วันต่อมา
"นอนซมแบบนี้แกเป็นอะไรกันแน่เม" ว่านรักเข้ามาหาเมษาช่วงบ่ายหลังจากเด็กๆหลับแล้วเพราะเห็นเพื่อนเธอไม่เคยจะออกไปข้างนอกเอาแต่นอนซมอยู่ในห้อง
"ฉัน..เลิกกับคุณพุฒิแล้ว" เมษาปริปากพูดด้วยแววตาไหวระริก
"หา..." เรื่องที่ได้รับฟังทำให้ว่านรักหน้าเจื่อนลงอยู่เหมือนกัน
เมษาเล่าให้ว่านรักฟังทุกอย่างว่าพุฒิพัตรเป็นคนประเภทไหนแต่ไม่ได้เล่าเรื่องที่เธอไปนอนกับใครมาเพราะมันเป็นเรื่องที่เธอไม่อยากให้มันอยู่ในความทรงจำของเพื่อนเธอแค่เป็นเรื่องเลวร้ายซ้ำเติมหลังจากเธออกหักคนเดียวก็พอ
"ไม่น่าเชื่อว่าเค้าจะหลอกแกอะ" ว่านรักเห็นพุฒิพัตรดีๆไม่คิดว่าจะเป็นคนที่หน้าไหว้หลังหลอกขนาดนี้ดีแล้วที่เพื่อนเธอเลิกไปได้
"ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันทีหลังต้องดูคนกันดีๆแล้ว" เมษาเอ่ยเสียงอ่อน
"นั่นสิ.. แต่ก็ดีแล้วที่แกจะได้หลุดพ้นจากคนไม่ดี.. เดี๋ยวฉันไปส่งของก่อนนะเด็กๆนอนกลางวันกันอยู่น่าจะไม่ตื่นมากวนแกหรอก"
"อืม.. ไปเถอะ"
หลังจากว่านรักออกไปครู่หนึ่งเมษาก็นึกขึ้นได้ว่าเธอจะต้องบอกกับเมษาเรื่องที่เจคอปมาถามหาว่านรักกับเธอ
"เออ.. ลืมไปเลย...ทำไมโทรไม่ติดนะ" ใบหหน้านวลมีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัดเพราะตอนนี้ติดต่อเพื่อนเธอไม่ได้เสียอย่างนั้น
ทางด้านว่านรักตอนนี้เธอนั่งรอคนที่จะมารับเทียนหอมที่ริมทะเลพักใหญ่แล้วแถมตรงนี้คนก็ไม่ค่อยจะผ่านมาด้วยเธอจึงใจไม่ดีเท่าไร
"มือถือก็แบตหมดอีก..จะมาตอนไหนกันนะ.." เธอตั้งใจว่าจะโทรหาลูกค้าแต่มือถือก็ดันมาแบตหมดเอาเสียได้
"อื้อออ.." จากที่ยืนกังวลจู่ๆเธอก็หมดสติลงเพราะมีบางคนโปะยาสลบเธอและอุ้มเธอออกไปจากที่นี่
เย็นของวัน
"ไปถึงไหนนะว่านทำไมยังไม่กลับมาอีก" เมษานั่งป้อนข้าวเจ้าสองแสบช่วงเย็นเธอไม่รู้ว่าตอนนี้ว่านรักไปถึงไหนถึงได้ยังไม่กลับมาเสียที
"ไข่ตุ๋นของไออุ่นกับแทนใจกินเยอะๆเลยนะลูก" เมษาดูแลเด็กๆไปด้วยสายตาก็ชะเง้อมองหน้าบ้านไปด้วยหากค่ำแล้วว่านรักยังไม่กลับเธอคิดว่ามันคงมีอะไรแปลกๆแล้ว
"หวัดดี"
"จ..เจคอปคุณมาที่นี่ได้ยังไง..เด็กๆทานข้าวไปก่อนนะลูก" เมษาหยุดชะงักการกระทำในตอนนี้ทั้งหมดเพราะตกใจที่เจคอปเข้ามายืนอยู่ในบ้านเธอจึงรีบบอกกับเด็กๆให้นั่งทานข้าวกันไปก่อนแล้วจึงรีบดึงแขนของเจคอปให้ออกไปคุยกันที่หน้าบ้าน
