ตอนที่ 11
ของขวัญที่ล้ำค่า
“ผมขอโทษ”
มินตราพี่กำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ที่บริเวณสวนหลังบ้านหันหลังมาตามเสียงที่เธอได้ยินด้วยความตกใจเพราะมันเป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยและรอคอยมาตลอดตั้งแต่มาอยู่ที่นี่
“คุณเปรมมาได้อย่างไรคะ”
สาวน้อยรีบวางสายยางและใช้สองมือประคองชายหนุ่มที่นั่งคุกเข่ายกมือไหว้อยู่ตรงหน้าให้ลุกขึ้น
“ให้อภัยผมได้ไหมความผิดครั้งนี้มันมากมายและยิ่งใหญ่เหลือเกินที่ผ่านมาผมไม่เคยรู้ว่าหัวใจตัวเองต้องการใครจนวันที่คุณไม่อยู่ผมรู้แล้วว่ารินรดาไม่ใช่ผู้หญิงที่ผมต้องการอีกแล้ว”
สาวน้อยพูดอะไรไม่ถูกจึงทำได้แค่เพียงฟังและให้อีกฝ่ายพูดความในใจออกมาสำหรับมินตรา เธอไม่เคยโกรธเขาแต่ที่เธอยอมจากมาแค่เพียงอยากให้เขารู้จักเสียงหัวใจตัวเองและเธอไม่ต้องการอยู่อย่างไร้ค่าในบ้านที่เธอไม่มีตัวตนในฐานะภรรยาอีกแล้ว
“ผมยกเลิกการแต่งงานทุกอย่างมันจะไม่เกิดขึ้นแล้ว”
มินตราพยักหน้าเพราะเธอรู้เรื่องนี้ดีจาก F******k ของเปรมธวัชที่เธอเฝ้าติดตามเขามาตลอดตั้งแต่เขาไปเรียนที่ต่างประเทศ
“ที่คุณมาวันนี้เพื่อจะตามมิ้นให้กลับไปอยู่กับคุณในฐานะภรรยารับจ้างเหมือนเดิมใช่ไหมคะ”
หญิงสาวเข้าใจแบบนั้นจริงๆเธอคิดว่าชายหนุ่มยกเลิกการแต่งงานแล้วก็เลยต้องการจะตามเธอเข้าไปอยู่ที่บ้านของเขาในฐานะภรรยารับจ้างไร้ตัวตนเหมือนเดิม
“ผมจะตามคุณกลับไปอยู่บ้านของเราในฐานะภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายเราจะแต่งงานกันนะมินตรา”
หญิงสาวแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินถึงเธอจะรักเขามากแค่ไหนแต่เธอก็ไม่เคยคาดหวังไปถึงขั้นแต่งงานหรือมีตัวตนในสังคมเธอหวังแค่เพียงให้เขาครองความโสดและอยู่เป็นสามีลับๆกับเธออย่างนี้ก็พอ
“มิ้นรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะมันมากเกินไปไม่มีอะไรที่เราคู่ควรกันเลยแค่มิ้นได้กลับไปอยู่กับคุณในฐานะภรรยาลับๆไม่มีใครรับรู้แค่นี้มิ้นก็มีความสุขแล้วขอแค่เพียงคุณอย่าแต่งงานหรือพาใครเข้ามาในบ้านให้ทิ่มแทงหัวใจของมิ้นก็พอ”
ทั้งสองคนถามสารทุกข์สุขดิบกันด้วยความคิดถึงจากทุกบทสนทนาทำให้มินตราแน่ใจว่าสามีของเธอไม่รู้เรื่องที่เธอกำลังท้องอยู่จากตอนแรกที่มินตราคิดว่าเปรมธวัชยอมยกเลิกงานแต่งงานเพียงเพราะเขาต้องการลูกแต่ตอนนี้เธอแน่ใจแล้วว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับชีวิตน้อย ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นมันเป็นแค่ความรู้สึกระหว่างเธอกับเขา
“มิ้นจะกลับไปอยู่กับคุณค่ะแต่ขอเวลาหน่อยได้ไหมไม่อยากให้คนอื่นมองว่าขนข้าวขนของออกมาสุดท้ายก็เดินกลับเข้าไปเหมือนเดิม”
