ
"ฉันใส่ชุดไหนก็ได้แกเลือกมาเลย"
ลัลลลิลเลือกไม่ค่อยจะถูกหากจะให้เป็นหน้าที่เพื่อนเธอเลือกให้จะดีกว่า
"โอเคจัดไป"
เรื่องนี้ถนัดอยู่แล้วสำหรับปลายฝนทุกคนจะต้องตะลึงกับฝีมือของเธอกับการเลือกแต่งตัวให้ลัลลลิล
20.00 น."ต้นหนาวมามี๊ใส่ชุดนี้สวยไหมครับ"เมื่อเลือกชุดของลัลลลิลได้ตอนนี้ก็เหลือเพียงชุดของเธอที่จะต้องมาตัดสินใจเลือกอีกครั้งบนเตียงนอนตอนนี้มีเธอและลูกชายอยู่เพียงสองคนเพราะฟรานซิสเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเธอจึงถามความเห็นของต้นหนาวว่าชุดที่เธอเลือกโอเคหรือไม่"ฉวยฮับ.."ต้นหนาวที่กำลังเล่นโมเดลรถแข่งง่วงหันมามองคนเป็นแม่ครู่หนึ่งแล้วจึงพยักหน้าหงึกหงัก"แล้วชุดนี่ล่ะครับ"ปลายฝนหยิบอีกชุดมาเทียบกับตัวของเธอให้ต้นหนาวเลือก"ฉวยฮับ.."เด็กชายตัวกลมพยักหน้าพร้อมหันไปเล่นโมเดลรถเช่นเดิม"หืมสวยทุกชุดเลยเหรองั้นมามี๊ยังไม่เลือกดีกว่ารอแดดดี๊เลือกให้ละกันเนอะ...ตอนนี้ต้นหนาวมาดูชุดที่แม่ซื้อให้ดีกว่า"ตอนนี้ปลายฝนไม่ค่อยจะเชื่อมนคำว่าสวยของต้นหนาวเสียแล้วเพราะดูท่าลูกชายของเธอจะห่วงเล่นมากกว่าจรีบให้เขาเลือกชุดของตัวเองก่อน"นี่..ชุดนี้หล่อไหมครับต้นหนาวชอบไหม"ปลายฝนหยิบชุดสูทของเด็กที่ซื้อมาประมาณสามชุดสามสีให้ลูกชายของเธอได้เลือกทีละชุด"อืม...ไม่ฮับ"ชุดแรกเป็นสีเทาเรียบๆแต่ดูท่าลูกชายเธอจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่จึงหยิบอีกชุดที่เป็นสีแดงหม่นขึ้นมา"ชุดนี้ล่ะ""ชอบฮับ.."ต้นหนาวพยักหน้าพร้อมเ
ครู่ต่อมา"ได้ยินว่าคุณจะหมั้น"ลอเลนโซ่ขอตัวจะทุกคนมาคุยกับเคลี่ที่ลานOutdoorของโรงแรมเพราะตอนนี้ที่นี่ค่อนข้างเงียบสงบเหมาะแก่การที่เขาจะเคลียร์ปัญหาหัวใจกับเธอที่เขาต้องรีบกลับมาที่นี่อย่างกะทันหันเพราะรู้ว่าเธอกลับมาเมืองไทยโดยที่ไม่บอกเขานั่นเอง"ค่ะ... เมื่อเจอคนที่ใช่ฉันก็อยากจะใช้ชีวิตครอบครัว""แต่คุณกลับมาโดยไม่ได้บอกผมก่อนคุณจงใจหนีผมกลับมา"ลอเลนโซ่พูดด้วยท่าทีน้อยใจ"ฉันไม่ได้หนีค่ะแต่เราจบกันไปแล้วฉันจะไปไหนจะทำอะไรมันก็ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องรับรู้"เคลี่เห็นว่าเรื่องนี้เธอไม่จำเป็นต้องบอกเขาเพราะเธอเลือกที่จะจบกับเขาตั้งแต่อยู่ที่เนเธอร์แลนด์แล้วและเธอก็ได้เจอคนที่เข้ากับเธอได้และเธอก็อยากสร้างครอบครัวร่วมกับเขา"ผมมันด้อยกว่าคู่หมั้นคุณตรงไหนทำไมระยะเวลาหลายปีที่ผมคบกับคุณขอคุณแต่งงานครั้งแล้วครั้งเล่าคุณไม่เคยจะตกลงแต่กับคนอื่นคบไม่กี่เดือนกลับจะหมั้นกันเสียอย่างนั้นลอเลนโซสบถออกมาอย่างไม่ยอมรับความจริงและน้อยใจ"ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าฉันจะไม่รักคุณนะคะแต่ฉันไม่เห็นว่าคนอย่างคุณจะมีความคิดที่โตพอจะเป็นหัวหน้าครอบครัวได้ฉันว่าฉันให้เวลาคุณมามากพอแล้วนะคะกับการพิสูจ
