ตอนที่ 8
เหนี่ยวรั้งใจ
2 เดือนผ่านไป
“เปรมไปส่งรินที่คอนโดนะ”
สาวสวยผิวขาวสองแขนยาวกอดคอชายหนุ่มคนรักเก่าของเธอจนใบหน้าของทั้งคู่แทบจะแนบชิดติดกัน
“ทำไมถึงไม่กลับบ้าน”
เปรมธวัชถามด้วยความแปลกใจเพราะตั้งแต่รินรดากับมาหาเขาทั้งคู่ออกไปกินข้าวเย็นด้วยกันตลอดแล้วสุดท้ายเขาก็จะขับรถไปส่งเธอที่บ้านแต่วันนี้เธอกลับร้องขอให้เขาไปส่งเธอที่คอนโดแทน
“วันนี้รินเมาแล้วไม่อยากกลับบ้านเดี๋ยวคุณพ่อกับคุณแม่จะว่าเอา เปรมก็เมาเหมือนกันไม่ใช่หรือคะ”
วันนี้ไม่ใช่แค่เพียงกินอาหารเย็นด้วยกันแต่เป็นการนั่งดื่มด้วยจึงทำให้เมาทั้งคู่ถึงแม้จะไม่มากนักแต่ก็เรียกได้ว่าความรู้สึกร้อนๆหนาวๆมันเริ่มแผ่ซ่านเข้ามาในหัวใจและร่างกายของคนที่เคยเป็นถ่านไฟเก่าของกันและกัน
เปรมธวัชเป็นอันต้องยอมแพ้เขาเดินประคองหญิงสาวขึ้นไปส่งถึงในห้องนอนที่คอนโดเขาตั้งใจว่าส่งเธอเข้านอนเสร็จก็จะรีบกลับบ้านทันทีแต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิดเมื่ออีกฝ่ายพยายามใช้มารยาทุกอย่างรั้งให้เขาอยู่เพื่อรื้อฟื้นความสัมพันธ์ที่ทั้งคู่เคยมีให้กันเมื่อหลายปีที่ผ่านมา
“อย่าทำแบบนี้ริน”
คนตัวสูงพยายามดันตัวอีกฝ่ายให้ออกไปพ้นตัวเขาเมื่อรู้สึกว่าความเมาทำให้รินรดากำลังจะทำในสิ่งที่ไม่สมควร
“มองหน้ารินสิคะคุณไม่รักรินแล้วใช่ไหม...ที่ผ่านมาไม่เคยมีอ้อมกอดและรอยจูบของใครทำให้รินมีความสุขได้ถ้าไม่ใช่เปรม”
สาวน้อยเล่นทีเผลอเธอยกตัวขึ้นและบรรจงจูบไปที่ ปากหยักที่ไม่ทันตั้งตัว รินรดาพยายามกอดดึงร่างหนาเข้ามาแนบชิดกับตัวเองไว้แน่น ไซ้ซอกคอของอีกฝ่ายเพื่อหวังสร้างอารมณ์ให้ ชายหนุ่มยินยอมเป็นของเธออีกครั้งในวันที่เธอทั้งเหงาและทั้งเปลี่ยวในอารมณ์แบบนี้
“คือ...ผม”
คนร่างสูงพยายามขัดขืนเขาอยากจะบอกให้รินรดาได้รู้ว่าตอนนี้เขามีภรรยาแล้วแต่ใจของก็ยังไม่แน่ชัดว่ามินตราอยู่ในฐานะไหนจึงทำได้แต่พูดเบา ๆ อยู่ในคอแล้วปล่อยให้สาวสวยได้ทำตามที่ใจเธอต้องการ
“ผมจะกลับบ้านแล้วดูแลตัวเองดีๆนะ”
เมื่อเกมส์รักครั้งนี้ดูแล้วจะไม่จบแค่เพียงกอดจูบแต่มันกำลังลุกลามมาถึงบนเตียงเตรียมธวัชด้วยความรู้สึกผิดและไม่สบายใจที่ตอนนี้ตัวเขาเองไม่ได้อยู่ในสถานภาพโสดจึงรีบจับสาวร่างเล็กวางลงกับเตียงนอนและเดินออกมาจากคอนโดอย่างเร็วที่สุด
