โรงแรมxxx
“จัดการเรื่องเอกสารสัญญาซื้อขายให้เรียบร้อยไม่ต้องห่วงฉันไม่นานฉันจะกลับไป”
“ครับคุณไรอัน..” ไรอันนัดเจอกับลูคัสที่โรงแรมแห่งหนึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลกับที่เพนท์เฮ้าส์นักเขาต้องการให้ลูคัสที่พึ่งมาจัดการเรื่องเอกสารให้เขารีบกลับไปจัดการทำสัญญาซื้อขายกับเขมิกาให้เร็วที่สุดเพราะเงินมัดจำก้อนแรกเขาได้ให้เอาไว้แล้วก่อนที่จะเซ็นสัญญาที่ต้องรีบเพราะไม่ค่อยไว้ใจคนบ้านนี้เท่าไรนัก
22.00 น.
“จะกินอะไรมาหรือยังนะ..ชิ..ทำไมต้องไปห่วงเค้าด้วยล่ะ” ว่านรักนั่งรอไรอันทานข้าวตั้งแต่ช่วงเย็นจวบจนตอนนี้ก็เริ่มดึกมากแล้วแต่เขาก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับเธอจึงยกอาหารที่เธอทำเอาไว้ให้เขาไปเก็บในครัวเพราะไม่อยากให้เขาเห็นว่าเธอเป็นห่วง
"นี่ก็ดึกมากแล้วทำไมยังไม่อาบน้ำ" ไรอัรเดินโซซัดโซเซหน้าแดงก่ำเข้ามาในห้อง
"คุณดื่มมาเหรอคะ" กลิ่นแอลกอฮอลล์คละคลุ้งจนหญิงสาวที่ไม่ได้อยู่ใกล้เขายังได้กลิ่นทั้งที่เขายังต้องทานยาแก้อักเสบอยู่แท้ๆยังจะดื่มอย่างไม่ห่วงร่างกายของตัวเองอีก
"ผมถามไม่ได้ยินหรือไง" ไรอันไม่ได้สนใจจะตอบแต่เขาอยากรึ้ว่าป่านนี้แล้วทำไมหญิงสาวยังไม่อาบน้ำเข้านอนเสียที
"ฉันไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนนี่คะก็จู่ๆคุณก็ลากฉันมาที่นี่"
"มานี่" ไรอันลากหญิงสาวเข้ามาในห้องน้ำด้วยกันก่อนช่วยเธอถอดเสื้อผ้าด้วยตัวเอง
"ท.. ทำอะไร" ร่างบ่างกอดตัวเองไว้แน่นในขณะที่ไรอันพยายามจะถอดเสื้อผ้าของเธอออก
"อยู่เฉยๆ.." ไรอันกระชากร่างบางมากอดเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้เธอดีดดิ้น
"ไรอัน..อย่าทำแบบนี้" สาวเจ้าขอร้องด้วยแววตาไหวระริกก่อนจะมีน้ำตาเอ่นล้นออกมาด้วยน้อยใจที่ชายหนุ่มไม่ให้เกียรติเธอคิดจะทำอะไรกับร่างกายเธอก็ได้
"ดื้อกับผมแบบนี้..ลืมไปแล้วหรือไงว่าคุณมาที่นี่เพราะอะไร...อย่าคิดว่าจะหวงเนื้อหวงตัวกับผมได้อย่างเมื่อก่อนนะ" คนตัวโตก้มกระซิบข้างหูหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแหบพร่าย้ำถึงข้อตกลงทำให้หญิงสาวขัดขืนอะไรอีกฝ่ายไม่ได้แม้นจะอายจนหน้าชาแต่ก็ต้องทนอาบน้ำร่วมกันกับเขาให้เสร็จสิ้นไป
ไรอันอุ้มร่างบางด้วยท่าเจ้าสาวออกมาจากห้องน้ำขณะทั่งสองมีผ้าขนหนูสีขาวพันกันอยู่แค่ผืนเดียว
