ตอนที่12
สารภาพผิด
“ขิมพรุ่งนี้คุณไปธุระกับผมหน่อยนะ เอาลูกไปด้วย”
“อืม”
หญิงสาวตอบแค่เพียงสั้นๆ เพื่อแสดงว่าเธอรับรู้ เพราะตอนนี้เธอเมาจนไม่อยากพูดอะไร
ภูผานอนไม่หลับทั้งคืน เพราะเขาไม่รู้ว่าหญิงสาวที่นอนข้างเขารู้อะไรมา และสิ่งที่รู้มันคือเรื่องจริงไหม เธอรู้เอง หรือมีใครมาเล่าให้ฟัง แต่สิ่งที่ชายหนุ่มมั่นใจ คือภรรยาของเขาดูเอาจริงเอาจัง ถ้าเขายังไม่แสดงออกให้เธอรู้สึกเชื่อใจ มีหวังไม่นาน คำว่าครอบครัวของเขาต้องพังยับเยินแน่
เพียงแค่หลับตา ภูผาก็คิดถึงใบหน้าของพี่สะใภ้ เขาให้สัญญากับเธอไว้ ว่าจะดูแลเลี้ยงดูและให้ความอบอุ่น ปูนปั้นให้ดีที่สุด แต่ตอนนี้เขาเพิ่งคิดได้ ว่าเขาแทบจะไม่มีเวลาเล่นกับลูกเหมือนตอนลูกมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ บางวันเขาออกไปทำงานแต่เช้า แล้วก็กลับดึก อย่างเช่นวันนี้ เขาได้เห็นหน้าลูกก็แค่ตอนที่ลูกหลับแล้วเท่านั้น
ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามา ภูผาเองพยายามคิดหาทางออกที่ดีที่สุด โดยเฉพาะเหตุการณ์วันนี้ เขาคิดว่าขิมต้องรู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ที่ร้าน แต่เขาก็โทรไปถามพนักงานตลอด ทางนั้นก็ยืนยันว่าขิมไม่ได้ไปทั้งสองร้านเลย แล้วทำไมเธอถึงพูดเหมือนรู้ว่าเขาไปที่คอนโด
“วันนี้คุณยายแต่งตัวให้หล่อจังครับ จะได้ไปเที่ยวกับคุณพ่อคุณแม่”
เช้าวันนี้ภูผาทำหน้าที่มารับลูกชายถึงห้องนอน เพราะเขาอยากชดเชยเวลาที่หายไปที่เขาเผลอละเลยลูกไป
“คุณพ่อไม่เล่านิทานเลยเดี๋ยวนี้ คุณแม่เล่าเจ้าชายทำอาหารไม่อร่อย”
คนเป็นพ่อได้ยินลูกชายพูด เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกเด็กน้อยเตือนสติ ว่าเขาทำตัวเป็นพ่อที่แย่แค่ไหน
“คุณพ่อขอโทษนะ คืนนี้คุณพ่อจะเล่าสองเรื่องเลย เอาแบบเจ้าชายเป็นสุดยอดเชฟทำอาหารได้ทุกอย่างเลยดีไหม”
“ดีครับ คุณแม่มาแล้ว”
ปูนปั้นวิ่งไปกอดแม่ของเขา ที่เดินเข้ามาในห้อง ขิมคิดว่าภูผาคงไม่ได้มาหาลูกแต่คงลงไปรอข้างล่างแล้ว
“ตะกร้านมกับของใช้คุณหนูอยู่นี่นะคะ ”
ป้าสุส่งตะกร้าให้ขิม ในขณะที่ภูผาทำหน้าที่อุ้มเด็กน้อยช่างพูดลงไปที่รถ
“ขิมกับลูกรอที่รถนะคะ”
ทันทีที่รถจอดที่อำเภอ หญิงสาวมองอากาศข้างนอกแล้ว เธอเลือกที่จะรอในรถดีกว่า
“ไม่ได้เลย ธุระของผมที่นี่คุณต้องไปด้วย”
“เกี่ยวอะไรกับขิมคะ” หญิงสาวทำท่าสงสัย
“ก็ผมพาคุณมาจดทะเบียนสมรส ถ้าคุณไม่ลงแล้วผมจะจดกับใคร”
