ปึก..
“โอ้ยย..”
สายธารเจ็บจนตัวงอเมื่อราชสีห์เหวี่ยงร่างเธอเข้าไปในมุมห้องจนลำตัวกระแทกกับผนังอย่างรุนแรงสายธารเงยหน้าขึ้นมาได้ดวงตากลมโตก็เบิกโพรงอ้าปากค้างเริ่มกลัวจนตัวสั่นเมื่อเห็นว่าราชสีห์กำลังยกมือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาออก
“จะ..ทำอะไร”
“ฉันบอกแล้วไงว่าจะทำให้เธอเหมือนตายทั้งเป็น”
ราชสีห์วาดวงแขนรวบอุ้มสายธารด้วยแขนข้างเดียวเหวี่ยงเธอไปไว้บนเตียงนุ่มสีหน้าแววตาของเขาแสดงออกถึงความสะใจอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่นะ..” ปึกกก..
หญิงสาวพยายามดิ้นหนีแต่เธอก็ต้องชะงักตัวงอด้วยถูกหมัดหนักๆของคนที่กำลังบ้าคลั่งเหวี่ยงฟาดลงมาที่หน้าท้องน้อย
“อึก..อืมม...ฮือๆๆ”
แคว้กกก..ๆ
สาวเจ้านอนตัวงอฟุบหน้าลงสะอื้นเสียงอ่อนลงกับเตียงนุ่มเธอไม่สามารถขัดขืนกับการกระทำของราชสีห์ได้แม้เรี่ยวแรงจะหายใจยังไม่ค่อยจะมีเพราะเจ็บจุกจนร้าวไปทั้งตัวได้แต่ปล่อยให้เขาฉีกเสื้อผ้าของเธอด้วยความไม่เต็มใจเหตุการณ์วันนี้เป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตที่ต้องมาเสียลูกรักกะทันหันเพราะความผิดของตัวเองทั้งยังต้องถูกขืนใจอย่างไม่เต็มใจหากเขาจะย่ำยีเธอเช่นนี้สู้ฆ่าให้เธอตายไปเลยเสียจะยังดีกว่า
ตื๊ดดด...ตื๊ดดดด
ร่างกำยำที่เปลือยเปล่าท่อนบนโชว์แผงกล้ามขณะที่กำลังจะถอดกางเกงของเขาก็มีสายจากคนสำคัญเข้ามาเสียก่อนทำให้เขาต้องหยุดการกระทำ
“ถือว่าโชคเข้าข้างเธอนะวันนี้”
ราชสีห์ตวัดผ้าที่ฉีกขาดของสายธารฟาดลงบนใบหน้าของสายธารก่อนจะลุกเดินออกไปนอกห้องเพื่อไปรับสายที่โทรเข้ามา
เมื่อราชสีห์ออกไปได้สายธารก็หลับตาลงสะอึกสะอื้นด้วยความเหนื่อยล้าเจ็บปวดหัวใจเกินจะทน
“ครับคุณย่า...ครับ..อย่าพึ่งบ่นสิครับผมฝากคุณย่าดูแลเธอด้วยแล้วผมจะไปหาเพื่ออธิบายเรื่องราวทุกอย่างเองครับ”
เป็นคุณย่าของราชสีห์ที่โทรมาทำให้เขาต้องรีบออกมารับสายตอนนี้เขาถูกบ่นจนหูชาถึงเรื่องที่เขาหาภาระไปให้ย่าของเขาแต่นั่นก็เป็นเรื่องจำเป็นเพราะเขาไม่ไว้ใจใครให้รับภาระเรื่องที่เป็นปัญหาสำหรับเขาในตอนนี้นอกจากย่าของเขาอีกแล้ว
01.30 น.
