เธอ...คือเจ้าสาวที่ฟ้าส่งมาโปรด ให้เจ้าบ่าวใกล้ตายที่ถูกเทงานแต่งงานอย่าง...เขา ++++++++ “เราขอโทษที่ไม่ได้บอกแกเรื่องพี่ปุณณ์จะแต่งงาน เราแค่ไม่อยากเห็นแกอกหักน้ำตานอง แต่เอ๊ะ...ทำไมแกพูดเหมือนกับว่ารู้จักเจ้าสาว” “อื้อ...พอดีเราเป็นญาติกัน คงเหมือนแกกับพี่ปุณณ์นั่นแหละ” “โลกแม่งก็กลม” เอ่ยจบเพียงดาวก็ถอนหายใจออกมา ตอนนี้เธอมืดแปดด้านไปหมดแล้ว ไม่รู้จะแก้ไขปัญหานี้ได้ยังไง “แล้วแบบนี้งานแต่งงานจะเอาไงต่อ” “ป้าเรา แม่พี่ปุณณ์นะ ยื่นคำขาดให้ญาติเจ้าสาวหาทางแก้ไขอยู่” “จะหาทางแก้ไขยังไงเล่า ในเมื่อเจ้าสาวไม่อยู่แบบนี้แล้ว” ดรินทร์คิ้วขมวดอีกคน “ก็ใช่ไง อีกอย่างเราเห็นบรรดาพ่อแม่ญาติพี่น้องเจ้าสาวพากันหนีขึ้นรถแล้วขับออกไปจากโรงแรมตะกี้นี้ คงเทงานแต่งงานเหมือนเจ้าสาวแล้วแน่นอน เราฟันธงได้” “หา” เสียงอุทานด้วยความตกใจดังมาจากดรินทร์อีกครั้ง “เอาไงดีอะแก ช่วยกันคิดหน่อยสิ” “จะไปคิดอะไรให้ยุ่งยาก ในเมื่อไม่มีเจ้าสาวแล้วก็ยกเลิกงานแต่งไปสิแก จะจัดต่อทำไม”
View More“ก็แค่อยากดูอะไรสักหน่อย เอาเป็นว่าผมจะรออยู่ที่นี่ ถ้าญาติของคุณพร้อมเดินทาง คุณก็พาเขามาหาผมได้เลย” ศาสตราจารย์ ดอกเตอร์วิลเลียมเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถามนั้นของเพียงดาวอย่างละเอียด เพราะบางครั้งการทดสอบความอดทนของใครบางคนก็ไม่ได้มีสาระสำคัญอะไร ที่สำคัญถ้าผู้ป่วยรายนั้นไม่สำคัญจริงๆ ว่าที่บ่าวสาวคงไม่มาหาเขาเพื่อขอให้ช่วยถึงที่นี่ อย่างหลังนี้กระมังที่ให้อะไรๆ เปลี่ยนไป“จริงๆ นะคะดอกเตอร์”“ครับ”“ขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณมาก” เพียงดาวถึงกับยกมือไหว้ศาสตราจารย์ ดอกเตอร์วิลเลียม“ขอบคุณมากครับดอกเตอร์” บรูคลินเอ่ยขึ้นอีกคน“นี่คือของขวัญวันแต่งงานที่ผมให้พวกคุณได้ ขอให้มีความสุขกับชีวิตคู่” เพียงดาวถึงกับโผเข้าไปกอดศาสตราจารย์ ดอกเตอร์วิลเลียม นั่นเพราะของขวัญวันแต่งงานชิ้นนี้มันมีค่าเหลือเกินเพียงดาวและบรูคลินรีบบินกลับมาเมืองไทยเพื่อบอกข่าวดีนี้ให้ปุณณ์และดรินทร์ได้รู้ ซึ่งทั้งสองคนถึงกับน้ำตาคลอที่
