"พี่ว่าเราไปหาอะไรกินกันดีกว่า หิวข้าวแล้ว" ฉันพูดพลางลูบท้อง
กว่ารถจะมาถึงที่บริษัทก็ค่ำพอดี ฉันพากาลนานมาทานข้าวข้างบริษัท
"อะไรกันพี่มีแต่กับแกล้มกับเหล้าไหนบอกหิวข้าว" เขาถามพร้อมมองอาหารบนโต๊ะพร้อมกับเหล้า
"หิวเหล้า แฮะๆ " ฉันแกล้งแสแสร้งว่าอยากกินเหล้า แต่จริงๆ วันนี้ฉันจะทำให้กาลนานเมาแล้วเผยตัวตนที่ซ่อนอยู่ในตัวเขาออกมา ฉันจัดการรินเหล้าให้เขาพร้อมประเคนใส่มือให้ เขายิ้มมุมปากเล็กน้อย
"รับน้องใหม่เหรอครับพี่" เขาถามก่อนจะยกขึ้นดื่ม
"ใช่ๆ วันนี้พี่เลี้ยงสั่งเต็มที่เลยนะถ้านานเมาเดี๋ยวพี่จะไปส่งที่บ้านเอง"
คำพูดนั้นทำให้นานหัวเราะออกมา
"เคครับ อย่าลืมไปส่งผมล่ะ" เขายกขึ้นดื่มอีกแก้ว
"ฮือๆๆ ทำมายยยย…ถึงทำกับรินแบบนี้ รินทามอารายยย…ผิด" ฉันยกดื่มอีกแก้ว ไม่ผิดคำพูดของนาน ที่ฉันเมาหรือดื่มมักจะร้องไห้กับเรื่องที่ทำให้เสียใจ
"พอได้แล้วพี่ริน เมามากแล้ว" กาลนานดึงแก้วเหล้าออกจากมือของฉัน
"ไม่มาวว…สักหน่อย นายต่างหากที่มาววว เอิ้กกก.. เผยตัวตนที่อยู่ในตัวนายออกมาสิ จริงๆ แล้วนายเป็นคนยังไงกันแน่ เวลาทำงานจะได้ราบรื่น เพราะฉันเองก็ไม่อยากเปลี่ยนผู้ช่วยใหม่หรอกนะ"
"อ๋อ ที่เลี้ยงเหล้าผมเพราะจะให้ผมเปิดเผยตัวเองงั้นเหรอ เข้าใจละ" เขาพยักหน้ายิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
"ม่ายช่ายสักหน่อยพี่แค่อยากเลี้ยง แต่ใครจะไปรู้ว่านายคอแข็งเอาไม่ลงขนาดนี้ เอิ๊ก" ฉันฟุบลงคาอกของเขาเมื่อเขาขยับเก้าอี้มานั่งข้างฉัน
"ถ้าผมเปิดเผยตัวจริงขึ้นมา คิดว่าพี่จะรับไม่ได้น่ะสิ" เขาพูดออกมาพร้อมใบหน้าแดงๆ ที่ขยับมาใกล้ฉัน รู้เลยว่าเขาเริ่มมีอาการตึงๆ นิดหน่อย แต่น่าเสียดายที่ฉันเริ่มเมาแล้ว
"นานมีแฟนหรือยัง" ฉันถามเขาทั้งที่ยังหลับตาอยู่
"มีแล้วครับ"
"ผู้ชายเหรอ" ฉันถามตามตรง
"อ๋อ พี่คิดว่าผมเป็นเกย์แบบนั้นสิ"
"ใช่" ฉันตอบสั้นๆ
"แบบนี้นี่เอง พี่เลยชวนผมมาดื่มเพื่อจะหลอกถามผม"
"เปล่าซะหน่อยแค่อยากเลี้ยงเฉยๆ "
"เดี๋ยวผมส่งพี่กลับบ้านดีกว่า ว่าแต่ว่าบ้านพี่อยู่ไหน" เขาดันหน้าฉันออกจากอกของเขา
"เดี๋ยวพี่นั่งแท็กซี่ไป" ฉันลุกขึ้นพร้อมทั้งตบไหล่ของเขา
"พี่เมาขนาดนี้ กลับเองไม่ได้หรอกครับ" เขาพยุงฉันมายังลานจอดรถบริษัท แอร์เย็นๆ และกลิ่นรถของเขารู้เลยว่าเขากำลังจะพาฉันมาส่งที่บ้าน
ติ๊ดดดติ๊ดดด ครืดดดดเสียงนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์ดังขึ้น ฉันลุกขึ้นมากดปิดอย่างงัวเงีย พลางนึกประมวลผลกับเหตุการณ์เมื่อคืน เพดานห้อง ผนังห้องโทนขาวเทาสไตล์โมเดิร์นที่ฉันไม่คุ้นเคย ทำให้ฉันรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
"กรี๊ดดดด" หรือว่ากาลนานจะข่มขืนฉัน ฉันเปิดผ้าห่มที่คุมตัวฉันอยู่
"ยังอยู่ชุดเดิมหนิค่อยโล่งอกหน่อย" ฉันหันไปมองข้างที่นอนที่ฉันนอนอยู่กลับว่างเปล่า ฉันเปิดโทรศัพท์ดูข้อความที่นานส่งมาให้
'รถพี่รินจอดอยู่ข้างล่างนะ เอาคีย์การ์ดมาคืนผมที่ทำงานด้วยนะครับ กาลนาน'
ฉันลุกสำรวจภายในห้องที่มีรูปถ่ายของเด็กผู้ชายที่ยืนยิ้มแฉ่งกับผู้หญิงวัยกลางคน รอยยิ้มแบบนี้ของกาลนานแน่นอน
"นี่เขาพาฉันมานอนที่ห้องของเขาเหรอ ห้องดูหรูหราสะอาดไม่เบาเลยนะ แล้วเมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหนกัน"
"อ๊ะ พี่ซื้อมาฝาก" ฉันวางแก้วกาแฟไว้บนโต๊ะของเขา
"เมื่อคืนไปนอนที่ไหนมา" ฉันกระซิบถามเขาที่ข้างหูทำให้เขาหันมา
