แชร์

บทที่ 21

ผู้เขียน: เทียนธีรา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-09 21:09:30

บทที่ 21

นัสรินลอบมองปลายคางของอดีตสามี พลางคิดไปว่าเมื่อวันศุกร์เขาเข้ามาถึงในลิฟต์ แต่วันนี้เขาเข้าถึงในห้องและกำลังอุ้มเธอไปที่เตียง แถมเธอเองก็ไม่ยอมท้วง จากที่ประกาศปาวๆ ว่าหลังจากนี้จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก ดูเหมือนมันจะต้องข้ามไปเสียหมด

ปราณต์วางเธอลงบนเตียง จัดท่าให้นั่งพิงพนักเตียง ส่วนเขานั่งลงที่ขอบเตียง ยกขาข้างหนึ่งขึ้นพาดบนเตียง แล้วถอดรองเท้าของเธอออก ก่อนจะจับข้อเท้าด้านที่แพลงขึ้นพาดบนขาของเขา ท่ายกแบบนั้นทำให้ชายกระโปรงสั้นร่นขึ้น จนนัสรินต้องรีบหยิบหมอนอีกใบที่วางอยู่ข้างๆ ขึ้นมาปิดชายกระโปรงไว้เป็นพัลวัน เพื่อไม่ให้ปราณต์มองไปถึงไหนต่อไหน

“จะปิดทำไมล่ะ ใส่สั้นก็ต้องกล้าโชว์สิ” ปราณต์เอ่ยออกมาอย่างรำคาญ เมื่อเห็นท่าทีปิดป้องอย่างหวงเนื้อหวงตัวของอดีตภรรยา

“นัสไม่ใช่พวกชอบโชว์ แล้วคุณปราณต์มาจับขานัสยกแบบนี้ทำไม”

“ผมจะนวดข้อเท้าให้”

นัสรินเพิ่งเข้าใจตอนนี้ว่าเขาเข้าไปเอายาในคลินิกมาทำไม ความรู้สึกอุ่นซ่านจึงแล่นลึกเข้ามาในหัวใจ แต่ก็รีบปัดมันทิ้งอย่างรวดเร็วและบอกตัวเองว่าอย่าเคลิบเคลิ้ม การปล่อยให้ปราณต์เข้ามาเดินเล่นในหัวใจได้ง่ายๆ อีกครั้ง นั่นไม่ต่างอะไรกับการยื่นมีดคมๆ ไปให้เขาแทงใจดวงน้อยเล่น

“นัสนวดเองได้ค่ะ ไม่ต้องรบกวนคุณปราณต์หรอก”

“ในเมื่อผมดูแลมาตั้งแต่ต้น ผมก็จะดูแลจนถึงที่สุด ผมไม่ชอบทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ แล้วทิ้งไปหรอก”

ปราณต์ไม่สนใจคำปฏิเสธของหญิงสาว เขาจัดการบีบยาใส่มือแล้วนวดบริเวณข้อเท้าที่แพลงให้อย่างค่อนข้างจะนุ่มนวล ตาคู่สวยหลุบมองมือใหญ่ที่เรียวยาวสะอาดสะอ้านนั้นอย่างพยายามจะไม่หวั่นไหว หากทว่ามันก็ยากเหลือเกินเมื่อสัมผัสจากมือทั้งสองข้างนั้นก่อให้เกิดความวาบหวามในท้องน้อยอย่างมากมาย กว่าที่เขาจะละมือออกไป เลือดในตัวของเธอก็ร้อนซ่านไปหมด หากนัสรินมองตัวเองในกระจกยามนี้คงเห็นว่าแก้มนวลแดงซ่านแค่ไหน

ตาสองคู่สบประสานกันเมื่อเขานวดข้อเท้าให้เสร็จ แล้วขยับมาทายาแผลถลอกให้ สัมผัสที่ข้อเท้าว่าร้อนซ่านแล้ว แต่ยามที่มือเขาแตะบนหัวเข่า กลับยิ่งร้อนซ่านมากกว่าหลายเท่าตัว การเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วของมือใหญ่ มันชวนให้คิดถึงยามที่เขาลากมือนี้สูงขึ้นมาที่ขาอ่อน และล่วงล้ำลึกซึ้งมากกว่านั้น ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นในอดีต หากว่าอีกเพียงอึดใจเดียวเขายังไม่ละมือออกไปจากตรงนั้น เธอคงหลุดเสียงครางออกมา และปราณต์ต้องรู้แน่ๆ ว่าตอนนี้ความรู้สึกภายในของเธอพลุ่งพล่านมากเพียงใด

และอึดใจต่อมานัสรินก็เหมือนนักมวยได้ระฆังช่วยก่อนจะโดนน็อก เพราะปราณต์ละมือออกไปก่อนที่เสียงครางจะหลุดออกจากเรียวปากนุ่มแบบฉิวเฉียด ทำให้นัสรินลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ตัวเองไม่ต้องขายหน้า

“ถ้าปวดอีก หลังอาบน้ำก็นวดอีกครั้ง นวดอย่างที่ผมนวดให้เมื่อกี้ ตอนนอนจะได้ไม่ปวด” ปราณต์สั่งกำชับก่อนจะลุกจากเตียง เอาถุงยาไปวางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง แล้วเดินตรงไปยังประตู ทำเอาคนที่เพิ่งถูกภวังค์แห่งความวาบหวามเล่นงานตั้งตัวแทบไม่ติด หัวใจดวงน้อยเกิดอาการใจหายแปลกๆ ที่ความใกล้ชิดนั้นจางหายไปอย่างรวดเร็ว และเมื่อนึกได้ว่าตัวเองยังไม่ทันขอบคุณเขาจึงรีบเรียกเขาเอาไว้

“เดี๋ยวค่ะคุณปราณต์”

ร่างสูงชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตู แล้วหันกลับมาตามเสียงเรียก ทว่าถ้อยคำที่หลุดออกมาจากปากเขานั้นทำให้นัสรินนึกอยากกัดปากตัวเองที่เรียกเขา

