จากสตรีน่ารำคาญข้างจวนกับแมวอ้วนตัวแสบที่มักเป็นแขกไม่ได้รับเชิญในจวน กลายเป็นสตรีที่ทำให้หัวใจของคนโหดเหี้ยม เย็นชาเช่นเขาต้องวุ่นวาย “หากยังกล้าเรียกเขาว่าพี่อีก ข้าจะจูบเจ้าต่อหน้าเขาเดี๋ยวนี้” จากสตรีที่น่ารำคาญ บุตรสาวของเสนบดีข้างจวน เขาไม่ชอบนางเพราะความไร้มารยาท อีกทั้งยังดื้อดึง แต่ก็หลีกหนีไม่ได้เพราะนางเป็นบุตรสาวของเสนาบดีกรมตุลาการ ที่เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยในคดีการทุจริต แต่เมื่อเริ่มสืบ และเริ่มอยู่ใกล้นางทุกวัน... ความรู้สึกรำคาญค่อย ๆ หายไป และเมื่อนางมีผู้อื่นเข้ามา.... เหตุใดทำให้จิตใจของเขาอยู่ไม่สงบเช่นเดิมกันนะ "ไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่...มีมากกว่าสอง สามคนงั้นหรือ!!" ไม่เพียงเท่านั้น นางยังเริ่มทำเมินเฉยและไม่สนใจเขา เรื่องนี้ทำให้คนที่นิ่งราวผืนน้ำและใจเย็นดุจน้ำแข็งเริ่มร้อนจนจวนเกือบไหม้
View More“แต่คุณชายให้ข้า…ไปถามจิ่วหลงเรื่องท่านหญิงนี่ขอรับ”“เรื่องนั้น!! เพราะว่ามันเกี่ยวข้องกับเรื่องคดีการทุจริต ทุกการเคลื่อนไหวในจวนสกุลกู้ข้าต้องรู้ทั้งหมด”“อ้อ เช่นนั้นเองข้าน้อยคงเข้าใจผิดไป คิดว่าคุณชายรู้สึกไม่ดีที่ถูกท่านหญิงเมินใส่เสียอีกขอรับ”“ข้ากับนางไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกัน เหตุใดข้าต้องสนใจด้วยว่านางจนสนใจหรือว่าไม่สนใจข้า”“นั่นสิขอรับเดิมทีท่านหญิงผู้นี้ก็เอาแต่ใจตัวเองเป็นที่ตั้งอยู่แล้ว”“เจ้าไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ส่งคนไปนำตัวอย่างยาพิษในห้องลับสกุลไป๋มาให้ข้า”“ขอรับ”วันถัดมา / จวนสกุลกู้“คุณหนูท่านจะสวมชุดใดไปงานเลี้ยงจวนคุณชายเจียงเจ้าคะ”“ชุดไหนก็ได้ ไม่สำคัญหรอก ไปแค่พอให้เจ้าบ้านเห็นหน้าก็กลับแล้ว”“คุณหนูนี่ท่านป่วยหรือไม่เจ้าคะ เดิมทีหากเป็นเรื่องของคุณชายเจียงท่านจะไม่ทำสีหน้าเช่นนี้ท่านจะต้อง….”ม่านซีนั่งเท้าคางและหันมามองหน้าสาวใช้ด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายเต็มที“หรือว่าคุณหนูยังติดใจเรื่องของคุณชายเจียงกับคุณหนูไป๋ แต่ข้าว่าพวกนางพูดเกินจริงและพูดเพื่ออยากยั่วโมโหท่านเท่านั้นเองเจ้าค่ะ”“ข้าไม่อยากไปร่วมงานเลี้ยงพรุ่งนี้เลย”“ไม่ได้นะเจ้าคะก็…คุณชายเจียงมาเ