"เอ่อ..ปล่อยฉันลงก่อนค่ะฉันขอเป่าผมนะคะ"
พลั้กกก "ว้ายย.." ร่างบางกรีดร้องตกใจที่จู่ๆคนเอาแต่ใจก็เหวี่ยงเธอมาบนเตียงนุ่มโดยที่ไม่บอกไม่กล่าว
"ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวก็แห้ง" ชาสยหนุ่มเดินไปปิดไฟก่อนจะล้มตัวทับร่างบางที่อยู่บนเตียงจนหน้าของทั้งสองห้างกันไม่ถึงคืบไฟสลัวจากด้านนอกผ่านม่านเข้ามาทำให้ตอนนี้ว่านรักค่อนข้างเห็นอะไรชัดเจนเธอจึงรีบเบนหน้าหนีชายหนุ่มและพยายามถดตัวหนีแต่ก็ทำไม่ได้เพราะคนที่ทับเธออยู่ตัวหนักอย่างกับอะไร
"อื้อออ.." มือหนายกบีบแก้มนวลให้เธอหันหน้ามองเขาก่อนจะบดเบียดริมฝีปากหนาตักตวงความหวานจากปากของหญิงสาวจนเธอตกใจแทบหายใจไม่ออก
"เต็มไม้เต็มมือดีนี่" มือหนาสัมผัสบีบเค้นกับสองเต้างามอย่างไม่ทะนุถนอมร่างบางที่รู้ว่าขัดขืนอะไรไม่ได้ก็ได้แต่ยกมือเรียวกลั้นเสียงสะอื้นปวดหัวใจของเธอไว้เท่านั้น
"อือ.. อืมม.. "
"อย่าบีบน้ำตาผมไม่ชอบ.." น้ำเสียงสากบอกกับร่างบางที่กำลังสั่นเทาที่อยู่ใต้ร่างบ่งบอกถึงความไม่สงสารเพราะเขาต้องการให้เธอรู้สำนึกที่กล้ามากลอกลวงคนอย่างเขาแล้วเธอก็จะต้องเจ็บเพราะความรักศักดิ์ศรีของตัวเองอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้
"ฉันไม่ได้อยากร้องสักนิด..อื้อ..จ..เจ็บ" ว่านรักเอ่ยเสียงสั่นเครือก่อนจะร้องออกมาด้วยความเจ็บเมื่อคนตัวโตขบเม้มเนินอกของเธอจนเป็นรอยแดงเธอไม่ได้อยากอ่อนแอให้เขาเห็นเลยสักนิดแต่มันกลั้นไม่อยู่จริงๆ
"อ..อ๊ายยย..." ร่างบางกรีดร้องจนตัวเกร็งเมื่อคนตัวโตแทรกลำขาแกร่งของเขาผ่านขาเรียวของเธอและบดเบียดตัวตนของเขาเข้าช่องทางรักของเธออย่างรวดเร็วความเจ็บจุกแผ่ซ่านไปทั่วทั้งตัวจนเธอแทบหยุดหายใจก่อนน้ำตาที่ไหลอยู่แล้วจะพรั่งพรูขึ้นหลั่งไหลเป็นสายน้ำ
"อื้มม.." ไรอันเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้เพราะร่างกายของหญิงสาวมันถูกใจเขาไปเสียทุกส่วนเสียงสบถในลำคอสั่นเครือระบายความเจ็บปวดจากการถูกบีบรัดตัวตนขณะที่ตัวตนของเขาเข้าได้ไปเพียงครึ่งเท่านั้นก็รู้สึกได้แล้วว่ามีสายธารเลือดหลั่งไหลออกมาชะโลมแก่นกายอย่างพรั่งพรูแต่นั่นมันก็ไม่ทำให้เขาหยุดการกระทำได้ด้วยควบคุมความต้องการของตัวเองยากไปเสียแล้วในตอนนี้