“เรียกทำไม อย่าบอกนะว่าเมื่อกี้เกิดอารมณ์แล้วอยากให้ผมทำต่อให้เสร็จ ถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงต้องปฏิเสธ เพราะผมไม่มีอารมณ์ทำอะไรกับคนเจ็บ เวลาจะยกขาขึ้นพาดแขนพาดบ่าก็ต้องคอยระวัง มันทำได้ไม่ถึงอารมณ์”

เพราะคำพูดของเขาเฉียดกับความจริงที่ตัวเองรู้สึกเมื่อสักครู่นี้ เลยทำให้นัสรินอับอายจนหยิบหมอนที่ปิดกระโปรงตัวเองอยู่ขว้างไปใส่เขาทันที แต่ปราณต์ก็เอียงตัวหลบได้สบายๆ ทำให้หมอนลอยหวือไปกระแทกกับประตูแทน

“ไหนว่าไม่ชอบโชว์ แล้วโยนหมอนมาแบบนี้เท่ากับเปิดอ้าซ่าให้ผมดูเลยนะ” ปราณต์ไม่แค่พูดแต่ใช้สายตามองไปยังส่วนที่ก่อนหน้านี้ถูกหมอนบังอยู่ ทำให้นัสรินยิ่งอายกว่าเดิม

“หมอบ้า! หมอโรคจิต! หมอปากจัด!”

ปราณต์ยิ้มมุมปากก่อนจะสาวเท้ายาวๆ กลับไปยังเตียง ยกมือขึ้นคร่อมร่างบางเอาไว้ แล้วจึงค่อยก้มหน้าลงไปตอบโต้อย่างใจเย็น

“ไม่ใช่แค่ปากจัดแต่เซ็กซ์จัดด้วย คุณก็เคยรู้ซึ้งด้วยตัวเองแล้วนี่”

“นัสเกลียดคุณ” นัสรินอยากจะให้ตัวเองตะโกนใส่หน้าเขา แต่กลับพูดประโยคนั้นแค่เบาๆ ก็จะให้เธอพูดเสียงดังกว่านั้นได้อย่างไร ในเมื่อหน้าเขาลอยอยู่ใกล้แค่นี้

“ถ้าเกลียดจริงๆ แล้วเรียกไว้ทำไม”

“นัสก็แค่จะถามว่าคุณปราณต์จะกลับยังไง”

“ทำไมล่ะ อาลัยอาวรณ์หรือว่าห่วงผม” คิ้วเข้มเลิกขึ้นพลางจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่สวยอย่างควานหาเอาความจริง ซึ่งนัสรินก็ทำได้แค่หลุบเปลือกตาลงบดบังความในเอาไว้เท่านั้น

“ไม่ได้ห่วง ไม่ได้อาลัยอาวรณ์อะไร แค่ไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณค่ะ” เธอพูดในสิ่งที่ไม่ตรงกับใจเลยสักนิด

“ถึงไม่อยากก็ต้องอยาก จำไว้ให้แม่นล่ะนัสรินว่าคุณติดหนี้บุญคุณผมอยู่ แล้วผมจะมาทวงวันหลังพร้อมกับเรียกเก็บดอกเบี้ยด้วย”

นั่นคือประโยคสุดท้ายก่อนที่ปราณต์จะยืดตัวขึ้น แล้วเดินไปยังประตูเช่นเดียวกับตอนที่เขาจะไปครั้งแรก แต่คราวนี้นัสรินไม่ได้เรียกไว้อีก เธอได้แต่นั่งนิ่งและมองตามจนกระทั่งประตูห้องปิดลง

ปราณต์บอกว่าจะมาทวงบุญคุณวันหลังพร้อมกับเก็บดอกเบี้ย นั่นแสดงว่าจะมาหาเธออีกอย่างนั้นหรือ นัสรินไม่รู้ว่าตัวเองควรดีใจหรือควรรู้สึกอย่างอื่น แต่การปล่อยให้ตัวเองใกล้ชิดกับปราณต์บ่อยๆ นั่นเป็นสิ่งที่อันตรายกับหัวใจยิ่งนัก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 22

    บทที่ 22แม้ว่ารถแท็กซี่สีเหลืองน้ำเงินคันที่กำลังแล่นมาจะไม่หรูและสภาพค่อนไปทางทรุดโทรม แต่ปราณต์ก็ไม่เกี่ยงที่จะใช้บริการ เขาบอกจุดหมายกับคนขับแล้วขึ้นไปนั่งที่ตอนหลังของรถ พลางซึมซับเอาบรรยากาศการนั่งแท็กซี่ในตัวจังหวัดในทันที เพราะนี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ทำงานมาหลายปีที่มีโอกาสได้ใช้บริการรถดังกล่าว แน่นอนว่าลูกชายเศรษฐีนีเชียงใหม่ระดับแม่เลี้ยงลักษิกาอย่างเขาย่อมมีรถให้ใช้หลายคัน ดังนั้นจึงไม่มีครั้งใดที่เขาจะได้เฉียดใกล้กับการนั่งรถแท็กซี่เช่นนี้ ความจริงเขาจะโทร.เรียกอินแปงหรือคนที่บ้านให้ขับรถมารับก็ได้ แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีความจำเป็นที่ต้องรบกวนใคร อีกทั้งเขาก็ไม่ได้ติดหรูจนถึงขนาดนั่งรถแท็กซี่ไม่ได้ปราณต์ทอดสายตาตรงไปข้างหน้าราวกับกำลังมองถนนเงียบๆ ทำให้คนขับแท็กซี่ไม่กล้าชวนคุย บรรยากาศในรถจึงมีเพียงความเงียบ แต่ความเงียบนั้นก็ถูกรบกวนด้วยเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของปราณต์ และเขาก็กดรับเช่นเดียวกับทุกครั้งเมื่อเห็นว่าผู้เป็นแม่โทร.มา“สวัสดีครับแม่”“ตาปราณต์อยู่ไหนลูก”“อยู่บนรถครับ”“กลับบ้านหน่อยได้ไหม แม่มีเรื่องอยากคุยด้วย”น้ำเสียงยามที่เอ่ยผ่านโทรศัพท์มานั้นฟังดูซีเร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-09
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 23

