Share

ความรู้สึกที่ดีในวันเก่าๆ

ตอนที่6

ความรู้สึกที่ดีในวันเก่าๆ

พระจันทร์ยังไม่ทันลับขอบฟ้า ทั้งสองคนก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง และหวังว่าจะได้เห็นทะเลหมอก

“ง่วงก็หลับก่อนเลยนะ เดี๋ยวถึงแล้วผมปลุกเอง โค้งเยอะคุณอาจจะเวียนหัวก็ได้”

ชายหนุ่มเขาเคยมาเที่ยวที่นี่ครั้งหนึ่ง ตอนที่มาหาสถานที่เปิดร้านอาหาร จากที่ขี่หาแถวตัวเมือง เลยไกลขึ้นมาถึงเส้นนี้ จนได้รู้ถึงโค้งที่แสนจะเวียนหัว

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ ตอนแม่ยังอยู่ฉันก็ตื่นเช้า และเรื่องเมาโค้งยังไม่เป็นสักทีนะคะ”

ขิมพูด เพราะเธอยังไม่ได้ลิ้มลองโค้งของเส้นทางนี้ ภูผาได้แต่จะรอดูผล ว่าถึงเวลาหญิงสาวยังยังเก่งอยู่ไหม

อากาศข้างนอกเย็นสบายชายหนุ่มจึงแง้มหน้าต่างพอให้ลมเข้า เพื่อได้สูดอากาศบริสุทธิ์ เข้าไปให้ชุ่มปอด

เกือบสองชั่วโมงกว่าจะถึง พระอาทิตย์เริ่มส่องแสง ทั้งคู่รีบจอดรถและเดินไปยังจุดชมวิว

“เรามาทันหมอกด้วยค่ะ สวยมากเลย”

ขิมหันไปมองชายหนุ่มที่มาด้วยเพราะเธอไม่ได้ยินเสียงตอบจากเขา

ภูผากำลังยืนมองไปที่ภาพของครอบครัวหนึ่งที่อุ้มเด็กน้อยกำลังถ่ายภาพกัน เด็กคนนั้นน่าจะอายุมากกว่า ปูนปั้นลูกชายของเขากับขิมไม่เท่าไหร่

“คิดถึงลูกเหรอคะ” คนถามเห็นแล้วก็คิดไม่ต่างกัน

“ตอนนี้ปูนปั้นคงอายุได้แปดเดือนแล้ว ผมอยากเห็นหน้าลูกจัง”

“แล้วคุณภูไม่ได้อยู่กับลูกเหรอ ถึงได้ไม่เคยเห็น”

ภูผาตกใจ ที่ตัวเองเผลอพูดออกไปโดยไม่รู้ตัว เพราะมัวแต่กำลังรู้สึกคิดถึงลูกอยู่

“ผมหมายถึงตอนนี้ เพราะผมมาอยู่เชียงใหม่หลายเดือนแล้วยังไม่ได้กลับไปเจอหน้าเลย”

“ขิมก็อยากเจอลูกค่ะ แต่ไม่เจอคงดีกว่า ยิ่งเจอก็ยิ่งจะคิดถึง คุณวรินคงดูแลลูกเราดีที่สุด ขิมเชื่อแบบนี้แล้วมันช่วยทำให้ขิมหมดห่วงลูกได้”

“เรามาเที่ยวกัน อย่าพูดเรื่องเครียดกันเลยดีกว่า เดี๋ยวผมถ่ายรูปให้ คุณโพสท่าสวยๆเลยนะ”

ภูผาเขาไม่อยากโกหกอะไรขิมอีกแล้ว แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะพูดความจริงแล้วก็ไม่รู้จะเริ่มต้นบอกความจริงอย่างไร

กว่าจะกลับจากอุทยาน ก็เกือบสาย เพราะนางแบบจำเป็น ชอบและสนุกที่มีตากล้องส่วนตัวมาด้วย

ขากลับภูผาตั้งใจจะแวะหาซื้อผักจากชาวบ้านข้างทาง เพื่อไปใช้ทำเมนูพิเศษผสมผสานระหว่างอาหารไทยกับอาหารเวียดนาม เขาว่าจะลองคิดสูตรดู เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