"อื้อ..ฮือๆๆ.." นานสองนานที่ร่างบางหัวสั่นหัวครอนจากการที่ถูกโหมกระหน่ำบทรักจากคนตัวโตเธอเจ็บปวดไปหมดทั้งตัวแม้นจะร้องขอให้เขาหยุดแต่ดูเหมือนตนจะไม่ได้รับความปราณีแต่อย่างใดตอนนี้จึงมีแค่เสียงสะอื้นร่ำให้หวังให้ชายหนุ่มสงสารแล้วหยุดการกระทำนี้เสียที
"อ..อ้าสสส..." คนตัวโตที่กำลังรัวสะโพกไม่นานนักเขาก็ถึงฝั่งฝันก่อนจะปล่อยธารรักสีขาวขุ่นไว้ตัวของหญิงสาวทุกหยาดหยอดก่อนจะฟุบกอดร่างบางแน่นด้วยตัวสั่นเทาเพราะเสร็จสมความต้องการถึงขีดสุด
“พ.พอ..ได้แล้ว” ตอนนี้คนที่กำลังมัวเมาในตัณหาเขาหูอื้อไม่ได้ยินเสียงร้องขออ่อนวอนให้หยุดการกระทำจากญิงสาวเลยสัดนิดเมื่อพักจนหายเหนื่อยก็ตักตวงความสุขจากร่างบางต่อไม่รู้จักพอครั้งแล้วครั้งเล่าจนหญิงสาวไม่มีแรงแม้แต่จะส่งเสียงร้องหรือลืมตามองการกระทำของคนเอาแต่ใจ
เช้าวันต่อมา
".หืม.." ไรอันตื่นขึ้นมาในช่วงสายเพราะรู้สึกว่าคนในอ้อมกอดตัวร้อนเป็นไฟเขารีบอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนผ้าปูที่นอนที่มีแต่คราบเลือดในขณะที่หญิงสาวยังไม่รู้สึกตัวหลังจากทำทุกอย่างเสร็จเขาก็มานั่งเช็ดตัวให้เธอเพื่อให้ไข้ลดลงสีหน้าของเขาตอนนี้เป็นกังวลอย่างมากเพราะดูท่าหญิงาวจะมีไข้สูงอยู่พอสมควร
“อืม..” ว่านรักตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวอย่างหนักจนลุกไม่ได้แอบดีใจลึกๆที่เห็นไรอันกำลังช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เธอด้วยสีหน้าที่เธอเดาว่าเขาน่าจะเป็นห่วง
"ข้าวต้มกับยาแก้ไข้กินซะ...แล้วนี่ก็เสื้อผ้าของคุณ" เมื่อเห็นร่างบางขยับตัวได้เขาก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติและหยุดการกระทำทั้งหมดชี้มือไปที่มุมห้องบอกให้เธอรู้ว่าเสื้อผ้าข้าวกับยาอยู่ตรงไหนก่อนจะเดินออกไปจากห้องทิ้งให้หญิงสาวนอนอยู่คนเดียว“คิดไปเองสินะว่าน..” หญิงสาวมองตามหลังชายหนุ่มตาละห้อยเมื่อเขาไปลับตาแล้วจึงก้มหน้าลงบ่นเบาๆว่าเธอคงคิดไปเองที่คิดว่าเขาจะเป็นห่วง หลังจากว่านรักทานข้าวทานยาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ไรอันเตรียมมาให้เธอก็หลับไปพักใหญ่จนเข้าบ่ายของวันกว่าจะตื่นเมื่อตื่นมาไม่เห็นใครจึงค่อยๆพยุงร่างที่ระบมค่อยๆเดินออกมาด้านนอกแต่เธอก็ไม่เห็นว่าไรอันจะอยู่ที่นี่จึงแปลกใจเล็กน้อยว่าเขาทำไมไม่บอกเธอก่อนจะออกไปแกร็กก