คำพูดของชายหนุ่มที่ลงมาเปิดประตูฝั่งข้างคนขับ พร้อมกับรับปูนปั้นไปอุ้ม ทำให้ขิมรู้สึกเหมือนตัวเองฝันไป แต่ไม่ใช่เพราะเธอดีใจ เธอคิดว่าเขาทำเพียงเพราะเธอเรียกร้องไปวันนั้น
“คุณภูแน่ใจแล้วเหรอคะ อย่าทำเพียงเพราะขิมต้องการเลย มันไม่คุ้มกัน”
หญิงสาวยังไม่ยอมลงจากรถ เธออยากให้สามีได้มีโอกาสคิดและทบทวนอีกสักครั้ง
“ผมคิดดีแล้ว และความจริงผมควรจะคิดได้ตั้งนานแล้ว ลงมาเถอะลูกร้อนนะ”
“คุณแม่ ปูนร้อนครับ”
การจดทะเบียนสมรสผ่านไป ชายหนุ่มขับรถมุ่งหน้าไปที่คอนโดของเขา ยิ่งทำให้หัวใจของหญิงสาวรู้สึกเต้นไม่เป็นจังหวะ เขากำลังจะพาเธอไปหาผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม
“คุณจะพาขิมไปไหน”
“ผมจะพาคุณไปเป็นเพื่อนผมหน่อย พอดีผมปล่อยให้คนมาเช่าคอนโด วันนี้นัดเซ็นสัญญากัน”
ขิมได้แต่นั่งเงียบ เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่สามีกำลังทำคือเรื่องจริงหรือแค่การจัดฉากเพื่อให้เธอเชื่อใจ
“สวัสดีค่ะ”
หญิงสาวที่ดูแล้วน่าจะอายุน้อยกว่าขิมอยู่หลายปี เดินเข้ามานั่งที่โซฟา ตรงส่วนกลางของคอนโด
“สวัสดีครับน้องเอย นี่ภรรยาและลูกชายผม”
เมื่อภูผาแนะนำตัว ใบหน้าของหญิงสาวที่เพิ่งมาถึงก็เปลี่ยนไปทันที
“ไม่เห็นพี่ภูเคยเล่าให้เอยฟังเลยว่ามีภรรยากับลูกแล้ว”
“ดูแล้วคุณเอยกับคุณภูคงจะสนิทกันมากนะคะ ถึงเรียกพี่ภูเลย แต่ทำไมสนิทกันแล้ว คุณภูถึงไม่บอกน้องเขาไปล่ะคะ ว่ามีภรรยาแล้ว”
ขิมที่ตอนแรกคิดว่าตัวเองคงอยู่ในอารมณ์ที่พูดอะไรไม่ออก แต่กลายเป็นสถานการณ์จริงเธอสามารถพูดจาเฉือดเฉือนได้เด็ดขาด
“ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว และไม่ได้เกี่ยวกับการเช่าคอนโดเลยไม่ได้บอก น้องเอยเองก็ไม่เคยถามพี่เนาะ พี่ว่าเรามาเซ็นสัญญากันเลยดีกว่า”
ขิมรู้สึกสะใจกับคำว่าเรื่องส่วนตัวที่สามีพูดเอามากๆ เพราะสายตาผู้หญิงด้วยกันเธอดูออกว่าหญิงสาวคนนี้ไม่ได้ต้องการแค่เช่าคอนโดแต่ต้องการเจ้าของด้วย
“คุณกับน้อง...เอยถึงขั้นไหนแล้ว”
ขิมรอให้ปูนปั้นหลับก่อน เธอถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะไม่อยากให้ลูกได้ยิน และจะรอให้กลับบ้านก่อนก็คงไม่ไหว
“ผมยอมรับนะ ว่าผมรู้ว่าน้องเขาคิดอะไรกับผม แต่ผมไม่เคยลืมว่าผมมีครอบครัวแล้ว ที่ไม่บอกคุณเรื่องนี้ เพราะกลัวคุณจะไม่สบายใจและอาจจะไม่เห็นด้วยที่จะให้ใครมาเช่าคอนโด แต่ผมดูแล้วถ้าไม่บอก มีหวังเรื่องราวจะบานปลายไปใหญ่”
“คุณชอบเธอไหม”
“ผมรักคุณคนเดียวและรักปูนปั้นที่สุดในหัวใจ ผมขอโทษที่เอาเวลาไปสนใจเรื่องอื่นมากกว่าคุณกลับลูก ให้โอกาสผมนะ”
