แชร์

บทที่ 26

บทที่ 26

                หมออรรณพทำท่าผิดหวังไม่น้อย เมื่อนัสรินเอ่ยปากขอตัวกลับก่อนเหมือนเช่นเมื่อวาน เขารู้แน่แล้วว่าหญิงสาวที่สวยซ่อนเปรี้ยวผู้นี้คงไม่เล่นด้วยง่ายๆ แม้จะเสียดายอยู่ลึกๆ แต่ก็คิดว่าตัวเองยังพอมีโอกาส ดังนั้นช่วงนี้เขาเองก็จะไปหาคนที่เต็มใจฆ่าเวลาไปก่อน

                ทางด้านหญิงสาวที่กำลังเป็นประเด็นกับผู้ชายสองคน แม้ว่าจะเอ่ยขอตัวกลับกับหมออรรณพแล้ว นัสรินก็ไม่ได้ออกไปหาปราณต์แต่อย่างใด เธอออกทางประตูหน้าและเดินอ้อมไปยังลานจอดรถ เพื่อจะหนีหน้าคนที่เพิ่งมาข่มขู่ตัวเอง เธอไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขา ในเมื่อเขามีเจ้าของแล้วก็ควรจะต่างคนต่างอยู่ แต่พอไปถึงรถก็พบว่าปราณต์กำลังยืนพิงรถของเธออยู่คล้ายกับมาดักทาง นัสรินจึงต้องเผชิญหน้ากับเขาอีกคราอย่างเลี่ยงไม่ได้

                “กำลังจะหนีกลับล่ะสิ” เขาดักคออย่างรู้ทัน

                “ค่ะ และคุณเองก็ควรจะกลับไปได้แล้ว”

                “ผมไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องรีบกลับ”

                “แล้วคุณไม่กลัวคนไข้จะรอเหรอคะ นี่ไม่ใช่วันหยุดของคลินิกนี่”

                “จำได้ด้วยเหรอว่าคลินิกของผมหยุดวันไหนบ้าง ไหนบอกว่าลืมทุกอย่างเกี่ยวกับผมไปหมดแล้ว”

                นัสรินรู้สึกเสียหน้าและเจ็บใจตัวเองที่เผลอพูดอะไรไม่คิดให้เขาเข้าข้างตัวเอง ยิ่งเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าคร้ามคมอันแสนเย็นชา และแววตาที่เหมือนจะรู้ทันความคิดของเธอไปหมด เธอก็ยิ่งเกลียดขี้หน้า

                “ก็แค่เรื่องเดียวเท่านั้นละค่ะที่สมองของนัสยังลบออกไปไม่หมด”

                “เอาเป็นว่าผมจะพยายามเชื่อ เอากุญแจรถมาให้ผม” เขาสั่งพร้อมกับแบมือรอ แต่นัสรินเชิดหน้าและไม่คิดจะยอมง่ายๆ

                “นัสไม่ให้ค่ะ คุณมาทางไหนก็กลับไปทางนั้น อย่ามายุ่งกับนัส”

                “จะส่งมาดีๆ หรือให้ผม ‘ล้วง’ เอาเอง”

                “หมอบ้า! หมอลามก!” นัสรินได้แต่ก่นด่าอย่างอับอายกับคำพูดที่เขาจงใจเน้นไปในเชิงหยาบโลน

                “ผมบ้าได้มากกว่าที่คุณคิด คราวที่แล้วยังกล้าจับคุณจูบที่หน้าร้านได้เลย คราวนี้ถ้าจะจับคุณแล้ว ‘ล้วง’ เอากุญแจมันก็ไม่น่ายาก”

                “แล้วทำไมคุณไม่ขับรถคุณไปเองล่ะคะ ต่างคนต่างไปก็ได้นี่”

                “ผมมาแท็กซี่” เขาตอบสั้นๆ ไม่ได้อธิบายขยายความ ว่าที่อุตส่าห์ลงทุนนั่งแท็กซี่มาดักเธอที่นี่ก็เพื่อหวังผลบางอย่าง

                “นัสต้องบ้าแน่ๆ ถ้านัสยอมคุณ”

                “คุณต้องยอมผมนัสริน”

นายแพทย์หนุ่มพูดพลางจ้องมองใบหน้าหวานๆ นั้นด้วยแววตาที่บอกว่าเอาจริง ทำให้นัสรินต้องถอนหายใจอย่างฟึดฟัด แต่ก็ยอมล้วงเอากุญแจรถในกระเป๋าตัวเองส่งให้ปราณต์ในที่สุด

“คุณจะพานัสไปไหน?” เสียงหวานรีบเอ่ยถามอดีตสามีเมื่อเขาขับรถพาออกมาจากร้านอาหารแห่งนั้นแล้ว โดยไม่ได้บอกจุดหมายปลายทางว่าจะพาเธอไปที่ใด อีกทั้งเส้นทางดังกล่าวก็ไม่ใช่ทางกลับอพาร์ตเมนต์ที่เธอพักอยู่

“คุณติดหนี้บุญคุณผมอยู่ไม่ใช่เหรอ ผมจะให้เลี้ยงข้าว”

“แต่นัสอิ่มแล้ว”

“อิ่มแล้วก็ไม่ต้องกิน แค่ไปนั่งรอจ่ายเงินเท่านั้น”

