เย็นของวัน
"สวัสดีค่ะคุณลอเลนโซ่เป็นยังไงบ้างคะ"
ลัลลลิลมาตรวจคนไข้เคสของเธอก่อนจะออกเวรที่ห้องผู้ป่วยวีไอพีวันนี้อาการเขาดูดีกว่าตอนที่มาเมื่อวานอย่างมาก
"เมื่อไรผมจะได้ออกจากที่นี่"
ลอเลนโซเปรยหางตามองหมอสาวร่างเล็กอย่างไม่สบอารมณ์เพราะเขารู้สึกเบื่อห้องนี้จะแย่
"อีกคงสักสองสามวันค่ะ.. แล้วนี่คุณยังไม่ได้ทานยาอีกเหรอคะ"
ลัลลลิลเหลือบไปเห็นแก้วที่ใส่ยาอยู่บนหัวโต๊ะสองแก้วเท่ากับว่าวันนี้ชายหนุ่มยังไม่ได้กินยาเลยสักมื้อ
"ผมไม่อยากกิน"
ลอเลนโซส่งสายตาอวดดีมายังหมอสาวเขาไม่ชอบให้ใครมาออกคำสั่ง
"ถ้าไม่กินยาคุณก็คงจะต้องอยู่โรงพยาบาลนานกว่าสามวันค่ะ"
ลัลลลิลเจอคนไข้มาหลายรูปแบบและรู้ว่าคนอย่างเขาต้องใช้ไม้ไหนจัดการเธอจึงบอกชายหนุ่มด้วยท่าทีขึงขัง
"ผมจะกลับแล้วหมอก็ไปตรวจผมที่บ้านเองละกันผมจ่ายเงินเพิ่มอยากได้เท่าไรก็ว่ามา"
ลอเลนโซส่งข้อเสนอให้หญิงสาวเยี่ยงคนเอาแต่ใจ
"อืมม.."
"โอ้ยย...ทำอะไรของคุณเนี่ย"
ลัลลลิลยื่นมือไปบิดข้อเท้าชายหนุ่มไปมาหน้าตาเฉยจนชายหนุ่มที่นอนเจ็บอยู่ร้องลั่น
"รู้สึกเป็นยังไงบ้างคะ"
หญิงสาวถามคนไข้ของเธอด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันเล็กๆ
"ปวดน่ะสิถามได้"
"ปวดก็ทานยาค่ะแล้วก็กรุณานอนพักด้วยนะคะ"
"โอ้ยย.."
"เดี๋ยวพรุ่งนี้หมอจะมาดูอาการคุณใหม่นะคะ"
ลัลลลิลบิดไปที่ข้อเท้าข้างที่ใส่เฝือกของชายหนุ่มอีกรอบพร้อมเดินออกไปด้วยท่าทีเคร่งขรึม
"...."