เปรมธวัชยอมทำตามที่หญิงสาวต้องการทุกอย่าง นอกจากมินตราที่เขาต้องขอโทษก็ยังมียุพาอีกคน เปรมธวัชรู้สึกผิดที่ทำให้คนเป็นแม่ต้องเสียใจกับสิ่งที่ลูกสาวต้องเผชิญ
“ผมกราบขอโทษน้ายุพาด้วยนะครับผมรู้ว่าการกระทำของผมทำให้น้าต้องเสียใจอดีตย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แต่ผมสัญญาว่าต่อไปนี้ผมจะดูแลมินตราให้ดีที่สุดไม่ฐานะที่เธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องของผม”
ยุพารีบลุกไปประคองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านหน้าของเธอให้ลุกขึ้น เมื่อเปรมธวัชก้มกราบลงไปที่เท้าแม่บ้านที่รู้สึกตัวเองอยู่เสมอว่าเป็นเพียงแค่คนรับใช้
“ไม่เอาไม่อย่ากราบน้านะแบบนี้ ที่ผ่านมาน้ายอมรับว่าโกรธคุณเปรมมากที่ทําร้ายหัวใจของมินตราแต่ในเมื่อวันนี้คุณเปรมคิดได้แล้วน้าก็พร้อมจะให้อภัย”
ยุพาร้องไห้ออกมาด้วยความรู้สึกที่มันแน่นตื้นตันในอก เธอไม่เคยคิดเลยว่าเปรมธวัชจะรักลูกสาวของเธอจริงๆตั้งแต่เก้าออกมาจากบ้านหลังนั้นเธอพยายามเฝ้าบอกกับตัวเองและมินตราว่าอย่าคาดหวังอะไรกับอนาคตบางทีเปรมธวัชอาจจะไม่ตามมาง้อเพราะเขาอาจจะต้องการให้ทั้งคู่จากไปอยู่แล้วแต่ในเมื่อทุกอย่างเป็นแบบนี้ ยุพารู้สึกดีใจและมีความสุขกับความรักที่เกิดขึ้นกับทั้งคู่
นับตั้งแต่วันนั้นมินตราตัดสินใจที่จะยังไม่ตามชายหนุ่มกลับไปที่บ้านเธอยังคงใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านสวนแห่งนี้เพราะถึงแม้ว่าเธอจะให้อภัยในความเจ็บช้ำที่เปรมธวัชสร้างไว้แต่ก็ยังไม่มั่นใจในตัวเขากลัวหัวใจชายหนุ่มจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเธอจึงเลือกที่จะอยู่ที่นี่และกลับกลายเป็นว่าอีกฝ่ายเดินทางมาหาเธอเกือบทุกวันและนอนกับเธอเกือบทุกคืนทั้งที่ที่ทำงานกลับบ้านสวนต้องใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมง
“พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของผม ผมขอให้มิ้นกลับไปอยู่ที่บ้านของเราเป็นของขวัญวันเกิดให้ผมได้ไหม”
ชายหนุ่มสวมกอดภรรยาอย่างเอาใจทั้งคู่ออกมานั่งคุยกันริมระเบียงบ้านไม้ของบ้านหลังเล็กที่พ่อของเปรมธวัชสร้างไว้เมื่อหลายปีก่อนเพื่อไว้อยู่เวลาจะมาพักผ่อนในช่วงที่ธุรกิจวางมือได้
“มีที่ไหนกันคะเจ้าของวันเกิดมาขอของขวัญจากคนอื่น”
มินตราทำท่าจะไม่ยอมกลับทั้งที่ความเป็นจริงเธอตั้งใจอยู่แล้วว่าวันเกิดของสามีเธอจะให้ของขวัญเป็นตัวเองที่ยอมกลับไปตามที่เขาต้องการ
“ผมแค่ขอแต่ถ้ามิ้นไม่พร้อมก็ยังไม่เป็นไร”
ชายหนุ่มทำท่าเศร้าหวังให้อีกฝ่ายพูดว่าตกลงแต่มินตราก็เลือกที่จะเงียบและเปลี่ยนเรื่องพูดเพราะเธอตั้งใจจะมีเซอร์ไพรส์ใหญ่ให้เขาในวันเกิดปีนี้
“มิ้นขอถามเกี่ยวกับคุณรินหน่อยได้ไหมคะ”