ไม่ใช่แค่การซื้อผักถุงสองถุง แต่ภูผาเหมามาหมดทุกร้านที่ตั้งอยู่บริเวณนั้น โชคดีที่รถของเขาคันใหญ่เลยใส่ผักพวกนี้ได้หมด

“นี่คุณจะซื้อไปแจกหรือไปลองทำเมนูใหม่กันแน่”

ขิมถามด้วยความไม่เข้าใจ เพราะผักแต่ละชนิดไม่น่าจะต่ำกว่ายี่สิบกิโลกรัม

“ส่วนหนึ่งก็เอาไปทดลองทำเมนูใหม่ ซึ่งมันก็ต้องใช้เยอะ กว่าจะลองผิดลองถูก และอีกส่วนก็เอาไปฝากคนที่ร้านเรา แค่นี้ทำเป็นตกใจ”

ชายหนุ่มเอื้อมมือมาเขย่าหัว หญิงสาวผมยาวดำคลับอย่างเอ็นดู

พอพ้นเขตของภูเขาโทรศัพท์ของเขาเริ่มมีสัญญาณ มีข้อความส่งมาบอกว่าพี่ชายของเขาภูวดล พยายามติดต่อเขามาหลายครั้งแต่โทรไม่ติดเพราะไม่มีสัญญาณ

ภูผารู้สึกได้ว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่ เพราะปกติแล้วพี่ชายของเขาจะใช้การส่งข้อความทางไลน์แทน แทบจะไม่เคยโทรมาเลย

“มีอะไรหรือเปล่าคะ ขิมเห็นคุณดูโทรศัพท์และสีหน้าดูเป็นกังวล”

ขิมสังเกตใบหน้าของคนขับแล้วรู้สึกไม่สบายใจเลย เพราะเห็นชายหนุ่มถอนหายใหลายรอบแล้ว

“ญาติที่กรุงเทพโทรมาหลายสายคงมีธุระด่วน ไว้ผมส่งคุณที่บ้านก่อน เดี๋ยวผมค่อยโทรกลับ”

ขิมเข้าใจว่า เขาคงอยากคุยกับญาติเป็นการส่วนตัว และเรื่องที่คุยคงเป็นความลับที่คนนอกไม่ควรรู้ เธอจึงไม่คาดคั้นอะไร

“ผมส่งคุณแค่นี้นะ เดี๋ยวผมจะแวะเอาผักไปเก็บที่ร้านด้วย พรุ่งนี้เจอกันที่ร้านแล้วกัน”

เมื่อภูผาขับรถมาถึงที่ร้าน เก็บผักและผลไม้บางส่วนใส่ตู้เย็นเขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรกลับหาพี่ชาย

“ว่าไงพี่ ผมอยู่บนเขาไม่ค่อยมีสัญญาณ”

ภูผากรอกเสียงไปอย่างตื่นเต้นด้วยความอยากรู้ ว่าเกิดอะไรขึ้นพี่ชายของเขาถึงได้ติดต่อมาแบบนี้

“วรินกำลังป่วย เธอเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง หมอบอกว่าแทบไม่มีหวังแล้ว พี่เลยตั้งใจจะบอกความจริงเรื่องปูนปั้น เพราะเธอกลัว กลัวว่าพี่จะไปเอาขิมมาเป็นเมียถ้าเธอตายไป เพราะอย่างไรขิมคือแม่ของลูก พี่อยากให้ทุกคนมาอยู่ที่กรุงเทพและพูดความจริงต่อหน้าเธอก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป แกรีบมานะภูผา แล้วรีบหาขิมให้เจอ เธออยู่เชียงใหม่เหมือนนาย แต่ถ้าไม่เจอจริงๆก็มาคนเดียวก็ได้ พี่จะรอนะ”

ภูผาวางสายจากพี่ชาย เขาตัดสินใจที่จะไม่กลับไปที่คอนโดแต่ขับกลับมที่บ้านของขิมแทน วันนี้เขาคงต้องบอกความจริงกับเธอ และเขาไม่รู้ว่าเธอจะเชื่อไหม หรือเขาควรจะให้เธอรู้ตอนที่อยู่ที่กรุงเทพแล้ว ชายหนุ่มคิดไปคิดมาตลอดทางที่กำลังจะมุ่งหน้าไปยังบ้านของหญิงสาว

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status