“นี่มันอะไรกัน เธอจะกลับมาในวันที่มีมินตราแล้วทำไม”
เปรมธวัชไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมแค่เพียงรินรดาบรรจงจูบไปที่ปากของเขาภาพของมินตราก็ผ่านเข้ามาใน ความทรงจำจนเขาไม่สามารถที่จะปล่อยอารมณ์ไปกับรสรักที่ รินรดากำลังมอบให้ได้ทั้งที่ความจริงแล้วเขากับมินตราไม่ได้รักกันทุกอย่างเป็นเพียงแค่ข้อตกลงตามสัญญาเท่านั้น
ค่ำคืนนี้ชายหนุ่มกลับบ้านพร้อมด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้ง
ไปหมดทั้งตัวภรรยาที่นอนอยู่ข้างๆได้แต่แกล้งฝืนทำท่าเหมือนว่าเธอหลับไปแล้วเพราะตลอดระยะเวลา 2 เดือนตั้งแต่คนรักเก่าของเขากลับมามิตราก็ไม่เคยได้นอนหลับสนิทเลยเพราะมัวแต่คิดไปทั่วว่าป่านนี้ทั้งคู่จะทำอะไรกันและเธอกับเขาจะยุติความสัมพันธ์กันเมื่อไหร่ในเมื่อความเป็นจริงเธอก็เป็นเพียงแค่ภรรยาคั่นเวลาถ้าตอนนี้เขาหาภรรยาตัวจริงได้แล้วก็คงใกล้เวลาหมดหน้าที่ตัวปลอมอย่างเธอ
“นอนหรือยังครับไหนมาให้กอดหน่อย”
คนทำผิดมารู้สึกไม่ดีเขาจึงได้แค่คว้าตัวสาวน้อยที่นอนหลับอยู่ข้างๆมากอดไว้มันเป็นความรู้สึกผิดและความสับสนในหัวใจเปรมธวัชไม่รู้ว่าเวลานี้เขาควรจะจัดการกับปัญหาอย่างไรทั้งที่ เขาไม่ควรจะคิดว่านี่คือปัญหาเพราะทุกอย่างจะจบลงแค่เพียงเขายกเลิกสัญญาและปล่อยมินตราให้เป็นอิสระ
ความสัมพันธ์ระหว่างมินตรากับเปรมธวัชค่อยๆห่างกันออกไปทีละนิดเวลาที่ชายหนุ่มมีให้กับครอบครัวก็แปรเปลี่ยนไปมีให้กับคนรักเก่าจนวันนึงเขาก็จำเป็นต้องตัดสินใจว่าจะเลือกทางไหนเพราะไม่มีประโยชน์ที่เขาจะจับปลาสองมือในเวลานี้และสิ่งที่เปรมธวัชกลัวที่สุดคือการสูญเสียคนรักเก่าไปเพราะความสุขที่ รินรดาพยายามเอาใจเขาทุกอย่างทำให้เขายอมลืมเรื่องเลวร้ายที่เธอเคยสร้างบาดแผลให้ไว้จนแปรเปลี่ยนเป็นความสุขเขายินดีที่จะมีเธออยู่แบบนี้ในชีวิต
“ออกไปข้างนอกเป็นเพื่อนฉันหน่อย”
อมราเดินมาตามลูกสะใภ้ถึงห้องนอนเพื่อขอให้อีกฝ่ายออกไปเป็นเพื่อนทำธุระข้างนอกโดยที่ไม่ยอมบอกว่าไปที่ไหนและทำอะไร
มินตราได้แต่นั่งรถไปตามคำสั่งเธอไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยถามเพราะตอนนี้ชีวิตของเธอก็มีเรื่องวุ่นวายมากพออยู่แล้ว เธอไม่อยากจะรับรู้ปัญหาอะไรมากไปอีกโดยเฉพาะสุขภาพร่างกายของเธอตอนนี้ก็ดูจะแย่ไปทุกทางตื่นเช้ามาก็เวียนหัวคลื่นไส้อาเจียนได้ตลอดซึ่งส่วนหนึ่งเธอคิดว่าคงมาจากการที่เธออดนอน
