เมื่อเพื่อนสนิทลากฉันไปดูพระเอกซีรี่ส์วาย เรื่องน่าอายของฉันจึงเกิดขึ้น!!
View Moreฉันโดนร่างใหญ่อุ้มท่าเจ้าหญิงและตอนนี้ฉันกำลังคิดว่าแด๊ดดี้ของฉันกำลังอุ้มฉันเข้าห้องเพื่อไปนอน ฉันเอามือเรียวเล็กโอบคอเขาไว้และเอาหน้าซุกไปที่อกแกร่งพอผ่านไปแปปหนึ่งฉันก็คิดว่าผู้ชายตรงหน้าฉันเป็นใครกัน กล้ามาอุ้มฉันได้ยังไง!!พอตั้งสติได้ฉันก็ดิ้นพล่านอยู่ในอุ้งมือที่กำลังอุ้มฉันอยู่" คุณเป็นคายยยมาอุ้มส้มทำมายยย ปล่อยยนะ " ฉันดิ้นสุดแรงแต่ดิ้นยังไงก็ดิ้นไม่หลุด คนอะไรถึกเป็นบ้าเลย" อ้าวสาวน้อย ไม่เรียกผมแด๊ดดี้แล้วเหรอ หื้มม " เขาพูดขึ้นพร้อมก้มลงมาจุ๊บหน้าผากฉันเบาๆ" อี๋ๆ คุณทามอารายหน้าผากน้อยๆ ของฉันหะ! คุณไม่ใช่แด๊ดดี้ฉาน ปล่อยฉานลงเดี๋ยวนี่เลย " ฉันที่ตอนนี้สั่งเขาแล้วกำลังพูดไม่หยุด แต่พูดยังไงคิดว่าเขาจะปล่อยเธอไปเหรอ ไม่มีทาง!" หน้าผากน้อยๆ ของเธอ กำลังจะเป็นของฉันยังไงล่ะ " ติ้งงงง เสียงลิฟต์โรงแรมเปิดออก พร้อมกับคนร่างใหญ่ที่กำลังใส่รหัสประตูแล้วเปิดประตูห้องเข้าไปทันที ฉันที่กำลังดิ้นพล่านอยู่ก็โดนปล่อยลงตรงโซฟาสีเทาขนาดใหญ่ ฉันที่ตอนนี้กำลังเริ่มมีสตินิดหน่อยมองไปที่ผู้ชายตรงหน้า ที่กำลังยืนจ้องมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า" คะ คุณฐากูร! " ฉันลุกพรวดขึ้นจากโซฟาทันที เม
ปังงงงง!!!!เสียงฐากูรลุกขึ้นตบโต๊ะอย่างแรงเมื่อได้ยินพี่เต้ปลายสายพูดว่ายัยตัวเล็กที่เขากำลังตามติดเธออยู่ตอนนี้กำลังเมามาย แถมยังใส่ชุดว่ายน้ำตัวสั้นจิ๋วอวดเรือนร่างขาวๆ ให้คนอื่นชายตามองกันเป็นร้อยๆ คน" คุณฐากูรเป็นอะไรหรือเปล่าคะ " ขณะที่ฐากูรลุกขึ้นตบโต๊ะอย่างแรง ลิลลี่ลูกสาวของบริษัทที่ผมเจรจาธุรกิจอยู่พูดขึ้น ลิลลี่ คือนักศึกษานิเทศศาสตร์ปี 4 ซึ่งเป็นลูกกับคุณวัลลพหุ้นส่วนของบริษัทผม 4% และนั่นก็คือเธอรู้ตัวตนของผมตั้งแต่ทีแรกว่าผมคือ ฐากูร ฤกษ์รักษ์ ไม่ใช่พี่ม่อนที่มหาวิทยาลัยเหมือนที่คนอื่นๆ รู้จัก ก่อนที่ผมจะมาเข้ามหาวิทยาลัยที่นี่ ลูกสาวคุณวัลลพพึ่งจบม.6 และรู้ว่าผมจะเข้ามหาวิทยาลัยของพ่อผมเธอก็วิ่งแจ้นมาเข้าคณะเดียวกับผม และเกาะติดผมอยู่อย่างนั้นจนขึ้นปี 4 แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรเธอมากนัก เธอสวยครับ เซ็กซี่มาก นมเป็นนม เอวเป็นเอว แต่ถึงจะสวยมากขนาดไหนผมก็ไม่เคยชายตามองเธอเลยสักครั้ง เธอเคยบอกชอบผมหลายต่อหลายครั้ง ผมก็ปฏิเสธไปทุกครั้ง ถ้าไม่ติดว่าคุณวัลลพเป็นหุ้นส่วนบริษัทของผมอยู่ผมก็คงจัดการและเขี่ยผู้หญิงคนนี้ไปตั้งนานแล้ว รำคาญ!!" ผมมีธุระ ขอตัวก่อนนะครับ! " พูดจบผมก็ร
ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นข้อความที่คุณฐากูรส่งมาส้มส้ม: ได้รับแล้วค่ะฐากูร: ตอบช้าจังครับแล้วฉันก็ไม่ตอบข้อความอีกเลย ฉันเป่าผม ใส่เสื้อผ้า และก็นอนหลับด้วยความเพลีย -..-พัทยาฉันกับแตงโมพอถึงห้องพักก็แยกย้ายกันไปอยู่คนละห้องเพื่อเอาสัมภาระของตัวเองไปเก็บ" ส้มส้ม คืนนี้ 19.00 น. เจอกันนะจ๊ะ วันนี้จะมีปาร์ตี้ริมหาด เห็นว่าเจ้าของหาดและเจ้าของโรงแรมที่เราพักอยู่จะจัดปาร์ตี้ให้นั่งท่องเที่ยว เที่ยวฟรี! " แตงโมบอกฉันพร้อมกับเดินลากกระเป๋าเข้าห้องตัวเองไป Line ( แตงโม )แตงโม: ส้มส้มเสร็จยัง เดี๋ยวฉันเข้าไปหาแกที่ห้องนะ ส้มส้ม: โอเคก็อก ก็อก ก็อก เสียงเคาะประตูดังขึ้น" นี่แกยังไม่ใส่ชุดว่ายน้ำที่ฉันซื้อให้แกอีกเหรอเนี่ยย " แตงโมถามฉันหน้ายู่ไปหมด" ฉันว่ามันโป๊ไปอ่ะ " ฉันจับชุดที่ไม่ใช่ชุดยกขึ้นมาดูต่อหน้าฉันกับแตงโม" ใส่เลยๆ มานี่ " แตงโมจับฉันแต่งตัว แต่งหน้า ทำผม เปลี่ยนลุคให้ฉันใหม่หมด" ว้าวววว เพื่อนฉันซ่อนรูปขนาดนี้เลยเหรอเนี่ยยยย 0.0 " แตงโมพูดพลางจับตัวฉันหมุนไปรอบๆ" เลิศ! ปัง! คนทั้งหาดต้องมองมาที่ฉันกับแกแน่นอน! " พูดจบแตงโมก็จับฉันลากออกจากห้องทันทีพอถึงริมหาดมอง
หอพักคุณฐาพอฉันกลับถึงห้องก็รีบเปิดประมวลท่องมาตราต่อ ฉันก็พอจะจำได้แล้วแหล่ะ แต่ก็แค่เปิดอ่านทบทวนก็แค่นั้นLine เสียงไลน์ของฉันเด้งขึ้น ฐากูร: ตกลงจะให้ผมรับผิดชอบยังไงครับ ผมไม่ชอบติดค้างใครส้มส้ม: ไม่เป็นไรค่ะฐากูร: แต่ผมเป็นฐากูร: บอกมาเถอะครับส้มส้ม: ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ ( ฉันไม่เป็นไรจริงๆ และฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบอะไรฉัน ฉันได้แต่คิดในใจ )ฐากูร: ผมไม่ชอบติดค้างใครครับ !ส้มส้ม: งั้น เอาอย่างนี้นะคะ...ฐากูร: ครับผมส้มส้ม: คุณกับฉันห้ามมาเจอกันอีกดีกว่านะคะ เพราะถ้ายิ่งเจอก็จะยิ่งเป็นข่าว เข้าใจนะคะฐากูร: เข้าใจครับพอฉันบอกเขาไปแบบนั้นและเขาตอบกลับฉันมาว่าเขาเข้าใจแล้ว ฉันก็โล่งใจทันที ฉันก็ปิดโทรศัพท์แล้ววางลงข้างๆตัวเอง และเปิดประมวลท่องมาตราต่อมหาวิทยาลัย" เย้! ในที่สุดก็สอบเสร็จแล้ว ป่ะไปฉลองกันส้มส้ม " แตงโมบอกเกาะแขนฉันเดินตั้งแต่ออกจากห้องสอบลงมาบันไดจนถึงล่างตึกนิติ" โอเคๆ " ฉันยิ้มตาหยีแก้มบาน เพราะดีใจสอบเสร็จสักที ท่องมาตราปวดหัวซะมัดเลย" ปิดเทอมตั้ง 3 สัปดาห์แกจะไปไหนอ่ะ " แตงโมถามฉัน" ฉันจองตั๋วเครื่องบินไว้กลับบ้านที่ต่างจังหวัดน่ะ น่าจะอีก 1 ส