พอใจขับรถกลับมาถึงที่กรุงเทพตีหนึ่งกว่าๆเธอหาข่าวเกี่ยวกับผู้หญิงที่กำลังมีข่าวกับคาวีในตอนนี้และเธอก็ได้ไอจีของดาราสาวคนนั้นมา
“อยู่ที่นี่เองน่ะเหรอ..ต้องขอบคุณเธอนะคัพเค้ก”
และแล้วพอใจก็ยิ้มออกเพราะเมื่อไม่กี่นาทีดาราสาวคนนี้โพสต์รูปคู่กับคาวีที่ผับแห่งหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านที่เธออยู่นักพอรู้ดังนั้นสาวเจ้าก็ไม่รีรอรีบเข้าห้องไปแต่งตัวแต่ดูท่าว่าชุดของเธอจะใช้ไม่ได้สักชุดจึงต้องหาตัวช่วยอย่างเร่งด่วน
รถเก๋งคันเล็กของพอใจจึงต้องแล่นออกจากบ้านอีกครั้งบึ่งตรงไปที่คอนโดของเพื่อนสาวพราวเสน่ห์ที่เป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดัง
พราวฟ้าลุกมาเปิดประตูให้พอใจเข้ามาเธอขยี้หูขยี้ตาเล็กน้อยเพราะพึ่งจะนอนไปได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องถูกพอใจโทรปลุก
“หา..แกเนี่ยนะจะไปผับ...ไปตามผัวเหรอ”
พอได้รู้ว่าพอใจจะไปที่ผับทั้งที่ไม่ชอบสถานบันเทิงเวลานี้แถมยังดูมีท่าทีร้อนใจคนที่ตรงไปตรงมาอย่างพราวฟ้าก็อดคิดไม่ได้ว่าเพื่อนน่าจะไปตามผู้ชายมากกว่า
“ใช่..เอ้ย..ไม่ใช่ฉันมีธุระพอจะมีชุดที่เหมาะกับฉันหรือเปล่า”
ด้วยความรีบร้อนพอใจจึงพูดผิดๆถูกๆเธอไม่พร้อมจะอธิบายเรื่องราวอะไรกับพราวฟ้าในตอนนี้เพราะต้องรีบ
“เข้ามาเลือกเอา”
พราวฟ้าจูงมือพอใจเข้ามาในห้องแต่งตัวให้เพื่อนเธอเลือกเองว่าอยากจะได้ชุดไหน
“โอ้ย...เสื้อผ้าเป็นโกดังแบบนี้ใครจะเลือกแกหยิบมาให้ฉันเลยเอาที่ฉันใส่ได้”
พอใจยืนเบิกตาโพรงเธอรู้ว่าชุดของพราวฟ้าคงมีส่วนน้อยที่เธอใส่ได้เพราะพราวฟ้าเป็นคนที่ค่อนข้างสูงกว่าเธอมากจึงคิดว่าควรให้เจ้าของเสื้อผ้าเหล่านี้เลือกชุดที่คิดว่าเธอจะใส่ได้มาเลยดีกว่า
“โอเคๆ”
หลังจากที่พราวฟ้าเลือกได้ครู่หนึ่งเธอก็หยิบชุดเกาะอกสีดำมาสองชุดอีกชุดเป็นของเธอและอีกชุดเป็นของพอใจคืนนี้เธอว่าจะไปกับพอใจด้วย
“อะของแกชุดนี้ส่วนนี่ของฉันคืนนี้ฉันจะไปกับแกด้วย”
“ฉันไม่ได้ไปเที่ยวนะพราวฉันจะไปธุระ”
“ธุระอะไร”
“อธิบายตอนนี้ก็ยาว”
“เอาน่าฉันจะไม่ยุ่งกับธุระของแกแต่มีอะไรให้ช่วยก็บอก”
“โอเคๆ”
