Share

สารภาพผิด

ตอนที่12

สารภาพผิด

          “ขิมพรุ่งนี้คุณไปธุระกับผมหน่อยนะ เอาลูกไปด้วย”

         “อืม”

          หญิงสาวตอบแค่เพียงสั้นๆ เพื่อแสดงว่าเธอรับรู้ เพราะตอนนี้เธอเมาจนไม่อยากพูดอะไร

          ภูผานอนไม่หลับทั้งคืน เพราะเขาไม่รู้ว่าหญิงสาวที่นอนข้างเขารู้อะไรมา และสิ่งที่รู้มันคือเรื่องจริงไหม เธอรู้เอง หรือมีใครมาเล่าให้ฟัง แต่สิ่งที่ชายหนุ่มมั่นใจ คือภรรยาของเขาดูเอาจริงเอาจัง ถ้าเขายังไม่แสดงออกให้เธอรู้สึกเชื่อใจ มีหวังไม่นาน คำว่าครอบครัวของเขาต้องพังยับเยินแน่

          เพียงแค่หลับตา ภูผาก็คิดถึงใบหน้าของพี่สะใภ้ เขาให้สัญญากับเธอไว้ ว่าจะดูแลเลี้ยงดูและให้ความอบอุ่น ปูนปั้นให้ดีที่สุด แต่ตอนนี้เขาเพิ่งคิดได้ ว่าเขาแทบจะไม่มีเวลาเล่นกับลูกเหมือนตอนลูกมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ บางวันเขาออกไปทำงานแต่เช้า แล้วก็กลับดึก อย่างเช่นวันนี้ เขาได้เห็นหน้าลูกก็แค่ตอนที่ลูกหลับแล้วเท่านั้น

          ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามา ภูผาเองพยายามคิดหาทางออกที่ดีที่สุด โดยเฉพาะเหตุการณ์วันนี้ เขาคิดว่าขิมต้องรู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ที่ร้าน แต่เขาก็โทรไปถามพนักงานตลอด ทางนั้นก็ยืนยันว่าขิมไม่ได้ไปทั้งสองร้านเลย แล้วทำไมเธอถึงพูดเหมือนรู้ว่าเขาไปที่คอนโด

         

          “วันนี้คุณยายแต่งตัวให้หล่อจังครับ จะได้ไปเที่ยวกับคุณพ่อคุณแม่”

          เช้าวันนี้ภูผาทำหน้าที่มารับลูกชายถึงห้องนอน เพราะเขาอยากชดเชยเวลาที่หายไปที่เขาเผลอละเลยลูกไป

          “คุณพ่อไม่เล่านิทานเลยเดี๋ยวนี้ คุณแม่เล่าเจ้าชายทำอาหารไม่อร่อย”

          คนเป็นพ่อได้ยินลูกชายพูด เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกเด็กน้อยเตือนสติ ว่าเขาทำตัวเป็นพ่อที่แย่แค่ไหน

          “คุณพ่อขอโทษนะ คืนนี้คุณพ่อจะเล่าสองเรื่องเลย เอาแบบเจ้าชายเป็นสุดยอดเชฟทำอาหารได้ทุกอย่างเลยดีไหม”

          “ดีครับ คุณแม่มาแล้ว”

          ปูนปั้นวิ่งไปกอดแม่ของเขา ที่เดินเข้ามาในห้อง          ขิมคิดว่าภูผาคงไม่ได้มาหาลูกแต่คงลงไปรอข้างล่างแล้ว

          “ตะกร้านมกับของใช้คุณหนูอยู่นี่นะคะ ”

          ป้าสุส่งตะกร้าให้ขิม ในขณะที่ภูผาทำหน้าที่อุ้มเด็กน้อยช่างพูดลงไปที่รถ

          “ขิมกับลูกรอที่รถนะคะ”

          ทันทีที่รถจอดที่อำเภอ หญิงสาวมองอากาศข้างนอกแล้ว เธอเลือกที่จะรอในรถดีกว่า

          “ไม่ได้เลย ธุระของผมที่นี่คุณต้องไปด้วย”

          “เกี่ยวอะไรกับขิมคะ” หญิงสาวทำท่าสงสัย

          “ก็ผมพาคุณมาจดทะเบียนสมรส ถ้าคุณไม่ลงแล้วผมจะจดกับใคร”

          คำพูดของชายหนุ่มที่ลงมาเปิดประตูฝั่งข้างคนขับ พร้อมกับรับปูนปั้นไปอุ้ม ทำให้ขิมรู้สึกเหมือนตัวเองฝันไป แต่ไม่ใช่เพราะเธอดีใจ เธอคิดว่าเขาทำเพียงเพราะเธอเรียกร้องไปวันนั้น

          “คุณภูแน่ใจแล้วเหรอคะ อย่าทำเพียงเพราะขิมต้องการเลย มันไม่คุ้มกัน”

          หญิงสาวยังไม่ยอมลงจากรถ เธออยากให้สามีได้มีโอกาสคิดและทบทวนอีกสักครั้ง

          “ผมคิดดีแล้ว และความจริงผมควรจะคิดได้ตั้งนานแล้ว ลงมาเถอะลูกร้อนนะ”