"อุ๊ย" ฉันรีบหันหน้าหนีเมื่อริมฝีปากของฉันเฉียดไปที่แก้มของเขา
"ห้องเพื่อน ครั้งหน้าไม่ต้องชวนผมไปดื่มแล้วนะพี่ริน พี่น่ะไม่ไหวเลยจริงๆ " เขาส่ายหัวพร้อมทั้งยกแก้วกาแฟไปดื่ม
"ยังไงก็ขอบใจนานมากนะที่ไม่ทิ้งพี่ แถมตัวเองยังลำบากต้องไปนอนห้องเพื่อนอีก"
"ยังไงก็ระวังตัวด้วยแล้วกันนะครับ ผู้ชายไว้ใจไม่ได้สักคน"
"ใช่มั้ยนาน นานเองก็คิดเหมือนพี่ว่าผู้ชายไว้ใจไม่ได้"
"ผมก็เป็นผู้ชายนะพี่" เขาพูดลากเสียงแล้วยักคิ้วให้ฉันไปหนึ่งกรุบ
ฉันละสายตาจากความน่ารักของเขาไม่ได้เลยจริงๆ
"พี่มองผมแบบนี้อีกแล้วนะ" เขาขมวดคิ้ว
"อะไรพี่มองเรายังไง ก็มองปกตินะ" ฉันแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าสายตาฉันแบบนี้อยากจะเขมือบนานแค่ไหน โฮะๆ หัวเราะแบบซานต้า
หนึ่งเดือนต่อมา
"แหม่ ยายรินช่วงนี้ดูตัวติดกับน้องนานจังเลยนะ" น้ำตาลวางแฟ้มงานลงบนโต๊ะ
"ก็คนทำงานด้วยกันนี่จะไม่ให้ตัวติดกันได้ไง" ฉันพูด
"มีคนบอกว่าแกออกตัวแรงยายริน ว่าแกน่ะอ่อยน้องนานอยู่"
"ใคร"
"ก็ฉันนี่ไง อาการแกแสดงชัดว่าชอบน้องเค้า เบาๆ หน่อยนะแกเองก็มีแฟนอยู่แล้ว" น้ำตาลเตือน
"คินน่ะเหรอ ฉันห่างกับเขามาพักหนึ่งละ"
"ทำไมล่ะ ทะเลาะกันเรื่องอะไรอีก ร้ายแรงมากเหรอ" น้ำตาลจับไหล่ฉัน
"อืม ก็หนักอยู่ แต่ช่างมันเถอะฉันเองก็ทำใจมาพักหนึ่งละ" เพราะฉันไม่อยากลงรายละเอียดมากนัก มันเจ็บปวดทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนั้น
"แต่ที่แกว่าฉันอ่อยน้องนานน่ะ แกดูไม่ออกเหรอว่าน้องเค้าเป็น…ดูอ้อนแอ้นซะขนาดนั้น"
"อ้อนแอ้นอะไรฉันเห็นเขาก็เป็นผู้ชายปกติๆ นี่แหละ บางทียังดูแมนๆ ด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นเสียงที่ทุ้มใหญ่น่าฟังหรือแม้แต่สายตาที่เขามองแกผู้ชายร้อยเปอร์เซ็นฉันคอนเฟิร์ม" น้ำตาลพูดอย่างมั่นใจ เพราะถ้าเธอรู้ว่าฉันไปค้างที่คอนโดของเขาแล้วเขาไปนอนห้องเพื่อน ปล่อยฉันให้นอนปลอดภัยในห้องของเขาคนเดียวเธอจะไม่พูดอย่างนี้แน่นอน มีที่ไหนผู้ชายลากผู้หญิงเมามาแล้วจะไม่ทำอะไร หรือว่าฉันเซ็กซี่ไม่พอ หรือว่าฉันแก่เกินแกงไม่ใช่สิฉันไม่ได้แก่ขนาดนั้น
“ที่น้องนานมองฉันด้วยสายตาแบบนั้น มันแบบไหน" ฉันจับไหล่น้ำตาลเขย่า
"แกดูเอา" พร้อมทั้งยื่นโทรศัพท์เปิดรูปในมือถือให้ฉันดู
"ฉันแอบถ่ายได้ตอนแกสอนงานเขาแล้วก็ตอนแกเผลอ น้องนานแอบมองแกตลอด"
"สายตาแบบนี้ฉันไม่เคยเห็น ดูอบอุ่นดีจัง น้องคงซึ้งที่ฉันสอนงานเขาดีมาก" ฉันพยักหน้าเนิบๆ
เป็นรุ่นพี่สอนงานที่ดีจริงๆ ฉันเนี่ย
"ตลกและแก คอยดูต่อไปแล้วกันว่าน้องนานจะชอบผู้หญิงหรือว่าผู้ชายกันแน่" คำพูดของยัยน้ำตาลทำฉันครุ่นคิดอยู่ไม่น้อย
แต่ก็ยอมรับอยู่เหมือนกันว่าฉันก็เริ่มสนใจกาลนานอยู่บ้างนิดๆ
ช่วงพักกลางวันฉันกับน้ำตาลมากินข้าวที่โรงอาหารพบว่าจิวนั่งกินข้าวอยู่กับกาลนาน"อ้าวนาน นั่งอยู่นี่เองพี่มองหาอยู่" ก่อนจะชำเลืองตาขวางไปมองยัยจิว"ครับ พอดีผมเห็นพี่คุยกับพี่น้ำตาลอยู่เลยไม่ได้รอ มานั่งด้วยกันสิครับ" ยังไม่สิ้นเสียงกาลนานฉันก็ลากเก้าอี้นั่งข้างเขาทันที เขาหันมามองเมื่อฉันนั่งชิดเขามากจนเกินไป"พี่ริน ไม่นั่งติดพี่นานเกินไปหน่อยเหรอคะ" จิวถามฉันด้วยหน้าตาน่าหมั่นไส้"ไม่หนิ ก็ปกตินะ พี่ก็ใกล้ชิดกันแบบนี้ตลอด เอ้ากินๆ เร็วเข้าเดี๋ยวข้าวจะเย็นหมด""พี่รินไม่สบายเหรอครับ" เขากระซิบถามฉัน พร้อมยิ้มละมุนดูมีเลสนัย"เปล่า แค่อาหารเป็นพิษนิดหน่อย เดี๋ยวกินข้าวเสร็จ พี่จะพาเราไปติดตั้งตัวจับเซนเซอร์นะของเพิ่งเข้ามาใหม่""ได้ครับ"ที่ห้องทำงาน"เมื่อกี้พี่ทำอย่างกับพี่หึงผมกับจิว" กาลนานจับแขนฉันไว้"เปล่า หึงที่ไหนกัน พี่น่ะมีแฟนแล้วนะ พี่แค่อยากแกล้งยายจิวเล่นๆ ว่าแต่จิวเขาจีบนานเหรอ" ฉันแกล้งถาม"ใช่ครับ เขาตอบหน้าตายยักไหล่"เด็กรุ่นๆ เดียวกันน่าจะคุยกันรู้เรื่องมากกว่า ป่ะทำงานกันเถอะเรา เฮ้อ"ฉันบ่นลอยๆ อย่างหงุดหงิดอย่าบอกนะว่าฉันชอบเด็กคนนี้เข้าให้แล้ว ความรู้สึกแบบนี้