“เด็กสองคนนั่นลูกใครเหรอ” เจอคอปตกใจนิดหน่อยแต่ก็เก็บอาการเอาไว้เพราะคนที่สืบเรื่องว่านรักให้เขาไม่ได้บอกว่าที่บ้านนี้มีเด็กเล็กด้วยแถมเด็กสองคนนั่นใครมองแวบเดียวก็ดูออกว่าเป็นลูกครึ่ง
“ลูกฉัน” เมษากอดอกยืนคุยกับเจคอปด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์นัก
"คุณเป็นแม่เด็กสองคนนั้นจริงๆเหรอ" ดวงตาคมหลี่สายตามองหญิงสาวอย่างไม่ค่อยเชื่อคำที่เธอบอกกับเขาเท่าไร
"ใช่..ถามทำไม" เมษายังยืนยัยคำเดิมแต่อาการประหม่าของเธอมันทำให้ชายหนุ่มจับพิรุจได้
"ผมไม่ใช่เด็กสองขวบนะคุณ.. อย่ามาหลอกเสียให้ยากคืนนั้นคุณ.." เจคอปรู้ดีว่าหญิงสาวน่าจะยังไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อนเพราะขนาดเขาหลอกว่าเขานอนกับเธอหญิงสาวยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าถูกหลอกหากเป็นผู้หญิงที่เคยผ่านประสบการณ์พวกนี้มาแล้วต้องรู้บ้างว่าร่างกายของตัวเองจะเป็นอย่างไรหลังมีสัมพันธ์สวาทเพราะฉะนั้นผู้หญิงที่ไม่เคยมีสัทพันธ์กับผู้ชายจะเป็นแม่คนได้อย่างไร
"นี่.. หยุดพูดถึงเรื่องคืนนั้นเดี๋ยวนี้นะ.." มือเรียวยกขึ้นป้องปิดปากร่างสูงให้หยุดพูดเรื่องคืนนั้นเพราะเธออยากจะลืมมัน
"ไม่พูดไม่ได้เพราะผมมาที่นี่เพื่อต้องการที่จะรับผิดชอบคุณ"
"ไม่ต้องจะไปไหนก็ไปเถอะค่ะ"
"ไม่สิ..ต้องให้คุณรับผิดชอบผมมากกว่าเพราะคุณเป็นคนเริ่มก่อน" ชายหนุ่มยังไม่หยุดกวนประสาทหญิงสาวเมื่อเธอยังไม่ยอมบอกความจริงกับเขาดีๆ
"นี่..บอกว่าอย่าพูดไง"
"ถ้าคุณไม่ยอมบอกว่าเด็กสองคนนั้นเป็นลูกใครเพื่อนคุณจะอยู่ในอันตราย"
"ว่าน...อ๋อ..ที่ว่านยังไม่กลับมานี่ฝีมือคุณใช่ไหม" สาวเจ้าโกรธจนกำมือแน่นเรื่องที่เธอกังวลใจเรื่องว่านรักมันไม่ผิดจากที่เธอคิด
"ผมไม่รู้ผมแค่เดาว่าตอนนี้คุณว่านรักน่าจะอยู่กับไรอัน" เจคอปไม่ได้เดาแต่เขารู้ว่าไรอันทำอะไรเพียงแค่ไม่รู้ว่าตอนนี้ไรอันพาว่านรักไปที่ไหนเท่านั้น
"ไรอันเหรอ..ล..แล้วเพื่อนฉัน.. " เมษาใจเต้นไม่เป็นส่ำหากเพื่อนเธออยู่กับไรอันตอนนี้แล้วเพื่อนเธอจะถูกคนแบบนั้นทำอะไรบ้าง
