แชร์

บทที่ 9

บทที่ 9

“ถ้าย้อนเวลาได้นัสจะไม่ทำแบบนั้นค่ะ ที่นัสตัดสินใจทำไปแบบนั้นก็เพราะนัส...” กำลังจะบอกว่าเพราะเธอแอบรักเขามาตั้งแต่ได้เห็นหน้าครั้งแรกแล้ว เมื่อปรัชญ์ขอยกเลิกการแต่งงานกับเธอและเสนอให้เธอแต่งงานกับเขาแทน เธอจึงไม่ปฏิเสธ 

“เพราะเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน และเห็นผมเป็นตัวตลกใช่ไหม” ปราณต์ไม่ยอมฟังให้จบก็ชิงพูดแทรกขึ้นตามอารมณ์ที่คั่งค้างอยู่ในใจมาเป็นแรมปี

“นัสไม่สามารถที่จะย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรได้ แต่นัสก็ชดเชยให้คุณไปหมดแล้วไงคะ”

คำว่าชดเชยในความหมายของนัสรินก็คือการคืนอิสรภาพให้เขา และยอมจากไปเงียบๆ โดยไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเขาเลยแม้แต่นิดเดียว ทว่าความหมายของปราณต์มันกลับเป็นคนละอย่าง

“ด้วยการนอนกับผมแค่คืนเดียวอย่างนั้นเหรอ”

“นัสเคยบอกคุณปราณต์แล้วว่านัสไม่ได้ห้ามให้คุณใช้สิทธิ์ความเป็นสามีกับนัส แต่คุณปฏิเสธนัสเองเพราะว่าคุณรังเกียจผู้หญิงอย่างนัส” เธอย้ำเตือนถึงคำพูดของเขาที่เคยพูดกับเธอตั้งแต่คุยกันเรื่องหย่า

“แล้วถ้าตอนนี้ผมเกิดอยากจะใช้สิทธิ์ย้อนหลังล่ะ”

“คุณปราณต์!” นัสรินเผลอเรียกชื่อเขาเสียงเข้ม แม้อะไรๆ ในตัวปราณต์ไม่เคยเปลี่ยนหลังจากที่เธอไม่เจอเขามาเป็นปี แต่ตอนนี้สิ่งที่เธอรู้สึกได้ว่าเขาเปลี่ยนไปจริงๆ ก็สกิลการพูดจาให้เธอเจ็บใจและอับอาย มันเพิ่มขึ้นจากแต่ก่อนหลายเท่าตัว

“ว่าไง?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นเหมือนจะยวนอารมณ์ ทั้งๆ ที่หน้าหล่อๆ นั้นยังคงนิ่งขรึมเหมือนหุ่นยนต์

“สิทธิ์ของคุณปราณต์หมดลงตั้งแต่วันที่คุณกับนัสหย่ากันแล้วค่ะ” นัสรินเชิดหน้าและปฏิเสธเสียงแข็งกระด้าง

“ผมก็เพิ่งรู้ตัวว่าโง่ที่ไม่ใช้สิทธิ์จนคุณสึกหรอเสียก่อน ครั้งเดียว...ไม่ใช่สิ ไม่ใช่ครั้งเดียว จะให้ถูกต้องพูดว่า ถึงแม้จะหลายครั้งในคืนเดียว มันก็ไม่ได้ทำให้คุณสึกหรอเท่าที่ควรเลย ถ้าไม่ออกไปกรำศึกต่อหลังจากนั้น ตอนนี้อะไรๆ ก็คงจะเข้าที่เข้าทางหมดแล้วละ เผลอๆ ไอ้ผู้ชายคนใหม่มันก็คงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณเคยมีผัวมาก่อน”

แม้เจ็บเกินจะเจ็บกับวาจาเยาะเย้ยถากถางซึ่งหลุดมาแทบจะทุกประโยคที่คุยกัน แต่ทว่าคำพูดที่เพิ่งพ่นออกมาจากปากของปราณต์หมาดๆ เมื่อครู่นี้ มันร้ายกาจเกินกว่าที่นัสรินจะทนนั่งฟังได้อีกต่อไป เธอเงยหน้าขึ้นมองดูเพดาน กะพริบตาถี่ๆ พร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะก้มลงมาเผชิญหน้ากับเขาใหม่

“โอเคค่ะ นัสยอมแพ้ นัสจะไม่ขายยาและจะไม่อยู่ให้คุณปราณต์ดูถูกมากไปกว่านี้อีกแล้ว คุณปราณต์อยากทำอะไรหรืออยากกินอะไรต่อก็เชิญตามสบายค่ะ อ้อ...อาหารมื้อนี้นัสเลี้ยงนะคะ”

พูดจบนัสรินก็หยิบเอาเงินฉบับละพันสองใบในกระเป๋าออกมาวางบนโต๊ะ ก่อนจะลุกพรวดพราดขึ้นและก้าวฉับๆ ออกไปจากร้าน โดยไม่สนใจว่าร่างสูงลุกขึ้นและก้าวตามมาติดๆ

เมื่อเดินมาถึงลานจอดรถของร้าน ต้นแขนกลมกลึงก็ถูกมือใหญ่เอื้อมมาจับไว้แน่น พร้อมกับที่ปราณต์บังคับให้เธอต้องหันมาเผชิญหน้ากันอีกครา