หลังจากตกลงกันได้พราวฟ้ากับพอใจก็รีบแต่งตัวกันอย่างรวดเร็ว
“เพื่อนฉันเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยนะเนี่ย”
พราวฟ้าที่กำลังแต่งหน้าเห็นว่าพอใจกำลังรวบผมตึงแถมยังถอดแว่นเปลี่ยนมาใส่เป็นคอนแท็กเลนบวกกับอยู่ในชุดที่โชว์เนินอกโชว์ขาอ่อนเธอก็อดเอ่ยชมพอใจไม่ได้
“รีบๆเถอะน่า”
ตอนนี้พอใจไม่ได้สนว่าเธอจะสวยไม่สวยแค่แต่งตัวให้เข้ากับสถานที่นั้นๆเพื่อไปทำสิ่งที่เธอคิดเป็นพอ
พราวฟ้าเป็นเพื่อนกับพอใจและสายธารในช่วงที่อยู่มัธยมปลายและสนิทกันมาจนถึงทุกวันนี้เธอเป็นลูกคุณหนูบ้านมีธุรกิจอสังหาแต่เธอเป็นลูกคนเล็กของบ้านจึงเลือกที่จะให้พี่ๆบริหารงานของครอบครัวไปส่วนเธอก็ขอทำงานที่เธอรักแม้นรายได้จะไม่เท่าธุรกิจของครอบครัวแต่เธอก็พอใจจุดที่เธอยืนมาก
ตอนนี้ทั้งสองสาวยืนอยู่หน้าผับพอใจกับพราวฟ้าดูสวยเด่นเป็นสง่าจนใครๆเห็นก็ต้องหันมามองกันเป็นตาเดียว“พราวพวกคนรวยๆเค้าจะอยู่กันตรงไหน”พอใจเดินเข้ามาด้านในพร้อมพราวฟ้าเสียงอึกกระทึกครึกโครมของดนตรีในตอนนี้ทำเอาพราวฟ้าไม่โยกตามเสียงดนตรีไม่ได้มีเพียงแค่พอใจเท่านั้นที่เอาแต่มองหาคาวีก่อนยจะหันไปถามพราวฟ้าถึงที่อยู่ของเหล่าคนมีเงินที่เขามาเที่ยวที่นี่“โน่นไงด้านบนชั้นวีไอพี”“ไป”“เดี๋ยวแกมาหาใครกันแน่”พราวฟ้าต้องรีบรั้งมือพอใจเอาไว้เพราะรู้เพียงแค่ว่าพอใจมาที่นี่ด้วยเรื่องของธุระแต่ไม่รู้ว่าจะมาหาใครยิ่งพอใจจะขึ้นไปชั้นบนก็ยิ่งต้องห้ามเพราะชั้นนั้นมีบอดี้การ์ดคอยตรวจตราตลอดเวลาม่าใช่ว่าใครจะขึ้นไปก็ได้“คุณคาวี”“คุณคาวีน้องคุณสิงห์น่ะเหรอ”“อืม”“หา..แกมีธุระอะไรกับเค้ากันแน่เล่ามาก่อน”พราวฟ้ายอมรับว่าตกใจพอสมควรที่พอใจบอกว่ามาที่นี่เพราะคาวีคิดว่าคงไม่ใช่เพื่อนเธอพลาดท่าเสียทีให้กับผู้ชายเจ้าชู้อย่างคาวีไปแล้วล่ะ“บอกว่าเดี๋ยวเล่าให้ฟัง”พอใจรีบลากพราวฟ้าฝ่าฝูงชนไปที่หน้าบันไดเลื่อนที่จะขึ้นไปชั้นบนแต่แล้วก็มีเหล่าชายชุดดำที่เป็นบอดี้การ์ดเข้ามาขวางพวกเธอเอาไว้ก่อน“คุณคาวีให้ฉันมา