ลอเลนโซมองค้อนตามหลังหมอสาวด้วยอารมณ์แค้นเคืองยิ่งรู้ว่าเขาเอาชนะหมอสาวไม่ได้ก็ยิ่งโมโห
"ไม่คิดว่าน้องชายคุณฟรานจะนิสัยเสียแบบนี้เลยให้ตายสิ"
ลัลลลิลบ่นอุบส่ายหัวหน้าบึ้งตึงไม่พอใจที่ไม่คิดว่าน้องชายของฟรานซิสดูท่าจะนิสัยเสียอยู่พอตัวเธอไม่ชอบเอาเสียเลยประเภทคุณชายเอาแต่ใจแบบนี้
คฤหาสน์ฮันส์
"คุณย่าครับ"
ฟรานซิสเดินเข้ามาในบ้านโดยมีบอดี้การ์พยุงตัวเดินพาเขาดข้ามานั่งที่โซฟา
"อ้าวตาใหญ่นี่หายดีแล้วเหรอถึงกลับมา"
เฮเลนคิดว่าหลานชายคนโตของเธอจะรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานกว่านี้เสียอีก
"ขอหมอออกมาก่อนน่ะครับไม่อยากอยู่ที่นั่นนาน"
"แล้วนี่"
เฮเลนมองไปหญิงสาวร่างเล็กใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักที่กำลังเดินตามฟรานซิสเข้ามานั่งด้านใน
"สวัสดีค่ะหนูปลายฝนค่ะ"
ปลายฝนยกมือสวัสดีหญิงชราตรงหน้าอย่างนอบน้อมเธอก็ยังคิดไม่ออกว่าจะแนะนำตัวเองกับย่าของชายหนุ่มอย่างไรดี
"เธอเป็นภรรยาผมครับแล้วนั่นก็ลูกชายผมต้นหนาว"
ฟรานซิสชิงแนะนำตัวหญิงสาวตัดหน้าเธอเอาไว้ก่อนพรางชี้ไปที่อีธานที่กำลังจูงลูกชายของเขาเข้ามาด้านใน
"หา... ทำไมย่าไม่เห็นรู้เรื่องนี้เลยล่ะ"
เฮเลนมีสีหน้าตกใจเป็นอย่างมากทั้งยังจ้องหน้าปลายฝนและต้นหนาวสลับไปมาไม่ละสายตา
"คือผมก็ไม่ได้บอกใครเหมือนกันครับ"
"แดดดี๊..."
ต้นหนาววิ่งตัวป้อมเข้ามาหาคนเป็นพ่อ
"แดดดี๊เจ็บมานั่งกับมามี๊นะครับ"
ปลายฝนต้องกันตัวลูกชายเธอเอาไว้ก่อนเพราะกลัวว่าต้นหนาวจะเผลอไปทำพ่อของเจ้าตัวเจ็บเสียก่อน
"โอ้ย..ตายแล้วนี่เหลนฉันหรือเนี่ยหน้าตาแกะตาใหญ่มาเลยนะมาหาคุณทวดนะครับต้นหนาว"
เฮเลนรู้สึกถูกชะตากับต้นหนาวเหลนคนแรกของเธอมากเพราะเหมือนกับฟรานซิสตอนเด็กๆไม่มีผิดทั้งยังเรียกเด็กชายตัวกลมให้เข้าไปหา
"จุนทวด"
เด็กชายหันไปมองคนเป็นแม่เช่นเดิมเมื่อคนเป็นแม่พยักหน้าอนุญาตเด็กชายจึงเดินเข้าไปหาเฮเลนอย่างว่าง่าย
"อ่ะ..จ้าๆจุนทวดก็จุนทวด..ฮ่าๆๆ...นี่เนื้อแน่นเหลือเกินนะเรา"
เฮเลนอุ้มเด็กชายมานั่งบนตักทั้งยังขบขันกับคำพูดคำจาที่ไร้เดียงสาของเหลนชายตัวกลมของเธออีกด้วย
"กินสารพัดเลยล่ะครับ"
ฟรานซิสยื่นมือมากุมลูกชายของเขาเบาๆ
"แล้วทำไมไม่มีข่าวว่าเราแต่งงานเลยล่ะ.."
"เราอยู่กันแบบนี้ก็สบายดีไม่มีปัญหาอะไรนี่ครับ"
"แล้วพ่อกับแม่หนูปลายฝนไม่ว่าอะไรหรือยังไง"
เรื่องที่เฮเลนกังวลก็คือพ่อแม่ของหญิงสาวจะว่าอย่างไรหากอยู่กันโดยไม่มีพิธีอะไรให้เกียรติฝ่ายหญิงแบบนี้
"เอ่อ..คือหนูไม่มีพ่อแม่หรอกค่ะคุณย่า"
ปลายฝนหลบสายตาลงเล็กน้อยเวลาพูดว่าตัวเองเหลือตัวคนเดียวทีไรมันรู้สึกเหงาในใจอยู่ทุกที
"หา.."