"ไม่ต้องกลัวแค่บอกมาว่าเด็กสองคนนั่นลูกใครแล้วผมจะช่วยเพื่อนคุณเอง" เจคอปยื่อนข้อเสนอให้หญิงสาวเพราะรู้ว่าข้อเสนอนี้ยังเธอก็ไม่ปฏิเสธ
และแล้วเมษาก็จำต้องยอมบอกกับเจอคอปเพื่อที่จะให้ชายหนุ่มนั้นช่วยเพื่อนเธอออกมาจากไรอันตอนนี้เธอห่วงเพื่อนเธอเหลือเกินไม่รู้ว่าว่านรักนั้นจะมีชีวิตอยู่ดีหรือไม่
"ผมคิดเอาไว้ไม่ผิด" เมื่อฟังคำสารภาพของหญิงสาวเจคอปก็ตบเข่าฉาดเพราะแอบคิดว่าเด็กลูกครึ่งทั้งสองนี่น่าจะเป็นลูกของว่านรักกับไรอัน
"แล้วไรอันจับเพื่อนฉันไปเพื่ออะไร"
"ถ้าผมคิดไม่ผิดไรอันยังรักเพื่อนคุณอยู่"
"รักเหรอ...รักแล้วทำไมต้องทำกับเพื่อนฉันเจ็บแบบนั้น" เมษาขมวดคิ้วเป็นปมเธอไม่เคยคิดแม้แต่นิดเดียวว่าหลังจากที่ไรอันจำความได้แล้วจะเหลือเยื่อใยให้ว่านรักมีแค่เพื่อนเธอเท่านั้นที่ยังคงรักคนที่ทำร้ายตัวเองเสมอมา
"ถ้าคุณรักใครสักคนแล้วคนนั้นดันเป็นคนที่ฆ่าคนในครอบครัวคุณตัวคุณจะรู้สึกยังไงผมว่าไรอันก็รู้สึกแบบนั้น" เจคอปเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนก่อนจะหลุบสายตาต่ำลง"เพื่อนฉันไม่เคยฆ่าใครและไม่ใช่ฆาตกร" เมษาสบถออกมาเสียงแผ่วแต่ก็ดังพอที่เจคอปจะได้ยิน"อะไรนะ" "เอ่อ..ก็..เรื่องอุบัติเหตุครั้งนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจนี่นา" เมื่อเกือบจะหลุดปากเรื่องที่รับปากกับว่านรักว่าจะไม่พูดกับใครสาวเจ้าก็ต้องรีบหาเรื่องแถไปให้ได้ทันที“แต่ไรอันไม่ได้คิดแบบนั้นน่ะสิ...ไรอันรักนอร่ามากการสูญเสียครั้งนั้นเหมือนถูกควักหัวใจของไรอันเลย” เจคอปพยักหน้าเบาๆใช่อย่างที่เมษาพูดใครๆก็คิดแบบนั้นมีเพียงแค่ไรอันเท่านั้นที่ไม่คิดว่าเรื่องทุกอย่างเป็นเพราะอุบัติเหตุ ทางด้านไรอันตั้งแต่ที่เขาได้ตัวหญิงสาวมาเขาก็พาเธอมาที่บ้านพักริมทะเลแห่งหน่งที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนักค่อนข้างเป็นส่วนตัวเพราะรอบรัศมีห้ากิโลเมตรนี้มีบ้านหลังนี้เพียงหลังหลังเดียวชายหนุ่มนั่งมองคนที่หลับอยู่บนเตียงครู่แล้วครู่เล่าก็ยังไม่สามารถละสายตาจากเธอได้เสียทีก่อนหน้านี้เขาคิดจะลืมเธอได้แต่เมื่อมาเห็นเธออยู่ใกล้ๆแบบนี้ภาพวันวานมันก็ยิ่งชัดเจนข
