หลายวันต่อมา
ไร่ปาริชาต
หลังจากที่ทุกคนเตรียมตัวไม่นานนักก็ได้มาที่ไร่กันจนได้ไรอันที่ไม่ได้กลับมาเห็นที่นี่นานเมื่อมาถึงก็รีบทัวจนทั่วไร่อยากรู้ว่าที่นี่ยังเหมือนเดิมเหมือนตอนที่เขาอยู่หรือเปล่าและเมื่อสำรวจรอบๆพบว่าที่นี่ผู้คนยังคงอยู่กันเหมือนเดิมที่เพิ่มเติมเห็นจะเป็นผู้คนมีกินมีใช้มากขึ้นเครื่องทุ่นแรงก็มีเยอะขึ้น
หลังจากสำรวจทักทายผู้คนรอบไร่แล้วไรอันก็เข้ามานั่งคุยกับปราโมทย์ในช่วงเย็นขณะที่ลูกๆของเขากำลังวิ่งเล่นจับแมลงปอที่บินว่อนอยู่หน้าบ้านกับว่านรัก
“เข้าใจกันดีแล้วใช่ไหม” ปราโมทย์เอ่ยถามชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มอ่อนเรื่องเก่าเรื่องเก็บเขาไม่อยากรื้อฟื้นแค่อยากรู้ว่าตอนนี้ไรอันกับว่านรักเข้าใจกันทุกอย่างดีแล้วหรือไม่เท่านั้น
“ครับตา”
“ความแค้นมันไม่มีอะไรดีหรอกนะปล่อยวางเสียใจเราจะได้ไม่ทุกข์” ปราโมทย์รู้แบบนี้เขาก็คลายกังวลก่อนจะเอ่ยเตือนไรอันเรื่องที่เขาเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น
“ผมจะพยายามครับ” ไรอันก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับปากปราโมทย์ว่าเขาจะพยายามเปลี่ยนนิสัยให้ได้
ครู่ต่อมา
เมื่อว่านรักว่างจากจากดูแลเด็กๆหลังจากคนเป็นพ่อและทวดอาสาจะดูให้เธอจึงเดินมาหลังบ้านดูว่าเมษากำลังจะวาดรูปอะไรเพราะเห็นเพื่อนเธอเตรียมอุปกรณ์อยู่ครู่ใหญ่แล้ว
“จะวาดรูปอะไรเหรอเม”
“ก็คุณเจคจะให้ฉันวาดเค้าอยู่ในวิวพระอาทิตย์ตกนี้ให้ได้”
“ยุงเริ่มมาแล้วฉันจุดยากันยุงให้นะ” ว่านรักเห็นว่ายุงเริ่มชุมแล้วเธอจึงจุดยากันยุงเอาไว้ให้เมษา
“.ขอบใจนะ”
“อ้าวคุณเจค..ถอดเสื้อทำไมคะ” ระหว่างที่นั่งจุดยากันยุงอยู่นั้นว่านรักก็หันไปเห็นเจคอปเดินถอดเสื้อโชว์แผงกล้ามออกมาจากใต้ถุนบ้านจึงต้องทักขึ้นไม่รู้ว่าเขาไม่กลัวยุงกัดบ้างหรืออย่างไร
“ผมต้องการให้คุณเมวาดรูปกล้ามที่เป็นมัดๆของผมครับ” คนตัวโตเอ่ยอย่างภาคภูมิใจก่อนจะขึ้นไปนอนตะแคงบนแคร่ไม้ตรงหน้าพระอาทิตย์ที่กำลังจะตก
“ฉันวาดได้นะคะแต่คุณไม่กลัวยุงหรือไง” เมษาเห็นว่าเขาจะไม่สามารถทนกันยุงได้จนกว่าเธอจะวาดเสร็จหากเขาไม่ใส่เสื้อแบบนี้
