เป็นเรื่องราวของนางเอกชื่อรินรดา ที่อายุห่างกับพระเอกชื่อ กาลนานเก้าปี กาลนานเป็นน้องใหม่ในที่ทำงานของรินรดาบริษัทนำเข้าที่ทำเกี่ยวกับเครื่องจักรในอุตสาหรรม ด้วยความที่รินอายุมากกว่านานจึงติดเรียกเขาว่าน้องนานบวกกับความอ้อนแอ้นหน้าหวานของเขายิ่งทำให้รินมองว่าเขาน่ารักและหล่อเสมอ แต่หารู้มั้ยว่าจริงๆ แล้ว กาลนานนี่แหละคือตัวล่าผู้หญิง กาลนานมีพี่ชายที่ไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไหร่ชื่อนิรันด์ เขาคิดว่ากาลนานคือคนที่แย่งแฟนสาวของเขาไป จึงทำทุกวิธีทางเพื่อจะแย่งผู้หญิงของกาลนานมาบ้างและหนึ่งในนั้นก็คือรินรดา
View Moreสามวันแล้วที่กาลนานไม่มาทำงานและติดต่อเขาไม่ได้เลยโทรไปก็ปิดเครื่อง ฉันไปดูที่คอนโดของเขาก็ไม่เจอเลย“เราเลิกกันจริงๆ แล้วเหรอเราจบกันแค่นี้จริงเหรอ” ฉันพูดกับตัวเองเมื่อก้าวขาออกมาจากคอนโดของเขา เช้าวันต่อมาวันนี้คุณนิรันด์กาลเข้ามาดูบริษัท เพื่อจะขยายธุรกิจ พวกเราจึงเตรียมตัวกันแต่เช้าโดยเฉพาะพี่ชาหัวหน้าแผนกที่ยุ่งกว่าทุกวัน“รินๆ เดี๋ยวช่วยเอาอันนี้แทรกเนื้อหาที่พี่จะพูดกับคุณนิรันด์กาลด้วยนะ” พี่ชาพูดพร้อมกับหยิบแฟลชไดรฟ์ในกระเป๋าส่งให้ฉัน ฉันรับมันมาและตั้งหน้าตั้งตาทำงานพยายามไม่คิดถึงกาลนานแต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองหาเขา“สวัสดีครับพนักงานที่น่ารักของผม หลายเดือนแล้วที่ผมไม่ได้เข้ามาที่นี่ แต่ผมก็ส่งลูกชายคนโตของผมเข้ามาทำงานและดูแลที่นี่แทนผมขอขอบคุณที่ทุกคนให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี แต่ก็มีลูกชายคนเล็กของผมที่อยากให้เข้ามาช่วยที่นี่ด้วยเช่นกัน หลายคนอาจจะรู้จักแล้วและผมเองก็แปลกใจเพราะรู้เรื่องนี้เมื่อวันก่อนจากปากลูกชายคนโตของผมว่าเขามาทำงานที่นี่หลายเดือนแล้ว” คุณนิรันด์พูดออกไมโครโฟนในห้องประชุมใหญ่ แล้วคุณนิรันด์ก็ลุกขึ้นทักทายทุกคนในห้องประชุม ทันทีที่ประตูห้องประชุมถูกเป
