แชร์

บทที่ 27

บทที่ 27

“งั้นพาไปที่รถพี่ก็ได้ค่ะ มาช่วยพี่ประคองหน่อย”

“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวเมียพี่จัดการเอง” ปราณต์หยิบกระเป๋าเงินมาให้ทิปแล้วโบกมือเป็นเชิงบอกให้ไปได้ ดังนั้นหน้าที่ประคองผู้ชายที่ตัวโตกว่าจึงเป็นของนัสรินคนเดียว

หญิงสาวยกแขนของเขาพาดบ่าตัวเอง แล้วพาคนเมาออกจากร้านไปยังรถของตัวเองอย่างทุลักทุเล เพราะคนเมาไม่ให้ความร่วมมือเลย เขาทิ้งน้ำหนักแทบจะทั้งหมดลงบนไหล่ของเธอ ใบหน้าซบลงบนคอ และบ่อยครั้งที่นัสรินรู้สึกว่าปราณต์ใช้จมูกไซ้ซอกคอของเธอเบาๆ

“คุณปราณต์เดินดีๆ สิคะ” เธอปรามเขาเสียงขุ่น แม้ว่าลานจอดรถตอนนี้แทบจะไม่มีคน แต่เธอก็ไม่อยากถูกคนเมาหาเศษหาเลยแบบนี้

“นี่ก็เดินดีแล้ว เดินด้วยหอมด้วย” เขากระซิบเสียงอ้อแอ้พลางซุกจมูกเข้าที่ซอกคอขาวละมุนอีกครั้ง

“ถ้าคุณลวนลามนัสอีก นัสจะปล่อยคุณทิ้งไว้นี่”

“ใจร้ายจริง จะหวงตัวกับผัวไปถึงไหน” เสียงทุ้มนั้นพึมพำก่อนจะหัวเราะน้อยๆ

“เลิกขี้ตู่เสียทีค่ะ นัสกับคุณไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว สมองเสื่อมหรือไงคะคุณหมอปราณต์” นัสรินคิดว่าตัวเองต้องบ้าแน่ๆ ที่ต่อปากต่อคำกับคนเมา แต่เขาก็ช่างยั่วเหลือเกิน ทำให้บ่อยครั้งที่เธอหลุดการควบคุมตัวเองเพราะคำพูดของเขา

เมื่อถึงรถหญิงสาวก็ใช้มือข้างหนึ่งเปิดประตูฝั่งข้างคนขับ และบอกให้ปราณต์เข้าไปนั่งข้างใน ซึ่งนั่นเป็นครั้งแรกที่ปราณต์ดูเหมือนเด็กว่าง่ายเพราะเขาให้ความร่วมมืออย่างดี พอจัดการให้คนเมาขึ้นรถเสร็จ นัสรินจึงค่อยเดินอ้อมไปฝั่งคนขับ เธอเหลือบมามองเบาะข้างๆ ก็เห็นว่าตอนนี้ปราณต์นั่งพิงพนัก แต่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยแต่อย่างใด เธอจึงเอ่ยเตือนเขา

                “คาดเข็มขัดด้วยค่ะคุณหมอ นัสจะออกรถแล้ว”

                “ไม่คาด อึดอัด” ปราณต์ปฏิเสธและทำท่าว่าจะหลับ ทำให้นัสรินต้องโน้มตัวไปดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้เขาเสียเอง และโดยที่เธอไม่ทันระวังตัว ปราณต์ก็ฉวยโอกาสกดจมูกโด่งลงบนแก้มของเธอหนักๆ ทำเอาหญิงสาวหน้าร้อนวูบวาบไปหมด

                “คนฉวยโอกาส!” เธอต่อว่าเขาเสียงขุ่น แต่กลับถูกรวบเอวเล็กเอาไว้จนขยับไปนั่งที่ตัวเองไม่ได้

                “แก้มหอมดีจัง แต่จะให้ดีต้องหอมอีกข้างด้วย” เขาพูดเสียงอ้อแอ้หากแต่แตะจมูกลงที่แก้มอีกข้างได้อย่างแม่นยำ พร้อมกับซ่อนยิ้มในหน้าซึ่งดูเคร่งขรึมมาก่อนหน้านี้ ขณะที่คนถูกขโมยหอมแก้มกลับหน้าร้อนผ่าวไปหมด

                “ปล่อยค่ะ ถ้าไม่ปล่อยนัสจะให้คุณกลับเอง”

                “ใจร้ายจริง”

                “ใครกันแน่คะที่ร้าย ปล่อยนัสได้แล้ว”