    บทที่ 23แม้ปากจะบอกว่าไม่อยากเกี่ยวข้องใดๆ กับอดีตสามีอีก แต่คำพูดของเขาก่อนจากกันวันนั้น ก็ทำให้นัสรินแอบรอคอยการมาของเขาอย่างห้ามใจไม่อยู่ บ่อยครั้งที่เธอมองนาฬิกาสลับกับเงี่ยหูฟังเสียงเคาะประตูห้อง ยิ่งช่วงสองทุ่มกว่าๆ ซึ่งเป็นเวลาปิดคลินิกของปราณต์ใกล้เข้ามาทีไร เธอก็ยิ่งมองบ่อยครั้งขึ้นเท่านั้น ทว่าการรอคอยของเธอวันแล้ววันเล่าก็ว่างเปล่า นี่ก็ผ่านไปสามวันแล้วแต่กลับไม่มีวี่แววว่าปราณต์จะมาอย่างที่เขาว่าแต่อย่างใด ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ...นัสรินบอกตัวเองแบบนั้น แต่ใจกลับห่อเหี่ยวลงราวกับต้นไม้ที่ไร้ฝนหลั่งลงมาอาบชโลมเป็นเวลานานก็ไม่ปาน หากกระนั้นเธอก็ยังบังคับตัวเองให้ทำกิจวัตรประจำวันของตนอย่างเป็นปกติ หลังจากอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนเรียบร้อยแล้ว ร่างบางก็ขึ้นไปนั่งพิงพนักเตียง หยิบรีโมตโทรทัศน์แล้วกดเปิดเพื่อให้เสียงโทรทัศน์ดังเป็นเพื่อนยามอยู่คนเดียว เปิดได้ไม่นานก็ต้องหยิบรีโมตอีกรอบเพื่อหรี่เสียง เพราะมีเสียงจากโทรศัพท์มือถือแผดร้องแข่งเสียงโทรทัศน์ขึ้น นัสรินกดรับสายทันทีเพราะคนที่โทร.มาคือกิตติหัวหน้าของเธอนั่นเอง “สวัส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-09
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 24

    บทที่ 24นัสรินสบตากับตาคมของอดีตสามีครู่หนึ่ง เธอเห็นแววแปลกใจปรากฏอยู่บนดวงตาคมของเขา แต่ก็แค่แวบเดียวมันก็เปลี่ยนเป็นเฉยเมยดังเดิม หญิงสาวจึงเสไปมองผู้หญิงที่ยืนเคียงข้างปราณต์พร้อมกับที่หัวใจเกิดอาการแกว่งไหว เมื่อเห็นว่าผู้หญิงที่ปราณต์ควงมานั้นสวยสง่าเพียงใด เพราะอย่างนี้เองกระมังเขาถึงไม่ได้ไปหาเธออย่างที่บอกเอาไว้ ขณะที่เธอก็บ้าพอที่จะรอคอยอย่างลมๆ แล้งๆ“สวัสดีครับหมออรรณพ” ปราณต์ทักทายหมอที่ทำงานอยู่โรงพยาบาลเดียวกัน แต่ทำท่าเหมือนไม่เคยรู้จักกับนัสรินมาก่อน ทำให้หญิงสาวถึงกับคอแข็ง“สวัสดีครับหมอปราณต์/หมอเมย์”“หมอไม่ได้มากับภรรยาเหรอครับ”แม้คำถามนั้นจะดูเหมือนธรรมดา หากแต่นัสรินฟังว่าปราณต์จงใจถามเพื่อประกาศให้เธอรู้ว่าหมออรรณพมีภรรยาแล้ว และเธอกำลังนั่งทานข้าวกับสามีคนอื่นอยู่“เปล่า...นี่คุณนัสรินเป็นตัวแทนจากบริษัทยาที่จะจำหน่ายให้คลินิกของผม”“อ้อ...คนขาย...ยา”ดูเหมือนว่าคนฟังอย่างหมออรรณพและหมอเมธาวีจะไม่สะดุดหูกับคำพูดของปราณต์ที่จงใจพูดเว้นคำ แต่นัสรินเผลอมองคนพูดตาขุ่น“อย่ามัวแต่แซวผมเลย แล้วนี่หมอกับหมอเมย์มาเดตกันเหรอ” หมออรรณพสัพยอกกลับอย่างไม่ได้เดือดเนื้อร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-09
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 25

    บทที่ 25นัสรินขับรถไปยังร้านอาหารร้านเดิม เพราะตอนที่หมออรรณพขับรถกลับมาส่งเมื่อวาน เขานัดเธอว่าให้ไปเจอที่นั่น เพื่อแก้มือที่เมื่อวานทั้งเธอทั้งเขาแทบจะยังไม่ได้ทานอาหารที่สั่งมาเลย เธอไปถึงก่อนเวลานัดเช่นเดียวกับทุกครั้งที่นัดลูกค้าคนอื่นๆ วันนี้คนในร้านค่อนข้างหนาตา นัสรินจึงไม่มีโอกาสเลือกมุมที่จะนั่ง เธอได้นั่งโต๊ะว่างตรงบริเวณกลางร้าน แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะสิ่งที่คิดตอนนี้คือมาทำงาน จะนั่งตรงไหนมุมไหนจึงไม่ได้สำคัญอะไร หญิงสาวจัดการสั่งอาหารและบอกให้พนักงานนำมาเสิร์ฟตอนที่หมออรรณพมาแล้ว รอไม่นานนักหมออรรณพก็มา เขาเอ่ยทักทายและนั่งลงฝั่งตรงข้าม จากนั้นนัสรินก็ส่งเอกสารให้เขาเซ็น หมออรรณพเซ็นอย่างไม่ได้ลีลาท่ามากเหมือนใครบางคน เธอเก็บเอกสารไว้ชุดหนึ่งและให้หมออรรณพเก็บไว้ชุดหนึ่งเป็นคู่สัญญาพนักงานร้านเริ่มทยอยนำอาหารมาเสิร์ฟและทั้งคู่ก็ลงมือรับประทานอาหารโดยไม่มีอะไรขัดเหมือนเมื่อวาน “คุณหมอคะ เดี๋ยวนัสขอตัวเข้าห้องน้ำสักครู่นะคะ”หญิงสาวเอ่ยขึ้นหลังจากทานอาหารอิ่มแล้ว เธออยากออกไปสูดอากาศข้างนอกสักพักด้วย เพราะวันนี้หมออรรณพเหมือนจะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-09
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 26