“โถ่.โว้ยย..” เพล้งง ปึก ปัก ไรอันออกมาระบายอารมณ์โมโหกับข้าวของพักใหญ่เสียงที่ดังทำให้คนในห้องต้องนั่งกอดเข่าเช็ดน้ำตาด้วยความกลัวไม่รู้ว่าเขาจะเข้ามาทำร้ายเธออีกหรือเปล่าและไม่รู้ว่าตอนนี้ความคิดที่เขาอยากจะเอาชีวิตเธอมันยังจะมีอยู่หรือไม่ตอนนี้เธอคาดเดาอะไรกับไรอันไม่ได้เลยจริงๆ ตั้งแต่เจคอปมาที่นี่เมื่อกลางวันเขาก็ยังไม่ได้กลับอยู่ช่วยเมษาเลี้ยงหลานๆจนเป็นพี่เลี้ยงจำเป็นไปโดยปริยาย"แทนใจหลับหรือยังคุณ" เมษาที่อุ้มกล่มไออุ่นจนหลับแล้วก็หันไปกระซิบถามเจคอปที่อุ้มกล่อมแทนใจอยู่ว่าหลานเธอหลับหรือยัง"ครับ" เจคอปพยักหน้าเบาๆ"ตามฉันมานี่วางแบบนี้นะ" เมษาเดินนำหน้าเจคอปมาที่เปลของหลานทั้งสองและวางไออุ่นลงบนเปลเป็นตัวอย่างให้เจคอปได้ทำตาม หลังจากกล่อมเจ้าสองแสบจนหลับได้เมษาก็ลากเจคอปมาคุยเรื่องว่านรักทันทีเพราะตอนนี้เธออยากรู้นักว่าไรอันพาเพื่อนเธอไปไว้ที่ไหน"เด็กๆเหมือนไรอันอย่างกับแกะเลยนะไม่รู้ว่าถ้าเจ้าตัวรู้ว่าได้เป็นพ่อจะดีใจขนาดไหน" "คุณว่าเค้าจะดีใจเหรอทั้งรักทั้งแค้นแม่ของลูกแบบนั้น" เมษาไม่คิดอย่างเจคอปไปเสียหมดเพราะเธอรู้ดีว่าไรอันเคยคิดจะฆ่าว่านรักมาแล้วแต่ทำไม่สำเ
"ไม่นะ..ฉันไม่ยอมคุณจะพรากลูกไปจากฉันไม่ได้นะ" ใบหน้านวลส่ายหัวพัลวัลขอร้องชายหนุ่มเสียงสั่นเครือ"ลูกของผม..ผมก็ต้องมีสิทธิ์เลี้ยงดู""ไม่...ฉันไม่ยอม" "คิดจะสู้กับผมอย่างนั้นเหรอ..คิดให้ดีนะ" "ไม่นะ..ฮือๆๆ..ฉันขอร้องอย่าทำแบบนี้ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีลูก.." ยิ่งถูกตอกย้ำว่าเธอไม่มีทางสู้เข้าได้ทำให้ว่านรักเริ่มสะอึกสะอื้นตัวโยนเพราะเธอรู้ตัวว่าเธอคงสู้เขาไม่ได้จริงๆหากเขาคิดจะพรากลูกเธอไป"ทำตามที่ผมสั่งทุกอย่างสิแล้วคุณจะได้อยู่กับลูก" "คุณจะแกล้งอะไรฉันอีก..แค่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นว่ามีฉันกับลูกอยู่ก็พอแล้ว..นะคะฉันขอร้อง""คิดอะไรของคุณ" ไรอันมองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาที่ไม่พอใจจะให้เขาลืมว่าเป็นพ่อคนเป็นใครจะทำได้"คุณนั่นแหละคิดอะไรอยู่คิดจะมาพรากลูกจากฉันไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอคะ.." สาวเจ้ายังคงสะอื้นไม่หยุด"อยู่กับผมสิแล้วคุณจะได้อยู่กับลูก" "ทำแบบนี้เพื่ออะไร..คุณจะทนอยู่กับคนที่คุณเกลียดเพื่ออะไร...ฮือๆๆ.." ว่านรักมองหน้าคนตัวโตผ่านม่านน้ำตาอย่างไม่เข้าใจเขาเกลียดเธอแต่อยากจะให้อยู่กับเขาเพื่ออะไร..เขาจะรู้หรือไม่ว่ายิ่งทำแบบนี้ยิ่งทำให้เธอลืมว่าเธอรักเขาไม่ได้เสียที"บอกผมหน
