Share

ขิงก็รา...ข่าก็แรง(3)

“ลงรถไปก็รอผมด้วยนะ ไม่ใช่รีบเดินไปไหน เดี๋ยวจะหลงจนหาทางกลับบ้านไม่ถูกซะ” ชายหนุ่มพุดไปหัวเราะไป เมื่อเห็นท่าทางรีบร้อนของมินรญาที่เปิดประตูรถทันที่ที่รถจอดสนิท

            “คนไม่เยอะเท่าไหร่นะคะ ถ้าเทียบกับด้านหน้าของที่นี่” มินรญารู้สึกว่าบรรยากาศต่างจากที่เธอคิดไว้ เมื่อบันไดเลื่อนพาเธอขึ้นมาชั้นหนึ่งของห้าง

            “ถึงที่นี่จะดูคึกคักน้อยกว่าด้าน แต่เงินสะพัดกว่าแน่นอน สินค้าที่นี่ราคาค่อนข้างสูง ผู้คนที่มาเดินซื้อสินค้าในนี้ ส่วนใหญ่ก็มีกำลังทรัพย์มาก ”

            คนที่เดินสวนไปสวนมา คงไม่คิดว่าหนุ่มสาวคู่นี้ จะเป็นคนที่ไม่ชอบขี้หน้ากันมาก่อน เพราะท่าทีที่พูดคุยดุสนิทสนมถูกคอกัน ของคนทั้งคู่ ดูเหมือนเป็นคู่รัก เป็นเพื่อนหรือเป็นพี่น้องกันเสียมากกว่า

            “ไม่เจอกันนานเลยนะ ภูวนนท์”

            เสียงไพเราะแต่เหยือกเย็นที่แสนจะคุ้นหูภูวนนท์ยิ่งนัก ไม่ใช่เสียงใครที่ไหน แต่คือเสียงของแม่อดีตคนรักของเขานั่นเอง

            “สวัสดีครับ” ชายหนุ่มยกมือไหว้อย่างเสียไม่ได้เพราะอย่างไร โฉมเฉลาก็เป็นผู้ใหญ่กว่า

            “สบายดีครับ” ภูวนนท์ตอบตามมารยาท

            “จะไม่แนะนำคนข้างๆให้ฉันรู้จักหน่อยหรือ” โฉมเฉลาส่งสายตามองหญิงงสาวข้างๆชายหนุ่มอย่างสนใจใคร่รู้

            “คงไม่ต้องหรอกมั้งครับ ผมขอตัวไปทำธุระก่อน สวัสดีครับ” ถ้าเป็นเมื่อก่อน ภูวนนท์ไม่มีทางที่จะกล้าพูดจาแบบนี้กับแม่อดีตคนรักแน่นอน แต่วันนี้เขาไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว และที่สำคัญเขามั่นใจ ที่ชิดจันทร์ทิ้งเขาไปแบบนี้ต้องเป็นฝีมือของแม่ของเธอแน่นอน

            “ทำไมคุณพูดจาไม่ดีกับเขาแบบนั้นค่ะ” มินรญาสงสัยที่อยู่ดีๆ ภูวนนท์ก็ไม่ยอมแนะนำเธอและพูดจาแย่ๆ ใส่ผู้หญิงคราวแม่แบบนั้น แถมรีบฉุดมือเธอเดินหนีออกมาอย่างดูไม่มีมารยาทเอาเสียเลย

            “ไม่ใช่เรื่องของคุณ ผมจะทำอะไร หรือจะพูดจาแย่ๆใส่ใครมันก็เรื่องของผม แค่แม่คุณมาเป็นเมียพ่อผม ผมคงไม่ต้องรายงานคุณทุกเรื่องมั้ง”

            อารมณ์ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของภูวนนท์ สร้างความสับสนวุ่นวายในความรู้สึกของมินรญา เธอตั้งใจจะมาหาทำเลเปิดสาขา เดินเที่ยวให้มีความสุข แต่กลับถูกลากมาให้รองรับอารมณ์ที่ขึ้นๆ ลงๆ ของผู้ชายที่เธอไม่ชอบหน้าเอาเสียเลย

            “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ปล่อยมือฉันสักที ต่างคนต่างเดิน ฉันไม่ได้อยากรู้เรื่องของคุณหนักหนาหรอก และจริงๆแล้วฉันก็ไม่ได้แปลกใจอะไรหรอกที่เห็นคุณแสดงอาการที่ไร้มารยาทแบบนั้น เพราะมันก็เหมาะกับหน้าตาของคุณแล้ว อย่าสำคัญตัวผิดไปค่ะ คุณ....ภูวนนท์”      

