และในที่สุดสิ่งที่ดีที่สุดที่จะแยกสตรีแพศยานั่นออกจากน้องเขยเลวของเขาก็คือ แยกพวกมันจากกันเสีย และนั่นก็เป็นสาเหตุที่เขาส่งคนไปสู่ขอสตรีนางนั้นทั้งๆที่ไม่เคยเห็นหน้า แต่ก็ไม่ประสงค์จะเห็นเพราะแค่ได้ยินเรื่องฉาวของแม่นั่นเขาก็รังเกียจแทบจะไม่อยากจะพบเจอ แต่นี่จำต้องรับนางมาเป็นฮูหยินที่เขาไม่ได้เต็มใจเลยสักนิด ก็แพศยาปานนั้น เปือดเปื้อนกลิ่นอายบุรุษมากี่คนแล้วล่ะ แม้แต่สามีของผู้อื่นนางก็ไม่เว้น แพศยาถึงปานนี้ จะทอดสะพานให้บุรุษเดินไปกี่คนแล้วก็ไม่รู้ได้ แม่ทัพหนุ่มจึงเพียงแค่รับนางเข้าจวนและให้เข้าพิธีแต่งกับป้ายชื่อของเขา โดยอ้างว่าเขาติดราชการด่วน ไม่..ฮูหยินที่เขาไม่ต้องการนั้นร้ายกาจดังเช่นที่น้องสาวของบอกเล่าหรือไม่
Lihat lebih banyakแม้ขณะนี้หน้านางก็ไม่อยากจะเห็น และซ้ำยังโกรธตนเองอย่างมากที่ไปหลงไหลนางเข้าอย่างบ้าคลั่งและเหมือนยังติดใจอยู่จนบัดนี้ จึงสั่งให้สาวใช้ไปบอกให้นางย้ายเรือนออกไปอยู่ที่ริมกำแพง ที่เป็นเรือนหลังสุดท้าย ให้ห่างจากเรือนหลักของเขาออกไปให้มากที่สุด เพื่อที่เขาจะได้ไม่คิดแต่อยากจะไปหานางเหมือนคนบ้าที่ต้องคอยหักห้ามใจของตนเองเอาไว้แม่ทัพหนุ่มเข้านอนเพราะเหนื่อยล้าไม่น้อยจากการร่วมรักที่เร่าร้อน ดุเดือด และสุขสมอย่างไม่เคยมาก่อนจนเขาตกใจที่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นกับเขา แม้จะเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย แต่ไม่อาจจะข่มตานอนหลับได้ เขานอนลืมตาโพลง ด้วยไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกของตนเองอย่างไรและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากัน เขาไม่อยากจะยอมรับกับตัวเองเลยว่าติดใจนาง ติดใจเหลือเกิน ติดใจจนแทบจะรอไม่ไหวที่จะไปที่เรือนเล็กซ่อมซ่อนั้นอีกในคืนต่อๆไป เจ้าใจของเขามันบ้านัก แม้จะรู้ว่าย้ายนางไปที่เรือนเล็กเกือบจะริมกำแพงจวนแล้ว แต่ก็ร่ำๆ แต่อยากจะไปหานาง เขาให้เหตุผลกับตนเองว่าเขาเพียงแค่ต้องไปทำตามหน้าที่ให้นางตั้งครรภ์อย่างรวดเร็วที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าน้องเขยนั่นจะตัดใจจากนางได้อย่างเด็ดขา
