โฉมสะคราญไร้ใจ

โฉมสะคราญไร้ใจ

last updateLast Updated : 2025-01-07
By:   ฮุยสี่เชว่  Updated just now
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
Not enough ratings
40Chapters
6views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
Leave your review on App

[นางเอกร้าย+กลับมาเกิดใหม่ ฝีมือชั่วร้ายโดยไร้ขีดจำกัดด้านคุณธรรม ไม่ชอบโปรดอย่าเข้ามา] ชาติก่อน อวี๋เหลียงเยว่อุทิศทุกอย่างเพื่อผลักดันชายชั่วจนได้เป็นฮ่องเต้ แต่กลับได้รับพระราชทานความตายด้วยสุราพิษ ชั่วพริบตาเดียว นางก็ย้อนกลับไปวันที่ถูกชายชั่วนำไปกำนัลให้รัชทายาทในขณะนั้นอีกครั้ง ความฟุ้งเฟ้อหรูหราของตำหนักบูรพาปรากฏอยู่เบื้องหน้าสายตา ได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง ในที่สุดอวี๋เหลียงเยว่ก็ไตร่ตรองจนกระจ่าง ความรักดีตรงไหนกัน หากต้องแย่งชิง นางก็จะแย่งชิงอำนาจเงินทอง แย่งชิงตำแหน่งที่จะได้อยู่ใต้คนเพียงคนเดียว หากอยู่เหนือผู้คนนับหมื่นในวันหน้า! ในเมื่อเป็นเพียงอนุภรรยาก็เป็นแค่ของเล่นของผู้อื่นเท่านั้น นางจะทำให้คนเหล่านั้นได้ลิ้มรสการถูกของเล่นเหยียบย่ำไว้ใต้ฝ่าเท้าดุจเดียวกัน! ทว่าหลายปีให้หลัง ผู้สูงศักดิ์ที่ยามนั้นได้ครองบัลลังก์ฮ่องเต้แล้วกลับตระกองกอดนางไว้แนบอก กระซิบข้างหูอย่างสนิทสนม “ของเล่นอันใดกัน เจ้าเป็นฮองเฮาของเรา ฮองเฮาเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!”

View More

Latest chapter

Free Preview

บทที่ 1

ยามเหม่าเจ็ดเค่อ วันที่เจ็ดเดือนเจ็ด รัชศกซินโฉ่วปีที่หนึ่งอากาศร้อนอบอ้าว ในอากาศแฝงไว้ซึ่งความชื้นเหนอะหนะก่อนพายุฝน พืชพรรณและมวลบุปผาสองฟากทางในวังหลวงเหี่ยวเฉาโรยราข้างนอกคือวังหลวงงามวิจิตร ทุกหนแห่งแกะสลักลวดลายหงส์มังกร งดงามดุจวิมานหยกบนชั้นฟ้า ภายในตำหนักที่อ้างว้างห่างไกลแห่งหนึ่ง สีผนังหลุดล่อน ฝุ่นเกรอะรอบด้าน แมลงไม่ทราบนามไต่ตามข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องเป็นระยะ ไม่สอดรับกับความโอ่อ่าหรูหราภายในวังหลวงโดยสิ้นเชิงประตูตำหนักปิดสนิท ขันทีและนางกำนัลปิดปากเงียบ รอบด้านสงัดเสียง สายตาทุกคนจับจ้องไปยังร่างหญิงงามที่ผมดำปล่อยสยายใบหน้าแดงเรื่อผิดปกติบนเตียงด้วยแววตาร้อนใจบรรยากาศเงียบงันเช่นนั้นเหมือนกำลังรอคอยอะไรบางอย่าง กระทั่งเสียงลมหายใจก็ยังแผ่วเบาตามไปด้วยหมอหลวงจากสำนักหมอหลวงกุมมือยืนอยู่ข้างเตียงด้วยใบหน้าซีดขาว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความอบอ้าวภายในห้องหรือเพราะเหตุใด เหงื่อเม็ดโตจึงกลิ้งลงมาจากบนหน้าผาก หยดลงหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันกับฝุ่นบนพื้นหินคนทั้งห้องรอคอยด้วยความร้อนรน จิตใจกระสับกระส่าย รอให้สตรีบนเตียงหมดลมหายใจจะได้ไปรายงานกับฮ่องเต้องค์ใหม่เบื้...

