Share

บทที่ 18

บทที่ 18

                แม้จะลำบากใจแค่ไหนที่ต้องมาพบคนที่ตัวเองพยายามจะหลีกเลี่ยง แต่นัสรินก็จำต้องมาเพราะมันคือหน้าที่ความรับผิดชอบกับงานที่ทำอยู่ กิตติหัวหน้าของเธอบอกเอาไว้ตั้งแต่ก่อนมาแล้วว่า ทางโรงพยาบาลนัดเซ็นสัญญาในเวลาสี่โมงเย็น ทำให้วันนี้ทั้งวันเธอแทบจะไม่มีสมาธิทำงาน เพราะมัวแต่เป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องมาพบปราณต์ในช่วงเย็น

                หญิงสาวมาถึงก่อนเวลานัดตามมารยาทอันดี จากนั้นก็เข้าไปรอในห้องประชุมตามที่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลบอก นั่งได้ไม่ถึงห้านาทีประตูหน้าห้องก็ถูกเคาะ และคนที่ก้าวเข้ามาก็คือคนที่มีอิทธิพลต่อหัวใจของเธอตลอดมา แม้จะรู้อยู่แล้วว่าต้องพบเขา แต่หัวใจมันก็ยังเต้นแรงจนกลายเป็นระส่ำ โดยเฉพาะเมื่อปราณต์ปิดประตูห้องลง คล้ายดั่งกันเธอกับเขาออกจากโลกภายนอก และก้าวเข้ามานั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับที่เธอนั่งอยู่

                “รอนานหรือเปล่า” นายแพทย์หนุ่มหล่อเป็นฝ่ายถามอดีตภรรยาขึ้นก่อน

“ไม่นานค่ะ นัสเพิ่งมาถึงเมื่อสักครู่นี้เอง” นัสรินได้แต่ตอบออกไปแบบออมปากออมคำ เพราะน้ำเสียงของคนถามนั้นช่างแสนเรียบเฉย ราวกับเป็นคนละคนกับคนที่เกือบจะจูบเธอในลิฟต์เมื่อเย็นวันศุกร์

“สัญญาว่ายังไงบ้างนะ พอดีวันนั้นผมยังไม่ได้อ่านอย่างละเอียด”

“นี่ค่ะ”

นัสรินยื่นเอกสารให้เขา ผ่านโต๊ะประชุมรูปตัวยูแบบเว้นที่ว่างระหว่างสองแถว ทำให้ระยะห่างระหว่างเขากับเธอไกลกันพอสมควร ยามเมื่อยื่นเอกสารให้เขา หญิงสาวจึงต้องโน้มตัวไปข้างหน้า แต่ปราณต์กลับไม่ยอมยื่นมือมารับ ซ้ำยังพูดในสิ่งที่ทำให้แก้มเนียนแดงซ่านด้วยความอับอายอีกต่างหาก

“เวลาที่ไปขายของต้องลงทุนโชว์แบบนี้ทุกครั้งหรือเปล่า”

ขณะถามตาคมหลุบมองไปยังบริเวณเนินอกอวบอิ่มซึ่งโผล่พ้นขึ้นมาให้เห็น เนื่องจากเจ้าตัวก้มมาแบบไม่ได้ระวัง นัสรินที่เพิ่งรู้สึกตัวรีบยืดตัวขึ้นนั่งตรงและมองคนหาเรื่องอย่างเคืองปนอาย

“นัสไม่ได้ตั้งใจจะโชว์”

“นี่ขนาดไม่ตั้งใจนะ ถ้าตั้งใจจะขนาดไหน”

“ได้โปรดเถอะค่ะ อย่าหาเรื่องนัสเลย นัสมาคุยงานนะคะ” นัสรินเลือกที่จะตัดบทและเอ่ยขอร้องอดีตสามีดีๆ แต่ดูเหมือนว่าปราณต์จะไม่ค่อยตอบสนองต่อคำขอร้องของเธอเลย

“ผมหาเรื่องตรงไหน ผมก็แค่พูดตามที่เห็น”

“เอาเป็นว่านัสขอโทษที่ไม่ระวังตัวค่ะ”

เสียงหวานเอ่ยออกไปแล้วระบายลมหายใจเบาๆ ท่องคำว่างานๆๆ อย่างพยายามจะข่มใจให้เย็นเต็มที่

“โอเคดูเป็นมืออาชีพดี งั้นเอาเอกสารมาให้ผมดูใหม่ คงไม่ต้องให้บอกนะว่ารอบนี้ต้องเอามาให้แบบไหน”

เพราะอดีตสามีพูดดักคอเช่นนั้นทำให้นัสรินต้องลุกขึ้น ถือเอกสารที่ระบุรายละเอียดของสัญญาเดินอ้อมโต๊ะรูปตัวยูนั้นมาให้เขา คราวนี้ปราณต์ยอมรับเอกสารนั้นไปวางที่โต๊ะแต่โดยดี นัสรินจึงหันหลังเพื่อจะเดินกลับไปยังเก้าอี้ที่ตัวเองนั่งอยู่ แต่แล้วร่างบางที่กำลังจะก้าวนั้นก็ต้องเสียหลัก เมื่อถูกมือแข็งแรงเอื้อมมาฉุดข้อมือแล้วออกแรงดึงเต็มแรง เก้าอี้นั่งในห้องประชุมเป็นแบบไม่มีที่พักแขน ทำให้นัสรินถลาลงไปบนตักตามแรงของคนดึง