วันต่อมาฉันเข้ามาทำงานแต่เช้าเพราะต้องมาเคลียร์งานก็เจอกับอาร์ที่กำลังนอนหลับอยู่“อาร์ ตื่นเร็วเช้าแล้วมานอนอะไรตรงนี้”“อ้าวพี่รินเช้าแล้วเหรอ” เขาลุกขึ้นมานั่งทุบท้ายทอยตัวเองตุบๆ“แล้วมานอนอะไรตรงนี้ เมื่อคืนไม่ได้กลับไปนอนที่บ้านเหรอ”“เมื่อคืนผมนั่งเคลียร์งานเก่าตอนช่วงป่วยเลยเผลอหลับไปครับ”“เอากาแฟหน่อยมั้ย” ฉันถามเขา“ดีเหมือนกันพี่” ฉันหัวเราะให้น้องที่มันยังคงนั่งงัวเงียอยู่ “พี่รินคบกับนานแล้วเหรอครับ” อาร์ถามฉันเมื่อเขาจิบกาแฟที่มันกำลังมีไอร้อนหอมกรุ่นขึ้นอยู่“ใช่ พี่คบกันแล้วข่าวเร็วจัง”“พี่ไม่ต้องไปสนใจหรอกครับ เดี๋ยวคนก็หยุดพูด”“นั่นสิเนอะ พี่จะสนใจทำไมแล้วทำไมยังเคลียร์งานเก่าอยู่ล่ะ บอกให้พี่ช่วยก็ได้นะ”“งานแก้โปรแกรมน่ะครับ ผมใส่โค้ดผิด”“ระดับอาร์นี่นะใส่โค้ดผิด” ฉันหัวเราะเขาพร้อมกับเปิดโน๊ตบุ๊คเตรียมทำงาน“พี่ริน คิดว่านานเป็นคนยังไงครับ” “ฮะ ทำไมถึงถามเรื่องนี้ล่ะ อาร์ก็รู้จักเขาก่อนพี่อีกนะ”“ผมก็รู้จักในฐานะเพื่อน ไม่ใช่ในฐานะแฟนแบบพี่รินสักหน่อย”“รู้อะไรมาบอกพี่มานะ” ฉันตีไปที่แขนของเจ้าอาร์ เพราะเขาเป็นเพื่อนกันน่าจะรู้ความลับกันบ้างแหละ“ผมจะไปรู้อะ
สองวันต่อมา“ยัยริน ช่วงนี้ไม่เบาเลยนะแก” น้ำตาลเดินมาหาฉันที่โต๊ะทำงานพลางทำมือปูไต่บนหัวไหล่ของฉัน“อะไรไม่เบาของแกฉันไปทำอะไรให้เหรอ”“มีคนเห็นแกกับน้องนานไปเดินซื้อของกันที่ห้างXXX เดินควงแขนกันท่าทางกระหนุงกระหนิงมากเลยนะหวานเวอร์อ่ะ ใช่มั้ยๆ” น้ำตาลใช้ไหล่กระแซะฉันบอกแล้วถ้ายัยน้ำตาลล้อใครนี่จะเล่นใหญ่มากเหมือนกับตอนนี้ที่ฉันโดนเธอกระหน่ำยิงคำถามทีเล่นทีจริงอยู่“ใครกันเห็นฉัน จำคนผิดแล้วฉันจะไปเดินควงแขนกับนานเขาได้ไง ตาฝาด” “ก็ฉันนี่ไง ฉันเห็นแกเต็มสองตาว่าเดินควงแขนมากับน้องนานสุดหล่อของฉัน”“แกเองเหรอ ฉันก็คิดว่าใคร” ฉันค่อยรู้สึกโล่งอกเมื่อน้ำตาลบอกว่าเป็นตัวเธอเองที่เห็น“แล้วก็คุณสมรที่เห็นเธอมากับน้องนาน” พอน้ำตาลพูดชื่อคุณสมรขึ้นมาความรู้สึกของฉันก็เปลี่ยนไปทันที“ถ้าคุณสมรรู้ป่านนี้ก็รู้กันทั้งบริษัทละ” ฉันพูดพร้อมกับก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไปเพราะคงไปห้ามปากคนไม่ให้พูดไม่ได้“แล้วจริงสิที่คบกัน ฉันว่าฉันไม่พลาดหรอกมองแป๊บเดียวก็รู้ ตอบมาเลย” น้ำตาลพูดพร้อมจับไหล่ฉันเขย่า“ เออ คบกันอยู่” ฉันตอบแบบรำคาญ“คบกันตอนไหน นานหรือยัง” “ถามไรเยอะแยะ” “ก็ฉันอยากรู้นี่ หรือว่าตอ