Interesting books of the same period

Comments

No Comments
40 Chapters
บทที่ 1
ยามเหม่าเจ็ดเค่อ วันที่เจ็ดเดือนเจ็ด รัชศกซินโฉ่วปีที่หนึ่งอากาศร้อนอบอ้าว ในอากาศแฝงไว้ซึ่งความชื้นเหนอะหนะก่อนพายุฝน พืชพรรณและมวลบุปผาสองฟากทางในวังหลวงเหี่ยวเฉาโรยราข้างนอกคือวังหลวงงามวิจิตร ทุกหนแห่งแกะสลักลวดลายหงส์มังกร งดงามดุจวิมานหยกบนชั้นฟ้า ภายในตำหนักที่อ้างว้างห่างไกลแห่งหนึ่ง สีผนังหลุดล่อน ฝุ่นเกรอะรอบด้าน แมลงไม่ทราบนามไต่ตามข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องเป็นระยะ ไม่สอดรับกับความโอ่อ่าหรูหราภายในวังหลวงโดยสิ้นเชิงประตูตำหนักปิดสนิท ขันทีและนางกำนัลปิดปากเงียบ รอบด้านสงัดเสียง สายตาทุกคนจับจ้องไปยังร่างหญิงงามที่ผมดำปล่อยสยายใบหน้าแดงเรื่อผิดปกติบนเตียงด้วยแววตาร้อนใจบรรยากาศเงียบงันเช่นนั้นเหมือนกำลังรอคอยอะไรบางอย่าง กระทั่งเสียงลมหายใจก็ยังแผ่วเบาตามไปด้วยหมอหลวงจากสำนักหมอหลวงกุมมือยืนอยู่ข้างเตียงด้วยใบหน้าซีดขาว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความอบอ้าวภายในห้องหรือเพราะเหตุใด เหงื่อเม็ดโตจึงกลิ้งลงมาจากบนหน้าผาก หยดลงหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันกับฝุ่นบนพื้นหินคนทั้งห้องรอคอยด้วยความร้อนรน จิตใจกระสับกระส่าย รอให้สตรีบนเตียงหมดลมหายใจจะได้ไปรายงานกับฮ่องเต้องค์ใหม่เบื้
last updateLast Updated : 2025-01-07
Read more
บทที่ 2
ในไม่ช้า ภายใต้ความร่วมมือกับฉินมู่หลายครั้งหลายครา อวี๋เหลียงเยว่ก็ได้รับความไว้วางใจเล็กน้อยจากฉินซือเหิงอย่างง่ายดาย แม้ไม่มาก แต่ก็เพียงพอแล้วแต่นางมักกลัวว่าจะถูกช่วงเวลาเช่นนี้ทำให้ไขว้เขวจึงเตือนตัวเองว่าไม่อาจลืมภารกิจตั้งแต่ต้นจนจบ นางล้วนไม่อาจลืมเลือนได้ พวกค้ามนุษย์เห็นว่านางมีรูปโฉมงดงามก็คิดจะนำนางไปขายให้ซ่องโสเภณีในราคาสูง เป็นฉินมู่ที่ช่วยเหลือนางไว้ท่ามกลางความสิ้นหวังค่ำคืนวันนั้น แสงดาวระยิบระยับ ดวงตาของเขาทั้งลึกล้ำและสว่างไสว ราวกับธารน้ำไหลเอื่อยในหุบเขา แม้จะปกคลุมด้วยม่านรัตติกาล แต่ก็ยังสะท้อนภาพของนางให้เห็นได้อย่างชัดเจนฉินมู่สอนการอ่านหนังสือคัดอักษรและสอนธรรมเนียมมารยาทให้นางด้วยตนเอง