"....."ลอเลนโซยังคงนั่งนิ่งไม่ได้พูดอะไรเพราะเขาไม่มีอะไรจะปฏิเสธ"อย่าคิดว่าย่าไม่รู้ว่าแกต้องการจะประชดใครนะทำตัวเป็นเด็กแบบนี้คิดเหรอว่าจะมีใครเค้าเอาไปเป็นหัวหน้าครอบครัวหน่ะ"เฮเลนพอจะรู้ว่าหลานชายเธอทำไปด้วยเรื่องอะไรแต่ที่เธอโมโหมากๆก็คือไม่รู้ว่าทำไมหลานชายของเธอจะต้องดึงลัลลลิลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทั้งที่เธอก็ไม่รู้อิโหน่อิเหน่และผลที่มันจะตามมามันไม่ใช่ผลดีต่อลัลลลิลเลยสักนิดอีกหน่อยชีวิตของเธอก็ถูกจับตามองไปด้วยสื่ออีกอย่างหากวันนึงหลานชายเธอเปลี่ยนใจประกาศข่าวไม่แต่งงานหรือรักหรือเลิกอะไรกันก็เท่ากับว่าหญิงสาวเคยมีข่าวว่ามีแฟนแล้วแบบนี้ก็จะเป็นเหตุทำให้หญิงสาวเสียหายได้เธออยากจะรู้จริงๆว่าจะมีวันไหนที่หลานชายของเธอคิดอะไรที่มันรอบคอบสักนิดก่อนจะตัดสินใจทำอะไรลงไป"...."ลอเลนโซยอมรับว่าเรื่องเมื่อครู่เขาทำไปด้วยความสะใจและเพิ่งจะไตร่ตรองเรื่องปัญหาที่ตามมาของหญิงสาวได้เมื่อครู่นี้เอง"เราจะทำให้ย่าปวดหัวไปถึงไหนห้ะ"เป็นครั้งนี้ที่เธอดูจะโมโหหลานชายเธอเอามากๆเพราะไม่ได้สร้างปัญหาคนเดียวยังจะดึงคนอื่นมาเป็นปัญหาด้วยอีกปลายฝนเดินมาหาเพื่อนของเธอที่กำลังหลบมุมนักข่าวอยู่"
"ยังจะมาห่วงฉันอีกห่วงตัวเองก่อนเอาตัวมาบังแบบนั้นได้ยังไง"ฟรานซิสเอื้อมมือไปแตะใบหน้าของหญิงสาวเบาๆความรู้สึกของเขาตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงเธออย่างบอกไม่ถูกหากวันนี้เธอไม่ตื่นขึ้นมาจะเป็นอย่างไร"ฉันกลัวคุณตาย"ปลายฝนพูดตามความคิดของเธอในเวลานั้น"แล้วเธอไม่กลัวตัวเองตายหรือไง"ฟรานซิสเชื่อเธอเลยดูหญิงสาวพูดเข้าดูเธอเหมือนจะไม่ห่วงตัวเองเอาเสียเลย"ก็กลัว... แต่ตอนนั้นไม่ทันคิดนี่นา" ปลายฝนหลบสายตาลงเล็กน้อยเธอไม่ใช่ไม่กลัวแต่ตอนนั้นเธอเป็นห่วงเขามากกว่า"เธอเป็นแม่คนแล้วต้องคิดให้เยอะๆสิถ้าเธอเป็นอะไรไปต้นหนาวจะอยู่ยังไง""อยู่กับคุณไงคะ""ฉันไม่อยากเสียใครไปทั้งนั้นลูกฉันต้องมีแม่ฉันเป็นห่วงเธอนะคราวหน้าคราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกเข้าใจไหม"ฟรานซิสพูดด้วยท่าทีรู้สึกผิดที่ความบาดหมางของเขากับใครก็ยังไม่รู้มาทำให้เธอต้องโดนลูกหลงโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่"คุณเป็นห่วงฉันเหรอคะ"ปลายฝนถามด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ"อืม.. นอนพักผ่อนเถอะ"ฟรานซิสพยักหน้าทั้งสั่งให้เธอหยุดพูดเพราะอยากจะให้เธอพักผ่อนก่อนในตอนนี้"ต้นหนาวล่ะคะ"คนที่เธอจะอดห่วงไม่ได้ก็คือลูกชายของเธอนั่นเองจึงถามชายหนุ่มว่าตอนนี้ต้นหนาวนั้นอยู