เรื่องนี้ยิ่งทำให้เฮเลนตกใจมากขึ้นไปอีก
"เธอเป็นลูกสาวตระกูลพลพิรัชชัยฤกษ์น่ะครับ"
"อ้าวเหรอข่าวที่ว่าตระกูลไฮโซชื่อนี้เหลือทายาทคนเดียวก็คือหนูน่ะสินะ"
"ค่ะคุณย่า"
"อะ..อ้าวไม่เป็นไรไม่เป็นไรตอนนี้ก็มาเป็นหลานย่าอีกคนแล้วนะมีอะไรก็คุยกับย่าได้"
เฮเลนเข้าใจว่าคนที่เหลือตัวคนเดียวมันเป็นอย่างไรเธอจึงเอื้อมมือไปโอบบ่าปลายฝนเข้ามากอดอย่างปลอบใจ
"ขอบคุณค่ะคุณย่า...คุณย่าน่ารักที่สุดเลยค่ะ"
ปลายฝนรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกเธอจึงเอื้อมมือทั้งสองโอบกอดคุณย่าของชายหนุ่มทั้งยังชมว่าเธอน่ารักอีกด้วย
"แหม...ปากหวานซะด้วยนะเรา"
"จุนย่าน่ารัด"
ต้นหนาวพูดตามคนเป็นแม่พร้อมเงยหน้ามองคนที่อุ้มเจ้าตัวอยู่ตาแป๋ว
"จ้าๆ..เราต้องเรียกว่าคุณทวดแล้วล่ะ"
เฮเลนพยักหน้าให้เหลนชายตัวกลมที่ช่างจ้อเสียเหลือเกิน
"ฮ่าๆๆ.."
ฟรานซิสหัวเราะขบขันคนเป็นลูกทั้งยังยิ้มกว้างที่เห็นปลายฝนเข้ากับคุณย่าของเขาได้ดี
"แล้วคุณย่ากับเจ้าเล็กมากะทันหันแบบนี้มีอะไรรึเปล่าครับ"
"ก็เห็นข่าวว่าเรากำลังมีปัญหากับบริษัทคู่แข่งแล้วเจ้าเล็กก็รบเร้าอยากจะมาที่นี่ย่าก็เลยมากะทันหันไม่ได้ทันบอกก่อนเลย"
อันที่จริงเห็นข่าวว่าบริษัทของฟรานซิสมีปัญหาเธอก็ว่าจะกลับมาเหมือนกันแต่ที่ต้องรวดเร็วขนาดนี้เพราะเจ้าหลานชายคนเล็กของเธอดันรบเร้าอยากจะกลับมาที่ไทยเร็วๆจนเธอเองก็งงอยู่เหมือนกันแต่ก็พากันกลับมากะทันหันตามความคิดของลอเลนโซ
"อ๋อ.. ครับ"
ฟรานซิสพยักหน้าเบาๆ
"หนูปลายพาพี่เค้าไปพักที่ห้องก่อนเถอะเดี๋ยวย่าขอเล่นกับต้นหนาวสักหน่อยเดี๋ยวจะเอาไปคืน"
เฮเลนดูท่าหลานชายเธอคงจะอาการไม่ดีขึ้นมากตอนนี้จึงอยากให้เขาได้พักเสียก่อนส่วนทางนี้เธอก็ขอเล่นกับเหลนชายที่เพิ่งรู้ว่ามีเขาในตอนสองขวบแล้วเสียให้ชื่นใจ
"ค่ะคุณย่า..ต้นหนาวอยู่กับคุณทวดไม่ซนนะครับ"
"ฮับมี๊"
ปลายฝนกำชับลูกชายของเธอก่อนจะเดินพยุงฟรานซิสขึ้นบนห้องไป
"นี่คุณทำไมไปบอกคุณย่าแบบนั้น"
ปลายฝนนั่งลงข้างๆกับฟรานซิสที่นอนอยู่บนเตียงทั้งยังถามเขายังสงสัยว่าทำไมจึงตอบคุณย่าของเขาเรื่องเธอไปอย่างนั้น
"ขี้เกียจอธิบายอะไรยืดยาวกลัวว่าคุณย่าจะช็อคกับเรื่องที่เธอทำซะเปล่าๆ"
ฟรานซิสมองหน้าหญิงสาวที่ดูจะเป็นกังวลกับเรื่องของตัวเองอยู่มากที่เขาตอบคุณย่าเขาไปแบบนั้นเพราะจะได้ไม่ต้องเกิดคำถามอะไรต่อ
"ยังไงก็ขอบคุณนะที่บอกท่านไปแบบนั้น"
"อืม..."
