Share

บทที่1

last update Last Updated: 2024-12-14 02:04:38

บทที่1

หมึกที่ถูกฝนอย่างใจเย็นและพู่กันอันเก่าที่ถูกหยิบเอาขึ้นอย่างมั่นคงแสดงให้เห็นว่ายามนี้มือที่กำลังจรดพู่กันลงบนหนังสือสำคัญแผ่นตรงหน้าได้คิดมาอย่างดีและถี่ถ้วนแล้ว นางตัดสินใจดีแล้ว

อันที่จริงนางควรจะรู้ตั้งแต่ที่สตรีผู้นั้นเข้ามาพักอยู่ที่จวนแห่งนี้แล้ว และก็ควรมั่นใจในความรู้สึกของตัวเองได้ตั้งนานแล้ว การที่สตรีผู้นั้นได้เข้าไปอยู่ในที่ที่นางไม่เคยได้เข้าไปนั่นก็เป็นสิ่งที่บอกชัดแล้ว ว่ากำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในจวนแห่งนี้

มิรู้ว่าหวงอิ่งจื่อทนให้คนตระกูลฟ่านกระทำหมิ่นเกียรติและดูแคลนอยู่เช่นนี้ทำไม ทำดีไม่มีใครเห็นนั่นก็ปวดใจมากพออยู่แล้ว แต่หนักหนากว่านั้นคือการไม่ได้ทำอะไรสักอย่างก็ยังโดนกลั่นแกล้งและใส่ร้าย นางอยู่นางไม่สู้ก็ยิ่งทำให้พวกเขาเหล่านั้นได้ใจ

“เฮ้อ” ริมฝีปากซีดเซียวถอนลมหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า

จนถึงตอนนี้ก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้อีกแล้ว ไม่มีจริง ๆ ต่อให้พยายามมากมายแค่ไหน ในเมื่อไม่มีใครสนใจจะมองหรือสังเกตุเห็นความพยายามทั้งหมดของนางก็ไร้ประโยชน์ ช่างเสียเวลายิ่งนัก

“ทั้งเรือนอวี้ฟาน และหัวใจของท่านมันไม่เคยเป็นที่สำหรับข้าเลย” หวงอิ่งจื่อลงชื่อของตนเองลงในตอนท้ายของหนังสือหย่า นัยน์ตากลมโตมองไปรอบ ๆ ห้องที่อยู่เดียวดายมานานนับปี

“เคยคิดว่าห้องนี้ยามไม่มีท่านมันช่างเงียบเหงา แต่มิรู้เลยว่ายามที่ท่านกลับมา สถานที่แห่งนี้จะสร้างความเจ็บปวดให้ทั้งกายและใจของข้าเช่นนี้” แม้ว่านี่ดูเหมือนจะเป็นการคร่ำครวญและอาลัยอาวรณ์ แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นเพียงแค่คำที่นางใช้แสดงความสมเพชตนเองต่างหาก

“ลาก่อน”

ร่างเพรียวบอบบางของสตรีเดินไปยังกองข้าวของเล็กน้อยที่เตรียมเอาไว้ แม้หนทางข้างหน้าจะยากลำบาก แต่ก็ยังดีกว่าอยู่อย่างไร้ตัวตนที่นี่ และอย่างน้อยท่านย่าจะได้ไม่ต้องเป็นอันตรายเพราะการแก่งแย่งที่ไม่จำเป็นในจวนแห่งนี้ด้วย

ขาดนางไปสักคน ทุกสิ่งทุกอย่างคงดีขึ้น

“ในเมื่อที่นี่ไม่มีใครต้องการข้าแล้วข้าก็ไม่ควรอยู่อีกต่อไป” หวงอิ่งจื่อก้าวเท้าออกจากเรือนนอนของตน ทุกอย่างยังคงเป็นเหมือนวันแรกที่นางเดินเข้ามา มันไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปมากนัก เพราะนางไม่เคยได้รับข้าวของอะไรที่เหมาะสมกับคำว่าฮูหยินท่านแม่ทัพเลยแม้แต่น้อย

เรื่องราวที่จบลงอย่างปวดร้าวนี่มันเริ่มราวกับนิยายที่ในเมืองหลวงชอบเขียนขาย ชีวิตยากไร้ของสตรีผู้หนึ่งถูกบุรุษสูงศักดิ์ฉุดรั้งให้พ้นจากความทุกข์ยาก เนื้อเรื่องทำนองนี้ถูกเขียนเพราะเป็นที่นิยมและขายดี สตรีทุกนางต่างอยากเจอเทพบุตรในฝันดั่งในนิยาย

หวงอิ่งจื่อเป็นบุตรสาวคนเดียวของตระกูลหวง

แม้ว่าตระกูลหวงท่านพ่อของนางจะไม่ได้มีตำแหน่งยิ่งใหญ่ในกองทัพ แต่ท่านพ่อก็เป็นถึงคนสนิทของนายกองที่มีฝีมือ แม้จะไม่ยิ่งใหญ่เพราะเกิดในตระกูลชาวบ้าน แต่เพราะฝีมือก็พาให้ท่านพ่อของนางเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ท่านพ่อของนางไม่ใช่ตระกูลขุนนางจึงไม่สามารถรับตำแหน่งอะไรได้นอกจากทหารชั้นประทวน และถึงแม้จะสิ้นชีพที่ชายแดน ความสามารถก็เป็นที่ประจัก จนนายกองคนนั้นนำข่าวของบิดามาบอกถึงกระท่อมที่นางใช้เป็นที่พักเพียงลำพังยามที่บิดาออกศึก

“นี่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ข้านำมาจากท่านลุงหวง” มือของหวงอิ่งจื่อสั่นเมื่อยามเอื้อมออกไปรับดาบของบิดาของตัวเอง “ข้าขอโทษ เป็นเพราะข้า บิดาของเจ้าจึงต้องสิ้นลมหายใจ” เสียงทุ้มเจือไปด้วยความสำนึกผิดเต็มหัวใจ

หวงอิ่งจื่อส่ายหน้าเบา ๆ

“ท่านพ่อจากไปอย่างสมเกียรติแล้ว” รอยยิ้มพร้อมน้ำตาที่ไหลลงมาช่างไม่เข้ากันนั่น แต่มันกลับน่ามองยิ่งนัก

“ข้ารับปากกับพ่อเจ้าเอาไว้หนึ่งเรื่อง และเรื่องนั้นเกี่ยวกับเจ้า”