“ท่านหญิง!! เหตุใดท่านจึงพูดเช่นนี้”“แล้วข้าพูดผิดตรงไหนกัน นี่ไป๋รั่วเวยหากเจ้าจะมาดื่มชาก็ดื่มของเจ้าไปไม่ได้หรือ เหตุใดต้องแวะมาเหน็บแนมผู้อื่นหรือว่าพวกเจ้าทำจนมันติดเป็นนิสัยไปแล้วเลยแก้ไม่หาย”“เจ้า!!”“ท่านหญิง ท่านเองก็ไร้มารยาทไม่ต่างกับ…”“หืม ไม่ต่างกับใครงั้นหรือ ข้าก็นั่งดื่มชาของข้าดี ๆ แต่พวกเจ้ามิใช่หรือที่เข้ามาหาเรื่องก่อน หากจะไร้มารยาทจริง ๆ น่าจะไม่ใช่ข้าแล้วล่ะ จิ่วหลงกลับเถอะ”“เพราะนิสัยแบบนี้อย่างไรเล่าถึงได้ไม่มีผู้ใดคบหา”“เพี๊ยะ!!”“ว้าย!! หมิ่นฮวา ท่านหญิง!! ท่านทำเกินแล้วนะ”ปลอกดาบของจิ่วหลงพุ่งไปฟาดหน้าของสตรีข้าง ๆ ไป๋รั่วเวยอย่างแรงราวกับถูกตบ ก่อนที่กู้ม่านซีจะใช้เพียงปลายแขนเสื้อม้วนมันกลับเข้ามาสวมดาบของจิ่วหลงเอาไว้เช่นเดิม สตรีที่เหลือทั้งสองคนยืนตัวสั่นเมื่อเห็นว่ากู้ม่านซีเริ่มลงมือโดยไม่สนว่านางเป็นบุตรของผู้ใดและเป็นขุนนางชั้นไหน“งาช้างไม่มีทางงอกออกมาจากปากสุนัข นี่คือคำเตือนแรกทางที่ดีอย่าได้มายุ่งกับข้าอีก เจอที่ใดก็ไม่ต้องมาทักเพราะข้าไม่อยากกลับจวนแล้วอาบน้ำล้างซวย กลับ!!”“ท่านหญิง!! เป็นถึงท่านหญิงแต่กลับตบตีคนกลางตลาด ท่านไม่กลัวว่า
กู้ม่านซีรู้สึกว่าวันนี้คุณชายข้างจวนทำตัวแปลกไปเป็นอย่างมาก ยิ่งคำพูดของเขาหลาย ๆ คำและหลาย ๆ ครั้งยิ่งทำให้นางรู้สึกวูบวาบชอบกล แม้จะไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองแต่ก็อดไม่ได้“ขอบคุณที่ท่านคิดเช่นนั้น ข้าเองก็จะพยายามเป็นตัวของตัวเอง ไม่อยากให้ถูกสิ่งอื่นดูดกลืนจนไม่เหลือความมั่นใจนี้เอาไว้”“เป็นเช่นนั้นถูกต้องแล้ว ในเมื่อใต้เท้ากู้ก็ปลอดภัยแล้ว เช่นนั้นข้าคงต้องขอตัวก่อน”“ขอบคุณคุณชายเจียง เอาไว้…ข้าจะแวะไปขอบคุณท่าน”“ข้าจะรอ แล้วพบกันใหม่”“แล้ว…พบกันใหม่”ม่านซีจำได้ว่าคืนนั้นนางตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ เมื่อนึกถึงใบหน้าของเจียงอี้หานที่ยิ้มให้ก่อนที่เขาจะเดินกลับจวนไป เสี่ยวจูที่หายดีแล้วเดินมานอนข้าง ๆ นางบนเตียงพร้อมกับคลอเคลีย“วันนี้ท่านพ่อไม่ได้พาเจ้าไปนอนด้วย เจ้าก็อย่าไปกวนท่านพ่อล่ะ”“เมี๊ยว!!”เสียงร้องเบา ๆ ของแมวตัวโตที่ร้องไม่เข้ากับขนาดของมันค่อย ๆ ดันตัวเข้าซุกผ้าห่มอุ่นของม่านซี ไม่นานทั้งคนและแมวก็นอนหลับสนิทไปจวนเจียงอี้หาน “จากที่สืบดู เหมือนว่าใต้เท้ากู้น่าจะถูกพิษนะขอรับ”“พิษงั้นหรือ เหตุใดจึงมาคนวางยาพิษได้แล้วเหตุใดใต้เท้ากู้จึง….”“คุณชาย ข้าคิดว่าผู้ที่วางย
