Share

เจอกัน...อีกครั้ง

เจอกัน...อีกครั้ง

            “คุณคะ เย็นนี้ลูกสาวฉันจะมาถึงค่ะ” ฟ้ารุ่งตัดสินใจบอกเจ้านาย เธอสองจิตสองใจไม่รู้ว่ามันควรบอกไหม แต่คืนนี้เธอคงต้องให้มินรญานอนที่นี่ก่อน เพราะเขาเป็นเจ้าของบ้าน เธอเลยตัดสินใจบอก

            “กี่โมงล่ะ เดี๋ยวเราไปรับที่สนามบินกัน”

            “ลูกบอกจะมาที่นี่เองค่ะ ไม่ได้บอกเวลาที่เครื่องลง บอกแต่เพียงว่า จะมาถึงที่นี่ไม่เกินหกโมงเย็น”

            มินรญาไม่ได้บอกความจริงกับมารดา ว่าเธอมาถึงที่นี่หลายวันแล้ว เพราะกลัวจะโดนต่อว่าที่ไม่ยอมเข้ามาหาแม่ อีกทั้งตัวมินรญาเองก็จากเมืองไทยไปนาน ถ้ามารดารู้คงมีแต่ความเป็นห่วง

            “ฉันจะขออนุญาตให้ลูกสาวได้มาที่นี่สักสองสามคืนนะคะ”

            “ไม่ใช่แค่สองสามคืน ตลอดไปก็ได้” กฤษฎาลุกขึ้นจากโซฟาหน้าบ้าน วางหนังสือพิมพ์ที่อยู่ในมือ และเอื้อมือมาโอบไหล่ของภรรยาคนใหม่ของเขา

            “อย่าเลยค่ะ แค่นี้คุณนนท์ก็รู้สึกไม่ดีแล้ว คุณพราวก็ไม่รู้ว่ารู้เรื่องหรือยัง ฉันไม่อยากทำให้ครอบครัวคุณต้องมีปัญหา” ฟ้ารุ่งเข้าใจความรู้สึกของลูกๆของกฤษฎาและตัวเธอเองก็ต้องการออกไปใช้ชีวิตกับลูกสาวของเธอแค่สองคน

            “ทุกอย่างต้องใช้เวลา เธอไม่อยากอยู่กับผมใช่ไหม” คนแก่หัวใจหว้าเหว่ถามด้วยน้ำเสียงที่ฟังดู มันมีความเหงาซ่อนอยู่

            “ทำไมฉันจะไม่อยากอยู่กับคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีล่ะคะ แต่เราทั้งคู่ยังมีลูก เราต่างก็รักลูกของเรา ปัญหาต่างๆจะตามมานะคะ” ฟ้ารุ่งกังวลทั้งกับภูวนนท์และมินรญา เพราะเธอก็ไม่แน่ใจ ว่าลูกสาวของเธอเองจะเข้าใจเธอไหม

            “เอาเป็นว่าเธอกับลูกอยู่ที่นี่ไปก่อน อนาคตค่อยตัดสินใจ บางอย่างมันอาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เราคิดก็ได้” กฤษฎามองโลกในแง่ดี

            “ขอบคุณนะคะ ที่เมตตาฉัน” ฟ้ารุ่งสวมกอดหนุ่มใหญ่ที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างอยู่ตรงหน้าของเธอ

            “ถึงแม้ถ้าวันนี้เธอเป็นแค่เพียงคนรับใช้ในบ้าน ผมก็จะให้คุณกับลูกอยู่ที่นี่แหละ ” บ้านหลังใหญ่มีพื้นที่มากมาย แต่กลับมีผู้คนอาศัยอยู่เพียงไม่กี่คน กฤษฎาไม่อยากให้บ้านของเขาต้องเงียบเหงาอยากให้มันกลับมาดูมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง

           

