Share

ขิงก็รา...ข่าก็แรง

.บทที่8

ขิงก็รา...ข่าก็แรง

“เช้านี้อากาศสดใสดีไหม” ฟ้ารุ่งทักทายลูกสาวที่ยืนสูดอากาศอยู่ด้านนอกของห้องครัว

“อากาศดีค่ะแม่ วันนี้เราต้องกินข้าวร่วมกับคนบ้านใหญ่ไหมคะ” มินรญาไม่อยากเจอหน้าลูกชายเจ้าของบ้าน เพราะกลัวจะเก็บกดอารมณ์โมโหของตัวเองไว้ไม่ไหว

“ไม่ต้องหรอก แม่ทำกับข้าวไว้ให้พวกเขาเรียบร้อยแล้ว เราก็กินของเราที่ครัวนี่แหละ” ฟ้ารุ่งตั้งใจไว้แล้วที่จะไม่ให้คนทั้งคู่ได้ปะทะกัน

“ดีจังค่ะ วันนี้มิ้นจะได้กินข้าวอย่างมีความสุข ฝีมือแม่ครัวคนเก่งคนนี้ไม่เคยตก จะกินให้เรียบเลยค่ะ” หญิงสาวโอบเอว หอมแก้มมารดาอย่างเอาใจ

“ปากหวานจริง ๆ ลูกสาวคนสวยของแม่” มือเรียวที่เริ่มเหี่ยวย่นตามกาลเวลา จับหัวลูกสาวอย่างเอ็นดู

“แม่คะ วันนี้มิ้นจะออกไปสำรวจดูว่ามีแถวไหนบ้างที่เหมาะกับการเปิดสาขาใหม่ ไม่ได้อยู่เมืองไทยเสียนาน อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไปหมด ต้องออกไปใช้ชีวิตข้างนอกให้คุ้นเคยกับเมืองไทยให้มากกว่านี้ แม่ไม่ต้องห่วงมิ้นนะคะ ”

“ ให้แม่ไปด้วยไหม” ผู้เป็นแม่ห่วงกลัวมินรญาจะหลงหรือเกิดอันตราย

“ไม่ต้องหรอกค่ะ มิ้นกลัวแม่จะเหนื่อยและเป็นลมไปก่อนมิ้นจะได้ทำเลดี ๆค่ะ”

มินรญาเธอกะว่าวันนี้เธอจะขึ้นรถเมล์บ้าง แท็กซี่บ้าง จะได้คุ้นเคยกับการเดินทางที่นี่ ถ้าเอาฟ้ารุ่งไปด้วยมีหวังไปได้ไม่ไกล แม่ของเธอคงเหนื่อยจนอ้อนกลับบ้าน

“ดูแลตัวเองดี ๆ นะ ที่กรุงเทพมิจฉาชีพมันเยอะ ผู้คนมาจากต่างที่ต่างถิ่น ใครเป็นใครบ้างก็ไม่รู้ เดินไปไหนมาไหนต้องระวังตัว อย่าประมาท” ฟ้ารุ่งอดเป็นห่วงลูกสาวไม่ได้ถึงแม้มินรญาจะไม่ใช่เด็กๆ แล้วก็ตาม แต่ก็ยังเป็นเด็กในสายตาของฟ้ารุ่งเสมอ

“มีอะไรก็โทรศัพท์มาหาแม่ได้ อย่ากลับค่ำมืด แม่รอกินข้าวเย็นนะลูก” สายตาที่ห่วงใยของคนพูดถูกส่งไปยังลูกสาวที่เป็นดังแก้วตาดวงใจของเธอ

ปี๊ด ปี๊ด ปี๊ดดดดดดดดด

เสียงบีบแตรที่ดังมาจากด้านหลัง ทำเอามินรญาที่กำลังเดินมุ่งหน้ามาหน้าปากซอยของบ้านกฤษฎาสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจ

“จะไปไหนล่ะครับคุณลูกเลี้ยงคนใหม่ของพ่อ” ภูวนนท์เลื่อนกระจกลง หยุดรถด้านข้างหยิงสาวที่กำลังยืนนิ่งสีหน้าตกใจอยู่ข้างถนน

“ไปธุระ” มินรญาตอบกระชากเสียงแบบไม่พอใจ

“ขึ้นรถ” ภูวนนท์ตะคอกกลับ

“ไม่ ฉันไม่ขึ้น คุณจะไปไหนก็ไปเถอะ” พูดจบหญิงสาวก็เดินต่อไปอย่างไม่สนใจ ชายหนุ่มที่อยู่ในรถ

            ปี๊ด ปี๊ดดดด   ปี๊ด ปี๊ดดดดด

            “ขึ้นรถ บอกให้ขึ้นรถ” ภูวนนท์ตะโกนเสียงดังออกจากรถจนคนแถวนั้นหันมามอง

            ปี๊ดดดดดด  ปี๊ดดดดด

            “ถ้าไม่ขึ้น จะบีบแตรให้อายเขาให้หมด” ไม่ใช่แค่คำขู่ เพราะเสียงแตรถูกบีบจนดังเรียกสายตาของผู้คนบริเวณนั้นให้หันมาดู

            “บ้า คุณมันบ้า” ด้วยความตกใจและอายที่ถูกมอง เธอจึงจำใจเปิดประตูแล้วขึ้นมานั่งข้างๆชายหนุ่มที่กำลังยิ้มอย่างผู้ชนะ

            “คุณจะให้ฉันขึ้นรถคุณมาทำไม” มือกอดอก ด้วยความโมโหและสงสัย ตามองจ้องคนขับที่เอาแต่ยิ้มมุมปาก

            “หูหนวกเหรอ ได้ยินไหมที่ฉันถาม คุณต้องการอะไร” มินรญาตะคอกเสียงดังกว่าเก่า เพราะต้องได้คำตอบ

          “ทำไมต้องโมโหขนาดนั้นล่ะครับ มินรญา....”ภูวนนท์เรียกชื่อเธอพร้อมลากเสียงยาว ทำหน้าระรื่นเหมือนต้องการจะแหย่อารมณ์หญิงสาวที่กำลังหงุดหงิดอยู่ข้างๆ

            “ผมเห็นคุณเดินขวางทางอยู่บนถนน ก็กลัวจะโดนรถชนเอา เดี๋ยวคุณพ่อผม จะหาว่าไม่ดูแลลูกเลี้ยงคนใหม่ของท่าน”

            “ถ้าอย่างนั้นก็จอดหน้าปากซอยเลยค่ะ เดี๋ยวฉันจะเรียกแท็กซี่ รับรองว่าไม่มายืนขวางทางคุณแน่” มินรญาพยายามอดกลั้นอารมณ์ เพราะรู้ว่าเธอยิ่งทำท่าทางโมโหมากเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งสะใจมากเท่านั้นที่ได้กวนประสาทเธอ

            “คุณจะไปไหน” ภูวนนท์ถามด้วยน้ำเสียงที่อยากรู้จริง ๆ ไม่ยียวนเหมือนก่อนหน้านี้

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status