“พราวฟังฉันก่อน...แกเงียบก่อนฉันขอร้องล่ะ”“ก็ได้”เป็นพอใจที่ต้องทำให้พราวฟ้านั้นเงียบก่อนจะเค้นเอาความจริงจากคาวีว่าเมื่อกลางวันเป็นแผนของเขาใช่หรือไม่พราวฟ้าเองแม้นจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่พอใจสาวความจากคาวีเท่าไรนักแต่เธอก็รับปากเพื่อนเอาไว้แล้วจึงต้องนั่งเงียบๆ“ผมยอมรับแล้วคุณจะเอาอะไรอีก”“จิตสำนึกของคุณมันมีบ้างหรือเปล่าเพื่อนฉันจะเป็นตายร้ายดียังไงบ้างคุณไม่สนใจเลยหรือไง”“พี่ผมขอร้องจะให้ผมทำยังไง”“บอกมานะว่าเพื่อนฉันอยู่ที่ไหน”“ผมบอกว่าผมไม่รู้แต่ผมรู้อย่างเดียวคือตอนนี้คุณก็มีความผิดเหมือนกันแล้วพี่ผมก็หมายหัวคุณเอาไว้แล้วด้วยโทษฐานที่ให้ความช่วยเหลือเพื่อนคุณ”“โอ้ยย..ฉันจะบ้าตาย”พอใจยกมือกุมขมับหนึบไหนจะห่วงเพื่อนตอนนี้ยังต้องห่วงความปลอดภัยของตัวเองอีก“ใช่ฉันก็จะบ้าตาย..พูดเรื่องอะไรกันให้ฉันเข้าใจหน่อยได้หรือเปล่า”พราวฟ้าที่จะบ้าตายอีกคนเพราะทนกับความอยากรู้ไม่ไหวว่าเรื่องที่สองคนกำลังนั่งคุยกันอยู่มันคือเรื่องอะไร“เฮ้อ..สายมันวินิจฉัยโรคของคุณกัญญาผิดทำให้เธอเครียดฆ่าตัวตายฉันให้สายหนีเพราะกลัวคุณสิงห์ฆ่าแต่เพราะอีตานี่ทำให้คุณสิงห์รู้ว่าสายกับคะนิ้งอยู่ที่ไหนแล้
ตั้งแต่เช้าจนบ่ายอิงอรง่วนอยู่แต่กับคะนิ้งจนตอนนี้เธอกล่อมเด็กหญิงจนหลับไปแล้วเห็นว่าอาทิตย์กำลังหอบข้าวของที่เป็นของคะนิ้งมาไว้ที่บ้านจึงได้โอกาสถามว่าราชสีห์จะมาที่นี่เพื่อหาลูกและให้ความกระจ่างเรื่องที่มีคะนิ้งตอนไหน“ตกลงตาสิงห์จะมาหาฉันเมื่อไรล่ะอาท”“ผมยังไม่ได้รับคำตอบเลยครับคุณท่าน”อาทิตย์วางข้าวของลงก่อนจะส่ายหัวเบาๆเขาก็ไม่รู้ว่าเจ้านายตนจะมาที่นี่เมื่อไรได้แต่เพียงบอกทุกอย่างตามที่เจ้านายตนสั่งเท่านั้น“แล้วนี่เรื่องจริงใช่หรือเปล่า..ไม่ได้หลอกให้ฉันดีใจเล่นล่ะ”หญิงชราเปรยสายตาไปมองคะนิ้งที่นอนหลับอยู่บนโซฟาใหญ่เธอไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นแค่เรื่องล้อเล่นเท่านั้นด้วยเธออยากจะมีเหลนจริงๆมานานแล้ว“เอาไว้คุณท่านขอคำตอบจากคุณสิงห์เองดีกว่าครับ”อาทิตย์หลุบสายตาลงต่ำเล็กน้อยทั้งอมยิ้มอ่อนเขาไม่อยากพูดอะไรมากเพราะรู้ว่าอิงอรนั้นไม่รู้เรื่องที่ราชสีห์ได้คบกับกัญญาแล้วเกิดปัญหาอะไรขึ้นเขาอยากจะให้เจ้านายของเขาเป็นคนพูดกับอิงอรเองจะดีกว่า20.00 น.ราชสีห์กลับมาที่บ้านหลังเล็กด้วยความมึนเมาเขายังคงต้องพึ่งเครื่องดื่มพวกนี้เพื่อที่จะทำให้ตัวเองไม่ทรมานเมื่อนึกถึงเรื่องของกัญญาแต่ดูท่
