แชร์

บทที่ 24

บทที่ 24

นัสรินสบตากับตาคมของอดีตสามีครู่หนึ่ง เธอเห็นแววแปลกใจปรากฏอยู่บนดวงตาคมของเขา แต่ก็แค่แวบเดียวมันก็เปลี่ยนเป็นเฉยเมยดังเดิม หญิงสาวจึงเสไปมองผู้หญิงที่ยืนเคียงข้างปราณต์พร้อมกับที่หัวใจเกิดอาการแกว่งไหว เมื่อเห็นว่าผู้หญิงที่ปราณต์ควงมานั้นสวยสง่าเพียงใด เพราะอย่างนี้เองกระมังเขาถึงไม่ได้ไปหาเธออย่างที่บอกเอาไว้ ขณะที่เธอก็บ้าพอที่จะรอคอยอย่างลมๆ แล้งๆ

“สวัสดีครับหมออรรณพ” ปราณต์ทักทายหมอที่ทำงานอยู่โรงพยาบาลเดียวกัน แต่ทำท่าเหมือนไม่เคยรู้จักกับนัสรินมาก่อน ทำให้หญิงสาวถึงกับคอแข็ง

“สวัสดีครับหมอปราณต์/หมอเมย์”

“หมอไม่ได้มากับภรรยาเหรอครับ”

แม้คำถามนั้นจะดูเหมือนธรรมดา หากแต่นัสรินฟังว่าปราณต์จงใจถามเพื่อประกาศให้เธอรู้ว่าหมออรรณพมีภรรยาแล้ว และเธอกำลังนั่งทานข้าวกับสามีคนอื่นอยู่

“เปล่า...นี่คุณนัสรินเป็นตัวแทนจากบริษัทยาที่จะจำหน่ายให้คลินิกของผม”

“อ้อ...คนขาย...ยา”

ดูเหมือนว่าคนฟังอย่างหมออรรณพและหมอเมธาวีจะไม่สะดุดหูกับคำพูดของปราณต์ที่จงใจพูดเว้นคำ แต่นัสรินเผลอมองคนพูดตาขุ่น

“อย่ามัวแต่แซวผมเลย แล้วนี่หมอกับหมอเมย์มาเดตกันเหรอ” หมออรรณพสัพยอกกลับอย่างไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจที่หมอในโรงพยาบาลเดียวกันมาเห็น ว่าตนทานข้าวกับผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยา

“เปล่าค่ะหมออรรณพ เมย์เป็นคนชวนพี่ปราณต์มาทานข้าวเองค่ะ พอดีได้พี่หมอช่วยเคสเอาไว้ เมย์ก็เลยมาเลี้ยงข้าวตอบแทน” เมธาวีเป็นคนตอบ แม้จะบอกว่าไม่ได้มาออกเดต แต่ท่าทีกลับเต็มไปด้วยความขวยเขินเมื่อถูกหมออรรณพแซวซึ่งๆ หน้าแบบนั้น ทำให้คนมองมองออกทันทีว่าหมอสาวมีใจปฏิพัทธ์ต่อนายแพทย์หนุ่มที่ตัวเองกำลังยืนเคียงข้างอยู่

“โอเคๆ งั้นเชิญตามสบายเลยนะ” หมออรรณพพูดอย่างเปิดทางและเป็นเชิงบอกว่า เขาเองก็ต้องการความเป็นส่วนตัวกับสาวสวยตรงหน้าเช่นกัน

ปราณต์พาเมธาวีไปนั่งที่โต๊ะถัดจากโต๊ะที่นัสรินนั่งอยู่เพียงโต๊ะเดียว เขาหันหลังให้ประตูทางเข้าและหันหน้ามาทางเธอ  ทำให้นัสรินต้องหลุบตามองจานข้าว เพราะไม่ชอบสายตาที่แฝงมาด้วยความเหยาะหยันของเขา

                “หมอจะว่าอะไรมั้ยคะถ้านัสจะขอตัวกลับก่อน พอดีนัสรู้สึกปวดหัวน่ะค่ะ” นัสรินเอ่ยขอตัวเมื่อรู้สึกว่าอึดอัดกับบรรยากาศและภาพที่ปราณต์กำลังเอาอกเอาใจคุณหมอคนสวยของเขา

                “แต่คุณยังไม่ได้ทานอะไรเลยนะ”

                “ไม่เป็นไรค่ะ นัสเองก็ไม่ค่อยหิว”

                “งั้นเดี๋ยวผมเช็กบิลเลย รอแป๊บหนึ่งนะ”

                “คุณหมอทานเถอะค่ะ อย่าทำให้นัสลำบากใจเลยนะคะ”

                “ไม่ได้ๆ ผมพาคุณมาผมก็ต้องไปส่ง”

                หมออรรณพไม่ยอมให้ตัวเองเสียคะแนนง่ายๆ และทำตัวเป็นสุภาพบุรุษกับสาวสวยตรงหน้าเต็มที่ เขารีบเรียกพนักงานมาเก็บเงิน แล้วพาหญิงสาวเดินออกจากร้าน ก่อนจะขับรถไปส่งที่คลินิกตามความต้องการของเธอ