“ไม่ค่ะ ไม่พูดแบบนี้ ลินยังไม่พร้อมที่จะฟัง” แม้จะเตรียมใจเตรียมตัวรับมือเรื่องนี้มาบ้าง แต่เอาเข้าจริงๆ ดรินทร์ก็ยากที่จะทำใจได้“แต่มันคือความจริงที่พี่หนีไม่พ้น พี่ไม่อยากให้มันเกิดเร็วขนาดนี้ แต่พี่ก็ควบคุมอาการป่วยไม่ได้ พี่อยากบอกให้ลินรู้ว่าพี่รักลินนะครับ”“พี่ปุณณ์” ดรินทร์ไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไป ทั้งๆ ที่ก่อนจะเข้ามาในนี้เธอสั่งตัวเองไว้เสียดิบดีว่าห้ามร้องไห้ ก่อนจะรีบปาดน้ำตาแล้วเอ่ยขึ้น“ขอโทษค่ะ ลินขอโทษที่ร้องไห้” เอ่ยจบก็ส่งยิ้มให้เขา แม้จะยิ้มแต่ทว่าน้ำตามันกลับยิ่งไหลออกมา สุดท้ายดรินทร์ก็ปล่อยโฮอย่างไม่อาจกลั้นน้ำตาจากความกังวลอีกครั้ง“ร้องไห้เถอะครับ พี่เข้าใจ ถ้ามีหมอยอมรับผ่าตัดให้พี่ก็คงดี”“แต่หมอทุกคนบอกว่ามันเสี่ยงมาก เปอร์เซ็นต์ที่พี่จะรอดมันน้อยนิดไม่ใช่เหรอคะ”“พี่ถึงหวังปาฏิหาริย์ ว่ามันจะเกิดขึ้นกับพี่สักวัน” ก่อนหน้านี้การเข้าผ่าตัดไม่เคยอยู่ในหัวของ
เพราะอาการป่วยของปุณณ์ที่วันนี้ก็แสดงอาการออกมาอย่างกะทันหัน นั่นทำให้ปรียาพลอยได้รับรู้อาการป่วยของลูกชายไปด้วย เธอถึงกับเป็นลมล้มพับไปต่อหน้าต่อตาดรินทร์และเพียงดาวเหตุการณ์ชุลมุนเพราะญาติคนไข้เป็นลมเกิดขึ้นหน้าห้องไอซียู ก่อนที่พยาบาลจะรีบเข้ามาปฐมพยาบาลปรียา แล้วให้ไปนอนพักในห้อง“แก...หิวไหม” เพียงดาวหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ ดรินทร์แล้วเอ่ยถามขึ้น“ไม่”“แต่ก็ต้องกินไรสักหน่อย แซนวิชไหม เราไปซื้อให้”“เรากินอะไรไม่ลงจริงๆ กุ๊กไก่”“เรารู้ว่าแกต้องเข้มแข็งเพื่อพี่ปุณณ์ แต่กองทัพมันต้องเดินด้วยท้องนะเว้ย เกิดแกไม่สบายขึ้นมาอีกคน จะทำยังไง”“เรา...” ดรินทร์พูดไม่ออกนั่นเพราะรู้สึกจุกอยู่ในคอ เพราะเธอกำลังจะร้องไห้และไม่นานน้ำตามันก็ไหลออกมา เพียงดาวได้แต่นั่งปลอบ ส่วนดรินทร์ก็ร้องออกมาอย่างหนักราวกับเขื่อนแตก คงเพราะความกดดันความอัดอั้นกระมัง“เราเชื่อว่าแกต้องผ่านมันไปได้ลิน&rdq
“ได้สิ เลยถือโอกาสถายพรีเวดดิ้งที่นั่นเสียเลย”“ว้าว! จริงเหรอ”“อื้อ...ได้รูปสวยๆ แล้วจะรีบเอามาให้ดู”“จ้ะ” ดรินทร์พยักหน้ารับอย่างยินดี รู้สึกตื่นเต้นราวกับตัวเองเป็นเจ้าสาวเสียเอง ก่อนจะนั่งเหม่อจนเพียงดาวสังเกตเห็น“ใครจะไปคิดเนอะ เราสองคนโสดกันอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีคู่ซะงั้น”“ใช่...ชีวิตมันไม่แน่ไม่นอนจริงๆ นั่นแหละ” ดรินทร์เห็นด้วยกับคำพูดของเพียงดาว หลายเดือนมานี้ชีวิตเธอผ่านอะไรมาเยอะมาก เยอะจนบางอย่างเกือบจะตั้งรับไม่ทัน“แกพูดเหมือนมีอะไรอยู่ในใจ”“อื้อ...