"พาพี่มาคอนโดนานทำไม อย่าบอกนะ" ฉันชี้หน้าเขา"อะไรกันพี่ริน พี่คิดอะไร ผมน่ะสั่งอาหารเอาไว้กะจะเอาไปกินคนเดียวบนห้อง แต่ไหนๆ พี่ก็มากับผมแล้ว มาทานข้าวด้วยกันนะครับ" "พี่ไม่หิวอ่ะ อยากกลับแล้วเมื่อกี้นานหลบใครไปมีเรื่องกับใครมา" ฉันจับแขนเขา"ไม่มีสักหน่อย พี่น่ะคิดมาก" เขาดึงแขนฉันให้ตามเขามาพร้อมกล่องอาหารตั้งมากที่อยู่ตรงหน้าเค้าเตอร์ คิดไปคิดมาที่นี่ก็หรูใช่ย่อยนะ นานเองก็เก่งที่อายุแค่นี้กลับมีชีวิตดีที่ดีมาก"นี่เราสนิทกันจนนายดึงฉันขึ้นห้องเลยเหรอ" ฉันสะบัดข้อมือ"ผมอยากสนิทกับพี่ไวๆ ไงครับ มาเถอะน่า""ตอนเจอกันวันแรก กับวันนี้ต่างกันมากเลยนะนาน" ฉันถลึงตาใส่เขาสงสัยคงแอ๊บไม่ไหวแล้ว ไอ้ท่าทางที่ดูนิ่งๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่พอเปิดเผยตัวจริงขึ้นมาน่าจะเอาเรื่องไม่เบา กับเจ้าอาร์ก็ไม่ได้อ่านยากขนาดนี้วันนี้อาจจะเป็นวันที่ฉันจะได้รู้จักเขาขึ้น เวลาทำงานด้วยกันจะได้ง่ายๆ หน่อย"พี่มองผมแบบนี้อีกแล้วนะ พี่มีแฟนแล้วห้ามส่งสายตาแบบนี้ให้ใครเด็ดขาด บางคนไม่รู้จะคิดว่าพี่มีใจให้" เขาดึงจมูกฉัน"เฮ้ย พี่เพื่อนเล่นเราหรือไง เปี๊ยะ" ฉันตีไปที่แขนเขาหนึ่งที"โอ๊ย พี่ริน" เขาลูบแขนขึ้นลงคงจ
ตึกๆ ตึกๆ หัวใจของฉันเต้นแรงกว่าทุกครั้ง เต้นแรงกว่าตอนที่อยู่กับคินเสียอีก ฉันหันไปมองเขา แต่ใบหน้าของฉันก็ไปชนกับแก้มของนานที่เอามาเกยตรงหัวไหล่ของฉันพอดี“พี่ว่าเราจะเกินเพื่อนร่วมงานไปแล้วนะนาน”“แต่ผมไม่ได้เมานะพี่ หรือว่าพี่เมา” ฉันนั่งก้มหน้าเพราะว่าอายไม่ว่าจะเป็นคำพูด ท่าทางของเขามีผลต่อฉันหมด“ผมว่าผม ส่งพี่กลับบ้านดีกว่ายังไงซะผมก็เป็นผู้ชาย”“ใช่ๆ นานเป็นผู้ชาย พี่กลับก่อนดีกว่าพรุ่งนี้เจอกันที่ทำงานนะ” ฉันรีบคว้ากระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องเขาไป“พี่รินเดี๋ยวผมไปส่ง” เขารีบวิ่งตามฉันมา ตลอดทางที่นั่งรถกลับเราแทบไม่พูดอะไรกันเลยฉันคิดว่าเขาชอบผู้ชายมาตลอด แต่ท่าทางของเขาเมื่อกี้ สายตาของเขาเมื่อกี้ ทำฉันหวั่นไหวสุดๆ เกือบเผลอจะไปให้เขาสอนจูบจริงๆ ซะด้วยสิ ยัยรินเอ้ยจะโดนเด็กตกจริงๆ เหรอนี่หนึ่งเดือนต่อมา“อะไรกันน้ำตาลฉันกับนานเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกัน ฉันอายุขนาดนี้เด็กที่ไหนจะมาสนใจ” ฉันพูดบ่ายเบี่ยงเมื่อถูกเพื่อนสนิทถามว่าฉันคบกับนานจริงหรือไม่ เพราะเห็นไปไหนด้วยกันบ่อยๆไม่ว่าจะเป็นไปทานข้าวด้วยกัน หรือว่าดูหนังในช่วงวันหยุดอีก“ฉันไม่เชื่อแกหรอกยัยรินปากแข็ง” “ตามใจแกจ