            ด้วยความลืมตัว เขาจับมือเธอเสียแน่น เพื่อพาเดินหนีคุณนายโฉมเฉลา กว่าจะมารู้สึกตัว ก็โดนวาจาที่เชือดเฉือน ตอบโต้เขาอย่างทันควันของมินรญา เขาจึงรีบปล่อยมือเธออย่างรู้สึกเสียหน้า

            จากที่ลงรถมาคนทั้งคู่คุยกันสนุกสาน แต่ตอนนี้บรรยากาศกลับตรงข้าม ต่างต่างเดิน มินรญาเดินนำหน้าไม่สนใจคนที่เดินมาด้วย ส่วนภูวนนท์เดินตามหลังอยู่ใกล้ๆ เหมือนเป็นองครักษ์ที่คอยดูแลอยู่ห่างๆ

            “นี่คุณเดินเหนื่อยหรือยัง ผมหิวแล้วนะ” เมื่อเช้าเขากินข้าวมาน้อยเพราะต้องการจะประท้วงบิดา พอถึงมื้อกลางวันความหิวเริ่มรุกรานเขาอย่างหนัก จนต้องยอมพุดกับหยิงสาวที่เดินอยู่ด้านหน้าโดยไม่สนใจเขา

            “ฉันไม่หิว คุณหิวก็ไปกินเลย”

            “ไปเถอะเดี๋ยวผมเลี้ยง กลัวไม่มีเงินจ่ายหรือไง”

            ถึงแม้ท้องจะหิว แต่ปากของเขาก็ยังไม่หยุดประชดประชัน เหน็บแนมคู่สนทนา ปากก็จิกกัดแต่มือก็เอื้อมไปคว้าแขนขาวเล็กดูอรชรอ่อนแอ้นของมินรญาดึงเธอเข้าไปร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆ

            คำพูดที่ดูถูกว่าเธอคงกลัวไม่มีเงินจ่ายค่าอาหาร ยังทำมินรญาทั้งโมโหทั้งหมั่นไส้ พยายามคิดหาทางแก้เผ็ดเอาคืนให้ได้

            “สั่งอาหารเลย ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน”

            เมื่อเขาเป็นคนบอกให้เธอสั่งอาหารได้เลย ไม่ต้องรอเขา มินรญาคิดหาทางเอาคืนได้ทันที เธอเรียกพนักงานมารับออเดอร์อาหาร ทุกเมนูที่เธอสั่งถูกบอกให้จัดมาสามชุด ทำเอาพนักงานมองหน้าเธอด้วยความตกใจ

            “คุณสั่งอะไรไปบ้าง” ภูวนนท์ถามหลังจากที่กลับมานั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามกับเธอ

            “สั่งไปไม่กี่อย่างหรอกค่ะ รออาหารมาเดี๋ยวคุณก็รู้” มินรญาส่งยิ้มหวานอย่างมีเลศนัย

            เพียงไม่กี่นาทีอาหารหลายสิบจานถูกวางบนโต๊ะ จนอาหารจานสุดท้ายถูกวางลง พนักงานทำท่าเก้ ๆ กัง ๆ เพราะบนโต๊ะแทบจะไม่เหลือที่ว่างให้วางแก้วน้ำเลย

            “คุณสั่งอะไรของคุณแบบนี้เนี่ย ใครจะกินเข้าไปหมด”

            “กลัวไม่มีเงินจ่ายเหรอคะ” หยิงสาวได้ที่ย้อนคำพุดที่เขาเคยพูดกับเธออย่างสะใจ

            “คุณแกล้งผมใช่ไหม คุณนี่มันร้ายกาจ ผมดูคุณไม่ผิดจริงๆ” ภูวนนท์ก้มหน้าพูดอย่างแค้นใจที่โดนเอาคืนอย่างทันควัน

            อาหารบนโต๊ะถูกนำไปใส่ถุง เพราะทั้งสองคนกินไปเพียงเล็กน้อยทั้งนั้น เมื่อบิลค่าอาหารมาถึง ราคาที่พนักงานแจ้งทำเอามินรญาหัวเราะด้วยความสุขที่เอาคืนผู้ชายตรงหน้าได้

            ภาพชายหนุ่มถือถุงอาหารสองไม้สองมือ ดูพะรุงพะรังไม่เข้ากับชุดที่ดูภูมิฐานของเขา ทำเอาคนที่เดินสวนไปสวนมา มองเขาด้วยสายตาสงสัย มินรญาได้แต่แอบยิ้มอยู่ด้านหลังเขาอย่างมีความสุข

            สภาพของภูวนนท์ตอนนี้ทำให้ทั้งคู่ต้องกลับบ้าน เพราะคงจะเดินเที่ยวต่อม่ไหว และมินรญาเองก็เริ่มรู้สึกง่วงนอน ท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อนแล้ว และยังปรับตัวกับเวลาที่ต่างกันของฝรั่งเศสกับที่เมืองไทยไม่ได้

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status