เพราะรักนางจึงยอมทุกอย่าง แต่สุดท้ายเขากลับมอบความรักให้สตรีอื่น ในเมื่อเดินมาจนถึงสุดทางแล้วนางก็ไม่คิดจะยื้อไว้อีกต่อไป ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว ส่วนข้าจะเดินจากไปพร้อมกับบุตรในครรภ์
View Moreบทที่30ยามนี้คู่รักเมืองท่าอย่างแม่ทัพฟ่านเฉิงเฉิงและฮูหยินทำให้เหล่าชาวบ้านและทหารอิจฉาไปตาม ๆ กัน แต่เพราะอาหารที่นาน ๆ ที่หญิงสาวที่เคยเปิดร้านอาหารทำแจกคนในเมืองก็ทำให้ทุกคนร่วมยินดีไปกับความรักครั้งนี้ด้วย แม้ว่าจะยังอยากกินอาหารฝีมือหญิงสาวอยู่ก็ตาม“อิ่งจื่อตอนนี้ข้ามีแต่ตัวแล้วนะ เจ้าจะต้องเป็นคนดูแลข้า” ฟ่านเฉิงเฉิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงติดตลกเพราะทั้งชื่อบ้านและเงินต่าง ๆ ของเขา รวมถึงตั๋วเงินที่มีล้วนเป็นชื่อของหญิงสาวหมด นั่นก็เพราะเขาทั้งสองอยากเผื่อเอาไว้เพื่ออนาคตของเฉิงหย่ง และที่สำคัญท่านแม่ของเขาจะได้ไม่หวังเงินทองลาภยศอีกที่จริงเท่าที่มีอยู่ที่เมืองหลวงก็ไม่เรียกว่าน้อย ตระกูลฟ่านถือว่าได้ว่าเป็นกูลขุนนางฐานะปานกลาง ไม่รู้เป็นเพราะท่านแม่ละโมบไปหรือเปล่าถึงทำให้เรื่องราวดูวุ่นวายและในที่สุดเมื่อเฉิงหย่งเริ่มโตขึ้นอีกนิดและพูดจารู้เรื่องฟ่านเฉิงเฉิงและอิ่งจื่อก็จะบุตรชายไปหาท่านทวด แม้จะช้าไปแต่ทั้งสองคนก็มีคำอธิบายที่ชัดเจน อย่างไรการพาเด็กเล็กเดินทางทางเรือหากเกิดอะไรขึ้นคงลำบากอากาศชื้นอย่างไรก็ไม่ดีต่อเด็กน้อย“ท่านย่า ท่านแม่ ไม่ได้พบกันเสียนานนะเจ้าคะ” ท่านย่ายัง
บทที่29หลังจากวันนั้นกลายเป็นหวงอิ่งจื่อที่ยังทำหน้าหนาอยู่ที่บ้านของแม่ทัพต่อไป คำนั้นเป็นเพียงคำที่นางตำหนิตนเองในใจ นางไม่ได้พูดอะไรให้ชัดกับฟ่านเฉิงเฉิงนัก และอีกฝ่ายก็ไม่ได้พูดอะไรกับนางทั้งนางและเขาทำเหมือนกับว่านางและเขาอาศัยอยู่เช่นนี้ด้วยกันมานานแแล้ว หวงอิ่งจื่อเข้ามาช่วยดูเรื่องอาหารและค่าใช้จ่ายในบ้าน เพราะเขาส่งสมุดให้นางจัดการ นางก็ไม่ปฏิเสธบอกให้หาแม่นมมาเลี้ยงดูลูกนางก็ไม่ปฏิเสธ หรือแม้แต่นอนที่ห้องนอนเดียวกับเขา หวงอิ่งจื่อก็ไม่ปฏิเสธ ทั้ง ๆ ที่มันคือทุกอย่างที่ฟ่านเฉิงเฉิงหวังแต่เขากลับรู้สึกไม่ถูกต้องอย่างไรก็ไม่รู้ยามนี้เฉิงหย่งอยู่ในความดูแลของแม่นมถึงสองสามคน เพราะนี่คือสิ่งที่อยู่ในใจของฟ่านเฉิงเฉิงมาโดยตลอด เขาอยากเลี้ยงดูลูกชายให้ดีที่สุด แต่ก่อนหน้านี้กลับทำอะไรไม่ได้สักอย่างและเพราะอย่างนั้นจึงทำให้ฟ่านเฉิงเฉิงและหวงอิ่งจื่อได้มีเวลาของตน พวกเขากลับมานอนร่วมเตียงกันอย่างเงียบ ๆ แม้จะไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าเอื้อมมือกอดและโอบเอวเอาไว้หลวม ๆ แต่มันก็เกินฝันสำหรับเขาจริง ๆร้านอาหารของแม่นางหวงที่ปิดลงสร้างความวุ่นวายไม่น้อย แต่อาหารที่นางทำเลี้ยงเหล่าทหารหรื
บทที่28“พวกท่านว่าอย่างไรนะ” ใบหน้าของเสวี่ยลู่แสดงท่าทางกังวลอย่างเห็นได้ชัด ส่วนทหารเหล่านั้นก็ทำตัวไม่ถูกแล้ว“แม่นางหวง” ทุกคนตกใจ เพราะท่านแม่ทัพย้ำเอาไว้แล้วว่าไม่ว่าครั้งนี้เจ้าตัวจะทำสำเร็จหรือไม่ ก็ต้องไม่ให้ภรรยาได้รู้“เล่ามาให้หมด เล่ามาเดี๋ยวนี้!” ท่าทางสุขุมเงียบนิ่งที่ปกติทุกคนเคยได้เห็นจากแม่นางหวงเปลี่ยนไปในทันที จนทหารตรงนั้นที่เคยแม้กระทั่งพนันกันว่าแม่นางหวงไม่ได้มีใจให้ท่านแม่ทัพต้องเปลี่ยนใจ เพราะยามนี้นางตั้งสติไม่อยู่ด้วยซ้ำเรื่องราวตั้งแต่ต้นยันจบถูกเล่าให้กับหญิงสาวได้ฟังเพราะมีลูกน้องออกเรือไปช่วยชาวประมงที่เรือล่ม แน่นอนว่าช่วยกลับมาได้บ้าง แต่ก็มีบางส่วนที่ช่วยไม่ได้ และคาดว่าจะมีบางส่วนติดอยู่ที่เกาะเล็ก ๆ ด้วย แม่ทัพฟ่านจึงออกเรือไปช่วยค้นหาคนรอด แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข่าวกลับมา นั่นคือสิ่งที่หวงอิ่งจื่อได้ฟัง“ที่จริงมีไต้ก๋งเรือหลายลำบอกให้ทำใจแล้ว แต่พวกเราก็ยังพยายามหากันอยู่“หวงอิ่งจื่อได้ฟังก็ทรุดตัวลง นางเอ่ยถามเสียงเครือ“แล้วทำไมไม่บอกข้า”ทหารทุกนายตรงนั้นปิดปากเงียบ “ท่านแม่ทัพแจ้งเอาไว้ว่าไม่ควรทำให้แม่นางหวงหนักใจ และหากเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ
