แชร์

บทที่ 40

บทที่ 40

ทันทีที่กลับมาทำงานเชียงใหม่ในเช้าวันจันทร์ นัสรินก็ได้รับโทรศัพท์จากกิตติ บอกว่าทางโรงพยาบาลจะจัดงานเลี้ยงราตรีสโมสรเพื่อระดมทุนซื้อเครื่องมือแพทย์ บริษัทของเธอในฐานะซัพพลายเออร์จึงต้องไปร่วมงานดังกล่าวและนำทุนส่วนหนึ่งไปมอบให้เพื่อแสดงไมตรีจิต และนัสรินก็ถูกมอบหมายจากกิตติให้ไปร่วมงานดังกล่าว

นัสรินรับปากแต่ก็คิดหนัก เพราะคาดว่าต้องเจอปราณต์ในงานนั้นแน่ๆ แต่อีกใจก็ปลอบตัวเองว่า คนในงานน่าจะเยอะอยู่พอสมควร หากเธอหลบเลี่ยงดีๆ ก็คงหนีสายตาของปราณต์พ้น ดังนั้นตอนนี้จึงเหลือเพียงเรื่องเดียวที่ยังเป็นปัญหาก็คือเรื่องชุดที่จะใส่ไปร่วมงาน เธอไม่ได้เตรียมชุดเพื่อจะออกงานกลางคืนมาด้วย เพราะไม่คิดว่าจะต้องได้ไป ดังนั้นหลังจากเคลียร์งานที่โต๊ะเสร็จ นัสรินจึงขับรถไปยังห้างสรรพสินค้าชื่อดังในเชียงใหม่ เพื่อหาชุดราคาจับต้องได้สักชุดสำหรับใส่ไปร่วมงาน

ร่างบางเดินแค่มองสำรวจ ยังไม่ได้แวะร้านไหน เพราะอยากดูโดยรวมก่อน เดินดูชุดร้านนั้นร้านนี้ผ่านกระจกหน้าร้านไปเรื่อยๆ ก็คิดถึงเสื้อผ้าที่ปราณต์พาไปซื้อ ชุดที่เขาซื้อให้มีแต่ชุดแพงๆ วันนั้นเขาหมดไปหลายหมื่นเหมือนกัน ทว่าเธอก็ทิ้งชุดพวกนั้นไว้ในรถของเขา ไม่รู้ว่าปราณต์หิ้วมันมาจากกรุงเทพฯ ด้วยหรือเปล่า แต่จนวันนี้เธอก็ยังไม่เห็นเขาเอาชุดมาให้ นั่นแสดงว่าเขาอาจจะไม่ได้ใส่ใจ หรือไม่ก็ทิ้งชุดพวกนั้นไว้ในรถของเขาเหมือนที่กำลังทิ้งเธอกระมัง

“หนูนัส...”

นัสรินที่กำลังคิดเรื่องเกี่ยวกับปราณต์ตื่นจากภวังค์ เมื่อมีเสียงคุ้นหูเรียกขึ้นจากทางด้านหลัง มันทำให้เธอคิดถึงเหตุการณ์ครั้งก่อนที่มาเดินซื้อของแล้วได้เจอกับปรัชญ์และธรินดา ซึ่งครั้งนี้คนที่เรียกก็ยังเป็นคนในครอบครัวของปราณต์เช่นเดิม และถือเป็นประมุขสูงสุดของคุ้มลักษิกาก็ว่าได้

“สวัสดีค่ะคุณแม่” นัสรินยกมือขึ้นไหว้และยิ้มให้กับแม่ของอดีตสามี ซึ่งยังคงมองเธอด้วยสายตาอันเต็มไปด้วยความเอ็นดูดังเดิม แต่เธอกลับไม่กล้าสู้สายตาของแม่เลี้ยงลักษิกานัก เพราะเหตุการณ์อันน่าอายที่บ้านของปราณต์ในเช้าวันนั้นทำให้เธอรู้สึกเหมือนเด็กทำความผิด แล้วโดนผู้ใหญ่จับได้

“หนูนัสมาทำอะไร” แม่เลี้ยงลักษิกาถามอย่างเป็นกันเอง ไม่ได้มีทีท่าว่าจะตะขิดตะขวงใจหรือติเตียนการกระทำของเธอแต่อย่างใด

“นัสหามาซื้อชุดน่ะค่ะ แล้วคุณแม่ล่ะคะ”

“แม่มาดูของขวัญวันเกิดให้แม่เลี้ยงแสงหล้าน่ะ ดูๆ เผื่อไว้เพราะเดือนหน้าจะมีงานเลี้ยงฉลองครบรอบหกสิบปีของแม่เลี้ยงแสงหล้า แล้วนี่หนูนัสจะซื้อชุดไปงานอะไรลูก”