“คุณพ่อปูนอยากไปร้าน”
ยังไม่ทันที่ขิมจะได้ตอบอะไร เชฟตัวน้อยก็ตื่นขึ้นมาก่อน ปูนปั้นได้เลือดพ่อมาเต็มตัว เขาชอบการทำอาหารมาก ถึงแม้จะยังทำไม่เป็น ขอแค่ได้ช่วยล้างผัก เด็กชายตัวน้อยก็ดีใจแล้ว
“ได้ครับผม เชฟตัวน้อยของพ่อ”
“ไปครัวเวียดนามนะคะ เพราะเมื่อวานขิมเข้าไปแค่แป๊บเดียว จะได้ไปดูเสียหน่อย เพื่อมีอะไรที่ต้องซื้อเพิ่ม”
ชายหนุ่มส่งยิ้มให้ภรรยา เขารู้ซึ้งแล้ว ว่าขิมเอาจริงแค่ไหนกับเรื่องการนอกใจ ดีนะที่เขาไม่ได้ทำ เมื่ออย่างนั้นทุกอย่างที่เขาพยายามสร้างมาเพื่อครอบครัวต้องพังลงหมด
ตอนที่13พร้อมหน้าครอบครัวใหญ่ วันนี้พ่อกับแม่ของภูผาจะเดินทางมาถึงที่สนามบินเชียงใหม่ วันนี้ครัวเวียดนามหยุดหนึ่งวัน เพื่อเตรียมรับทั้งคู่ “คิดถึงจังเลยลูกรักของแม่” นาตาลีโผเข้ากอดลูกชายทันที ที่ได้เจอหน้ากันที่สนามบิน “มิสยู เช่นกันครับ” ชายหนุ่มโดนหญิงสาวอวบจนเกือบอ้วน ตัวใหญ่ตามแบบฝรั่ง จูบแก้มซ้ายแก้มขวาด้วยความคิดถึง “แม่กับพ่อครับนี่ขิมและปูนปั้น ภรรยาและลูกชายของผม” ทั้งสองคนมัวแต่ดีใจที่ได้เจอหน้าลูกชายที่ไม่ได้เจอกันเป็นปี จนลืมสังเกตว่าเขาไม่ได้มาแค่คนเดียว “ฮาย ปูนปั้น มาให้...แม่ต้องเป็นอะไรนะ” นาตาลีหันไปถามลูกชาย เธอเริ่มจำสับสนว่าเธอควรจะเป็นย่าหรือยายกันแน่ “คุณแม่ต้องเป็นคุณย่าสิครับ” ปูนปั้นเด็กน้อยที่เข้ากับทุกคนได้เสมอ เพราะเขาโตมากับร้านอาหารจึงยอมให้ย่ากับปู่อุ้มแต่โดยดี “ปู่ซื้อของเล่นมาให้เยอะเลย ได้ข่าวว่าหลายชายคนเก่งเป็นเชฟน้อยใช่ไหม” “ใช่ครับ เชฟปูนปั้น” ปู่กับย่าต่างหัวเราะให้กับความฉอเลาะของหลานชาย ความจริงแล้วทั้งคู่
ตอนที่ 1สาวน้อยในเรือน“เมื่อคืนไปนอนไหนมาอีกล่ะบ้านช่องอยู่ไม่ติดเลยนะลูก” อมราอดที่จะต่อว่าลูกชายไม่ได้ทั้งที่ความจริงเปรมธวัชก็ทำตัวแบบนี้มาตลอด 10 ปีตั้งแต่เขากลับมาจากต่างประเทศพร้อมกับหอบหัวใจที่บอบช้ำกลับมา “โมโหอะไรมาครับถึงได้มาลงกับผมแบบนี้...ไหนมาหอมแก้มให้หายคิดถึงหน่อย” ชายหนุ่มที่ยังคงอยู่ในชุดทำงานเพราะตั้งแต่เมื่อคืนนี้เขายังไม่ได้กลับมาบ้านเลยเข้ามาโอบกอดคนเป็นแม่หอมแก้มฟอดใหญ่เพื่อเอาใจ “อายุจะ 40 แล้ว ลูกจะใช้ชีวิตต่อไปแบบนี้ไม่ได้แล้วนะ แม่เองก็อยากจะอุ้มหลานอยากจะมีทายาทสืบสกุลกับเขาสักคน” ก่อนหน้านี้อมราพยายามจะเลือกหาลูกสะใภ้ที่ถูกใจเธอให้กับลูกชายแต่มันก็ไม่มีประโยชน์หลายครั้งที่เธอคิดว่าจะยอมให้เปรมธวัชจริงจังกับผู้หญิงสักคนทีเป็นคู่ขาอยู่ตอนนี้เพื่อที่เธอจะได้มีหลานแต่กลับเป็นชายหนุ่มที่ไม่ยอมทำตาม “ผู้ชายอายุ 60 แล้วก็ยังมีลูกได้นะครับไม่เห็นต้องรีบเลยสาวๆสมัยนี้ก็อยากมีสามีอายุเยอะกันทั้งนั้น” ชายหนุ่มพยายามหาเหตุผลมาเฉไฉเพราะตัวเขาเองยังไม่รู้จะหาทางแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร เขาเคยคิดจะเลือกผู้