หวงอิ่งจื่อเงยหน้าขึ้นมองบุรุษที่นางเพิ่งเคยเห็นเขาเป็นครั้งแรก

“กลับไปตระกูลข้าเถอะ ข้าสัญญากับบิดาเจ้าว่าจะดูแลเจ้า รับเจ้าเป็นภรรยา”

แม้ว่าดวงตาสวยจะเบิกโตเมื่อได้ฟังคำสั่งเสียสุดท้ายที่บิดาฝากเอาไว้ ท่านฝากนางเอาไว้กับบุรุษตรงหน้านี้ แม้จะไม่เคยพบกันมาก่อนแต่นี่อาจเป็นหนทางเดียวที่นางมี

สุดท้ายแล้วชีวิตของหวงอิ่งจื่อก็ดำเนินไปแบบนั้น ในวันที่นางสูญเสียเสาหลักในชีวิตไป ก็มีเสาอื่นมาทดแทน เพียงแต่สิ่งที่รอคอยหวงอิ่งจื่ออยู่มันไม่ได้สวยงามเหมือนกับบทละครที่ใช้แสดงกันในโรงงิ้ว สตรียากไร้อย่างนางไม่ได้ถูกดึงให้กลายเป็นหงส์อย่างในบทละคร

พิธีเรียบง่ายอย่าได้หวังถึงสินสอดหรือสินเดิม ทุกอย่างล้วนไม่มีทั้งสิ้น เพียงแค่หาชุดสีมงคลมาจัดพิธีไหว้ฟ้าดินยกน้ำชา มีแม่สื่อตามธรรมเนียมก็ถือว่าเป็นบุญของนางแล้ว

และทันทีที่จบพิธีฟ่านเฉิงเฉิงก็ต้องเดินทางไปชายแดนอีกครั้งไม่แม้แต่จะบอกกล่าวหรือเอ่ยคำร่ำลาฮูหยินที่เพิ่งแต่งเข้าจวน แม้นางเองจะรู้ว่าฟ่านเฉิงเฉิงไม่ได้มีใจรักให้นาง ด้วยเพราะการกระทำที่ค่อนข้างเมินเฉย และสีหน้าไม่พอใจของคนในครอบครัวของเขา แต่หวงอิ่งจื่อก็คิดแล้วว่าหน้าที่ของนางคือสะใภ้ของสกุลฟ่าน ต่อให้ฟ่านเฉิงเฉิงจะอยู่ตรงนี้หรือไม่ นางก็ควรจะดูแลทุกคนให้ดีเยี่ยงสะใภ้ที่ควรปฎิบัติต่อครอบครัวสามี

แม้จะคิดเช่นนั้นแต่ในความเป็นจริงกลับทำได้ยากยิ่งนัก

“เรื่องง่าย ๆ แค่นี้ก็ทำไม่ได้ หากลูกชายข้ากลับมาเจ้าจะทำสิ่งที่ควรทำได้อย่างนั้นหรือ” น้ำเสียงกล่าวตำหนิทุกสิ่งของแม่สามีทำให้หวงอิ่งจื่อต้องลอบถอนหายใจ แต่นี่มันก็เป็นเพียงเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นประจำก็เท่านั้น แม้จะเดาว่าต้องเป็นเช่นนี้ แต่นางก็ไม่เคยชินเสียที

“เจ้าค่ะท่านแม่ ข้าจะปรับปรุง”

“ปรับปรุง ปรับปรุงอย่างนั้นเหรอ” เสียงของฟ่านหลันหวีดร้องเมื่อหวงอิ่งจื่อเอ่ยโต้ตอบ แม้ว่าจะไม่ใช่น้ำเสียงประชดประชัน แต่ถึงกระนั้นฟ่านหลันก็ไม่พอใจ

“พอแล้วพอแล้ว เจ้าก็เลิกว่ากล่าวนางเสียที อิ๋งจื่อ เดี๋ยวเจ้าก็ตามไปนวดย่าที่เรือนหน่อย” หวงอิ่งจื่อรีบพยักหน้ารับคำ เพราะนางรู้ดีว่านี่คือการช่วยเหลือของผู้มีอาวุโสที่สุดในตระกูลฟ่าน

“ท่านย่าที่จริงท่านแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมากนัก” เมื่อเดินเข้ามาในเรือนนอนของเหล่าฮูหยินหวงอิ๋งจื่อก็รีบแก้ต่างให้มารดาสามี

คนมีอายุได้ฟังก็ถอนหายใจยาว

“เจ้าทนได้ แต่ข้าทนไม่ได้ ที่นางเป็นเช่นนี้คงเพราะเป็นห่วงเฉิงเฉิง อย่าได้โกรธเคืองนางเลยนะ”

หวงอิ่งจื่อพยักหน้าอีกครา หากจะมีใครในตระกูลฟ่านดีกับนางก็คงเป็นสตรีสูงวัยตรงหน้านี่ หากแม่สามีของนางคิดแบบท่านย่าได้สักนิดก็คงดี ถ้าหากทุกคนในจวนสกุลฟ่านแห่งนี้เป็นแบบแม่สามี นางคงจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่างยากลำบากเสียแล้ว

Related chapters

  • สุดทางยื้อ ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว   บทที่2

    บทที่2“ไปตลาดมาได้ข่าวอะไรเกี่ยวกับชายแดนบ้างหรือไม่” น้ำเสียงที่เพียงแค่เอ่ยก็ฟังรู้แล้วว่าไม่พอใจของแม่สามีทำให้หวงอิ๋งจื่อเอ่ยตอบกลับไปเบา ๆ “ไม่มีเจ้าค่ะ” เสียงพ่นลมหายใจแรงราวกับไม่พอใจดังมาจากคนที่เอ่ยถาม“หากเป็นบุตรสาวของนายทหารสักคนก็คงจะตอบคำถามนี้ได้ ส่วนบุตรชายของข้าก็คงจะไม่ว่างเพราะจะต้องรบทัพจับศึกจนไม่มีเวลาเขียนจดหมาย ช่างไร้ประโยชน์จริง ๆ ไร้ประโยชน์ยิ่งนัก” ฟ่านหลันส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่าย สะใภ้ที่บุตรชายคนเดียวแต่งเข้าจวน ฐานะต้อยต่ำช่วยเหลือผลักดันบุตรชายคนเดียวของนางไม่ได้สักนิด ใช้งานอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง หากนางได้เลือกสะใภ้ด้วยตนเองคงดีกว่านี้หวงอิ่งจื่อออยากจะอธิบายให้แม่สามีได้ฟังว่าต่อให้เป็นแม่ทัพบางทีก็ไม่ใช่ว่าจะส่งจดหมายออกมาจากค่ายทหารได้ง่าย ๆถึงนางจะไม่ใช่บุตรสาวของขุนนางสูงส่งแต่ก็ใช่ว่าจะไร้ความรู้ น่าเสียดายนางไม่สามารถอธิบายให้แม่สามีเข้าใจได้ เพราะแค่นี้แม่สามีก็ด่านางเช้าด่านางเย็นแล้ว หายใจเสียงดังนางยังผิด เอาเถอะก้มหน้าทนๆไป อย่างไรนั่นก็แม่สามี“จะมานั่งอยู่ทำไมอีกเล่า เข้าไปทำกับข้าวในครัวสิ ไร้ประโยชน์ ไม่รู้จะแต่งเข้ามาทำไม” เสี