เมื่อฉันเดินไปก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงของกาลนานคุยกับใครบางคน“เออ แล้วมึงจะถามทำไมวะว่ากูจีบพี่รินจริงหรือเปล่า”“กูก็แค่อยากรู้ เพราะมึงไม่ธรรมดานี่หว่า” กาลนานคุยกับอาร์เองหรอกเหรอ“โอเคๆ กูยอมรับว่าตอนกูเจอพี่รินครั้งแรกก็ตั้งใจจะเคลมพี่เค้า แต่ความคิดของกูมันเปลี่ยนไปว่ะพี่รินไม่เหมือนผู้หญิงที่กูเคยเจอ”เจอกันครั้งแรกก็หวังจะเคลมกันเลยเหรอไอ่เด็กเมื่อวานซืนฉันได้แต่คิดในใจ เดี๋ยวคอยดูเถอะแม่จะจัดให้สำนึกไม่ทันเลย“อ้าว ไหนล่ะกาแฟ” น้ำตาลถามเมื่อฉันเดินกลับมา“กาแฟหมด ไม่ต้องกงต้องกินละ” ฉันพูดพลางหันไปมองค้อนตาขวางให้เจ้าอาร์ที่เดินตามหลังมา“เฮ้ย พี่รินผมตกใจหมดมองผมตาขวางแบบนี้ อย่างกับคนโดนผีเข้า” เจ้าอาร์รีบทำท่านั่งพิมพ์งาน“ฉันได้ยินที่นายพูดถึงฉันกับนาน” ฉันเดินเนียนไปใกล้เขาพร้อมกับบีบไหล่ของเขาอย่างแรง“ขาผมไม่ดีอยู่นะพี่ริน ใจคอจะบีบให้ไหล่หักไปด้วยเลยเหรอไง”“แต่ปากนายดีนี่” ฉันเพิ่มแรงบีบขึ้นอีกเป็นสองมือ“โอเค พี่รินรู้อะไรมาได้ยินที่พวกผมคุยกันเมื่อกี้เหรอ“เออ…น่ะสิ” ฉันพูดอย่างโมโห“ผมขอโทษนะพี่ ที่พูดลับหลังแบบนั้นผมก็แค่สงสัยก็เลยถามไปแบบนั้น”“ยุ่ง ไม่เข
“พี่รินคิดอะไรอยู่ครับ ทำไมหน้าแดง” เขาเอานิ้วมือเขี่ยจมูกของฉัน“หน้าแดงอะไร เปล๊าาาไม่ได้คิด อากาศมันร้อนต่างหากล่ะ” ฉันทำท่าเอามือสองข้างพัดกับหน้าของตัวเอง“ผมมีอะไรจะบอกพี่รินจริงๆ ผมไม่ได้เจอพี่รินครั้งแรกที่ผับนั้นหรอก ผมเจอพี่รินก่อนหน้านั้นอีก”เขาตักข้าวใส่ปากแล้วก้มหน้า“ตอนไหนเหรอ นานเจอพี่ที่ไหนเหรอ บอกหน่อยสิ”“ถ้าพี่รินอยากรู้ กินข้าวเสร็จไปคอนโดผมนะครับ ผมมีอะไรให้ดู”“ไม่พี่ไม่ไป พี่ไม่ได้อยากรู้ ทำไมพี่ต้องไปด้วยคะ”ที่คอนโดของกาลนาน“ยิ้มอะไรคะน้องนาน” ฉันเรียกชื่อเขาเมื่อเดินตามหลังเขามาต้อยๆ มานั่งตรงโซฟาภายในห้องที่หรูหราของเขา“เรียกน้องนานอีกแล้วนะ” เขาหน้าบึ้งใส่ทำเอาฉันหัวเราะเพราะความดูไร้เดียงสาของเขา“ไหนมีอะไรจะบอกพี่ที่บอกว่าไม่ได้เจอพี่ครั้งแรกที่ผับนั่น”“พี่รินนั่งดูหนังรอผมก่อน ถ้าคอแห้งก็จิบน้ำได้นะผมขออาบน้ำก่อน” พร้อมกับส่งเบียร์มาให้ฉันหนึ่งกระป๋อง“ฮึ่ย ได้ไงอ่ะนาน หนีไปอาบน้ำเฉยอ่ะ” ฉันดึงมือของเขาไว้“หรือพี่รินจะเข้าไปอาบน้ำกับผม” เขาดึงแขนให้ฉันลุกขึ้นแทน“โอเคๆ เข้าไปอาบเลยน้องนาน”“ฮึ เดี๋ยวรอผมออกมาก่อน”สิบห้านาทีต่อมา“อาบน้ำนานมาก พี่ร
“พี่ริน เรื่องเมื่อวานผมขอโทษด้วยนะครับ” กาลยืนรอฉันตรงทางเข้าแผนกพร้อมกับแก้วกาแฟและขนม “พี่ลืมแล้ว ไม่ต้องพูดถึงหรอก” ฉันรับแก้วกาแฟและขนมพร้อมกับหันหน้าหนีเขาเพราะความอาย “แต่ผมยังไม่ลืมนะพี่ริน” เขาอมยิ้มพร้อมกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่ทำให้ฉันเขินอายได้ขนาดนี้ “อะไรจ้ะยัยริน มายืนบิดอะไรตรงนี้นี่แกจะจีบน้องนานเหรอ” น้ำตาลเดินมากอดคอฉัน “จีบเจิบอะไรกัน ฉันน่ะไม่ชอบคนเด็กกว่าหรอกนะ” ทันทีที่ฉันพูดจบกาลนานก็หน้าบึ้งตึงแล้วรีบเดินจ้ำอ้าวเข้าไปที่แผนกของตัวเองอย่างรวดเร็ว ตกบ่ายมามีลูกค้าร้องเรียนว่าบริษัทติดตั้งโปรแกรมผิด ฉันเปิดตารางดูว่าวันนั้นใครเป็นคนติดตั้ง “นี่ฉันกับกาลนานเองเหรอ” ฉันเอามือปิดปากตกใจ “ใช่น่ะสิ อธิบายให้พี่ฟังหน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้นรินรดา” พี่ชาถามเสียงเข้ม “หนูยังแปลกใจเลยค่ะพี่ชา ว่าพลาดตอนไหนทั้งที่เราก็เช็คโปรแกรมกันแล้ว แถมยังลองวอร์มเครื่องดูด้วยค่ะ” ฉันกำลังคิดทบทวนว่ามันเป็นเพราะอะไร “ลูกค้าเค้าร้องเรียนมา เราก็ต้องเข้าไปดูโดยด่วนเข้าใจมั้ย” “ได้ค่ะพี่ชา พรุ่งนี้หนูจะเข้าไปดูให้แต่เช้านะคะ น่าจะใช้เวลาเดินทางสามถึงสี่ชั่วโมงกว่าจะถึงเนื่องจากระยะทาง
