วันต่อมา
10.00 น.
"ที่นี่มีที่สวยๆติดไร่แบบนี้ด้วยเหรอ"
ฟรานซิสนั่งอยู่ที่เพิงแคร่ไม้ที่มีหลังคามุงแฝกกับปลายฝนริมธารน้ำตกส่วนอีธานก็พาต้นหนาวเดินเล่นอยู่กับเหล่าบอดี้การ์ด
หญิงสาวรบเร้าชวนเขามาที่นี่ตั้งแต่เมื่อคืนให้เขายอมพาเธอและลูกเข้าป่ามา
ที่นี่เดินจากบ้านมาไกลพอสมควร..แต่ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และสวยงามก็มักจะอยู่ไกลหูไกลตาผู้คนเสมอเมื่อมาถึงแล้วค่อยหายเหนื่อยคุ้มค่ากับที่เสียเวลามาอยู่เหมือนกัน
"อืมม...ตอนเด็กๆเวลาคุณพ่อกับคุณแม่มาที่นี่ก็จะพากันมานั่งที่นี่ตลอด"
"แล้วนี่คุณใส่อะไรมาเต็มกระเป๋า"
ฟรานซิสว่าจะถามหญิงสาวตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอแบกเป้อะไรมาด้วยทั้งที่พวกอุปกรณ์ของต้นหนาวก็มีลูกน้องของเขาจัดการถือให้อยู่แล้ว
"ก็พวกเสื้อผ้าผ้าขนหนูแล้วก็พวกอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเวลามาที่นี่ก็เตรียมแบบนี้เป็นประจำ"
เธอมักจะพกของพวกนี้ติดตัวประจำเวลาเข้าป่าหรือไปไหนไกลๆเพราะทุกที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินขึ้นได้เสมอ
"รอบคอบจริงนะ"
"คุณลืมรึเปล่าฉันเรียนหมอนะคะรอบคอบปลอดภัยไว้ก่อนเสมอ"
ปลายฝนยกคิ้วทำหน้าทะเล้นใส่ชายหนุ่มทำให้เขาต้องใช้มือหนาผลักหัวเธอเล่นด้วยความหมั่นไส้เบาๆ
"น้ำตก... น้ำตก... เล่นน้ำ"
"ท่าจะชอบน้ำนะครับนายน้อย"
อีธานอุ้มต้นหนาวเอาเท้าไปจุ่มลงที่น้ำตกท่าว่าเด็กชายตัวกลมจะชอบมากดีดขาเสียจนน้ำกระจัดกระจายอารมณ์ดียกใหญ่
"คุณอีธาน"
บอดี้การ์ดหนุ่มที่ยืนเฝ้าอยู่รอบๆเมื่อเห็นว่ามีสิ่งผิดปกติจึงรีบวิ่งเข้ามารายงานอีธาน
"มีอะไร"
"...."
บอดี้การ์ดหนุ่มกระซิบกระซาบกับอีธานว่าเขาสังเกตุเห็นคนกำลังมุ่งหน้ากันเข้ามาที่นี่ท่าทางไม่น่าไว้ใจ
"หืมม.."