หลังจากในครั้งที่พอใจไปหาคาวีที่ผับวันรุ่งขึ้นเธอก็ต้องเก็บกระเป๋าย้ายมาอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ของคาวีด้วยความไม่ค่อยเต็มใจเท่าไรนักแต่ก็ต้องมาอยู่เพื่อความปลอดภัยของตัวเองแถมยังต้องยื่นใบลาออกจากโรงพยาบาลอย่างไม่เต็มใจด้วยในเช้าวันใหม่ตอนนี้พอใจเอาแต่ยกหูโทรต่อสายหาเบอมือถือที่โทรเข้ามาหาเธอเมื่อคืนแต่พยายามโทรเท่าไรก็โทรไม่ติด“เบอใครกันนะ”หญิงสาวในชุดนอนแขนยาวขายาวสีฟ้าเดินไปเดินมาอยู่ที่โถงนั่งเล่นใบหน้าสวยมีสีหน้าแห่งความสงสัยจนคิ้วผูกโบว์ทำให้คาวีที่พึ่งออกมาจากห้องนอนของตัวเองถึงกับต้องยืนจ้องใบหน้าของหญิงสาวครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยถามเธอออกไป“เป็นอะไรของคุณจ้องมือถือขมวดคิ้วอยู่ได้”“ก็เบอนี้โทรมาหาฉันเมื่อคืนตั้งหลายสายแต่พอโทรกลับก็ไม่ติด”พอใจยื่นมือถือของเธอชูไปที่หน้าของคาวี“ไหน”คาวีหยิบมือถือของพอใจมาดูตัวเลขไม่กี่ตัวก็จำได้ว่าเบอนี้เป็นเบอส่วนตัวของพี่ชายที่ใช้มาหลายปีแล้ว“นี่มันเบอส่วนตัวของพี่สิงห์”“อะไรนะ...แล้วคุณสิงห์จะโทรหาฉันทำไม”พอใจถึงกับยกมือกุมหัวจากสีหน้าที่สงสัยแปรเปลี่ยนเป็นตกใจจนเห็นได้ชัดไม่ใช่ว่าตอนนี้ราชสีห์กำลังตามหาตัวเธอเพื่อคาดโทษอยู่ล่ะ“อาจจะตามหาค
“คะนิ้ง..ฉันรู้ว่าคะนิ้งยังไม่ตายคุณช่วยพาคะนิ้งมาหาฉันนะคะ”ร่างบางโงนเงนแทบนั่งไม่อยู่เพราะปวดไปทั้งตัวตอนนี้เธอไม่คิดจะขอความเห็นใจอะไรจากเขาเลยนอกจากเรื่องของลูกเธออยากเจอคะนิ้งเพราะเธอรู้ว่าลูกเธอยังไม่ตาย“ทำความผิดยังกล้ามาขอร้องอะไรฉันอีกดีนะที่เมื่อคืนอาทิตย์มาหาฉันไม่อย่างนั้นคงนอนจมกองเลือดเรียกหมอมารักษาไม่ได้”ราชสีห์กัดฟันกรอดพ่นลมหายใจพรืดใหญ่ด้วยความโมโหทั้งสะบัดแขนสายธารจนเธอล้มไปนอนฟุบกองกับเตียงอีกครั้ง“ขอให้ฉันเจอลูกเถอะนะคะไม่รู้ว่าตอนนี้คะนิ้งจะร้องหาฉันหรือเปล่า”หญิงสาวที่ไร้เรี่ยวแรงแม้นจะยันตัวเองลุกนั่งเธอยกมือทั้งสองไหว้อ้อนวอนชายหนุ่มที่จ้องมองเธออย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อเสียงสั่นเป็นห่วงก็แต่ลูกน้อยไม่รู้ว่าตอนนี้จะอยู่อย่างไงจะกินอะไรและคนที่ดูแลอยู่จะรู้ใจแค่ไหนจะใจดีกับลูกเธอหรือเปล่า“ลูกเธอไม่ร้องหาเธอแล้ว...