พานางห้อม้าโผนทะยาน ทุกสิ่งที่นางทำเป็นล้วนเป็นเขาถ่ายทอดให้ทั้งสิ้นนางได้สัมผัสกับทุกสิ่งที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนยามนั้นนางอายุเพียงสิบสี่ปี ความรู้สึกในวัยแรกแย้มประหนึ่งเปลวเพลิงที่ถูกลมพัดโหม เผาไหม้รุนแรงยิ่งนักนางหวั่นไหวแล้ว จึงยึดถือถ้อยคำของฉินมู่เป็นจริงเป็นจังฉินมู่บอกว่า รอจนนางทำภารกิจสำเร็จถอนตัวออกมาก็จะให้อยู่ข้างกายเขา สัญญาว่าจะให้ทุกสิ่งที่นาง
last updateLast Updated : 2025-01-07
Read more
บทที่ 3
ชิงหลิ่วที่อยู่ข้างๆ กระตุกแขนเสื้ออวี๋เหลียงเยว่เบาๆ พลางมองความเงียบสงัดรอบด้านแล้วหดตัวเล็กน้อย “คุณหนู จู่ๆ มาสถานที่เปลี่ยวๆ แบบนี้กลางดึกกลางดื่นทำไมเจ้าคะ พวกเรารีบกลับกันเถอะเจ้าค่ะ”อวี๋เหลียงเยว่ปรายตามองนางพลางยิ้มบาง “ไม่ต้องร้อนใจ อีกไม่นานก็กลับแล้ว ถ้าเรื่องนี้สำเร็จ วันเวลาดีๆ ของคุณหนูของเจ้ากำลังจะมาถึงแล้วละ...”นางเอ่ยประโยคสุดท้ายด้วยน้ำเสียงเบายิ่ง ชิงหลิ่วได้ยินไม่ชัดนัก แต่นางก็ไม่ได้ถามต่อแอ๊ดหลังจากนั้นมีเสียงเปิดประตูทึบๆ ดังขึ้น ห้องที่ห่างไกลห้องหนึ่งถูกเปิดออก ฝุ่นที่ปะทะเข้ามาหาทำให้สองนายบ่าวไอโขลกไม่หยุด“ปัดกวาดสักหน่อยเถอะ ข้าจะไหว้แม่ข้าที่นี่”ชิงหลิ่วเผยอปากอย่างประหลาดใจ “คุณหนู กราบไหว้ตามอำเภอใจในวัง ถ้าถูกจับได้จะต้องถูกลงโทษนะเจ้าคะ...”“เจ้าวางใจเถอะ”สีหน้าสงบหนักแน่นของอวี๋เหลียงเยว่ทำให้ชิงหลิ่วใจกล้าขึ้นมาบ้าง นางก้าวเข้าไปปัดฝุ่นบนเบาะกลมอย่างรวดเร็ว แล้วปัดกวาดพื้นที่สะอาดมุมหนึ่งให้อวี๋เหลียงเยว่ใช้งาน จากนั้นจึงหลบไปยืนข้างๆ ด้วยใบหน้าผมเผ้าเปื้อนฝุ่นรอยยิ้มบางประดับอยู่บนใบหน้าอวี๋เหลียงเยว่ตั้งแต่ต้นจนจบ มองดูดวงจันทร์ข้
last updateLast Updated : 2025-01-07
Read more
บทที่ 4
ใบหน้าไม่แต่งแต้มแป้งชาด แต่เมื่อเข้าไปใกล้กลับได้กลิ่นหอมกรุ่นอ่อนจางจากบนร่างนางดวงตาเขาทอแววลุ่มลึก ยกมือเชื้อเชิญอวี๋เหลียงเยว่ “มานี่”อวี๋เหลียงเยว่หวาดกลัวสามส่วน เขินอายสามส่วน ก้าวมาข้างหน้าช้าๆ ชายกระโปรงเลิกขึ้นรำไรระหว่างเยื้องย่าง เผยให้เห็นความขาวผ่องบอบบางตรงข้อเท้าคล้ายกับรังเกียจว่านางเดินช้าเกินไป