"แล้วนี่คุณหิวหรือเปล่าฉันจะไปทำข้าวต้มให้"
"ไม่ต้องเธอนอนเป็นเพื่อนฉันอยู่ที่นี่แหละเรื่องอาหารฉันสั่งให้อีธานบอกแม่ครัวที่บ้านเล็กให้จัดการแล้ว"
ฟรานซิสจับมือหญิงสาวเอาไว้พร้อมทั้งปิดเปลือกตาลงพักผ่อน
"ทำไมต้องให้ฉันนอนเป็นเพื่อนคุณด้วยคะ"
ปลายฝนมีสีหน้าสงสัย
"ก็เผื่อฉันเกิดเป็นไข้หรือเจ็บแผลขึ้นมาเธอจะได้ช่วยดูไง"
ฟรานซิสพูดทั้งที่ยังหลับตาอยู่
"ก็ได้ค่ะ"
ปลายฝนยอมนอนอยู่ข้างๆเขาอย่างว่าง่ายโดยที่มือของเขาและเธอยังกอบกุมกันอยู่
" .... "ฟรานซิสยกยิ้มอย่างพอใจที่หญิงสาวเชื่อฟังเขาแต่โดยดี"คุณฟรานคะเรื่องคนร้ายที่ทำร้ายคุณทำไมคุณไม่ให้ตำรวจจัดการล่ะคะ"เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ปลายฝนสงสัยว่าทำไมชายหนุ่มไม่ให้ตำรวจจัดการเลือกที่จะไม่พูดว่ารู้ตัวคนร้าย"คนแบบนั้นต้องเจอคนอย่างฉัน...ฉันจะนอนแล้วเธออย่าถามอะไรอีกเลย"ฟรานซิสคิดว่ากฏหมายน่าจะทำอะไรคนอย่าพิรัชไม่ได้เขาหายเจ็บเมื่อไรเมื่อนั้นคือวันที่ซวยที่สุดของพิรัช"ค่ะ"ปลายฝนนอนมองหน้าคนที่กำลังหลับตาพริ้มอย่างพินิจพิจารณาถามตัวเองว่าเธอเป็นห่วงอะไรเขาขนาดนั้นในวันที่โดนลอบทำร้ายทั้งคำพูดจากลัลลลินยังแวบเข้ามาในหัวว่าเธอตกหลุมรักเขาหรือยังแต่เธอก็ยังให้คำตอบที่แน่ชัดกับตัวเองไม่ได้ว่าตอนนี้เธอรู้สึกอย่างไรกับเขาเพราะพึ่งจะใกล้ชิดกันได้ไม่นานวันต่อมา08.30โรงพยาบาลxxx"โทรตามย่ามาทำไมแต่เช้า"เฮเลนต้องถ่อมาที่โรงพยาบาลแต่เช้าเพราะหลานชายของเธอรบเร้าให้เธอมาเป็นเด็กๆ"ผมอยากออกจากโรงพยาบาล.. เบื่ออ่ะครับคุณย่าเราจ้างหมอจ้างพยาบาลพิเศษไปรักษาที่บ้านก็ได้นี่"ลอเลนโซบ่นอู้อี้อ้อนคนเป็นย่าสุดฤทธิ์"เรานี่มันจริงๆเลยนะ... เดี๋ยวย่าจะไปคุยกับหมอให้"ด้วยความที่รั
เช้าวันต่อมา"คุณฟรานคะได้เวลาทำแผลแล้วค่ะ"ปลายฝนถือกล่องอุปกรณ์ทำแผลออกมาจากตู้หลังจากที่ฟรานซิสล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยแล้ว"อืม..""ถ้าเจ็บบอกนะคะ"ปลายฝนค่อยๆแกะผ้าพันแผลออกอย่างเบามือมากที่สุดในขณะที่ชายหนุ่มนั่งถอดเสื้อเหลือแต่กางเกงนอนตัวเดียวมีผ้าห่มคลุมขาอยู่กรายๆ"โอ้ยยย..""