    บทที่ 26 หมออรรณพทำท่าผิดหวังไม่น้อย เมื่อนัสรินเอ่ยปากขอตัวกลับก่อนเหมือนเช่นเมื่อวาน เขารู้แน่แล้วว่าหญิงสาวที่สวยซ่อนเปรี้ยวผู้นี้คงไม่เล่นด้วยง่ายๆ แม้จะเสียดายอยู่ลึกๆ แต่ก็คิดว่าตัวเองยังพอมีโอกาส ดังนั้นช่วงนี้เขาเองก็จะไปหาคนที่เต็มใจฆ่าเวลาไปก่อน ทางด้านหญิงสาวที่กำลังเป็นประเด็นกับผู้ชายสองคน แม้ว่าจะเอ่ยขอตัวกลับกับหมออรรณพแล้ว นัสรินก็ไม่ได้ออกไปหาปราณต์แต่อย่างใด เธอออกทางประตูหน้าและเดินอ้อมไปยังลานจอดรถ เพื่อจะหนีหน้าคนที่เพิ่งมาข่มขู่ตัวเอง เธอไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขา ในเมื่อเขามีเจ้าของแล้วก็ควรจะต่างคนต่างอยู่ แต่พอไปถึงรถก็พบว่าปราณต์กำลังยืนพิงรถของเธออยู่คล้ายกับมาดักทาง นัสรินจึงต้องเผชิญหน้ากับเขาอีกคราอย่างเลี่ยงไม่ได้ “กำลังจะหนีกลับล่ะสิ” เขาดักคออย่างรู้ทัน “ค่ะ และคุณเองก็ควรจะกลับไปได้แล้ว” “ผมไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องรีบกลับ” “แล้วคุณไม่กลัวคนไข้จะรอเหรอคะ นี่ไม่ใช่วันหยุดของคลินิกนี่” “จำได้ด้วยเหรอว่าคลินิกของผมหยุดวันไหนบ้าง ไหนบอกว่าลืมทุก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 27

    บทที่ 27“งั้นพาไปที่รถพี่ก็ได้ค่ะ มาช่วยพี่ประคองหน่อย”“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวเมียพี่จัดการเอง” ปราณต์หยิบกระเป๋าเงินมาให้ทิปแล้วโบกมือเป็นเชิงบอกให้ไปได้ ดังนั้นหน้าที่ประคองผู้ชายที่ตัวโตกว่าจึงเป็นของนัสรินคนเดียวหญิงสาวยกแขนของเขาพาดบ่าตัวเอง แล้วพาคนเมาออกจากร้านไปยังรถของตัวเองอย่างทุลักทุเล เพราะคนเมาไม่ให้ความร่วมมือเลย เขาทิ้งน้ำหนักแทบจะทั้งหมดลงบนไหล่ของเธอ ใบหน้าซบลงบนคอ และบ่อยครั้งที่นัสรินรู้สึกว่าปราณต์ใช้จมูกไซ้ซอกคอของเธอเบาๆ“คุณปราณต์เดินดีๆ สิคะ” เธอปรามเขาเสียงขุ่น แม้ว่าลานจอดรถตอนนี้แทบจะไม่มีคน แต่เธอก็ไม่อยากถูกคนเมาหาเศษหาเลยแบบนี้“นี่ก็เดินดีแล้ว เดินด้วยหอมด้วย” เขากระซิบเสียงอ้อแอ้พลางซุกจมูกเข้าที่ซอกคอขาวละมุนอีกครั้ง“ถ้าคุณลวนลามนัสอีก นัสจะปล่อยคุณทิ้งไว้นี่”“ใจร้ายจริง จะหวงตัวกับผัวไปถึงไหน” เสียงทุ้มนั้นพึมพำก่อนจะหัวเราะน้อยๆ“เลิกขี้ตู่เสียทีค่ะ นัสกับคุณไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว สมองเสื่อมหรือไงคะคุณหมอปราณต์” นัสรินคิดว่าตัวเองต้องบ้าแน่ๆ ที่ต่อปากต่อคำกับคนเมา แต่เขาก็ช่างยั่วเหลือเกิน ทำให้บ่อยครั้งที่เธอหลุดการควบคุมตัวเองเพราะคำพูดของเขาเมื่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 28