ฉินซือเหิงจึงลุกขึ้นมา เมื่อยืนขึ้น เงาร่างสูงใหญ่นั้นก็บดบังสตรีร่างบอบบางตรงหน้าได้อย่างมิดชิด แขนทรงพลังราวกำแพงเล็กนั้นอุ้มร่างนางขึ้นมาก้าวเดินตรงไปที่เตียงอวี๋เหลียงเยว่หลับตาปี๋ แขนที่โอบรอบลำคอเขาสั่นเทิ้มน้อยๆ ฉินซือเหิงนึกว่านางสะเทิ้นอาย มุมปากจึงคลี่ยิ้มบางออกมาแต่มีเพียงนางเองจึงทราบว่า นางหวาดกลัวแล้วกลัวว่าฉินซือเหิงจะมองเห็นความทะเยอทะยานและความปรารถนาในแววตานางเครื่องนอนบนเตียงปูไว้เรียบร้อยมาแต่แรก อวี๋เหลียงเยว่ถูกเขาวางลงบนเตียงอย่างหยาบกระด้าง ต่อจากนั้นก็สัมผัสได้ว่าเขาเริ่มปลดเปลื้องอาภรณ์นางเหมือนชาติที่แล้วไม่มีผิด ฉินซือเหิงช่างไม่รู้จักรักหยกถนอมบุปผาเอาเสียจริงๆถูกกักไว้ในอ้อมแขน นางหลบก็ไม่มีที่ให้หลบ ทั้งยังไม่มีเหตุผลให้หลบใน
last updateLast Updated : 2025-01-07
Read more
บทที่ 5
นอกจากนี้ ฉินซือเหิงเทียบกับฉินมู่แล้ว แม้จะเย็นชาไปสักหน่อย แต่เป็นคนใจกว้าง รักษาคำพูด ถือว่าเป็นที่พึ่งที่ดีคนหนึ่งหลังแต่งตัวเรียบร้อย ใบหน้าประดับไว้ด้วยรอยยิ้มพอเหมาะพอเจาะ อวี๋เหลียงเยว่พาชิงหลิ่วไปยังเรือนที่คุ้นเคยหลังนั้นด้วยฝีเท้าเชื่องช้าตลอดทางที่เดินมา ทิวทัศน์ของที่นี่จดจำได้ขึ้นใจมาแต่แรก ชาติที่แล้วนางเคยมานับพันนับหมื่นครั้ง ทว่าสภาพจิตใจไม่เหมือนกัน นางในยามนี้ฝีเท้าเบาสบายขึ้นมากต่างจากการรอโอกาสอย่างเบื่อหน่ายในเรือนหลังของฉินซือเหิงในชาติก่อน ตอนนี้นางมีความหวังต่อชีวิตในอนาคตเป็นอย่างมากตลอดทางมานี้ สาวใช้และหญิงรับใช้เบื้องล่างทราบข่าวมาแต่แรก ต่างแสดงคารวะต่อนางด้วยท่าทางสุภาพการแสดงออกของอวี๋เหลียงเยว่ทั้งไม่เย่อหยิ่งและไม่ประหม่า ทำให้คนจำนวนไม่น้อยบังเกิดความรู้สึกที่ต่างออกไปต่ออนุภรรยาเพียงหนึ่งเดียวที่ไม่ได้มาจากตระกูลสูงศักดิ์อย่างนางจากหอชมจันทร์มาถึงที่พักของพระชายารัชทายาทต้องใช้เวลาราวครึ่งชั่วยาม ตอนนางมาถึง ทั้งเรือนยังคงเงียบสงัดสาวใช้ที่แต่งตัวค่อนข้างดีคนหนึ่งออกมายิ้มเอ่ยว่า “พระชายากำลังแต่งตัวอยู่เพคะ อวี๋เกิงอีเชิญตามสบายนะเพคะ
last updateLast Updated : 2025-01-07
Read more
บทที่ 6
