Share

บทที่ 16

บทที่ 16

และหลังจากที่พูดเช่นนั้นแล้ว ปราณต์ก็ไม่รอฟังใครอีก เขาขยับมายืนข้างๆ นัสรินและโอบเอวบางพร้อมกับกระตุกเป็นการบังคับให้เธอเดินออกไปพร้อมเขา นัสรินพยายามจะเบี่ยงตัวออกแต่ก็ทำได้ไม่ถนัด เพราะไหนจะแรงมือของปราณต์ ไหนจะสายตาของคนทั้งบ้านที่กำลังจดจ้องอยู่ จนในที่สุดเธอก็ต้องเข้ามานั่งในรถของปราณต์จนได้

“พักที่ไหน?” เขาถามห้วนๆ หลังจากบังคับเธอขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว

“ลานนาอพาร์ตเมนต์ค่ะ คุณไม่ต้องไปส่งนัสก็ได้นะคะ นัสกลับเองได้” นัสรินไม่ได้ใช้น้ำเสียงกระโชกโฮกฮากแต่คุยด้วยดีๆ เพราะถึงอย่างไรเสีย วันจันทร์เธอก็ต้องเจอเขาอีกตอนไปเซ็นสัญญา จึงไม่อยากก่อเรื่องให้ตัวเองต้องอึดอัดใจอีก

                “ผมบอกว่าจะไปส่งก็คือไปส่ง ผมไม่ใช่พวกคนพูดกลับกลอกหรือมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ทำไม? กลัวหรือไงที่ต้องนั่งรถกับผมสองต่อสอง”

                “นัสไม่ได้กลัว นัสแค่ไม่อยากให้คุณเสียเวลา และรู้ดีว่าคุณไม่อยากเห็นหน้านัสเท่าไหร่”

                “ไหนบอกว่าจะไม่มาให้เห็นหน้าอีก แล้วนี่มาทำไม”

                นัสรินหันขวับไปจ้องหน้าคนถาม ก็เห็นว่าเขาจ้องอยู่ก่อนแล้ว จากที่คิดว่าจะพยายามควบคุมตัวเองให้ได้ ตอนนี้เธอเริ่มลืมตัวเพราะถูกยั่วจนอารมณ์ขุ่นมัวไปหมด

                “แล้วใครทำให้นัสต้องมาล่ะคะ ถ้าคุณไม่ยอมตกลงเรื่องซื้อยาจากบริษัทของนัส นัสก็ไม่ต้องมาให้คุณเห็นหน้าอีกหรอก”

                ปราณต์เหมือนจะหัวเราะออกมานิดหนึ่ง เมื่อท่าทีของนัสรินเปลี่ยนไปเป็นคนละคนกับตอนที่อยู่ต่อหน้าคนในครอบครัวของเขาเมื่อครู่นี้ เมื่อครู่เธอยังทำหน้าเจื่อนๆ ออมปากออมคำอย่างน่าสงสาร แต่ตอนนี้เธอกลับเชิดหน้าและพูดจากับเขาเสียงแข็ง

                “ไม่อยากมา?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นเป็นเชิงยียวน

                “ค่ะ...นัสไม่ได้อยากมาสักนิด นัสรู้ดีว่าคุณไม่อยากเห็นหน้านัส แต่นัสจำเป็นต้องมาก็เพราะไม่มีใครมาแทน”

                “ถ้าผมไม่อยากเห็นหน้าคุณ ผมจะตกลงซื้อยาทำไม”

                คำถามที่ย้อนแย้งนั้นทำให้นัสรินชะงักไปครู่หนึ่ง ไม่แน่ใจความหมายของเขา เขาบอกว่าที่เขาตกลงซื้อยาก็เพราะอยากเห็นหน้าเธออย่างนั้นหรือ มันจะเป็นไปได้ยังไง?

                “ไม่รู้สิคะ อาจจะเป็นเพราะว่าคุณแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้เก่งมั้งคะ”

                “ใครว่าล่ะ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัวชัดๆ ที่อยากเห็นหน้าไม่ใช่เพราะคิดถึงหรอกนะ ไม่ต้องดีใจไป ผมแค่มีเรื่องบางอย่างที่อยากทำกับคุณ”

                “ทำอะไรคะ”

นัสรินถามพลางหน้าร้อนผ่าว เพราะทั้งคำพูดและประกายตาของเขาเปิดเผยชัดเจนว่าสิ่งที่เขาหมายถึงคืออะไร

                “ต้องให้บอกด้วยเหรอ ผมว่าคุณเข้าใจนะ”

“นัสไม่เข้าใจค่ะ” หญิงสาวยังทำปากแข็ง ทั้งๆ ที่รู้ดีแก่ใจเมื่อเขาย้ำเช่นนั้น

“ไปลองกับคนอื่นมาหรือยังล่ะ ลีลาไอ้พวกนั้นเป็นยังไงบ้างเมื่อเทียบกับผัวเก่าอย่างผม” ปราณต์ยังถามในเชิงยั่วยุอารมณ์ต่ออย่างใจเย็น ขณะที่คนฟังเริ่มร้อนเป็นไฟเพราะคิดว่าตัวเองถูกเขาดูถูก

“นัสไม่เคยคิดจะทำตัวมั่วๆ ง่ายๆ แบบนั้น”

“ใครจะรู้ คืนนั้นก็เห็นครางซะกระเส่าอยู่นี่ ได้ลองแล้วอาจจะติดใจจนอยากลองอีก เพียงแต่ไม่มีผัวเป็นของตัวเองแล้ว เลยต้องไปลองกับคนอื่น”