“สวัสดีค่ะ วันนี้เรามาแก้ไขปัญหาของระบบที่แจ้งเอาไว้นะคะ ต้องขอโทษจริงๆ นะคะที่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น” ฉันกล่าวขอโทษกับทีมเอ็นจิเนีย“ไม่เป็นไรครับ อาจจะเกิดเพราะเครื่องจักรมันรวนก็ได้ครับ”แล้วฉันกับกาลนานก็ช่วยกันแก้ไขจนกระทั่งพี่ชาโทรมาบอกว่าประธานใหญ่ของบริษัทเราพ่อของคุณนิรันด์ คือคุณนิรันด์กาล ก็อยู่ที่บริษัทนี้ด้วยเหมือนกัน เห็นว่าจะถามเรื่องของเครื่องจักรที่เคยติดตั้งด้วย ยังไงซะฉันก็อยู่ที่นี่แล้วช่วยต้อนรับเขาด้วยเพราะเขาก็มาดูงานที่นี่ด้วยเช่นกัน“แต่พี่ชาคะ หนู”“เอาน่า ถือว่าช่วยพี่ ช่วยทีมแล้วก็ช่วยบริษัทด้วย”“อ้างเยอะ” ฉันว่าพี่ชาแล้วก็วางสายไปฉันเดินเข้ามายังห้องรับรองแขกที่มีคุณนิรันด์กาลเข้ามานั่งอยู่ก่อนแล้ว ด้วยอาการนอบน้อมของฉันและก็เกร็งสุดๆ ด้วยเช่นกัน“เชิญนั่งครับ คุณรินรดาผมขอโทษด้วยนะครับที่รบกวนเวลาการทำงานของคุณ”“ไม่เป็นไรค่ะท่านดิฉันยินดีมากค่ะ” แถมฉันยังรู้มาอีกว่าคุณนิรันด์กาลก็เป็นหุ้นส่วนใหญ่ของที่นี่ด้วย ถึงแม้เขาจะมีอายุที่มากแต่บุคลิกที่ดูภูมิฐานทำให้เขาดูไม่ต่างจากหนุ่มๆ เลย ไม่แปลกที่คุณนิรันด์จะดูดีเช่นเดียวกับเขา“วันนี้ มาคนเดียวเหรอครับแล้วท
หลังจากที่กาลนานอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เราสองคนก็ออกไปทานข้าวกันตรงทางเข้าหน้าหมู่บ้านจัดสรรและกลับเข้ามา“ให้ผมค้างที่นี่ได้มั้ยครับพี่ริน” เขากอดฉันจากทางด้านหลัง“นะๆ ผมจะไม่ซุกซนเลย สัญญา” เขายื่นนิ้วเกี่ยวก้อยกับฉัน“ก็ได้ แต่นานไปนอนห้องนั้นนะ” ฉันชี้ไปที่อีกห้องหนึ่งที่ว่างเพราะบ้านมีสองห้องนอน“ก็ได้ครับ คิดว่าจะได้นอนห้องเดียวกับพี่รินซะอีก” เขายู่ปากใส่พร้อมกับเดินห่อไหล่เข้าไป ทำให้ฉันอดหัวเราะไม่ได้ เมื่อเขาปิดประตูห้องแล้วฉันก็เดินเข้าไปอาบน้ำเช่นกันเพราะนี่ก็ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้าอีกพอฉันอาบน้ำเสร็จ เปิดประตูออกมาก็พบว่ากาลนานนั่งอยู่ตรงโซฟา พร้อมกับกล่องผ้าใส่ของที่ฉันไม่ได้เห็นมันนานแล้ว“พี่ยังไม่ลืมแฟนเก่าเหรอครับ” เขานั่งหันหลังพูด“ลืมแล้ว พอดีพี่เก็บไว้แล้วกะว่าจะเอาไปทิ้งก็เลยลืมสนิทเลย”“อย่างนั้นเหรอครับ แต่พี่ก็ต้องเข้ามาทำความสะอาดห้องบ้างไม่ใช่เหรอครับก็น่าจะเห็น” เขาหันมามองกล่องแล้วเลยมามองหน้าฉันด้วยสายตาที่แสดงว่ากำลังน้อยใจอยู่ พอเขาพูดแบบนี้ฉันก็ยิ่งคิดว่าสิ่งที่เขาพูดมันถูกทุกอย่าง ใช่ ฉันเห็นกล่องใบนั้นตลอดเพราะฉันเป็นคนเก็บมันใส่
ใช่ ฉันจะไม่ยอมให้เขาทำตามอำเภอใจเด็ดขาด“คุณไม่ได้เก่งไปกว่าอคินเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอื่นหรือว่าเรื่องบนเตียง คุณอายุแค่นี้จะเก่งกว่าเขาได้อย่างไรกัน คิดว่ามีเงินมีทองผู้หญิงก็ยอมหมดเหรอคะ”“รินรดา” เขาตะคอกใส่ฉันดังลั่นแววตาขึงขังด้วยความโกรธ“ก็คุณอยากได้ยินไม่ใช่เหรอ ฉันก็พูดความจริงกับคุณแล้วไง” ฉันน้ำตาไหลออกมาทันทีไม่คิดว่าการพูดให้เขาเจ็บตัวฉันเองจะเจ็บมากขนาดนี้เหมือนกัน ฉันยืนหันหลังให้เขาแล้วสะอื้นร้องไห้“ฉันไม่อยากเป็นผู้หญิงที่คุณพามาที่นี่เพื่อสนองอารมณ์ของคุณ ฉันเคยคิดว่าฉันแตกต่างและคุณรักฉันจริงๆ จากใจแต่ฉันคิดผิด สุดท้ายคุณก็พาฉันมาที่คอนโดนี้เหมือนกับพาผู้หญิงคนอื่นๆ มา” ฉันยิ่งร้องไห้สะอื้นจนตัวสั่นเทาโดยที่กางเกงในตัวบางของฉันลงไปกองกับพื้นแล้ว กาลนานค่อยๆ นั่งลงคุกเข่าแล้วดึงกางเกงในของฉันที่กองกับข้อเท้าขึ้นมาอย่างอ่อนโยนแล้วใส่ให้ฉันตามเดิม“ผมขอโทษ” เขาโอบกอดสะโพกและเอวของฉันจนแน่นในขณะที่เขายังนั่งคุกเข่าอยู่“ต่อไป อย่าทำแบบนี้อีกฉันไม่ใช่สิ่งของหรือของตายของใคร เรื่องวันนี้ฉันจะไม่ติดใจเอาความคุณ ฉันขอลาออกค่ะ” ฉันแกะแขนของกาลนานที่คุกเข่ากอดเอวของฉันเ