มีเรื่องกังวลนิดหน่อย แต่ไม่มีอะไรแล้วละ” เวลานี้สิ่งที่ ดรินทร์กังวลมีแค่เรื่องเดียวเท่านั้น นั่นคืออาการป่วยของปุณณ์ ที่บางวันก็ทรุดจนชายหนุ่มลุกไปทำงานไม่ไหว บ่อยครั้งที่มีเลือดไหลออกมาจากจมูก เห็นแบบนั้นแล้วดรินทร์ก็ใจเสีย ก่อนจะปลุกพลังบวกในตัวเองขึ้นมาเพื่ออยู่เคียงข้างปุณณ์ให้ได้ในทุกสถานการณ์&
ก๊อกๆ ก๊อกๆ“พี่ดาว ลินเองนะคะ เปิดประตูให้ลินหน่อยได้ไหม”“มีอะไร” น้ำเสียงห้วนๆ ของดาวจรัสดังขึ้นทันทีที่เปิดประตูออกให้ดรินทร์ เมื่อครู่เธอเห็นปุณณ์เดินออกไปส่งธีเทพแล้ว จึงสบายใจขึ้นมาหน่อยที่รู้ว่าเขากลับออกไปเสียที“ลินเอานมมาให้ค่ะ”“เอามาให้หรืออยากมาสมเพชฉันกันแน่”“เอามาให้จริงๆ ค่ะ”“อยากเข้าก็เข้ามาสิ นี่มันบ้านของเธอไม่ใช่เหรอ” เอ่ยจบ ดาวจรัสก็เดินกลับเข้าห้อง ส่วนดรินทร์ก็เดินตามเข้ามาก่อนจะวางแก้วนมลงบนโต๊ะ“เธอคงรู้แล้วสินะว่าชีวิตฉันต้องเจอกับอะไรมาบ้าง อยากหัวเราะเยาะฉันไหม เอาเลยสิ เอาเลย ได้ทีแล้วนี่” ดาวจรัสที่เวลานี้ยืนหันหลังให้ดรินทร์พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้อย่างหนัก ก่อนจะสะดุ้งเมื่อจู่ๆ ก็ถูกดรินทร์สวมกอด นั่นทำให้ความเข้มแข็งที่พยายามสร้างขึ้นพังทลายลงมาเป็นน้ำตา“ลินไม่ทำแบบนั้นค่ะ ลินสงสารและเข้าใจพี่ดาว” คำพูดของ ด
ดาวจรัสยังคงตีมึนที่จะอยู่ในบ้านของปุณณ์ โดยหลักๆ คือยกเรื่องลูกในท้องมาเป็นข้ออ้าง ปุณณ์และดรินทร์อยากจะไล่เสียให้ขาดแต่ก็ทำไม่ลงเช่นกันกระทั่งเข้าสู่วันที่สามที่ดาวจรัสนั้นมาปักหลักอาศัยอยู่ที่บ้านของปุณณ์ราวกับเป็นบ้านของตัวเอง ก็มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งดรินทร์ไม่คุ้นหน้ามาขอพบดาวจรัส แต่เธอกลับไม่ยอมออกไปพบ กระทั่งชายคนนั้นตัดสินใจปีนข้ามรั้วหมายจะเข้ามาภายในบ้าน โชคยังดีที่แม่บ้านเห็นเข้าเสียก่อน จึงรีบห้ามเอาไว้ ส่วนดรินทร์เห็นท่าไม่ดีจึงตัดสินใจออกมาคุยด้วย“คุณมาหาพี่ดาวเหรอคะ”“ใช่...แล้วคุณละเป็นใคร ใช่เจ้าของบ้านหลังนี้ไหม”“ฉันชื่อลิน เป็นภรรยาเจ้าของบ้านหลังนี้ค่ะ” ดรินทร์เอ่ยแนะนำตัว“ผมชื่อไมค์เป็นสามีของดาว เป็นพ่อของลูกในท้องเธอด้วย” ธีเทพแนะนำตัวเองเช่นเดียวกัน แม้จะหงุดหงิดเล็กๆ ที่ดรินทร์ไม่ยอมเปิดประตูให้เขาได้เข้าไปหาดาวจรัส“คุณบอกว่าเป็นสามีของพี่ดาวเหรอคะ”“ใช