    บทที่ 28ร่างบางโน้มตัวไปปลดล็อกเข็มขัดนิรภัยอย่างระวังตัว ด้วยกลัวว่าจะถูกฉวยโอกาสเอาอีกครั้ง แต่ปราณต์ก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากนั่งนิ่งๆ เธอจึงยกแขนข้างหนึ่งของเขาขึ้นพาดบ่าและเรียกเขาอีกครั้ง และครั้งนี้ดูเหมือนว่าคนเมาจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เขายอมลงจากรถ ก้าวตามร่างเล็กที่ประคองตัวเองเข้าไปในบ้าน เมื่อถึงโซฟาในห้องโถงนัสรินก็วางร่างใหญ่นั้นลง และเพิ่งสังเกตว่าปราณต์ถือกระเป๋าของเธอมาด้วย แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เธอสนใจเท่ากับสิ่งที่อยู่ในบ้าน ตาคู่สวยกวาดมองสำรวจอย่างอดไม่ได้ บ้านหลังนี้ยังมีบรรยากาศแบบเดิม ปราณต์ยังจัดบ้านและวางทุกอย่างไว้ที่เดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แม้กระทั่งโซฟาตัวนี้ซึ่งเขาเคยใช้มันในการตีตราเธอให้เป็นแม่หม้ายอย่างสมบูรณ์ ปราณต์ก็ไม่ได้ย้ายหรือขยับมันไปไหนเขาคงไม่รู้สึกอะไรที่จะต้องทนมองมันทุกวัน หากแต่นัสรินกลับรู้สึกว่าตัวเองถูกดึงให้จมไปกับอดีตอีกครั้ง ทำให้มือเล็กต้องรีบเอื้อมไปหยิบเอากระเป๋าของตัวเองจากมือเขา เพื่อจะหนีไปจากที่ที่ทำให้หัวใจตัวเองอ่อนไหวในทันที แต่แค่เอื้อมมือไปมือเล็กก็ถูกปราณต์รั้งเอาไว้“จะไปไหน” “นัสจะกลับค่ะ”“พาผมขึ้นไปส่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 29

    บทที่ 29นัสรินมองใบหน้าที่อยู่เหนือใบหน้าของตัวเองอย่างตื่นตระหนก ตอนนี้ท่าทางของปราณต์ไม่มีหลงเหลือวี่แววของคนเมาเลยแม้แต่นิด เธอจึงรู้ตัวว่าเสียรู้เขาให้แล้ว“นี่คุณไม่ได้เมาเหรอคะ”“เมา แต่สร่างเมาตั้งแต่ได้หอมแก้มคุณแล้ว”“คนเจ้าเล่ห์” เธอต่อว่าเขาอย่างเจ็บใจตัวเองที่ถูกหลอก พยายามจะบิดมือออก แต่ยิ่งบิดยิ่งถูกมือแกร่งกดแน่น ซ้ำร้ายไปกว่านั้นเขายังโน้มหน้าลงมาใกล้มากกว่าเดิม จนลมหายใจอุ่นซ่านนั้นมากระทบซอกคอที่ไวต่อความรู้สึกของเธอ“ถ้าไม่เจ้าเล่ห์ คุณจะยอมขึ้นมาส่งถึงนี่เหรอ”“คุณทำแบบนี้เพื่ออะไร”“เพราะผมไม่อยากให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียเก่าไปเป็นชู้กับผัวชาวบ้านน่ะสิ รู้หรือเปล่าว่าหมออรรณพมีเมียแล้ว” ปราณต์ไม่สนใจท่าทีเคืองขุ่นของเธอ แต่เขากลับถามกลับไปอย่างตำหนิ“รู้ค่ะ คุณเป็นคนบอกนัสเองตั้งแต่เมื่อวานไม่ใช่เหรอ”“รู้แล้วทำไมยังไปออกเดต นั่งกินข้าวใต้บรรยากาศสุดโรแมนติกในร้านแบบนั้น”“นัสไม่ได้ทำอะไรที่มันเสียหายนี่คะ นัสแค่ไปคุยงานกับหมอณพ อ้อ...อีกอย่างถึงนัสจะออกเดตกับใคร มันก็เป็นสิทธิ์ของนัสไม่ใช่เหรอคะ ในเมื่อตอนนี้นัสโสด” นัสรินเผลอประชดและสบตากับเขาอย่างไม่ยอมถูกเล่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11

บทล่าสุด

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 41

    บทที่ 41“จะไปงานอะไรคะแม่เลี้ยง”“หนูนัสจะไปงานเลี้ยงราตรีสโมสรของโรงพยาบาล น่าจะจัดที่หอประชุมจังหวัดนั่นแหละ แต่ฉันอยากให้ลูกสะใภ้ของฉันสวยและเด่นที่สุดในงาน คุณวรรณจัดให้ได้ไหม”“ไม่มีปัญหาค่ะแม่เลี้ยง เชิญวัดตัวค่ะคุณนัส”“คุณแม่คะ...” นัสรินกำลังจะเอ่ยแย้งเมื่อได้ยินเช่นนั้น แต่แม่เลี้ยงลักษิกาไม่เปิดโอกาสให้ปฏิเสธใดๆ“แม่เองก็ถูกเชิญให้ไปงานนี้เหมือนกัน กำลังคิดอยู่ว่าจะให้ใครไปแทน เห็นหนูนัสว่าจะไปแม่ก็เลยคิดออก ถือว่าแม่ขอร้องก็แล้วกันนะ แม่จะให้หนูนัสเอาซองของแม่ไปด้วย ถือว่าเป็นตัวแทนของบริษัทด้วย ของแม่ด้วย พอดีช่วงนี้แม่ขี้เกียจออกงาน แก่แล้วก็อยากอยู่กับลูกกับหลานสบายๆ บ้าง”เมื่อถูกขอร้องแกมบังคับเช่นนั้น นัสรินจึงจำต้องยอมให้เจ้าของห้องเสื้อวัดตัวและเลือกแบบชุดให้ตามที่เห็นสมควร พอวัดตัวและเลือกแบบชุดเสร็จแม่เลี้ยงก็สั่งกำชับวรรณาว่า ขอให้เร่งตัดชุดและนำชุดไปส่งให้กับนัสรินที่อพาร์ตเมนต์ของเธอหลังจากวรรณากลับไปแล้ว แม่เลี้ยงลักษิกาก็ไปเปิดเซฟ เขียนเช็คใส่ซองสำหรับบริจาคสมทบทุนให้กับโรงพยาบาล พร้อมกับถือกล่องกำมะหยี่เล็กๆ ติดมือมาด้วยกล่องหนึ่ง“นี่เป็นซองที่แม่จะฝากไป

