แชร์

บทที่ 33

บทที่ 33

เสียงโทรศัทพ์มือถือซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ ทำให้ตาคู่สวยที่บอบช้ำจากการร้องไห้อย่างหนักในตอนเช้า ต้องละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อก้มดูหน้าจอว่าใครโทร.มา แม้หัวใจจะเจ็บช้ำปานใดเมื่อเห็นว่าเบอร์ที่โทร.เข้ามาเป็นเบอร์ของคนในครอบครัวของปราณต์ แต่นัสรินก็ตัดสินใจรับเพราะอย่างน้อยธรินดาก็ยังเป็นน้องสาวที่น่ารักสำหรับเธอมาตลอด ตั้งแต่ครั้งที่เธอยังหมั้นกับปรัชญ์

“สวัสดีจ้ะน้องเล็ก” น้ำเสียงยามกรอกลงไปในโทรศัพท์นั้นยังพยายามฝืนให้เป็นปกติ ไม่ให้อีกฝ่ายจับสังเกตได้ว่าตอนนี้เธออยู่ในอาการเช่นใด แม่เลี้ยงลักษิกาคงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าให้กับธรินดาและปรัชญ์ฟังหมดแล้ว และนั่นคงเป็นเหตุผลที่ธรินดาโทร.มาหา

“สวัสดีค่ะพี่นัส วันหยุดนี้พี่นัสจะไปไหนหรือเปล่าคะ พวกเราว่าจะไปเที่ยวดอยที่เชียงรายกัน พี่นัสไปด้วยกันไหมคะ”

ธรินดาเอ่ยชวนมาอย่างมีไมตรีจนคนฟังสัมผัสได้ถึงความจริงใจ หากเป็นเมื่อก่อนเธออาจลังเลว่าจะไปด้วยดีหรือไม่ เพราะอย่างน้อยคนในครอบครัวของอดีตสามีก็ดีกับเธอทุกคน แต่หลังจากเหตุการณ์เมื่อเช้าเธอคงไม่มีหน้าไปพบใคร

“วันเสาร์นี้พี่จะกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ที่กรุงเทพฯ น่ะจ้ะ เอาไว้โอกาสหน้านะน้องเล็ก”

“ว้าเสียดายจัง เล็กอยากให้พี่นัสไปเที่ยวด้วยจริงๆ นะคะ ดอยที่เชียงรายสวยมาก พี่นัสคงยังไม่เคยไป งั้นเอาไว้โอกาสหน้านะคะ แล้วก็ขอให้เดินทางปลอดภัยค่ะ”

“เช่นกันจ้ะ ขอให้เดินทางปลอดภัยและเที่ยวให้สนุกนะน้องเล็ก”

นัสรินวางสายลงพร้อมกับความหนักอึ้งในอกที่ยังสลัดไม่ออก ครอบครัวของปราณต์ช่างเป็นครอบครัวที่น่ารักเหลือเกิน พวกเขายังมีน้ำใจแม้แต่กับอดีตสะใภ้อย่างเธอ แม้ช่วงเวลาที่เป็นสะใภ้จะสั้นแค่สามเดือนก็ตาม

ใบหน้าสวยหวานแหงนเงยขึ้นมองเพดาน เพื่อหักห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาอีกครั้ง เมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าอีกไม่นานปราณต์ก็คงมีสะใภ้คนใหม่ให้ครอบครัวแล้ว ส่วนเธอก็แค่อดีตภรรยาและเป็นแค่ผู้หญิงโง่ๆ ที่ตกลงไปในหลุมพรางความโกรธเกลียดของเขา

เธอบอกกับธรินดาว่าจะกลับบ้านหาพ่อแม่ที่กรุงเทพฯ ทั้งที่ความจริงแล้วยังไม่ได้จองตั๋วด้วยซ้ำ แต่ในยามนี้เธอโหยหาอ้อมกอดของท่านทั้งสองมากที่สุด ดังนั้นนัสรินจึงตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินไปกลับในช่วงวันหยุดที่จะถึงนี้ทันที อย่างน้อยก็เพื่อไม่ให้เป็นการโกหกธรินดา และเธอเองก็จะได้กลับไปซึมซับเอาความอบอุ่นเพื่อเยียวยาหัวใจให้กลับมาเข้มแข็งดังเดิม

วันหยุดสุดสัปดาห์เช่นนี้บรรยากาศในสนามบินเชียงใหม่คึกคักมากเป็นพิเศษ นัสรินขับรถมาจอดไว้ที่สนามบินและฝากรถไว้ที่นั่นเลย เพราะวันอาทิตย์ช่วงเย็นก็เดินทางกลับมาแล้ว เธอมาถึงสนามบินก่อนเวลาบอร์ดดิ้งไทม์เกือบหนึ่งชั่วโมง จึงเข้าไปรอในห้องผู้โดยสารที่หน้าเกทเลย