จึงเป็นที่มาของการปฏิบัติกับฮูหยินใหม่เช่นนี้ เริ่มจากเจ้าบ่าวไม่มาเข้าพิธีให้เจ้าสาวเข้าพิธีกับป้ายชื่่อของเขาและพออีกวันก็สั่งให้ย้ายเรือนไปอยู่เสียไกล เหมือนชิงชังรังเกียจนางนักหนา แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าตั้งคำถามกับเจ้าของจวนว่าเหตุใดเขาจึงย้ายภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกันใหม่ไปอยู่เสียไกลเช่นนั้น บ่าวชายและสาวใช้สองสามคนมาช่วยกันขนข้าวของๆเจ้าสาวหมาดๆ แล้วก็พากันกลับไปเยว่ซินและหย่งหลิวพากันเดินสำรวจเรือนน้อยหลังใหม่ที่พวกนางเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ เรือนนี้แม้ไม่ใช่เรือนใหม่นัก แต่ก็พออยู่ได้ ยังไม่ต้องซ่่อมแซมสิ่งใด พ่อบ้านของจวนก็สั่งให้คนมาทำความสะอาดเอาไว้แล้ว ตุ่มน้ำหลังบ้านก็มีบ่่าวไปตักน้ำมาใส่จนเต็มทุกตุ่มแล้ว ครัวเล็กด้านหลังก็สามารถใช้ทำอาหารได้หากพวกนางต้องการ ห้องสุขาที่อยู่ด้านหลังเรือนอีกฝั่งหนึ่งของครัวก็ยังใช้งานได้ดี แต่ในห้องนอนของคุณหนูไม่มีถังอาบน้ำใบใหญ่ กับฉากกั้นสำหรับไว้แต่งตัว“ คุณหนูเจ้าคะ แล้วคุณหนูจะอาบน้ำอย่างไร ในห้องไม่มีอ่างอาบน้ำนะเจ้าคะ หรือเราจะบอกให้พ่อบ้านนำมาให้ ” หย่งหลิวเมื่อเดินสำรวจจนทั่วเรือนแล้วก็หันมาถามนายหญิงของตนเอง“ ไม่เป็นไร ข้าอาบที
เยว่ซินค่อย ๆ เดินโผเผไปที่หลังฉากกั้น แล้วเปิดหีบที่วางอยู่หน้าตู้เสื้อผ้านั้น ค้นหาอาภรณ์ออกมาหนึ่งชุด แล้วผ้าสำหรับเช็ดตัวอีกหนึ่งผืืนนำไปพาดเอาไว้บนราวใกล้ ๆ ถังน้ำใบใหญ่ ขณะนั้นหย่งหลิวก็ก้าวเข้ามาในห้องนอน นางกระวีกระวาดรีบมาช่วยคุณหนูของนางอาบน้ำ “ คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ บ่าวเข้ามาในห้องนี้หลายรอบแล้ว แต่ท่านยังไม่ตื่นบ่าวจึงไม่ได้ปลุกเจ้าค่ะ ” ขณะที่เอ่ยคำสนทนากับนายหญิงของตนเอง ดวงตาคู่กลมของนางก็เบิกกว้าง เมื่อเห็นร่องรอยแดงๆหลายจุดที่ร่างอวบอิ่มของนายสาว นางลงมือขัดถูอาบน้ำให้กับคุณหนูของนางดังเช่นปกติ แต่เมื่ออดใจไม่ได้ก็เอ่ยถามขึ้นเสียงเบา “ เมื่อคืน….” เยว่ซินพยักหน้ารับ “ เขามาเข้าหอเมื่อคืน กลางดึกแล้ว ไม่รู้ว่ากี่ยามเหมือนกัน ” ใบหน้างามของนางแดงระเรื่อเมื่อยามบอกเล่ากับสาวใช้คนสนิท แล้วหย่งหลิวก็ไม่ได้ถามนายหญิงของตนต่อไปอีก แม้นางจะเห็นร่องรอยรักแดงระเรื่อหลายจุดนักบนร่างของนายหญิงของตนเอง เพราะผิวพรรณของนายหญิงบอบบางนัก ทั้งยังขาวผ่องนวลเนียนทำให้เห็นร่องรอยน้อยใหญ่พวกนั้นเด่นชัดนางก้มหน้าก้มตาอาบน้ำให้จนเสร็จดังเช่นปกติ แล้วก็เช็ดกายอวบอิ่มของคุณหนูจนแห้ง