            ตั้งแต่ที่ภูวนนท์ได้รับรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบิดาของเขากับฟ้ารุ่ง เขาก็ไม่เคยมาที่บ้านหลังใหญ่อีกเลย ตอนแรกภูวนนท์คิดว่าจะยังไม่เล่าเรื่องราวที่เขาได้รับรู้ให้พราวพลอยฟัง แต่ความจริงก็คือความจริง ถ้าปล่อยให้น้องสาวคนเดียวของเขารับรู้เรื่องราวด้วยตัวเอง เธออาจจะทำใจยอมรับไม่ได้ เขากลัวว่าพราวพลอยจะเตลิดไป

            “พี่ภูคะ พราวว่าแม่อาจจะไม่ได้คิดอย่างที่พี่นนท์คิดก็ได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่แม่ล้มป่วย ไม่มีวันไหน ที่พ่อจะทำให้แม่เสียใจสักครั้ง พ่อควรที่จะได้มีความสุข ได้พักผ่อนบ้างนะคะ พี่นนท์อย่าโกรธพ่อเลย”

            พราวพลอยถึงแม้จะยังเป็นเด็กสาวที่ยังมีความเป็นเด็กอยู่มาก แต่กับเรื่องนี้ เธอสังเกตมารดาของเธอ และเคยได้ยินแม่พูดคุยเรื่องนี้กับพ่อของ แสดงให้เห็นว่าการที่พ่อจะมีใครสักคนเข้ามาดูแล แม่ของเธอคงเข้าใจและยินดี

            “พราวยังเด็กไม่เข้าใจหรอก” ภูวนนท์ส่ายหัวกับความคิดของน้องสาว ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าบ้านหลังใหญ่ ที่เขาไม่อยากกลับมาเลย

            “ถ้าอย่างนั้น พี่ภูก็ต้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่ให้เด็กอย่างพราวดูนะคะ ผู้ใหญ่จะไม่ทำให้พ่อเสียใจค่ะ” พราวพลอยพูดทิ้งท้ายก่อนก้าวลงจากรถของพี่ชาย

            “เอ้อ...สวัสดีค่ะคุณพ่อ สวัสดีค่ะน้าฟ้ารุ่ง” ภาพคนแปลกหน้าที่นั่งคุยกับพ่อของเธออยู่ ทำให้พราวพลอยรู้สึกแปลกใจ นานแล้วที่บ้านเธอไม่ได้มีแขกมา นอกจากชิดจันทร์ เหมราช และพยาบาล

            “กลับมาแล้วเหรอพราว...มานั่งใกล้ๆพ่อสิ” กฤษฎากางมือทั้งสองข้างเตรียมกอดลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเขา

            “นี่หนูมิ้น มินรญาลูกสาวของน้าฟ้ารุ่ง เธอจะมาอยู่กับเราสักพักนะ” พราวพลอยส่งยิ้มให้แขกผู้มาใหม่

            “สบายคนเดียวไม่พอ ขนลูกสาวมาด้วย อีกหน่อยคงขนกันมาทั้งตระกูล”

            ภูวนนท์เดินเข้ามาทันที่จะได้ยินบิดาของเขาแนะนำมินรญาให้พราวพลอยได้รู้จัก เขายังไม่ทันจะเดินมาถึงที่ทุกคนนั่งคุยกันอยู่ ภูวนนท์ส่งเสียงดังมาตั้งแต่หน้าประตู กว่าจะเดินมาถึงและได้เห็นหน้าหญิงสาวผู้เป็นแขกคนใหม่ของบ้าน เขาก็เดินมาถึงที่โซฟากลางบ้านพอดี

            “คุณ”

            “อ้าวคุณ”

            ภูวนนท์และมินรญาต่างตกใจลุกออกจากที่นั่งของตัวเองอย่างอัตโนมัติ ต่างคนต่างชี้หน้ากัน จนทุกคนต่างพากันตกใจในท่าทาง

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status