ร่างบางซึ่งแต่งตัวด้วยชุดลำลองที่เหมือนธรรมดา แต่กลับสะกดสายตาของใครหลายคนให้มองตามแทบเหลียวหลัง อาจเป็นด้วยรูปร่างและการแต่งตัวที่เข้ากับตัวเองเหมือนคนช่างเลือก แต่จริงๆ แล้วเธอไม่ได้เลือกอะไรมากมาย ชุดที่ใส่อยู่ตอนนี้เป็นแค่เสื้อสายเดี่ยวผ้ามันลื่นสีแดงเลือดหมู สวมทับด้วยเสื้อแขนเบลเซอร์ปรินต์ลายห้าส่วนทรงเข้ารูป ช่วงล่างเป็นกางเกงยีนสีซีดแบบแฟชั่น กับรองเท้าส้นสูงที่ใส่ทำงานอยู่เป็นประจำเท่านั้น ที่จริงเธอก็ไม่อยากใส่รองเท้าส้นสูงคู่นี้สักเท่าไหร่ แต่ที่ห้องมีรองเท้าแค่สามคู่ เป็นรองเท้าส้นสูงสองคู่ และรองเท้าแตะอีกหนึ่งคู่เท่านั้น

นัสรินเลือกนั่งที่เก้าอี้เบาะนุ่มสีกรมท่าซึ่งสนามบินจัดไว้ให้ที่หน้าเกท โดยเลือกนั่งแถวหลังสุดซึ่งไม่มีใครนั่งอยู่ กระเป๋าสะพายถูกนำมาวางไว้ที่ตัก และกำลังจะค้นเอาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ามากดเล่นฆ่าเวลา แต่เธอก็ต้องตกใจจนหน้าซีดเมื่อมีใครคนหนึ่งทรุดตัวนั่งลงข้างๆ พร้อมกับพาดมือมาที่พนักเก้าอี้ที่เธอนั่งอยู่

“คุณปราณต์!” เสียงหวานอุทานขึ้นเมื่อหันไปดูว่าคนที่ทำตัวถือวิสาสะอย่างน่าเกลียดนั้นคือใคร

“ทำไมจะต้องอุทานขนาดนั้นกะอีแค่เห็นหน้าผัว” ปราณต์ไม่ได้พูดเบาสักนิด จึงทำให้คนที่นั่งอยู่เก้าอี้แถวหน้าหันมามอง จนนัสรินหน้าแดงไปหมด

“คุณไม่ใช่ผัวนัส” นัสรินตอบโต้ไปอย่างเบาที่สุด เพื่อไม่ให้คนข้างหน้าได้ยิน

“แล้วไอ้ที่ทำกันคืนนั้นตั้งหลายท่าล่ะ เรียกว่าอะไรล่ะหืม”

ปราณต์ก้มลงมากระซิบถามบ้าง ทำให้หญิงสาวต้องเอียงหน้าหนีเพราะกลัวจมูกเขาจะชนกับแก้มนวล

“จะเรียกว่าอะไรก็สุดแล้วแต่เถอะค่ะ เพราะมันไม่มีความหมายอะไรกับนัสอยู่แล้ว”

“เป็นผู้หญิงฟรีเซ็กซ์ว่างั้น”

“จะเรียกอย่างนั้นก็ได้ค่ะ” คราวนี้นัสรินขยับมานั่งตัวตรงและเชิดหน้าขึ้นราวกับไม่แคร์ เพราะเริ่มตั้งตัวได้แล้ว อีกทั้งคำพูดของเขาก็ทำให้เธอลืมความรู้สึกอย่างอื่นไปจนสิ้น เหลือไว้แต่ความโกรธเคืองเท่านั้น

“แล้วนี่จะไปไหน”

“นัสจะกลับบ้านช่วงวันหยุด แล้วคุณหมอล่ะคะ” เธอตอบและถามอย่างห่างเหิน

“บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เรียกแบบนี้ คุณไม่ใช่คนไข้ของผม” ปราณต์ไม่ตอบในสิ่งที่นัสรินถาม แต่กลับตำหนิกับสรรพนามที่เธอใช้เรียกเขาเหมือนกับไม่พอใจ

“ถึงจะไม่ใช่ แต่เราก็ไม่ได้สนิทกันอีกต่อไปแล้ว”

“แต่ผมว่าเรามีเรื่องที่ต้องสะสางกันอีกนะนัสริน”

“คุณหมอต้องการอะไรจากนัส”

“ผมต้องการให้คุณชดใช้ในสิ่งที่คุณกับปรัชญ์เคยทำไว้กับผม”

ปราณต์พูดพร้อมกับหยิบเอาการ์ดแต่งงานที่เคยได้จากเพื่อนของนัสรินออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูท แล้วยื่นมันไปให้กับเธอ

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status