บทที่27ฟ่านเฉิงเฉิงคิดว่าตนเองได้พูดสิ่งที่อยากพูดไปหมดแล้วจริง ๆ เป็นอิ่งจื่อต่างหากที่ยังคงไม่ไว้ใจเขาที่เหลือก็คงรอแค่เวลาเท่านั้นแล้ว“อิ่งจื่อ ข้ารู้ว่าทำให้เจ้าเจ็บปวดแต่เจ้าคิดบ้างไหมว่านี่เราก็เจ็บปวดกันทั้งคู่ หากเจ้าบอกว่าไม่คิดอะไรกับข้าเลยข้าไม่เชื่อหรอก” ชายหนุ่มเอ่ยสิ่งที่คิด แต่ก็ใช่มันตรงกับความรู้สึกในใจของหญิงสาว“ข้ากลัว ข้าไม่อยากรู้สึกเช่นนั้นอีกแล้ว” ฟ่านเฉิงเฉิงเข้าใจแต่เขาไม่คิดว่าการทำเช่นนี้หญิงสาวทำอยู่ถูกต้อง “แม้ว่าก่อนหน้านี้ข้าและครอบครัวจะเป็นคนทำผิดกับเจ้าก็จริง แต่เจ้าเคยนึกบ้างไหมว่าเฉิงหย่งเขาไม่ผิด ทำไมถึงต้องรับผลกระทำของเรา ข้ายินดีจะแก้ไขทุกอย่างที่ทำให้เจ้ากังวล เช่นนั้นแล้วไม่ลองคิดดูหน่อยหรือ” และคำตอบของหวงอิ่งจื่อคือการเดินจากไปฟ่านเฉิงเฉิงส่ายหน้าให้กับตนเอง เสื้อที่อีกฝ่ายยัดใส่มือเขาทำให้จิตใจชุ่มชื้นขึ้น แต่มันก็เป็นเพียงแค่นั้นไม่มีอะไรเลย“ข้าไม่รบกวนเจ้าแล้ว” ฟ่านเฉิงเฉิงเข้าไปลาอีกฝ่ายเขาคิดว่าตอนนี้เขาไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับหญิงสาวจริง ๆหวงอิ่งจื่อมองคนที่เดินจากไปด้วยจิตใจที่สั่นไหว นางเดินกลับไปดูลูกชาย ที่จริงนางเข้าใจทุกอย่
บทที่26หวงอิ่งจื่อคอยสังเกตุฟ่านเฉิงเฉิง อีกฝ่ายดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บ แต่กลับไม่ได้แสดงออกมากนัก และก็ยังคอยมาช่วยเหลือนางเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ดูเจ็บปวดบาดแผลแท้ ๆ“หากเจ็บก็พักบ้างเถอะ” ฟ่านเฉิงเฉิงส่ายหน้า “จะพักได้อย่างไร เจ้าต้องเหนื่อยทั้งทำงานทั้งเลี้ยงลูก ข้าช่วยอะไรได้บ้างก็อยากช่วย” และแม้ฟ่านเฉิงเฉิงอยากจะถามหญิงสาวว่าท่านย่าเขียนมาว่าอย่างไร แต่เขาก็ปิดปากเงียบเอาไว้“เลือดท่านออก” หวงอิ่งจื่อทักอีกฝ่ายเมื่อเห็นเสื้ออีกฝ่ายชุ่มไปด้วยเลือด “เดี๋ยวค่อยกลับไปทำแผลก็ได้”หญิงสาวถอนหายใจ ถึงนางจะไม่อยากให้อีกฝ่ายอยู่ที่นี่ ทั้งเพราะไม่อยากให้ความหวังอีกคนและไม่อยากทำให้ตัวเองใจอ่อน แต่จะไล่คนที่เลือดชุ่มเช่นนั้นกลับไปโดยไม่ทำอะไรเลยคงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก“ทำแผลที่นี่ก็ได้” แววตาของฟ่านเฉิงเฉิงเปลี่ยนเป็นสดใสจนหวงอิ่งจื่อรู้สึกว่านางเป็นคนโหดร้ายเสียอย่างนั้น“แต่ข้าไม่มีชุดเปลี่ยน” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาเสียงเบา“ข้ามี” ไปอาบน้ำก่อนเถอะ แล้วเดี๋ยวข้าจะทำแผลให้”ฟ่านเฉิงเฉิงอาบน้ำด้วยจิตใจที่ค่อนข้างสับสน เขารู้ว่าหวงอิ่งจื่อหนีเขามาและนางก็ไม่ได้เอาอะไรมามากนัก เพราะขนาดชุดหลายชุ