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 40

    บทที่ 40ทันทีที่กลับมาทำงานเชียงใหม่ในเช้าวันจันทร์ นัสรินก็ได้รับโทรศัพท์จากกิตติ บอกว่าทางโรงพยาบาลจะจัดงานเลี้ยงราตรีสโมสรเพื่อระดมทุนซื้อเครื่องมือแพทย์ บริษัทของเธอในฐานะซัพพลายเออร์จึงต้องไปร่วมงานดังกล่าวและนำทุนส่วนหนึ่งไปมอบให้เพื่อแสดงไมตรีจิต และนัสรินก็ถูกมอบหมายจากกิตติให้ไปร่วมงานดังกล่าวนัสรินรับปากแต่ก็คิดหนัก เพราะคาดว่าต้องเจอปราณต์ในงานนั้นแน่ๆ แต่อีกใจก็ปลอบตัวเองว่า คนในงานน่าจะเยอะอยู่พอสมควร หากเธอหลบเลี่ยงดีๆ ก็คงหนีสายตาของปราณต์พ้น ดังนั้นตอนนี้จึงเหลือเพียงเรื่องเดียวที่ยังเป็นปัญหาก็คือเรื่องชุดที่จะใส่ไปร่วมงาน เธอไม่ได้เตรียมชุดเพื่อจะออกงานกลางคืนมาด้วย เพราะไม่คิดว่าจะต้องได้ไป ดังนั้นหลังจากเคลียร์งานที่โต๊ะเสร็จ นัสรินจึงขับรถไปยังห้างสรรพสินค้าชื่อดังในเชียงใหม่ เพื่อหาชุดราคาจับต้องได้สักชุดสำหรับใส่ไปร่วมงานร่างบางเดินแค่มองสำรวจ ยังไม่ได้แวะร้านไหน เพราะอยากดูโดยรวมก่อน เดินดูชุดร้านนั้นร้านนี้ผ่านกระจกหน้าร้านไปเรื่อยๆ ก็คิดถึงเสื้อผ้าที่ปราณต์พาไปซื้อ ชุดที่เขาซื้อให้มีแต่ชุดแพงๆ วันนั้นเขาหมดไปหลายหมื่นเหมือนกัน ทว่าเธอก็ทิ้งชุดพวกนั้นไว้ในร

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 39

    บทที่ 39“หิวหรือเปล่า อยากกินอะไรมั้ย” ปราณต์หันมาถามหลังออกจากร้านเสื้อผ้าแล้ว“ไม่ค่ะ” นัสรินตอบสั้นๆ ไม่อยากพูดอะไรกับเขาในตอนนี้“ถ้าอย่างนั้นก็กลับ”มือข้างหนึ่งตวัดมากระชับมือของเธอแล้วจูงให้เดินตาม อีกมือถือถุงเสื้อผ้าที่เขาบอกพนักงานขายให้รวมใส่ถุงแค่สามถุงเพื่อจะได้ไม่พะรุงพะรัง แล้วเดินเคียงคู่กันออกไปยังรถ ทำให้นัสรินอดคิดไม่ได้ ตอนนี้ท่าทางที่เขากำลังปฏิบัติกับเธอคงทำให้คนมองเข้าใจว่า เธอกับเขาเป็นคู่รักหรือสามีภรรยาที่มาเดินเที่ยวห้างซื้อของด้วยกันในวันหยุด มีแต่เธอเท่านั้นที่รู้ดีว่ามันไม่ใช่ทั้งสองอย่าง ตอนนี้เธอเป็นเมียเก็บและนางบำเรอของเขาเต็มตัวแล้วนัสรินแปลกใจอย่างมากเมื่อเห็นว่าปราณต์ไม่ได้ขับรถกลับบ้านของเขาอย่างที่เธอคิด แต่เบนจุดหมายไปทางอื่นเหมือนกับว่าเขามีธุระจะทำต่อ ทั้งๆ ที่ก่อนออกจากห้างเขาบอกเธอว่าจะพากลับตาคู่สวยมองถนนเส้นนั้นอย่างคุ้นเคย เพราะมันเป็นถนนที่ไปยังบ้านของเธอ และเมื่อปราณต์ขับรถมาจอดที่หน้าบ้านของเธอจริงๆ เธอก็หันไปมองเขาอย่างหวาดหวั่น“คุณพานัสมาที่นี่ทำไมคะ” นัสรินรีบถามอย่างร้อนใจ กลัวว่าเขาจะทำอะไรห่ามๆ ให้เธอได้อับอายขายหน้าพ่อแม่อีก

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 38

    บทที่ 38ขณะที่นัสรินกำลังขุ่นเคืองคนพูด ร่างสูงก็ขยับมายืนซ้อนหลัง ทำเอานัสรินตัวแข็งทื่อกลัวว่าปราณต์จะมาทำอะไรอย่างที่ตัวเองนึกหวาดหวั่น ไม่ใช่ว่าเธอจะรังเกียจหรือไม่ไยดีต่อไฟปรารถนาของเขา ตรงกันข้ามเธอกลับโหยหามันอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่เธอรู้สึกแย่กับตัวเองที่ร่างกายนี้เป็นที่ปรารถนาของเขา หากแต่หัวใจของเธอเขากลับไม่คิดแม้แต่จะเหลียวแล“เมื่อไหร่จะเลิกประวิงเวลา ไหนว่าอาบน้ำเสร็จจะไปนอนรอบนเตียง” เขาทวงถามถึงคำพูดที่เธอพูดใส่หน้าเขาก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ“ผมนัสยังไม่แห้งนี่คะ จะให้ไปนอน หมอนคุณก็เปียกแย่” เสียงหวานตอบพลางใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดมือราวกับไม่สนใจคำพูดของเขา ทั้งๆ ที่ตอนนี้หัวใจเต้นแรงโลดไปหมด“หมอนเปียก ผมไม่ซีเรียสหรอก แต่ผมจะซีเรียสถ้าหากว่าส่วนอื่นของคุณ ‘เปียก’ โดยที่ผมไม่ได้เป็นคนทำ”คำพูดของเขาทำให้ร่างบางที่นั่งตัวแข็งทื่ออยู่ตอนแรกลุกพรวดพราดขึ้นจากเก้าอี้ และหันหน้าไปเผชิญกับคนชอบหาเรื่องและพูดจาสองแง่สองง่ามด้วยสายตาเคืองขุ่น“หมอลามก! นัสไม่เคยเป็นแบบนั้น”“งั้นก็แสดงว่า ‘เปียก’ เฉพาะกับผมน่ะสิ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างยียวนแววตาก็ไหวระริกอย่างคนที่กำลังขำแต่หน้ากลั