    Last Updated : 2024-12-14
  • สุดทางยื้อ ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว   บทที่3

    บทที่3“นี่คือหลีซูเหยานางเป็นสหายของข้า เจ้าก็จัดหาที่อยู่ให้นางด้วย เรือนอวี้ฟางก็แล้วกัน” หวงอิ่งจื่อมองคนตรงหน้าพลางกะพริบตาปริบ ๆ ไม่รู้จะรับคำหรือจะพูดว่าอย่างไรดีแทนที่เขาจะถามว่านางเป็นอย่างไร หรือบอกเรื่องของตนเองที่ผ่านมาบ้าง กลับให้นางดูแลคนที่เพิ่งมาเสียอย่างนั้น ทุกการกระทำของฟ่านเฉิงเฉิงทำให้หวงอิ่งจื่อพูดไม่ออกแม้เพียงคำ“เรือนอวี้ฟานงั้นหรือ” แม้จะเพิ่งเข้ามาอยู่ในตระกูลฟ่านได้เพียงแค่สองปี แต่ก็แทบไม่เคยได้ก้าวเข้าไปในสถานที่แห่งนั้น เพราะท่านแม่บอกว่าฟ่านเฉิงเฉิงหวงแหนที่แห่งนั้นมากกว่าทุกที่ในจวน แม้จะสงสัยว่ามากยิ่งกว่าห้องนอนของตัวเองอีกหรือ แต่ก็ได้รับคำยืนยันจากท่านย่าจึงทำให้หวงอิ๋งจื่อไม่สงสัยอีกต่อไป แต่วันนี้“แต่ว่าเรือนนั้น” หวงอิ่งจื่อกำลังจะเอ่ยถามสามี แต่ก็เป็นมารดาของเขาที่เร่งให้ฟ่านเฉิงเฉิงไปไหว้ป้ายบรรพบุรุษและบิดา “หากเจ้าทำไม่ได้ก็ให้สาวใช้ทำ” คำพูดราวกับไม่ใส่ใจก่อนจะเดินจากไปพร้อมกับสตรีที่มาใหม่ สตรีผู้นั้นเดินตามติดเข้าไปในเรือนชั้นในทำให้หวงอิ่งจื่อรู้สึกราวกับหายใจไม่ออก“ฮูหยินเล็ก ท่านได้ยินนายท่านสั่งแล้ว ไปช่วยกันจัดการสิเจ้าคะ” ไม่รู้

    Last Updated : 2024-12-14
  • สุดทางยื้อ ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว   บทที่4

    บทที่4“เจ้าขาดเหลืออะไรก็บอกนางนะลูก” ทันทีที่ฟ่านเฉิงเฉิงเดินไปยังทิศทางเรือนนอนของตัวเองที่อยู่ร่วมกับหวงอิ่งจื่อ แม่สามีก็เร่งมาบอกสำทับสิ่งที่ควรกระทำในการอยู่ที่ตระกูลนี้กับแม่นางหลีซูเหยาในทันทีหวงอิ่งจื่อได้แต่ยืนนิ่ง แน่นอนว่าการต้อนรับแขกของสามีควรเป็นเรื่องของฮูหยินอย่างนาง เพียงแต่ปกตินางได้รับสิทธิขนาดนั้นเสียทีไหนกัน นางมีชีวิตดีกว่าสาวใช้ในจวนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น“พี่สาวพาข้าไปที่พักเถอะ” หวงอิ่งจื่อเดินพาหลีซูเหยามุ่งไปยังเรือนอวี้ฟางด้วยใจที่เย็นเยือก“ข้าลำบากมาพี่สาวคงไม่รังเกียจให้ข้าอยู่ร่วมเรือนกับท่านพี่เฉิงหรอกนะเจ้าคะ” “ข้าเข้าใจ เจ้าไม่ต้องกังวลหรอก” คำตอบนั้นไม่ได้ตรงกับนางใจแม้แต่นิด แต่จะให้นางตอบว่าไม่พอใจงั้นหรือ นางทำได้หรือเปล่าเล่า“ข้าก็แค่กังวลกลัวพี่สาวจะคิดมาก” ไม่รู้ว่าหวงอิ่งจื่อคิดไปเองหรือเปล่าเหมือนว่าหญิงสาวแปลกหน้าอย่างหลีซูเหยาต้องการเน้นย้ำบางอย่างกับนาง แม้จะคิดเช่นนั้น แต่หากแท้จริงแล้วทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันมากกว่าคนรู้จักจริง ๆ นางก็คงจะทำอะไรไม่ได้ อย่างไรนางก็เป็นเพียงแค่สะใภ้ที่ไม่ได้รับการต้อนรับ“เจ้าไปทำอะไรอยู่ที่ไหนเสียน

    Last Updated : 2024-12-14
  • สุดทางยื้อ ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว   บทที่5