ชั่วโมงต่อมาโกดังเก็บสินค้าปึ้กกกกกกก."ดูท่ามันจะเยาะเย้ยฉันมากเกินไปแล้ว"หลังจากที่มอแกนโทรมาบอกว่าโกดังเก็บสินค้าของบริษัทไฟไหม้กะทันหันเขาจึงมาดูที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วเมื่อสำรวจรอบรอบก็พบว่านี่ไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดาแต่มีคนจงใจทำให้มันเกิดขึ้นและจงใจทิ้งร่องรอยให้เขาได้ดูต่างหน้าอย่างเย้ยหยันฟรานซิสเตะกระติกน้ำมันจนกระเด็นกระดอนอย่างโมโหเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เขารู้ว่าคนที่จงใจจะทำร้ายเขาไม่เกรงกลัวในอิทธิพลของเขาเลยสักนิด"กล้องวงจรใช้ไม่ได้เหมือนเหตุการณ์เมื่อคืนเลยครับนาย"อีธานและมอแกนช่วยกันตรวจสอบกล้องวงจรปิดเหมือนกับว่ากล้องที่โกดังนี้จะถูกทำลายก่อนที่เรื่องจะเกิดขึ้นทั้งที่ความปลอดภัยที่นี่ค่อนข้างจะแน่นหนาคนที่ทำแบบนี้ได้จะต้องเป็นคนมีฝีมือในระดับนึงเลยทีเดียว"สอบคนงานที่นี่ทุกคนว่าเห็นใครแปลกหน้าบ้างหรือเปล่า"ฟรานซิสคิดว่าเขาจะประมาทคนพวกนี้ไม่ได้เสียแล้วตอนนี้เขาต้องเพิ่มความปลอดภัยในทุกๆที่ของธุรกิจเขาและต้องจริงจังในการหาตัวคนที่มันคิดจะทำลายเขาให้ได้เร็วที่สุด"ครับ"สามวันต่อมาคฤหาสน์ฮันส์วันนี้เป็นวันที่ปลายฝนได้ออกจากโรงพยาบาลกลับมาพักอยู่ที่บ้านฟรานซิสให้
ครู่ต่อมา"คุณฟรานคะ"ปลายฝนเดินถือถุงกล่องอาหารเข้ามาในห้องทำงานของชายหนุ่มในช่วงพักกลางวัน"ฉันว่าแล้วว่าเธอต้องมา"ฟรานซิสยกยิ้มอย่างพอใจเขารู้ดีว่ายังไงเธอก็ต้องมาหาเขาอยู่ดีแต่แปลกใจว่าวันนี้ทำไมเธอถึงไม่พาลูกมาด้วย"มากินข้าวกลางวันกับคุณไงคะ""ต้นหนาวล่ะ""ตอนแรกก็จะพามาด้วยแต่คุณย่าสิคะท่าจะติดเหลนบอกว่าไม่อยากให้พาต้นหนาวออกมาข้างนอกบ่อยๆ""ดีแล้วล่ะตอนนี้ทางที่ดีอย่าพาลูกออกไปไหนมาไหนบ่อยเลย""ทำไมเหรอคะ"ปลายฝนทำหน้าสงสัยพร้อมเข้าไปนั่งตรงข้ามกับชายหนุ่ม"ก็...อืม...ช่วงนี้มลพิษค่อนข้างเยอะอยู่บ้านจะดีกว่า"ฟรานซิสยังไม่อยากบอกอะไรเธอตอนนี้หากได้จังหวะดีๆแล้วค่อยบอกเธอว่าทำไมเขาจึงอยากให้เธอระวังตัว"อ๋อ..เข้าใจแล้วค่ะ"หญิงสาวพยักหน้าเข้าใจพร้อมแกะกล่องอาหารวางตรงหน้าของเขาพร้อมกับของเธอ"กินข้าวดีกว่านะคะ""ป้อนสิ"ฟรานซิสเลื่อนโต๊ะมานั่งฝั่งเดียวกับหญิงสาวทั้งยังทำสีหน้าออดอ้อนเธอให้ป้อนข้าวเขาอีกด้วย"คะ"ปลายฝนเอียงหน้าอย่างแปลกใจที่วันนี้ดูท่าเขาจะอ้อนเธอเป็นพิเศษ"อยากให้เธอป้อน""เดี๋ยวนี้อ้อนเก่งนะคะ"ปลายฝนหลี่ตาลงเล็กน้อยแต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธที่จะป้อนเขา"คนมีแฟนจ