อีธานรีบอุ้มต้นหนาวแล้วรีบเดินกลับไปที่เพิงนั่งพักของเจ้านายของเขาแต่ยังไม่ทันได้เดินถึงก็เกิดเสียงปืนขึ้นก่อนเขาจึงต้องก้มตัวลง
ปั้งงง
"อ๊ายยย... อะไรกัน"
ปลายฝนกรีดร้องตกใจทั้งยังรีบเก็บของเธอกระโดดลงจากเพิงพักพร้อมฟรานซิสอย่างรวดเร็ว
"อีธานพาลูกฉันกับปลายฝนออกไปจากที่นี่ตรงนี้ฉันจะยิงสะกัดไว้เอง"
ฟรานซิสเห็นคนร้ายเกือบสิบคนเดินกรูเข้ามาด้านในเขาจึงสั่งให้อีธานพาลูกของเขาและหญิงสาวออกไปกันก่อนเขาจะคุ้มกันอยู่ทางนี้
"ไปครับคุณปลาย"
อีธานรีบพาปลายฝนเดินออกไปจากจุดนี้อย่างรวดเร็วในขณะที่เสียงปืนของการประทะกันยังดังอยู่ต่อเนื่องต้นหนาวเองก็เริ่มงอแงเพราะเกิดเสียงดังเกินไป
ปั้งงงงงง
". อ๊ายยย.. "
ในขณะที่ปลายฝนวิ่งหนีไปพร้อมกับอีธานและบอดี้การ์ดอีกหนึ่งคนก็มีคนตามมายิงพวกเธอดีที่บอดี้การ์ดอีกสามคนตามมาช่วยซึ่งน่าจะเป็นคำสั่งของฟรานซิสเท่ากับว่าตอนนี้ฟรานซิสรับมือกับคนพวกนั้นอยู่คนเดียว
"วิ่งครับ"
อีธานเห็นหญิงสาวชะงักงันเขาจึงตะโกนสั่งให้เธอวิ่ง
"เค้าคนเดียวจะเอาอยู่ได้ไง"
ปลายฝนนึกเป็นห่วงคนที่รับมือกับคนร้ายอยู่ที่ธารน้ำตก
"คำสั่งก็คือคำสั่งครับ"
อีธานรู้ว่าเจ้านายของเขาเอาตัวรอดได้และตอนนี้คนที่เขาต้องคุ้มกันก็คือเธอและนายน้อยของเขาให้ออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็วตามคำสั่ง
ตุ้บบ.. ตั้บบบ.. พลั้กกก..
"โอ้ยยย.. "
ฟรานซิสจัดการคนทั้งหมดจนคนพวกนั้นเหลือคนเดียวอยากจะรู้นักว่าไอ้คนที่คิดจะทำร้ายเขาปิดหน้าปิดตาอยู่นี่มันคือใคร
" พวกแกเป็นใคร"
"คนที่เกลียดแกมากๆไงล่ะ"
"ทำตัวเป็นหมาลอบกัดแบบนี้มันไม่เสียศักดิ์ศรีไปหน่อยเหรอ"
ฟรานซิสได้ยินเสียงก็ไม่ต้องเดาเพราะว่าเขาพึ่งมีคดีกับคนๆนี้อยู่หมาดๆนั่นเอง
"นาทีนี้ไม่สนอะไรทั้งนั้นได้เอาเลือดหัวแกออกเป็นพอ"
"อย่าพูดมากเสียเวลา"
ตุ้บบ.. ตั้บบบ..ๆๆๆ
ปั้งงงงง..
"คุณอีธานพาต้นหนาวออกไปให้เร็วที่สุดไม่ต้องห่วงฉัน"
ปลายฝนหยิบปืนจากอีธานมายิงสะกัดโจรเอาไว้และสั่งให้เหล่าบอดี้การ์ดคุ้มกันอีธานและลูกของเธออกไปส่วนเธอก็วิ่งกลับไปช่วยฟรานซิสอย่างรวดเร็ว
ปั้งงงๆๆๆ
"คุณปลาย..คุณปลายยย..."
"มี๊..ฮ้าบบ..ฮือๆๆ.."
อีธานแทบหัวเสียที่ปลายฝนไม่ฟังอะไรเอาเสียเลยเขาเองก็จะเข้าไปช่วยเธอตอนนี้ไม่ได้หวังว่าเธอจะเอาตัวรอดได้เพราะเขาจะต้องรักษาชีวิตนายน้อยของเขาเอาไว้ก่อน
"เงียบนะครับนายน้อยผมจะไม่ปล่อยให้นายน้อยเป็นอะไร"
อีธานรีบวิ่งไปพร้อมกับบอดี้การ์ดอย่างรวดเร็วหมายจะออกไปข้างนอกป่าได้อย่างไวจะได้ประสานงานกับตำรวจให้มาช่วยทางนี้อีกแรง
"คุณฟราน"
"ปลายฝน.."
ฟรานซิสที่กำลังต่อสู้อยู่กับพิรัชจนพิรัชล้มลงเขาได้ยินเสียงปลายฝนจึงรีบหันกลับไป
ปั้งงงง..
"โอ้ยยย..."