“อุ๊ย!” เสียงหวานอุทานออกมาอย่างตกใจ ไม่คิดว่าจะถูกปราณต์เล่นงานด้วยวิธีนี้ เมื่อได้สติและรู้ว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่บนตักเขา หญิงสาวก็ดิ้นขลุกขลักเพื่อจะลุกขึ้น แต่กลับถูกแขนแข็งแรงของปราณต์ตวัดรัดรอบเอวเล็กเอาไว้แน่น ทำให้เธอลุกไปไหนไม่ได้

“คุณปราณต์! ปล่อยนะคะ เรื่องอะไรมาแกล้งนัสแบบนี้ เดี๋ยวก็มีคนมาเห็นหรอก” นัสรินทั้งว่าทั้งดิ้น แต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งถูกกอดแน่นกว่าเดิม

“ใครว่าแกล้ง ผมกำลังกอดจริงอยู่ต่างหาก”

“ปล่อยนัสค่ะ! ไม่รู้หรือไงคะว่านี่ที่ทำงาน แล้วคุณก็เป็นถึงหมอ ทำไมจะต้องมากอดนัสแบบนี้ด้วย ถ้ามีคนเห็นเข้าคุณปราณต์จะทำยังไง”

“ก็ไม่ทำยังไง แค่บอกว่าพนักงานขายยาให้ท่า เอ...หรือจะบอกว่าเมียเก่าให้ท่าดีถึงจะถูกต้อง”

“ปล่อย!” คราวนี้นัสรินเริ่มทำเสียงแข็งเพราะถูกปราณต์ยั่วโมโห

“เงียบเถอะน่าแล้วก็นั่งนิ่งๆ ด้วย ผมจะใช้สมาธิอ่านสัญญา ถ้าผมอ่านไม่รู้เรื่องผมคงต้องยกเลิก” ปราณต์ขู่ต่ออย่างใจเย็นและไม่คิดจะเดือดเนื้อร้อนใจ

“คุณขู่นัส?”

“ถ้าคิดว่าผมขู่ก็ลองโวยวายอีกสักยกสองยกสิ จะได้รู้ว่าผมพูดจริงทำจริงมั้ย”

นัสรินมองคนที่กำลังขู่ตัวเอง แล้วก็ต้องรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อเห็นสายตาดุๆ ของเขาจ้องมองมาอยู่ก่อนแล้ว อะไรบางอย่างภายใต้ท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาวนั้นทำให้เธอไม่คิดจะลองดีหรือท้าทาย และไม่กล้าเอาเรื่องงานเข้ามาสุ่มเสี่ยงเพราะปราณต์เคยบอกแล้วว่าสำหรับเขาเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวคือเรื่องเดียวกัน

ร่างบางจำต้องนั่งนิ่งบนตักของอดีตสามีและปล่อยให้เขากอดอย่างสบายใจ ตั้งแต่ทำงานเป็นตัวแทนจำหน่ายยามาไม่เคยมีครั้งไหนที่เปลืองเนื้อเปลืองตัวแบบนี้มาก่อน ถ้าเป็นคนอื่นเธอคงไม่ยอมให้กอดหรือเข้าใกล้ตัวได้ง่ายๆ แต่สำหรับปราณต์เธอกลับไม่กล้าดื้อกับเขา

“จะอ่านก็รีบอ่านเสียทีสิคะ นัสก็นั่งเฉยๆ แล้วนี่ไง คุณจะหาเศษหาเลยจากนัสอีกนานมั้ย” คราวนี้นัสรินเอ่ยเตือนแกมต่อว่าเบาๆ เมื่อปราณต์เอาแต่จ้องเอาแต่กอด โดยไม่มีทีท่าว่าจะก้มลงไปอ่านเอกสารแต่อย่างใด

“ก็อยากอ่านนะ แต่มองไม่เห็น ถ้าอยากให้ผมอ่านก็หยิบแว่นให้หน่อย แว่นอยู่ในกระเป๋าเสื้อ”

“ทำไมไม่หยิบเองล่ะคะ”

“มือไม่ว่าง”

นัสรินถอนหายใจเบาๆ กับเกมถ่วงเวลาของคนที่ถือไพ่เหนือกว่า แต่ก็ยอมที่จะใช้มือเรียวหยิบแว่นตาจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนของเขา แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าปราณต์กำลังแกล้งเธออยู่แทบจะทุกทางที่เขาทำได้ก็ตาม ถึงตอนที่ยังเป็นสามีภรรยากันอยู่เธอกับเขาแทบจะไม่ได้ใกล้ชิด แต่เธอก็รู้ดีว่าปราณต์ไม่ใช่คนสายตาสั้นขนาดต้องพึ่งแว่นตา เขาจะใส่แว่นก็เฉพาะเวลาที่ทำงานในห้องผ่าตัดเท่านั้น

               

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status