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณปุณณ์ ลิน” ประโยคทักทายของดาวจรัสที่ดังขึ้น ทำให้ปุณณ์ถึงกับถอนหายใจออกมา วันนี้เขายกเลิกการประชุมรวมถึงงานทุกอย่าง เพื่ออยู่เคลียร์สิ่งที่เกิดขึ้นให้คลี่คลาย“หลับสบายดีไหมคะพี่ดาว”“ก็ดีจ้ะ” ดาวจรัสเอ่ยตอบคำถามนั้น แต่กลับไม่ได้มองหน้า ดรินทร์เลยแม้แต่น้อย เพราะคนที่เธอสนใจดูเหมือนจะเป็นปุณณ์มากกว่า“แต่ถ้าจะให้ดี คืนนี้พี่ขอไปนอนเตียงเดียวกับคุณปุณณ์ได้ไหมจ๊ะลิน”“จะมากไปแล้วนะคุณดาว” น้ำเสียงห้วนๆ แฝงความไม่พอใจของปุณณ์ดังขึ้น“ดาวล้อเล่นเองค่ะ ทำไมต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้ด้วย” เอ่ยจบดาวจรัสก็หัวเราะออกมา ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามดรินทร์ออกแล้วหย่อนตัวนั่งลงไป โดยไม่รอให้เจ้าบ้านเอ่ยชวนด้วยซ้ำ“แต่ผมกับลินไม่สนุกด้วย”“อารมณ์เสียอะไรมาแต่เช้าคะเนี่ย ไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ”“คุณต้องการอะไรกันแน่ ทำไมจู่ๆ ถึงมาห
เธอเคยเลือกผิดมาแล้วครั้งหนึ่งคือการทิ้งปุณณ์ในวันแต่งงาน แล้วหนีหน้าไปกับคนรักเก่าที่มีดีแค่เปลือกเท่านั้น สุดท้ายก็ลายออก บวกกับเธอท้องใหญ่ขึ้นทุกวันจึงอยากหาหลักประกันให้ลูกว่าเขาจะเกิดมาอย่างสุขสบาย เธอมองไม่เห็นใครเหมาะสมที่จะเป็นพ่อของเด็กในท้องเท่ากับปุณณ์อีกแล้ว“สักครู่ค่ะ ลินไปบอกแม่บ้านให้” ดรินทร์เอ่ยตอบเสียงนิ่งๆ ก่อนจะเดินไปบอกแม่บ้านให้จัดห้องรับรองแขกให้ดาวจรัสดรินทร์ยอมรับว่าเธอนั้นร้อนใจกับเรื่องที่ได้รับรู้ แต่ก็ไม่ได้โทรศัพท์ไปถามปุณณ์ในทันที เพราะรู้ว่าตอนนี้ชายหนุ่มมีประชุมครั้งสำคัญ ขืนรู้เรื่องนี้มีหวังเสียสมาธิจนพาลเสียไปถึงเรื่องงานเอาได้ เพราะเขาคาดหวังกับงานชิ้นมากว่าจะผ่านไปได้ด้วยดีเมื่อได้เอนหลัง ดาวจรัสก็หลับไปอย่างง่ายดายอาจเพราะเธอเหนื่อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงทำตัวเหมือนคนไม่ได้ทุกข์ร้อนใดๆ ทั้งๆ ที่เข้ามาเพื่อวางระเบิดใส่ชีวิตคู่ของดรินทร์และปุณณ์กระทั่งปุณณ์กลับมา ดรินทร์จึงรีบเข้าไปคุยด้วยว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น ปุณณ์ถึงกับอึ้งที่รู้ว่าดาวจรัสมาที่นี่