ตอนที่ 2คำขอร้องจากผู้มีพระคุณเปรมธวัชเดินออกมาจากคอนโดมิเนียมแต่เขาก็ต้องกลับไปอีกครั้งเมื่อคิดขึ้นได้ว่าลืมแฟ้มเอกสารบางอย่างไว้“สุดท้ายเธอก็หักหลังฉัน”ภาพที่เปรมธวัชได้เห็นคือผู้ชายที่เขาไม่คุ้นหน้ากำลังเดินเข้าไปยังห้องของนาเดียโดยที่หญิงสาวเป็นคนเปิดประตูให้สองมือที่คล้องคอและดึงตัวผู้ชายคนนั้นเข้าห้องทำให้ชายหนุ่มรู้ได้ทันทีว่า ทั้งคู่มีความสัมพันธ์อะไรกันชายหนุ่มตัดสินใจที่จะไม่เข้าไปแสดงตัว เขาไม่ต้องการเป็นคนโง่ที่โดนหักหลังอีกแล้วเขาจึงเลือกที่จะเดินออกมาและส่งข้อความกลับไปหาหญิงสาวที่เป็นคู่ขาให้เขาย้ายออกจากคอนโดของเขาภายในวันนี้ด้วยเหตุผลว่าเขาต้องการพาผู้หญิงคนใหม่มาอยู่เปรมธวัชตัดสินใจที่จะเดินหน้าเรื่องของมินตราทันทีชีวิตที่ผ่านมาทำให้เขาเริ่มกลัวว่าบางทีเงินทองที่เขามีอยู่จะไม่สามารถซื้อความรักจากใครได้อีกเขาจึงคิดว่าบางทีคำว่ามีพระคุณอาจจะทำให้เขาเป็นที่ต้องการของมินตราก็ได้“วันนี้คุณเปรมมาร่วมยินดีด้วยนะลูก”ยุพาหันไปบอกลูกสาวด้วยความซาบซึ้งใจที่ลูกชายของเจ้านายมาร่วมแสดงความยินดีกับลูกสาวของเธอในวันรับปริญญา“มิ้นขอบคุณคุณเปรมมากนะคะที่มาร่วมยินดีกับมิ้นในว
ตอนที่ 3ภรรยาเด็ก“ในเมื่อมินตราตกลงแล้ว เราจะเอาอย่างไรกันต่อไป”อมราไม่กล้าถามลูกชายตรงๆว่าแผนการที่เธอวางไว้ เปรมธวัชพร้อมจะเริ่มต้นเมื่อไหร่เพราะสำหรับเธอแล้วต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างเร็วที่สุด อายุของเธอมากขึ้นทุกวันดูแล้วคงไม่ได้อยู่ดูหลานจนถึงรับปริญญา“ผมพร้อมแล้วครับอยู่ที่สาวน้อยของคุณแม่นั่นแหละที่จะพร้อมหรือยัง”ชายหนุ่มตอบด้วยความมั่นใจเพราะตัวเขาเองตอนนี้ก็ ไม่เหลือผู้หญิงคนไหนอีกแล้วตั้งแต่วันนั้นที่เขารู้ความจริงเรื่องของนาเดียเขาก็ตั้งใจว่าจะยุติความสัมพันธ์แบบชั่วคราวแล้วหันมาทำตามในสิ่งที่แม่ต้องการจะดีกว่าการมีลูกบางครั้งอาจจะทำให้ตัวเขาเองมีความสุขในชีวิตมากกว่านี้ก็ได้ค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนเข้าหอสำหรับภรรยารับจ้างที่ไม่มีแม้แต่งานแต่งไม่มีการบอกรักไม่มีทะเบียนสมรสไม่มีสิ่งใดๆที่ผู้หญิงต่างก็เฝ้าฝันว่าชีวิตของเธอจะต้องได้รับจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี“มิ้นพร้อมแล้วค่ะ”หญิงสาวในชุดนอนพูดขึ้นเมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องที่อมราจัดไว้สำหรับเป็นห้องนอนของทั้งคู่ในการผลิตหลานให้กับเธอ“พูดจาเป็นหุ่นยนต์เหมือนไร้ความรู้สึกแบบนี้ผมจะทำอะไรคุ