“งานเลี้ยงราตรีสโมสรของโรงพยาบาลน่ะค่ะ นัสต้องเป็นตัวแทนบริษัทไปร่วมงาน” หญิงสาวตอบไปตามความจริง แต่พอได้ยินเช่นนั้นแม่เลี้ยงลักษิกาเหมือนกับจะยิ้มพรายออกมา แต่ก็ไม่ได้ยิ้มแค่ทวงถามบางอย่างที่ทำให้นัสรินหนักใจไม่น้อย

“แล้วนี่เมื่อไหร่จะไปเยี่ยมแม่ที่คุ้มบ้างล่ะ หนูนัสเคยสัญญากับแม่ว่าจะไปเยี่ยมแม่ที่คุ้มลักษิกา แต่หนูนัสก็ยังไม่เคยไป”

“นัสต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ นัสยังไม่มีเวลาไปเลย” นัสรินตอบอ้อมแอ้ม ความจริงก็อยากไป แต่ก็กลัวจะเจอปราณต์เหมือนวันนั้น

“ที่ไม่กล้าไปหาแม่ก็เพราะกลัวจะเจอพ่อตัวดีที่นั่นด้วยใช่มั้ย” แม่เลี้ยงลักษิกาถามดักคอราวกับอ่านใจและความคิดของนัสรินออก

“ค่ะ...” นัสรินจำต้องยอมรับความจริงเพราะไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไรดี

“ถ้าแม่รับรองว่าวันนี้หนูนัสจะไม่ได้เจอตาปราณต์ที่คุ้มลักษิกา หนูนัสจะไปที่คุ้มพร้อมแม่เลยได้ไหม”

“ค่ะคุณแม่ เดี๋ยวนัสจะขับรถตามไปนะคะ” นัสรินตอบตกลงรับปาก เพราะไม่อยากให้ผู้ใหญ่เสียน้ำใจ อย่างน้อยการไปที่คุ้มลักษิกาเธอก็จะได้คุยกับธรินดาและปรัชญ์ รวมถึงได้เห็นเด็กน้อยที่หน้าตาน่าเอ็นดูอย่างหนูนิลด้วย เห็นหน้าใสๆ แก้มแดงๆ นั้นก็เผลอคิดไปอีกว่า หากตอนนี้เธอกับปราณต์ยังไม่หย่ากัน เธอจะมีลูกกับเขาหรือยัง แล้วลูกที่เกิดมาจะมีหน้าตาเป็นยังไง

ขณะที่นัสรินกำลังยืนหมกมุ่นกับความคิดของตัวเอง แม่เลี้ยงลักษิกาก็โทร.หาช่างเสื้อประจำตัว พร้อมกับสั่งเสร็จสรรพ

“คุณวรรณวันนี้ว่างหรือเปล่า พอจะมีเวลาไปหาฉันที่คุ้มหน่อยมั้ย”

“สำหรับแม่เลี้ยง วรรณมีเวลาเสมอค่ะ” ฝ่ายนั้นรีบตอบกลับมาอย่างกระตือรือร้น เพราะการได้ให้บริการคนระดับแม่เลี้ยงลักษิกาย่อมเป็นการการันตีชื่อเสียงของร้าน แถมแม่เลี้ยงยังจ่ายทิปให้งามด้วย

“เดี๋ยวฉันกำลังจะกลับคุ้ม คุณวรรณช่วยไปพบฉันแล้วก็เอาแบบเสื้อไปด้วยนะ”

“ด้วยความยินดีค่ะแม่เลี้ยง”

หลังจากวางสายแม่เลี้ยงลักษิกาก็พยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าเสร็จธุระแล้ว นัสรินจึงเดินตามไปที่ลานจอดรถ ขับรถของตัวเองตามไปยังคุ้มลักษิกา โดยยังไม่ได้ซื้อชุดอย่างที่ตั้งใจเอาไว้แต่อย่างใด

เมื่อไปถึงนัสรินก็ทราบว่าปรัชญ์และธรินดาไม่อยู่บ้านเพราะทั้งคู่ต้องพาหนูนิลไปฉีดวัคซีนตามกำหนด ดังนั้นจึงกลายเป็นว่าตอนนี้เธอกับแม่เลี้ยงลักษิกาอยู่ที่บ้านตามลำพัง แต่ไม่นานก็มีผู้หญิงคนหนึ่งตามมาสมทบ

“แม่เลี้ยงเรียกวรรณมามีอะไรให้วรรณรับใช้เหรอคะ”

“ฉันอยากให้คุณวรรณตัดชุดให้ลูกสะใภ้ฉันหน่อย”

คำสั่งของแม่เลี้ยงทำให้เจ้าของห้องเสื้อชื่อดังของเชียงใหม่ หันไปมองทางนัสรินอย่างเป็นอัตโนมัติ ซึ่งนัสรินก็ได้แต่หลุบตาเพราะความจริงเธอไม่ใช่ลูกสะใภ้ของแม่เลี้ยงลักษิกาแล้ว เป็นเพียงแค่อดีตสะใภ้เท่านั้น

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status