    บทที่5หวงอิ่งจื่อทำทุกสิ่งที่ภรรยาควรทำ แต่ดูเหมือนความห่างไกลอีกทั้งระยะทางและเวลาทำให้หญิงสาวกับสามีดูเหินห่างและเย็นชาต่อกันมากขึ้นทุกวันเทียนทุกเล่มในเรือนถูกดับลงไปแล้ว และตอนนี้หวงอิ่งจื่อก็นอนอยู่เคียงข้างคนที่เรียกได้ว่าสามีแต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ในนามเท่านั้น จึงทำให้ยามนี้ที่ต้องมานอนอยู่เคียงข้างบนฟูกเดียวกันมันช่างเป็นเรื่องที่ทำให้จิตใจของหญิงสาวตื่นตระหนกไม่ใช่น้อย“หากเจ้ายังไม่หยุดขยับตัว ข้าจะนอนไม่หลับ” เสียงแหบห้าวของชายหนุ่มทำให้หวงอิ่งจื่อนอนตัวแข็งทื่อ“ข้าขอโทษ ท่านพักเถอะเจ้าคะ” นางตอบเสียงตะกุกตะกัก แต่การพูดออกไปเช่นนั้นทำให้เกิดสิ่งที่หญิงสาวไม่คิดว่าจะเกิด“ท่าน! คำเรียกขานเช่นนี้มิฟังดูห่างเหินไปหน่อยหรือ หึ! ระหว่างที่ข้าไปรบเจ้าคงมีเป้าหมายอื่นแล้วสินะ ถึงได้ทำตัวห่างเหินกับสามีเช่นนี้” ร่างของชายหนุ่มที่หันมาคร่อมอย่างกะทันหันทำให้หวงอิ่งจื่อพูดอะไรไม่ออกนางและเขาไม่เคยได้ใกล้ชิดแบบนี้เลยสักครั้ง แน่นอนว่านางได้ดื่มสุรามงคลและนอนบนเตียงของเขามาตลอดแต่เพราะยามนั้นท่านพ่อของนางเพิ่งสิ้นอีกฝ่ายบอกว่ารอให้ถึงวันที่นางจะทำใจได้ แต่ก็ไม่นึกว่าจู่ๆ เขาจะถูกดึ

    Last Updated : 2024-12-14
  • สุดทางยื้อ ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว   บทที่6

    บทที่6“พี่สาวข้าต้องขอบคุณมากเรือนที่ท่านจัดเอาไว้ให้นั้นดีมากเจ้าค่ะ ข้านอนหลับสบายหลังจากไม่ได้หลับอย่างไม่ต้องกังวลเช่นนี้มานาน” หลีซูเหยาที่เดินมาพร้อมกับผู้นำตระกูลอย่างฟ่านเฉิงเฉิงเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้ม มือเรียวที่จับคล้องอยู่ที่แขนแข็งแรงของชายหนุ่มทำให้ใบหน้าของหวงอิ่งจื่อเปลี่ยนไปและสิ่งเหล่านั้นก็อยู่ในสายตาของหลี่ซูเหยา นางเหยียดยิ้มร้ายก่อนหน้านี้นางแสร้งทำเป็นจะล้มจึงได้เดินเกาะแขนท่านพี่เฉิงเดินเข้ามา มินึกว่านี่จะเป็นเรื่องเหมาะเจาะพอดีราวกับสวรรค์จงใจช่วยเหลือนาง คิดถูกแล้วที่กลับมานั่นจึงทำให้หญิงสาวเอ่ยขอบคุณสะใภ้คนเดียวของตระกูลฟ่าน ต่อหน้าทุกคนที่พร้อมหน้าอยู่ที่โต๊ะอาหารเช้า “ท่านพี่ ขอบคุณมากจริง ๆ นะเจ้าคะ หากไม่ได้ท่านป่านนี้ข้าคงจะแย่แล้ว”ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไรกลับคำนั้นเขาเพียงแค่พยักเพยิกไปที่โต๊ะอาหารตรงหน้า “นั่งเถอะจะได้กินข้าวเช้ากัน” และก็เป็นอีกครั้งที่หลีซูเหยาเบียดสตรีผู้เป็นภรรยาหมิงเหยียนออกไปแล้วนั่ง ข้าง ๆ เขาแทนหวงอิ่งจื่อพยายามไม่สนใจเหตุการณ์นั้นและคอยดูแลปรนนิบัติท่านย่าเป็นอย่างดี เพราะอายุที่มากขึ้นจึงทำให้จะหยิบจะจับอะไรก็ยากลำบากไปเสีย

    Last Updated : 2024-12-14
  • สุดทางยื้อ ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว   บทที่7

    บทที่7ยิ่งเวลาผ่านไปหวงอิ่งจื่อก็รู้สึกได้ถึงความกดดันจากแม่สามี นางทำเหมือนกับหญิงสาวเป็นคนนอกขึ้นทุกที หรือบางทีก็ไม่ใช่คนนอกแต่เหมือนสาวใช้เสียมากกว่า“เจ้าไปเอาของในครัวมาเพิ่มสิ” เสียงนั้นทำให้หวงอิ่งจื่อรีบลุกขึ้นอย่างไม่ต้องมีใครมาบอก แต่ชายหนุ่มเพียงคนเดียวบนโต๊ะอาหารกลับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “เจ้าจะไปไหน ลุกขึ้นระหว่างกินข้าวไม่ใช่เรื่องที่ควรจะทำ” หวงอิ่งจื่อก้มหน้านิ่ง“ท่านแม่บอกให้ข้าไปนำของมาเพิ่ม”“ข้าได้เอ่ยชื่อเจ้าสักคำหรือ สาวใช้ก็มี ทำไมไม่ใช้เล่า” ฟ่านหลันรีบแก้ตัวคำพูดและท่าทางที่ต่างไปจากยามที่ฟ่านเฉิงเฉิงอยู่ทำให้หวงอิ่งจื่อทรุดตัวนั่งลงที่เดิม และก็เป็นสาวใช้ของแม่สามีที่เดินไปจัดการเรื่องเหล่านั้นแทน แต่ใช่ว่าจะทำได้ถูกใจ อย่างไรทุกอย่างตอนนี้ในตระกูลนางล้วนเป็นคนทำและดูแลทั้งหมด“อะไรกันอาหารนี่ทำไมไม่เห็นเหมือนจานก่อนหน้าเลย เจ้าไปหยิบอะไรมากันแน่” ฟ่านหลันตวาดใส่สายใช้ที่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจตนเองหวงอิ่งจื่อถอนหายใจหนักก่อนจะบอกว่านางจะไปจัดการให้เอง แน่นอนว่าเรื่องผิดใจกันเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้มีขึ้นทุกวัน“ทั้ง ๆ ที่เจ้าบอกแล้วว่าไม่ควรลุกออกไปแต่นางก็ยั

    Last Updated : 2024-12-14
  • สุดทางยื้อ ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว   บทที่8