ด้วยความไม่ระวังและห่วงหญิงสาวเขาจึงถูกพิรัชยิงเข้าที่เอวจนล้มลง
"คุณฟราน.."
ปั้งงงงๆ
"โอ้ยยย..."
เมื่อปลายฝนเห็นเช่นนั้นจึงเล็งปืนไปที่คนที่ทำร้ายฟรานซิสจนมันแน่นิ่งไปและเธอจึงรีบเข้ามาพยุงฟรานซิสให้หนีคนพวกนั้นที่ดูท่าว่าจะลุกขึ้นมาจากอาการสลบได้อีก
"คุณฟรานมาทางนี้ค่ะ"
"โอ้ยย..เธอกลับมาทำไม"
ฟรานซิสไม่พอใจนักที่เธอกลับมาเพราะกลัวว่าเธอจะเป็นอันตราย
"มาช่วยคุณไงคะอย่าพึ่งพูดเลยหนีก่อน"
"ให้ตามไปไหมครับ"
คนร้ายที่พึ่งฟื้นจากอาการสลบลุกขึ้นมาพยุงพิรัชที่ท่าจะโดนยิงเข้าหน้าท้องและขาเต็มๆ
"ไม่ต้อง..พาฉันไปหาหมอก่อนสิวะ"
พิรัชต้องละมือก่อนไม่อย่างนั้นตัวเขาเองที่จะต้องตาย
"เข้าไปข้างในค่ะ...พวกนั้นน่าจะไม่ตามมาแล้ว"
ปลายฝนรีบพยุงชายหนุ่มเข้ามาในถ้ำให้เขาได้นั่งพักพร้อมทั้งมองซ้ายมองขวาว่าจะมีคนตามมาหรือไม่เมื่อไม่เห็นก็โล่งใจ
"โอ้ยยยย..."
"เลือดเต็มเลยขอฉันดูแผลก่อนนะคะ"
ปลายฝนรีบเลิกเสื้อของชายหนุ่มขึ้นดูว่าแผลของเขาที่โดนยิงเป็นอย่างไรบ้าง
"อืม...โอ้ย."
"เฮ้อ..แผลยาวอยู่เหมือนกันแต่ก็ดีที่กระสุนไม่ได้ฝัง"
"ออกไปได้ฉันจะฆ่ามัน"
ฟรานซิสพูดอย่างคับแค้นใจ
"อย่าพึ่งพูดเลยค่ะฉันจะทำแผลให้"
ปลายฝนรีบเปิดกระเป๋าหยิบกล่องปฐมพยาบาลออกมาทำแผลให้ชายหนุ่มเบื้องต้นไปก่อน
ไร่เรือนงาม"เรื่องมันก็เป็นแบบนี้ครับคุณตำรวจ"อีธานออกมาจากป่าได้ก็ประสานงานกับตำรวจทันทีจนตอนนี้รถตำรวจมาจอดที่ไร่เรือนงามกันเต็มไปหมดทั้งยังมีรถพยาบาลมาคอยสแตนบายเอาไว้หากเจอใครได้รับบาดเจ็บจึงจะได้ช่วยเหลือกันได้อย่างรวดเร็ว"ยังไงเดี๋ยวพวกผมจะออกตามหาพวกเค้าทั้งสองให้เร็วที่สุด""ฝากด้วยนะครับคุณตำรวจ"อีธานต้องฝากตำรวจท้องที่ที่นี่เพราะตำรวจจะชำนาญกับป่าที่นี่มากกว่าเขาและเขาเองก็ต้องคอยดูแลต้นหนาว18.30 น."นี่มันก็จะมืดแล้วทำไมยังไม่มีคนมาตามหานะ"ปลายฝนนั่งหน้ามุ่ยโดยมีฟรานซิสนอนอยู่ที่ตักรู้สึกร้อนใจที่ไม่มีใครมาตามหาพวกเธอเสียทีตอนนี้หน้าตาของฟรานซิสก็เริ่มซีดเซียวมากขึ้นไปทุกทีจนเธอเริ่มใจไม่ดี"เดี๋ยวอีธานก็ให้คนมาตามหาคุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก"ฟรานซิสพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าเขาเชื่อว่าอีธานคงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเขาและเธอเป็นแน่"คุณว่าคุณอีธานจะพาลูกเราออกไปปลอดภัยไหม"ปลายฟ้าถามฟรานซิสด้วยสีหน้าเป็นกังวล"อืม... ผมเชื่อมืออีธาน""ถ้าคุณเชื่อฉันก็เชื่อ...นอนพักเถอะดูสิหน้าซีดเซียวหมดแล้ว""อืมม""คุณปลายครับ"ปลายฝนได้ยินใครบางคนเรียกชื่อเธอจึงรีบชะโงกหน้าไปมอง"คุณต