“ผมไม่เคยกลัวอยู่แล้วก็แค่ยุงตัวเล็กๆ” เจคอปเอ่ยด้วยสีหน้าระรื่น
“โอเค..ฉันจะเริ่มวาดแล้วนะ” เมื่อเห็นคนตัวโตมั่นใจเช่นนั้นเมษาเลยรีบลงมือวาดก่อนที่มันจะดึกไปกว่านี้
ส่วนว่านรักเองก็ยืนมองด้วยความเป็นนห่วงครู่หนึ่งก่อนจะเดินเอายากันยุงมาจุดตั้งไม่ห่างจากเจคอปมากนักก่อนจะกลับไปดูแลแด็กๆหวังว่ายากันยุงของเธอช่วยไล่ยุงได้ไม่มากก็น้อย
ครู่ต่อมา
“อยู่เฉยๆสิคุณ” เมื่อวาดมาได้พักใหญ่เมษาก็ต้องเอ่ยอย่างอารมณ์เสียเพราะเจคอปอยู่ไม่นิ่งเอาเสียเลย
“ก็ยุงมันกัด..เอ่อ..อืม” เจคอปบ่นอุกด้วยเสียงแหบพร่าทั้งเขายังน้ำหูน้ำตาไหลตาแดงขึ้นมากะทันหันจนเมษาต้องละมือแล้วไปดูอาการของเขา
“เป็นอะไรคะ”
“ผมเหมือนจะหายใจไม่ออก” สิ้นเสียงของเจคอปเมษาก็รีบไปตามไรอันให้พาเจคอปไปโรงพยาบาลทันทีเพราะเห็นว่าเขาอาการไม่ดีแล้ว
ชั่วโมงต่อมา
โรงพยาบาล
“คนไข้แพ้ยุงน่ะครับดีที่มาถึงโรงพยาบาลเร็วเพราะหลอดลมเริ่มตีบเยอะแล้วเดี๋ยวคืนนี้นอนให้น้ำเกลือถ้าพรุ่งนี้เช้าไม่มีอาการอาเจียนหรือหายใจไม่ออกก็กลับบ้านได้ครับ”
“ขอบคุณค่ะคุณหมอ”
“ทีนี้จะอยากนอนถอดเสื้อเป็นแบบวาดรูปตอนพระอาทิตย์ตกอยู่หรือเปล่า” ไรอันเอ่นหยอกเพื่อนรักที่นอนให้น้ำเกลืออยู่บนเตียง
“คงไม่อะ” เจคอปส่ายหัวด้วยท่าทีขยาดเขาคงจะไม่ล้อเล่นกับยุงพวกนั้นแล้ว
“คุณกลับไปหาว่านกับเด็กๆเถอะค่ะทางนี้ฉันเฝ้าเค้าเอง” เมษาที่นั่งเฝ้าเจคอปอยู่ข้างเตียงเงยหน้ามาคุยกับไรอันเพราะเธออยากให้เขากลับบ้านไปหาว่านรักกับเด็กๆด้วยตอนนี้ดึกมากแล้ว
“ฝากด้วยนะครับ...ฉันกลับก่อนนะ” ไรอันพยักหน้ารับกับเมษาเบาๆก่อนจะยื่นมือไปแตะไหล่เจคอปแล้วออกจากห้องไป
“อย่าเกาค่ะเดี๋ยวฉันทายาแก้คันให้” เมษาหยิบตลับยาทาแก้คันก่อนจะขึ้นไปนั่งขอบเตียงของชายหนุ่มเพื่อทายาให้เขาก่อนที่เจ้าตัวคนป่วยจะเกาจนเนื้อถลอก
“ดีเหมือนกันผมคันจะแย่อยู่แล้ว” เจคอปรีบถอดเสื้อออกทันทีที่หญิงสาวปริปากจะทายาให้เขาเพราะตอนนี้คันจนแทบจะดิ้นแล้ว
“แดงไปทั้งตัวขนาดนี้คุณก็ยังทนไห้ยุงกัดอยู่ได้นะ” เมษาเห็นรอยยุงกัดบนหลังชายหนุ่มเธอล่ะยอมใจเขาเลยจริงๆที่ยุงกัดเยอะขนาดนี้ยังทนอยู่ได้