“ถ้านัสเลี้ยงข้าวคุณแล้ว เราจะไม่มีอะไรค้างคากันอีกแล้วใช่มั้ย”

“ไม่แน่ว่าอาจจะทั้ง ‘ค้าง’ ทั้ง ‘คา’ ก็ได้”

“คนบ้า!” เสียงหวานได้แต่บ่นพึมพำเมื่ออดีตสามีจงใจพูดกินนัยลึกให้เธอหน้าแดงเล่น

ปราณต์หัวเราะแล้วพาขับรถมายังร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งร้านนั้นไม่ใช่ร้านอาหารธรรมดาทั่วไป แต่เป็นร้านอาหารกึ่งผับ และมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้บริการด้วย

“แน่ใจนะว่าจะไม่กินอีก” ปราณต์ถามย้ำหลังจากเข้ามานั่งในร้านแล้ว

“แน่ใจค่ะ คุณอยากกินอะไรก็กินเถอะค่ะ กินเสร็จนัสจะได้กลับเสียที”

“อ้อ...ลืมไปว่าอิ่มอกอิ่มใจกับการละเลียดอาหารมื้อเย็นอันเลิศรสกับผัวชาวบ้านมาแล้ว”

นัสรินรู้ว่าเขาจงใจพูดจาดูถูกจึงข่มใจไม่ให้ตอบโต้ และนั่งนิ่งเหมือนไม่รู้สึกรู้สากับคำพูดของเขา ปราณต์จึงหัวเราะในลำคอเบาๆ คล้ายดั่งเยาะหยัน ก่อนจะหันไปสั่งอาหารกับพนักงานร้าน ซึ่งเขาไม่ได้สั่งแค่อาหารแต่ยังสั่งเหล้ามาดื่มด้วย

“นี่คุณปราณต์จะดื่มเหล้าด้วยเหรอคะ”

“ที่ถามนี่เป็นห่วงหรือกลัวเปลืองเงิน”

“นัสไม่ได้กลัวเปลืองเงิน”

“งั้นก็แสดงว่าห่วงผม”

“คนหลงตัวเอง นัสมีเหตุผลอะไรที่จะต้องห่วงคุณ”

“อย่างน้อยผมก็อยู่ในฐานะ ‘ผัว’ เก่า”

เป็นอีกครั้งที่นัสรินต้องเลือกที่จะไม่ตอบโต้ เพราะพูดไปก็มีแต่เสียเปรียบ เป็นจังหวะเดียวกับที่พนักงานของร้านซึ่งเป็นชายหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ นำอาหารกับเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ พร้อมกับจัดการชงเหล้าให้กับปราณต์ตามที่เขาบอก

ปราณต์ตักนั่นตักนี่ใส่ปาก สลับกับยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม โดยมีอดีตภรรยานั่งมองอย่างกระวนกระวาย เมื่อเห็นว่าหลังๆ มาเขาดื่มเหล้ามากกว่าทานอาหาร

เวลาผ่านไปเกือบๆ สองชั่วโมง คนที่นั่งดื่มเหล้าก็เริ่มมีอาการพูดลิ้นพันกัน เขากำลังจะยกเหล้าขึ้นดื่มอีกแล้ว แต่นัสรินซึ่งทนมองเฉยๆ ไม่ไหวอีกต่อไป จึงเอื้อมไปแย่งแก้วมาจากมือเขาพร้อมกับเอ่ยห้าม

“พอแล้วค่ะ คุณเมาแล้วนะคะ”

“งั้นก็เช็กบิลสิ จะได้กลับ” เขาพูดเสียงยานคางและหัวเราะในลำคอเบาๆ

นัสรินเรียกพนักงานที่คอยทำหน้าที่บริการโต๊ะของเธอให้เช็กบิล หลังจากเธอจ่ายเงินเสร็จ ปราณต์ก็ลุกขึ้นยืนแต่ยืนแบบโงนเงน ทำให้นัสรินต้องถลาเข้าไปประคองอย่างลืมตัว

“ระวังหน่อยสิคะ เดี๋ยวก็ล้มหัวร้างข้างแตกเอาหรอก”

“ดีใจที่เมียเป็นห่วง” เขากระซิบเสียงพร่าที่หูของเธอ ทำเอานัสรินหน้าแดงซ่าน กลิ่นแอลกอฮอล์โชยมากับลมหายใจของเขาชวนให้นึกถึงเหตุการณ์ในคืนก่อนวันหย่ากัน

“น้องคะ เรียกแท็กซี่ให้พี่หน่อย” นัสรินหันไปบอกพนักงานชายคนเดิม

“ผัวเมาขนาดนี้ ยังจะผลักไสไล่ส่งให้กลับแท็กซี่ ผู้หญิงอะไรใจดำชะมัด”

แม้เสียงของเขาจะอ้อแอ้แต่พนักงานชายคนนั้นก็ได้ยินเต็มสองหู และมองหน้าเธอเหมือนจะรอคำยืนยันอีกรอบ นัสรินหน้าเจื่อน เพราะสายตาที่พนักงานผู้นั้นมองมาอย่างประณาม ไม่ต่างอะไรกับคำพูดของปราณต์ที่หาว่าเธอใจดำ

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status