สาวน้อยมีบางอย่างสงสัยและเธอก็คิดว่าวันนี้เธออยู่ในสถานะที่สามารถถามเรื่องนี้กับสามีตัวเองได้แล้ว
“ทำไมคุณรินถึงกลับมาหาคุณแล้วทำไมต้องเร่งรัดให้คุณแต่งงานด้วย”
ความจริงข้อนี้เปรมธวัชรู้หลังจากที่เขาปฏิเสธการแต่งงานกับคนรักเก่าไป ความจริงจึงได้ปรากฏว่าแท้ที่จริงแล้วรินรดาไม่ได้รักเขาที่เธอกลับมาครั้งนี้เพื่อต้องการกอบกู้ศักดิ์ศรีของตัวเองที่โดนอดีตคนรักบอกเลิกเพราะต้องการไปแต่งงานกับผู้หญิงที่ร่ำรวยกว่าเธอ รินรดาไม่อยากรู้สึกเสียหน้าในสังคมว่าเธอเป็นคนทิ้งเปรมธวัชมาเพื่อที่จะถูกผู้ชายคนใหม่ทิ้งเธอแทน
“คนเราทำไมถึงต้องแคร์คำพูดของคนอื่นมากกว่าความรู้สึกของตัวเองคะ ในเมื่อเขาไม่ได้รักคุณแล้วแต่งงานกันไปเขาก็คงไม่มีความสุขสู้ทำตัวเองให้เข้มแข็งแล้วรอคนที่รักเราและเรารักมาเจอกันไม่ดีกว่าหรือคะ”
มินตราเธอถามด้วยความไม่เข้าใจจริงๆเพราะสิ่งที่รินรดายอมทำทุกอย่างก็เพียงเพื่อคนอื่นไม่ใช่เพื่อตัวเองเลย ทำไมเธอต้องเอาความรู้สึกและอนาคตมาแลกกับคำพูดของคนที่ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับชีวิตเรา
“ผมก็เป็นหนึ่งคนที่เคยอยู่ตรงจุดนั้นผมใช้เงินทองหน้าที่การงานซื้อผู้หญิงให้มาอยู่กับผมและบอกกับตัวเองว่าผู้หญิงพวกนั้นต่างก็อยากได้ผมทั้งรักและหลงกันทั้งนั้นทั้งที่ความเป็นจริงผมรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาแค่ต้องการเงินแต่ที่ทำลงไปเพราะหวังให้สังคมไม่มองผมเป็นผู้ชายไร้ค่าที่ถูกรินรดาทิ้งมา”
เปรมธวัชยอมพูดความในใจของเขาที่เขาไม่เคยพูดให้ใครฟังให้ภรรยาได้รับรู้ว่าเขาเองก็เคยผ่านจุดที่แคร์สายตาของคนอื่นจนลืมความรู้สึกของตัวเองมาแล้ว เขาใช้เงินทองหน้าที่การงานสร้างเสน่ห์ให้กับตัวเองโดยลืมไปเลยว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเสียไปมันไม่ใช่ความยั่งยืนสุดท้ายแล้วผู้หญิงพวกนั้นก็ไม่มีใครจริงใจ
วันเกิดของชายหนุ่มมาถึงรินรดาขอร้องให้เขาอยู่กับครอบครัวไม่ต้องมาหาเธอไว้รอให้พ้นจากค่ำคืนวันเกิดก่อนค่อยเดินทางมาที่บ้านสวนชายหนุ่มก็ได้แต่สงสัยว่าทำไมภรรยาจึงได้ผลักไสสามีให้อยู่ร่วมฉลองวันเกิดกับพ่อแม่แทนที่จะไปอยู่กับเธอแต่ก็จำใจต้องยินยอมทำตามทุกอย่างเพราะไม่อยากให้มินตรารู้สึกไม่ดีกลัวว่าเธอจะไม่ยอมกลับมาอยู่กับเขา
“มีความสุขมากๆนะลูกขอให้สมหวังทุกอย่างหมดทุกข์หมดโศกเสียที”
อมราอวยพรให้ลูกชายพร้อมกับที่สามีของเธอเป็นคนถือเค้กก้อนใหญ่มาให้ลูกชายได้เป่า เสียงร้องเพลงดังขึ้นแต่เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของพ่อและแม่ที่ร้องแต่มันกลับเป็นเสียงของมินตราที่ดังมาจากด้านหลัง
“ Happy Birthday To You Happy Birthday To You Happy Birthday Happy Birthday Happy Birthday To You…..”