นัสรินดิ้นอีกและคราวนี้ปราณต์ก็ยอมปล่อยมือจากเอวเล็กที่ตัวเองกอดอยู่อย่างง่ายดาย นัสรินหยิบกระเป๋าสะพายออกจากไหล่ วางมันไว้ที่บริเวณใกล้ๆ คันเกียร์ซึ่งออกแบบมาให้วางของ และทันทีที่เธอวางลงปราณต์ก็หยิบมันไปวางบนตักตัวเอง และกอดกระเป๋าใบนั้นคล้ายจะกอดแทนผู้เป็นเจ้าของ นัสรินมองค้อนแต่คร้านจะว่าอะไร เพราะหลังจากนั้นปราณต์ก็หลับตาลง เธอคิดว่าคนเมาพอโดนแอร์เย็นๆ ก็เลยง่วง และที่เอากระเป๋าของเธอไปกอดไว้คงเป็นเพราะหนาวนั่นเอง เห็นแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้

 ช่างเถอะ...ส่งเขาถึงบ้านแล้วทุกอย่างก็คงจบ เขาเองจะได้เข้าบ้านและหลับพักผ่อน ส่วนเธอก็ได้กระเป๋าคืน จากนั้นก็ต่างคนต่างอยู่เช่นเดิม นัสรินบอกตัวเองเช่นนั้น ก่อนจะออกรถแล้วขับตรงไปยังบ้านเช่าหลังเดิมที่เธอกับปราณต์เคยอยู่ด้วยกันตอนแต่งงาน เพราะทราบจากธรินดามาว่าปราณต์ยังอยู่ที่บ้านหลังนั้น

รถญี่ปุ่นคันสีขาวจอดที่หน้าบ้านทรงโมเดิร์นซึ่งตัวเองคุ้นเคยเป็นอย่างดี จากนั้นก็หันไปปลุกคนเมาซึ่งนั่งหลับมาตลอดทาง

“คุณปราณต์คะ ถึงบ้านแล้วค่ะ”

“ถึงแล้วเหรอ” ปราณต์ทำท่าทางงัวเงีย หันไปมองบ้านตัวเองแวบหนึ่ง ก่อนจะล้วงเอากุญแจรั้วออกมาแล้วกดรีโมตให้ประตูเปิดออก จากนั้นก็หลับต่อ ทำให้นัสรินต้องหักพวงมาลัยรถเข้าไปในบ้าน ทั้งๆ ที่ตั้งใจว่าจะส่งเขาแค่หน้าบ้าน แต่เห็นจากสภาพแล้วปราณต์คงเดินไม่ถึงบ้านเป็นแน่

หัวใจของนัสรินกระตุกวาบอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อต้องมาอยู่ท่ามกลางบรรยากาศเดิมๆ แบบใกล้ชิดอีกครั้ง เธอหันไปทางปราณต์ก็เห็นว่าเขาหลับอีกแล้ว แสดงว่าเขาเมาหนักจริงๆ แม้จะอยู่ด้วยกันชั่วระยะเวลาสั้นๆ แค่สามเดือน แต่เธอรู้ว่าปราณต์ไม่ใช่คนชอบดื่มเหล้า มีเพียงครั้งเดียวที่เขาเมามาก็คือคืนก่อนหย่า และเขาก็มอบความเป็นแม่หม้ายอย่างสมบูรณ์ให้กับเธอในคืนนั้น

นัสรินพยายามจะไม่คิดถึงอดีต แต่มันก็ยากเหลือเกิน ยิ่งเมื่อเข้ามาอยู่ในอาณาเขตของบ้านหลังนี้ ภาพแต่หนหลังก็ยิ่งหลั่งไหลเข้ามาจนอยากหนีกลับไปไวๆ

“คุณปราณต์คะ คุณปราณต์” เสียงหวานรีบเอ่ยปลุกอดีตสามีที่ยังคงหลับอยู่

“หือ” เขาขานแต่ไม่ยอมลืมตาเหมือนตอนแรก

“ถึงบ้านแล้วค่ะ ลงได้แล้ว”

“...”

คราวนี้เขาไม่ยอมตอบ และทำท่าเหมือนหลับลึก ทำเอาคนมาส่งหนักใจว่าจะทำอย่างไรดี ในที่สุดนัสรินก็ตัดสินใจผลักประตูลงจากรถ เปิดประตูฝั่งที่ปราณต์นั่งอยู่ เขย่าแขนเขาเบาๆ เพื่อปลุกให้เขาตื่น

“คุณปราณต์คะ คุณปราณต์”

“ฮื้อ...อย่ากวน คนจะนอน”

“แต่นี่มันในรถนัสนะคะ คุณจะนอนได้ยังไง ไปค่ะเข้าบ้านเดี๋ยวนัสจะไปส่ง” เจ้าของเสียงหวานเอ่ยตะล่อมราวกับหลอกล่อเด็ก ในยามนี้เธอรู้ว่าการใช้อารมณ์และวาจารุนแรงไป ก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมา เพราะปราณต์เมาและทำท่าจะหลับอย่างเดียว ยิ่งเธอตอแยเขามากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งต้องอยู่ในบ้านหลังนี้นานขึ้นเท่านั้น

               

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status