“คุณท่านไม่สบายหรือคะถึงได้มาหาหมอ”
คนขับรถจอดส่งทั้งคู่ที่โรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่จึงทำให้สาวน้อยคิดว่าเจ้านายของเธอคงจะกำลังไม่สบาย
“ฉันจะพาเธอมาปรึกษาหมอหาทางมีลูกให้เร็วที่สุด”
อมราบอกจุดมุ่งหมายก่อนที่ทั้งคู่จะเดินขึ้นไปยังชั้น 2 ของโรงพยาบาลซึ่งเป็นแผนกเกี่ยวกับเรื่องการตั้งครรภ์โดยเฉพาะ
“บางทีคุณเปรมอาจจะไม่อยากมีลูกแล้วก็ได้นะคะ”
คำพูดของมินตราทำให้หญิงสูงวัยที่กำลังเดินนำหน้าเธอถึงกับต้องหยุดยืนนิ่งอยู่สักพักก่อนที่จะหันมาสบตาคนพูดด้วย แววตาของคนแก่ที่กำลังเสียใจ
“เพราะฉันกลัวว่าอีกไม่นานลูกชายฉันจะคิดแบบนั้นวันนี้เราถึงต้องมาที่นี่ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป”
“คุณท่านกลัวคุณเปรมกลับไปหาคนรักเก่าของเขาใช่ไหมคะ”
มินตราเธอเฝ้าทนเก็บความจริงที่รู้มาตลอด 2 เดือนแต่วันนี้เธอต้องการรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีถ้าเธอรู้ ความจริงเมื่อไหร่เธอพร้อมจะไปจากที่นี่ถ้าไม่มีใครต้องการให้เธออยู่ในฐานะภรรยารับจ้างอีกต่อไป
“ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้กลับมาเพราะรักลูกชายฉันแต่คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปพูดให้เปรมรับรู้ความรักทำให้เขาตาบอด ลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นเคยทำไว้ ฉันเองก็เป็นแค่แม่ เลี้ยงได้แต่ตัวบังคับหัวใจใครไม่ได้บางทีถ้าเธอท้องอาจจะทำให้เขารู้ว่าคนที่เขาควรจะรักที่สุดคือเธอกับลูกไม่ใช่ผู้หญิงที่ใจโลเลเห็นเขาเป็นแค่ของตาย”
มินตราไม่ได้รู้สึกตามอย่างที่อมราพูดเธอกำลังคิดว่าการ ใช้ชีวิตอีกหนึ่งชีวิตเข้ามาเป็นตัวดึงให้เปรมธวัชกลับมาเป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรม ลูกควรจะเป็นเครื่องหมายของความรักไม่ใช่เป็นเพียงแค่เครื่องมือยึดเหนี่ยวหัวใจของใคร
“หลายครอบครัวที่เขาก็รักลูกแต่สุดท้ายเขาก็เลือกไปใช้ชีวิตกับผู้หญิงที่เขารักแล้วเด็กที่เกิดมาก็กลายเป็นปัญหาของสังคมที่ต้องอยู่กับครอบครัวที่แตกแยก มิ้นไม่เชื่อค่ะว่าการมีลูกจะทำให้คุณเปรมเลิกกับผู้หญิงคนนั้น”