    บทที่8สถานการณ์ที่หลีซูเหยาออกรับแทนหวงอิ่งจื่อเกิดขึ้นอีกหลายต่อหลายครั้งหลังจากนั้น ทั้งห้ามไม่ให้ท่านแม่ตำหนิและว่ากล่าวยามทำไม่ถูกใจ นางเอ่ยเรียกแม่ของฟ่านเฉิงเฉิงว่า ท่านแม่ อย่างชัดเจนจนท่านย่ากระตุกขมวดคิ้ว แต่ในเมื่อไม่มีใครเอ่ยว่าอะไรจึงต้องปล่อยไปอย่างนั้น เหมือนทุกเรื่องที่คนในตระกูลนี้ปล่อยให้เกิดขึ้นซ้ำ ๆ“เรื่องแค่นี้ทำไมเจ้าไม่รู้” ชายหนุ่มถอนหายใจเมื่อสารสำคัญที่แม่ทัพอีกหน่วยส่งมาให้เขาหายไป “ข้า...” หวงอิ่งจื่อไม่รู้จะตอบเช่นไร เพราะวันนี้นางยังไม่ได้รับอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว แต่คนที่นำเอกสารมาบอกว่านำมาให้กับฮูหยินของแม่ทัพฟ่านเรียบร้อยแล้ว“ท่านพี่อย่าว่ากล่าวพี่สาวเลยนะเจ้าค่ะ ลองถามดูกับคนอื่น ๆ บ้างทีคนที่นำสารสำคัญมาส่งอาจจะเข้าใจผิดก็เป็นได้” แม้จะพูดอย่างนั้นแต่หลีซูเหยารู้ดีกว่าเกิดอะไรขึ้น เพียงแต่นางอาจจะไม่รู้ว่าเรื่องที่ตนทำใหญ่กว่าที่คิดเพราะนางอ่านหนังสือไม่ออกนางเป็นคนรับสารสำคัญนั่นมาเอง และตอนนี้มันก็ถูกเผาไปแล้ว หญิงสาวยิ้มอย่างพอใจที่เห็นท่าทางทำอะไรไม่ถูกของหวงอิ่งจื่อ“ข้าจะออกไปข้างนอก” ทันทีที่ชายหนุ่มไปหลีซูเหยาก็เร่งเข้ามาแสดงท่าทางเป็นห

    Last Updated : 2024-12-14
  • สุดทางยื้อ ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว   บทที่9

    บทที่9“ท่านแม่ถึงอย่างไรหวงอิ่งจื่อก็เป็นภรรยาของลูก เดือนหน้าลูกจะต้องเดินทางไปชายแดนอีกแล้ว หวังว่าท่านแม่จะดูแลนางด้วย ที่จริงเรื่องต่าง ๆ หากไม่ได้นางช่วยก็จะวุ่นวายกว่านี้” ฟ่านเฉิงเฉิงตั้งใจจะให้มารดาของตนและภรรยาปรับความเข้าใจกัน ขนาดเขากลับมาอยู่ได้ไม่นานยังมองออก ท่าทางสองปีที่ผ่านมาคงมีเรื่องราววุ่นวายไม่น้อย แต่ยังไม่ทันจะพูดจบท่านแม่ก็เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน“ให้ท่านย่าของลูกจัดการก็ได้นี่ หรือไม่ตอนนี้ก็มีซูเหยาแล้วให้นางช่วยก็คงไม่ยาก” ชายหนุ่มได้ฟังก็ถอนหายใจหนัก “ท่านแม่ ซู่เหยาแม้จะเป็นคนที่ลูกเคยพึงใจมาก่อน แต่ยามนี้เราทั้งสองไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่ควรให้นางมาวุ่นวายเรื่องภายในจวน ส่วนท่านย่าก็ชรามากแล้ว ท่านใจดีกับนางหน่อยเถอะอย่างไรอิ่งจื่อเป็นคนที่ลูกเลือกจะแต่งด้วยแล้ว” คนเป็นแม่ทำหน้าไม่พอใจ “เจ้าเลือกจะแต่งรึ” ไม่ว่าเปล่ายังพูดออกมาเสียงดังจนคนที่กำลังยืนรอยู่ที่หน้าเรือนได้ยินกันหมด “หากบิดาของนางไม่ได้ช่วยชีวิตเจ้าเอาไว้แม้แต่ข้าวสักเม็ดแม่ก็ไม่แบ่งให้กิน!” ฟ่านเฉิงเฉิงพูดไม่ออก “เช่นนั้นลูกขอแล้วกันเพราะชีวิตลูกติดหนี้นางแล้ว ท่านแม่ก็ทำดีกับนางบ้างอย่าให้สาวใช

    Last Updated : 2024-12-20

Latest chapter

  • สุดทางยื้อ ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว   บทที่30

    บทที่30ยามนี้คู่รักเมืองท่าอย่างแม่ทัพฟ่านเฉิงเฉิงและฮูหยินทำให้เหล่าชาวบ้านและทหารอิจฉาไปตาม ๆ กัน แต่เพราะอาหารที่นาน ๆ ที่หญิงสาวที่เคยเปิดร้านอาหารทำแจกคนในเมืองก็ทำให้ทุกคนร่วมยินดีไปกับความรักครั้งนี้ด้วย แม้ว่าจะยังอยากกินอาหารฝีมือหญิงสาวอยู่ก็ตาม“อิ่งจื่อตอนนี้ข้ามีแต่ตัวแล้วนะ เจ้าจะต้องเป็นคนดูแลข้า” ฟ่านเฉิงเฉิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงติดตลกเพราะทั้งชื่อบ้านและเงินต่าง ๆ ของเขา รวมถึงตั๋วเงินที่มีล้วนเป็นชื่อของหญิงสาวหมด นั่นก็เพราะเขาทั้งสองอยากเผื่อเอาไว้เพื่ออนาคตของเฉิงหย่ง และที่สำคัญท่านแม่ของเขาจะได้ไม่หวังเงินทองลาภยศอีกที่จริงเท่าที่มีอยู่ที่เมืองหลวงก็ไม่เรียกว่าน้อย ตระกูลฟ่านถือว่าได้ว่าเป็นกูลขุนนางฐานะปานกลาง ไม่รู้เป็นเพราะท่านแม่ละโมบไปหรือเปล่าถึงทำให้เรื่องราวดูวุ่นวายและในที่สุดเมื่อเฉิงหย่งเริ่มโตขึ้นอีกนิดและพูดจารู้เรื่องฟ่านเฉิงเฉิงและอิ่งจื่อก็จะบุตรชายไปหาท่านทวด แม้จะช้าไปแต่ทั้งสองคนก็มีคำอธิบายที่ชัดเจน อย่างไรการพาเด็กเล็กเดินทางทางเรือหากเกิดอะไรขึ้นคงลำบากอากาศชื้นอย่างไรก็ไม่ดีต่อเด็กน้อย“ท่านย่า ท่านแม่ ไม่ได้พบกันเสียนานนะเจ้าคะ” ท่านย่ายัง