สาวน้อยหยิบเค้กจากมือของพ่อสามีเดินตรงมาที่เจ้าของวันเกิดเทียนถูกจุดขึ้นเพื่อร่วมฉลองวันเกิดครบ 40 ปีของเปรมธวัชเมื่อแสงเทียนถูกเป่าให้ดับลงก็ถึงขั้นตอนของการตัดเค้ก
“ทำไมมันตัดยากจังครับเขาใส่อะไรมาด้วย”
ชายหนุ่มใช้ความพยายามอีกครั้งในการที่จะแบ่งเค้กออกเป็น 4 ส่วนและเขาก็ได้พบกับความจริงที่ซ่อนอยู่ในเค้กก้อนนั้น
“นี่มันอะไรกันครับ 2 ขีด”
เปรมธวัชหยิบวัตถุสีขาวที่มีขีดสี2 ขีดแจ้งผลอยู่ในนั้นเขารู้ดีว่ามันคือที่ตรวจการตั้งครรภ์เพียงแต่ด้วยความตกใจเขาเชื่อมโยงไม่ถูกว่าทำไมมันถึงมาอยู่ในนี้ได้
“ของขวัญวันเกิดค่ะคุณพ่อ”
สาวน้อยหอมลงที่แก้มของสามีเธอรู้สึกขำพี่อีกฝ่ายดูจะยังไม่เข้าใจว่าวัตถุที่เขาถืออยู่มันสื่อถึงอะไรกันแน่
“ที่ตรวจนี้เป็นของคุณ เรากำลังจะมีลูกด้วยกัน !”
เปรมธวัชด้วยความดีใจยกตัวภรรยาขึ้นมากอดจนขาลอยขึ้นจากพื้นดิน อมราจึงต้องเดินไปดุลูกเพราะกลัวว่าจะกระทบต่อเด็กในท้องที่ตอนนี้อายุครรภ์ได้เพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์
“เป็นของขวัญวันเกิดที่มีค่าที่สุดเลยครับ”
ชายหนุ่มถึงกับน้ำตาไหลเมื่อรู้ว่าตัวเองเกือบจะตัดสินใจทำอะไรที่ผิดพลาดไปตลอดชีวิตแล้วถ้าเขาคืนยังดึงดันจะแต่งงานกับรินรดาเขาคงไม่มีโอกาสที่จะให้ลูกได้เรียกเขาว่าพ่อ
งานแต่งงานระหว่างเปรมธวัชและมินตราถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายที่บริเวณบ้านสวนซึ่งเป็นที่ดินของครอบครัวเปรมธวัชที่ซื้อไว้ธานินทร์มอบที่ดินผืนนั้นพร้อมด้วยเงินสดอีกจำนวนหนึ่งและชุดเครื่องเพชรของอมราเป็นสินสอดในการสู่ขอกับยุพา
“ขอบคุณมากนะคะในความเมตตาของคุณท่านทั้งสอง”
ยุพาไม่ได้เรียกร้องอะไรและเธอก็ไม่เต็มใจที่จะรับสมบัติมูลค่ามหาศาลแบบนั้นแต่สำหรับอมราและธานินทร์เขายินดีที่จะมอบให้เพราะมินตราก็เปรียบเหมือนลูกทั้งสองคนเพราะตั้งแต่เธอยังเล็กครอบครัวของเปรมธวัชก็คอยจุนเจือเลี้ยงดูให้ความช่วยเหลือมาตลอด
เรื่องราวความรักระหว่างทั้งคู่ที่เป็นเพียงเพียงแค่สถานะของเจ้านายกับลูกสาวคนใช้โด่งดังไปทั่วในสังคมไฮโซและอดไม่ได้ที่จะมีคนพากันซุบซิบนินทาว่าเปรมธวัชกินไม่เลือกหรือแม้แต่ว่า หญิงสาวว่าเป็นคนทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูงอยากได้ลูกของเจ้านายเป็นสามี....แต่คำพูดเหล่านั้นไม่สามารถทำอะไรทั้งเปรมธวัชและมินตราได้ทั้งคู่รู้อยู่ว่าความจริงเป็นอย่างไรและเหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้ทั้งสองคนต่างรู้ว่าความสุขที่แท้จริงของคนเราอยู่ที่ใจของตัวเองไม่ใช่ฝากไว้ที่ปากหรือความคิดของคนอื่น