ถ้าฉันทำให้คะนิ้งลืมเธอได้คงดีฉันจะได้เป็นเจ้าของเด็กคนนี้เพียงคนเดียว”ราชสีห์พยายามพูดให้สายธารนั้นใจเสียยิ่งเห็นเธอรักคะนิ้งมากเท่าไรคะนิ้งก็จะเป็นจุดอ่อนของสายธารมากขึ้นเท่านั้นเธอกล้าทำเขาเจ็บทั้งตัวเจ็บทั้งใจเขาก็จะทำให้เธอเจ็บกว่าเขาร้อย
ซ่า...ครื้นนน“ฉันกลัว..อย่าทำกับฉันแบบนี้”ร่างบางเริ่มตัวสั่นยิ่งมาตากฝนขณะที่ฝนกระหน่ำตกพร้อมเสียงฟ้าที่ทั้งดังและแล่บอยู่ตลอดเวลาเธอยิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังไม่ปลอดภัยที่เธอกลัวลมฟ้าลมฝนมากขนาดนี้เพราะมีปมในใจในวัยเด็กซึ่งจะมาอธิบายกับราชสีห์เขาคงไม่เห็นใจคืนทั้งคืนสายธารนอนตากฝนที่เทกระหน่ำลงมาอยู่หลายชั่วโมงร่างบางนอนขดสั่นกับพื้นดินฟ้าร้องฟ้าแล่บทีก็สะดุ้งใจสั่นระรัวน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะความกลัวก็ไม่เคยจะเหือดแห้งยังคงไหลแข่งกับสายฝนที่ตกกระทบตัวเธออยู่ตลอดเวลาส่วนราชสีห์ก็กลับเข้าไปในบ้านดื่มหนักไม่คิดแม้แต่จะสงสารคนที่นอนตากฝนอยู่ด้านนอกคิดแค่ว่าอยากจะทรมานหญิงสาวให้ได้เท่านั้นวินาทีสุดแสนทรมานความเจ็บปวดหวาดกลัวกัดกินหัวใจของสายธารจนเธอแทบจะขาดใจตายได้ทุกวินาทีแต่เพราะนึกถึงหน้าคะนิ้งก็เป็นเหมือนผ้าห่มปลอบประโลมใจอันหนาวเหน็บให้ได้อยู่ต่อบอกกับตัวเองว่าอย่ายอมแพ้เพราะยังมีลูกที่รอเธออยู่กว่าสายฝนจะหยุดกระหน่ำลงมาก็เกือบรุ่งสางแต่ดูท่าว่าตอนนี้สายธารจะไม่มีสติไปเสียแล้วเมื่อแสงแรกของอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าสว่างส่องมายังบ้านหลังเล็กริมทะเลราชสีห์ก็ค่อยๆสะลึมสะลือลืมตาตื่นขึ้นแ