  • สุดทางยื้อ ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว   บทที่29

    บทที่29หลังจากวันนั้นกลายเป็นหวงอิ่งจื่อที่ยังทำหน้าหนาอยู่ที่บ้านของแม่ทัพต่อไป คำนั้นเป็นเพียงคำที่นางตำหนิตนเองในใจ นางไม่ได้พูดอะไรให้ชัดกับฟ่านเฉิงเฉิงนัก และอีกฝ่ายก็ไม่ได้พูดอะไรกับนางทั้งนางและเขาทำเหมือนกับว่านางและเขาอาศัยอยู่เช่นนี้ด้วยกันมานานแแล้ว หวงอิ่งจื่อเข้ามาช่วยดูเรื่องอาหารและค่าใช้จ่ายในบ้าน เพราะเขาส่งสมุดให้นางจัดการ นางก็ไม่ปฏิเสธบอกให้หาแม่นมมาเลี้ยงดูลูกนางก็ไม่ปฏิเสธ หรือแม้แต่นอนที่ห้องนอนเดียวกับเขา หวงอิ่งจื่อก็ไม่ปฏิเสธ ทั้ง ๆ ที่มันคือทุกอย่างที่ฟ่านเฉิงเฉิงหวังแต่เขากลับรู้สึกไม่ถูกต้องอย่างไรก็ไม่รู้ยามนี้เฉิงหย่งอยู่ในความดูแลของแม่นมถึงสองสามคน เพราะนี่คือสิ่งที่อยู่ในใจของฟ่านเฉิงเฉิงมาโดยตลอด เขาอยากเลี้ยงดูลูกชายให้ดีที่สุด แต่ก่อนหน้านี้กลับทำอะไรไม่ได้สักอย่างและเพราะอย่างนั้นจึงทำให้ฟ่านเฉิงเฉิงและหวงอิ่งจื่อได้มีเวลาของตน พวกเขากลับมานอนร่วมเตียงกันอย่างเงียบ ๆ แม้จะไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าเอื้อมมือกอดและโอบเอวเอาไว้หลวม ๆ แต่มันก็เกินฝันสำหรับเขาจริง ๆร้านอาหารของแม่นางหวงที่ปิดลงสร้างความวุ่นวายไม่น้อย แต่อาหารที่นางทำเลี้ยงเหล่าทหารหรื

  • สุดทางยื้อ ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว   บทที่28

    บทที่28“พวกท่านว่าอย่างไรนะ” ใบหน้าของเสวี่ยลู่แสดงท่าทางกังวลอย่างเห็นได้ชัด ส่วนทหารเหล่านั้นก็ทำตัวไม่ถูกแล้ว“แม่นางหวง” ทุกคนตกใจ เพราะท่านแม่ทัพย้ำเอาไว้แล้วว่าไม่ว่าครั้งนี้เจ้าตัวจะทำสำเร็จหรือไม่ ก็ต้องไม่ให้ภรรยาได้รู้“เล่ามาให้หมด เล่ามาเดี๋ยวนี้!” ท่าทางสุขุมเงียบนิ่งที่ปกติทุกคนเคยได้เห็นจากแม่นางหวงเปลี่ยนไปในทันที จนทหารตรงนั้นที่เคยแม้กระทั่งพนันกันว่าแม่นางหวงไม่ได้มีใจให้ท่านแม่ทัพต้องเปลี่ยนใจ เพราะยามนี้นางตั้งสติไม่อยู่ด้วยซ้ำเรื่องราวตั้งแต่ต้นยันจบถูกเล่าให้กับหญิงสาวได้ฟังเพราะมีลูกน้องออกเรือไปช่วยชาวประมงที่เรือล่ม แน่นอนว่าช่วยกลับมาได้บ้าง แต่ก็มีบางส่วนที่ช่วยไม่ได้ และคาดว่าจะมีบางส่วนติดอยู่ที่เกาะเล็ก ๆ ด้วย แม่ทัพฟ่านจึงออกเรือไปช่วยค้นหาคนรอด แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข่าวกลับมา นั่นคือสิ่งที่หวงอิ่งจื่อได้ฟัง“ที่จริงมีไต้ก๋งเรือหลายลำบอกให้ทำใจแล้ว แต่พวกเราก็ยังพยายามหากันอยู่“หวงอิ่งจื่อได้ฟังก็ทรุดตัวลง นางเอ่ยถามเสียงเครือ“แล้วทำไมไม่บอกข้า”ทหารทุกนายตรงนั้นปิดปากเงียบ “ท่านแม่ทัพแจ้งเอาไว้ว่าไม่ควรทำให้แม่นางหวงหนักใจ และหากเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ

  • สุดทางยื้อ ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว   บทที่27

    บทที่27ฟ่านเฉิงเฉิงคิดว่าตนเองได้พูดสิ่งที่อยากพูดไปหมดแล้วจริง ๆ เป็นอิ่งจื่อต่างหากที่ยังคงไม่ไว้ใจเขาที่เหลือก็คงรอแค่เวลาเท่านั้นแล้ว“อิ่งจื่อ ข้ารู้ว่าทำให้เจ้าเจ็บปวดแต่เจ้าคิดบ้างไหมว่านี่เราก็เจ็บปวดกันทั้งคู่ หากเจ้าบอกว่าไม่คิดอะไรกับข้าเลยข้าไม่เชื่อหรอก” ชายหนุ่มเอ่ยสิ่งที่คิด แต่ก็ใช่มันตรงกับความรู้สึกในใจของหญิงสาว“ข้ากลัว ข้าไม่อยากรู้สึกเช่นนั้นอีกแล้ว” ฟ่านเฉิงเฉิงเข้าใจแต่เขาไม่คิดว่าการทำเช่นนี้หญิงสาวทำอยู่ถูกต้อง “แม้ว่าก่อนหน้านี้ข้าและครอบครัวจะเป็นคนทำผิดกับเจ้าก็จริง แต่เจ้าเคยนึกบ้างไหมว่าเฉิงหย่งเขาไม่ผิด ทำไมถึงต้องรับผลกระทำของเรา ข้ายินดีจะแก้ไขทุกอย่างที่ทำให้เจ้ากังวล เช่นนั้นแล้วไม่ลองคิดดูหน่อยหรือ” และคำตอบของหวงอิ่งจื่อคือการเดินจากไปฟ่านเฉิงเฉิงส่ายหน้าให้กับตนเอง เสื้อที่อีกฝ่ายยัดใส่มือเขาทำให้จิตใจชุ่มชื้นขึ้น แต่มันก็เป็นเพียงแค่นั้นไม่มีอะไรเลย“ข้าไม่รบกวนเจ้าแล้ว” ฟ่านเฉิงเฉิงเข้าไปลาอีกฝ่ายเขาคิดว่าตอนนี้เขาไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับหญิงสาวจริง ๆหวงอิ่งจื่อมองคนที่เดินจากไปด้วยจิตใจที่สั่นไหว นางเดินกลับไปดูลูกชาย ที่จริงนางเข้าใจทุกอย่