เย็นของวัน"สวัสดีค่ะคุณลอเลนโซ่เป็นยังไงบ้างคะ"ลัลลลิลมาตรวจคนไข้เคสของเธอก่อนจะออกเวรที่ห้องผู้ป่วยวีไอพีวันนี้อาการเขาดูดีกว่าตอนที่มาเมื่อวานอย่างมาก"เมื่อไรผมจะได้ออกจากที่นี่"ลอเลนโซเปรยหางตามองหมอสาวร่างเล็กอย่างไม่สบอารมณ์เพราะเขารู้สึกเบื่อห้องนี้จะแย่"อีกคงสักสองสามวันค่ะ.. แล้วนี่คุณยังไม่ได้ทานยาอีกเหรอคะ"ลัลลลิลเหลือบไปเห็นแก้วที่ใส่ยาอยู่บนหัวโต๊ะสองแก้วเท่ากับว่าวันนี้ชายหนุ่มยังไม่ได้กินยาเลยสักมื้อ"ผมไม่อยากกิน"ลอเลนโซส่งสายตาอวดดีมายังหมอสาวเขาไม่ชอบให้ใครมาออกคำสั่ง"ถ้าไม่กินยาคุณก็คงจะต้องอยู่โรงพยาบาลนานกว่าสามวันค่ะ"ลัลลลิลเจอคนไข้มาหลายรูปแบบและรู้ว่าคนอย่างเขาต้องใช้ไม้ไหนจัดการเธอจึงบอกชายหนุ่มด้วยท่าทีขึงขัง"ผมจะกลับแล้วหมอก็ไปตรวจผมที่บ้านเองละกันผมจ่ายเงินเพิ่มอยากได้เท่าไรก็ว่ามา"ลอเลนโซส่งข้อเสนอให้หญิงสาวเยี่ยงคนเอาแต่ใจ"อืมม..""โอ้ยย...ทำอะไรของคุณเนี่ย"ลัลลลิลยื่นมือไปบิดข้อเท้าชายหนุ่มไปมาหน้าตาเฉยจนชายหนุ่มที่นอนเจ็บอยู่ร้องลั่น"รู้สึกเป็นยังไงบ้างคะ"หญิงสาวถามคนไข้ของเธอด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันเล็กๆ"ปวดน่ะสิถามได้""ปวดก็ทานยาค่ะแล้วก็กร
" .... "ฟรานซิสยกยิ้มอย่างพอใจที่หญิงสาวเชื่อฟังเขาแต่โดยดี"คุณฟรานคะเรื่องคนร้ายที่ทำร้ายคุณทำไมคุณไม่ให้ตำรวจจัดการล่ะคะ"เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ปลายฝนสงสัยว่าทำไมชายหนุ่มไม่ให้ตำรวจจัดการเลือกที่จะไม่พูดว่ารู้ตัวคนร้าย"คนแบบนั้นต้องเจอคนอย่างฉัน...ฉันจะนอนแล้วเธออย่าถามอะไรอีกเลย"ฟรานซิสคิดว่ากฏหมายน่าจะทำอะไรคนอย่าพิรัชไม่ได้เขาหายเจ็บเมื่อไรเมื่อนั้นคือวันที่ซวยที่สุดของพิรัช"ค่ะ"ปลายฝนนอนมองหน้าคนที่กำลังหลับตาพริ้มอย่างพินิจพิจารณาถามตัวเองว่าเธอเป็นห่วงอะไรเขาขนาดนั้นในวันที่โดนลอบทำร้ายทั้งคำพูดจากลัลลลินยังแวบเข้ามาในหัวว่าเธอตกหลุมรักเขาหรือยังแต