ครู่ต่อมา"พวกคุณกลับกันไปก่อนผมจะคุยกับว่านเรื่องนี้เอง" หลังจากที่ทั้งสามคุยกันได้พักใหญ่ไรอันก็ไม่อยากรบกวนเวลาของเจคอปและเมษาจึงให้ทั้งคู่กลับไปก่อนเรื่องในครอบครัวของเขาตอนนี้เขาจะเป็นคนจัดการทุกอย่างเอง ทางด้านเมษาที่มีสีหน้ากังวลมาตั้งแต่ขับรถกลับทำให้เจคอปต้องเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง"กลัวว่าเพื่อนคุณจะโกรธเหรอ""....." เมษาพยักหน้าเบาๆแทนคำตอบ"คุณทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้วจะกลัวอะไร" "ถ้าเป็นคุณ.. คุณจะทำยังไง""ผมก็ทำแบบเดียวกับคุณนั่นแหละ" เจคอปเอ่ยปลอบใจหญิงสาวไม่ให้คิดมากเพราะในสิ่งที่เธอทำมันถูกต้องที่สุดแล้วอันที่จริงหากเป็นเขาไรอันคงจะได้รู้เรื่องเร็วกว่านี้แน่นอน หลังจากขับรถออกมาจากบ้านพักไรอันไม่นานนักเจคอปก็พาเมษากลับมาถึงที่บ้าน"ขอบคุณนะคะคุณก็กลับไปได้แล้ว" สาวเจ้าลงรถได้ก็ไล่ชายหนุ่มกลับไปทันที"ผมจะอยู่กับคุณ" เจคอปเดินนำหน้าเมษาเข้าไปทิ้งตัวนอนบนโซฟาในบ้านหน้าตาเฉย"อะไรนะ... อยู่ไม่ได้" เมษาไม่ได้สนิทจนไว้ใจให้เจคอปอยู่กับเธอสองต่อสองจึงปฏิเสธไม่ให้เขาอยู่ที่นี่"ผมเหนื่อยขอนอนพักผ่อนหน่อยนะ" เจคอปหลับตาลงหลังเอ่ยจบ"คนอะไรหน้าด้านหน้าทน" หญิงส
"คนไม่ดีก็ย่อมต้องได้รับสิ่งไม่ดีตอบ" คำพูดของไรอันเริ่มมีเสียงแข็งเพราะเขาไม่เข้าใจว่าทำไมหญิงสาวต้องคอยปกป้องคนอื่นขนาดนี้ด้วย"ขอร้องอย่ายุ่งกับพวกเค้านะคะ..คุณก็รู้นี่คะว่าวันนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ""คุณรู้ไหมว่าทำไมผมถึงตามล่าคุณ..มีคนบอกผมว่าคนที่ชนน้องผมเมาแล้วขับแต่ผลตรวจของตำรวจบอกว่าคนที่ชนไม่ได้เมาและมีสติครบทุกอย่างตอนนั้นผมคิดว่ายังไงพวกคุณก็ต้องยัดเงินตำรวจแน่ๆแต่ผมหาหลักฐานไม่ได้เท่านั้น...ซึ่งถ้าวันนั้นน้องสาวคุณเป็นคนยอมรับผิดป่านน้น้องคุณคงอยู่ในคุกไปแล้ว.....และคุณจะปกป้องคนแบบนั้นไปทำไม...