  • สุดทางยื้อ ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว   บทที่26

    บทที่26หวงอิ่งจื่อคอยสังเกตุฟ่านเฉิงเฉิง อีกฝ่ายดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บ แต่กลับไม่ได้แสดงออกมากนัก และก็ยังคอยมาช่วยเหลือนางเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ดูเจ็บปวดบาดแผลแท้ ๆ“หากเจ็บก็พักบ้างเถอะ” ฟ่านเฉิงเฉิงส่ายหน้า “จะพักได้อย่างไร เจ้าต้องเหนื่อยทั้งทำงานทั้งเลี้ยงลูก ข้าช่วยอะไรได้บ้างก็อยากช่วย” และแม้ฟ่านเฉิงเฉิงอยากจะถามหญิงสาวว่าท่านย่าเขียนมาว่าอย่างไร แต่เขาก็ปิดปากเงียบเอาไว้“เลือดท่านออก” หวงอิ่งจื่อทักอีกฝ่ายเมื่อเห็นเสื้ออีกฝ่ายชุ่มไปด้วยเลือด “เดี๋ยวค่อยกลับไปทำแผลก็ได้”หญิงสาวถอนหายใจ ถึงนางจะไม่อยากให้อีกฝ่ายอยู่ที่นี่ ทั้งเพราะไม่อยากให้ความหวังอีกคนและไม่อยากทำให้ตัวเองใจอ่อน แต่จะไล่คนที่เลือดชุ่มเช่นนั้นกลับไปโดยไม่ทำอะไรเลยคงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก“ทำแผลที่นี่ก็ได้” แววตาของฟ่านเฉิงเฉิงเปลี่ยนเป็นสดใสจนหวงอิ่งจื่อรู้สึกว่านางเป็นคนโหดร้ายเสียอย่างนั้น“แต่ข้าไม่มีชุดเปลี่ยน” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาเสียงเบา“ข้ามี” ไปอาบน้ำก่อนเถอะ แล้วเดี๋ยวข้าจะทำแผลให้”ฟ่านเฉิงเฉิงอาบน้ำด้วยจิตใจที่ค่อนข้างสับสน เขารู้ว่าหวงอิ่งจื่อหนีเขามาและนางก็ไม่ได้เอาอะไรมามากนัก เพราะขนาดชุดหลายชุ

  • สุดทางยื้อ ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว   บทที่25

    บทที่25ไม่นึกเลยว่าเรื่องจะกลายเป็นเช่นนี้ได้ ทั้ง ๆ ที่ควรเป็นนางไม่ใช่หรืออย่างไรที่ร้องไห้คร่ำครวญที่ต้องตกระกำลำบากนานนับปี แต่ทำไมคนที่มีท่าทางเช่นนั้นกลับเป็นฟ่านเฉิงเฉิงไปได้“ฟ่านเฉิงเฉิง” หวงอิ่งจื่อเอ่ยชื่ออีกฝ่ายด้วยน้ำเสียหนักใจ “ฟังข้าหน่อยเถอะ ถึงจะไม่อยากฟัง หากได้ฟังทั้งหมดแล้วยังไม่ยกโทษให้ก็บอกข้าหน่อยว่าข้าควรทำเช่นไร” เพราะสายตาที่เว้าวอนหวงอิ่งจื่อที่อุ้มลูกอยู่จึงพยักหน้าเบา ๆ“ข้าอาจจะไม่ใช่คนที่พูดจาชัดเจนนัก แต่ก่อนที่จะออกจากบ้านมาข้าได้คุยกับท่านแม่แล้ว ที่จริงข้าเองก็ไม่ได้กลับที่ตระกูลฟ่านเท่า ๆ กับเจ้า” คำนั้นทำให้หวงอิ่งจื่อตกใจ แต่เมื่อนึกว่าอีกฝ่ายอาจจะให้หลีซูเหยาจัดการเรื่องในจวนใบหน้าของหญิงสาวก็แอบบึ้งตึง“แล้วท่านย่าใครจะดูแล”“ท่านแม่เป็นสะใภ้หน้าที่ดูแลท่านย่าก็ควรเป็นของท่านแม่ตั้งแต่ตน ก่อนออกจากบ้านมาข้าคุยกับท่านแม่แล้ว นางเข้าใจผิดหลาย ๆ เรื่องแต่...”“บางเรื่องท่านแม่ก็เลือกที่จะเชื่อเช่นนั้นใช่หรือไม่” หวงอิ่งจื่อถามออกไปตรง ๆ บ้าง เพราะนางรู้ดีว่าที่จากมาส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะแม่ของสามี“อิ่งจื่อ ข้ายอมใช้แซ่เจ้า เป็นหวงก็ได้ หากจะได้อ