่เธอก็ยังให้คำตอบที่แน่ชัดกับตัวเองไม่ได้ว่าตอนนี้เธอรู้สึกอย่างไรกับเขาเพราะพึ่งจะใกล้ชิดกันได้ไม่นานวันต่อมา08.30โรงพยาบาลxxx"โทรตามย่ามาทำไมแต่เช้า"เฮเลนต้องถ่อมาที่โรงพยาบาลแต่เช้าเพราะหลานชายของเธอรบเร้าให้เธอมาเป็นเด็กๆ"ผมอยากออกจากโรงพยาบาล.. เบื่ออ่ะครับคุณย่าเราจ้างหมอจ้างพยาบาลพิเศษไปรักษาที่บ้านก็ได้นี่"ลอเลนโซบ่นอู้อี้อ้อนคนเป็นย่าสุดฤทธิ์"เรานี่มันจริงๆเลยนะ... เดี๋ยวย่าจะไปคุยกับหมอให้"ด้วยความที่รั
เช้าวันต่อมา"คุณฟรานคะได้เวลาทำแผลแล้วค่ะ"ปลายฝนถือกล่องอุปกรณ์ทำแผลออกมาจากตู้หลังจากที่ฟรานซิสล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยแล้ว"อืม..""ถ้าเจ็บบอกนะคะ"ปลายฝนค่อยๆแกะผ้าพันแผลออกอย่างเบามือมากที่สุดในขณะที่ชายหนุ่มนั่งถอดเสื้อเหลือแต่กางเกงนอนตัวเดียวมีผ้าห่มคลุมขาอยู่กรายๆ"โอ้ยยย..""เจ็บเหรอคะ..."ฟรานซิสส่งเสียงร้องในขณะที่ปลายฝนกำลังแกผ้าพันแผลที่พันรอบเอวของเขาจนเธอนั้นหยุดชะงักเงยหน้ามามองเขาด้วยสีหน้าแววตาตกใจที่ทำเขาเจ็บ"เปล่า..แค่อยากแกล้งเธอรู้ไหมเธอน่ารักนะเวลาทำหน้าตกใจ"ฟรานซิสจ้องสายตาไปที่ดวงตาของหญิงสาวอมยิ้มหยอกเอินเธอเล่น"พูดแบบนี้จีบฉันเหรอคะ"ปลายฝนหลี่ตามองชายหนุ่มพร้อมละมือจากผ้าพันแผลจับไปที่พวงแก้มของเขาและค่อยๆยื่นหน้าไปใกล้ๆ".....""แดดดี๊..ฮับ.."เฮเลนอุ้มต้นหนาวเข้ามาในห้องฟรานซิสภาพตรงหน้าทำให้เธอกำลังจะก้าวเดินออกไปเงียบๆแต่ดูท่าเหลนชายของเธอจะทำบรรยากาศโรแมนติกของพ่อกับแม่พังซะแล้ว"เอ่อ..ย่าเข้ามาผิดเวลารึเปล่า...เมื่อกี้ย่าไม่เห็นอะไรเลยนะ..ไม่เห็นเลย"เฮเลนยิ้มแหยๆให้หลานทั้งสองที่อยู่บนเตียงทั้งเดินมานั่งที่โซฟาด้วยสีหน้าเจื่อนๆ"ไม่เนียนเลยนะครับ
"คุณดูแลคนไข้ด้วยวิธีนี้หรือไง"ลอเลนโซ่ส่งสายตาพิฆาตไปให้หมอสาว"ก็คุณไม่ยอมกินดีๆนี่คะ"ลัลลลินไม่ได้สนใจสายตาแข็งกร้าวของใช้หนุ่มแม้แต่น้อยเพราะเธอก็ทำหน้าที่ของเธอปกติ"เอามานี่ผมกินเอง"ลอเลนโซ่เห็นว่าหากเขาไม่ยอมกินดีๆจะต้องโดนหญิงสาวแกล้งอีกเป็นแน่จึงให้เธอเลื่อนโต๊ะทานอาหารเข้ามาใกล้ๆเขาแล้วเขาจะกินเองแต่โดยดี"..."