" นี่ค่ะเงินคุณ ต่อไปอย่าเอาเงินมากมายมาให้ฉันแบบนี้นะคะ " ฉันยื่นเงินให้เขาพร้อมพูดอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก" ก็ผมบอกว่าค่าเสียหายไงครับ " เขาพูดพร้อมมองหน้าฉัน แต่ยังไม่หยิบซองเงินบนโต๊ะทานข้าวไป" มันเยอะเกินไปค่ะฉันรับไว้ไม่ได้หรอก ถ้าจะรับผิดชอบรับผิดชอบอย่างอื่นดีกว่านะคะ เช่น.. " ฉันยังพูดไม่จบเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินเข้ามาหาฉันที่นั่งอยู่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม พร้อมก้มหน้าลงปะใบหน้าฉันใกล้มากจนจมูกของเราสองคนชนกัน ฉันสะดุ้งโหยงเพราะไม่เคยใกล้ผู้ชายคนไหนมากขนาดนี้มาก่อน" คะ คุณจะทำอะไรคะ " ฉันพูดพร้อมผลักหน้าอกแกร่งเขาออกเบาๆ " รับผิดชอบคุณไง " เขาพูดพร้อมแสยะยิ้ม แล้วก้มใบหน้าลงมาที่ซอกคอของฉันจนรู้สึกถึงไอร้อนจากลมหายใจของเขามาลดที่ต้นคอ ฉันกำลังที่จะลุกขึ้นจากเก้าอี้แต่เขาก็กดไหล่ฉันให้นั่งลงที่เดิม พร้อมเอาปากมาจูบลงตรงคอของฉัน ฉันสะดุ้งอีกครั้งพร้อมกับลุกขึ้นจากเก้าอี้ จนเก้าอี้ล้มลงดังเพล้งงงง" ฉะ ฉันกลับก่อนนะคะ พรุ่งนี้มีสอบเช้าค่ะ " ฉันรีบเดินไปเปิดประตูบานใหญ่สีทองออกไปจากห้องนั้นทันที พอออกมาก็เห็นมีพี่เต้ และพี่ต๋อง บอดี้การ์ดมือขวาและมือซ้ายของคุณฐากูรยืนอยู่หน
ฉันที่กำลังเดินออกจากลิฟต์เดินตามหลังพี่เต้ไปเรื่อยๆ จนถึงประตูบานใหญ่สีทอง " เชิญครับ " พี่เต้เปิดประตูให้ฉันเข้าไป ฉันที่กำลังจะเดินก้าวขาเข้าไปขาสั่นริกๆ ด้วยความ งงๆ และความกลัว มองไปรอบๆ จะเห็นประตูอีกบานหนึ่งน่าจะเป็นอีกห้องหนึ่งที่สามารถทะลุถึงกันได้ มีโซฟาสีแดงเลือดหมูขนาดใหญ่นั่งได้ราวๆ 10 คน มีหนังสือมากมายในชั้นหนังสือ และตรงหน้าฉันเป็นโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ และมองไปอีกด้านเป็นโต๊ะอาหารที่กำลังมีอาหารวางอยู่ราวๆ เกือบ 10 อย่างได้ แต่ยังไม่เห็นเจ้าของที่จะให้ฉันพบในห้องนี้เลยแกร๊กกก เสียงเปิดประตูอีกห้องที่ฉันพึ่งมองผ่านไปเปิดออก ฉันหันไปตามเสียงนั้น " คะ คุณ " ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าฉันที่ใส่เสื้อสีขาวแขนยาว ปลดกระดุมตรงหน้าออกราวๆ 3 เม็ดทำให้โชว์หน้าอกแกร่งจนเห็นซิกแพคเป็นมัดๆ พร้อมกับพาดเสื้อสูทสีดำและเนคไทสีดำไว้ที่แขนข้างขวา พร้อมกับโยนลงไว้บนโซฟา" มาแล้วเหรอ " เขาทักถามฉันด้วยหน้าตานิ่งๆ " คุณมาที่นี่ได้ยังไงคะ " ฉันเอ่ยถามไปอย่างโง่ๆ ทั้งๆ ที่ห้องที่ฉันเข้ามาก็เขียนป้ายติดหน้าห้องอยู่แล้วว่า ห้องประธาน (ฐากูร ฤกษ์รักษ์) " ตอนเข้ามาไม่เห็นป้ายหน้าประตูเหรอใหญ่ขนาดนั้น "