“ผมอยากได้รูปสวยๆนี่นา”
“เปลี่ยนจากพระอาทิตย์ตกเป็นพระอาทิตย์ขึ้นไหมล่ะฉันว่าสดใสกว่าเยอะนะ” เมษาเสนอทางเลือกให้เจคอปเธอว่าหากเขาให้เธอวาดตอนพระอาทิตย์ขึ้นจะดูดีกว่าเยอะแถมเขาไม่ต้องมาเสี่ยงกับยุงด้วย
“คุณชอบพระอาทิตย์ตกหรือพระอาทิตย์ขึ้นเหรอ” เจคอปเอ่ยถามหหญิงสาวด้วยน้ำเสียงสงสัยอยากรู้ว่าหญิงสาวจะชอบพระอาทิตย์ตกเหมือนมินโฮรินแฟนเก่าของเขาหรือเปล่า
“พระอาทิตย์ขึ้นสิเพราะมันมีแต่ความสดใส...ถามทำไม” หญิงสาวเอ่ยตอบทันควันอย่างไม่ต้องคิดเลยเธอชอบพระอาทิตย์ขึ้นอยู่แล้ว
“เปล่าหรอกถามไปงั้น” เจคอปอมยิ้มมุมปากเล็กน้อยเห็นจะมีเรื่องเดียวที่หญิงสาวเหมือนมินโฮรินนอกจากรูปร่างหน้าตาก็ชอบวาดภาพเหมือนกันนี่แหละ
ทางด้านไรอันเขากลับมาถึงบ้านก็รีบอาบน้ำอายท่ากะว่าจะเล่นกับลูกๆแต่ก็ต้องแอบผิดหวังนิดหน่อยที่เด็กๆหลับไปหมดแล้ว“เด็กๆหลับแล้วเหรอ”“ค่ะ..คุณเจคเป็นยังไงบ้างคะ” ว่านรักอยู่ในชุดนอนสีขาวหันมาตอยคนเป็นสามีเสียงเบาขณะที่กำลังวางผ้าห่มเจ้าแฝดในเปลเพราะนอนดิ้นจนผ้าห่มไม่อยู่กับตัว“หมอฉีดยาแก้แพ้กับให้น้ำเกลือดีขึ้นบ้างแล้วเห็นว่าถ้าพรุ่งนี้ไม่มีอาการแทรกซ้อนก็น่าจะกลับบ้านได้” “มาวันแรกก็เกิดเรื่องเลยนะคะแล้วอย่างนี้จะอยากยู่ต่อไหมคะเนี่ย” หญิงสาวหน้าเสียเล็กน้อยเธออยากจะให้ทุกคนที่มาที่นี่แล้วประทับใจแต่เจคอปกลับป่วยเสียตั้งแต่วันแรกที่มา“คนอย่างเจคอปไม่ใช่คนท้อต่อความลำบากหรอก” “งั้นก็ดีแล้วค่ะ...ฉันว่าต้องเตรียมหามุ้งหายากันยุงดีๆให้คุณเจคแล้วล่ะ...ยิ่งช่วงนี้หน้าฝนยุงชุมด้วย”“อืม...”“หิวหรือเปล่าคะฉันทำต้มจืดวุ้นเส้นไว้ให้คุณด้วย...” ว่านรักเอ่ยก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มเพราะอาหารเย็นเธอทานพร้อมลูกๆแล้วตอนนี้ก็ได้เวลาพักผ่อน“ไม่หิวข้าว...แต่หิวคุณมากกว่า” ไรอันเข้ามาสวมกอดภรรยารักเอาไว้แน่นเอ่ยกระซิบข้างหูของเธอเบาๆก่อนจะกดจมูกโด่งหอมแก้มนวลฟอดใหญ่ฟอดดด.. “..อืมม..” ชายหนุ่