                ร่างบางยังคงนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศแห่งใหม่แม้ว่าจวนจะได้เวลาเลิกงานแล้วก็ตาม ออฟฟิศซึ่งเป็นตึกแถวสามชั้นตกแต่งด้วยกระจกใสแห่งนี้ค่อนข้างจะใหญ่โต เมื่อเทียบกับจำนวนคนทำงาน ซึ่งตอนนี้มีเพียงสามคนคือนัสริน แม่บ้านวัยสี่สิบปลายๆ และพนักงานรักษาความปลอดภัย นั่นจึงเท่ากับว่าคนที่ทำงานจริงๆ มีเพียงเธอคนเดียว ส่วนแม่บ้านและพนักงานรักษาความปลอดภัยมีหน้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกเท่านั้น

                “คุณนัสจะกลับบ้านเลยมั้ยคะ ป้าจะได้รอปิดออฟฟิศให้”

                คำถามของแม่บ้านทำให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างคนที่ยุ่งกับงานจนลืมเวลา

                “ได้เวลาเลิกงานแล้วเหรอคะป้าอุ่นคำ”

                “ค่ะ...คุณนัสทำงานเพลินจนลืมเวลาล่ะสิคะ”

                “ไม่ได้เพลินอะไรหรอกค่ะ พอดีมีงานที่ต้องสะสางค่อนข้างเยอะ แต่เดี๋ยวนัสกลับเลยก็ได้ค่ะ ขอนัสปรินต์เอกสารแป๊บหนึ่ง ป้าอุ่นคำปิดไฟรอเลยนะคะ”

                “ค่ะคุณนัส”

                นัสรินจัดการกดสั่งปรินต์เอกสารซึ่งเป็นสัญญาซื้อขายยาจำนวนสองชุดแล้วนั่งรอ เพื่อจะเอาสัญญาสองฉบับนี้ไปให้หมออรรณพเซ็นตามที่นัดเอาไว้ เอกสารไหลออกมาจากเครื่องปรินต์แบบเลเซอร์โดยไม่ต้องรอนาน มือเล็กกำลังจะเอื้อมไปหยิบเอาเอกสารสองชุดนั้นใส่แฟ้ม แต่ก็ต้องเปลี่ยนไปหยิบโทรศัพท์มือถือก่อนเพราะมีคนโทร.เข้ามา

                เบอร์ที่ปรากฏบนหน้าจอเป็นเบอร์แปลก คิ้วเรียวมุ่นเข้าหากันด้วยความสงสัยเล็กน้อย แต่ก็กดรับอย่างไม่คิดมากเพราะด้วยหน้าที่การงานของเธอทำให้มีคนติดต่อหลากหลายอยู่แล้ว

“สวัสดีค่ะ”

เสียงหวานกรอกผ่านเครื่องมือสื่อสารอย่างนุ่มนวล เพราะไม่รู้ว่าปลายสายเป็นใคร

“ผมเอง...ปราณต์”

แม้เขาไม่ต้องแนะนำตัว แต่แค่ได้ยินเสียงเธอก็จำได้แม่นว่าเขาคือใคร หากเป็นก่อนหน้าที่เธอจะรู้ว่าเขามีแฟนแล้ว เธอคงตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้ยินเสียงเสียงนี้ผ่านโทรศัพท์ ทว่าตอนนี้ความรู้สึกมันมีแต่ความเฉยเมยเท่านั้น

“ค่ะ มีอะไรเหรอคะ” เธอถามกลับไปเสียงเรียบๆ ไม่ได้นุ่มหูเหมือนกับพูดในคราแรก

“คุณอยู่ไหน เดี๋ยวผมจะไปหา”

“นัสไม่ว่างค่ะ พอดีกำลังจะออกไปข้างนอก มีนัดกับหมออรรณพแล้ว แค่นี้นะคะ” พูดจบนัสรินก็กดตัดสายแล้วระบายลมหายใจออกมาเบาๆ เพื่อไม่ได้ตัวเองหวั่นไหว แม้จะมีคำถามว่าเขาจะมาทำไมแต่ก็พยายามปัดมันทิ้ง แล้วบอกตัวเองว่าเธอกับเขาไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องเกี่ยวข้องกันแล้วจริงๆ เยื่อใยที่เธอมีให้เขาเพียงฝ่ายเดียวมันไม่มีทางจะเริ่มต้นสานต่อกันได้ใหม่ในเมื่อตอนนี้เขามีเจ้าของหัวใจไปแล้ว

                หลังจากบอกตัวเองเช่นนั้น โทรศัพท์ที่เพิ่งจะถูกวางสายก็ถูกเก็บในกระเป๋าสะพาย มือเล็กหยิบเอาเอกสารจากเครื่องปรินเตอร์แล้วเก็บใส่แฟ้ม จากนั้นร่างบางก็ลุกจากโต๊ะพร้อมๆ กับที่ไฟในออฟฟิศถูกปิดจนเกือบมืดสนิท

               

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status