"นี่คุณหยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ... คุณแม่คะไม่จริงนะคะเค้าโกหก""ยังไงคุณก็ต้องแต่งงานกับผม""หยุดเถียงกันทั้งคู่เลย.. โอ้ยแม่ปวดหัว""คุณแม่คะ""คุณลอสคุณให้ญาติผู้ใหญ่ฝ่ายคุณรีบมาคุยให้เรียบร้อยเลย"ณฤดีคิดว่าคงไม่มีผู้ชายคนไหนจะอยากรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำที่เขาพูดมาทั้งหมดเธอจึงเชื่อและอยากจะให้ผู้ใหญ่ทางฝ่ายชายมาคุยกับเธอให้เร็วที่สุดเพราะเรื่องนี้คนในบ้านเธอรู้เรื่องจากคำพูดของชายหนุ่มหมดแล้วแถมสื่อก็จับตามองอย่างมากอีกด้วยหากไม่ทำอะไรให้มันเสร็จสิ้นก็คงจะเป็นขี้ปากคนอื่นไปทั่วไม่เว้นแม้แต่แม่บ้านเธอเอง"ครับ"ลอเลนโซแอบยกยิ้มเล็กน้อยที่ดูท่าแม่ของลัลลลิลจะเชื่อเขาเสียมากกว่า"คุณแม่ฟังหนูบ้างรึเปล่าคะ"ลัลลลิลมองหน้าแม่ของเธออย่างตัดพ้อ"นี่เราเชคตัวเองบ้างรึเปล่าเดี๋ยวจะท้องก่อนแต่งล่ะแม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน"ตอนนี้สิ่งที่ณฤดีห่วงที่สุดก็กลัวว่าลูกเธอจะท้องก่อนแต่งคำพูดอะไรต่อมิอะไรเธอไม่ได้ยินรู้สึกหูอื้อตาลายไปหมดแล้ว"คุณแม่คะ!!"ลัลลลิลแทบจะร้องให้และอยากจะฉีกเนื้อคนที่มันสร้างเรื่องให้เธอเป็นชิ้นๆ"เอี้ยงพาฉันไปพักฉันปวดหัว"ณฤดีมิอาจทนอยู่ตรงนี้ต่อไปได้เธอจึงให้นกเอี้ยง
ครู่ต่อมาแกร๊กก"ต้นหนาวล่ะคะ"ปลายฝนเข้าห้องมาเห็นว่าฟรานซิสนอนอยู่ที่เตียงคนเดียวคิดว่าเขาจะไปรับต้นหนาวมาแล้วเสียอีก"คืนนี้ฉันฝากไว้กับคุณย่า"ฟรานซิสตอบหญิงสาวด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์"รบกวนคุณย่ารึเปล่าคะฉันไปพาต้นหนาวกลับมาดีกว่า""ไม่ต้องหรอก"ปลายฝนไม่อยากรบกวนอะไรคุณย่ามากนักเพราะกลัวว่าต้นหนาวจะงอแงตอนกลางคืนแล้วทำให้คุณย่าไม่ได้นอน"อื้อ...จ..จะทำอะไรคะ"ฟรานซิสเห็นว่าหญิงสาวกำลังจะเดินออกจากห้องไปเขาจึงรีบคว้าตัวเธอไว้ก่อนและใช้สองมือหนาขึงข้อมือหญิงสาวไว้กับผนังห้องจนเธอมีสีหน้าตกใจ"พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปจดทะเบียนสมรส"ฟรานซิสโน้มตัวลงมากระซิบจ้างหูหญิงสาวเบาๆ"คุณฟราน..พูดจริงเหรอคะ"ปลายฝนถึงกับยิ้มกว้างตาเป็นประกายดีใจที่เขาอยากจะจดทะเบียนกับเธอ"จริงสิ..ต้นหนาวจะได้เป็นลูกฉันถูกต้องตามกฏหมายซะที""ค่ะ"ปลายฝนพยักหน้าตอบเขาด้วยรอยยิ้ม"แล้วเธอก็ด้วยเธอจะได้เป็นเมียฉันถูกต้องตามนิตินัย...และ...คืนนี้..ก็...จะถูกต้องตามพฤตินัยด้วย"คำพูดนุ่มนวลแหบพร่าข้างๆหูของหญิงสาวตอนนี้ทำให้เธอตัวชาวาบทำอะไรไม่ถูกแต่รู้ว่าตอนนี้หน้าของเธอคงแดงก่ำเป็นลูกตำลึงแน่นอน"เอ่อ..อื้มมม.."ฟรานซ