ช่วงเย็นของวัน"นี่คุณอุ้มหลานดีๆล่ะเดี๋ยวจะพากันตกน้ำตกท่าไปซะ" เมษาเห็นเจคอปพาหลานๆวิ่งเล่นที่ริมสระน้ำจึงตะกนบอกให้เขาอุ้มหลานดีๆเพราะฝนพึ่งตกลงมาเมื่อคืนดินยังคงไม่แห้งสนิทดีเดี๋ยวเขาจะลื่นและพาเด็กๆตกน้ำเอาได้"รู้แล้วน่า" เจคอปตะโกนตอบกลับเมษาก่อนจะอุ้มเจ้าก้อนทั้งสองวิ่งเล่นให้ห่างจากขอบสระพอสมควร"สองคนนั้นดูสนิทกันมากเลยนะคะ" ว่านรักและไรอันที่ยืนดูเจคอปละเมษากับลูกๆของเขาอยู่ไม่ห่างต่างก็มีความคิดที่เหมือนกันว่าดูช่วงนี้เมษาและเจคอปสนิทสนมกันเร็วมากเป็นพิเศษ"นั่นสิผมก็ไม่เคยเห็นเจคสนิทกับใครแบบนี้มานานแล้วตั้งแต่..." ไรอันอมยิ้มอ่อนเขารู้ว่าเจคอปไม่ใช่คนที่จะสนิทกับผู้หญิงที่ไหนง่ายๆหากไม่ใช่ว่าอยากอยู่ใกล้ผู้หญิงคนนั้นจริงๆ Rrrrr ชายหนุ่มยังพูดไม่จบประโยคจู่ๆก็มีสายจากเจมส์เข้ามาจึงรีบกดรับ"มีอะไรเหรอเจมส์...อะไรนะ" ไรอันถึงกับกลืนน้ำลายไม่ลงคอเมื่อเรื่องที่ได้รับรู้จากเจมส์เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนัก"มีอะไรคะ" มือเรียวยื่นแตะบ่าสวามีของเธอเบาๆก่อนจะเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเพราะเห็นสีหน้าของไรอันเจื่อนลงไปอย่างเห็นได้ชัดหลังวางสาย"คุณย่าน่ะสิท่านล้มในห้องน้ำตอนนี้โค
ทางด้านเมษาวันนี้ก็ไม่ได้อยู่ดูแลหลานดีเพราะเจคอปดันลากเธอมาที่ยบ้านของเขาเพื่อที่จะคุยเรื่องการเตรียมตัวไปวันงานที่กำลังจะถึงในอีกไม่ถึงอาทิตย์เมษามาถึงบ้านเจคอปได้ชายหนุ่มก็พาเธอเข้ามาในห้องแต่งตัวห้องใหญ่ที่หญิงสาวเองก็ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะมีห้องมีแต่ของแต่งตัวผู้หญิงในบ้าน"โหนี่คุณมีชุดผู้หญิงเต็มตู้แบบนี้เลยเหรอ...หรือว่าคุณชอบแบบนี้" เมษาเปิดตู้ลายหินอ่อนตู้ใหญ่ในห้องก็เห็นเสื้อผ้าผู้หญิงเต็มไปหมดจึงเอ่ยหยอกชายหนุ่มหน้าระรื่นและแอบคาใจเล็กน้อยเรื่องที่ทำไมเขาถึงมีของผู้หญิงในบ้านเยอะขนาดนี้"หยุดเพ้อเจ้อเลย..ชุดนี้คุณลองใส่ดูหน่อยสิ" เจคอปไม่ได้อธิบายว่าทำไมเขาถึงมีของพวกนี้ได้แต่ยืนเลือกมชุดให้หญิงสาวได้ลองใส่เพราะรู้ว่าเธอขนาดตัวเท่ากับเจ้าของเสื้อผ้าพวกนี้"โป๊ไปหรือเปล่าคุณ" เมษามองชุดผ้าซาตินสีครีมเกาะอกกระโปรงยาวแหวกลึกด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยมั่นใจนักเพราะดูจะเปิดเนื้อหนังเกินไป"ไม่หรอกน่าที่นี่เค้าก็แต่งแบบนี้" มือหนาดันตัวหญิงสาวให้เข้าไปเปลี่ยนชุดห้องลอง"คุณ.." "มีอะไร""ฉันรูดซิปไม่ได้" ไม่นานนักเมษาก็ต้องเอ่ยเรียกเจคอปเพราะตอนนี้เธอรูดซิบหลังไม่ได้"โอเคเดี๋ยวผม