อมราหันมามองหน้าสาวน้อยที่ไม่เคยขัดคำสั่งด้วย ความเข้าใจแต่สำหรับเธอแล้วไม่มีทางเลือก อมราจึงพร้อมจะทำ ทุกอย่างที่เชื่อว่าจะช่วยดึงลูกชายให้เลิกกับรินรดาได้ถ้าทางนี้มันไม่สำเร็จเธอก็พร้อมจะคิดหาทางอื่นถึงแม้จะรู้ว่าแผนการทุกอย่างที่กำลังคิดอยู่มันคือความเห็นแก่ตัวของแม่ที่อยากให้ลูกชายหลุดพ้นจากผู้หญิงไม่ดีแบบนั้นก็ตาม
“สุขภาพของลูกสะใภ้ดิฉันเป็นอย่างไรบ้างคะมีอะไรหรือเปล่าถึงได้ยังไม่มีลูกกันสักที”
หลังจากที่คุณหมอตรวจร่างกายของมินตราเสร็จทั้งคู่ก็นั่งรอผลทันทีเพราะต้องการที่จะหาทางแก้ไขให้เร็วที่สุดถ้าเกิดมินตรามีปัญหาอะไรเกี่ยวกับทางร่างกายที่ส่งผลให้มีลูกยาก
“ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้นครับมีแต่ข่าวดี” คุณหมอส่งยิ้ม
“หมายความว่าอย่างไรคะ”
คนอยากรู้ทั้งสองคนถามขึ้นมาพร้อมกันเพราะจากใบหน้าและรอยยิ้มของคุณหมอตอนนี้มันเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างเป็นเรื่องน่ายินดี
“คุณมินตราตั้งท้องได้ 4 สัปดาห์แล้วครับ”
คำตอบจากปากของคุณหมอทำเอาคนฟังแทบหยุดหายใจทั้งคู่สำหรับอมราแล้วเธอดีใจจนพูดไม่ออกที่วันนี้ในที่สุดเธอก็ได้เป็นย่าคนจากที่รอคอยมาเกือบ 4 เดือนเต็มแต่สำหรับมินตราแล้วเธอรู้สึกโลกทั้งใบดับวูบ ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับสามีมันเหมือนรอวันสิ้นสุดแต่ตอนนี้มันไม่ใช่แค่เพียงเธอตัวคนเดียวอีกแล้วแต่มันคืออีกหนึ่งชีวิตที่ต้องร่วมชะตากรรมไปกับความสัมพันธ์ที่แสนซับซ้อนนี้ไปด้วยกัน
“คุณแม่อย่าเพิ่งบอกคุณเปรมได้ไหมคะ”
มินตราขอแม่สามีว่าอย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้เธอต้องการบอกกับชายหนุ่มในวันที่เหมาะและเวลาที่เขาควรจะรับรู้แต่ตอนนี้เธอยังไม่ต้องการให้ลูกมาเป็นเครื่องมือในการทำให้เปรมธวัชว่าต้องเลือกระหว่างเธอกับผู้หญิงที่เขารักถ้าเขาตัดสินใจที่จะเลือกทางนั้นเธอกับลูกก็พร้อมจะไป เธอจึงต้องการเก็บความลับนี้ไว้ก่อน
ตอนที่ 9ตัวปลอมต้องยอมไป“ฉันจะยังไม่บอกเปรมตามคำขอของเธอนะแต่งถ้าภายในสัปดาห์นี้เธอยังไม่บอกเขาฉันคงต้องขอเป็นคนบอกเองแล้วแหละเพราะไม่อยากให้ทุกอย่างมันสายเกินไป” อมรายอมรับปากลูกสะใภ้คิดว่าเรื่องแบบนี้ภรรยาคงอยากจะบอกสามีด้วยตัวเองแต่ถ้ามินตราปล่อยให้ทุกอย่างนานไปเธอในฐานะที่เป็นแม่ก็คงต้องบอกเรื่องนี้ด้วยตัวเอง คืนนี้เป็นค่ำคืนที่หัวใจของคุณแม่คนใหม่อ่อนแออย่างถึงที่สุดเธอตั้งใจที่จะปล่อยตัวเองให้ร้องไห้จนน้ำตาหมดไปจากร่างกายและวันพรุ่งนี้เธอจะเป็นคนใหม่เธอจะต้องเข้มแข็งให้มากกว่าเดิมเพราะตอนนี้ไม่ได้มีเพียงเธอแค่ชีวิตเดียว “หนูเป็นลูกแม่นะ” มือเล็กลูบลงไปที่ท้องส่งผ่านความอบอุ่นและความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายในหัวใจให้กับสายเลือดของตัวเองได้รับรู้ มินตราชักเริ่มไม่แน่ใจในตัวเองเหมือนกันว่าเธอจะยอมยกลูกให้กับเปรมธวัชหรือไม่เพราะในสัญญาทารกที่ถือกำเนิดขึ้นจะเป็นสิทธิ์ขาดของเขาคนเดียวและเธอก็เซ็นยินยอมไปแล้วแต่เมื่อวันนี้มาถึงหัวใจของเธอมันรักเกินกว่าจะยอมยกลูกให้ใคร นาฬิกาบอกเวลาใกล้จะเที่ยงคืนแปรมธวัชยังคงไม่กลับมาแต่วันนี้มินตราตั้งใจว่าเธ
ตอนที่ 10กว่าจะรู้“คุณแม่ครับมิ้นไปไหน” วันนี้เป็นวันแรกที่เปรมธวัชกลับมาทันกินข้าวเย็นหลังจากที่ 2 เดือนที่ผ่านเขาจะกลับมาถึงบ้านก็หลังเที่ยงคืนเท่านั้น “พ่อให้มิ้นกับยุพาไปจากที่นี่แล้ว” ธานินทร์ตอบด้วยท่าทางไม่สนใจยังคงก้มหน้าก้มตากิน ข้าวคลุกกะปิอาหารมื้อสุดท้ายที่ครอบครัวของมินตราได้ทำไว้ให้คนที่บ้านหลังนี้ได้กิน “คุณพ่อหมายความว่าอย่างไรครับไปจากที่นี่” เปรมธวัชวางช้อนในมือเขาถามบิดาด้วยเสียงที่สูงและดูมีอารมณ์อยู่ในนั้นเพราะอย่างไรมินตราก็ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขาการที่เธอจะไปไหนเขาควรจะต้องมีส่วนรู้ด้วย “ก็เปรมจะแต่งงานกับรินไม่ใช่หรือ แล้วจะให้มินตราอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรพ่อก็เลยให้เขาไปเริ่มต้นชีวิตกันใหม่ยุพาเองก็ทำงานที่นี่มานานก็ถึงเวลาต้องปลดระวางไปใช้ชีวิตอิสระของเธอบ้างและทำไมจะต้องมาโมโหแบบนี้ในเมื่อลูกเลือกเองว่าจะแต่งงานกับรินแล้วจะเก็บมินตราไว้ทำไมอย่าเห็นแก่ตัวนักสิ” ชายหนุ่มเป็นอันต้องเลิกกินข้าวสองมือกอดอกมองสบตาทั้งพ่อและแม่ที่ดูเหมือนไม่มีใครจะอยู่ข้างเขาในเวลานี้ “มินตราเป็นผู้
