Share

บทที่ 13

บทที่ 13

“ชื่อในการ์ดเป็นชื่อผมด้วยเหรอ?”

“ก็คุณปราณต์เป็นเจ้าบ่าว ก็ต้องเป็นชื่อคุณปราณต์สิคะ นี่อย่าบอกนะคะว่าคุณปราณต์กำลังเล่นมุก ออยขำไม่ทันเลยค่ะ”

พินทุสรยังคงยิ้มร่าและหัวเราะเบาๆ เมื่อคิดว่าเจ้าบ่าวของเพื่อนรักช่างมีอารมณ์ขันแบบหน้าตายดีแท้ๆ

“ผมขอดูหน่อยได้ไหม”

“ได้สิคะ ออยพกติดกระเป๋ามาด้วย ออยเห็นแล้วชอบมากๆ เลยค่ะ การ์ดสวยเก๋เห็นครั้งแรกก็รู้เลยว่าคนเลือกต้องพิถีพิถันมากๆ คุณปราณต์กับยัยนัสคงจะช่วยกันเลือกใช่มั้ยคะ” พินทุสรพูดเป็นต่อยหอย ขณะหยิบเอาการ์ดแต่งงานในกระเป๋าแล้วส่งให้กับปราณต์ โดยไม่ได้สังเกตอาการของเขาแต่อย่างใด

ตาคมกวาดตามองไปยังตัวหนังสือที่อยู่บนการ์ดแต่งงานสีหวานอย่างตั้งใจ ตัวหนังสือบนนั้นแสดงอยู่อย่างเด่นหรา ว่าชื่อเจ้าสาวเจ้าบ่าวเป็นชื่อนัสรินกับชื่อของเขาจริงๆ ลักษณะของการ์ดก็บ่งบอกชัดว่าถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน กระดาษที่ใช้พิมพ์ก็เป็นกระดาษเนื้อดี มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกมาแตะจมูกและติดมือคนจับ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพิมพ์เสร็จภายในหนึ่งหรือสองชั่วโมงก่อนที่การแต่งงานครั้งนี้จะเกิดขึ้น หนำซ้ำคำพูดของหญิงสาวที่บอกว่าเป็นเพื่อนสนิทกับนัสรินก็ย้ำชัดว่า เรื่องที่เขาถูกมัดมือชกให้แต่งงานครั้งนี้ ถูกเตรียมการมาล่วงหน้าอย่างดีและเป็นเวลานานแล้ว

ตั้งแต่เกิดมาจนวัยย่างสามสิบเอ็ด ไม่มีครั้งไหนที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวตลกขนาดนี้ ในขณะที่เขาตัดสินใจแค่เสี้ยวนาทีที่จะแต่งงานแทนน้องชายเพื่อรักษาหน้าแม่และเพื่อประชดตัวเอง บวกกับเห็นใจผู้หญิงอีกคนที่กำลังจะเป็นหม้ายขันหมาก โดยที่เธอไม่ได้มีความผิดใดๆ แต่เขากลับไม่รู้เลยว่าทุกอย่างถูกปรัชญ์กับนัสรินเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว แม้แต่ชื่อในการ์ดแต่งงานก็เป็นชื่อเขาแต่แรก และป้ายชื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่อยู่บนฉากก็คงถูกเตรียมไว้สองอัน อันแรกเป็นชื่อของปรัชญ์กับนัสรินซึ่งติดหลอกตาคนในบ้าน ส่วนอีกอันคงถูกติดเมื่อเช้านี้หลังจากคนจัดงานได้รับคำสั่งให้เปลี่ยน

ก็ได้นัสริน...ในเมื่ออยากได้เขาเป็นผัวจนตัวสั่นขนาดยอมลดศักดิ์ศรีตัวเองขนาดนี้ เขาก็จะทำให้เธอได้รู้ซึ้งว่า ผู้ชายที่แสนดีอย่างปราณต์ก็มีด้านมืดเหมือนกัน!!!

        วันนี้เป็นวันแรกในรอบเกือบหนึ่งปีเลยก็ว่าได้ ที่นัสรินรู้สึกว่าตัวเองไม่อยากมาทำงาน ยังดีว่าเมื่อสองวันที่ผ่านมานั้นเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ทำให้เธอมีเวลาทำใจที่จะมารับฟังคำตำหนิจากหัวหน้า เรื่องที่เธอไปทำงานที่เชียงใหม่แล้วคว้าน้ำเหลวกลับมา ทั้งๆ ที่ก่อนไปหัวหน้าคาดหวังกับเธอไว้มาก เธอรู้ว่าปราณต์ต้องปฏิเสธการซื้อยาจากบริษัทของเธอแน่ๆ เพราะเธอกับเขามีเรื่องทะเลาะกันจนไม่ได้เจรจา

        ร่างบางในชุดเดรสทำงานสีครีมแขนยาวผ้าลูกไม้ แต่งระบายสวยหวาน ทรงเข้ารูป สั้นเลยเข่า เน้นให้เห็นสะโพกผายและเอวกิ่วคอด รวมทั้งเรียวขาที่สลักเสลาเนียนละเอียดราวกับลำเทียน แบบที่ไม่ได้ตั้งใจจะใส่อวด แต่ด้วยชุดและสรีระมันเน้นให้เห็นไปทางนั้น แรกๆ นัสรินก็ขัดเขินเหมือนกันกับชุดที่เน้นส่วนเว้าส่วนโค้งขนาดนั้น แต่พอใส่นานๆ เข้ามันก็กลายเป็นความเคยชิน และตอนนี้ปัญหาของเธอก็ไม่ได้อยู่ที่ชุดที่ใส่อยู่ แต่มันอยู่ที่ว่าเมื่อไหร่หัวหน้าจะเรียกเธอเข้าไปคุยเรื่องงานต่างหาก