          “คุณแม่ ปูนร้อนครับ”

         

          การจดทะเบียนสมรสผ่านไป ชายหนุ่มขับรถมุ่งหน้าไปที่คอนโดของเขา ยิ่งทำให้หัวใจของหญิงสาวรู้สึกเต้นไม่เป็นจังหวะ เขากำลังจะพาเธอไปหาผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม

          “คุณจะพาขิมไปไหน”

          “ผมจะพาคุณไปเป็นเพื่อนผมหน่อย พอดีผมปล่อยให้คนมาเช่าคอนโด วันนี้นัดเซ็นสัญญากัน”

          ขิมได้แต่นั่งเงียบ เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่สามีกำลังทำคือเรื่องจริงหรือแค่การจัดฉากเพื่อให้เธอเชื่อใจ

         “สวัสดีค่ะ”

          หญิงสาวที่ดูแล้วน่าจะอายุน้อยกว่าขิมอยู่หลายปี เดินเข้ามานั่งที่โซฟา ตรงส่วนกลางของคอนโด

          “สวัสดีครับน้องเอย นี่ภรรยาและลูกชายผม”

          เมื่อภูผาแนะนำตัว ใบหน้าของหญิงสาวที่เพิ่งมาถึงก็เปลี่ยนไปทันที

          “ไม่เห็นพี่ภูเคยเล่าให้เอยฟังเลยว่ามีภรรยากับลูกแล้ว”

          “ดูแล้วคุณเอยกับคุณภูคงจะสนิทกันมากนะคะ ถึงเรียกพี่ภูเลย แต่ทำไมสนิทกันแล้ว คุณภูถึงไม่บอกน้องเขาไปล่ะคะ ว่ามีภรรยาแล้ว”

          ขิมที่ตอนแรกคิดว่าตัวเองคงอยู่ในอารมณ์ที่พูดอะไรไม่ออก แต่กลายเป็นสถานการณ์จริงเธอสามารถพูดจาเฉือดเฉือนได้เด็ดขาด

          “ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว และไม่ได้เกี่ยวกับการเช่าคอนโดเลยไม่ได้บอก น้องเอยเองก็ไม่เคยถามพี่เนาะ พี่ว่าเรามาเซ็นสัญญากันเลยดีกว่า”

          ขิมรู้สึกสะใจกับคำว่าเรื่องส่วนตัวที่สามีพูดเอามากๆ เพราะสายตาผู้หญิงด้วยกันเธอดูออกว่าหญิงสาวคนนี้ไม่ได้ต้องการแค่เช่าคอนโดแต่ต้องการเจ้าของด้วย

          “คุณกับน้อง...เอยถึงขั้นไหนแล้ว”

         ขิมรอให้ปูนปั้นหลับก่อน เธอถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะไม่อยากให้ลูกได้ยิน และจะรอให้กลับบ้านก่อนก็คงไม่ไหว

          “ผมยอมรับนะ ว่าผมรู้ว่าน้องเขาคิดอะไรกับผม แต่ผมไม่เคยลืมว่าผมมีครอบครัวแล้ว ที่ไม่บอกคุณเรื่องนี้ เพราะกลัวคุณจะไม่สบายใจและอาจจะไม่เห็นด้วยที่จะให้ใครมาเช่าคอนโด แต่ผมดูแล้วถ้าไม่บอก มีหวังเรื่องราวจะบานปลายไปใหญ่”

          “คุณชอบเธอไหม”

          “ผมรักคุณคนเดียวและรักปูนปั้นที่สุดในหัวใจ ผมขอโทษที่เอาเวลาไปสนใจเรื่องอื่นมากกว่าคุณกลับลูก ให้โอกาสผมนะ”

          “คุณพ่อปูนอยากไปร้าน”

          ยังไม่ทันที่ขิมจะได้ตอบอะไร เชฟตัวน้อยก็ตื่นขึ้นมาก่อน ปูนปั้นได้เลือดพ่อมาเต็มตัว เขาชอบการทำอาหารมาก ถึงแม้จะยังทำไม่เป็น ขอแค่ได้ช่วยล้างผัก เด็กชายตัวน้อยก็ดีใจแล้ว

          “ได้ครับผม เชฟตัวน้อยของพ่อ”

          “ไปครัวเวียดนามนะคะ เพราะเมื่อวานขิมเข้าไปแค่แป๊บเดียว จะได้ไปดูเสียหน่อย เพื่อมีอะไรที่ต้องซื้อเพิ่ม”

          ชายหนุ่มส่งยิ้มให้ภรรยา เขารู้ซึ้งแล้ว ว่าขิมเอาจริงแค่ไหนกับเรื่องการนอกใจ ดีนะที่เขาไม่ได้ทำ เมื่ออย่างนั้นทุกอย่างที่เขาพยายามสร้างมาเพื่อครอบครัวต้องพังลงหมด

         

         

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status