เจ็บเหรอคะ..."ฟรานซิสส่งเสียงร้องในขณะที่ปลายฝนกำลังแกผ้าพันแผลที่พันรอบเอวของเขาจนเธอนั้นหยุดชะงักเงยหน้ามามองเขาด้วยสีหน้าแววตาตกใจที่ทำเขาเจ็บ"เปล่า..แค่อยากแกล้งเธอรู้ไหมเธอน่ารักนะเวลาทำหน้าตกใจ"ฟรานซิสจ้องสายตาไปที่ดวงตาของหญิงสาวอมยิ้มหยอกเอินเธอเล่น"พูดแบบนี้จีบฉันเหรอคะ"ปลายฝนหลี่ตามองชายหนุ่มพร้อมละมือจากผ้าพันแผลจับไปที่พวงแก้มของเขาและค่อยๆยื่นหน้าไปใกล้ๆ".....""แดดดี๊..ฮับ.."เฮเลนอุ้มต้นหนาวเข้ามาในห้องฟรานซิสภาพตรงหน้าทำให้เธอกำลังจะก้าวเดินออกไปเงียบๆแต่ดูท่าเหลนชายของเธอจะทำบรรยากาศโรแมนติกของพ่อกับแม่พังซะแล้ว"เอ่อ..ย่าเข้ามาผิดเวลารึเปล่า...เมื่อกี้ย่าไม่เห็นอะไรเลยนะ..ไม่เห็นเลย"เฮเลนยิ้มแหยๆให้หลานทั้งสองที่อยู่บนเตียงทั้งเดินมานั่งที่โซฟาด้วยสีหน้าเจื่อนๆ"ไม่เนียนเลยนะครับ
"คุณดูแลคนไข้ด้วยวิธีนี้หรือไง"ลอเลนโซ่ส่งสายตาพิฆาตไปให้หมอสาว"ก็คุณไม่ยอมกินดีๆนี่คะ"ลัลลลินไม่ได้สนใจสายตาแข็งกร้าวของใช้หนุ่มแม้แต่น้อยเพราะเธอก็ทำหน้าที่ของเธอปกติ"เอามานี่ผมกินเอง"ลอเลนโซ่เห็นว่าหากเขาไม่ยอมกินดีๆจะต้องโดนหญิงสาวแกล้งอีกเป็นแน่จึงให้เธอเลื่อนโต๊ะทานอาหารเข้ามาใกล้ๆเขาแล้วเขาจะกินเองแต่โดยดี"..."ลัลลลินเลื่อนโต๊ะอาหารให้ชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วเธอจึงลงมานั่งที่โซฟาพร้อมหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านอย่างสบายอารมณ์อาทิตย์ต่อมาตอนนี้อาการของก็หายดีเกือบร้อยเปอร์เซ็นแล้วเขาจึงเข้าไปทำงานที่บริษัทตามปกติส่วนทางด้านลอเลนโซ่ก็ยังคงต้องให้ลัลลลิลบังคับกันกินข้าวกินยาอีกเช่นเคยเป็นเด็กๆ อาการฟกช้ำตามเนื้อตัวของเขาดีขึ้นมากแล้วที่ยังเหลืออาการบาดเจ็บก็คงจะเป็นแขนและขาที่ต้องใส่เฝือกเอาไว้จนกว่ากระดูกที่แตกจะประสานกันเป็นอย่างดีบริษัทxxx"ภัทรินทร์มีคนมาประกันตัวไปแล้วครับนายจะให้ทำยังไงต่อ"มอแกนรายงานความคืบหน้าที่เขาเพิ่งได้รู้มา"ปล่อยเธอไปก่อน"เรื่องภัทรินทร์ฟรานซิสไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่นักเขาพอจะรู้ว่าใครเป็นคนช่วยเธอตอนนี้เขาขอคิดบัญชีรวบยอดกับคนที่สั่งการเรื่องทั้งหมด