บทที่25ไม่นึกเลยว่าเรื่องจะกลายเป็นเช่นนี้ได้ ทั้ง ๆ ที่ควรเป็นนางไม่ใช่หรืออย่างไรที่ร้องไห้คร่ำครวญที่ต้องตกระกำลำบากนานนับปี แต่ทำไมคนที่มีท่าทางเช่นนั้นกลับเป็นฟ่านเฉิงเฉิงไปได้“ฟ่านเฉิงเฉิง” หวงอิ่งจื่อเอ่ยชื่ออีกฝ่ายด้วยน้ำเสียหนักใจ “ฟังข้าหน่อยเถอะ ถึงจะไม่อยากฟัง หากได้ฟังทั้งหมดแล้วยังไม่ยกโทษให้ก็บอกข้าหน่อยว่าข้าควรทำเช่นไร” เพราะสายตาที่เว้าวอนหวงอิ่งจื่อที่อุ้มลูกอยู่จึงพยักหน้าเบา ๆ“ข้าอาจจะไม่ใช่คนที่พูดจาชัดเจนนัก แต่ก่อนที่จะออกจากบ้านมาข้าได้คุยกับท่านแม่แล้ว ที่จริงข้าเองก็ไม่ได้กลับที่ตระกูลฟ่านเท่า ๆ กับเจ้า” คำนั้นทำให้หวงอิ่งจื่อตกใจ แต่เมื่อนึกว่าอีกฝ่ายอาจจะให้หลีซูเหยาจัดการเรื่องในจวนใบหน้าของหญิงสาวก็แอบบึ้งตึง“แล้วท่านย่าใครจะดูแล”“ท่านแม่เป็นสะใภ้หน้าที่ดูแลท่านย่าก็ควรเป็นของท่านแม่ตั้งแต่ตน ก่อนออกจากบ้านมาข้าคุยกับท่านแม่แล้ว นางเข้าใจผิดหลาย ๆ เรื่องแต่...”“บางเรื่องท่านแม่ก็เลือกที่จะเชื่อเช่นนั้นใช่หรือไม่” หวงอิ่งจื่อถามออกไปตรง ๆ บ้าง เพราะนางรู้ดีว่าที่จากมาส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะแม่ของสามี“อิ่งจื่อ ข้ายอมใช้แซ่เจ้า เป็นหวงก็ได้ หากจะได้อ
บทที่24ในที่สุดวันที่แม่ทัพฟ่านเฉิงเฉิงต้องมาถึงเมืองท่าแห่งนี้ก็มาถึงเพียงแต่คนที่ร่วมขบวนนั้นกลับเป็นคนที่หลาย ๆ คนในเมืองท่าแห่งนี้รู้จักดีแล้วเหล่าทหารต่างร้องโอดครวญกันมากมายเพราะหลายคนนินทาเรื่องแม่ทัพฟ่านกับเจ้าตัวไปเลยด้วยซ้ำ“ท่านแม่ทัพข้าผิดไปแล้ว” ฟ่านเฉิงเฉิงหัวเราะน้อย ๆ “ข้าได้บอกว่าจะเอาโทษเจ้าหรือไม่เล่า แค่เลี้ยงอาหารร้านแม่นางหวงก็เพียงพอแล้ว”ท่าทางของชายหนุ่มที่ไม่เหมือนกับข่าวลือทำให้หลาย ๆ คนที่เริ่มสนิทกับคุณชายแปลกหน้าที่ยามนี้กลายเป็นแม่ทัพแห่งแคว้นอดไม่ได้ที่จะถามไปตรง ๆ“ท่านแม่ทัพข้าไม่นึกเลยว่าท่านจะมาร่วมโต๊ะกับพวกเราเช่นนี้ เมื่อก่อนเคยได้ข่าวว่าท่านค่อนข้างที่จะ...” ฟ่านเฉิงเฉิงยกยิ้ม “เพราะข้าหาคนที่ข้าต้องการจะหาเจอแล้ว” เรื่องของเขาไม่ได้เป็นเรื่องที่ปกปิดใครก็รู้ว่าเขากำลังตามหาภรรยาที่หนีไปหลายคนบอกว่าเขาพาสาวงามเข้าตระกูล จนภรรยาทนไม่ได้จึงได้หนีไป บ้างก็บอกว่าภรรยาของเขาหนีไปกับชู้ แน่นอนว่าเรื่องไม่ดีเช่นนั้นคงมาจากหลีซูเหยาเป็นแน่แต่เพราะเหตุนั้นจึงทำให้ทุกคนรู้เรื่องส่วนตัวของเขา และเขาก็ไม่คิดจะปิดเพราะอย่างน้อยมันอาจจะทำให้เขาหาภรรยาเจ
บทที่23ดวงตาของหวงอิ่งจื่อที่มองเลยมาเห็นเข้ากับชายหนุ่มที่คุ้นเคยก็เบิกตาโต “วางเอาไว้ตรงนั้นได้เลยเจ้าค่ะ” นางทำเป็นไม่สนใจสายตาอาวรที่มองมาทุกอย่างในร้านยังคงเป็นไปแบบเดิม ฟ่านเฉิงเฉิงเดินไปหยิบของเหมือนกับคนอื่นตามคำแนะนำของชายกลางคนที่เขาเพิ่งรู้ว่าชื่อลุงเฉิน ชายหนุ่มเลี้ยงจนลุงเฉินบอกว่าตนเองกินไม่ได้อีกต่อไป และเมื่อเขาเห็นว่าเหล่าทหารที่มีคำนินทาถึงแม่ทัพที่กำลังจะเดินทางมาเดินไปล้างจานช่วยหญิงสาวเก็บโต๊ะเขาก็ทำตาม จนเมื่อทุกคนเดินออกไปแล้วนั่นแหละเขาถึงได้หยิบเอาปิ่นที่พกติดตัวตลอดออกมา“อิ่งจื่อ” ชายหนุ่มเอ่ยทักอย่างไม่ปิดบัง เพราะเขาแน่ใจว่าอีกฝ่ายจำได้ว่าเขาเป็นใคร “ไม่ได้พบกันนานเลยนะเจ้าคะ” ใบหน้าที่เอ่ยคำเหล่านั้นออกมาโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าไปแม้แต่น้อยทำให้ชายหนุ่มที่มองกังวล“ข้าเอาของมาคืน” ฟ่านเฉิงเฉิงไม่รู้จะพูดอะไร มีหลายอย่างที่เขาอยากเอ่ยกับหญิงสาว แต่พอเจอเข้าจริง ๆ กลับนึกไม่ออกเสียอย่างนั้น“ข้าคงรับคืนไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ นี่คงถือได้ว่าเป็นสินสอดของหมั้น ข้าน้อยเป็นฝ่ายเดินออกมาจากตระกูลฟ่าน ของที่ตระกูลฟ่านมอบให้คงไม่กล้าเก็บเอาไว้” ฟ่านเฉิงเฉิงกำมือแน่น“นี