“เดี๋ยวก่อนนัสริน”

“จะเอายังไงกับนัสอีกคะ” เสียงหวานเอ่ยถามห้วนกระด้าง เชิดหน้าขึ้นเผชิญหน้ากับเขาอย่างไม่มีอะไรต้องเกรงใจกันอีกต่อไป

“ผมไม่ชอบให้ใครเอาเงินฟาดหัว ถ้าจะเอาอะไรสักอย่างฟาดผมก็ควรจะเป็นปากของคุณ”

จบคำร่างบางก็ถูกกระชากเข้าไปกอด ก่อนที่ริมฝีปากหยักซึ่งนัสรินเคยชื่นชมว่าสวยราวกับปากผู้หญิงบดขยี้ลงมาบนเรียวปากของเธออย่างรุนแรงป่าเถื่อน

นัสรินแตกตื่นใจเป็นที่สุด ไม่คิดว่าจู่ๆ ตัวเองจะถูกปราณต์กอดจูบเช่นนั้น เธอเบี่ยงหน้าหลบการรุกรานนั้นพร้อมกับร้องห้ามเป็นพัลวัน

“อย่าค่ะ...คุณปราณต์...ปล่อยนัส...”

คำห้ามปรามของเธอ ไม่ต่างอะไรกับการบอกเขาให้จาบจ้วงหนักกว่าเดิม เพราะตอนนี้สองมือของปราณต์ยกขึ้นประคองข้างแก้มนวลตรึงเอาไว้ เพื่อไม่ให้เธอเบี่ยงหน้าหลบไปไหนได้อีก จากนั้นนัสรินก็รู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะเมื่อริมฝีปากของคนที่กำลังโกรธกรุ่นทาบลงมาปิดปากของเธอในที่สุด และที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือลิ้นสากหนาร้อนๆ ที่เธอยังจำรสสัมผัสได้ไม่รู้ลืม ชำแรกผ่านเรียวปากอิ่มเต็มของเธออย่างรวดเร็ว ความรู้สึกหลากหลายแล่นพล่านเข้ามารวมตัวกันอยู่ที่ท้องน้อย ปราณต์จูบแรงมาก จูบจนเธอเจ็บร้าวไปหมดทั้งปาก แต่ทันทีที่ลิ้นสัมผัสกับลิ้น ความเจ็บร้าวนั้นก็มลายหายไป เหลือไว้แต่ความวาบหวามรัญจวนอย่างไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น ก็แน่ละ...เธอยังตัดใจจากเขาไม่ได้ ยังไม่มีวันไหนที่ลืมเขาได้ พอโดนเขาจูบเข้าหน่อยก็ตัวอ่อนระทวย แล้วเขาเล่ารู้สึกเช่นไร คงจะรู้สึกแค่อยากลงโทษ อยากเอาคืน อยากแก้แค้น และทำให้เธอเจ็บปวดอับอายเสียกระมัง ความคิดเช่นนั้นทำให้หญิงสาวพยายามเตือนสติข่มกลั้นอารมณ์รัญจวนที่ไม่ควรเกิดขึ้นของตัวเองเอาไว้อย่างสุดความสามารถ แล้วฉาบความรู้สึกที่ว่า ปราณต์ทำไปเพราะต้องการที่จะระบายอารมณ์โกรธของเขาเท่านั้น

หมอหนุ่มถอนปากออกมา เมื่อร่างบางไม่ดิ้นรนต่อสู้ ไม่ร้องโวยวายเหมือนช่วงแรก แต่กลับยืนนิ่งให้เขาจูบเหมือนกับหุ่นยนต์ที่ไม่มีชีวิตจิตใจ

“พอใจหรือยังคะ ถ้ายังก็เชิญเลย อยากทำอะไรนัสอีกก็ทำ” เธอมองด้วยสายตาว่างเปล่าแต่เจือไว้ด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรงต่อการกระทำของเขา

“นัสริน...ผม...” นึกอยากจะเอ่ยปากขอโทษ แต่ปากมันก็หนักจนพูดไม่ออก

“ถ้าคุณพอใจแล้วนัสก็ขอตัว และก็ขอโทษที่การมาของนัสทำให้คุณขุ่นเคืองใจ แต่นัสสัญญาว่าจะไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีก ชาตินี้เราจะไม่มีวันได้พบกันอีก คุณสบายใจได้เลย”

พูดจบนัสรินก็เดินไปโบกแท็กซี่ทั้งที่น้ำตายังคลอเต็มเบ้า โชคดีที่แท็กซี่ในเชียงใหม่มีค่อนข้างเยอะ จึงแล่นมาได้จังหวะที่เธอกำลังอยากจะหนีหน้าปราณต์โดยไวที่สุดพอดี

นัสรินบอกปลายทางกับคนขับว่าให้ไปส่งที่สนามบิน ตาที่ฝ้าฟางด้วยม่านน้ำตาบางๆ ตอนนี้มองออกไปนอกหน้าต่างรถ บอกกับตัวเองว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะเหยียบย่างมาที่นี่ และคงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้เจอหน้าผู้ชายที่ตัวเองรัก ซึ่งไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปนานเท่าไหร่เขาก็ยังคงใจร้ายเช่นเดิม

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status