ตอนที่ 11ของขวัญที่ล้ำค่า“ผมขอโทษ” มินตราพี่กำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ที่บริเวณสวนหลังบ้านหันหลังมาตามเสียงที่เธอได้ยินด้วยความตกใจเพราะมันเป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยและรอคอยมาตลอดตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ “คุณเปรมมาได้อย่างไรคะ” สาวน้อยรีบวางสายยางและใช้สองมือประคองชายหนุ่มที่นั่งคุกเข่ายกมือไหว้อยู่ตรงหน้าให้ลุกขึ้น “ให้อภัยผมได้ไหมความผิดครั้งนี้มันมากมายและยิ่งใหญ่เหลือเกินที่ผ่านมาผมไม่เคยรู้ว่าหัวใจตัวเองต้องการใครจนวันที่คุณไม่อยู่ผมรู้แล้วว่ารินรดาไม่ใช่ผู้หญิงที่ผมต้องการอีกแล้ว” สาวน้อยพูดอะไรไม่ถูกจึงทำได้แค่เพียงฟังและให้อีกฝ่ายพูดความในใจออกมาสำหรับมินตรา เธอไม่เคยโกรธเขาแต่ที่เธอยอมจากมาแค่เพียงอยากให้เขารู้จักเสียงหัวใจตัวเองและเธอไม่ต้องการอยู่อย่างไร้ค่าในบ้านที่เธอไม่มีตัวตนในฐานะภรรยาอีกแล้ว “ผมยกเลิกการแต่งงานทุกอย่างมันจะไม่เกิดขึ้นแล้ว” มินตราพยักหน้าเพราะเธอรู้เรื่องนี้ดีจาก Facebook ของเปรมธวัชที่เธอเฝ้าติดตามเขามาตลอดตั้งแต่เขาไปเรียนที่ต่างประเทศ “ที่คุณมาวันนี้เพื่อจะตามมิ้นให้กลับไปอยู่กับคุณในฐานะ
ตอนที่1ความลับ “พี่ดลพี่ตามผมให้กับจากเวียดนาม เพราะเรื่อง ไร้สาระแบบนี้นี่นะ” ภูผาน้องชายฝาแฝดของภูวดล รู้สึกไม่พอใจเมื่อรู้ถึงสาเหตุที่พี่ชายโทรตามเขาให้กลับมาเมืองไทยเพียงเพราะว่า ต้องการให้เขานอนกับผู้หญิงคนหนึ่งเพื่อมีลูก “ในเมื่อภรรยาพี่ยินยอมแล้ว ทำไมพี่ไม่นอนกับเธอเอง ทำไมต้องเป็นนผม” “พี่ทำใจไม่ได้ ที่จะนอกกายภรรยา แต่แกยังไม่มีเมีย ถือเสียว่าช่วยให้ครอบครัวพี่สมบูรณ์นะ เราเป็นแฝดกัน แล้วเรื่องนี้ก็มีแต่พ่อกับแม่เราเท่านั้นที่รู้ ทุกคนจะคิดว่าเป็นพี่” พ่อของทั้งคู่เป็นคนไทยลูกเสี้ยวอังกฤษที่ทำงานอยู่ที่อเมริกา และเกิดมาเที่ยวที่เมืองไทยและดันมามีอะไรกับแม่ของทั้งคู่ โดยที่พ่อมีภรรยาเป็นอยู่ที่อเมริกาอยู่แล้ว ผู้ใหญ่ทั้งสองคนจึงตัดสินใจที่จะเลี้ยงดูลูกฝ่ายละคนและปิดเรื่องนี้เป็นความลับ แค่พ่อแม่ ภูวดล และภูผาเท่านั้น ที่รู้ว่าทั้งคู่มีแฝด เพราะถึงอย่างไรทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตอยู่คนละประเทศอยู่แล้ว “ก่อนจะตัดสินใจดูรูปของเธอก่อน ” ภูวดลส่งรูปให้น้องชายดู “ทั้งสวย ทั้งน่ารัก ทำไมถึงได้ยอมมาทำแบ