"ไม่ใช่หรอกคนอย่างเจคแยกแยะทุกอย่างชัดเจน..." ไรอันไม่ได้คิดแบบว่านรักสักนิดเพราะเขารู้จักนิสัยเพื่อนของเขาดี"อืม...อย่างนั้นฉันก็ค่อยโล่งใจค่ะ""ทำไมต้องโล่งใจ..มีอะไรหรือเปล่า" ไรอันเหลือบสายตามองคนเป็นภรรยาอย่างคราแครงใจ"เอ่อ..ไม่มีค่ะนอนกันเถอะ" ร่างบางปฏิเสธที่จะตอบก่อนจะล้มตัวนอนลงใต้ผ้าห่มผืนหนา"ถ้าคุณไม่ตอบคืนนี้ไม่ให้พักแน่" ไรอันรวบกอดภรรยารักไว้แน่น"ไรอัน...ทำไมเป็นคนแบบนี้คะ""ตอบมาเดี๋ยวนี้เลย""ฉันก็แค่..คิดว่าเพื่อนฉันคงชอบคุณเจคค่ะ" ด้วยความที่อยากพักผ่อนจึงตอบสามีเธอไปแต่โดยดี"อืม...งั้นเหรอ..ผมก็คิดเหมือนคุณเลยแต่เป็นเจคที่เหมือนจะชอบเมษานะ" ไรอันคลายกอดว่านรักเล็กน้อยยอมรับว่าเขาก็คิดเรื่องสองคนนี้เหมือนกัน"จริงเหรอคะ" ว่านรักยิ้มอ่อนดีใจที่ดูเหมือนเมษาและเจคอปจะใจตรงกัน"อืม... ตอนนี้แค่คิดแต่ต้องดูกันต่อไปว่าจะจริงอย่างที่คิดหรือเปล่า" ไรอันยังไม่รับปากว่าความคิดของเขาถูกแค่ต้องรอดูต่อไปเท่านั้น วันต่อมา"อ้าวคุณมาทำอะไรเหรอ" เมษานั่งเล่นอยู่หน้าบ้านเห็นเจคอปขับรถเข้ามาจึงแปลกใจว่าเขามาทำอะไรที่นี่ทั้งที่วันนี้ก็บอกเองว่าให้เธอพัก"อ๋อ...มาหาเด็กๆน่ะ" คนตั
ชั่วโมงต่อมา"ตื่นเต้นจังเลยว่าน" เมื่อมาถึงในงานสองสาวดูจะตื่นเต้นกันเป็นพิเศษเพราะงานนี้คนค่อนข้างเยอะอยู่พอสมควร"ฉันก็เหมือนกันถึงจะพบเจอคนบ่อยตอนที่ทำงานที่นี่แต่ก็ไม่เคยเจอเยอะขนาดนี้นับว่างานนี้ใหญ่จริงๆเลยนะเป็นเกียรติที่ผลงานแกจะได้มาประมูลที่นี่" ว่านรักจับมือเมษาไว้แน่นเมื่อก่อนเธอเองก็ทำงานกับคนเยอะแยะมากมายแต่งานนี้เธออดประหม่าไม่ได้จริงๆ"รู้สึกภูมิใจจัง..อยากจะรู้ว่ารูปของฉันจะได้ราคาประมูลเท่าไร" เมษาไม่คิดไม่ฝันว่าเธอจะมาอยู่จุดนี้จะมาเป็นศิลปินที่ผู้คนต่างให้ความสนใจผลงานของเธอ"นั่นสิ" ว่านรักยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เพราะเธอก็ภูมิใจไปกับเมษาด้วยเช่นกันครู่ต่อมาตอนนี้เมษาและเจคอปอยูในงานเพียงแค่สองคนเพราะไรอันและว่านรักพาเด็กๆไปเดินเล่นข้างนอกเนื่องจากพอเจอคนมาทักทายมากหน้าหลายตาเข้าเจ้าสองแสบก็เริ่มงอแง"คุณ..