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 37

    บทที่ 37นัสรินคร้านจะมีเรื่องด้วยจึงไปนั่งรอที่โต๊ะหินอ่อน มองดูปราณต์หยิบนั่นหยิบนี่ใส่กระทะอยู่เงียบๆ ตอนนี้ในห้องครัวไม่มีเสียงใดๆ นอกจากเสียงการเคลื่อนไหวของเขา และเสียงตะหลิวที่เคาะกับกระทะเป็นระยะไม่นานข้าวผัดอเมริกันหน้าตาน่ากินสองจานก็ถูกนำมาวางที่โต๊ะ จากนั้นทั้งเขาและเธอต่างก็นั่งกินเงียบๆ หากแต่หญิงสาวแทบจะกลืนข้าวไม่ลง เพราะมีสายตาคมๆ นั้นจดจ้องมองอยู่ตลอดเวลา เมื่ออิ่มนัสรินก็ทำหน้าที่เก็บจานไปล้างอย่างอ้อยอิ่ง พลางคิดว่าหลังจากนี้จะหลบเลี่ยงปราณต์ยังไง เธออยากมีเวลาอยู่กับตัวเองก่อน ไม่ใช่อยู่ในสายตาของเขาทุกย่างก้าวแบบนี้ แต่ปราณต์ก็ไม่ให้เวลาเธอคิด เมื่อเธอล้างจานไม่เสร็จเสียที เขาก็เป็นฝ่ายดึงจานจากมือเล็ก จัดการล้างเสียเองและเสร็จภายในไม่กี่พริบตา จากนั้นเขาก็หันหน้ามาเผชิญกับคนที่ยืนมองอยู่ข้างๆ พร้อมกับจับข้อมือของเธอเอาไว้มั่น“คราวนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว เราขึ้นห้องกันเถอะ”ขึ้นห้อง...เขาคงไม่พาขึ้นไปเฉยๆ หรอกกระมัง ในเมื่อเขาประกาศความต้องการของตัวเองออกจะชัด ว่าเขาพาเธอมาที่นี่ทำไม“คุณขึ้นไปก่อนเถอะค่ะ นัสขอเดินย่อยอาหารสักพัก” นั่นเป็นข้ออ้างเดียวที่เธอคิดออกในเ

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 36

    บทที่ 36“ผมพูดความจริงต่างหาก หรือคุณจะปฏิเสธว่าเวลาคุณจะถึงคุณไม่ครางแบบนี้”“หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ ถ้าไม่หยุดนัสจะ...จะ...” จู่ๆ นัสรินก็คิดไม่ออกขึ้นมาดื้อๆ ว่าจะขู่อะไรดี ปราณต์ถึงจะกลัว“จะอะไร” คิ้วเข้มเลิกขึ้นและยิ้มยวนอย่างท้าทาย นั่นยิ่งทำให้คนที่เป็นฝ่ายถูกต้อนเจ็บใจมากกว่าเดิม จึงคว้ามีดที่อยู่ใกล้ๆ แล้วยกขึ้น“นัสจะแทงคุณด้วยมีดนี่” นัสรินหวังว่าความแหลมคมของมีดจะทำให้ปราณต์กลัวและเลิกตอแยกับเธอ แต่เปล่าเลยเขายังคงยืนนิ่งและท้าทายให้เธอลงมือจริงๆ“ก็เอาสินัสริน อยากแทงตรงไหนบนตัวผมก็แทงเลย จะแทงที่คอ ที่หัวใจ หรือจะที่ท้องก็ได้นะ ผมขออย่างเดียวอย่าแทงข้างหลังผมอีก”“คุณอย่านึกว่านัสไม่กล้านะ” ปากขู่ฟ่อ แต่มือสั่นเทา ขอบตาก็เริ่มร้อนผ่าวเมื่อปราณต์ยืนรอราวกับไม่อนาทรต่อความเจ็บปวดที่เธอจะมอบให้แม้แต่นิด“ก็ไม่คิดว่าจะไม่กล้า ผมแค่บอกให้คุณแทงตามสบาย แทงได้ทุกที่ ยกเว้นข้างหลังผม”คำพูดอันตอกย้ำว่าเขาไม่อยากถูกแทงข้างหลังอีก บวกกับท่าทีที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงของร่างสูงซึ่งอยู่ตรงหน้า ทำให้นัสรินเป็นฝ่ายยอมแพ้เสียเอง เธอวางมีดในมือลงที่เดิม พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาจนตัวโยน“