วันที่ทุกคนรอคอยมาถึงสาวน้อยหลานคนแรกของตระกูลลืมตาดูโลกธานินทร์ปู่นักธุรกิจที่เอาแต่ติดเพื่อนสนใจแต่การสังสรรค์แปรเปลี่ยนเป็นคนติดบ้านเพราะเขาแอบตำหนิภรรยาว่าชอบเลี้ยงลูกชายมาแบบตามใจจึงทำให้เปรมธวัชเป็นผู้ชายที่ไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่ธานินทร์เลยตั้งใจว่าเขาจะเป็นคนเลี้ยงหลานสาวด้วยตัวเอง
“ขอบคุณมากนะที่คุณกับลูกเข้ามาเติมเต็มครอบครัวของผมในฐานะที่คุณเป็นภรรยารับจ้างวันนี้ผมก็มีค่าจ้างพี่จะจ่ายให้คุณ”
ชายหนุ่มไม่ได้บอกว่าค่าจ้างนั้นคืออะไรแต่เขาขับรถพา สาวน้อยในดวงใจยอดภรรยาสุดที่รักไปที่สถานที่ราชการเพื่อจดทะเบียนให้เธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา
“ไม่ว่าจะที่ใดนับจากนี้คุณเป็นภรรยาของผม....ขอบคุณนะครับภรรยารับจ้าง”
ความสุขของชีวิตคนเรามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเคยเจ็บช้ำกับอะไรมามันไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าเคยทุกข์มาด้วยเรื่องไรแต่มันขึ้นอยู่กับความรู้สึกของเราตอนนี้ว่าเราเลือกที่จะเดินหน้าไปหาความสุขหรือยอมจมอยู่กับความเจ็บช้ำในครั้งเก่า
ชีวิตของคนเรามีแต่เดินไปข้างหน้าเมื่อรู้สึกว่ารักให้จงรีบบอกเมื่อรู้สึกว่าโกรธจงให้อภัยความรักของคนทั้งคู่ถึงแม้จุดเริ่มต้นจะไม่ได้เกิดจากความรู้สึกดีที่มีให้กันแต่ความผูกพันและความจริงใจทำให้ความรักค่อยๆเริ่มก่อตัวขึ้นถึงแม้สถานภาพจะต่างกันมากแต่เรื่องของหัวใจไม่มีคำว่าผิดหรือถูกมีแต่คำว่าความสุขเท่านั้น
จบบริบูรณ์
ตอนที่1ความลับ “พี่ดลพี่ตามผมให้กับจากเวียดนาม เพราะเรื่อง ไร้สาระแบบนี้นี่นะ” ภูผาน้องชายฝาแฝดของภูวดล รู้สึกไม่พอใจเมื่อรู้ถึงสาเหตุที่พี่ชายโทรตามเขาให้กลับมาเมืองไทยเพียงเพราะว่า ต้องการให้เขานอนกับผู้หญิงคนหนึ่งเพื่อมีลูก “ในเมื่อภรรยาพี่ยินยอมแล้ว ทำไมพี่ไม่นอนกับเธอเอง ทำไมต้องเป็นนผม” “พี่ทำใจไม่ได้ ที่จะนอกกายภรรยา แต่แกยังไม่มีเมีย ถือเสียว่าช่วยให้ครอบครัวพี่สมบูรณ์นะ เราเป็นแฝดกัน แล้วเรื่องนี้ก็มีแต่พ่อกับแม่เราเท่านั้นที่รู้ ทุกคนจะคิดว่าเป็นพี่” พ่อของทั้งคู่เป็นคนไทยลูกเสี้ยวอังกฤษที่ทำงานอยู่ที่อเมริกา และเกิดมาเที่ยวที่เมืองไทยและดันมามีอะไรกับแม่ของทั้งคู่ โดยที่พ่อมีภรรยาเป็นอยู่ที่อเมริกาอยู่แล้ว ผู้ใหญ่ทั้งสองคนจึงตัดสินใจที่จะเลี้ยงดูลูกฝ่ายละคนและปิดเรื่องนี้เป็นความลับ แค่พ่อแม่ ภูวดล และภูผาเท่านั้น ที่รู้ว่าทั้งคู่มีแฝด เพราะถึงอย่างไรทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตอยู่คนละประเทศอยู่แล้ว “ก่อนจะตัดสินใจดูรูปของเธอก่อน ” ภูวดลส่งรูปให้น้องชายดู “ทั้งสวย ทั้งน่ารัก ทำไมถึงได้ยอมมาทำแบ