“พระชายาอย่าโทษที่บ่าวพูดมากเลยนะเพคะ แต่รูปโฉมของอวี๋ซื่อออกจะ...”หมิ่นซื่อเลิกคิ้วแย้มยิ้ม วางจอกชาในมือลง แววตาเต็มไปด้วยความไม่แยแส “ข้ารู้ว่าหมัวมัวต้องการจะพูดอะไร นางรูปโฉมงดงามก็สามารถใช้ความงามสร้างความสำราญให้ผู้อื่นได้พอดีเลยมิใช่หรือ นอกจากนี้ นางยังไม่ได้มาจากตระกูลใหญ่ สามารถเข้าตำหนักบูรพาที่ใหญ่โตนี้มาได้ก็ได้แต่อาศัยใบหน้านั้น อย่าว่ากระนั้นเลย สายตาของรัชทายาทช่างดีโดยแท้ เป็นคนงามที่เลอโฉมยิ่งนัก”สวี่หมัวมัวได้ยินแล้ว หัวคิ้วก็คลายออกจากกันไม่น้อย พยักหน้ายิ้มๆ “พระชายาพูดถูกเพคะ นับแต่โบราณมาแล้ว แต่งภรรยาเอกดูที่คุณธรรม รับอนุภรรยาดูที่ความงาม ไป๋ซื่อผู้นี้ยามปกติมักทำตัวโอหัง บัดนี้มีอวี๋ซื่อมาอีกคน สามารถข่มนางให้พระชายาได้พอดี หากสามารถแย่งชิงความโปรดปรานจากนางมาได้บ้าง วันหน้าดูซิว่านางยังจะทำอันใดได้”หมิ่นซื่อได้ยินแล้วก็มิได้ตอบรับหรือปฏิเสธ ทว่าในแววตาแฝงความเยาะหยันไว้รางๆ “ไป๋ซื่อโง่เขลาเบาปัญญา ยังนึกว่ารัชทายาทรักนางด้วยความจริงใจ ก็แค่เพราะรัชทายาทต้องแยกจากแม่แท้ๆ สมัยยังเด็ก เด็กที่ไม่มีแม่ พบเรื่องน้อยเนื้อต่ำใจอย่างไรก็ต้องกล้ำกลืนลงไป ดังนั้น
last updateLast Updated : 2025-01-07
Read more
บทที่ 7
ชิวเฉิงฮุยเพิ่งเข้าไปภายในตำหนักจื่อเวย เท้าเหยียบลงบนพรมเปอร์เซียล้ำค่าผืนนั้น ครั้นเงยหน้าขึ้นก็แลเห็นภาพหญิงงามเช่นนี้เองไป๋เหลียงตี้นอนเอนร่างอยู่บนตั่งกุ้ยเฟย ชายอาภรณ์วาดเค้าโครงเรือนร่างอวบอิ่มอรชร ใต้อาภรณ์เผยให้เห็นประกายเรื่อเรืองที่ผิวขาวผ่องสะท้อนออกมารำไร ใบหน้าดวงน้อยขนาดเท่าฝ่ามือ ไม่ว่าดวงตาหงส์เรียวยาวมีเสน่ห์คู่นั้นจะแสดงออกเช่นไรล้วนประกอบด้วยความเย้ายวนอย่างหาที่เปรียบมิได้สาวใช้เยาว์วัยคนหนึ่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ ตั่งกุ้ยเฟย กำลังพันแขนเสื้อขึ้นนวดขาให้นาง คล้ายกับได้ยินว่ามีคนมา ไป๋เหลียงตี้จึงปรือตาขึ้นอย่างเชื่องช้า ต่อจากนั้นก็เตะสาวใช้เยาว์วัยผู้นั้นเบาๆ “พอแล้ว”สาวใช้ตัวน้อยขานรับอย่างว่าง่ายแล้วเดินไปอยู่ข้างๆ“หม่อมฉันมาตอนนี้ รบกวนการพักผ่อนของเหลียงตี้หรือไม่เพคะ”“มีเรื่องอันใดก็ว่ามา อย่ามาอ้อมค้อมกับข้า” นางพูดพลางหยัดร่างขึ้นนั่งแล้วบิดเอวอย่างเกียจคร้าน ความขาวผ่องอวบอิ่มบริเวณทรวงอกยิ่งนูนเด่นกว่าเดิม พาให้ชิวเฉิงฮุยอิจฉายิ่งนักนางเก็บงำสายตาอย่างรวดเร็ว ระหว่างที่ดวงตาทอประกายวูบวาบก็ก้มหน้าเอ่ยว่า “เหลียงตี้วันนี้ท่านไม่ได้ไปจึงไม่ได้เห็นคนใ