“ลงมา” กาลนานเปิดประตูรถคันหรูของเขาตรงฝั่งที่ฉันนั่งอยู่“ไม่ลง คุณจะพาฉันไปไหน” ฉันนั่งกอดอกดื้อดึงให้ตายก็ไม่ยอมลงจากรถแน่ๆ“จะลงดีๆ มั้ยครับ” เขายืนพูดเอาแขนเท้ากับประตูรถ เมื่อมีโอกาสฉันจึงดันประตูรถเปิดออกให้กว้างแล้ววิ่งออกมา แต่ก็ไม่ทันข้อมือแข็งแรงของเขาที่คว้าข้อมือของฉันไว้จนแน่น“ถ้าคุณหนี ผมจะจูบคุณตรงนี้แหละ” กาลนานไม่พูดเปล่าเขาดึงฉันให้ไปแนบกับอกกว้างของเขาจนฉันเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาที่โกรธและโมโหเขาจนแทบจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆ“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะคุณไม่มีสิทธิ์มาทำกับฉันแบบนี้ ฉันจะฟ้องกรมแรงงานว่าคุณทำร้ายและทารุณฉัน”“อย่างนั้นก็ได้ครับ ผมจะได้ไล่คุณออกเลย” นี่เขาคงเห็นว่าฉันกลัวจะถูกไล่ออกสินะ ถ้ามีเจ้านายที่แย่นิสัยไม่ดีแบบนี้ ฉันก็ไม่อยากอยู่เหมือนกัน“คุณมันเลว ฉันจะแจ้งตำรวจให้มาจับคุณ” ฉันพูดต่อ“อยากจับตรงไหนก็จับเลยแต่ขอเป็นตำรวจผู้หญิงนะ” เขาแกล้งเอามือปัดเป้ากางเกงตัวเองทำหน้ายียวน“นี่คุณ ฉันแจ้งตำรวจจริงๆ นะ” ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะกดโทรออก“เรื่องผัวเมียเขาไม่ยุ่งหรอกนะคุณ แล้วอีกอย่างเลิกขัดขืนผมได้แล้วผมไม่อยากใช้กำลังกับคุณ”เปรี้ยะ ฉันตบหน้าเขาให้มีสติไม่
ที่ผับ XXX ที่ฉันมาเป็นประจำ“ใครจะคิดว่ากาลนานจะเป็นลูกคนรวย ลูกเจ้าของบริษัทแบบนี้แถมตอนนี้เขายังข่มวางอำนาจใส่ฉันไม่หยุด” ฉันหันไปคุยกับน้ำตาลที่กำลังนั่งจิบเหล้าในแก้วพลางมองดูหนุ่มหล่อที่เดินผ่านไปมาตรงโต๊ะที่เรานั่งอยู่“เออ ฉันก็คิดเหมือนแก ดีนะที่ฉันทำงานตลอดตอนอยู่ต่อหน้าคุณกาลนาน” ฉันอดหัวเราะไม่ได้ที่เธอห่วงแต่เรื่องนี้จริงๆ สินะ“วันนี้แฟนแกมาป่ะ ไปนอนบ้านฉันมั้ย” ฉันชวนน้ำตาลเพราะอยากกลับไปกินเหล้าที่บ้านต่อเพราะถ้าฉันเมาแล้วขว้างแก้วอีกจะทำยังไงล่ะ“มาจ้ะ เสียใจด้วยนะเพราะคืนนี้เขาจะมาค้างกับฉันและอยู่อาทิตย์นึง” แฟนน้ำตาทำงานเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหารที่ต้องเดินทางไปดูร้านบ่อยเพราะมีหลายสาขาในประเทศจึงไปๆ มาๆ“อดเลย กะจะนั่งกินชิลล์ๆ ที่บ้านซะหน่อย” ฉันทำหน้าเซ็งแล้วซบไหล่น้ำตาล“วันนี้แกกับคุณกาลนานเป็นไงบ้าง ทำงานเป็นเลขาเขาวันแรก”“สุดๆ เลยถ้าฉันรู้แต่แรกว่าเขาเป็นคนแบบนี้ฉันคงไม่กล้าคบกับเขาหรอก”“สุดๆ เลยเหรอ” น้ำตาลถามย้ำ“มาก เขาใช้ฉันสารพัดแถมยังคุยโทรศัพท์กับผู้หญิงคนอื่นเสียงดังบางทีก็เปิดลำโพงคุยหวานจนฉันเลี่ยนจะอ้วกอยู่ละ”“อ๋อ งั้นเหรอแกหึงเขาสินะ”“ไม่ได้ห
ฉันเห็นกาลนานมองมาที่ฉันอยู่หน้าร้านข้าวและฉันกลับแกล้งทำเป็นไม่เห็นเขา แต่หันกลับไปหาอคินแทน“คุณ เลิกตามฉันสักทีเถอะค่ะ เรื่องของเรามันจบลงไปแล้ว” ฉันหันไปตวาดใส่อคิน“แต่ผมยังรักคุณ คิดถึงคุณตลอดนะครับริน”“ฉันไม่ได้รักคุณแล้วค่ะ คุณก็รู้ว่าฉันไม่มีทางกลับไปหาคุณเด็ดขาดเรื่องที่เคยเกิดขึ้นกับเราฉันถือว่าให้หมามันกินค่ะ” ฉันหันไปชำเลืองมองกาลนาน ใช่ฉันเองก็หลอกด่ากาลนานเหมือนกัน“โธ่ รินครับ” อคินพูดเสียงอ่อน“คุณก็รู้ ว่าฉันมูฟออนเร็วแค่ไหน”“เพราะมีไอ้เด็กน้อยคนนั้นเหรอ คุณเลยปฏิเสธผม อ๋อนี่ไง