ตอนที่ 4เรียนรู้ระหว่างเรา“ไม่เอา ! ผมไม่ให้ใส่เสื้อผ้าแบบนี้”เปรมธวัชดึงเสื้อยืดออกจากมือของภรรยาเด็กเพราะพี่เขาพาเธอมาซื้อเสื้อผ้าใหม่ในวันนี้เพราะอยากให้สาวน้อยแต่งตัวดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น“มิ้นเคยใส่แต่เสื้อผ้าแบบนี้ถ้าเป็นแบบอื่นก็ไม่รู้จะใส่แบบไหนเหมือนกันค่ะ”มินตราคิดไม่ออกว่าเสื้อผ้าแบบไหนที่จะเหมาะกับเธอจึงยกให้เปรมธวัชทำหน้าที่เลือกเอาแบบที่เขาต้องการทั้งสองคนเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าโดยไม่ทันได้สังเกตว่ามีสายตาของผู้หญิงกลุ่มหนึ่งกำลังจ้องมองอยู่“คุณเปรมพาใครมาซื้อเสื้อผ้าคะนี่”สาวสวยไฮโซเดินเข้ามาทักทายเปรมธวัชพร้อมกับเพื่อนของเธออีก 3 คนซึ่งทุกคนกำลังหันมาจ้องมองสาวน้อยที่กำลังยืนอยู่ข้างนักธุรกิจชื่อดัง“สวัสดีครับน้องไอลดา”ชายหนุ่มไม่ตอบคำถามแต่หันกลับไปทักทายอีกฝ่ายแทนซึ่งด้วยมารยาทแล้วทำให้คำถามนั้นต้องเป็นอันตกไปเมื่อถูกบทสนทนาอื่นเข้ามาแทน“ปกติแล้วไอไม่เคยเห็นพี่เปรมมาเดินห้างแบบนี้เลยนะคะใครๆก็พากันพูดกันว่านักธุรกิจหนุ่มใหญ่อย่างคุณเปรมธวัชนอกจากเรื่องงานแล้วก็ไม่สนใจเรื่องอื่นเลย”ไอลดาพยายามจะล้วงเอาคำตอบให้ได้ว่าผู้หญิงที่มากับเปรมธวัชใ
ตอนที่ 5เผลอปล่อยใจ“คุณแม่ครับผมซื้ออาหารทะเลร้านโปรดมาฝาก” เปรมธวัชยื่นถุงกับข้าวถุงใหญ่ส่งให้มารดาที่นั่งรอเขาอยู่ที่ห้องรับแขกด้วยท่าทางมีความสุขที่เห็นลูกชายกลับมาพร้อมกับลูกสะใภ้ของเธอ “พามินตราไปร้านโปรดของเรามาใช่ไหม” อมราถามทั้งที่เธอรู้อยู่แล้วเพราะลูกชายโทรมาบอกตั้งแต่ช่วงเย็นแต่ที่เธอแกล้งพูดเพราะอยากให้หญิงสาวได้รู้ว่าร้านอาหารร้านนั้นถ้าไม่พิเศษจริงๆเปรมธวัชไม่มีทางพาไป “มิ้นชอบบรรยากาศที่นั่นมากครับสงสัยวันหลังเราต้องไปกันพร้อมหน้าทุกคนจะได้สนุกมากยิ่งขึ้นรับรองได้ว่าถ้าน้ายุพาไปคงได้ถอดสูตรอาหารเอามาทำให้เราได้กินกันแน่” ยุพาสาวใช้มองหน้าเจ้านายด้วยความแปลกใจเพราะการที่เปรมธวัชพูดแบบนี้หมายความว่าเขาจะพาเธอไปกินด้วย มินตราได้ยินคำพูดของสามีที่ให้ความสำคัญกับแม่ของเธอหญิงสาวรู้สึกมีความสุขที่เธอเลือกตัดสินใจไม่ผิดยอมเป็นภรรยารับจ้างให้เขาถึงแม้เธอจะไม่มีตัวตนในสังคมแต่ในบ้านหลังนี้ เปรมธวัชให้ความสำคัญกับเธอตามที่เขาสัญญาไว้จริงๆและความสำคัญนี้ก็เผื่อแผ่ไปหามารดาของเธอด้วย “เปรมรู้ไหมยุพาไม่ย