last updateLast Updated : 2025-01-07
Read more
บทที่ 8
ฉินซือเหิงกำลังครุ่นคิด อวี๋เหลียงเยว่คารวะเสร็จไม่ได้ยินเสียงบอกให้ลุกขึ้นก็รักษาท่วงท่าคารวะเอาไว้อย่างดื้อดึง โงนเงนอยู่หลายครั้ง ราวกับว่าอึดใจถัดไปก็จะล้มลงไปบนพื้นจ้าวเฉียนมองดูจากเบื้องหลังเช่นนี้ อยากส่งเสียงเตือนอยู่หลายครั้ง แต่ทันใดนั้น ฉินซือเหิงก็ตอบสนองแล้วเขายกมือขึ้นมาประคองแขนอวี๋เหลียงเยว่ทำให้นางไม่ถึงกับล้มลง แล้วถอนหายใจ “ข้าไม่บอกให้ลุกขึ้น เจ้าก็คิดจะยืนต่อไปใช่หรือไม่”อวี๋เหลียงเยว่ก้มหน้า เผยเพียงศีรษะให้เขาดูคนทั้งสองยืนอยู่หน้าประตู ลมราตรีพัดมา กลิ่นหอมกรุ่นก็โชยมา ฉินซือเหิงกวาดสายตามองไปรอบๆ โดยสัญชาตญาณแล้วก็เห็นดอกไม้บริเวณหน้าประตูเขามุ่นคิ้ว “ดอกไม้นี้คุ้นตาทีเดียว”จ้าวเฉียนก้าวสั้นๆ มาข้างหน้า อธิบายว่า “รัชทายาท ดอกไม้นี้เรียกว่าอวี๋เหม่ยเหรินพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? มีความหมายแฝงอันใดหรือไม่”จ้าวเฉียนถูกถามจนอึ้งไป ทันใดนั้นก็ไม่รู้ว่าควรออกปากอย่างไรดี“รัชทายาท ดอกไม้นี้ไป๋เหลียงตี้ส่งมาแสดงความยินดีที่หม่อมฉันได้รับตำแหน่งเพคะ หม่อมฉันชอบยิ่งนัก” อวี๋เหลียงเยว่รีบเอ่ยปาก กล่าวพลางคล้องแขนฉินซือเหิงเบาๆ ครู่ต่อมา เหมือนจะรู้ว่าไม่เหมาะสมจึ
last updateLast Updated : 2025-01-07
Read more
บทที่ 9
วันรุ่งขึ้น ภายในตำหนักบูรพามีคนวิพากษ์วิจารณ์ไม่ขาดสายพอตื่นขึ้นมาครานี้ ตำหนักบูรพาเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นเสียแล้วรัชทายาทเลื่อนตำแหน่งให้อวี๋หรูเหรินเป็นอวี๋เจาซวิ่น ยังไม่พูดถึงว่านางเพิ่งได้รับตำแหน่งไม่นาน ควรทราบว่าระหว่างหรูเหรินและเจาซวิ่นยังมีเฟิ่งอี๋ รัชทายาทกลับข้ามขั้นผ่านไปอย่างง่ายดายทั้งอย่างนี้เห็นได้ชัดว่า อวี๋ซื่อผู้นี้มิอาจดูเบาข้ารับใช้ที่ปรนนิบัติเก็บความดูแคลนและความดูดายกลับไป