ตอนที่2คืนแรกของการไข่ตก อาหารบนโต๊ะอาหาร ล้วนแต่ไม่คุ้นหน้า ขิมมองดูด้วยความสงสัย ว่าแต่ละอย่างมันเรียกว่าอะไร “ไม่เคยกินใช่ไหม มาเดี๋ยวผมจะแนะนำให้ ว่าอะไรคืออะไรและกินอย่างไรกัน” ภูผาอธิบายชื่อ ส่วนประกอบ และวิธีการรับประทาน ให้หญิงสาวตากลมฟังอย่างละเอียด “อร่อยมากเลยค่ะ คุณภูวดลฝีมือเยี่ยมเลย” ขิมเอ่ยปากชม แต่ด้วยชื่อที่เธอเรียกมันทำให้คนทำรู้สึกน้อยใจ เพราะเขาไม่ใช่ภูวดล “ผมว่าคุณเรียกผมว่า คุณภู ก็พอ มันจะได้ช่วยให้เรารู้สึกสนิทสนมกัน” “ได้ค่ะ ต่อไปขิมจะเรียกว่าคุณภูนะคะ” นานแล้วที่ภูผาไม่มีโอกาสได้กินอาหารในบ้านด้วยฝีมือตัวเอง แบบที่มีคนอื่นด้วย เพราะตั้งแต่เขาเรียนจบ พ่อของเขาก็ซื้อบ้านและให้เขาแยกออกมาใช้ชีวิต ถึงเขาจะชอบทำอาหารแต่ก็เป็นแค่การนั่งกินอยู่คนเดียว “กินเยอะเลยนะ ผมชอบมองเวลาที่คุณกิน มันดูอร่อย คนทำก็รู้สึกภูมิใจไปด้วย” “แล้วคุณวรินไม่ชอบกินฝีมือคุณเหรอคะ ถึงดูตื่นเต้นจัง ที่ขิมกินแล้วถูกปาก” คำถามของหญิงสาวทำเอา ชายหนุ่มไปไม่เป็น เขาเอ่อ...อยู่นานกว่าจะน
ตอนที่3เรียนรู้ ใกล้ชิด “ขอโทษนะคะ ขิมตื่นสายไปหน่อย ” คนพูดเดินออกมาจากห้องนอนในสภาพหน้าซีด พอใกล้จะถึงห้องครัวที่ภูผากำลังทำกับข้าวอยู่เธอก็เป็นลมล้มไปเสียก่อน “ขิม ขิม คุณได้ยินผมไหม” ชายหนุ่มอุ้มคนร่างเล็กที่เป็นลมล้มลงไปนอนกับพื้น มาวางนอนกับโซฟากลางห้อง “ขิมเป็นอะไรไปคะ” “คุณเป็นลม ดีนะตัวเล็ก ถ้าตัวใหญ่ล่ะก็มีหวัง ผมทิ้งคุณไว้ที่พื้นแน่ๆ” ภูผาพูดไป มือก็ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดตัวให้กลับหญิงสาวที่กำลังนอนตัวร้อนอยู่บนโซฟา “หรือฉันจะท้องแล้วคะ” ขิมทำท่าดีใจ เพราะเธอเคยเห็นในหนังคนท้องชอบเป็นลม เวียนหัว “ต่อให้คุณท้องจริง มันก็คงจะไม่แสดงอาการเร็วแบบนี้ คุณเป็นไข้ ตัวร้อน จนผมต้องเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้” ภูผาส่ายหัวให้กับความคิดของหญิงสาว เธอกับเขานอนด้วยกันคืนเดียว เธอคิดว่าตัวเองกำลังแพ้ท้องเสียแล้ว วันนี้ทั้งวันชายหนุ่มเลยต้องเป็นบุรุษพยาบาลจำเป็น ไม่นานอาการไข้ก็ลดลง ขิมเธอพยายามแสดงออกให้ชายหนุ่มเห็นว่าเธอสบายดี เพื่อที่คืนนี้เขากับเธอจะได้ผลิตลูกกันอีก
ตอนที่4ลาก่อนลูกรัก แพทย์ที่ทำคลอดให้กับขิมเป็นน้องสาวของวริน ทุกอย่างจึงไม่มีปัญหา ทันทีที่เด็กน้อยคลอดออกมา วรินตั้งชื่อให้ว่าปูนปั้น เพราะเธอเป็นคนคิดและวางแผนปั้นมากับมือ “ดูแลตัวเองนะลูก หนูอยู่กับพ่อกับแม่ที่รักหนูที่สุดแล้ว” ขิมจูบลงไปที่หน้าผากของลูกชายของเธอ คืนวันนี้เธอก็จะออกจากโรงพยาบาลและไปให้ไกล ตามสัญญาที่ให้ไว้กับวริน เด็กน้อยเกิดมาด้วยใบหน้าที่เหมือนกับภูผามาก