เสียงประตูที่เปิดออกทำให้หญิงสาวที่นั่งหน้าซีดเผือดอยู่ที่โซฟาต้องรีบหันไปดู"อ้าว.. ห้องคุณไรอันมีผู้หญิงอยู่ด้วยเหรอคะ" "แก้ขัดน่ะ" ชายหนุ่มควงแขนสาวสวยเซ็กซี่เข้ามาในห้องหน้าตาเฉยทั้งยังมองผ่านหญิงสาวอย่างไม่สนใจก่อนจะเอ่ยคำพูดเสียดแทงใจดำจนว่านรักต้องนั่งกำมือแน่น"อ๋อ.. เข้าใจแล้วค่ะ..แล้วเราจะสนุกกันตรงไหนดีล่ะคะจะเสียงดังรบกวนคนอื่นรึเปล่าน้าาา" สาวสวยใ
"ทำไม.. ทำม้ายยย.." มือหนาทุบพวงมาลัยรถหรูพร้อมแผดเสียงฝาดพักใหญ่ระบายอารมณ์โมโหตัวเองที่ต้องมานั่งร้องให้เสียใจเพราะผู้หญิงคนเดียว...ผู้หญิงคนเดียวที่พรากน้องสาวของเขาไปและเป็นคนเดียวในตอนนี้ที่เขารักเธอไปหมดหัวใจยิ่งเขาทำเธอร้องให้เท่าไรเขาก็ยิ่งเจ็บเองมากเท่านั้นซึ่งเขาไม่ควรจะเป็นเช่นนี้เลยจริงๆ"ฮือๆๆๆ..." ทางด้านว่านรักกลับมาได้ก็เอาแต่นั่งร้องห่มร้องให้อยู่ในห้องนอนยิ่งมาเห็นสภาพแวดล้อมที่บ้านภาพที่เธอใช้ชีวิตอยู่กับไรอันก็ยิ่งลอยมาให้เห็นเธอร้องให้จนแทบไม่มีน้ำตาจนจวบเย็นเมษาก็เข้ามาหาเธอที่บ้านเพราะเห็นว่าหายไปกับไรอันไม่บอกไม่กล่าวจนได้รู้ความจริงทุกอย่างจากปากของว่านรักว่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น"ฉันขอโทษว่าน... ฉันขอโทษถ้าฉันไม่ปากพล่อยวันนั้นเรื่องทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้" เมษาเห็นสภาพว่านรักตอนนี้ก็น้ำตาตกก่อนจะเข้าไปกอดปลอบเพื่อนรักด้วยความรู้สึกผิด"ทุกอย่างมันผิดที่ฉันถ้าฉันไม่ไปรักคนแบบนั้นคงไม่ต้องมานั่งเจ็บแบบนี้" ว่านรักส่ายหัวเบาๆทั้งหมดมันไม่ใช่ความผิดของเมษาแต่เป็นเพราะเธอเองที่ไปตกหลุมรักคนที่ไม่ควรจะรักเท่านั้นเองวันต่อมา"กินอะไรหน่อยนะว่าน" วันนี้เมษามาอยู่เ
"ตอนนี้ทำใจสบายๆก่อน..ค่อยๆคิดว่าเราจะเอายังไงต่อไปนะว่าน” เมื่อผลออกว่ามีขีดแดงทั้งหมดห้าอันเหมือนกันว่านรักก็บีบมือตังเองแน่นสะอื้นให้กระซิกส่วนเมษาก็ได้แต่กอดปลอบว่านรักเอาไว้เป็นกำลังใจเพราะรู้ว่าในใจของว่านรักในตอนนี้คงสับสนอยู่มาก"เรื่องนี้ให้ทุกคนรู้ไม่ได้.. ฉันจะไปจากที่นี่" เมื่อนั่งเงียบกันมาพักใหญ่ว่านรักก็เอ่ยออกมาจากการที่ผ่านการคิดมาครู่ใหญ่แล้ว"อะไรนะ.. ทำแบบนั้นทำไม""หากไรอันกลับมาที่นี่อีกแล้วรู้ว่าฉันมีลูกคงไม่เกิดเรื่องดีแน่" "จริงสิ...