ยามเช้าชิงหลิ่วไปรับอาหารเช้า บรรดาสาวใช้และขันทีที่พบนางล้วนแต่ต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม นางเปิดฝาออกดูสีสันอาหารในนั้น มุมปากก็วาดขึ้นเป็นวงโค้งแห่งความยินดีต่อจากนั้น รางวัลก็หลั่งไหลเข้ามาในหอชมจันทร์ดุจสายน้ำรัชทายาทแสดงออกชัดว่าจะโปรดปรานอวี๋เจาซวิ่นชิวเฉิงฮุยกำลังรับประทานมื้อเช้า ได้ยินข่าวแล้วก็กินอะไรไม่ลง เบิกตาโตจ้องมองสาวใช้ของตนเอง “รัชทายาทได้พูดถึงเรื่องดอกไม้พวกนั้นหรือไม่?”สาวใช้ส่ายหน้าเบาๆ “ไม่เพคะ”ชิวเฉิงฮุยพลันวางใจ จากนั้นก็เริ่มโมโหขึ้นมา ฝีมือเล็กน้อยของตนเองไม่เพียงไม่สร้างความเจ็บปวดให้คนชั้นต่ำนั่นแม้แต่น้อย รัชทายาทยังโปรดปรานนางถึงเพียงนี้ห
last updateLast Updated : 2025-01-07
Read more
บทที่ 10
คิดได้เช่นนั้น ไป๋ซื่อก็แย้มยิ้มหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดปากหัวเราะเบาๆ แต่ในไม่ช้าก็หัวเราะไม่ออกแล้วพระชายารัชทายาทอมยิ้มตั้งแต่ต้นจนจบ กระทั่งถามเรื่องสัพเพเหระกับฝ่ายตรงข้ามอย่างสนิทสนมอวี๋เหลียงเยว่มีท่าทางเคารพระคนตื่นเต้นยินดี ตอบคำถามพระชายารัชทายาทอย่างระมัดระวัง คนทั้งสองโต้ตอบกันไปมา ถึงขั้นมีทีท่าว่าจะคุยกันถูกคออีกด้วยรอยยิ้มของไป๋ซื่อสลายไปโดยสิ้นเชิง เห็นสีหน้ายิ้มแย้มของคนทั้งสองแล้วในใจก็บังเกิดความอึดอัดคับข้องขึ้นมาน่าเบื่อจริงๆ พระชายารัชทายาทนางเฒ่าผู้นี้ คิดว่าคงต้องการดึงอวี๋ซื่อไปเป็นพวก แต่น่าเสียดายสตรีที่ฐานะต่ำต้อยคนหนึ่ง ดึงมาเป็นพวกแล้วมีประโยชน์อันใดเล่าคุยกับอวี๋เหลียงเยว่เสร็จ พระชายารัชทายาทก็หันมาถามไป๋ซื่อ “สุขภาพเจ้าดีขึ้นหรือยัง ก่อนหน้านี้ได้ยินคนพูดว่าสุขภาพเจ้าไม่ดีมาตลอดจึงไม่อาจมาคารวะเช้า ยามนี้หงอวิ๋นอายุเพียงหนึ่งขวบ เป็นวัยกำลังซนพอดี ถ้าเจ้าลำบากเกินไปก็มมิสู้ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี ข้าสามารถดูแลหงอวิ๋นแทนเจ้าได้สักหลายวัน...”“ไม่ต้อง!” นางพูดจบค่อยตระหนักว่าน้ำเสียงตนเองแหลมสูงจึงปรับน้ำเสียงให้อ่อนโยนลงหลายส่วน “ขอบพระทัยพระช
last updateLast Updated : 2025-01-07
Read more
DMCA.com Protection Status