ตี๊ดดๆๆๆ เสียงนาฬิกาที่ฉันตั้งไว้ดังขึ้น“พี่รินตั้งปลุกทำไมครับวันนี้วันหยุดนะ” กาลนานที่ยังนอนงัวเงียอยู่หลับตาพูด“พี่ลืมน่ะ ขอโทษทีนะนอนต่อเถอะ” เขาดึงตัวฉันให้ไปนอนหนุนแขนของเขา“ดีจังเช้านี้ตื่นมาก็เจอสาวสวยนอนอยู่ข้างๆ” ฉันแกล้งแซวเขา“ดีจัง เช้านี้ตื่นมาพี่รินก็เจอหนุ่มหล่อแบบผมนอนอยู่ข้างๆ” กาลนานแซวฉันคืนบ้าง“วันนี้วันหยุดนานมีธุระที่ไหนมั้ย” ฉันถามเขา“วันนี้ผมยกให้พี่รินทั้งวันเลยครับ พี่รินอยากไปเที่ยวไหนเดี๋ยวผมจะพาไปทุกทีเลย”“แต่พี่กลัวคนที่ทำงานเห็นเราสองคนอยู่ด้วยกัน” ฉันพูด“ทำไมยังต้องกลัวคนเห็นครับ ผมไม่มีแฟนพี่รินก็ไม่มีแฟนแล้วเราจะหลบทำไมครับ”“พี่กลัวคนที่ทำงานเจอเรา มันดูไม่ดีเพราะพี่อายุมากกว่านานตั้งหลายปี นานไม่อายคนอื่นเหรอที่มีแฟนแก่แบบพี่” ฉันบุ้ยปาก“จะอายทำไมครับ พี่รินยังดูเด็กยังสาวยังสวยขนาดนี้ใครอายก็บ้าแล้ว”“จริงเหรอ ไม่หลอกให้พี่ดีใจนะ”“จริงสิครับ เพราะผมสำรวจพี่มาทุกซอกทุกมุมแล้วยังสาวยังสวยแถมยังเร้าใจอยู่” เขากระชับกอดฉันแน่นขึ้น“อย่างหลังไม่ต้องบอกก็ได้มั้ง” ฉันบ่นอู้อี้กับหน้าอกแน่นๆ ของเขา“ผมกลัวพี่รินไม่เห็นภาพนี่ครับ”“‘งั้นถ้าใครเห
“พี่บอกว่าค้างไม่ได้ไง ทำไมนานไม่ไปนอนที่คอนโดนานล่ะ”“ก็ผมอยากค้างกับพี่รินนี่ครับ ให้ผมนอนด้วยนะผมนอนที่โซฟานี้ก็ได้” แล้วเขาก็นอนลงบนโซฟาจริงๆ“ไม่ได้หรอก” ฉันตอบเขาอมยิ้มพร้อมทั้งเดินไปดึงมือของเขาให้ลุกขึ้น“โอ๊ย” ฉันตกใจเมื่อเขาดึงฉันให้ลงไปนอนบนตัวของเขา“นานแกล้งพี่”“ก็พี่ริน…น่า…แกล้งนี่ครับ” เขาทำเป็นพูดเว้นไว้“ไม่ทันไร ก็กล้าทำแบบนี้กับพี่แล้วเหรอ”“กล้ามากกว่านี้ผมก็ทำมาแล้วนะครับพี่รินน่าจะรู้” เขากอดรัดฉันจนแน่นแถมยังหอมแก้มของฉันอีก“ปล่อยพี่ก่อนสิพี่หายใจไม่ออกนะนาน” “งั้นผมต้องผายปอดให้พี่แล้วล่ะครับ” ไม่พูดเปล่าเขาจับท้ายทอยฉันกดลงให้ใบหน้าของฉันไปใกล้ริมฝีปากของเขา“อืม ดีจังครับ” มือของเขาเริ่มลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของฉันเมื่อฉันโต้ตอบการจูบของเขาบ้าง “พี่ว่ามันเร็วไปนะเรื่องของเรา”“พี่รินเสียใจเหรอครับที่มีอะไรกับผม ผมทำพี่รินเสียใจเหรอครับ” เขาพูดในขณะที่ฉันยังนอนทับตัวของเขาอยู่บนโซฟา“พี่ไม่เสียใจหรอก แต่พี่แค่คิดว่าเรามีอะไรกันเร็วเกินไปนานคงไม่ว่าพี่ใจง่ายนะ” ฉันดันตัวเองให้ลุกขึ้นจากตัวของเขาแล้วนั่งลง กาลนานลุกขึ้นมากอดฉัน“ถ้าช้ากว่านี้ผมคงขาดใจตายพอดี