มารอกันอยู่นี่เอง” คำพูดของอคินทำให้กาลนานที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเราตรงปรี่เข้าไปหาเขาพร้อมทั้งกระชากคอเสื้อของอคินจนยับยู่ยี่ฉันตกใจมากเพราะไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันเป็นแบบนี้เลย“นาน หยุดปล่อยเขา “ฉันดึงแขนเขาให้ออกมาจากอคิน“ทำไมกลัวว่ามันจะเจ็บตัวเหรอ” เขาหันมาขมวดคิ้วสายตาดุดันใส่ฉัน“ใช่” ฉันตอบทันที เพราะไม่อยากให้มีเรื่องกันจะได้แยกย้ายกันตรงนี้เลยเพราะฉันได้สิ่งที่ฉันต้องการแล้ว“พอกันทีทั้งคู่แหละ คินคุณเลิกตามง้อฉันเถอะฉันไม่ได้รักคุณแล้วคุณไปตามทางของคุณซะเถอะ ฉันพูดจากใจจริงของฉัน”
สามวันแล้วที่กาลนานไม่มาทำงานและติดต่อเขาไม่ได้เลยโทรไปก็ปิดเครื่อง ฉันไปดูที่คอนโดของเขาก็ไม่เจอเลย“เราเลิกกันจริงๆ แล้วเหรอเราจบกันแค่นี้จริงเหรอ” ฉันพูดกับตัวเองเมื่อก้าวขาออกมาจากคอนโดของเขา เช้าวันต่อมาวันนี้คุณนิรันด์กาลเข้ามาดูบริษัท เพื่อจะขยายธุรกิจ พวกเราจึงเตรียมตัวกันแต่เช้าโดยเฉพาะพี่ชาหัวหน้าแผนกที่ยุ่งกว่าทุกวัน“รินๆ เดี๋ยวช่วยเอาอันนี้แทรกเนื้อหาที่พี่จะพูดกับคุณนิรันด์กาลด้วยนะ” พี่ชาพูดพร้อมกับหยิบแฟลชไดรฟ์ในกระเป๋าส่งให้ฉัน ฉันรับมันมาและตั้งหน้าตั้งตาทำงานพยายามไม่คิดถึงกาลนานแต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองหาเขา“สวัสดีครับพนักงานที่น่ารักของผม หลายเดือนแล้วที่ผมไม่ได้เข้ามาที่นี่ แต่ผมก็ส่งลูกชายคนโตของผมเข้ามาทำงานและดูแลที่นี่แทนผมขอขอบคุณที่ทุกคนให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี แต่ก็มีลูกชายคนเล็กของผมที่อยากให้เข้ามาช่วยที่นี่ด้วยเช่นกัน หลายคนอาจจะรู้จักแล้วและผมเองก็แปลกใจเพราะรู้เรื่องนี้เมื่อวันก่อนจากปากลูกชายคนโตของผมว่าเขามาทำงานที่นี่หลายเดือนแล้ว” คุณนิรันด์พูดออกไมโครโฟนในห้องประชุมใหญ่ แล้วคุณนิรันด์ก็ลุกขึ้นทักทายทุกคนในห้องประชุม ทันทีที่ประตูห้องประชุมถูกเป
วันต่อมาฉันเข้ามาทำงานแต่เช้าเพราะต้องมาเคลียร์งานก็เจอกับอาร์ที่กำลังนอนหลับอยู่“อาร์ ตื่นเร็วเช้าแล้วมานอนอะไรตรงนี้”“อ้าวพี่รินเช้าแล้วเหรอ” เขาลุกขึ้นมานั่งทุบท้ายทอยตัวเองตุบๆ“แล้วมานอนอะไรตรงนี้ เมื่อคืนไม่ได้กลับไปนอนที่บ้านเหรอ”“เมื่อคืนผมนั่งเคลียร์งานเก่าตอนช่วงป่วยเลยเผลอหลับไปครับ”“เอากาแฟหน่อยมั้ย” ฉันถามเขา“ดีเหมือนกันพี่” ฉันหัวเราะให้น้องที่มันยังคงนั่งงัวเงียอยู่ “พี่รินคบกับนานแล้วเหรอครับ” อาร์ถามฉันเมื่อเขาจิบกาแฟที่มันกำลังมีไอร้อนหอมกรุ่นขึ้นอยู่“ใช่ พี่คบกันแล้วข่าวเร็วจัง”“พี่ไม่ต้องไปสนใจหรอกครับ เดี๋ยวคนก็หยุดพูด”“นั่นสิเนอะ พี่จะสนใจทำไมแล้วทำไมยังเคลียร์งานเก่าอยู่ล่ะ บอกให้พี่ช่วยก็ได้นะ”“งานแก้โปรแกรมน่ะครับ ผมใส่โค้ดผิด”“ระดับอาร์นี่นะใส่โค้ดผิด” ฉันหัวเราะเขาพร้อมกับเปิดโน๊ตบุ๊คเตรียมทำงาน“พี่ริน คิดว่านานเป็นคนยังไงครับ” “ฮะ ทำไมถึงถามเรื่องนี้ล่ะ อาร์ก็รู้จักเขาก่อนพี่อีกนะ”“ผมก็รู้จักในฐานะเพื่อน ไม่ใช่ในฐานะแฟนแบบพี่รินสักหน่อย”“รู้อะไรมาบอกพี่มานะ” ฉันตีไปที่แขนของเจ้าอาร์ เพราะเขาเป็นเพื่อนกันน่าจะรู้ความลับกันบ้างแหละ“ผมจะไปรู้อะ