ทั้งสองโยกเข้าหากันอย่างรุนแรง เร่าร้อนด้วยจังหวะรักเดียวกันอย่างไม่รู้ตัว ทั้งๆที่เป็นการเริงรักกันเป็นครั้งแรกแม่ทัพหนุ่มโยกขย่มเมียที่เขาไม่ได้ตั้งใจจะรับเป็นเมียจนแทบจะจมไปกับฟูกหนานุ่มบนผ้าปูเตียงวิวาห์สีแดงเข้มที่เป็นผ้ามัันระยับเขารู้สึกว่าบนผ้าปูเตียงสีแดงเช่นนี้ มันทำให้ร่างเย้ายวนของเมียหมาดๆของเขา ยิ่งดูเร่าร้อน ร่านรัก จนเขาแทบจะหยุดยั้งตนเองไม่ได้ เสน่ห์ของนางช่างร้ายกาจเหลือเกิน และเขาไม่แปลกใจเลยสักนิด ว่าเรื่องที่เขาได้ยินว่ามีบุรุษมากมายหมายปองนางนั้นจะไม่ใช่ความจริง รวมทั้งเจ้าน้องเขยตัวดีที่คิดจะแต่งนางเข้าจวน จนน้องสาวของเขาวิ่งโร่มาหาเขาพร้อมกับน้ำตานองหน้า ขณะที่ครุ่นคิด บั้นเอวสอบของเขาก็โยกไหวไม่พัก เสียงร้องครวญครางดังออกมาจากลำคอหนาดังกระหึ่มไม่ขาดระยะ และสตรีใต้ร่างของเขาก็ไม่แพ้กัน นางร้องครวญครางกระเส่า และเสียงของนางดังแม่แมวน้อยที่ร้องขู่เพื่อจะข่มขวัญเสือร้ายเช่นเขา และนางยิ่งถูกเสือร้ายกลืนกินอย่างดุดันยิ่งไปกว่าเดิม แม่ทัพหนุ่มทั้งเหน็ดเหนื่อยและสุขสมอย่างที่ไม่เคยมาก่อนในชีวิตหนุ่มของเขา ลำตัวของเขามันวับไปด้วยเหงื่อ เสียงหอบหายใจเสียงดั
วูบหนึ่งเขาอยากจะก้มไล้เลียมันอย่างกระหาย แต่สติที่ยังคงมีอยู่ฉุดรั้งตนเองเอาไว้ เขารังเกียจชิงชังหญิงแพศยานี่เหลือเกิน จนมิอาจจะทำกับนางเช่นหญิงที่เขารักได้ เขาตั้งใจว่าจะไม่จูบนางไม่เล้าโลมนางดังเช่นสตรีที่เขาพึงใจและเต็มใจที่จะรับมาเป็นฮูหยิน เขายับยั้งตนเองเอาไว้ หญิงนางอื่นที่เป็นสตรีที่ดีงามอาจจะทำได้ แต่เขาจะไม่ทำกับหญิงแพศยาผู้นี้เป็นอันขาด แม่ทัพหนุ่มรีบตัดสินใจยกเจ้าลูกชายที่พร้อมจะสู้รบแล้วสอดเข้าไปในร่องอวบที่ปริ่มน้ำของนางนั้นอย่างรวดเร็ว แล้วค่อยๆดันมันเข้าไป แม้มันมีน้ำรักของนางเคลือบเอาไว้แต่ก็เข้าไปได้ยากเย็นยิ่ง “ เจ็บนะ เจ็บ ข้าเจ็บ เอาออกไปนะ ไม่อย่านะ อย่า ไม่ข้าไม่ได้รักท่าน ” เยว่ซินที่นอนทอดร่างระทวยอย่างอ่อนแรงตกใจยิ่งนักที่อยู่เขาก็ดันลำกายอวบใหญ่ของเขาเข้าไปในร่องอวบของนางอย่างรวดเร็ว นางยังเจ็บมาก ทั้งเจ็บทั้งแสบเหลือเกิน นางจึงได้พยายามดิ้นรนขัดขืนและร้องห้ามเขาออกมา โม่โฉวเหยียดยิ้มอย่างดูแคลน “ ข้าเองก็เกลียดเจ้า ยิ่งไม่มีทางจะรักสตรีแพศยาเช่นเจ้าได้ ” เขาตอบนางไปด้วยดวงตาวาบไปด้วยความชิงชัง เยว่ซินเมื่อได้ยินวาจาของเจ้าบ่าวหมาดๆ ของนาง ก็ต