เค้าไม่ได้ห่วงคุณสักนิดว่าคุณจะเจออะไร""ถ้าคุณอยากให้ฉันกับลูกกลับมาอยู่กับคุณขอร้องอย่ายุ่งกับพวกเค้า" ว่านรักผละตัวออกจาอกของชายหนุ่มเธอเงยมองหน้าเขาขอร้องด้วยน้ำตาเธอคิดว่าหากเธอใช้ข้อต่อรองแบบนี้ก็คงจะทำให้ชายหนุ่มยอมได้"ว่าน..." ไรอันเริ่มมีสีหน้าไม่พอใจโมโหในความจิตใจดีของหญิงสาวเพราะแบบนี้ถึงทำให้เธอต้องมารับชะตากรรมที่ตังเองไม่ได้ก่อ"แอ้..แง่..ๆๆ""ฉันไปดูเด็กๆก่อนนะคะ" ว่านรักรีบเดินหนีไรอันเพราะต้องรีบไปดูลูกๆของเธอหลังจากได้ยินเสียงร้อง"นี่คุณภาพพวกนี้ของใครเหรอ" ช
หลายวันต่อมาไร่ปาริชาตหลังจากที่ทุกคนเตรียมตัวไม่นานนักก็ได้มาที่ไร่กันจนได้ไรอันที่ไม่ได้กลับมาเห็นที่นี่นานเมื่อมาถึงก็รีบทัวจนทั่วไร่อยากรู้ว่าที่นี่ยังเหมือนเดิมเหมือนตอนที่เขาอยู่หรือเปล่าและเมื่อสำรวจรอบๆพบว่าที่นี่ผู้คนยังคงอยู่กันเหมือนเดิมที่เพิ่มเติมเห็นจะเป็นผู้คนมีกินมีใช้มากขึ้นเครื่องทุ่นแรงก็มีเยอะขึ้นหลังจากสำรวจทักทายผู้คนรอบไร่แล้วไรอันก็เข้ามานั่งคุยกับปราโมทย์ในช่วงเย็นขณะที่ลูกๆของเขากำลังวิ่งเล่นจับแมลงปอที่บินว่อนอยู่หน้าบ้านกับว่านรัก“เข้าใจกันดีแล้วใช่ไหม” ปราโมทย์เอ่ยถามชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มอ่อนเรื่องเก่าเรื่องเก็บเขาไม่อยากรื้อฟื้นแค่อยากรู้ว่าตอนนี้ไรอันกับว่านรักเข้าใจกันทุกอย่างดีแล้วหรือไม่เท่านั้น“ครับตา”“ความแค้นมันไม่มีอะไรดีหรอกนะปล่อยวางเสียใจเราจะได้ไม่ทุกข์” ปราโมทย์รู้แบบนี้เขาก็คลายกังวลก่อนจะเอ่ยเตือนไรอันเรื่องที่เขาเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น“ผมจะพยายามครับ” ไรอันก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับปากปราโมทย์ว่าเขาจะพยายามเปลี่ยนนิสัยให้ได้ครู่ต่อมาเมื่อว่านรักว่างจากจากดูแลเด็กๆหลังจากคนเป็นพ่อและทวดอาสาจะดูให้เธอจึงเดินมาหลังบ้านดูว่าเมษากำ