ที่ห้องทำงานคุณนิรันด์“เชิญนั่งครับ”“ขอบคุณค่ะ” ฉันนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเขาด้วยใจที่อยู่ไม่เป็นสุขเพราะไม่รู้ว่าเขาจะต่อว่าฉันเรื่องอะไรบ้าง“ผมขอเข้าเรื่องเลยละกันนะครับ คุณรินรดาคงจำได้เมื่อวันก่อนที่เจอกับคุณนิรันด์กาลพ่อของผมแล้วมีน้องในทีมของคุณโดนน้ำมันจากเครื่องจักรกระเด็นใส่หน้า ทำให้ท่านเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของคุณก็แค่นั้น ไม่ได้มีเจตนาจะตำหนิการทำงานของคุณเลย” ฉันได้ฟังดังนั้นจึงทำได้เพียงพยักหน้ายอมรับความหวังดีก็นั้น“ต้องขอขอบคุณความหวังดีของท่านมากนะคะ ต่อไปฉันกับน้องในทีมจะระวังให้มากกว่านี้ค่ะ”“พูดแบบนี้ คงไม่ยอมทำตามใช่มั้ยครับ” คุณนิรันด์ยิ้มอย่างรู้ทัน“ถ้ามีคำสั่งมาแบบนี้ฉันก็ต้องทำตามค่ะแต่ฉันอยากจะเคลียร์งานให้หมดก่อนได้มั้ยคะเพราะยังมีงานที่ฉันต้องส่งมอบให้ลูกค้าอีกค่ะ” ฉันอธิบาย“งั้น ตกลงครับผมอนุญาต”“ขอบคุณค่ะที่เข้าใจฉัน”“ตอนเที่ยง คุณมีนัดหรือยังครับ ผมว่าจะชวนคุณไปทานข้าว” คุณนิรันด์ส่งสายตาเป็นประกาย ให้ตายเถอะสายตาแบบนี้เหมือนกาลนานมองฉันไม่มีผิด แต่ดูๆ ไปสองคนนี้มีส่วนคล้ายกันอยู่นะไม่ว่าจะเป็นดวงตาหรือว่ารอยยิ้มของเขามีเสน่ห์เหมือนกันไม่มีผิ
หลังจากที่กาลนานอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เราสองคนก็ออกไปทานข้าวกันตรงทางเข้าหน้าหมู่บ้านจัดสรรและกลับเข้ามา“ให้ผมค้างที่นี่ได้มั้ยครับพี่ริน” เขากอดฉันจากทางด้านหลัง“นะๆ ผมจะไม่ซุกซนเลย สัญญา” เขายื่นนิ้วเกี่ยวก้อยกับฉัน“ก็ได้ แต่นานไปนอนห้องนั้นนะ” ฉันชี้ไปที่อีกห้องหนึ่งที่ว่างเพราะบ้านมีสองห้องนอน“ก็ได้ครับ คิดว่าจะได้นอนห้องเดียวกับพี่รินซะอีก” เขายู่ปากใส่พร้อมกับเดินห่อไหล่เข้าไป ทำให้ฉันอดหัวเราะไม่ได้ เมื่อเขาปิดประตูห้องแล้วฉันก็เดินเข้าไปอาบน้ำเช่นกันเพราะนี่ก็ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้าอีกพอฉันอาบน้ำเสร็จ เปิดประตูออกมาก็พบว่ากาลนานนั่งอยู่ตรงโซฟา พร้อมกับกล่องผ้าใส่ของที่ฉันไม่ได้เห็นมันนานแล้ว“พี่ยังไม่ลืมแฟนเก่าเหรอครับ” เขานั่งหันหลังพูด“ลืมแล้ว พอดีพี่เก็บไว้แล้วกะว่าจะเอาไปทิ้งก็เลยลืมสนิทเลย”“อย่างนั้นเหรอครับ แต่พี่ก็ต้องเข้ามาทำความสะอาดห้องบ้างไม่ใช่เหรอครับก็น่าจะเห็น” เขาหันมามองกล่องแล้วเลยมามองหน้าฉันด้วยสายตาที่แสดงว่ากำลังน้อยใจอยู่ พอเขาพูดแบบนี้ฉันก็ยิ่งคิดว่าสิ่งที่เขาพูดมันถูกทุกอย่าง ใช่ ฉันเห็นกล่องใบนั้นตลอดเพราะฉันเป็นคนเก็บมันใส่
“สวัสดีค่ะ วันนี้เรามาแก้ไขปัญหาของระบบที่แจ้งเอาไว้นะคะ ต้องขอโทษจริงๆ นะคะที่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น” ฉันกล่าวขอโทษกับทีมเอ็นจิเนีย“ไม่เป็นไรครับ อาจจะเกิดเพราะเครื่องจักรมันรวนก็ได้ครับ”แล้วฉันกับกาลนานก็ช่วยกันแก้ไขจนกระทั่งพี่ชาโทรมาบอกว่าประธานใหญ่ของบริษัทเราพ่อของคุณนิรันด์ คือคุณนิรันด์กาล ก็อยู่ที่บริษัทนี้ด้วยเหมือนกัน เห็นว่าจะถามเรื่องของเครื่องจักรที่เคยติดตั้งด้วย ยังไงซะฉันก็อยู่ที่นี่แล้วช่วยต้อนรับเขาด้วยเพราะเขาก็มาดูงานที่นี่ด้วยเช่นกัน“แต่พี่ชาคะ หนู”“เอาน่า ถือว่าช่วยพี่ ช่วยทีมแล้วก็ช่วยบริษัทด้วย”“อ้างเยอะ” ฉันว่าพี่ชาแล้วก็วางสายไปฉันเดินเข้ามายังห้องรับรองแขกที่มีคุณนิรันด์กาลเข้ามานั่งอยู่ก่อนแล้ว ด้วยอาการนอบน้อมของฉันและก็เกร็งสุดๆ ด้วยเช่นกัน“เชิญนั่งครับ คุณรินรดาผมขอโทษด้วยนะครับที่รบกวนเวลาการทำงานของคุณ”“ไม่เป็นไรค่ะท่านดิฉันยินดีมากค่ะ” แถมฉันยังรู้มาอีกว่าคุณนิรันด์กาลก็เป็นหุ้นส่วนใหญ่ของที่นี่ด้วย ถึงแม้เขาจะมีอายุที่มากแต่บุคลิกที่ดูภูมิฐานทำให้เขาดูไม่ต่างจากหนุ่มๆ เลย ไม่แปลกที่คุณนิรันด์จะดูดีเช่นเดียวกับเขา“วันนี้ มาคนเดียวเหรอครับแล้วท
“พี่ริน เรื่องเมื่อวานผมขอโทษด้วยนะครับ” กาลยืนรอฉันตรงทางเข้าแผนกพร้อมกับแก้วกาแฟและขนม “พี่ลืมแล้ว ไม่ต้องพูดถึงหรอก” ฉันรับแก้วกาแฟและขนมพร้อมกับหันหน้าหนีเขาเพราะความอาย “แต่ผมยังไม่ลืมนะพี่ริน” เขาอมยิ้มพร้อมกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่ทำให้ฉันเขินอายได้ขนาดนี้ “อะไรจ้ะยัยริน