"โห่... หมอเค้าพูดกับคนไข้แบบนี้เหรอ"ลอเลนโซเบือนสายตามาหมอสาวอย่างไม่สบอารมณ์"เฉพาะคนไข้ที่สมองสามขวบอย่างคุณเท่านั้นแหละต้นหนาวยังจะพูดรู้เรื่องซะกว่าเลย"ลัลลลิลพูดจาแบบนี้กับคนไข้อย่างเขาเท่านั้นเพราะคนอย่างเขาพูดดีด้วยก็ไม่ค่อยจะเข้าไปในสมองเท่าไร"คุณเอาผมไปเปรียบเทียบกับหลานได้ยังไง""ก็มันจริงไหมล่ะ... เงียบปากแล้วกินข้าวไปเลย"ลัลลลิลเลื่อนโต๊ะวางถาดอาหารมาตรงหน้าชายหนุ่มทั้งยังมองค้อนเขาไปหนึ่งที"หึ่..."ลอเลนโซสบถอย่างอารมณ์เสีย"อีกสามวันฉันจะพาคุณไปผ่าเฝือกที่โรงพยาบาล""ผ่าที่นี่ไม่ได้หรือไง""ที่นี่มีแต่มีดทำครัวหรือคุณจะให้ฉันทำล่ะ""ชิ..ผ่าออกก็ดีจะได้โล่งซะที""ผ่าแล้วใส่ใหม่ค่ะไม่ใช่ผ่าแล้วผ่าเลย""หา...ใส่ทำไมอีกล่ะ"ลอเลนโซมีสีหน้าผิดหวัง"คุณคิดว่าแค่อาทิตย์กว่าๆกระดูกคุณจะหายเป็นปลิดทิ้งเลยหรือไงทำอย่างกับไม่เคยเจ็บตัว"ลัลลลิลรู้ว่าเขาเคยจะตัวอยู่บ่อยครั้งแต่ทำไมไม่อยากจะชินกับการรักษาเสียที"เฮ้อ.."ลอเลนโซถอนหายใจมองจานข้าวตรงหน้าด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายสนามบินxxx"ทำไมพีถึงกลับมาเข้าโรงพยาบาลได้อีก"ภูผานักธุรกิจหนุ่มวัย39ที่เป็นพี่ชายของพิรัชเขาร่วมหุ้นเปิด
20.00 น."ต้นหนาวมามี๊ใส่ชุดนี้สวยไหมครับ"เมื่อเลือกชุดของลัลลลิลได้ตอนนี้ก็เหลือเพียงชุดของเธอที่จะต้องมาตัดสินใจเลือกอีกครั้งบนเตียงนอนตอนนี้มีเธอและลูกชายอยู่เพียงสองคนเพราะฟรานซิสเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเธอจึงถามความเห็นของต้นหนาวว่าชุดที่เธอเลือกโอเคหรือไม่"ฉวยฮับ.."ต้นหนาวที่กำลังเล่นโมเดลรถแข่งง่วงหันมามองคนเป็นแม่ครู่หนึ่งแล้วจึงพยักหน้าหงึกหงัก"แล้วชุดนี่ล่ะครับ"ปลายฝนหยิบอีกชุดมาเทียบกับตัวของเธอให้ต้นหนาวเลือก"ฉวยฮับ.."เด็กชายตัวกลมพยักหน้าพร้อมหันไปเล่นโมเดลรถเช่นเดิม"หืมสวยทุกชุดเลยเหรองั้นมามี๊ยังไม่เลือกดีกว่ารอแดดดี๊เลือกให้ละกันเนอะ...ตอนนี้ต้นหนาวมาดูชุดที่แม่ซื้อให้ดีกว่า"ตอนนี้ปลายฝนไม่ค่อยจะเชื่อมนคำว่าสวยของต้นหนาวเสียแล้วเพราะดูท่าลูกชายของเธอจะห่วงเล่นมากกว่าจรีบให้เขาเลือกชุดของตัวเองก่อน"นี่..