เขาพูดเสร็จก็หันไปมองนางที่พึ่งวางจอกชาลง ใบหน้าสตรีที่ไม่ทันตั้งตัวเริ่มร้อนผ่าว หัวใจที่เต้นแรงนั่นทำให้มือนางสั่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด“ท่าน…ท่านพูดเช่นนี้ ท่านไม่กลัวว่าข้าจะไปสร้างความวุ่นวายให้จวนท่านเหมือนเมื่อก่อนหรอกหรือ”“จะพูดเช่นไรดีเล่า ต้องบอกว่า ข้าคงเคยชินกับความวุ่นวายนั้นไปเสียแล้วน่ะสิ เพียงท่านหญิงมิได้ไปมาหาสู่เพียงสามวัน รู้สึกว่าในจวนช่างเงียบเหงาจริง ๆ”“ดี เช่นนั้นข้าจะตอบรับคำเชิญของท่านจะไม่ให้ท่านเงียบเหงา”“ท่านหญิงขอรับ!!”เสียงของจิ่วหลงที่วิ่งหน้าตาตื่นเพื่อแจ้งข่าวทำเอาทั้งคู่เริ่มตกใจ ต้าจื่อเองก็วิ่งตามหลังมาด้วยเช่นกัน“จิ่วหลง เป็นอะไรเกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ”“นายท่านขอรับ นายท่านเป็นลมล้มไปแล้วขอรับ”""อะไรนะ!!""“ท่านหญิงรีบพาใต้เท้ากู้กลับจวนก่อนเถอะ”“ตอนนี้ท่านพ่อข้าอยู่ที่ใด”“ตอนนี้นายท่านกลับจวนไปพร้อมกับหมอหลวงที่ท่านอ๋องส่งไปพร้อมกันแล้วขอรับ”“ข้า…ข้า”“ม่านซี!! ตั้งสติเอาไว้ก่อนแล้วกลับไปกับข้า”“เช่นนั้น ข้า…คงต้องขอรบกวนคุณชายเจียงแล้ว”“รีบไปกันเถอะ ต้าจื่อ!!”“รับทราบขอรับ”เจียงอี้หานจับมือนางและพาเดินออกไปจากงานด้วยความรวดเร็วโดยไม่ไ
“เอ่อ…. คุณหนูไป๋”“เช่นนั้นน้องหมิ่นฮวา กับหนิงลี่นั่งก่อนสิ ม่านซีเจ้าคงไม่ว่าอะไรใช่หรือไม่ ข้าได้สั่งชาชั้นดีพร้อมกับอาหารมาอีกเดี๋ยวคงจะตามมา”“ม่านซี!!”“ท่านพี่อิ่นเหลา ทางนี้เจ้าค่ะ”“ถวายบังคมมู่หรงซื่อจื่อ”“มู่หรงอิ่นเหลา” พระโอรสองค์โตของท่านอ๋องซึ่งรั้งตำแหน่งซื่อจื่อของจิ่งโจวในตอนนี้เดินเข้ามาทักทายพวกเขาและนั่งร่วมวงด้วย ม่านซีรู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อย อย่างน้อยก็มิได้มีเพียงไป๋รั่วเวยเท่านั้นที่นางไม่ค่อยชอบหน้า“พระองค์ทรงเสด็จกลับมาจากหัวเมืองแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ”“คุณชายเจียงอย่าได้เกรงใจ พูดกับข้าไม่ต้องเกร็งขนาดนั้น นี่ม่านซีเจ้ารู้หรือไม่ว่าน้องรองน่ะเตรียมของบางอย่างมาแกล้งเจ้าด้วย นี่ข้ามาเพื่อเตือนเจ้าก่อนนะ”“พวกท่านคิดว่าข้ายังเด็กอยู่หรืออย่างไรกันนะ ชอบให้ข้ากลัวอยู่ตลอดเลย”“ไม่หรอกน่าก็แค่สัตว์หน้าตาประหลาด แต่ข้าคิดว่าคงไม่มีอะไรประหลาดเท่ากับแมวอ้วนหน้างอของเจ้าอีกแล้ว”“ตายจริงม่านซี นี่เจ้าเลี้ยงแมวด้วยงั้นหรือคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ”ซื่อจื่อหันไปมองสตรีที่เอ่ยแซวญาติผู้น้องของเขา แม้ว่านางจะดูงดงามราวบุปผาในฤดูร้อน แต่สายตาและคำพูดที่กล่าวถึงญาติของเขากลับดู
กู้ม่านซีไม่ได้ไปที่จวนของอี้หานอีกเลยนับตั้งแต่วันที่แมวของนางถูกเขาสาดน้ำจนมันป่วย ขาของมันบาดเจ็บเพราะถูกหญ้าในสวนของเขาบาดจนเลือดออก และเมื่อถูกน้ำสาดเข้าไปมันจึงเป็นหวัดและนอนซมกู้ม่านซีไม่มีอารมณ์ที่จะพบผู้ใดแม้แต่ว่านเนี่ยฟงที่มาขอพบนางก็ให้เขากลับไปและไม่พบผู้ใดเลยตลอดสามวันมานี้“จวนช่างสงบสุขจริง ๆ นะขอรับ”“ปึก!!”เสียงตำราที่อ่านไม่รู้เรื่องถูกวางลงด้วยความหงุดหงิด ต้าจื่อไม่เข้าใจเลยว่าสามวันมานี้แม้ว่าจวนจะเงียบเพราะไม่มีเสียงของคุณหนูกู้ข้างจวนมาวุ่นวายและพูดไม่หยุดอยู่ข้าง ๆ คุณชายของเขาทุกวัน แต่กลับทำให้อารมณ์ของคุณชายฉุนเฉียวง่ายและโมโหง่ายจนผิดสังเกต เขาสั่งให้คนสวนรื้อสวนด้านหลังที่ติดกับสกุลกู้ออกจนโล่งเตียน ทั้ง ๆ ที่ตรงนั้นเขาตั้งใจจะปล่อยให้รกร้างเพราะกู้ม่านซีมันจะเอาบันไดมาพาดขึ้นลงระหว่างสองจวน และก็เป็นเขาที่ไปขยับบันไดให้วางตั้งอย่างมั่นคงด้วยตัวเองจนต้าจื่อนึกสงสัย“อาการของ…. แมวตัวนั้นเป็นอย่างไรบ้าง”“อะไรนะขอรับ แมว…. เอ่อ….คือว่า”“เจ้าไม่ได้ไปถามเลยงั้นหรือ"“ข้าน้อยไม่คิดว่าคุณชายจะใส่ใจ”“ข้าเป็นคนสาดน้ำใส่มันทั้ง ๆ ที่มันบาดเจ็บอยู่ เจ้าควรจะร
“ยอดไปเลย ต้าจื่อลาภปากแล้ว”“ท่านหญิงระวังขอรับ”กู้ม่านซีลุกขึ้นจากที่นั่งเพื่อจะขึ้นรถม้า สาวใช้และขันทีรีบห้ามนางเอาไว้เพราะเกรงว่านางจะหกล้ม ต้าจื่อแทบจะไม่กล้าเอ่ยคำใดอีกหลังจากรู้ฐานะที่แท้จริงของกู้ม่านซี“ข้าไม่เป็นไรหรอกน่า พอแล้ว ๆ พวกเจ้ากลับไปได้แล้วข้าบอกแล้วว่าไม่ต้อง ๆ อย่างไรเล่า”“แต่ว่าท่านหญิง