แชร์

บทที่ 4

บทที่ 4

“นัสคงไม่เคยดีเลยสินะคะในสายตาคุณปราณต์”

“ก็เคย แต่นั่นมันก่อนที่ผมจะรู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของคุณเป็นยังไง!”

นัสรินทั้งอึ้งทั้งเจ็บที่เขาตอบออกมาไวราวกับไม่ต้องคิด ถ้าย้อนเวลาได้เธอคงปฏิเสธข้อเสนอของปรัชญ์ที่ให้เธอแต่งงานกับปราณต์แทน เพราะอย่างน้อยการได้แอบรัก มันยังดีกว่าการได้แต่งงานกับคนที่รัก แต่ต้องอยู่กันด้วยความเกลียดชัง

“ถ้าอย่างงั้นคุณปราณต์ก็ดีใจได้เต็มที่เลยค่ะ หรือจะเตรียมทำบุญใหญ่ล้างซวยด้วยก็ได้ เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงสิ่งไม่ดีอย่างนัสจะออกจากชีวิตคุณปราณต์แล้ว”

นั่นคือวาจาประชดประชันอันรุนแรงที่สุดเท่าที่นัสรินจำได้ว่าตัวเองเคยใช้กับเขา เธอไม่เคยคิดจะใช้คำพูดแบบนี้กับใครด้วยซ้ำ แต่ความเจ็บปวดที่ได้รับ มันผลักดันให้เธอหลุดมันออกมา ตอนนั้นเธออยู่ในอาการของคนหัวใจสลาย ขอบตาร้อนผ่าว รู้ดีว่านั่นคืออาการของคนที่กำลังจะร้องไห้อยู่รอมร่อ เธอจึงรีบเชิดหน้าพร้อมกับก้าวเท้าเพื่อหนีหน้าคนใจร้ายให้เร็วที่สุด ไม่อยากร้องไห้ ไม่อยากให้น้ำตาหล่นต่อหน้าเขา เดี๋ยวเขาจะหาว่าสำออยและแกล้งฟูมฟายเอาอีก

ร่างเล็กก้าวได้ไม่ถึงก้าว มือแข็งแรงของปราณต์ก็ยื่นไปตะปบที่ต้นแขน กระชากร่างให้เธอหมุนตัวกลับมาหา

“คุณปราณต์!” นัสรินร้องอุทานออกมาอย่างตกใจต่อการกระทำของเขา

“เรายังคุยกันไม่จบ ผมไม่ชอบให้ใครเดินหนี”

“คุณปราณต์ยังต้องการอะไรจากนัสอีกคะ เราสองคนยังมีเรื่องอะไรต้องคุยกันอีก นอกจากเรื่องหย่า”

“มีสิ ก็เรื่องตำแหน่งแม่หม้ายป้ายแดงของคุณไงล่ะ”

“คุณปราณต์จะต้องเดือดร้อนอะไรคะ นัสรับได้ค่ะ ไม่ต้องห่วงหรอก”

“ผมไม่ได้ห่วง ผมแค่อยากทำให้คุณเป็นแม่หม้ายอย่างเต็มตัวก็เท่านั้น”

“หมายความว่ายังไงคะ”

“ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ ง่ายๆ ผมก็จะทำให้คุณเป็นแม่หม้ายอย่างสมบูรณ์แบบน่ะสินัสริน หย่ากับผัวทั้งที่ยังซิงอยู่ แล้วมันจะเป็นแม่หม้ายตัวจริงได้ยังไง”

นัสรินหน้าแดงก่ำ รู้ทันทีว่าปราณต์หมายถึงอะไร

“นัสไม่อยากได้ค่ะ”

“ถ้าไม่อยากได้จนตัวสั่นจะยอมแต่งงานกับผมง่ายๆ ทำไมกัน”

ไม่แค่ถามแต่วงแขนกำยำนั้นยังตวัดรัดร่างเล็กเข้ามากอดไว้แน่น ทำเอาแก้มใสและทั่วทุกสัดส่วนของนัสรินร้อนวูบวาบไปหมด เพราะตั้งแต่แต่งงานกันมา ปราณต์ไม่เคยแม้แต่เฉียดเข้าใกล้เลย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอโดนเขากอด แม้มันจะไม่ใช่กอดที่อ่อนโยนอย่างที่เธอเคยคาดหวัง แต่มันก็ทำให้เธอตัวอ่อนไปหมด

“นัสก็แค่ไม่มีทางเลือก”

“จริงน่ะเหรอนัสรินที่ว่าไม่มีทางเลือก”