บทที่22หวงอิ่งจื่อแทบจะทำอะไรไม่ถูกหลังจากนั้น มือไม่แทบจะประคองตะหลิวเอาไว้ไม่อยู่ โชคดีที่แต่ละโต๊ะที่เข้ามาตอนนี้ได้รับอาหารกันไปหมดแล้ว วันนี้นางไม่มีสมาธิจริง ๆ จากเรื่องที่ได้ยิน แต่เหล่าทหารและไต้ก๋งเรือที่มาแวะกินอาหารประจำก็เข้าใจหญิงสาวที่ต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพังนั้น ทำได้เท่าที่หวงอิ่งจื่อทำทุกคนก็ชื่นชมนางจะแย่อยู่แล้ว“พวกข้าช่วยล้างจานไหมแม่นางหวง” เหล่าทหารต่างอาสาเพราะหลายครั้งนางก็ทั้งลดราคาและให้มาจ่ายหลังจากเบี้ยหวัดออก ราวกับว่านี่คือบ้านอีกหลังสำหรับทหารที่ต้องใช้ชีวิตในสถานที่ที่ค่อนข้างอยู่ได้ยากแห่งนี้ที่นี่ไม่มีค่ายทหาร เพราะส่วนมากก็นอนกันบนเรือ แต่การทำเช่นนั้นก็ลำบากหลายอย่าง แต่เพราะต้องออกเรือทันทีที่เกิดเรื่อง อาหารในเรือก็มีให้ตามสมควร แต่ก็ต้องยอมรับว่าการได้กินอาหารฝีมือแม่นางหวงที่เหมือนกับคนเมืองหลวงมันทำให้พวกเขาหายคิดถึงบ้านและเรื่องเหล่านั้นก็เป็นเหมือนกันกับพวกไต้ก๋งเรือนที่ต้องออกไปหาปลาหรือขนส่งสินค้าร้านของหวงอิ่งจื่อจึงโด่งดังมากที่นี่ แม้ว่าจะต้องจัดการเองหลายอย่างเพราะหญิงสาวต้องดูแลบุตรของตนก็ตาม แต่สิ่งที่ได้ก็เรียกว่าคุ้ม“พรุ่งนี้พ
บทนำสตรีในชุดมงคลสีแดง นั่งเหม่อมองแสงอาทิตย์ยามเช้าที่สาดส่องเข้ามาผ่านผ้าม่านสีแดง ดวงตากลมโตแดงรื้อบอบช้ำ เนื่องจากผ่านการร้องไห้มาทั้งคืน งานมงคลสมรสที่ควรจะมีเจ้าบ่าวร่วมหอ แต่กลับมีเพียงเจ้าสาวในชุดแดงนั่งอยู่ในห้องหอเพียงลำพัง นางเฝ้ารอบุรุษที่นางกราบไหว้ฟ้าดินร่วมกันเมื่อช่วงเช้าอย่างใจจดจ่อ แต่แล้วจนตะวันของอีกวันใหม่โผล่พ้นขอบฟ้า คนที่นางเฝ้ารอก็ยังไม่มา “คุณหนู” แม่สื่อที่นั่งเฝ้าเจ้าสาวมาตลอดทั้งคืน เอ่ยเรียกเจ้าสาวในความรับผิดชอบของตนเองเสียงแผ่วเบา นางเองก็นั่งเฝ้าอยู่หน้าประตูทั้งคืน รอให้ว่าที่สามีของคุณหนูผู้นี้มายังเรือนหอแห่งนี้ทั้งคืน แต่ก็ไร้เงาบุรุษที่สวมชุดแดงมงคล นางแอบไปเรียบๆ เคียงๆ ในงานเลี้ยงอยู่หลายหน จนสุดท้ายถึงได้รู้ว่า เจ้าบ่าวถูกแขกในงานรั้งเอาไว้จนดึกดื่น อีกทั้งขนาดดื่มสุราจนเมามายยังไม่มีทีท่าว่าจะมายังเรือนหอที่มีเจ้าสาวอยู่ พอรุ่งเช้ากลับมีข่าวร้ายมากกว่าเดิม นางจะบอกคุณหนูผู้นี้เช่นไรดี แค่เห็นขอบตาแดงก่ำของเจ้าสาวคนใหม่ใจของนางก็ตกไปอยู่ตาตุ่มเสียแล้ว“เช้าแล้ว เขาคงไม่มาแล้ว ท่านมาช่วยข้าถอดชุดเจ้าสาวทีสิ”หวงอิ่งจื่อเอี้ยวตัวหันไปตามเสียงเ...
Comments