แล้วแกจะไปอยู่ที่ไหน" เมษาเห็นว่าคำพูดที่ว่านรักพูดมาก็ถูกแต่เธอก็มองไม่ออกเลยว่าว่านรักจะย้ายไปอยู่ที่ไหนได้"ฉันว่าจะไปที่บ้านของย่าฉัน" "ที่หัวหินน่ะเหรอ" เมษาก็ลืมคิดไปว่าย่าของว่านรักมีบ้านอยู่ที่หัวหิน"อืม.." "งั้นฉันไปด้วย""แกจะไปยังไง..แล้วตาล่ะ" ว่านรักกลัวว่าหากเมษาไปกับเธอจะไม่มีใครดูแลตาและจะถูกสงสัยด้วยว่าทำไมถึงอยากย้ายที่อยู่กะทันหัน"ฉันว่าคงต้องบอกความจริงกับตาแล้วล่ะ" เมษาคิดว่าถึงตอนนี้ยังไงก็ต้องบอกกับตาให้รู้เอาไว้เพราะถ้าไรอันมาที่นี่อีกตาของเธอจะได้ไม่บอกว่าพวกเธออยู่ที่ไหนและจะได้สบายใจที่จะไม่ต้องปิด
"ได้สิ.. ไม่ต้องเป็นห่วงนานๆจะสวีทกับแฟนทีเที่ยวให้เต็มที่เลยนะ" ว่านรักพยักหน้าด้วนรอยยิ้มอ่อนเธอสนับสนุนเต็มที่ให้เมษามีเวลาไปไหนมาไหนกับพุฒิพัตรบ้างเพราะวันๆก็เอาแต่ขลุกอยู่กับเธอและเด็กๆเมษาจะได้เจอกับแฟนตัวเองทีก็ตอนเอาภาพวาดไปฝากวางขายโน่นแหละ"อืม..""รูปที่แกวาดเอาไว้ฉันจัดเตรียมห่อไว้เรียบร้อยแล้วนะว่าแต่ทำไมไม่เซ็นชื่อแกลงไปด้วยล่ะ" ว่านรักใช้เวลาว่างตอนเด็กๆหลับเมื่อกลางวันห่อภาพวาดของเมษาเอาไว้ครบทุกชิ้นแต่เธอไม่นักจะเห็นเมษาเซ็นชื่อตัวเองเหมือนศิลปินคนอื่นเลย"ไม่หรอก.. ฉันไม่อยากได้เครดิตเท่าไรแค่มีคนชื่นชมผลงานฉันก็พอแล้ว" สาวเจ้าส่ายหัวเอไม่ได้ใส่เครดิตในภาพวาดเธอมานานแล้วเพราะเห็นพุฒิพัตรบอกกับเธอว่าใส่ชื่อของเขาจะทำให้คนสนใจงานมากกว่า"ปิดทองหลังพระว่างั้น" "อืม.. ก็ประมาณนั้น" "อืม..แล้วคนที่สั่งเค้าจะเอาไปทำอะไรเยอะขนาดนี้" ว่านรักเอ่ยถามด้วยความสงสัยเพราะเธอไม่ใช่คนที่รับออเดอร์เอง"น่าจะแจกคนในงานการกุศลอะไรสักอย่างอะ" "งั้นเหรอ" เมื่อรู้ดังนั้นจึงรีบแพ็คให้เสร็จโดยเร็วเพราะหากเธอได้ลูกค้าจากงานนี้เพิ่มก็คงจะดี วันต่อมา"นั่นใครมาที่หน้าบ้าน" ว่านรักชะเง้อมอง
คลับหรู"ฉันเห็นเธอที่หน้าซุปเปอร์ใกล้ๆโรงแรมนายให้คนของนายหาให้ทีว่าเธออยู่ตรงไหน" ไรอันนั่งดื่มกับเจคอปก่อนจะเอ่ยเรื่องที่เขาอยากให้เจคอปช่วยเนื่องจากตอนนี้เขาต้องอยุ่กับย่าของเขาตลอดหากทำอะไรผิดปกติมีหวังย่าของเขาได้จับได้แน่นอน"ไหนนายบอกว่าความแค้นจบสิ้นแล้วไงจะไปยุ่งอะไรกับเธออีก" เจคอปถึงกับขมวดคิ้วเขานึกว่าไรอันจะลืมเรื่องของว่านรักไปแล้วเสียอีก"ฉันบอกให้ช่วยก็ช่วยเถอะน่า""ฉันสงสัยและอยากจะถามมาตลอดแต่ฉันไม่กล้า...