“หยาบคาย! นัสไม่นึกเลยว่าผู้ชายที่นัสเคยชื่นชมจะหยาบคายได้ถึงขนาดนี้”

“ถ้าผมหยาบคาย แล้วผู้หญิงที่ทั้งครางทั้งร่อนรับคืนนั้นล่ะต้องเรียกว่าอะไร เป็นไปได้คุณคงอยากจะขึ้นขย่มผมเองเลยมั้ง เพียงแต่ยังไม่มีโอกาส”

“จะเรียกว่าอะไรก็สุดแท้แต่คุณปราณต์อยากจะเรียกเถอะค่ะ แต่นัสรับรองว่านั่นจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่คุณปราณต์จะได้เห็นและได้ยิน” นัสรินตอบโต้คนปากร้ายอย่างโกรธและอายระคนกัน จากนั้นก็เอี้ยวตัวไปหาประตูรถแลนด์โรเวอร์เพื่อจะปลดล็อกและลงจากรถ เพื่อจะได้ไม่ต้องทนฟังคำพูดเย้ยหยันถากถางจากปราณต์อีก แต่เพียงแค่ขยับ มือใหญ่แข็งแรงที่ไม่ได้หยาบกระด้างเพราะจับแต่ปากกาและมีดหมออยู่เป็นประจำก็ยื่นมาตะบปเข้าที่ต้นแขนของเธอทันที

“จะไปไหน”

“นัสจะกลับเอง ปล่อยนัส นัสจะลง” หญิงสาวตวัดสายตาขุ่นเคืองใส่พร้อมกับบิดแขนตัวเองออกจากพันธนาการของมือเขา

                “ก็ได้ผมจะปล่อย แต่ถ้าคุณลงผมจะตามลงไปและจับคุณจูบต่อหน้าคนในคุ้ม”

                คำขู่ของเขาทำให้นัสรินชะงักงันและจ้องหน้าหล่อๆ ของผู้ชายที่ตัวเองเคยรักอยู่อย่างประเมินสถานการณ์ เมื่อเห็นแววตาที่นิ่งขรึมก็เริ่มไม่กล้าเสี่ยง เพราะไม่กี่วันก่อนเธอเพิ่งถูกเขาจับจูบที่หน้าร้านอาหาร ขนาดในที่สาธารณะแบบนั้นปราณต์ยังกล้าทำ แล้วมีหรือที่เขาจะไม่กล้าทำในบ้านตัวเอง

“ทำไมคุณถึงได้ใจร้ายกับนัสแบบนี้จังเลยคะ โกรธเกลียดอะไรนัสนักหนา” นัสรินถามออกไปอย่างอัดอั้น

                “คุณรู้ดีอยู่แก่ใจนี่นัสริน”

                “แต่เรื่องมันก็จบไปแล้วนี่คะ เวลาก็ผ่านไปเป็นปีแล้ว นัสกับคุณก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันแล้ว คุณยังไม่ลืมอีกหรือไงคะ”

                “แล้วคุณล่ะลืมหรือยัง”

                ตาคู่สวยหลุบลงอย่างไม่แน่ใจและไม่กล้าตีความหมายคำถามของเขาสักนิด ถ้าความหมายคำว่า ‘ลืม’ ของเขาหมายถึงลืมความรักความหลังที่มีต่อเขา เธอก็ตอบตัวเองได้เต็มปากว่าไม่เคยลืม ในเมื่อปราณต์คือผู้ชายที่เป็นรักแรก รักเดียว เป็นเจ้าของหัวใจ เป็นเจ้าของร่างกาย และเป็นคนที่ใจร้ายกับเธอมากที่สุด

                “นัสลืมมันไปหมดแล้วค่ะ ตอนนี้นัสกำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่” คำตอบนั้นไม่ได้ตรงกับสิ่งที่รู้สึกเลยแม้แต่นิด ยิ่งพอได้กลับมาเจอกัน ได้ใกล้ชิดกันกับคนที่ตนยังรักอยู่เช่นนี้ หัวใจที่อ่อนแออยู่แล้วของเธอมันก็ยิ่งโงนเงน

                “ดูเหมือนว่าชีวิตคุณจะ ‘ง่าย’ ไปซะทุกอย่างเลยนะนัสริน” ปราณต์พูดหยันๆ ให้คนฟังเจ็บใจเล่นอีก

                “นัสไม่อยากเถียงกับคุณแล้ว ปล่อยนัสค่ะ ถ้าคุณจะไปส่งนัสก็ออกรถเสียที”

                นัสรินเบี่ยงตัวออกอีกครั้ง และคราวนี้มือใหญ่ก็ยอมคลายออกแต่โดยดี ไม่กี่อึดใจรถก็เคลื่อนออกจากลานหน้าคุ้มลักษิกา มุ่งหน้าไปตามถนนที่เป็นเส้นทางสู่อพาร์ตเมนต์ที่นัสรินพักอยู่ โดยตลอดเวลาบรรยากาศภายในรถเต็มไปด้วยความเงียบ นัสรินนั่งมองทางเงียบๆ ในขณะที่อดีตสามีมองมายังเธอบ่อยครั้ง แต่นัสรินก็ยังคงนิ่งคล้ายกับไม่รู้สึกรู้สมกับการมองของเขา ทั้งๆ ที่ในใจอยากให้ถึงอพาร์ตเมนต์เร็วๆ เพราะไม่อยากจะทนกับภาวะกระอักกระอ่วนอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้อีกแล้ว

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status