ตอนที่ 6การมาของใครบางคน“สวัสดีค่ะ คุณแม่สบายดีไหมคะไม่ได้เจอกันเสียหลายปี” สาวสวยหุ่นนางแบบดีกรีนักเรียนนอกยกมือไหว้อมราด้วยความนอบน้อมถึงแม้ว่าสไตล์การแต่งตัวของเธอจะดูไม่ค่อยเป็น คนเรียบร้อยเท่าไหร่ “ไหว้พระเถอะแม่คุณ ลมอะไรหอบทายาทเพียงคนเดียวของนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาถึงบ้านของแม่ได้” อมราถึงแม้จะพยายามปั้นหน้าพูดดีตามแบบคนมีมารยาทแต่เธอก็อดที่จะใส่คำพูดจิกกัดลงไปไม่ได้เพราะหญิงสาวที่มาเป็นแขกในวันนี้เธอคือคนเดียวกับที่ทำร้ายหัวใจลูกชายเขาเมื่อหลายปีก่อน “รินกลับมาจากต่างประเทศนานแล้วแต่ไม่กล้ามาหาคุณแม่เพราะยังไม่รู้ว่าเปรมจะหายโกรธรินแล้วหรือยังค่ะ” คนพูดพยายามทำดวงตาให้ดูเศร้าเหมือนว่าเธอรู้สึกผิดกับสิ่งที่เคยทำลงไปในอดีตแต่มันก็ไม่ทำให้ความรู้สึกของอมราดีขึ้นเพราะเธอรู้จักผู้หญิงตรงหน้าดีว่ามารยาร้อยเล่มเกวียนแค่ไหน “สิ่งที่เธอทำมันสร้างความเจ็บปวดให้กับเปรมธวัชอยู่มากแต่ไม่ต้องกลัวตอนนี้เขาลืมเธอและทุกอย่างที่เธอทำหมดแล้ว คนเราไม่มีใครจมอยู่กับเรื่องไม่ดีหรือคนไม่ดีได้นานหรอก” ความเป็นแม่ถึงแม้จะ
ตอนที่ 7คนรักเขากลับมา“นั่งคุยกับแม่ก่อน” อมรานั่งรอดักเจอลูกชายอยู่จนดึก เธอมีเรื่องที่อยากจะคุยกับเปรมธวัชในวันนี้กลัวว่าถ้าพูดช้าเกินไปอาจจะไม่ทัน “เที่ยงคืนกว่าแล้วคุณแม่ยังนั่งรอแบบนี้ต้องเป็นเรื่องสำคัญแน่เลย” ลูกชายทำท่าทางออดอ้อนเพราะเขารู้อยู่แล้วว่ามารดากำลังจะพูดเรื่องของแฟนเก่าที่เดินทางมาหาเขาในวันนี้ “ลูกไปกินข้าวกับรินมาใช่ไหม” “ใช่ครับเราไม่ได้เจอกันนานก็เลยมีเรื่องคุยกันเยอะแล้วผมก็ขับรถไปส่งเธอที่บ้านก็เลยกลับดึกหน่อย” เปรมธวัชพยายามจะอธิบายว่าสาเหตุที่เขากลับมาถึงบ้านจนเที่ยงคืนไม่ได้เถลไถลที่ไหนแค่เพียงมีเรื่องคุยกันนานและด้วยความเป็นห่วงเขาจึงขับรถไปส่งเธอที่บ้าน “ผู้หญิงคนนั้นเขากลับมาหาลูกเพื่ออะไรกันอย่าบอกนะว่าแค่กลับมาในฐานะเพื่อนที่คิดถึงเพราะแม่จะไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด” หญิงสูงวัยประสบการณ์ในชีวิตของเธอมีมากจนสามารถเดาผู้หญิงอย่างรินรดาได้ออกการกลับมาของผู้หญิงคนนี้ต้องการมากกว่าความเป็นเพื่อนแน่นอน “คุณแม่คิดมากไป ผมกับรินเราเคยเป็นเพื่อนเก่ากันมาก่อนถึงแม้จะเลิกไปแล้วแต่เรายั