เมื่อใดจะเข้าวังอีกเพคะ”“เอาน่า ๆ เมื่อใดก็เมื่อนั้นแต่ข้าจะมาบ่อย ๆ ตกลงหรือไม่ ระหว่างนี้ก็ดูแลหลานชายข้าดี ๆ เล่า ไปได้แล้ว ๆ ข้าจะกลับแล้ว”""น้อมส่งท่านหญิง""กู้ม่านซีเดินเข้าไปนั่งในรถม้าแล้ว ตามไปด้วยเจียงอี้หานที่เดินตามนางเข้าไป ต้าจื่อสั่งให้รถม้าออกจากวัง ไม่นานทั้งคู่ก็มาถึงร้านอาหารหรูของจิ่งโจว ที่นี่เป็นโรงน้ำชาที่ใหญ่ที่สุดเมื่อเดินเข้าไปอี้หานก็เลือกนั่งที่ด้านในและเริ่มสั่งอาหาร“ท่านหญิง ท่านกินเผ็ดได้หรือไม่”“คุณชายเจียงขอร้องล่ะเรียกข้าว่าม่านซีเถอะ ข้าไม่ได้นึกอยากจะได้ยินยศนั่นเท่าใดนักหรอก แค่ฟังก็ขนลุกแล้ว”“แต่ว่า…”“หากท่านไม่สะดวกเรียกชื่อข้าท่านจะเรียกข้าเหมือนก่อนหน้านี้ก็เรียกเถอะ”“เช่นนั้นคุณหนูกู้…”“คุณชายเจียง คิดไม่ถึงว่าจะพบท่านที่นี่
ต้าจื่อเผลอตัวรีบรับปิ่นโตใหญ่นั้นมาทันที เขารู้ว่าหากมาจากคุณหนูกู้แล้วคงเป็นของดีอย่างไม่ต้องสงสัย ครั้งนี้กลับต้องแปลกใจที่คุณชายของเขาไม่เอ่ยอะไรที่เขารับเถาปิ่นโตของกู้ม่านซีมา เขาจึงรีบนำมันออกไปที่รถม้าทันที“คุณหนูกู้ ท่านมาแต่เช้าเช่นนี้มีอะไรเร่งด่วนงั้นหรือ”“ได้ข่าวว่าท่านจะเข้าวังก็เลยมารอพบน่ะเจ้าค่ะ”“รอพบข้างั้นหรือ เจ้าคงไม่คิดที่จะ…”“ข้าเอาขนมมาให้ท่านตามปกติอยู่แล้ว แต่ว่าวันนี้มีเรื่องอยากจะขอร้อง”“ขอร้องข้างั้นหรือ เหตุใดเจ้าถึงไม่ไปขอร้อง…”“หืม คุณชายเจียง ท่านกำลังพูดอะไรอยู่ ข้าก็แค่จะขอติดรถม้าของท่านเข้าวังด้วยเท่านั้นเอง”“อะไรนะ!! เข้าวังงั้นหรือ แล้วเหตุใดเจ้าไม่ไปกับใต้เท้ากู้เล่า”“วันนี้ท่านพ่อไม่ได้เข้าวัง ข้าก็เลยมาขอไปกับท่าน”“แล้วเจ้าจะเข้าวังไปทำไมกัน”“ปัดโธ่ถามมากความไปได้รีบไปกันเถอะสายแล้ว”“เดี๋ยวก่อนคุณหนูกู้ทำเช่นนี้คงไม่เหมาะ ทางที่ดี…”“ท่านจะปฏิเสธข้างั้นหรือ”“มิใช่เช่นนั้นแต่ว่าเจ้ากับข้า เข้าวังพร้อมกันเช่นนี้อาจจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ เจ้าอาจจะเสื่อมเสียได้”“ก็คือปฏิเสธนั่นแหละ แต่ช่างเถอะข้าไม่สนใจก็แค่ขอติดรถไปด้วย รับรองไม่ทำ