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 35

    บทที่ 35แท็กซี่จากสนามบินแล่นมาจอดยังลานหน้าบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ย่านชานเมืองกรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่กว้างขวางกว่าสามร้อยตารางวา มีรั้วรอบขอบชิดแน่นหนา พื้นที่รอบบ้านเต็มไปด้วยสีเขียวขจีของสนามหญ้าซึ่งปลูกแซมด้วยต้นปาล์ม ให้ความรู้สึกโอ่อ่ากว้างขวาง ชวนสบาย บ่งบอกถึงฐานะผู้เป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดีสำอางกับลุงเล็กสองสามีภรรยาที่ทำหน้าที่เฝ้าบ้านรวมทั้งสายหยุดลูกสาวของทั้งคู่ต่างเดินมาดู เมื่อเห็นว่าคนที่ลงมาจากรถคือปราณต์ซึ่งมาพร้อมกับนัสรินที่เป็นอดีตภรรยาเก่าก็ต้องแปลกใจเป็นอย่างมาก“สวัสดีค่ะคุณปราณต์ คุณนัส” สำอางยกมือขึ้นไหว้ทั้งสองคน ซึ่งปราณต์และนัสรินก็ยกมือขึ้นรับไหว้ เพราะถึงแม้ว่าสำอางจะเป็นลูกจ้างแต่ก็เป็นผู้ใหญ่กว่า“สบายดีนะป้าสำอาง ลุงเล็ก สายหยุด”“สบายดีทุกคนค่ะ อิฉันไม่ทราบว่าคุณปราณต์จะมา ไม่อย่างนั้นคงให้ตาเล็กไปรับที่สนามบินแล้วละค่ะ”“ไม่เป็นไรหรอก ผมนั่งแท็กซี่มาเองก็ไม่ได้ลำบากอะไร ทุกคนมีอะไรก็ไปทำเถอะ เดี๋ยวผมดูแลตัวเองได้ อ้อ...แล้วไม่ต้องโทร.บอกแม่ล่ะว่าผมมาที่นี่” ปราณต์สั่งกำชับในประโยคท้าย ทำให้ทุกคนต่างพยักหน้ารับรู้ แม้จะสงสัยและอยากบอกแม่เลี้ยงลัก

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 34

    บทที่ 34นัสรินหยิบมาเปิดดู ก่อนจะหน้าซีดเผือดราวกับขาดโลหิตอย่างอึ้งๆ เพราะจำนนด้วยหลักฐาน เธอไม่คิดว่าปราณต์จะได้เห็นการ์ดพวกนี้ เพราะการ์ดพวกนี้เป็นส่วนที่เธอแจกให้กับญาติและเพื่อนสนิทฝั่งตัวเอง ซึ่งในการ์ดแต่งงานที่ออกแบบอย่างสวยงามนั้น ระบุชื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นชื่อของเธอกับเขา นั่นเป็นการยืนยันชัดว่าการแต่งงานที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขาไม่ใช่เกิดขึ้นเพราะสาเหตุของการตกกระไดพลอยโจน แต่เกิดจากความตั้งใจของเธอกับปรัชญ์ที่วางแผนการเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะให้ปราณต์แต่งงานกับเธอแทน“คุณอยากให้นัสชดใช้ยังไงล่ะคะ” เธอหันไปถามเมื่อคิดว่ายังไงเรื่องนี้ตัวเองก็เป็นคนทำผิดจริงๆ“คุณน่าจะรู้ดีนะนัสริน ว่าผมยังต้องการร่างกายของคุณ”คำพูดนั้นแสนเย็นชาและฟังดูใจร้ายเหลือเกิน และแม้นัสรินจะรู้อยู่แล้วก็ยังอดปลาบแปลบใจไม่ได้“นัสก็ให้คุณไปแล้วนี่คะ” นัสรินเชิดหน้าขึ้นตอบ พยายามทำตัวให้นิ่งเฉย เหมือนกับไม่รู้สึกรู้สาต่อคำพูดของเขาเช่นกัน“น้อยไปไหม แค่ครั้งเดียวผมยังไม่อิ่มหรอก”“แล้วต้องกี่ครั้ง คุณปราณต์ถึงจะพอ”“จนกว่าผมจะพอใจ”นัสรินจ้องหน้าคนใจร้ายเลือดเย็นอย่างน้อยใจ เขาช่างพูดออกมาได้ว่าเธอ

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 33

    บทที่ 33เสียงโทรศัทพ์มือถือซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ ทำให้ตาคู่สวยที่บอบช้ำจากการร้องไห้อย่างหนักในตอนเช้า ต้องละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อก้มดูหน้าจอว่าใครโทร.มา แม้หัวใจจะเจ็บช้ำปานใดเมื่อเห็นว่าเบอร์ที่โทร.เข้ามาเป็นเบอร์ของคนในครอบครัวของปราณต์ แต่นัสรินก็ตัดสินใจรับเพราะอย่างน้อยธรินดาก็ยังเป็นน้องสาวที่น่ารักสำหรับเธอมาตลอด ตั้งแต่ครั้งที่เธอยังหมั้นกับปรัชญ์“สวัสดีจ้ะน้องเล็ก” น้ำเสียงยามกรอกลงไปในโทรศัพท์นั้นยังพยายามฝืนให้เป็นปกติ ไม่ให้อีกฝ่ายจับสังเกตได้ว่าตอนนี้เธออยู่ในอาการเช่นใด แม่เลี้ยงลักษิกาคงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าให้กับธรินดาและปรัชญ์ฟังหมดแล้ว และนั่นคงเป็นเหตุผลที่ธรินดาโทร.มาหา“สวัสดีค่ะพี่นัส วันหยุดนี้พี่นัสจะไปไหนหรือเปล่าคะ พวกเราว่าจะไปเที่ยวดอยที่เชียงรายกัน พี่นัสไปด้วยกันไหมคะ”ธรินดาเอ่ยชวนมาอย่างมีไมตรีจนคนฟังสัมผัสได้ถึงความจริงใจ หากเป็นเมื่อก่อนเธออาจลังเลว่าจะไปด้วยดีหรือไม่ เพราะอย่างน้อยคนในครอบครัวของอดีตสามีก็ดีกับเธอทุกคน แต่หลังจากเหตุการณ์เมื่อเช้าเธอคงไม่มีหน้าไปพบใคร“วันเสาร์นี้พี่จะกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ที่กรุงเทพฯ น่ะจ้ะ เอาไว

DMCA.com Protection Status