สองวันต่อมา“ยัยริน ช่วงนี้ไม่เบาเลยนะแก” น้ำตาลเดินมาหาฉันที่โต๊ะทำงานพลางทำมือปูไต่บนหัวไหล่ของฉัน“อะไรไม่เบาของแกฉันไปทำอะไรให้เหรอ”“มีคนเห็นแกกับน้องนานไปเดินซื้อของกันที่ห้างXXX เดินควงแขนกันท่าทางกระหนุงกระหนิงมากเลยนะหวานเวอร์อ่ะ ใช่มั้ยๆ” น้ำตาลใช้ไหล่กระแซะฉันบอกแล้วถ้ายัยน้ำตาลล้อใครนี่จะเล่นใหญ่มากเหมือนกับตอนนี้ที่ฉันโดนเธอกระหน่ำยิงคำถามทีเล่นทีจริงอยู่“ใครกันเห็นฉัน จำคนผิดแล้วฉันจะไปเดินควงแขนกับนานเขาได้ไง ตาฝาด” “ก็ฉันนี่ไง ฉันเห็นแกเต็มสองตาว่าเดินควงแขนมากับน้องนานสุดหล่อของฉัน”“แกเองเหรอ ฉันก็คิดว่าใคร” ฉันค่อยรู้สึกโล่งอกเมื่อน้ำตาลบอกว่าเป็นตัวเธอเองที่เห็น“แล้วก็คุณสมรที่เห็นเธอมากับน้องนาน” พอน้ำตาลพูดชื่อคุณสมรขึ้นมาความรู้สึกของฉันก็เปลี่ยนไปทันที“ถ้าคุณสมรรู้ป่านนี้ก็รู้กันทั้งบริษัทละ” ฉันพูดพร้อมกับก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไปเพราะคงไปห้ามปากคนไม่ให้พูดไม่ได้“แล้วจริงสิที่คบกัน ฉันว่าฉันไม่พลาดหรอกมองแป๊บเดียวก็รู้ ตอบมาเลย” น้ำตาลพูดพร้อมจับไหล่ฉันเขย่า“ เออ คบกันอยู่” ฉันตอบแบบรำคาญ“คบกันตอนไหน นานหรือยัง” “ถามไรเยอะแยะ” “ก็ฉันอยากรู้นี่ หรือว่าตอ
ตี๊ดดๆๆๆ เสียงนาฬิกาที่ฉันตั้งไว้ดังขึ้น“พี่รินตั้งปลุกทำไมครับวันนี้วันหยุดนะ” กาลนานที่ยังนอนงัวเงียอยู่หลับตาพูด“พี่ลืมน่ะ ขอโทษทีนะนอนต่อเถอะ” เขาดึงตัวฉันให้ไปนอนหนุนแขนของเขา“ดีจังเช้านี้ตื่นมาก็เจอสาวสวยนอนอยู่ข้างๆ” ฉันแกล้งแซวเขา“ดีจัง เช้านี้ตื่นมาพี่รินก็เจอหนุ่มหล่อแบบผมนอนอยู่ข้างๆ” กาลนานแซวฉันคืนบ้าง“วันนี้วันหยุดนานมีธุระที่ไหนมั้ย” ฉันถามเขา“วันนี้ผมยกให้พี่รินทั้งวันเลยครับ พี่รินอยากไปเที่ยวไหนเดี๋ยวผมจะพาไปทุกทีเลย”“แต่พี่กลัวคนที่ทำงานเห็นเราสองคนอยู่ด้วยกัน” ฉันพูด“ทำไมยังต้องกลัวคนเห็นครับ ผมไม่มีแฟนพี่รินก็ไม่มีแฟนแล้วเราจะหลบทำไมครับ”“พี่กลัวคนที่ทำงานเจอเรา มันดูไม่ดีเพราะพี่อายุมากกว่านานตั้งหลายปี นานไม่อายคนอื่นเหรอที่มีแฟนแก่แบบพี่” ฉันบุ้ยปาก“จะอายทำไมครับ พี่รินยังดูเด็กยังสาวยังสวยขนาดนี้ใครอายก็บ้าแล้ว”“จริงเหรอ ไม่หลอกให้พี่ดีใจนะ”“จริงสิครับ เพราะผมสำรวจพี่มาทุกซอกทุกมุมแล้วยังสาวยังสวยแถมยังเร้าใจอยู่” เขากระชับกอดฉันแน่นขึ้น“อย่างหลังไม่ต้องบอกก็ได้มั้ง” ฉันบ่นอู้อี้กับหน้าอกแน่นๆ ของเขา“ผมกลัวพี่รินไม่เห็นภาพนี่ครับ”“‘งั้นถ้าใครเห
“พี่บอกว่าค้างไม่ได้ไง ทำไมนานไม่ไปนอนที่คอนโดนานล่ะ”“ก็ผมอยากค้างกับพี่รินนี่ครับ ให้ผมนอนด้วยนะผมนอนที่โซฟานี้ก็ได้” แล้วเขาก็นอนลงบนโซฟาจริงๆ“ไม่ได้หรอก” ฉันตอบเขาอมยิ้มพร้อมทั้งเดินไปดึงมือของเขาให้ลุกขึ้น“โอ๊ย” ฉันตกใจเมื่อเขาดึงฉันให้ลงไปนอนบนตัวของเขา“นานแกล้งพี่”“ก็พี่ริน…น่า…แกล้งนี่ครับ” เขาทำเป็นพูดเว้นไว้“ไม่ทันไร ก็กล้าทำแบบนี้กับพี่แล้วเหรอ”“กล้ามากกว่านี้ผมก็ทำมาแล้วนะครับพี่รินน่าจะรู้” เขากอดรัดฉันจนแน่นแถมยังหอมแก้มของฉันอีก“ปล่อยพี่ก่อนสิพี่หายใจไม่ออกนะนาน” “งั้นผมต้องผายปอดให้พี่แล้วล่ะครับ” ไม่พูดเปล่าเขาจับท้ายทอยฉันกดลงให้ใบหน้าของฉันไปใกล้ริมฝีปากของเขา“อืม ดีจังครับ” มือของเขาเริ่มลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของฉันเมื่อฉันโต้ตอบการจูบของเขาบ้าง “พี่ว่ามันเร็วไปนะเรื่องของเรา”“พี่รินเสียใจเหรอครับที่มีอะไรกับผม ผมทำพี่รินเสียใจเหรอครับ” เขาพูดในขณะที่ฉันยังนอนทับตัวของเขาอยู่บนโซฟา“พี่ไม่เสียใจหรอก แต่พี่แค่คิดว่าเรามีอะไรกันเร็วเกินไปนานคงไม่ว่าพี่ใจง่ายนะ” ฉันดันตัวเองให้ลุกขึ้นจากตัวของเขาแล้วนั่งลง กาลนานลุกขึ้นมากอดฉัน“ถ้าช้ากว่านี้ผมคงขาดใจตายพอดี