“โรงละครหรือขอรับ!! แต่ว่าคุณชายไม่ชอบดูงิ้ว ฟังละครจะไปสถานที่เช่นนั้นเหตุใดต้องไปเองด้วยขอรับ”“ไหน ๆ ก็มาแล้วนี่ แวะไปหน่อยจะเป็นอะไรไป รีบตามมาเถอะ”“ขอรับ”โรงละครจิ่งโจว“คุณชาย โต๊ะชั้นสองว่างขอรับ”“งั้นหรือ”“คุณชาย ท่าน…มองหาผู้ใดหรือขอรับ”“เปล่า ข้าจะมองหาผู้ใดได้ ที่นี่ข้าไม่ได้รู้จักใคร”“เฮ้อ จะมาดูละครก็เจอนาง เหตุใดไปที่ใดก็เจอแต่คุณหนูกู้ผู้นี้กันนะ”“อะไรนะ เจ้าบอกว่า…. นางนั่งตรงไหนกัน”“ทางโน้นขอรับ ชั้นสอง แต่เป็นฝั่งตรงข้ามกับโต๊ะที่ข้าจองเอาไว้”“ไปเถอะ เจ้าจองเอาไว้แล้วนี่”ต้าจื่อรู้สึกแปลกใจและปรับอารมณ์ไม่ทันกับคุณชายของเขาในวันนี้แต่ก็ทำตามคำสั่งทันที พวกเขานั่งที่ฝั่งตรงข้ามที่จองเอาไว้ ต้าจื่อรินชาให้คุณชายดื่มก่อนที่ละครจะเริ่ม“ชานี่รสชาติแย่จริง ๆ ด้วย”“ไม่เหมือนชาที่จวนหรือขอรับ”“ช่างเถอะ เอาอะไรกับร้านเช่นนี้กันเล่า”เขาพึ่งจะรู้ว่าก่อนหน้านี้ติดรสชาติชาที่กู้ม่านซีเอามาให้เสียแล้ว ตลอดเวลาที่อยู่จิ่งโจวเขาได้กินแต่อาหารดี ๆ ชาที่พิถีพิถันและราคาแพงของกู้ม่านซีจนทำให้เขารู้สึกไม่คุ้นเคยกับอาหารที่อื่นนอกจวนแม้วันก่อนที่ไปเยี่ยมเหล่าขุนนาง ก็ไม่ม
เมืองจิ่งโจว“หลีกไปเร็ว ๆ เข้า ม้าของคุณหนูสกุลกู้กำลังมา รีบ ๆ หลีกไป เร็ว เข้า!!”เสียงตะโกนที่ดังมาแต่ไกลของชาวบ้านในละแวกตลาดกลางเมืองที่คึกคักพร้อมกับเสียงฝีเท้าของอาชาสีขาว บนนั้นมีสตรีในอาภรณ์สีขาวสลับแดงควบอาชาราวกับเร่งกวดคนร้ายวิ่งเข้ามายังเขตที่มีผู้คนสัญจรจนเกือบจะชนรถม้าที่วิ่งสวนมาแล้ว“แย่แล้ว รถม้านั่น!!”“คุณหนูระวัง!!”“เสี่ยวปิงเจ้าไปทางซ้ายแล้วไปเจอกันข้างหน้านะ”“กู้ม่านซี” พูดกับม้าคู่ใจเมื่อค่อย ๆ ปล่อยบังเหียนพร้อมกับกระโดดตีลังกาเหยียบไปที่หลังอานม้าของรถม้าคันใหญ่ที่วิ่งสวนมา เสี่ยวปิงวิ่งแฉลบออกไปในตรอกแคบข้างซ้ายซึ่งเป็นรูเล็ก ๆ ซึ่งเป็นรูที่ม้าวิ่งไปได้แต่คนที่ขี่วิ่งไปด้วยไม่ได้เพราะมันแคบมาก“เฮ้ย ดูนั่น!!”สตรีในอาภรณ์สีขาวกระโดดขึ้นหลังคารถม้าและตีลังกากลับหลังไปอีกครั้ง เมื่อถึงพื้นม้าขาวของนางก็วิ่งออกมาจากตรอกและรับเจ้าของได้ทันเวลา นางหันไปพร้อมกับยกมือคำนับให้กับเจ้าของรถม้าเพื่อเป็นการขออภัยที่นางต้องล่วงเกิน แต่ว่าเจ้าของที่นั่งอยู่ในรถม้ามิอาจได้ทันเห็นว่านางทำเช่นนั้น“หยุดรถก่อน”“ขอรับ!!”คำสั่งของเจ้าของรถม้าทำให้ผู้คุมรถม้าหยุดรถม้าทันที ...
Comments