ดังนั้นปูนปั้นจึงเหมือนภูวดลไปด้วย ยิ่งทำให้วรินสบายใจ เพราะทุกคนจะได้เชื่อ ตลอดเวลาเกือบสี่เดือนที่วรินเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเพื่อไม่ให้มีใครได้เห็นเธอ จะได้ไม่แปลกใจในวันที่เธอมีลูกขึ้นมา ภูวดลแกล้งอุ้มลูกออกมานอกห้องที่พักของแม่และเด็ก เพื่อพาหนุ่มน้อยปูนปั้นให้ได้มาเจอหน้ากับพ่อแท้ ๆ “ผมฝากลูกด้วยนะพี่ รักเขาให้มากๆ ถ้าวันไหนพี่ไม่ต้องการเขาแล้วหรือรักลูกผมน้อยลง บอกผมนะ” ภูผาเพิ่งเข้าใจคำว่าพ่อก็วันนี้ เขาตกหลุมรักเด็กน้อยคนนี้อย่างไม่มีเงื่อนไข แต่สุดท้ายเขาก็ต้องยอมปล่อยไป เพราะทุกอย่างมันถูกตกลงกันไว้แล้ว และภูวดลก็ไม่ใช่คนอื่นเ
ตอนที่5เริ่มจีบกันใหม่ ไม่นานร้านอาหารเวียดนามของภูผาก็ถูกเปิดอย่างเป็นทางการ ขิมเองทำอาหารได้ทุกเมนู เดือนแรกเธอมีผู้ช่วยเพียงคนเดียว แต่ร้านขายดีมาก ภูผาจึงต้องจ้างผู้ช่วยแม่ครัวเพิ่มอีกหนึ่งคน “เหนื่อยไหม ขอบคุณมากนะขิม ถ้าไม่ได้คุณผมคงแย่” ชายหนุ่มเดินมาที่ห้องครัวหลังจากลูกค้ากลับไปหมดแล้ว “ไม่เหนื่อยหรอกค่ะสนุกดี แล้วคุณไม่กลับไปกรุงเทพบ้างเหรอคะ เห็นอยู่ที่นี่มาหลายเดือนแล้ว” ขิมไม่กล้าถามถึงลูกกับภรรยาของเขาโดยตรงจึงถามแบบอ้อมๆ ทั่วไป “ไปกรุงเทพ ไปทำไมล่ะ ผมไม่ได้มีอะไรที่นั่นเสียหน่อย” คนตอบทำหน้าสงสัย หญิงสาวเลือกที่จะไม่ถามต่อ เธอคิดว่าชายหนุ่มคงเลิกรากับวรินแน่ๆเลย ถึงได้ย้ายมาอยู่ไกลแบบนี้ ด้วยความเป็นแม่ หญิงสาวรู้สึกห่วงลูกขึ้นมา แต่ก็เชื่อใจว่าในเมื่อวรินเองมีลูกไม่ได้อย่างไรเสีย เขาคงไม่ทิ้งลูกของเธอแน่นอน “เดี๋ยววันนี้ผมไปส่ง แต่ก่อนกลับ เราไปหาข้าวต้มร้อน ๆ กินกันดีกว่า ตั้งแต่มาอยู่เชียงใหม่ ผมยังไม่เคยขับรถเล่นเวลากลางคืนเลย เพราะเหนื่อยแต่กับเรื่องร้าน พรุ่งนี้ร้านหยุด คุณห้ามปฎิเสธเล
ตอนที่6ความรู้สึกที่ดีในวันเก่าๆพระจันทร์ยังไม่ทันลับขอบฟ้า ทั้งสองคนก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง และหวังว่าจะได้เห็นทะเลหมอก“ง่วงก็หลับก่อนเลยนะ เดี๋ยวถึงแล้วผมปลุกเอง โค้งเยอะคุณอาจจะเวียนหัวก็ได้”ชายหนุ่มเขาเคยมาเที่ยวที่นี่ครั้งหนึ่ง ตอนที่มาหาสถานที่เปิดร้านอาหาร จากที่ขี่หาแถวตัวเมือง เลยไกลขึ้นมาถึงเส้นนี้ จนได้รู้ถึงโค้งที่แสนจะเวียนหัว“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ ตอนแม่ยังอยู่ฉันก็ตื่นเช้า และเรื่องเมาโค้งยังไม่เป็นสักทีนะคะ”ขิมพูด เพราะเธอยังไม่ได้ลิ้มลองโค้งของเส้นทางนี้ ภูผาได้แต่จะรอดูผล ว่าถึงเวลาหญิงสาวยังยังเก่งอยู่ไหมอากาศข้างนอกเย็นสบายชายหนุ่มจึงแง้มหน้าต่างพอให้ลมเข้า เพื่อได้สูดอากาศบริสุทธิ์ เข้าไปให้ชุ่มปอดเกือบสองชั่วโมงกว่าจะถึง พระอาทิตย์เริ่มส่องแสง ทั้งคู่รีบจอดรถและเดินไปยังจุดชมวิว“เรามาทันหมอกด้วยค่ะ สวยมากเลย”ขิมหันไปมองชายหนุ่มที่มาด้วยเพราะเธอไม่ได้ยินเสียงตอบจากเขาภูผากำลังยืนมองไปที่ภาพของครอบครัวหนึ่งที่อุ้มเด็กน้อยกำลังถ่ายภาพกัน เด็กคนนั้นน่าจะอายุมากกว่า ปูนปั้นลูกชายของเขากับขิมไม่เท่าไหร่“คิดถึงลูกเหรอคะ” คนถามเห็นแล