หลังจากแต่งงาน ปุณณ์และดรินทร์ก็ต้องแบ่งเวลา เพราะบ้านของดรินทร์อยู่ที่ปากช่อง ส่วนปุณณ์นั้นคือกรุงเทพฯ ทั้งคู่แบ่งเวลาให้กันและกัน ให้ครอบครัว รวมถึงจัดการเรื่องงานไปด้วย แม้แรกๆ จะหนักไปเสียหน่อย แต่ทุกอย่างก็กำลังเข้าที่เข้าทางโดยทั้งสองคนสลับกันไปนอนปากช่องและกรุงเทพฯ แบบอาทิตย์เว้นอาทิตย์ ซึ่งทุกครั้งที่มาปากช่อง ปรียาก็มักจะขอมาด้วย เพราะชอบอากาศรวมถึงอยากไปวัดกับเทียนแข ไปๆ มาๆ บรรดาแม่ๆ ของทั้งสองก็สนิทกันไปโดยปริยายวันเวลาค่อยๆ ผันผ่าน จากวันเป็นอาทิตย์และขยับไปเป็นเดือน กระทั่งถึงวันครบรอบวันแต่งงานครบหนึ่งเดือนของปุณณ์และดรินทร์ ชายหนุ่มวางแผนจะพาเธอไปดินเนอร์ โดยจองโต๊ะที่โรงแรมสุดหรูไว้แล้ว แต่ทว่าเวลาของความสุขกลับแสนสั้น เมื่อจู่ๆ ดาวจรัสก็โผล่มาที่บ้านปุณณ์ ทั้งๆ ที่เธอควรจะหายหน้าไปตลอด“พะ...พี่ดาว” ดรินทร์อุทานออกมาอย่างตกใจ เมื่อเห็นว่าแขกที่แม่บ้านเดินไปบอกเมื่อครู่นี้เป็นใคร“ลิน...ดีใจจังที่ได้เจอ” ทันทีที่เห็นหน้าดรินทร์ ดาวจรัสก็โผเข้าไปกอด จงใจใช้ท้องนูนๆ จากการตั้งท้
ความโกลาหลกำลังเกิดขึ้นภายในห้องพักของโรงแรมชื่อดัง ซึ่งเวลานี้มีไว้สำหรับแต่งตัวเจ้าสาว แต่ทว่ากลับไม่มีใครเจอตัวเจ้าสาวของงานแม้แต่คนเดียวภายในห้องไม่มีการรื้อค้น ข้าวของ ทุกอย่างยังคงวางอยู่ที่เดิม โดยเฉพาะชุดแต่งงานแสนสวย ที่ถูกสั่งตัดมาเป็นพิเศษเพื่อวันที่แสนพิเศษเช่นวันนี้“มีใครเจอตัวเจ้าสาวหรือยัง”“ยังค่ะยัง” บรรดาญาติพี่น้องต่างเอ่ยถามและตอบกันไปมา นั่นเพราะทันทีที่รู้ข่าว พวกเขาก็พากันแยกย้ายเพื่อตามหาจนทั่วโรงแรม แต่กลับไม่เจอตัวญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวพากันเครียดจนเป็นลมล้มพับไปหลายคน โดยเฉพาะแม่เจ้าสาวที่ถึงขนาดต้องเรียกรถพยาบาลมาสแตนบาย เพราะไม่คิดว่าจู่ๆ ลูกสาวจะหนีหน้าหายไปเอาในวันแต่งงานเช่นนี้ ทั้งๆ ที่ตกลงกันไว้ดิบดีว่าจะเข้าพิธีแต่งงานกับเจ้าบ่าวที่ชื่อ...ปุณณ์เพราะตกลงกันไว้แล้ว เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันจึงช็อคไปตามๆ กัน นั่นเพราะหากงานแต่งงานครั้งนี้เกิดอุปสรรค ถึงขั้นล่มขึ้นมา หนี้สินที่ทางครอบครัวมีก็คงยิ่งพอกพูน เพราะนี่คือการแต่งงานเพื่อปลดหนี้ของครอบครัวเธอนั่นเอง“เกิดเรื่องแล้วค่ะคุณป้า”“เรื่องอะไรกุ๊กไก่”“คือ...พี่ดาวหายตัวไปค่ะ” เพียงดาวเอ่ยบอกออกไป นั่...
Comments