ทางด้านไรอันเขากลับมาถึงบ้านก็รีบอาบน้ำอายท่ากะว่าจะเล่นกับลูกๆแต่ก็ต้องแอบผิดหวังนิดหน่อยที่เด็กๆหลับไปหมดแล้ว“เด็กๆหลับแล้วเหรอ”“ค่ะ..คุณเจคเป็นยังไงบ้างคะ” ว่านรักอยู่ในชุดนอนสีขาวหันมาตอยคนเป็นสามีเสียงเบาขณะที่กำลังวางผ้าห่มเจ้าแฝดในเปลเพราะนอนดิ้นจนผ้าห่มไม่อยู่กับตัว“หมอฉีดยาแก้แพ้กับให้น้ำเกลือดีขึ้นบ้างแล้วเห็นว่าถ้าพรุ่งนี้ไม่มีอาการแทรกซ้อนก็น่าจะกลับบ้านได้” “มาวันแรกก็เกิดเรื่องเลยนะคะแล้วอย่างนี้จะอยากยู่ต่อไหมคะเนี่ย” หญิงสาวหน้าเสียเล็กน้อยเธออยากจะให้ทุกคนที่มาที่นี่แล้วประทับใจแต่เจคอปกลับป่วยเสียตั้งแต่วันแรกที่มา“คนอย่างเจคอปไม่ใช่คนท้อต่อความลำบากหรอก” “งั้นก็ดีแล้วค่ะ...ฉันว่าต้องเตรียมหามุ้งหายากันยุงดีๆให้คุณเจคแล้วล่ะ...ยิ่งช่วงนี้หน้าฝนยุงชุมด้วย”“อืม...”“หิวหรือเปล่าคะฉันทำต้มจืดวุ้นเส้นไว้ให้คุณด้วย...” ว่านรักเอ่ยก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มเพราะอาหารเย็นเธอทานพร้อมลูกๆแล้วตอนนี้ก็ได้เวลาพักผ่อน“ไม่หิวข้าว...แต่หิวคุณมากกว่า” ไรอันเข้ามาสวมกอดภรรยารักเอาไว้แน่นเอ่ยกระซิบข้างหูของเธอเบาๆก่อนจะกดจมูกโด่งหอมแก้มนวลฟอดใหญ่ฟอดดด.. “..อืมม..” ชายหนุ่
ช่วงเย็นของวัน"นี่คุณอุ้มหลานดีๆล่ะเดี๋ยวจะพากันตกน้ำตกท่าไปซะ" เมษาเห็นเจคอปพาหลานๆวิ่งเล่นที่ริมสระน้ำจึงตะกนบอกให้เขาอุ้มหลานดีๆเพราะฝนพึ่งตกลงมาเมื่อคืนดินยังคงไม่แห้งสนิทดีเดี๋ยวเขาจะลื่นและพาเด็กๆตกน้ำเอาได้"รู้แล้วน่า" เจคอปตะโกนตอบกลับเมษาก่อนจะอุ้มเจ้าก้อนทั้งสองวิ่งเล่นให้ห่างจากขอบสระพอสมควร"สองคนนั้นดูสนิทกันมากเลยนะคะ" ว่านรักและไรอันที่ยืนดูเจคอปละเมษากับลูกๆของเขาอยู่ไม่ห่างต่างก็มีความคิดที่เหมือนกันว่าดูช่วงนี้เมษาและเจคอปสนิทสนมกันเร็วมากเป็นพิเศษ"นั่นสิผมก็ไม่เคยเห็นเจคสนิทกับใครแบบนี้มานานแล้วตั้งแต่..." ไรอันอมยิ้มอ่อนเขารู้ว่าเจคอปไม่ใช่คนที่จะสนิทกับผู้หญิงที่ไหนง่ายๆหากไม่ใช่ว่าอยากอยู่ใกล้ผู้หญิงคนนั้นจริงๆ Rrrrr ชายหนุ่มยังพูดไม่จบประโยคจู่ๆก็มีสายจากเจมส์เข้ามาจึงรีบกดรับ"มีอะไรเหรอเจมส์...อะไรนะ" ไรอันถึงกับกลืนน้ำลายไม่ลงคอเมื่อเรื่องที่ได้รับรู้จากเจมส์เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนัก"มีอะไรคะ" มือเรียวยื่นแตะบ่าสวามีของเธอเบาๆก่อนจะเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเพราะเห็นสีหน้าของไรอันเจื่อนลงไปอย่างเห็นได้ชัดหลังวางสาย"คุณย่าน่ะสิท่านล้มในห้องน้ำตอนนี้โค