ตอนที่7ถึงเวลาของความจริง ภูผาจอดรถหน้าบ้านของหญิงสาว เขารวบรวมความกล้าและตั้งสติ เพื่อคิดคำพูดและเหตุผลที่ดีที่สุด ที่จะทำให้ขิมยอมฟังเขาจนจบเรื่อง “ขิม เปิดประตูให้ผมหน่อย มีธุระด่วน” ชายหนุ่มโทรศัพท์เข้าไปก่อน เพราะกลัวว่าถ้าไปเคาะหน้าประตูเลยอาจจะทำให้อีกฝ่ายตกใจได้ “ทำไมกลับมาอีกล่ะคะ เข้ามาในบ้านก่อน ขิมคิดว่าคุณกลับไปนอนหลับที่คอนโดแล้วเสียอีก เพราะเมื่อเช้าคุณต้องตื่นแต่เช้า” หญิงสาวหยุดพูดเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าจริงจัง และเอาแต่ถอนหายใจ ก้มหน้ามองมือสองข้างที่กำกันไว้แน่น “คุณภูมีอะไรหรือเปล่าคะ บอกขิมได้นะ หรือเรื่องนี้จะเกี่ยวกับลูก” ขิมเริ่มรู้สึกใจคอไม่ดี เพราะเรื่องที่ทำให้ชายหนุ่มไม่สบายใจและตัดสินในกลับมาหาเธอ คงไม่พ้นเรื่องเธอหรือปูนปั้นแน่ๆ “ทั้งสองคน ผมไม่รู้จะเริ่มต้นพูดกับคุณอย่างไรดี ผมละอายไปหมด” ชายหนุ่มทำท่าเหมือนคนที่กำลังควบคุมสติไม่ได้ เขาโวยวายตาแดงกร่ำ “ลูกเป็นอะไรคะ เกิดอะไรขึ้นกับลูก” หญิงสาวห่วงอยู่เรื่องเดียว คือปูนปั้น เธอกลัวว่าลูกของเธอจะเป็
ตอนที่8พร้อมหน้า เมื่อทั้งคู่เดินทางมาถึงบ้านหลังใหญ่ใจกลางกรุงเทพของภูวดลกับวริน ต่างก็มองหน้ากันและจับมือเพื่อหวังให้มันช่วยส่งกำลังที่เข้มแข็งผ่านมือที่กุมกันไว้ “คุณ...” สาวใช้ของบ้านถึงรู้อยู่แล้วว่าน้องชายฝาแฝดของเจ้าของบ้านกำลังจะมา แต่เมื่อเห็นตัวจริงที่เหมือนกันทุกอย่าง ก็ทำเอาเด็กสาวถึงขั้นตกใจ “ผมภูผาน้องชายฝาแฝดของภูวดลและนี่ภรรยาของผม” ขิมถึงกับตกใจกับคำแนะนำตัวเธอ ที่ชายหนุ่มพูดออกไป “เชิญทางนี้ค่ะ” ทั้งสองคนเดินตามสาวใช้ ขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน ที่บันไดตกแต่งด้วยภาพของปูนปั้นเต็มไปหมด “นี่คุณใครเขาให้คุณแนะนำแบบนั้น ฉันไปเป็นภรรยาของคุณตั้งแต่เมื่อไหร่” ขิมเดินเกาะแขนภูผา ปากก็บ่นเขาไปตลอดทาง บางจังหวะหมั่นไส้ก็แอบหยิกบ้าง “ต้องให้ผมอธิบายไหม ว่าเมื่อไหร่ ท่าไหน คุณอย่ามัวทำเป็นเล่น เรากำลังจะไปจัดการเรื่องใหญ่ในชีวิตของลูกเรานะ” “ขิมขอโทษ ” หญิงสาวลืมคิดไปว่านี่ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาไม่พอใจเขา เพราะข้างหน้ามีเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่กว่า ภาพของปูนปั