ฉันยืนอยู่ปากซอยเพื่อรอแท็กซี่ พอฉันขึ้นรถแล้วก็บอกคนขับไปว่าจะไปที่ไหน" บริษัท M ค่ะ " ฉันเอ่ยบอกลุงคนขับไป" บริษัท M ไปทำไมล่ะหนู ทำงานที่นั่นเหรอ " ลุงคนขับถามขึ้นพร้อมมองบนถนนขับรถไป " ไม่ค่ะ " " อ่อ ลุงคิดว่าทำงานที่นั่น เห็นเขาว่ากันว่าเป็นบริษัทของลูกชายมาเฟีย " ลูกชายมาเฟียงั้นเหรอ คงไม่ใช่เขาหรอกมั้งฉันคิดในใจ เขาอาจจะทำงานที่นั่นก็ได้ เห็นแต่งตัวดีแบบนั้นอย่างน้อยก็น่าจะมีตำแหน่งสูงๆ " ลูกชายมาเฟียเหรอคะ " ฉันเอ่ยถามลุง" ใช่แล้วแม่หนู เห็นว่าพึ่งเรียนจบมาจากต่างประเทศได้ 3 ปี ก็ทำธุรกิจอสังหาหลายแหล่ง ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย " นั่นไง แสดงว่าฉันคิดถูก เขาพึ่งเรียนอยู่ปี 4 เอง แถมมหาลัยเดียวกับฉันด้วย อาจจะทำงานที่นั่น หรือกำลังฝึกงานอยู่ก็ได้ !" แล้วลุงเคยเห็นเขาไหมคะ " ฉันถามไปเพราะความอยากรู้จริงๆ ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยแบบนี้ฉันรู้สึกชื่นชมเขามาก เก่งจริงๆ คงเหนื่อยไม่น้อยที่จะต้องดูแลธุรกิจใหญ่ขนาดนี้" ลุงไม่เคยหรอกหนู เห็นเขาว่ากันว่าเขาเป็นคนชอบเก็บตัว ไม่มีใครเจอหน้าตาเขาหรอก อีกอย่างเขาไปเรียนต่างประเทศมาหลายปี กลับมาไทยก็คงไม่มีใครรู้หน้าร
มหาวิทยาลัยวันนี้เป็นการสอบไฟนอลเทอมแรกของทุกๆ คณะ และตอนนี้ก็พากันสอบเสร็จหมดแล้ว ฉันกับแตงโมเลยนั่งเล่นกันก่อนที่ใต้ตึกนิติ" ข้อสอบอะไรยากซะมัด เนาะแก " แตงโมหันมาบ่นกับฉันพร้อมทำหน้ายู่ยี่" ก็แกไม่อ่านหนังสือไง " ฉันตอบกลับไปตรงๆ " ก็ฉันไม่ว่างนี่น๊าา " แตงโมตอบกลับมาเสียงอ่อนลง แต่ทำท่าทางน่ารักๆ ไม่ได้โกรธที่ฉันพูดไปตรงๆ " ไม่ว่าง หรือวิ่งตามน้องเร! " ทุกวันนี้หลังจากพี่ม่อนของมันออกจากวงการไม่กลับไปด้านวงการบันเทิงอีก ยัยเพื่อนตัวดีของฉันก็วิ่งตามน้องเรของมันทุกงาน ย้ำทุกงาน! กรี๊ดดดด กรี๊ดดดดด เรมาาาาา เสียงกรี๊ดของคนที่พึ่งทยอยลงออกจากห้องสอบกรี๊ดดดดขึ้นมา ฉันกับแตงโมหันไปตามเสียง ก็เห็นหนุ่มหล่อ น่ารัก ยิ้มทีโลกละลาย กำลังเดินมาทางคณะฉัน พร้อมโบกมือส่งยิ้มให้แฟนคลับของเขาอย่างเป็นมิตร" กรี๊ดดดดด น้องเร มาได้ยังไงเนี่ย! " แตงโมลุกพรวดขึ้นพร้อมกรี๊ดดดตามพวกแฟนคลับพวกนั้นแต่น้องเรอะไรของยัยแตงโมกำลังเดินมาทางฉันกับแตงโม ยิ่งทำให้เสียงกรี๊ดดังขึ้นมากกว่าเดิม และยัยแตงโมนกใจอ้าปากค้างและรีบนั่งลงทันที " ใช่ พี่ส้มส้มหรือเปล่าครับ " เรพูดขึ้นพร้อมมองมาทางฉันและยิ้มหวานให้