ชุดนี้หล่อไหมครับต้นหนาวชอบไหม"ปลายฝนหยิบชุดสูทของเด็กที่ซื้อมาประมาณสามชุดสามสีให้ลูกชายของเธอได้เลือกทีละชุด"อืม...ไม่ฮับ"ชุดแรกเป็นสีเทาเรียบๆแต่ดูท่าลูกชายเธอจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่จึงหยิบอีกชุดที่เป็นสีแดงหม่นขึ้นมา"ชุดนี้ล่ะ""ชอบฮับ.."ต้นหนาวพยักหน้าพร้อมเ
ครู่ต่อมา"ได้ยินว่าคุณจะหมั้น"ลอเลนโซ่ขอตัวจะทุกคนมาคุยกับเคลี่ที่ลานOutdoorของโรงแรมเพราะตอนนี้ที่นี่ค่อนข้างเงียบสงบเหมาะแก่การที่เขาจะเคลียร์ปัญหาหัวใจกับเธอที่เขาต้องรีบกลับมาที่นี่อย่างกะทันหันเพราะรู้ว่าเธอกลับมาเมืองไทยโดยที่ไม่บอกเขานั่นเอง"ค่ะ... เมื่อเจอคนที่ใช่ฉันก็อยากจะใช้ชีวิตครอบครัว""แต่คุณกลับมาโดยไม่ได้บอกผมก่อนคุณจงใจหนีผมกลับมา"ลอเลนโซ่พูดด้วยท่าทีน้อยใจ"ฉันไม่ได้หนีค่ะแต่เราจบกันไปแล้วฉันจะไปไหนจะทำอะไรมันก็ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องรับรู้"เคลี่เห็นว่าเรื่องนี้เธอไม่จำเป็นต้องบอกเขาเพราะเธอเลือกที่จะจบกับเขาตั้งแต่อยู่ที่เนเธอร์แลนด์แล้วและเธอก็ได้เจอคนที่เข้ากับเธอได้และเธอก็อยากสร้างครอบครัวร่วมกับเขา"ผมมันด้อยกว่าคู่หมั้นคุณตรงไหนทำไมระยะเวลาหลายปีที่ผมคบกับคุณขอคุณแต่งงานครั้งแล้วครั้งเล่าคุณไม่เคยจะตกลงแต่กับคนอื่นคบไม่กี่เดือนกลับจะหมั้นกันเสียอย่างนั้นลอเลนโซสบถออกมาอย่างไม่ยอมรับความจริงและน้อยใจ"ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าฉันจะไม่รักคุณนะคะแต่ฉันไม่เห็นว่าคนอย่างคุณจะมีความคิดที่โตพอจะเป็นหัวหน้าครอบครัวได้ฉันว่าฉันให้เวลาคุณมามากพอแล้วนะคะกับการพิสูจ
"....."ลอเลนโซยังคงนั่งนิ่งไม่ได้พูดอะไรเพราะเขาไม่มีอะไรจะปฏิเสธ"อย่าคิดว่าย่าไม่รู้ว่าแกต้องการจะประชดใครนะทำตัวเป็นเด็กแบบนี้คิดเหรอว่าจะมีใครเค้าเอาไปเป็นหัวหน้าครอบครัวหน่ะ"เฮเลนพอจะรู้ว่าหลานชายเธอทำไปด้วยเรื่องอะไรแต่ที่เธอโมโหมากๆก็คือไม่รู้ว่าทำไมหลานชายของเธอจะต้องดึงลัลลลิลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทั้งที่เธอก็ไม่รู้อิโหน่อิเหน่และผลที่มันจะตามมามันไม่ใช่ผลดีต่อลัลลลิลเลยสักนิดอีกหน่อยชีวิตของเธอก็ถูกจับตามองไปด้วยสื่ออีกอย่างหากวันนึงหลานชายเธอเปลี่ยนใจประกาศข่าวไม่แต่งงานหรือรักหรือเลิกอะไรกันก็เท่ากับว่าหญิงสาวเคยมีข่าวว่ามีแฟนแล้วแบบนี้ก็จะเป็นเหตุทำให้หญิงสาวเสียหายได้เธออยากจะรู้จริงๆว่าจะมีวันไหนที่หลานชายของเธอคิดอะไรที่มันรอบคอบสักนิดก่อนจะตัดสินใจทำอะไรลงไป"...."ลอเลนโซยอมรับว่าเรื่องเมื่อครู่เขาทำไปด้วยความสะใจและเพิ่งจะไตร่ตรองเรื่องปัญหาที่ตามมาของหญิงสาวได้เมื่อครู่นี้เอง"เราจะทำให้ย่าปวดหัวไปถึงไหนห้ะ"เป็นครั้งนี้ที่เธอดูจะโมโหหลานชายเธอเอามากๆเพราะไม่ได้สร้างปัญหาคนเดียวยังจะดึงคนอื่นมาเป็นปัญหาด้วยอีกปลายฝนเดินมาหาเพื่อนของเธอที่กำลังหลบมุมนักข่าวอยู่"
"ยังจะมาห่วงฉันอีกห่วงตัวเองก่อนเอาตัวมาบังแบบนั้นได้ยังไง"ฟรานซิสเอื้อมมือไปแตะใบหน้าของหญิงสาวเบาๆความรู้สึกของเขาตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงเธออย่างบอกไม่ถูกหากวันนี้เธอไม่ตื่นขึ้นมาจะเป็นอย่างไร"ฉันกลัวคุณตาย"ปลายฝนพูดตามความคิดของเธอในเวลานั้น"แล้วเธอไม่กลัวตัวเองตายหรือไง"ฟรานซิสเชื่อเธอเลยดูหญิงสาวพูดเข้าดูเธอเหมือนจะไม่ห่วงตัวเองเอาเสียเลย"ก็กลัว... แต่ตอนนั้นไม่ทันคิดนี่นา" ปลายฝนหลบสายตาลงเล็กน้อยเธอไม่ใช่ไม่กลัวแต่ตอนนั้นเธอเป็นห่วงเขามากกว่า"เธอเป็นแม่คนแล้วต้องคิดให้เยอะๆสิถ้าเธอเป็นอะไรไปต้นหนาวจะอยู่ยังไง""อยู่กับคุณไงคะ""ฉันไม่อยากเสียใครไปทั้งนั้นลูกฉันต้องมีแม่ฉันเป็นห่วงเธอนะคราวหน้าคราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกเข้าใจไหม"ฟรานซิสพูดด้วยท่าทีรู้สึกผิดที่ความบาดหมางของเขากับใครก็ยังไม่รู้มาทำให้เธอต้องโดนลูกหลงโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่"คุณเป็นห่วงฉันเหรอคะ"ปลายฝนถามด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ"อืม.. นอนพักผ่อนเถอะ"ฟรานซิสพยักหน้าทั้งสั่งให้เธอหยุดพูดเพราะอยากจะให้เธอพักผ่อนก่อนในตอนนี้"ต้นหนาวล่ะคะ"คนที่เธอจะอดห่วงไม่ได้ก็คือลูกชายของเธอนั่นเองจึงถามชายหนุ่มว่าตอนนี้ต้นหนาวนั้นอยู