ภาพวาดของฉันจะได้ประมูลตอนไหน" เมษาเริ่มนั่งไม่ติดเมื่อตอนนี้รูปภาพของศิลปินท่านอื่นเริ่มประมูลกันไปบ้างแล้วและแต่ละภาพผู้คนก็สู้ราคากันจนใจขาดเลยทีเดียว"อีกเดี๋ยวก็ได้ขึ้นประมูลแล้ว" เจคอปจับมือเมษาเอาไว้แน่นเพื่อให้เธอลดอาการประหม่าลงเพราะอีกไม่กี่ภาพก็จะเป็นภ
สามวันต่อมา วันนี้เจคอปเข้ามารับเมษาที่บ้านไรอันแต่เช้าเพราะรู้ว่าเธอใกล้ถึงกำหนดที่จะกลับเมืองไทยแล้วเขามีที่ที่หนึ่งที่อยากจะพาหญิงสาวไปดู"ที่นี่เป็นบ้านที่ผมซื้อไว้นานแล้ว" เจคอปพาเมษาออกมาจากบ้านของไรอันไม่ไกลนักแล้วเขาก็เลี้ยวเข้ามาในบ้านหลังสีขาวที่สร้างโครงสร้างผิดแปลกไปจากบ้านที่นี่อยู่มากเพราะมันเหมือนบ้านคนในเกาหลีหรือญี่ปุ่นมากกว่าบ้านในอเมริกา"ที่นี่มีแต่อุปกรณ์วาดภาพคุณก็ชอบวาดภาพเหมือนกันเหรอ" เมษาเดินเข้ามาในบ้านตรงกลางเป็นห้องโล่งทางซ้ายเป็นห้องนั่งเล่นเล็กๆส่วนขวามือเป็นห้องใหญ่ที่เป็นกระจกทั้งหมดพอเธอเดินเข้ามาด้านในพบว่าในห้องนี้น่าจะเป็นห้องที่เอาไว้สร้างสรรค์งานศิลปะเพราะที่นี่มีอุปกรณ์วาดภาพและพวกสีค่อนข้างครบครันจึงหันมาถามชายหนุ่มด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างแปลกใจเพราะเขาไม่เคยบอกเธอเลยว่าเขาชอบวาดภาพเหมือนกัน"ก็เคยลองวาดแต่ก็ไม่ได้เก่งเท่าไรคุณชอบที่นี่หรือเปล่า" เจคอปพอจะวาดเป็นอยู่บ้างเพราะแฟนเก่าของเขาเป็นคนสอนแต่เขาก็ไม่ได้ชอบมันจนวาดเก่งเป็นมืออาชีพแบบเมษาที่เขาพาหญิงสาวมาที่นี่เพราะเขาอยากรู้ว่าเธอชอบที่นี่หรือไม่หากชอบเขาก็อนุญาตให้เธอมาที่นี่ได้ตลอดเวลา
เช้าวันต่อมา"คุณตัวร้อนทั้งคืนเลยกินข้าวกินยาก่อนนะครับ" "ค่ะ.." เมื่อคืนเมษาเป็นไข้ตัวร้อนจนเจคอปต้องเช็ดตัวให้ทั้งคืนเมื่อหญิงสาวตื่นมาในช่วงเช้าเจคอปจึงให้เธอรีบทานข้าวทานยาเสียก่อน"ผมขอโทษที่ทำให้คุณป่วย" คนตัวโตโผเข้ากอดร่างบางด้วยความรู้สึกผิดไม่คิดว่าการกระทำของเขาจะทำให้หญิงสาวถึงกับไข้ขึ้น บ่ายของวัน"อือ...