ไหนๆก็มาถึงวันนี้แล้วขอถามหน่อยเถอะตอนที่นายกลับมาไม่เป็นผู้เป็นคนเพราะเธอใช่หรือเปล่า" เจคอปถือโอกาสตอนที่ไรอันกำลังมึนด้วยน้ำเมาถึงสิ่งที่เขาสงสัยมานานเพราะเขารู้ดีว่าไรอันเป็นคนโกหกไม่เป็น"......" ไรอันยกแก้วดื่มอึกใหญ่ตอนนี้มีแต่ความเงียบเพราะเขาไม่ชอบโกหกและรู้ว่าเจคอปน่าจะดูออกโดยที่เขาไม่ต้องบอก"ไม่ต้องตอบหรอกฉันพอจะรู้คำตอบแล้ว... เดี๋ยวฉันจะให้คนช่วยหาเธอให้" เจคอปพยักหน้าเข้าใจก่อนจะรับปากไรอันถึงเรื่องที่ขอโดยที่ไม่ต้องถามอะไรต่อเพราะรู้ว่าไรอันคงไม่ทำอันตรายกับคนที่ตัวเองรักแน่นอน คิดไปคิดมาก็สงสารเพื่อนตัวเองเหมือนกันที่ต้องมารักคนที่สร้างความเจ็
"ร..ร้องให้ทำไม" เจคอปนั่งมองหญิงสาวสะอึกสะอื้นบนโซฟาพักใหญ่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจนเขาถึงกับต้องเอ่ยถามเพราะชักรำคาญเสียแล้ว“ไม่รู้” เมษาส่ายหัวหงึกหงักเธอก็ไม่รู้ว่าน้ำตาเจ้ากรรมนี่จะไหลมาทำไมนักหนา"เพื่อนคุณอยู่ไหน" เจคอปเห็นทีต้องรีบคุยกับเมษาก่อนที่เธอจะตอบคำถามเขามีรู้เรื่อง"เพื่อนฉัน.." "อืม..ว่านรัก""ว่านเหรอ...ป่านนี้นอนละมั้ง.." ร่างบางชี้มือชี้ไม้สะเปะสะปะ"ผมถามว่าเพื่อนคุณอยู่ที่ไหนตอนนี้" มือหนาทั้งสองจับบ่าของหญิงสาวก่อนจะถามเธออีกครั้งเสียงเข้ม"อยากดื่มมีอะไรให้ดื่มบ้าง" เมษาไม่ได้สะทกสะท้านกับคำพูดแข็งกระด้างของเจคอปแม้แต่น้อยเธอดวงตาปรือตอนนี้เฝ้ามองหาแต่น้ำเมา"เฮ้อ...นี่คงไม่พ้นอกหักสินะ" ว่าจบเจคอปก็ลุกขึ้นเดินไปหยิบไวน์ราคาแพงมาวางตรงหน้าหญิงสาวเห็นทีวันนี้จะไม่ได้เรื่องเดาออกเลยว่าหญิงสาวคงจะถูกใครทำให้เจ็บมาไม่อย่างนั้นคงไม่โวยวายด่าทอเขาว่าเป็นคนหลอกลวงไม่จริงใจแบบนี้หรอกครู่ต่อมา"คุณ..ตื่นมาบอกผมก่อนเพื่อนคุณอยู่ที่ไหน" เจคอปนั่งเฝ้าเมษาดื่มมาพักใหญ่คราแรกคิดว่าจะไม่ถามเธอต่อแต่ตอนนี้ก็อยากลองดูอีกสักครั้ง"อือ..หล่อจางง..ตาก็สวย..ปากก็สวยยย...อืมมม.." เ