  • สุดทางยื้อ ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว   บทที่24

    บทที่24ในที่สุดวันที่แม่ทัพฟ่านเฉิงเฉิงต้องมาถึงเมืองท่าแห่งนี้ก็มาถึงเพียงแต่คนที่ร่วมขบวนนั้นกลับเป็นคนที่หลาย ๆ คนในเมืองท่าแห่งนี้รู้จักดีแล้วเหล่าทหารต่างร้องโอดครวญกันมากมายเพราะหลายคนนินทาเรื่องแม่ทัพฟ่านกับเจ้าตัวไปเลยด้วยซ้ำ“ท่านแม่ทัพข้าผิดไปแล้ว” ฟ่านเฉิงเฉิงหัวเราะน้อย ๆ “ข้าได้บอกว่าจะเอาโทษเจ้าหรือไม่เล่า แค่เลี้ยงอาหารร้านแม่นางหวงก็เพียงพอแล้ว”ท่าทางของชายหนุ่มที่ไม่เหมือนกับข่าวลือทำให้หลาย ๆ คนที่เริ่มสนิทกับคุณชายแปลกหน้าที่ยามนี้กลายเป็นแม่ทัพแห่งแคว้นอดไม่ได้ที่จะถามไปตรง ๆ“ท่านแม่ทัพข้าไม่นึกเลยว่าท่านจะมาร่วมโต๊ะกับพวกเราเช่นนี้ เมื่อก่อนเคยได้ข่าวว่าท่านค่อนข้างที่จะ...” ฟ่านเฉิงเฉิงยกยิ้ม “เพราะข้าหาคนที่ข้าต้องการจะหาเจอแล้ว” เรื่องของเขาไม่ได้เป็นเรื่องที่ปกปิดใครก็รู้ว่าเขากำลังตามหาภรรยาที่หนีไปหลายคนบอกว่าเขาพาสาวงามเข้าตระกูล จนภรรยาทนไม่ได้จึงได้หนีไป บ้างก็บอกว่าภรรยาของเขาหนีไปกับชู้ แน่นอนว่าเรื่องไม่ดีเช่นนั้นคงมาจากหลีซูเหยาเป็นแน่แต่เพราะเหตุนั้นจึงทำให้ทุกคนรู้เรื่องส่วนตัวของเขา และเขาก็ไม่คิดจะปิดเพราะอย่างน้อยมันอาจจะทำให้เขาหาภรรยาเจ

  • สุดทางยื้อ ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว   บทที่23

    บทที่23ดวงตาของหวงอิ่งจื่อที่มองเลยมาเห็นเข้ากับชายหนุ่มที่คุ้นเคยก็เบิกตาโต “วางเอาไว้ตรงนั้นได้เลยเจ้าค่ะ” นางทำเป็นไม่สนใจสายตาอาวรที่มองมาทุกอย่างในร้านยังคงเป็นไปแบบเดิม ฟ่านเฉิงเฉิงเดินไปหยิบของเหมือนกับคนอื่นตามคำแนะนำของชายกลางคนที่เขาเพิ่งรู้ว่าชื่อลุงเฉิน ชายหนุ่มเลี้ยงจนลุงเฉินบอกว่าตนเองกินไม่ได้อีกต่อไป และเมื่อเขาเห็นว่าเหล่าทหารที่มีคำนินทาถึงแม่ทัพที่กำลังจะเดินทางมาเดินไปล้างจานช่วยหญิงสาวเก็บโต๊ะเขาก็ทำตาม จนเมื่อทุกคนเดินออกไปแล้วนั่นแหละเขาถึงได้หยิบเอาปิ่นที่พกติดตัวตลอดออกมา“อิ่งจื่อ” ชายหนุ่มเอ่ยทักอย่างไม่ปิดบัง เพราะเขาแน่ใจว่าอีกฝ่ายจำได้ว่าเขาเป็นใคร “ไม่ได้พบกันนานเลยนะเจ้าคะ” ใบหน้าที่เอ่ยคำเหล่านั้นออกมาโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าไปแม้แต่น้อยทำให้ชายหนุ่มที่มองกังวล“ข้าเอาของมาคืน” ฟ่านเฉิงเฉิงไม่รู้จะพูดอะไร มีหลายอย่างที่เขาอยากเอ่ยกับหญิงสาว แต่พอเจอเข้าจริง ๆ กลับนึกไม่ออกเสียอย่างนั้น“ข้าคงรับคืนไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ นี่คงถือได้ว่าเป็นสินสอดของหมั้น ข้าน้อยเป็นฝ่ายเดินออกมาจากตระกูลฟ่าน ของที่ตระกูลฟ่านมอบให้คงไม่กล้าเก็บเอาไว้” ฟ่านเฉิงเฉิงกำมือแน่น“นี

  • สุดทางยื้อ ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว   บทที่22

    บทที่22หวงอิ่งจื่อแทบจะทำอะไรไม่ถูกหลังจากนั้น มือไม่แทบจะประคองตะหลิวเอาไว้ไม่อยู่ โชคดีที่แต่ละโต๊ะที่เข้ามาตอนนี้ได้รับอาหารกันไปหมดแล้ว วันนี้นางไม่มีสมาธิจริง ๆ จากเรื่องที่ได้ยิน แต่เหล่าทหารและไต้ก๋งเรือที่มาแวะกินอาหารประจำก็เข้าใจหญิงสาวที่ต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพังนั้น ทำได้เท่าที่หวงอิ่งจื่อทำทุกคนก็ชื่นชมนางจะแย่อยู่แล้ว“พวกข้าช่วยล้างจานไหมแม่นางหวง” เหล่าทหารต่างอาสาเพราะหลายครั้งนางก็ทั้งลดราคาและให้มาจ่ายหลังจากเบี้ยหวัดออก ราวกับว่านี่คือบ้านอีกหลังสำหรับทหารที่ต้องใช้ชีวิตในสถานที่ที่ค่อนข้างอยู่ได้ยากแห่งนี้ที่นี่ไม่มีค่ายทหาร เพราะส่วนมากก็นอนกันบนเรือ แต่การทำเช่นนั้นก็ลำบากหลายอย่าง แต่เพราะต้องออกเรือทันทีที่เกิดเรื่อง อาหารในเรือก็มีให้ตามสมควร แต่ก็ต้องยอมรับว่าการได้กินอาหารฝีมือแม่นางหวงที่เหมือนกับคนเมืองหลวงมันทำให้พวกเขาหายคิดถึงบ้านและเรื่องเหล่านั้นก็เป็นเหมือนกันกับพวกไต้ก๋งเรือนที่ต้องออกไปหาปลาหรือขนส่งสินค้าร้านของหวงอิ่งจื่อจึงโด่งดังมากที่นี่ แม้ว่าจะต้องจัดการเองหลายอย่างเพราะหญิงสาวต้องดูแลบุตรของตนก็ตาม แต่สิ่งที่ได้ก็เรียกว่าคุ้ม“พรุ่งนี้พ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status