ลัลลลินเลื่อนโต๊ะอาหารให้ชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วเธอจึงลงมานั่งที่โซฟาพร้อมหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านอย่างสบายอารมณ์อาทิตย์ต่อมาตอนนี้อาการของก็หายดีเกือบร้อยเปอร์เซ็นแล้วเขาจึงเข้าไปทำงานที่บริษัทตามปกติส่วนทางด้านลอเลนโซ่ก็ยังคงต้องให้ลัลลลิลบังคับกันกินข้าวกินยาอีกเช่นเคยเป็นเด็กๆ อาการฟกช้ำตามเนื้อตัวของเขาดีขึ้นมากแล้วที่ยังเหลืออาการบาดเจ็บก็คงจะเป็นแขนและขาที่ต้องใส่เฝือกเอาไว้จนกว่ากระดูกที่แตกจะประสานกันเป็นอย่างดีบริษัทxxx"ภัทรินทร์มีคนมาประกันตัวไปแล้วครับนายจะให้ทำยังไงต่อ"มอแกนรายงานความคืบหน้าที่เขาเพิ่งได้รู้มา"ปล่อยเธอไปก่อน"เรื่องภัทรินทร์ฟรานซิสไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่นักเขาพอจะรู้ว่าใครเป็นคนช่วยเธอตอนนี้เขาขอคิดบัญชีรวบยอดกับคนที่สั่งการเรื่องทั้งหมด
"โห่... หมอเค้าพูดกับคนไข้แบบนี้เหรอ"ลอเลนโซเบือนสายตามาหมอสาวอย่างไม่สบอารมณ์"เฉพาะคนไข้ที่สมองสามขวบอย่างคุณเท่านั้นแหละต้นหนาวยังจะพูดรู้เรื่องซะกว่าเลย"ลัลลลิลพูดจาแบบนี้กับคนไข้อย่างเขาเท่านั้นเพราะคนอย่างเขาพูดดีด้วยก็ไม่ค่อยจะเข้าไปในสมองเท่าไร"คุณเอาผมไปเปรียบเทียบกับหลานได้ยังไง""ก็มันจริงไหมล่ะ... เงียบปากแล้วกินข้าวไปเลย"ลัลลลิลเลื่อนโต๊ะวางถาดอาหารมาตรงหน้าชายหนุ่มทั้งยังมองค้อนเขาไปหนึ่งที"หึ่..."ลอเลนโซสบถอย่างอารมณ์เสีย"อีกสามวันฉันจะพาคุณไปผ่าเฝือกที่โรงพยาบาล""ผ่าที่นี่ไม่ได้หรือไง""ที่นี่มีแต่มีดทำครัวหรือคุณจะให้ฉันทำล่ะ""ชิ..ผ่าออกก็ดีจะได้โล่งซะที""ผ่าแล้วใส่ใหม่ค่ะไม่ใช่ผ่าแล้วผ่าเลย""หา...ใส่ทำไมอีกล่ะ"ลอเลนโซมีสีหน้าผิดหวัง"คุณคิดว่าแค่อาทิตย์กว่าๆกระดูกคุณจะหายเป็นปลิดทิ้งเลยหรือไงทำอย่างกับไม่เคยเจ็บตัว"ลัลลลิลรู้ว่าเขาเคยจะตัวอยู่บ่อยครั้งแต่ทำไมไม่อยากจะชินกับการรักษาเสียที"เฮ้อ.."ลอเลนโซถอนหายใจมองจานข้าวตรงหน้าด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายสนามบินxxx"ทำไมพีถึงกลับมาเข้าโรงพยาบาลได้อีก"ภูผานักธุรกิจหนุ่มวัย39ที่เป็นพี่ชายของพิรัชเขาร่วมหุ้นเปิด