ฉันหันหน้ากลับไปตามเสียงทุ้มๆ ที่รู้สึกคุ้นหูของใครบางคน " คุณ! " พอฉันเห็นใบหน้าที่แทบจะคุ้นตาก็เลยอุทานออกมาอย่างตกใจ! พร้อมกับพี่เต้คนขับรถ หรือมือขวาคนสนิทของเขานั่นเอง" พึ่งเห็นฉันหรือไง! " เขาตะคอกฉันเสียงดัง จนคนแถวนั้นหันมามอง" คะ คุณ จะเสียงดังทำไมคะ คนอื่นเขามองกันหมดแล้ว " ไม่พูดเปล่าฉันรีบหันหน้ากลับไปและกำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำ" ไปไหน! " เขาถามฉันขึ้นมาอีกรอบ" ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ จะตามไปด้วยเลยไหมล่ะคะ -..-^ " ฉันพูดแกมประชดเพราะไม่คิดว่าเขาจะกล้าตอบกลับฉันไปแบบนั้น" หึ! ได้เหรอ ไปสิ " ขะ เขาตอบกลับมาทำเอาหน้าฉันเปลี่ยนสี คิ้วทั้งสองข้างของฉันขมวดเข้าหากันอย่างไม่พอใจนัก แต่กลับอีกคนที่มีสีหน้าท่าทางยิ้มแย้มต่างจากรอบที่แล้วอย่างสิ้นเชิงครืดดดด ครืดดดด เสียงโทรศัพท์ฉันดังขึ้น พร้อมโชว์เบอร์แตงโมอีกครั้ง " นี่แก! ฉันกินจนจะอิ่มอยู่แล้ว ทำไมไม่มาสักที " แตงโมพูดขึ้นพร้อมอารมณ์หงุดหงิดมากกว่ารอบที่แล้ว" ขอโทษๆ ฉันกำลังลงไปแล้ว พอดีเจอหมาบ้าน่ะ " ฉันพูดพลางหางตามองไปทางอีกคนที่ยืนอยู่อย่างไม่พอใจอีกครั้ง" มะ หมาบ้า หมาบ้าที่ไหนแก เข้ามาห้างได้ด้วยเหรอ " แตงโมพูดขึ้นอ
“ ส้มส้มมมมมม ” แตงโมวิ่งหน้าตาตื่นตระหนกพร้อมกับหายใจหอบระรัวเหมือนวิ่งมาจากหอยังไงอย่างนั้นแหล่ะ และวิ่งตรงมาหาฉันที่กำลังนั่งท่องมาตราอยู่ใต้ตึกคณะนิติศาสตร์ แตงโมเป็นเพื่อนฉันตั้งแต่เข้ามหาลัยมาแรกๆ โดยที่นางเป็นคนเข้ามาทักฉันก่อนอย่างเป็นมิตร และเราก็เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่วันนั้น “ มีอะไร ใจเย็นๆ ค่อยๆพูด ” ฉันทำท่าทางตกใจเป็นอย่างมาก เพราะกลัวว่าแตงโมจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นเหมือนทุกครั้ง เพราะแตงโมเป็นคนค่อนข้างจะพูดตรงมากๆ และพร้อมบวกเสมอเวลาใครมาหาเรื่องนางก่อน หรือแม้กระทั่งใครมาหาเรื่องฉันทั้งที่เขายังไม่ได้มาด่าฉันต่อหน้า เพียงแต่ด่าในแชทแตงโมก็สวนด่ากลับก่อนแล้ว“ ฉันมีเรื่องจะขอร้องแก ” แตงโมเปลี่ยนสีหน้าเร็วมาก จากหน้าตาที่เหนื่อยหอบจากที่วิ่งมาหาฉันทำเอาฉันตกใจไปด้วย แต่ตอนนี้กลับทำหน้าตาน่ารักยิ้มอ้อนฉันตาแป๋วพร้อมกับทำตาเป็นประกายเหมือนจะมาขอยืมเงินฉันยังไงอย่างนั้นแหล่ะ“ มีอะไร ” ฉันถามกลับยัยเพื่อนตัวดีอย่างสงสัย แต่ก็กลับโล่งใจที่แตงโมไม่ได้มีเรื่องอะไร“ คืนนี้แกพาฉันไปหาพี่เรกับพี่ม่อนหน่อยน๊าาา ฉันกดบัตรมาเผื่อแกด้วย ฉันเลี้ยงงง ” ฉันถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ...
Comments