อืม.." หลังจากที่เมษาทานข้าวทานยาเรียบร้อยในช่วงเช้าเธอก็นอนพักผ่อนจนตื่นมาในช่วงบ่ายตอนนี้เธอรู้สึกสดชื่นขึ้นกว่าเมื่อเช้ามากพอสมควร"ตื่นแล้วเหรอครับ..คุณดูนี่สิ" เจคอปที่นั่งวาดรูปหญิงสาวที่กำลังหลับด้วยดินสอพักใหญ่เมื่อเธอตื่นขึ้นมาเขาก็วาเสร็จพอดีจึงรีบอวดหญิงสาวให้เธอได้ดูว่าเขาก็มีฝีมือพอตัวเหมือนกัน"หืม..คุณก็มีฝีมือเหมือนกันนะคะ" "ตอนคุณหลับน่ารักที่สุดเลย" "ตอนตื่นไม่น่ารักหรือไง" หญิงสาวเอ่ยน้ำเสียงอ่อน"น่ารักมาก""......" น้ำเสียงทุ้มว่าจบหญิงสาวก็ก้มหน้างุดไม่คิดว่าคนอย่าเขาจะปากหวานเป็นด้วยเหมือนกัน เย็นของวัน"เล่ามาเดี๋ยวนี้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น" หลังจากที่เมษากลับมาได้ว่านนรักก็เค้นสอยบสวนเพื่อนเธอเป็นการใหญ่"คือ..." เมษาไม่ได้คิดจะปิดบั
"...." สิ้นเสียงของมินแฮนาเมษาก็ตัวชาวาบพูดอะไรไม่ออกน้ำตารื้นขึ้นมากะทันหัน"คุณคิดว่าเค้าเป็นผู้ชายประเภทไหนก็คิดเอานะคะ" มินแฮนาเห็นท่าทีของเมษาเธอก็ค่อนข้างพอใจเมื่อว่าจบก็หันหลังกลับออกไปทันที ในส่วนของเมษาหลังจากที่มินแฮนากลับไปแล้วเธอก็เดินเข้ามาในบ้านร้องให้อย่างคนที่ไร้สติจนว่านรักต้องรีบถามด้วยความตกใจ"เม..เม...เป็นอะไร""ฮึก..ฮือๆๆๆ..ฮื่อๆๆๆๆ...ฉันมันโง่เอง""ใจเย็นๆก่อนนะ" ว่านรักพาเมษามานั่งที่โซฟาปลอบใจอยู่พักใหญ่จนได้คำตอบจากเมษาว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทางด้านเจคอปตอนนี้ก็อยู่รอเมษากลับมาที่บ้านของไรอันเขายังยุ่งกับการคุยโทรศัพท์เรื่องที่บ้านไม่น้อยเพราะต้องการให้คนรื้อห้องของมินโฮรินไปให้เร็วที่สุดไม่ใช่ว่าเขาพึ่งจะอยากรื้อแต่เขาเองก็พึ่งจะมีเวลาอยู่บ้านนานๆก็คราวนี้"ครับรื้อของห้องนั้นให้หมดเลย.." "รื้ออะไรของแก" ไรอันขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเพื่อนของเขาคุยโทรศัพท์จบ"พวกห้องเก่าโฮริน...พึ่งจะได้ฤกษ์รื้อนานๆจะอยู่บ้านที""อืม...รื้อก็ดีแล้วล่ะ" ไรอันเห็นด้วยที่เจคอปจะรื้อเพราะหาเมษารู้ว่าของพวกนั้นเป็นของใครเธอก็คงจะไม่โอเคเท่าไรนัก"ไปไหนกันมาเหรอครับ" เจ