ตอนที่2คืนแรกของการไข่ตก อาหารบนโต๊ะอาหาร ล้วนแต่ไม่คุ้นหน้า ขิมมองดูด้วยความสงสัย ว่าแต่ละอย่างมันเรียกว่าอะไร “ไม่เคยกินใช่ไหม มาเดี๋ยวผมจะแนะนำให้ ว่าอะไรคืออะไรและกินอย่างไรกัน” ภูผาอธิบายชื่อ ส่วนประกอบ และวิธีการรับประทาน ให้หญิงสาวตากลมฟังอย่างละเอียด “อร่อยมากเลยค่ะ คุณภูวดลฝีมือเยี่ยมเลย” ขิมเอ่ยปากชม แต่ด้วยชื่อที่เธอเรียกมันทำให้คนทำรู้สึกน้อยใจ เพราะเขาไม่ใช่ภูวดล “ผมว่าคุณเรียกผมว่า คุณภู ก็พอ มันจะได้ช่วยให้เรารู้สึกสนิทสนมกัน” “ได้ค่ะ ต่อไปขิมจะเรียกว่าคุณภูนะคะ” นานแล้วที่ภูผาไม่มีโอกาสได้กินอาหารในบ้านด้วยฝีมือตัวเอง แบบที่มีคนอื่นด้วย เพราะตั้งแต่เขาเรียนจบ พ่อของเขาก็ซื้อบ้านและให้เขาแยกออกมาใช้ชีวิต ถึงเขาจะชอบทำอาหารแต่ก็เป็นแค่การนั่งกินอยู่คนเดียว “กินเยอะเลยนะ ผมชอบมองเวลาที่คุณกิน มันดูอร่อย คนทำก็รู้สึกภูมิใจไปด้วย” “แล้วคุณวรินไม่ชอบกินฝีมือคุณเหรอคะ ถึงดูตื่นเต้นจัง ที่ขิมกินแล้วถูกปาก” คำถามของหญิงสาวทำเอา ชายหนุ่มไปไม่เป็น เขาเอ่อ...อยู่นานกว่าจะน
ตอนที่3เรียนรู้ ใกล้ชิด “ขอโทษนะคะ ขิมตื่นสายไปหน่อย ” คนพูดเดินออกมาจากห้องนอนในสภาพหน้าซีด พอใกล้จะถึงห้องครัวที่ภูผากำลังทำกับข้าวอยู่เธอก็เป็นลมล้มไปเสียก่อน “ขิม ขิม คุณได้ยินผมไหม” ชายหนุ่มอุ้มคนร่างเล็กที่เป็นลมล้มลงไปนอนกับพื้น มาวางนอนกับโซฟากลางห้อง “ขิมเป็นอะไรไปคะ” “คุณเป็นลม ดีนะตัวเล็ก ถ้าตัวใหญ่ล่ะก็มีหวัง ผมทิ้งคุณไว้ที่พื้นแน่ๆ” ภูผาพูดไป มือก็ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดตัวให้กลับหญิงสาวที่กำลังนอนตัวร้อนอยู่บนโซฟา “หรือฉันจะท้องแล้วคะ” ขิมทำท่าดีใจ เพราะเธอเคยเห็นในหนังคนท้องชอบเป็นลม เวียนหัว “ต่อให้คุณท้องจริง มันก็คงจะไม่แสดงอาการเร็วแบบนี้ คุณเป็นไข้ ตัวร้อน จนผมต้องเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้” ภูผาส่ายหัวให้กับความคิดของหญิงสาว เธอกับเขานอนด้วยกันคืนเดียว เธอคิดว่าตัวเองกำลังแพ้ท้องเสียแล้ว วันนี้ทั้งวันชายหนุ่มเลยต้องเป็นบุรุษพยาบาลจำเป็น ไม่นานอาการไข้ก็ลดลง ขิมเธอพยายามแสดงออกให้ชายหนุ่มเห็นว่าเธอสบายดี เพื่อที่คืนนี้เขากับเธอจะได้ผลิตลูกกันอีก