ตาคมสีสนิมเหล็กจ้องเหมือนรู้ทัน รู้ว่าเธอกับปรัชญ์นั้นวางแผนกันมัดมือชกเขา แต่เขาจะรู้ได้ยังไง เธอมั่นใจว่าปรัชญ์ไม่เคยปริปากบอกเรื่องนี้กับปราณต์แน่ๆ เพราะดูเหมือนว่าเขาเองก็โกรธน้องชายไม่น้อยเหมือนกัน ถึงได้พาเธอย้ายออกมาอยู่ที่นี่

“ปล่อยนัสเถอะนะคะคุณปราณต์ เราจะจบกันแล้ว นัสอยากให้เราจบกันด้วยดี”

“แต่ผมอยากให้จบแบบที่คุณต้องจดจำไปจนตลอดชีวิต”

จบคำปราณต์ก็ทำในสิ่งที่นัสรินตั้งตัวไม่ติดอีกครั้ง ด้วยการบดขยี้ริมฝีปากจูบไปทั่วใบหน้างดงามอย่างรุนแรงป่าเถื่อน นัสรินพยายามดิ้นให้หลุดจากวงแขนที่รัดแน่นราวกับปลอกเหล็ก พร้อมทั้งเบี่ยงหน้าหนีการระดมจูบของปราณต์เป็นพัลวัน เธอเคยฝันว่าอยากถูกเขาจูบ แต่มันต้องไม่ใช่ด้วยแรงอารมณ์และเป็นสัมผัสที่แสนหยาบคายแบบนี้

“อย่า...อย่าค่ะ...คุณปราณต์เป็นบ้าไปแล้วหรือยังไง...ไหนบอกว่ารังเกียจนัส ไม่อยากแตะนัส”

นัสรินจำได้ว่าตัวเองร้องห้ามและตัดพ้อออกไปเสียงกระท่อนกระแท่น หลังจากที่ดิ้นจนเหนื่อยก็ยังไม่สามารถหลุดจากอ้อมแขนแข็งแรงกับหลบริมฝีปากของเขาพ้น และคำพูดนั้นก็สามารถที่จะหยุดปราณต์ให้เลิกระดมจูบลงได้ชั่วขณะ

                “คุณบอกเองไม่ใช่เหรอนัสริน ว่าไม่ได้ห้ามผมใช้สิทธิ์ความเป็นสามีกับคุณ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ใช้สิทธิ์สักครั้งจะเป็นไรไป”

                “แต่มันต้องไม่ใช่แบบนี้” หญิงสาวบอกออกไปเสียงหอบๆ ใบหน้าตอนนั้นแดงก่ำไปหมด

                “ถ้าไม่ใช่แบบนี้แล้วจะต้องเป็นแบบไหน”

                “คุณปราณต์กำลังเมา”

                “เมาหรือไม่เมา ตอนทำมันก็ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่หรอก รับรองว่าคุณได้ครางแน่นอน เพียงแต่เวลาผมเมาผมจะอึดมากเป็นพิเศษเท่านั้นเอง ครั้งแรกของคุณอาจจะช้ำหน่อยนะ หรือว่าไม่ใช่ครั้งแรก”

                “คุณปราณต์!” นัสรินอุทานอย่างอับอายกับคำพูดคำจาที่ค่อนข้างจะดิบแบบที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากของปราณต์

                “แต่ตัวสั่นขนาดนี้คงจะเป็นครั้งแรกนั่นละ เพราะฉะนั้นผมก็ควรจะมอบความเป็นแม่หม้ายอย่างสมบูรณ์แบบให้คุณ เผื่อจะใช้ประสบการณ์ที่ได้ครั้งนี้ไปใช้ประโยชน์ในวันข้างหน้าได้”

                ปราณต์ไม่สนอะไรอีก เขาย่อร่างสูงอุ้มเธอไปวางที่โซฟาตัวเดียวกับที่เมื่อครู่นี้เธอนั่งรอเขาอยู่ ต่างกันตรงที่ปราณต์ไม่ได้อุ้มมานั่ง แต่เขาวางเธอลงในท่านอน โดยที่ร่างสูงใหญ่นั้นทาบตัวลงมานอนคร่อมทับร่างเล็กของเธอเอาไว้แทบจะทันที

นัสรินจำได้ว่าตอนนั้นเธอดันตัวลุกขึ้นเพื่อจะหนี ปราณต์จึงกดน้ำหนักทับเธอแนบแน่นกว่าเดิม ซ้ำยังใช้มือแข็งแรงข้างหนึ่งรวบข้อมือทั้งสองข้างของเธอตรึงไว้เหนือศีรษะอีกต่างหาก ทำให้เธอไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status