เขาขบกัดมันและดูดอย่างรุนแรง ไม่ปรานีนางแม้เพียงน้อย ด้วยแรงเกลียดชังที่มีมากมาย แต่ทันทีที่ลิ้นสากที่ร้อนรุ่มของเขาสัมผัสกับผลอิงเถาที่สั่นระริกของนาง เขาก็พลันรู้สึกติดใจทันที เขาทั้งดูดทั้งเลียอย่างรุนแรงทั้งที่ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะเพียงแค่มากระแทกร่องของนางให้มันเสร็จสิ้นไปแล้วก็กลับออกไป ขอเพียงน้ำเชื้อชาติพันธ์ของเขาเข้าไปในกายของนางก็เป็นอันเสร็จสิ้น แต่เมื่อสายตาคมดุจ้องมองอกอวบใหญ่ของนางที่มันมองเห็นได้ชัดเจนเขาก็อดใจเอาไว้ไม่ได้ อยู่ ๆก็ก้มลงดูดผลอิงเถานั้นอย่างลืมตน เขาทั้งดูดทั้งเลียทั้งใช้ลิ้นสากห่อเป็นวงกลมแล้วดุนดันมันไปมา เขาทำเช่นนี้สลับกันไปทั้งสองข้าง เยว่ซินที่ตอนแรกตกใจนักที่อยู่ ๆ เขาก็รุกนางอย่างรวดเร็วทำให้ชะงักไปครู่หนึ่ง นั่นทำให้เปิดโอกาสให้เขายิ่งจู่โจมนางอย่างรุนแรงยิ่งขึ้น แต่เมื่อตั้งสติได้นางพยายามดิ้นรนหนีให้พ้นจากร่างล่ำสันที่คล่อมนางเอาไว้ แต่ก็ไม่สามารถดิ้นรนหลุดพ้นไปได้ ยิ่งถูกเขาทั้งดูดทั้งเลียทั้งใช้ลิ้นสากดุนดันผลอิงเถานางหนักยิ่งขึ้น ความเสียวที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนในชีวิตสาวมันพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว รุนแรง นางเสียวจนแทบจะทนไม่ไหว จึง
หนิงเยว่ซินเอนกายลงนอนพร้อมกับถอดถอนใจเล็กน้อย นางเองก็ไม่เข้าใจนักว่าบุรุษที่ส่งคนไปสู่ขอนางด้วยสินสอดก้อนใหญ่ แต่กลับไม่มาเข้าพิธีหรือแม้แต่จะมาเข้าหอ แต่ที่จริงแล้วนางเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนัก เพราะนางกับเจ้าบ่าวก็ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน ไม่ได้รักใคร่ใยดีกัน จึงไม่ได้รู้สึกอะไรที่เหมือนนางไม่มีความสำคัญกับสามีหมาดๆคนนี้เลย พ่อบ้านของเขาบอกว่านายท่านออกไปราชการด่วน ก่อนจะถึงฤกษ์ที่ต้องส่งเกี้ยวไปรับเจ้าสาวเพียงเล็กน้อย เขาเพียงสั่งความไว้แล้วก็ออกเดินทางไปทันที แต่เยว่ซินก็คิดว่ามันแปลกๆอยู่ งานแต่งงานในจวนแม่ทัพ แต่ไม่มีแขกเหรื่อเลยสักคน มีเพียงพ่อบ้านและคนสนิทสามสี่คน ที่เข้าร่วมพิธีแต่งงานที่มีบิดาและมารดาเลี้ยงและญาติทางฝ่ายเจ้าสาวที่พากันซุบซิบอย่างงงันกับเหตุการณ์ในจวนของเจ้าบ่าวแต่ก็ไม่มีใครกล้าทักท้วงหรือพูดจาอะไรออกมาแม้แต่ท่านพ่อของนางเพราะแม่เลี้ยงได้รับสินสอดก้อนใหญ่มากอย่างที่เจ้าสาวน้อยคนนักที่ฐานะเทียบเท่านางจะได้รับ จึงทำให้แม่เลี้ยงปิดปากสนิทในเรื่องนี้แม้ท่านพ่อจะเอ่ยปากขึ้นเล็กน้อยแต่แม่เลี้ยงก็จับแขนของเขาเอาไว้ และทำให้เขานิ่งเงียบไป เพราะวันนี้เป็นวันมงคลของบ