ตอนที่4ลาก่อนลูกรัก แพทย์ที่ทำคลอดให้กับขิมเป็นน้องสาวของวริน ทุกอย่างจึงไม่มีปัญหา ทันทีที่เด็กน้อยคลอดออกมา วรินตั้งชื่อให้ว่าปูนปั้น เพราะเธอเป็นคนคิดและวางแผนปั้นมากับมือ “ดูแลตัวเองนะลูก หนูอยู่กับพ่อกับแม่ที่รักหนูที่สุดแล้ว” ขิมจูบลงไปที่หน้าผากของลูกชายของเธอ คืนวันนี้เธอก็จะออกจากโรงพยาบาลและไปให้ไกล ตามสัญญาที่ให้ไว้กับวริน เด็กน้อยเกิดมาด้วยใบหน้าที่เหมือนกับภูผามาก ดังนั้นปูนปั้นจึงเหมือนภูวดลไปด้วย ยิ่งทำให้วรินสบายใจ เพราะทุกคนจะได้เชื่อ ตลอดเวลาเกือบสี่เดือนที่วรินเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเพื่อไม่ให้มีใครได้เห็นเธอ จะได้ไม่แปลกใจในวันที่เธอมีลูกขึ้นมา ภูวดลแกล้งอุ้มลูกออกมานอกห้องที่พักของแม่และเด็ก เพื่อพาหนุ่มน้อยปูนปั้นให้ได้มาเจอหน้ากับพ่อแท้ ๆ “ผมฝากลูกด้วยนะพี่ รักเขาให้มากๆ ถ้าวันไหนพี่ไม่ต้องการเขาแล้วหรือรักลูกผมน้อยลง บอกผมนะ” ภูผาเพิ่งเข้าใจคำว่าพ่อก็วันนี้ เขาตกหลุมรักเด็กน้อยคนนี้อย่างไม่มีเงื่อนไข แต่สุดท้ายเขาก็ต้องยอมปล่อยไป เพราะทุกอย่างมันถูกตกลงกันไว้แล้ว และภูวดลก็ไม่ใช่คนอื่นเ
ตอนที่5เริ่มจีบกันใหม่ ไม่นานร้านอาหารเวียดนามของภูผาก็ถูกเปิดอย่างเป็นทางการ ขิมเองทำอาหารได้ทุกเมนู เดือนแรกเธอมีผู้ช่วยเพียงคนเดียว แต่ร้านขายดีมาก ภูผาจึงต้องจ้างผู้ช่วยแม่ครัวเพิ่มอีกหนึ่งคน “เหนื่อยไหม ขอบคุณมากนะขิม ถ้าไม่ได้คุณผมคงแย่” ชายหนุ่มเดินมาที่ห้องครัวหลังจากลูกค้ากลับไปหมดแล้ว “ไม่เหนื่อยหรอกค่ะสนุกดี แล้วคุณไม่กลับไปกรุงเทพบ้างเหรอคะ เห็นอยู่ที่นี่มาหลายเดือนแล้ว” ขิมไม่กล้าถามถึงลูกกับภรรยาของเขาโดยตรงจึงถามแบบอ้อมๆ ทั่วไป “ไปกรุงเทพ ไปทำไมล่ะ ผมไม่ได้มีอะไรที่นั่นเสียหน่อย” คนตอบทำหน้าสงสัย หญิงสาวเลือกที่จะไม่ถามต่อ เธอคิดว่าชายหนุ่มคงเลิกรากับวรินแน่ๆเลย ถึงได้ย้ายมาอยู่ไกลแบบนี้ ด้วยความเป็นแม่ หญิงสาวรู้สึกห่วงลูกขึ้นมา แต่ก็เชื่อใจว่าในเมื่อวรินเองมีลูกไม่ได้อย่างไรเสีย เขาคงไม่ทิ้งลูกของเธอแน่นอน “เดี๋ยววันนี้ผมไปส่ง แต่ก่อนกลับ เราไปหาข้าวต้มร้อน ๆ กินกันดีกว่า ตั้งแต่มาอยู่เชียงใหม่ ผมยังไม่เคยขับรถเล่นเวลากลางคืนเลย เพราะเหนื่อยแต่กับเรื่องร้าน พรุ่งนี้ร้านหยุด คุณห้ามปฎิเสธเล