20.00 น."ต้นหนาวมามี๊ใส่ชุดนี้สวยไหมครับ"เมื่อเลือกชุดของลัลลลิลได้ตอนนี้ก็เหลือเพียงชุดของเธอที่จะต้องมาตัดสินใจเลือกอีกครั้งบนเตียงนอนตอนนี้มีเธอและลูกชายอยู่เพียงสองคนเพราะฟรานซิสเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเธอจึงถามความเห็นของต้นหนาวว่าชุดที่เธอเลือกโอเคหรือไม่"ฉวยฮับ.."ต้นหนาวที่กำลังเล่นโมเดลรถแข่งง่วงหันมามองคนเป็นแม่ครู่หนึ่งแล้วจึงพยักหน้าหงึกหงัก"แล้วชุดนี่ล่ะครับ"ปลายฝนหยิบอีกชุดมาเทียบกับตัวของเธอให้ต้นหนาวเลือก"ฉวยฮับ.."เด็กชายตัวกลมพยักหน้าพร้อมหันไปเล่นโมเดลรถเช่นเดิม"หืมสวยทุกชุดเลยเหรองั้นมามี๊ยังไม่เลือกดีกว่ารอแดดดี๊เลือกให้ละกันเนอะ...ตอนนี้ต้นหนาวมาดูชุดที่แม่ซื้อให้ดีกว่า"ตอนนี้ปลายฝนไม่ค่อยจะเชื่อมนคำว่าสวยของต้นหนาวเสียแล้วเพราะดูท่าลูกชายของเธอจะห่วงเล่นมากกว่าจรีบให้เขาเลือกชุดของตัวเองก่อน"นี่..ชุดนี้หล่อไหมครับต้นหนาวชอบไหม"ปลายฝนหยิบชุดสูทของเด็กที่ซื้อมาประมาณสามชุดสามสีให้ลูกชายของเธอได้เลือกทีละชุด"อืม...ไม่ฮับ"ชุดแรกเป็นสีเทาเรียบๆแต่ดูท่าลูกชายเธอจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่จึงหยิบอีกชุดที่เป็นสีแดงหม่นขึ้นมา"ชุดนี้ล่ะ""ชอบฮับ.."ต้นหนาวพยักหน้าพร้อมเ
ครู่ต่อมา"ได้ยินว่าคุณจะหมั้น"ลอเลนโซ่ขอตัวจะทุกคนมาคุยกับเคลี่ที่ลานOutdoorของโรงแรมเพราะตอนนี้ที่นี่ค่อนข้างเงียบสงบเหมาะแก่การที่เขาจะเคลียร์ปัญหาหัวใจกับเธอที่เขาต้องรีบกลับมาที่นี่อย่างกะทันหันเพราะรู้ว่าเธอกลับมาเมืองไทยโดยที่ไม่บอกเขานั่นเอง"ค่ะ... เมื่อเจอคนที่ใช่ฉันก็อยากจะใช้ชีวิตครอบครัว""แต่คุณกลับมาโดยไม่ได้บอกผมก่อนคุณจงใจหนีผมกลับมา"ลอเลนโซ่พูดด้วยท่าทีน้อยใจ"ฉันไม่ได้หนีค่ะแต่เราจบกันไปแล้วฉันจะไปไหนจะทำอะไรมันก็ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องรับรู้"เคลี่เห็นว่าเรื่องนี้เธอไม่จำเป็นต้องบอกเขาเพราะเธอเลือกที่จะจบกับเขาตั้งแต่อยู่ที่เนเธอร์แลนด์แล้วและเธอก็ได้เจอคนที่เข้ากับเธอได้และเธอก็อยากสร้างครอบครัวร่วมกับเขา"ผมมันด้อยกว่าคู่หมั้นคุณตรงไหนทำไมระยะเวลาหลายปีที่ผมคบกับคุณขอคุณแต่งงานครั้งแล้วครั้งเล่าคุณไม่เคยจะตกลงแต่กับคนอื่นคบไม่กี่เดือนกลับจะหมั้นกันเสียอย่างนั้นลอเลนโซสบถออกมาอย่างไม่ยอมรับความจริงและน้อยใจ"ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าฉันจะไม่รักคุณนะคะแต่ฉันไม่เห็นว่าคนอย่างคุณจะมีความคิดที่โตพอจะเป็นหัวหน้าครอบครัวได้ฉันว่าฉันให้เวลาคุณมามากพอแล้วนะคะกับการพิสูจ