แม่ทัพจางโม่โฉว จำต้องส่งคนไปสู่ขอสตรีแพศยานามหนิงเยว่ซิน เพราะเขาทนไม่ไหวที่นางพยายามแย่งชิงสามีของญาติผู้น้อง เขาแสนจะชิงชังรังเกียจสตรีเช่นนี้ แต่ด้วยความที่รักและสงสารน้องสาวที่เป็นญาติผู้น้องนางเป็นบุตรของท่านลุงของเขาที่เห็นกันมาตั้งแต่เล็ก เขาเป็นเด็กกำพร้าอาศัยอยู่ในจวนของท่านลุงที่เป็นบิดาของน้องสาวมาตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่เข้ารับราชการเป็นแม่ทัพและสร้างผลงานการรบทัพจับศึกมาหลายสมรภูมิ เขามิใช่ชายเจ้าสำราญที่ชื่นชอบสตรีงาม แต่เขาเป็นชายชาติทหารที่มุ่งมั่นแต่การทำศึกและงานราชการ เขาสร้างผลงานจนได้เลื่อนขั้นเป็นแม่ทัพ และได้รับพระราชทานจวนใหญ่โตเป็นของตนเอง เขาจึงได้แยกตัวออกมาจากจวนของท่านลุงของเขาที่ก็รับราชการเช่นกันแต่อยู่ในกรมอาญา เมื่อน้องสาวแต่งงานกับชายผู้หนึ่งที่เป็นคหบดีที่รูปงาม ร่ำรวยและมีกิจการค้ามากมาย เจ้าหมอนั่นทั้งรูปร่างหน้าตาดี และพูดจาก็คารมคมคายยิ่งนักเขาไม่แปลกใจที่มีสตรีมากมายหมายปองเจ้าหมอนั่น แต่ในที่สุดเขาก็เลือกที่จะแต่งงานกับอี้หลานน้องสาวของเขา แต่เพียงไม่นาน อี้หลานก็ร้องไห้มาหาเขาบอกว่า เจ้าเผยซ่านเจี้ยนนั่นไปแอบคบหากับสตรีนางหนึ่งที่งดงามปา
แม่ทัพจางโม่โฉว จำต้องส่งคนไปสู่ขอสตรีแพศยานามหนิงเยว่ซิน เพราะเขาทนไม่ไหวที่นางพยายามแย่งชิงสามีของญาติผู้น้อง เขาแสนจะชิงชังรังเกียจสตรีเช่นนี้ แต่ด้วยความที่รักและสงสารน้องสาวที่เป็นญาติผู้น้องนางเป็นบุตรของท่านลุงของเขาที่เห็นกันมาตั้งแต่เล็ก เขาเป็นเด็กกำพร้าอาศัยอยู่ในจวนของท่านลุงที่เป็นบิดาของน้องสาวมาตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่เข้ารับราชการเป็นแม่ทัพและสร้างผลงานการรบทัพจับศึกมาหลายสมรภูมิ เขามิใช่ชายเจ้าสำราญที่ชื่นชอบสตรีงาม แต่เขาเป็นชายชาติทหารที่มุ่งมั่นแต่การทำศึกและงานราชการ เขาสร้างผลงานจนได้เลื่อนขั้นเป็นแม่ทัพ และได้รับพระราชทานจวนใหญ่โตเป็นของตนเอง เขาจึงได้แยกตัวออกมาจากจวนของท่านลุงของเขาที่ก็รับราชการเช่นกันแต่อยู่ในกรมอาญา เมื่อน้องสาวแต่งงานกับชายผู้หนึ่งที่เป็นคหบดีที่รูปงาม ร่ำรวยและมีกิจการค้ามากมาย เจ้าหมอนั่นทั้งรูปร่างหน้าตาดี และพูดจาก็คารมคมคายยิ่งนักเขาไม่แปลกใจที่มีสตรีมากมายหมายปองเจ้าหมอนั่น แต่ในที่สุดเขาก็เลือกที่จะแต่งงานกับอี้หลานน้องสาวของเขา แต่เพียงไม่นาน อี้หลานก็ร้องไห้มาหาเขาบอกว่า เจ้าเผยซ่านเจี้ยนนั่นไปแอบคบหากับสตรีนางหนึ่งที่งดงามปา...
Komen