“ใช่แล้ว...ไม่รู้เรื่องล่ะสิย่าก็พึ่งจะรู้เมื่อตอนพี่เราให้อาทิตย์อุ้มลูกมาฝากย่ารอให้ตาสิงห์มาคุยให้กระจ่างก็ยังไม่เห็นจะโผล่มา”อิงอรรู้ได้ทันทีว่าเรื่องนี้คงยังไม่มีใครรู้ไม่แปลกใจที่คาวีจะตกใจเพราะเมื่อเธอรู้เรื่องราชสีห์มีลูกจนโตจากปากอาทิตย์ในคืนนั้นเธอก็ตกใจเช่นกัน“หนูขอดูหน้าลูกคุณสิงห์หน่อยนะคะ”พอใจเห็นว่าชักเริ่มมีอะไรแปลกๆจึงลุกเดินตามคาวีมาดูให้เห็นกับตาว่าเด็กคนที่อยู่ในเปลจะใช่คะนิ้งอย่างที่เธอคิดหรือเปล่าเพราะหากราชสีห์เอาลูกมาฝากทั้งที่ไม่เคยมีใครได้ยินว่าเขามีลูกภายในในสองสามวันนี้ก็อาจจะเป็นหลานเธอก็เป็นได้และแล้วก็เป็นจริงอย่างที่พอใจคิด“คะนิ้ง”“เคยเห็นกันด้วยหรือลูก”อิงอรเห็นพอใจเอ่ยเรียกชื่อเหลนเธอออกมาจึงหันมามองหน้าพอใจด้วยสีหน้าที่แปลกใจไม่คิดว่าหญิงสาวจะรู้จักกับคะนิ้งมาก่อน“นี่ลูกของคุณสายเหรอ”คาวีได้ยินเช่นนั้นก็พอจะเดาเรื่องเดาราวออกแล้ว“อืม”“เรื่องอะไรกันเล่าให้ย่าฟังหน่อยได้หรือเปล่า”อิงอรเห็นสีหน้าของพอใจและคาวีต่างก็เสียไปตามๆกันทว่าตอนนี้เธอเริ่มเห็นอะไรผิดปกติจึงเค้นให้ทั้งสองเล่าให้ฟังว่าเรื่องที่กำลังพูดถึงกันอยู่คืออะไรและแล้วทั้งสองก็ต้
ตอนนี้สายธารเริ่มฟื้นตัวแล้วพอใจจึงอุ้มคะนิ้งมาหาเพื่อให้คนที่กำลังนอนป่วยได้ใจชื้นขึ้นที่ได้เห็นหน้าลูกรักเผื่ออาการไข้จะหายวันหายคืนแต่ต้องยืนอยู่ห่างๆด้วยกลัวว่าคะนิ้งจะติดไข้ของคนเป็นแม่“คุณแม่ขา”เด็กหญิงตัวกลมเปล่งเสียงเรียกคนเป็นแม่ที่นอนหลับตาอยู่บนเตียง“คะนิ้ง..แม่คิดถึงหนูที่สุดเลยลูก..”เพียงแค่ได้ยินเสียงใสของคะนิ้งสายธารก็รีบชันตัวลุกนั่งใบหน้าซีดเซียวในตอนนี้เปื้อนไปด้วยรอยยื้มอยากจะเข้าไปกอดเจ้าก้อนกลมใจจะขาดแต่ก็ยังทำไม่ได้“วันนี้ลูกแม่ทานข้าวกับอะไรคะ..”แม้นจะไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงเปล่งเสียงเท่าไรแต่สายธารก็ยังพยายามเค้นมันออกมาเพราะอยากจะพูดคุยกับลูกเธอให้มากที่สุด“ตับบดค่ะ”“อร่อยหรือเปล่าเอ่ย”“อร่อยมากค่ะคุณแม่...”“คะนิ้งลืมอะไรหรือเปล่าคะ”พอใจก้มกระซิบหลานสาวให้พูดในสิ่งที่นัดกันเอาไว้เพราะเชื่อว่าคำพูดของคะนิ้งจะเป็นยาชั้นดีทำให้สายธารหายวันหายคืน“คุณแม่กินข้าวเยอะๆนะคะกินยาด้วยค่ะ”“โอเคค่ะ”“พักผ่อนเถอะสายคุณสิงห์มายุ่งอะไรกับแกไม่ได้แล้วเพราะต้องทำตามคำสั่งของคุณย่าส่วนคะนิ้งฉันจะดูแลให้เอง”“ขอบใจนะพอ”ทั้งสามพูดคุยกันไม่มากนักเพราะพอใจต้องการจะให้สายธาร