แชร์

บทที่ 21

บทที่ 21

นัสรินลอบมองปลายคางของอดีตสามี พลางคิดไปว่าเมื่อวันศุกร์เขาเข้ามาถึงในลิฟต์ แต่วันนี้เขาเข้าถึงในห้องและกำลังอุ้มเธอไปที่เตียง แถมเธอเองก็ไม่ยอมท้วง จากที่ประกาศปาวๆ ว่าหลังจากนี้จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก ดูเหมือนมันจะต้องข้ามไปเสียหมด

ปราณต์วางเธอลงบนเตียง จัดท่าให้นั่งพิงพนักเตียง ส่วนเขานั่งลงที่ขอบเตียง ยกขาข้างหนึ่งขึ้นพาดบนเตียง แล้วถอดรองเท้าของเธอออก ก่อนจะจับข้อเท้าด้านที่แพลงขึ้นพาดบนขาของเขา ท่ายกแบบนั้นทำให้ชายกระโปรงสั้นร่นขึ้น จนนัสรินต้องรีบหยิบหมอนอีกใบที่วางอยู่ข้างๆ ขึ้นมาปิดชายกระโปรงไว้เป็นพัลวัน เพื่อไม่ให้ปราณต์มองไปถึงไหนต่อไหน

“จะปิดทำไมล่ะ ใส่สั้นก็ต้องกล้าโชว์สิ” ปราณต์เอ่ยออกมาอย่างรำคาญ เมื่อเห็นท่าทีปิดป้องอย่างหวงเนื้อหวงตัวของอดีตภรรยา

“นัสไม่ใช่พวกชอบโชว์ แล้วคุณปราณต์มาจับขานัสยกแบบนี้ทำไม”

“ผมจะนวดข้อเท้าให้”

นัสรินเพิ่งเข้าใจตอนนี้ว่าเขาเข้าไปเอายาในคลินิกมาทำไม ความรู้สึกอุ่นซ่านจึงแล่นลึกเข้ามาในหัวใจ แต่ก็รีบปัดมันทิ้งอย่างรวดเร็วและบอกตัวเองว่าอย่าเคลิบเคลิ้ม การปล่อยให้ปราณต์เข้ามาเดินเล่นในหัวใจได้ง่ายๆ อีกครั้ง นั่นไม่ต่างอะไรกับการยื่นมีดคมๆ ไปให้เขาแทงใจดวงน้อยเล่น

“นัสนวดเองได้ค่ะ ไม่ต้องรบกวนคุณปราณต์หรอก”

“ในเมื่อผมดูแลมาตั้งแต่ต้น ผมก็จะดูแลจนถึงที่สุด ผมไม่ชอบทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ แล้วทิ้งไปหรอก”

ปราณต์ไม่สนใจคำปฏิเสธของหญิงสาว เขาจัดการบีบยาใส่มือแล้วนวดบริเวณข้อเท้าที่แพลงให้อย่างค่อนข้างจะนุ่มนวล ตาคู่สวยหลุบมองมือใหญ่ที่เรียวยาวสะอาดสะอ้านนั้นอย่างพยายามจะไม่หวั่นไหว หากทว่ามันก็ยากเหลือเกินเมื่อสัมผัสจากมือทั้งสองข้างนั้นก่อให้เกิดความวาบหวามในท้องน้อยอย่างมากมาย กว่าที่เขาจะละมือออกไป เลือดในตัวของเธอก็ร้อนซ่านไปหมด หากนัสรินมองตัวเองในกระจกยามนี้คงเห็นว่าแก้มนวลแดงซ่านแค่ไหน

ตาสองคู่สบประสานกันเมื่อเขานวดข้อเท้าให้เสร็จ แล้วขยับมาทายาแผลถลอกให้ สัมผัสที่ข้อเท้าว่าร้อนซ่านแล้ว แต่ยามที่มือเขาแตะบนหัวเข่า กลับยิ่งร้อนซ่านมากกว่าหลายเท่าตัว การเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วของมือใหญ่ มันชวนให้คิดถึงยามที่เขาลากมือนี้สูงขึ้นมาที่ขาอ่อน และล่วงล้ำลึกซึ้งมากกว่านั้น ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นในอดีต หากว่าอีกเพียงอึดใจเดียวเขายังไม่ละมือออกไปจากตรงนั้น เธอคงหลุดเสียงครางออกมา และปราณต์ต้องรู้แน่ๆ ว่าตอนนี้ความรู้สึกภายในของเธอพลุ่งพล่านมากเพียงใด

และอึดใจต่อมานัสรินก็เหมือนนักมวยได้ระฆังช่วยก่อนจะโดนน็อก เพราะปราณต์ละมือออกไปก่อนที่เสียงครางจะหลุดออกจากเรียวปากนุ่มแบบฉิวเฉียด ทำให้นัสรินลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ตัวเองไม่ต้องขายหน้า

“ถ้าปวดอีก หลังอาบน้ำก็นวดอีกครั้ง นวดอย่างที่ผมนวดให้เมื่อกี้ ตอนนอนจะได้ไม่ปวด” ปราณต์สั่งกำชับก่อนจะลุกจากเตียง เอาถุงยาไปวางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง แล้วเดินตรงไปยังประตู ทำเอาคนที่เพิ่งถูกภวังค์แห่งความวาบหวามเล่นงานตั้งตัวแทบไม่ติด หัวใจดวงน้อยเกิดอาการใจหายแปลกๆ ที่ความใกล้ชิดนั้นจางหายไปอย่างรวดเร็ว และเมื่อนึกได้ว่าตัวเองยังไม่ทันขอบคุณเขาจึงรีบเรียกเขาเอาไว้

“เดี๋ยวค่ะคุณปราณต์”

ร่างสูงชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตู แล้วหันกลับมาตามเสียงเรียก ทว่าถ้อยคำที่หลุดออกมาจากปากเขานั้นทำให้นัสรินนึกอยากกัดปากตัวเองที่เรียกเขา

“เรียกทำไม อย่าบอกนะว่าเมื่อกี้เกิดอารมณ์แล้วอยากให้ผมทำต่อให้เสร็จ ถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงต้องปฏิเสธ เพราะผมไม่มีอารมณ์ทำอะไรกับคนเจ็บ เวลาจะยกขาขึ้นพาดแขนพาดบ่าก็ต้องคอยระวัง มันทำได้ไม่ถึงอารมณ์”

เพราะคำพูดของเขาเฉียดกับความจริงที่ตัวเองรู้สึกเมื่อสักครู่นี้ เลยทำให้นัสรินอับอายจนหยิบหมอนที่ปิดกระโปรงตัวเองอยู่ขว้างไปใส่เขาทันที แต่ปราณต์ก็เอียงตัวหลบได้สบายๆ ทำให้หมอนลอยหวือไปกระแทกกับประตูแทน

“ไหนว่าไม่ชอบโชว์ แล้วโยนหมอนมาแบบนี้เท่ากับเปิดอ้าซ่าให้ผมดูเลยนะ” ปราณต์ไม่แค่พูดแต่ใช้สายตามองไปยังส่วนที่ก่อนหน้านี้ถูกหมอนบังอยู่ ทำให้นัสรินยิ่งอายกว่าเดิม

“หมอบ้า! หมอโรคจิต! หมอปากจัด!”

ปราณต์ยิ้มมุมปากก่อนจะสาวเท้ายาวๆ กลับไปยังเตียง ยกมือขึ้นคร่อมร่างบางเอาไว้ แล้วจึงค่อยก้มหน้าลงไปตอบโต้อย่างใจเย็น

“ไม่ใช่แค่ปากจัดแต่เซ็กซ์จัดด้วย คุณก็เคยรู้ซึ้งด้วยตัวเองแล้วนี่”

“นัสเกลียดคุณ” นัสรินอยากจะให้ตัวเองตะโกนใส่หน้าเขา แต่กลับพูดประโยคนั้นแค่เบาๆ ก็จะให้เธอพูดเสียงดังกว่านั้นได้อย่างไร ในเมื่อหน้าเขาลอยอยู่ใกล้แค่นี้

“ถ้าเกลียดจริงๆ แล้วเรียกไว้ทำไม”

“นัสก็แค่จะถามว่าคุณปราณต์จะกลับยังไง”

“ทำไมล่ะ อาลัยอาวรณ์หรือว่าห่วงผม” คิ้วเข้มเลิกขึ้นพลางจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่สวยอย่างควานหาเอาความจริง ซึ่งนัสรินก็ทำได้แค่หลุบเปลือกตาลงบดบังความในเอาไว้เท่านั้น

“ไม่ได้ห่วง ไม่ได้อาลัยอาวรณ์อะไร แค่ไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณค่ะ” เธอพูดในสิ่งที่ไม่ตรงกับใจเลยสักนิด

“ถึงไม่อยากก็ต้องอยาก จำไว้ให้แม่นล่ะนัสรินว่าคุณติดหนี้บุญคุณผมอยู่ แล้วผมจะมาทวงวันหลังพร้อมกับเรียกเก็บดอกเบี้ยด้วย”

นั่นคือประโยคสุดท้ายก่อนที่ปราณต์จะยืดตัวขึ้น แล้วเดินไปยังประตูเช่นเดียวกับตอนที่เขาจะไปครั้งแรก แต่คราวนี้นัสรินไม่ได้เรียกไว้อีก เธอได้แต่นั่งนิ่งและมองตามจนกระทั่งประตูห้องปิดลง

ปราณต์บอกว่าจะมาทวงบุญคุณวันหลังพร้อมกับเก็บดอกเบี้ย นั่นแสดงว่าจะมาหาเธออีกอย่างนั้นหรือ นัสรินไม่รู้ว่าตัวเองควรดีใจหรือควรรู้สึกอย่างอื่น แต่การปล่อยให้ตัวเองใกล้ชิดกับปราณต์บ่อยๆ นั่นเป็นสิ่งที่อันตรายกับหัวใจยิ่งนัก

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status