        นัสรินนั่งกระวนกระวายใจอยู่ได้ไม่นาน ก็มีเสียงโทรศัพท์ติดต่อภายในที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของเธอดังขึ้น หญิงสาวแอบถอนหายใจเบาๆ เล็กน้อยอย่างทำใจล่วงหน้า ก่อนจะเอื้อมมือไปยกโทรศัพท์มาแนบหู

        “นัสรินค่ะ”

        “นัสเข้ามาพบผมหน่อย ตอนนี้เลยนะ”

        นั่นคือเสียงของกิตติซึ่งเป็นหัวหน้างานโดยตรงของนัสริน เขาสั่งเพียงสั้นๆ ก็วางสาย แต่คนถูกสั่งนี่สิมีแต่ความหนักอึ้งเต็มอกไปหมดจนแทบจะลุกจากโต๊ะไม่ได้ แต่สุดท้ายร่างบางก็พาตัวเองเข้าไปยืนที่หน้าโต๊ะทำงานของกิตติจนได้ เพราะถึงอย่างไรเสียก็คงจะหลีกเลี่ยงการตำหนิของเขาไม่พ้น

        “หัวหน้าเรียกนัสมาพบมีอะไรหรือเปล่าคะ” นัสรินเอ่ยถามตามมารยาท ทั้งที่รู้ดีอยู่แล้วว่ากิตติเรียกมาพบเรื่องอะไร

        “ก็เรื่องยาที่คุณไปติดต่อไว้กับทางเชียงใหม่เมื่อวันศุกร์นั่นแหละ”

        “นัสขอโทษค่ะ...คือนัส...”

        นัสรินพูดไม่ทันจบกิตติก็ยกมือขึ้นเป็นเชิงห้ามไม่ให้เธอพูด นัสรินจึงหลุบลงมองมือตัวเองอย่างว้าวุ่นใจ

        “ทางโรงพยาบาลตอบกลับมาแล้วนะว่าตกลงทำสัญญา”

        คำพูดของกิตติทำให้นัสรินต้องเงยหน้าขึ้นมองเขาเหมือนไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

        “หัวหน้าว่าอะไรนะคะ!”

        “คุณเก่งมากนะนัส ผมไว้ใจคนไม่ผิดจริงๆ” กิตติเอ่ยชื่นชมเป็นการตอกย้ำว่าเมื่อกี้เธอไม่ได้ฟังผิดหรือหูเพี้ยนแต่อย่างใด

        “เป็นไปได้ยังไง” ประโยคนั้นนัสรินรำพึงออกมาคล้ายพูดกับตัวเองมากกว่า

        “เป็นไปแล้ว และตอนนี้ทางโรงพยาบาลก็ให้เราเอาสัญญาไปให้เซ็นได้เลย ซึ่งผมคงต้องให้คุณไปอีกรอบ อ้อ...แต่รอบนี้คุณไม่ต้องกลับไปกลับมาแล้วนะ พอดีทางบริษัทเพิ่งจะแจ้งผมในที่ประชุมเมื่อวันศุกร์ว่าตอนนี้ทางบริษัทไปเปิดสาขาย่อยที่เชียงใหม่เรียบร้อยแล้ว เพื่อจะดูแลลูกค้าทางภาคเหนือทั้งหมด ในระหว่างนี้ผมอยากให้คุณไปประจำการที่นั่นชั่วคราว เพื่อดูแลลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาล ร้านยาต่างๆ แล้วก็คลินิกหมอที่สนใจสั่งซื้อยาจากเรา”

        “แต่ว่านัสไม่สะดวกไปนะคะหัวหน้า”

จากความหนักใจเรื่องจะถูกตำหนิเพราะเจรจาไม่สำเร็จ ตอนนี้นัสรินเกิดความหนักใจเรื่องที่ต้องไปเผชิญหน้ากับปราณต์อีกรอบแทน ในเมื่อก่อนมาเธอประกาศชัดแล้วว่า เขาจะไม่ได้เห็นหน้าเธออีก ซ้ำร้ายหัวหน้าของเธอยังจะให้เธอย้ายไปประจำสาขาที่เชียงใหม่ ซึ่งหากเป็นเมื่อก่อนที่เธอไม่เคยมีความรักความหลังกับที่นั่นก็คงไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่ตอนนี้เธอไม่อยากแม้แต่จะเหยียบย่างไปที่นั่นเพื่อให้หัวใจของตัวเองเป็นแผลเหวอะหวะขึ้นมาอีกรอบ โดยเฉพาะหลังจากที่ได้เผชิญหน้ากับปราณต์ ทำให้เธอรู้ว่าความเกลียดชังที่เขามีต่อเธอ มันไม่ได้ลดน้อยลงไปเลยสักนิด จริงอยู่ว่าเชียงใหม่ออกจะใหญ่โตกว้างขวาง แต่ใช่ว่าโลกจะไม่กลม หากวันใดต้องเจอหน้าปราณต์ขึ้นมาอีก เขาคงคิดว่าเธอกลืนน้ำลายตัวเองแน่ๆ

       

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status