วันต่อมา"นอนซมแบบนี้แกเป็นอะไรกันแน่เม" ว่านรักเข้ามาหาเมษาช่วงบ่ายหลังจากเด็กๆหลับแล้วเพราะเห็นเพื่อนเธอไม่เคยจะออกไปข้างนอกเอาแต่นอนซมอยู่ในห้อง"ฉัน..เลิกกับคุณพุฒิแล้ว" เมษาปริปากพูดด้วยแววตาไหวระริก"หา..." เรื่องที่ได้รับฟังทำให้ว่านรักหน้าเจื่อนลงอยู่เหมือนกัน เมษาเล่าให้ว่านรักฟังทุกอย่างว่าพุฒิพัตรเป็นคนประเภทไหนแต่ไม่ได้เล่าเรื่องที่เธอไปนอนกับใครมาเพราะมันเป็นเรื่องที่เธอไม่อยากให้มันอยู่ในความทรงจำของเพื่อนเธอแค่เป็นเรื่องเลวร้ายซ้ำเติมหลังจากเธออกหักคนเดียวก็พอ"ไม่น่าเชื่อว่าเค้าจะหลอกแกอะ" ว่านรักเห็นพุฒิพัตรดีๆไม่คิดว่าจะเป็นคนที่หน้าไหว้หลังหลอกขนาดนี้ดีแล้วที่เพื่อนเธอเลิกไปได้"ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันทีหลังต้องดูคนกันดีๆแล้ว" เมษาเอ่ยเสียงอ่อน"นั่นสิ.. แต่ก็ดีแล้วที่แกจะได้หลุดพ้นจากคนไม่ดี.. เดี๋ยวฉันไปส่งของก่อนนะเด็กๆนอนกลางวันกันอยู่น่าจะไม่ตื่นมากวนแกหรอก" "อืม.. ไปเถอะ" หลังจากว่านรักออกไปครู่หนึ่งเมษาก็นึกขึ้นได้ว่าเธอจะต้องบอกกับเมษาเรื่องที่เจคอปมาถามหาว่านรักกับเธอ"เออ.. ลืมไปเลย...ทำไมโทรไม่ติดนะ" ใบหหน้านวลมีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชั
"ถ้าคุณรักใครสักคนแล้วคนนั้นดันเป็นคนที่ฆ่าคนในครอบครัวคุณตัวคุณจะรู้สึกยังไงผมว่าไรอันก็รู้สึกแบบนั้น" เจคอปเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนก่อนจะหลุบสายตาต่ำลง"เพื่อนฉันไม่เคยฆ่าใครและไม่ใช่ฆาตกร" เมษาสบถออกมาเสียงแผ่วแต่ก็ดังพอที่เจคอปจะได้ยิน"อะไรนะ" "เอ่อ..ก็..เรื่องอุบัติเหตุครั้งนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจนี่นา" เมื่อเกือบจะหลุดปากเรื่องที่รับปากกับว่านรักว่าจะไม่พูดกับใครสาวเจ้าก็ต้องรีบหาเรื่องแถไปให้ได้ทันที“แต่ไรอันไม่ได้คิดแบบนั้นน่ะสิ...ไรอันรักนอร่ามากการสูญเสียครั้งนั้นเหมือนถูกควักหัวใจของไรอันเลย” เจคอปพยักหน้าเบาๆใช่อย่างที่เมษาพูดใครๆก็คิดแบบนั้นมีเพียงแค่ไรอันเท่านั้นที่ไม่คิดว่าเรื่องทุกอย่างเป็นเพราะอุบัติเหตุ ทางด้านไรอันตั้งแต่ที่เขาได้ตัวหญิงสาวมาเขาก็พาเธอมาที่บ้านพักริมทะเลแห่งหน่งที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนักค่อนข้างเป็นส่วนตัวเพราะรอบรัศมีห้ากิโลเมตรนี้มีบ้านหลังนี้เพียงหลังหลังเดียวชายหนุ่มนั่งมองคนที่หลับอยู่บนเตียงครู่แล้วครู่เล่าก็ยังไม่สามารถละสายตาจากเธอได้เสียทีก่อนหน้านี้เขาคิดจะลืมเธอได้แต่เมื่อมาเห็นเธออยู่ใกล้ๆแบบนี้ภาพวันวานมันก็ยิ่งชัดเจนข