มายืนบิดอะไรตรงนี้นี่แกจะจีบน้องนานเหรอ” น้ำตาลเดินมากอดคอฉัน “จีบเจิบอะไรกัน ฉันน่ะไม่ชอบคนเด็กกว่าหรอกนะ” ทันทีที่ฉันพูดจบกาลนานก็หน้าบึ้งตึงแล้วรีบเดินจ้ำอ้าวเข้าไปที่แผนกของตัวเองอย่างรวดเร็ว ตกบ่ายมามีลูกค้าร้องเรียนว่าบริษัทติดตั้งโปรแกรมผิด ฉันเปิดตารางดูว่าวันนั้นใครเป็นคนติดตั้ง “นี่ฉันกับกาลนานเองเหรอ” ฉันเอามือปิดปากตกใจ “ใช่น่ะสิ อธิบายให้พี่ฟังหน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้นรินรดา” พี่ชาถามเสียงเข้ม “หนูยังแปลกใจเลยค่ะพี่ชา ว่าพลาดตอนไหนทั้งที่เราก็เช็คโปรแกรมกันแล้ว แถมยังลองวอร์มเครื่องดูด้วยค่ะ” ฉันกำลังคิดทบทวนว่ามันเป็นเพราะอะไร “ลูกค้าเค้าร้องเรียนมา เราก็ต้องเข้าไปดูโดยด่วนเข้าใจมั้ย” “ได้ค่ะพี่ชา พรุ่งนี้หนูจะเข้าไปดูให้แต่เช้านะคะ น่าจะใช้เวลาเดินทางสามถึงสี่ชั่วโมงกว่าจะถึงเนื่องจากระยะทาง
เสียงเพลงที่ดังเร้าใจในผับแห่งหนึ่งทำเอาหัวใจของฉันแทบจะกระโดดโลดเต้นออกมาฉันเต้นและดื่มโดยไม่รู้ว่าแก้วที่เท่าไหร่แล้วที่กรอกใส่ปากไม่หยุดฉันกลายเป็นคนขี้เหล้าเมายาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ความเจ็บปวดซัดมาเต็มๆ ที่หัวใจไม่หยุดหย่อนเมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสองอาทิตย์ก่อน"พอกันทีชีวิตบัดซบแบบนี้" ฉันขว้างแก้วเหล้าไปที่ผนังกำแพงของร้านและรีบพาตัวเองออกมาจากผับนั้นอย่างรวดเร็ว หวังว่าฉันจะไม่โดนตำรวจตามมาจับหรอกนะ"สะใจโว้ย นังริน นังรินแกมันบ้า"ฉันตะโกน และวิ่งมาที่รถรีบปิดประตูอย่างไวเช้าวันต่อมาฉันก้าวเท้าเข้ามาในบริษัทที่ฉันทำงานได้ประมาณเกือบ 6 ปี ด้วยความมั่นใจในความสวยจนใครๆ ต้องเหลียวหลัง"สวัสดีค่ะพี่รินเมื่อคืนดื่มหนักหรือคะตาดูบวมๆ" จิวยืนยิ้มแฉ่งตรงประตูทางเข้า ทำเอาฉันหมดความมั่นใจไปเลย"ฉันมาส์คหน้ามาหรอกย่ะ ให้มันดูเต่งตึง" ใครจะไปรู้ว่าเมื่อคืนฉันร้องไห้มาอย่างหนักแค่ไหน"นั่นสิคะ…พี่รินก็อายุมากแล้วก็ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ" ยัยจิวปากเสียแล้วหนึ่งฉันแค่อยู่ในวัยผู้ใหญ่ขึ้นมานิดนึงช่วยเรียกให้ถูกด้วย“ฉันอายุแค่สามสิบสาม บางทีฉันยังดูหน้าเด็กกว่าคนแถวๆ นี้อี...
Comments